“ตื่นตัว ตระหนักรู้”
โรม 13:11-14 11 นอกจากนี้ท่านควรจะรู้กาลสมัยว่า บัดนี้เป็นเวลาที่เราควรจะตื่นจากหลับแล้ว เพราะว่าเวลาที่เราจะรอดนั้นใกล้กว่าเวลาที่เราได้เริ่มเชื่อนั้น12 กลางคืนล่วงไปมากแล้ว และรุ่งเช้าก็ใกล้เข้ามา เราจงเลิกการกระทำของความมืด และจงสวมเครื่องอาวุธของความสว่าง13 เราจงประพฤติตัวให้เหมาะสมกับเวลากลางวัน มิใช่เลี้ยงเสพสุราเมามาย มิใช่หยาบโลนลามก มิใช่วิวาทริษยากัน14 แต่ท่านจงประดับกายด้วยพระเยซูคริสตเจ้า และอย่าจัดเตรียมอะไรไว้บำรุงบำเรอตัณหาของเนื้อหนัง
สวัสดีพี่น้องที่รักในพระคริสต์ ในยามนี้ เราจะได้ยินแต่คำว่า วิถีชีวิตปกติใหม่ New Normal เรากำลังย่างก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อรับมือกับการระบาดของโรค ต้องระมัดระวังตัวทุกฝีย่างก้าว หากเราก้าวออกจากบ้านเมื่อใด ก็ต้องสวมหน้ากาก มีและใช้เจลล้างมือ หรือแอลกอฮอล ไปตามสถานที่ต่างๆก็จะต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบของการป้องกันการติดเชื้อโรค หรือป้องกันการแพร่เชื้อ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า (ที่ได้รับการผ่อนปรนให้เปิดได้ในวันนี้) ขอพี่น้องอย่าเพิ่งรีบไปใช้บริการในสถานที่ที่ปิดนานถึงสองเดือน โดยแฉพาะเวลานี้ มีคำเตือนเรื่องเชื้อรา ในระบบปรับอากาศ ความชื้น ที่ทำให้เครื่องหนังในห้างร้านบางแห่งขึ้นรา….
ขอพี่น้องระวังอย่างยิ่ง ขนาดคริสตจักรของเรา ปิดออฟฟิตไปเพียงอาทิตย์สองอาทิตย์ มีปลวกขึ้น ข้าพเจ้าต้องมากำจัดปลวกด้วยตัวเอง ก่อนจะเกิดโควิด เราก็กำลังทยอยล้างเครื่องปรับอากาศ ทำความสะอาดตามปกติ ขณะนี้ เราทำความสะอาดครบหมดทุกชั้นแล้ว เรากำลังเตรียมการสำหรับที่จะเปิดโบสถ์อีกครั้ง สำหรับให้พี่น้องมาร่วมประชุมในวิถีปกติใหม่ ที่เข้มงวดสำหรับการคัดกรองคนที่จะเข้ามาร่วมนมัสการกับเราในต้นเดือนมิถุนายนนี้ ทั้งจะพบกับการจัดเก้าอี้เว้นห่าง ไม่มีอาหารเที่ยง และกฏไม่คุ้นเคย
“ตื่นตัว ตระหนักรู้” คือคำที่เราควรมีตลอดเวลาในวิถีชีวิตปกติใหม่ พร้อมรับข่าวสารที่ฉับไว และตอบสนองอย่างรวดเร็ว ในแนวทางป้องกันตนเองจากการติดเชื้อ หรือแพร่เชื่อ ต่อคนรอบข้าง นี่เป็นความรับผิดชอบที่เรามีร่วมกันในสังคมไทยเวลานี้ ขอพี่น้องอย่าเพิ่งรำคาญใจ หรือหงุดหงิดกับระ เบียบเปลี่ยนแปลงใหม่นี้ แต่จงปรับตัว ให้เข้ากับวิถีชีวิตปกติใหม่ให้ได้ และให้เร็ว เพื่อเราจะสามารถอยู่กับโรคโควิด19 ในขณะที่เราต้องใช้เวลารอคอยวัคซีนที่จะพร้อมใช้ อีกนานนับปี กฏระเบียบใหม่ ทำให้เราต้องตื่นตัวและตระหนักรู้ ใส่ใจให้มาก ไม่บ่น ไม่ต่อว่า ไม่ตำหนิ ไม่ดูแคลนคนที่กำลังตื่นตัว เรายังครองสติ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข (แบบใหม่)ได้ ให้เราหนุนใจกันและกันและใส่ใจต่อกันและกัน
ฮีบรู 10:23 ขอให้เรายึดมั่นในความหวังที่เราทั้งหลายเชื่อและรับไว้นั้น โดยไม่หวั่นไหว เพราะว่าพระองค์ผู้ทรงประทานพระสัญญานั้นทรงสัตย์ซื่อ