ซุปเปอร์มัม…..ยอดคุณแม่ มนุษย์มหัศจรรย์
ลูก ๆ ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นลูกที่เป็นเด็ก ลูกที่โตแล้ว เราเชื่อมั้ยคะว่าแม่เราเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ เป็นซุปเปอร์มัม ยอดคุณแม่ มนุษย์มหัศจรรย์ เด็ก ๆ ทุกคน จะชอบดูหนังประเภทซุปเปอร์ฮีโร่ รวมทั้งเราที่เป็นผู้ใหญ่ด้วยตอนเด็กเราก็จะชอบดูหนังยอดมนุษย์ทั้งหลาย แล้วเราก็จะชื่นชอบฮีโร่ยอดมนุษย์เหล่านั้น แล้วก็เคยสมมติเล่นเป็นตัวนั้นตัวนี้ต่อสู้กับเหล่ามารร้าย บางทีก็จะมีการแสดงของเหล่าฮีโร่จากต่างประเทศ เด็ก ๆ ก็จะรบเร้าพ่อแม่ให้พาไปดู แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงเรามีซุปเปอร์ฮีโร่อยู่ในบ้านเรา คือแม่ของเรานั่นเอง ซุปเปอร์มัม ยอดคุณแม่ มนุษย์มหัศจรรย์ มีเกมส์คอมพิวเตอร์อยู่เกมส์หนึ่ง เรียกว่า ซุปเปอร์มัม คนที่เล่นเกมส์นี้จะสามารถได้ชื่อว่าเป็นซุปเปอร์มัมได้ จะต้องเปลี่ยนแพมเพิสให้ลูกได้อย่างรวดเร็ว สะสมคะแนน แต่ในความเป็นจริง แม่ทุกคนไม่ต้องเล่นเกมส์นี้เพื่อได้ชื่อว่าเป็นซุปเปอร์มัม เพราะชีวิตจริงของความเป็นแม่ต้องทำสารพัดมากยิ่งกว่าเปลี่ยนแพมเพิสอย่างในเกมส์ แม่เป็นซุปเปอร์ฮีโร่ ของบ้าน เป็นซุปเปอร์มัม ซุปเปอร์แม่ที่ทำได้ทุกอย่าง เรามีบอร์ดอยู่ด้านหน้าให้พี่น้องช่วยเขียนแสดงความคิดเห็นว่าแม่เป็นใครในความรู้สึกของเรา อยากให้ เราลองคิดถึงแม่ของเราแล้วลองนิยามว่าแม่เป็นใครสำหรับเรา บางคนอาจจะบอกว่าแม่เป็นครูเพราะว่าแม่สอนการบ้านเราเก่งมาก บางคนบอกแม่เป็นตู้ATM เพราะขออะไรก็ได้เสมอ บางคนบอก แม่เป็นแจ๋วเพราะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่าง หรือใครเคยมีประสบการณ์ที่หิวข้าว แล้วร้องบอกแม่ สักแป๊ป อาหารลอยมาแล้วไม่ใช่จานลอยมานะคะ แต่แม่จะมีอาหารพร้อมให้ลูกเสมอ อย่างนี้ก็มีแม่เป็นแม่ครัวหัวป่า หรือไม่ก็มีแม่เป็นร้านตามสั่ง ส่วนข้าพเจ้าจะนึกถึงเหตุการณ์นึงของครอบครัว ครั้งหนึ่งที่บ้านขับรถไปธุระกัน น้องชายเป็นคนขับ ปรากฏว่ามีรถบรรทุกขับมาชนรถเราแล้วขับหนี น้องชายก็ขับตามพอดีรถไปติดไฟแดง รู้มั้ยคะใครที่ลงไปคนแรก แม่ค่ะแม่ลงไป ไวมาก ยืนชี้หน้าจัดการกับคนขับรถบรรทุก “ทำอย่างนี้ได้ยังไง ชนแล้วหนี ชนแล้วไม่รับผิดชอบ” และอื่น ๆ อีกมากมาย จนคนขับรถบรรทุกที่ตั้งใจหนี ต้องรับผิดชอบ ส่วนพ่อนั่งอยู่ในรถมองแม่ตาไม่กระพริบ คือพ่อไม่ได้กลัวนะ แต่ความที่แม่ไวมากจอดรถปุ๊ปแม่ลงไปปั๊ป ข้าพเจ้าก็ขอนิยามแม่ของข้าพเจ้าจากเหตุการณ์นี้ว่า แม่บอร์ดี้การ์ด หรือ แม่ตัวแทนประกันเคลมรถ มาไวเคลมไว อยากให้พี่น้องลองคิดดูว่าแม่เราเป็นใครสำหรับเรา แล้วลองไปเขียนแสดงความคิดเห็นที่บอร์ดด้านหน้าได้นะคะ แล้วเดี๋ยวตอนบ่ายเรามาดูด้วยกันว่าแม่เป็นใคร หรือเป็นอะไรบ้างในความคิดของลูก ๆ เชื่อว่าแม่ของเราเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ เป็นซุปเปอร์มัม ยอดคุณแม่ มนุษย์มหัศจรรย์ของเราทุกคน เรียกได้ว่าตั้งแต่อุ้มท้องลูกมา 9 เดือน เลี้ยงดูเรามาจนถึงวันนี้ ถ้าให้แจกแจงกันคงมากมาย มีบทสนทนาระหว่างสามีกับนักจิตวิทยา
นักจิต : คุณทำอาชีพอะไรครับ
สามี : ผมทำงานบัญชีในธนาคารแห่งหนึ่ง
นักจิต : แล้วภรรยาคุณล่ะ
สามี : เธอไม่ได้ทำอะไร เป็นแค่แม่บ้าน
นักจิต : แล้วใครเป็นคนทำอาหารเช้าให้คนในครอบครัวครับ
สามี : ก็ภรรยาผม เพราะว่าเธอไม่ได้ทำงานอะไร
นักจิต : ภรรยาคุณตื่นมาตอนไหนเพื่อทำกับข้าว
สามี : ประมาณตี 5 เพราะเธอต้องทำความสะอาดบ้านก่อนทำกับข้าวครับ
นักจิต : แล้วเด็ก ๆ ไปโรงเรียนกันยังไงครับ
สามี : ภรรยาผมพาไป เพราะเธอไม่ได้ทำงานอะไร
นักจิต : หลังจากส่งลูก ๆ ไปโรงเรียนแล้วเธอทำอะไรครับ
สามี : เธอก็ไปตลาด กลับบ้านเตรียมอาหารเย็น รีดผ้า หมอก็รู้แล้วนี่ว่าเธอไม่ได้ทำอะไร
นักจิต : แล้วตอนเย็นหลังจากเลิกงานกลับบ้านคุณทำอะไร
สามี : พักผ่อนครับ เพราะผมเหนื่อยกับการทำงานทั้งวัน
นักจิต : แล้วภรรยาคุณทำอะไรล่ะ
สามี : เธอทำครัว เสริฟอาหาร ล้างจาน ถูบ้าน แล้วก็พาเด็ก ๆ เข้านอน
จากเรื่องนี้ เราคิดว่าใครทำงานมากกว่ากัน กิจวัตรประจำวันของภรรยาเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนดึก นี่หรือที่เรียกว่า ไม่ได้ทำงานอะไร การเป็นแม่บ้านไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษาใด ๆ หรือมีตำแหน่งสูง แต่บทบาทของพวกเธอสำคัญมาก โปรดชื่นชมภรรยาของคุณ โปรดชื่นชมแม่ของเราเพราะความเสียสละของเธอนั้นประมาณค่ามิได้ ซุปเปอร์มัม ยอดคุณแม่ มนุษย์มหัศจรรย์ คุณแม่เป็นซุปเปอร์ในการได้ยิน ลูกร้องเมื่อไหร่ได้ยินเมื่อนั้นเมื่อลูกเล็ก ๆ จะดึกดื่น จะหลับไปแล้วจะง่วง จะเหนื่อยแต่ถ้าลูกร้องแม่ได้ยินเสมอ เด็ก ๆ วัยรุ่นทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่รู้ไว้นะคะว่าแม่เราได้ยินเสียงร้อง ได้ยินเสียงเรียกจากเราเสมอ เพราะฉะนั้นเมื่อเราโตขึ้น แม่เรียกเราบ้าง เรียกเราใช้ให้ทำนู่นนี่นั่นบ้าง อย่าทำเป็นไม่ได้ยิน อย่าเบื่อที่จะได้ยิน อย่าไม่พอใจที่ได้ยินเสียงแม่เรียก อย่าไม่รับสายเวลาแม่โทรหาคุณแม่เป็นซุปเปอร์เรื่องกำลัง แขนของแม่ที่อุ้มเราตั้งแต่เกิด หลายครั้งเราก็หลับอยู่ที่แขนแม่ เวลาที่เราสะดุดหกล้มร้องไห้ มือแม่นั่นแหละที่มาอุ้มเราขึ้น กว่าเราจะเดินได้แม่ต้องอุ้มเราพาเราเดินเป็นปี ๆ เดินได้แล้วก็ยังเดินไม่แข็งแม่ก็ต้องคอยดู คอยตามเพื่อไม่ให้อันตรายเกิดขึ้นกับเรา คุณแม่เป็นซุปเปอร์เรื่องความรัก แม่รักลูกทุกคนอยู่แล้ว รวมทั้งในเวลาที่เราไม่น่ารัก เราดื้อ เราทำแม่เสียใจ แม่ก็ยังคงรักเราเหมือนเดิม ปากอาจพูดว่าบ่นสอนเรา แต่ความรักของแม่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงสำหรับลูก แต่ซุปเปอร์มัมของเราก็มีเวลาเหนื่อย มีเวลาที่หมดพลัง มีเวลาที่ท้อ รู้สึกไม่ไหวแล้ว และวันนี้มียาโด๊ปที่จะมาเสริมกำลังเรี่ยวแรงให้กับแม่ทุกคน เพื่อเพิ่มพลังที่จะทำให้แม่เป็นแม่แบบซุปเปอร์มัม มีพลังอย่างยั่งยืนได้ ไม่ใช่ด้วยแบรนด์ซุปไก่ ไม่ใช่ ด้วยรังนกอะไรทั้งสิ้น แต่ด้วย
1.พลังในการอธิษฐาน
ตลอดพระคัมภีร์ทั้งพระคัมภีร์เดิม พระคัมภีร์ใหม่ มีเรื่องราวของการอธิษฐาน พระเจ้าสอนให้เราอธิษฐาน สั่งให้เราอธิษฐาน เป็นแบบอย่างในการอธิษฐาน มัทธิว 26:41 41ท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังและอธิษฐาน เพื่อท่านจะไม่ต้องถูกทดลอง จิตวิญญาณพร้อมแล้วก็จริง แต่กายยังอ่อนกำลัง อิสยาห์ 55:6 6“จงแสวงหาพระเจ้า เมื่อจะพบพระองค์ได้ จงทูลพระองค์ ขณะพระองค์ทรงอยู่ใกล้ ฟิลิปปี 4:6 6อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆเลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ การอธิษฐานเป็นพลังสำคัญที่จะช่วยคุณแม่ทุกคนให้เป็นซุปเปอร์มัมที่จะไม่มีวันหมดแรง และที่สำคัญการอธิษฐานจะช่วยแบ่งเบาภาระหนักในชีวิต ช่วยปลดเปลื้องความทุกข์ ความเสียใจ และการอธิษฐานจะช่วยให้เราหมดห่วงหมดกังวลเรื่องลูกเรื่องสามี ทุกวันนี้ เมื่อลูกออกจากบ้านไปโรงเรียน แม่หลายคนมีความกังวลใจ จะตั้งใจเรียนมั้ย จะเรียนเก่งมั้ย จะปลอดภัยมั้ย จะออกนอกลู่นอกทางไปไม่ถึงโรงเรียนมั้ย หรือสามีออกจากบ้านไปทำงาน คุณแม่เป็นยังไง กังวล มีเรื่องให้คิดเยอะแยะ สารพัด สังคมทุกวันนี้ มีเรื่องน่ากลัวรายวัน รายชั่วโมง เราเห็นข่าวทุกวัน กรณีที่เกิดบนรถไฟ อุบัติเหตุรถนักเรียน เด็กมั่วสมุมยาเสพติด ตีกับตบกันถ่ายลงคลิป สารพัด สิ่งที่ต้องการมากที่สุดในยุคที่สังคมกำลังเสื่อมถอยทางศีลธรรม คือการมีแม่เป็นนักอธิษฐาน การมีแม่ที่เป็นคนของพระเจ้า ที่จะฝึกฝนดูแลชีวิตของลูกด้วยความรัก และสติปัญญา รวมทั้งการสร้างวินัย และที่สำคัญมอบถวายลูก ๆ ในการปรนนิบัติพระเจ้า และซุปเปอร์แม่คนหนึ่งที่จะเป็นตัวอย่างกับเราในเรื่องนี้คือชีวิตของนางฮันนาห์ เบื้องหลังชีวิตของฮันนาห์ นางไม่สามารถมีลูกได้ เธอเป็นทุกข์มาก และในความโศกเศร้าของฮันนาห์ที่ไม่สามารถมีลูกนั้น ฮันนาห์ทำอะไร เธอหันไปหาพระเจ้า เธอรู้ และตระหนักดีว่าไม่มีใครนอกจากพระเจ้าเท่านั้นที่จะช่วยเธอ วันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า เธอแสวงหาพระเจ้า และพระองค์ไม่เคยปฎิเสธผู้ที่แสวงหาเลย เมื่อเธอเทใจร้องไห้คร่ำครวญต่อพระเจ้า คำอธิษฐานของเธอก็แตะที่พระบัลลังก์ของพระเจ้า 1 ซามูเอล 1:10-11 10นางเป็นทุกข์ร้อนใจมากอธิษฐานต่อพระเจ้า และร้องไห้คร่ำครวญ 11นางก็บนไว้ว่า “ข้าแต่พระเจ้าจอมโยธา ถ้าพระองค์จะทอดพระเนตรความทุกข์ใจของผู้รับใช้ ของพระองค์จริงๆ และยังระลึกถึงข้าพระองค์ และยังไม่ลืมผู้รับใช้ของพระองค์ แต่จะทรงประทานบุตรชายแก่ผู้รับใช้ของพระองค์สักคนหนึ่ง แล้วข้าพระองค์จะถวายเขาไว้แด่พระเจ้าตลอดชีวิตของเขา และมีดโกนจะไม่แตะต้องศีรษะของเขาเลย” ฮันนาห์ไม่รู้เลยว่าความเชื่อของเธอ คำอธิษฐานของเธอได้ปูทางสำหรับพระเจ้าที่จะทำให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จต่ออิสราเอลประชากรของพระองค์ และต่อทั้งโลกในเวลาต่อมา ซามูเอลกลายเป็นผู้นำคนสำคัญคนหนึ่งของอิสราเอล และมีส่วนต่อการกำหนดทิศทางชนชาติอิสราเอล และเมื่อฮันนาห์ให้กำเนิดซามูเอล เธอก็ไม่เคยลืมสิ่งที่พูดไว้อธิษฐานไว้กับพระเจ้าที่จะถวายซามูเอลแด่พระเจ้า ฮันนาห์เลี้ยงดูเอาใจใส่ดูแลฝึกฝนลูกที่เป็นดั่งสมบัติล้ำค่าในช่วงเวลาที่ซามูเอลยังอยู่ภายใต้การดูแลของเธอ นี่คือซุปเปอร์มัมที่มีชีวิตอยู่ในการอธิษฐาน ให้คำอธิษฐานขับเคลื่อนชีวิตภายใต้ปัญหา ภรรยาบางคนในที่นี้มีบทบาทเป็นภรรยา แต่ยังไม่ได้มีบทบาทเป็นแม่ ยังไม่มีลูก ให้ชีวิตของฮันนาห์ เป็นฮันนาห์โมเดลในชีวิตของเรา เทชีวิตเทหัวใจในการอธิษฐาน คร่ำครวญต่อพระเจ้า ให้คำอธิษฐานของเราแตะที่บัลลังก์พระเจ้า ส่วนแม่ทั้งหลายที่มีลูกแล้ว ไม่ว่าลูกเล็ก ลูกโต วันนี้เราก็ยังต้องเป็นแม่ที่อธิษฐาน แม่แห่งการอธิษฐาน ขอสติปัญญาจากพระเจ้าที่จะเลี้ยงดูลูกของเรา ยากอบ 1:5 5ถ้าผู้ใดในพวกท่านขาดสติปัญญา ก็ให้ผู้นั้นทูลขอจากพระเจ้า ผู้ทรงโปรดประทานให้แก่คนทั้งปวงด้วยพระกรุณาและมิได้ทรงตำหนิ แล้วผู้นั้นก็จะได้รับสิ่งที่ทูลขอ ซุปเปอร์มัมต้องอธิษฐาน ขอสติปัญญาแนวทางการเลี้ยงลูก ให้อยู่ในทางพระเจ้า ฝึกฝนเค้าเพื่อเราจะเป็นซุปเปอร์มัมอย่างที่พระเจ้าต้องการ เป็นซุปเปอร์มัมเพราะได้รับการช่วยกู้จากพระเจ้าผ่านคำอธิษฐาน เรามาดูคำอธิษฐานของนางฮันนาห์หลังจากที่พระเจ้าตอบคำอธิษฐานของเธอ
1 ซามูเอล 2:1-10 1นางฮันนาห์ได้อธิษฐานและกล่าวว่า “จิตใจของข้าพเจ้าชื่นชมในพระเจ้า ในพระเจ้ากำลังของข้าพเจ้าก็เข้มแข็ง ปากของข้าพเจ้าก็อ้ากว้างเข้าใส่ศัตรูของข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าเปรมปรีดิ์ในความรอดของพระองค์ 2“ไม่มีผู้ใดบริสุทธิ์ดังพระเจ้า ไม่มีผู้ใดนอกเหนือพระเจ้า ไม่มีศิลาใดเหมือนพระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย 3อย่าพูดโอหังอีกต่อไปเลย อย่าให้ความจองหองออกมาจากปากของเจ้าเลย เพราะพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าของความรู้ การกระทำทั้งหลาย พระองค์ทรงเป็นผู้ชั่งตรวจ และ9“พระองค์จะทรงดูแลย่างเท้าของธรรมิกชนของพระองค์ แต่คนอธรรมจะต้องนิ่งอยู่ในความมืด เพราะว่ามนุษย์จะชนะด้วยกำลังของตนก็หาไม่ 10ศัตรูของพระเจ้าจะแตกเป็นชิ้นๆ พระองค์จะทรงเอาฟ้าร้องในสวรรค์ต่อสู้เขา พระเจ้าจะทรงพิพากษาที่สุดปลายพิภพ พระองค์จะทรงประทานกำลังแก่พระราชาของพระองค์ และจะทรงเสริมอำนาจของผู้ที่พระองค์ทรงเจิม ไว้” คำอธิษฐานของฮันนาห์ เป็นคำอธิษฐานของผู้ที่รู้จักพระเจ้าเป็นอย่างดี ที่รู้ถึงความยิ่งใหญ่และอำนาจของพระเจ้า เธอมอบซามูเอลให้อยู่ภายใต้การดูแลของเอลี แม้เธอจะรู้ว่า ครอบครัวของเอลีมีบรรยากาศฝ่ายวิญญาณที่ไม่ดี เอลีมีลูกชาย 2 คนที่ฉ้อฉลคอรัปชั่น แต่นางฮันนาห์เชื่อและไว้วางใจในพระเจ้า เชื่อว่าพระเจ้าจะทรงปกป้องและรักษาดูแลซามูเอลเป็นอย่างดีหลังจากที่ฮันนาห์มอบถวายซามูเอลให้ปรนนิบัติพระเจ้า ฮันนาห์ได้รับการอวยพรจากพระเจ้า เธอมีลูกชายอีก 3 คน ลูกสาว 2 คน การอุทิศถวายของเธอเป็นเหตุทำให้เธอได้รับอวยพรอย่างล้นเหลือ เพราะเธอได้ลงทุนสิ่งที่มีค่าในธนาคารสวรรค์ ซุปเปอร์มัมต้องกล้าถวายลูกให้ปรนนิบัติพระเจ้าเช่นกัน เราต้องเป็นแม่ที่สนับสนุนส่งเสริมลูกให้รับใช้พระเจ้า ตั้งแต่เขาเป็นเด็ก และแม้ว่าเขาโตแล้ว เป็นวัยรุ่นแล้วเรายิ่งต้องสนับสนุนต้องถวายลูกให้ปรนนิบัติพระเจ้า มีส่วนในการรับใช้พระเจ้า เราไม่รู้ลูกของแม่บางคนพระเจ้าอาจเรียกให้เป็นผู้รับใช้พระเจ้า เรียกให้เรียนพระคัมภีร์ ถ้าพระเจ้ากำหนดเช่นนั้น เราต้องกล้าถวายลูกให้พระเจ้า อย่าให้ค่านิยมของโลกนี้ทำให้เราคิดว่า เรียนมหาลัยข้างนอกดีกว่า ทำงานข้างนอกดีกว่า เราต้องกล้า กล้าที่จะเชื่อไว้วางใจพระเจ้า แล้วพระเจ้าจะอวยพรอย่างมากมายอย่างที่ฮันนาห์ได้รับการอวยพร สิ่งที่ซุปเปอร์มัมอย่างฮันนาห์เป็น ได้ส่งต่อไปถึงซามูเอล ความเชื่อของผู้เป็นแม่ได้ส่งต่อไปถึงลูก ที่ในเวลาต่อมาซามูเอลเป็นผู้ที่อธิษฐานเผื่อชนชาติของเขา ทำสิ่งยิ่งใหญ่เพื่อพระเจ้า และซุปเปอร์มัมทุกคนที่นี่ต้องส่งต่อมรดกแห่งความเชื่อให้กับลูก เริ่มต้นที่ตัวเรา ซุปเปอร์มัม มีพลังได้ด้วยการอธิษฐาน เราต้องเป็นแม่ที่อธิษฐาน เราคงปฎิเสธไม่ได้ว่าชีวิตของคนเป็นแม่ทุกคนในแต่ละวันยุ่งเหยิง โกลาหล มีสารพัดเรื่องที่จะต้องทำ แต่ละวันกว่าจะหมดไปทั้งยุ่ง ทั้งเหนื่อย ทั้งเครียด มีเรื่องหงุดหงิดกระจุ๊กกระจิ๊กได้ตลอด และบ่อย ๆ ที่ทำให้เราไม่มีเวลาอธิษฐานอย่างมีคุณภาพ ไม่ใช่การอธิษฐานแบบ ประโยค 2 ประโยค นาที 2 นาที หรือบางทีไม่ถึงเลย แต่เป็นการอธิษฐานที่ใช้เวลากับพระเจ้าจริง ๆ พูดคุยกับพระเจ้า และไม่ใช่แค่พูด ๆ ๆ อย่างเดียวแล้วก็ลุกไป แต่ต้องมีเวลาที่จะฟังเสียงพระเจ้าด้วย ทุกวันคุณแม่ต้องอธิษฐานเผื่อตัวเอง ลูก สามี ครอบครัว คุณแม่ต้องให้พระเจ้าเข้ามาในครอบครัว คุณแม่ต้องรับกำลังจากพระเจ้าที่จะเผชิญกับชีวิตในแต่ละวัน มีกำลังสติปัญญาจากพระเจ้าเพื่อที่จะจัดการกับร้อยแปดพันเก้าในชีวิต รับการสำแดงการเปิดเผยจากพระเจ้าเกี่ยวกับครอบครัวของเรา คุณแม่ต้องอธิษฐานรับความรักจากพระเจ้าในแต่ละวันเพื่อที่จะรักลูกและสามีของเราด้วยความรักที่มาจากพระเจ้า โดยความรักเราเองไม่พอ โดยความรักเราเองมันมีเงื่อนไข โดยความรักเราเองมันอ่อนกำลัง ซุปเปอร์มัมต้องอธิษฐานเผื่อลูก เผื่อสามี เผื่อคนในครอบครัวเพื่อเราจะได้อยู่อย่างสงบและมีสันติสุข แม่ที่ไม่อธิษฐาน แม่ที่เห็นแก่ตัวเอง สนใจแต่เรื่องของตัวเองไม่สามารถที่จะสร้างลูกให้มีวินัยและอยู่ในทางพระเจ้าได้ พระเยซูคริสต์ทรงเป็นต้นแบบที่สำคัญในชีวิตแห่งการอธิษฐานเผื่อลูก ๆ ของพระองค์มัทธิว 19:13-14 13 ขณะนั้นเขาพาเด็กเล็กๆมาหาพระองค์ เพื่อจะให้พระองค์ทรงวางพระหัตถ์และอธิษฐาน แต่เหล่าสาวกก็ห้ามปรามไว้ 14ฝ่ายพระเยซูตรัสว่า “จงยอมให้เด็กเล็กๆเข้ามาหาเรา อย่าห้ามเขาเลย เพราะว่าชาวแผ่นดินสวรรค์เป็นของคนเช่นเด็กเหล่านั้น” และนอกจากจะใช้เวลาอธิษฐานเป็นการส่วนตัวของแม่แล้ว สิ่งที่สำคัญมากที่แม่ต้องทำคือ อธิษฐานด้วยกันกับลูก แม่ที่จะเป็นซุปเปอร์แม่ต้องมีเวลาแบบนี้กับครอบครัว ทุกครอบครัวต้องจัดเวลาในการอธิษฐานด้วยกัน จับมือกันอธิษฐานพ่อ แม่ลูก สามีภรรยาใช้เวลาด้วยกันในการอธิษฐาน อับราฮัม ลินคอนผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของอเมริกา บอกว่า “ผมจำคำอธิษฐานของแม่ผมได้ดี และคำอธิษฐานเหล่านั้นของแม่มีผลดีต่อชีวิตผมทั้งชีวิต” จงอธิษฐานเมื่อมีภัยมา มีบ้านไหนไม่มีปัญหา คงไม่มี ทุกบ้านมี มีเยอะมีน้อยก็ว่ากันไป ปัญหาเศรษฐกิจการเงิน เงินไม่พอใช้ ตกงาน ปัญหาความสัมพันธ์ ความไม่เข้าใจกัน ปัญหาสุขภาพความเจ็บป่วย ปัญหาการเรียนของลูก แต่ละบ้านจะมีพายุความวุ่นวายพัดผ่านเข้ามาเสมอ จงผ่านปัญหาและภัยเหล่านี้ไปด้วยการอธิษฐานด้วยกันของคนในครอบครัว ร่วมใจร่วมพลังอธิษฐานด้วยกัน ร้องไห้ด้วยกันในคำอธิษฐาน คร่ำครวญต่อพระเจ้าด้วยกัน ครอบครัวต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างอยู่ พ่อแม่ลูกต้องจับมือกันอธิษฐาน เพื่อครอบครัวจะเห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าด้วยกัน มีประสบการณ์กับพระเจ้าด้วยกัน เห็นการช่วยกู้ของพระเจ้า แล้วลูกของเราครอบครัวของเราตัวของเราจะเติบโตในความเชื่อ ความเชื่อจะแข็งแรง ความเชื่อจะมั่นคง แม้บางเรื่องเราอธิษฐานแล้วปัญหามันจะไม่ได้หายไปทันทีทันใด แต่เราก็จะแข็งแรงขึ้นแน่นอนเพราะเราสามารถที่เผชิญรับมื่อกับสิ่งเหล่านั้นได้ดีมากขึ้นผ่านคำอธิษฐาน กลับไปตกลงเวลากันในครอบครัววันไหน เวลาไหนที่จะเป็นเวลาอธิษฐานของครอบครัว คุณแม่จะเป็นซุปเปอร์มัมมีกำลังได้ด้วยการอธิษฐาน
2.พลังของการอดทน
ซุปเปอร์มัมต้องมีพลังของการอดทน นี่เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก 1 โครินธ์ 13:4 บอกว่า 4ความรักนั้นก็อดทนนาน คำว่า อดทน ในภาษากรีก มีความหมายว่า ใช้เวลานานในการเดือด เราลองคิดถึงกาต้มน้ำ น้ำจะเดือดได้เร็วเมื่อเราเปิดไฟแรง และมันจะเดือดช้าถ้าเราใช้ไฟอ่อน ๆ ความอดทนนั้นต้องทำให้ไฟในตัวเรามันอ่อน ๆ อย่าเป็นฟืนเป็นไฟแล้วเราจะอดทนได้นาน ความอดทนไม่ใช่การที่เราซื่อบื้อ หรือเพิกเฉยต่อความประพฤติที่ผิดแต่ความอดทนคือการที่เราฟังก่อน การรอก่อน อยู่นิ่ง ๆ ร่ม ๆ ก่อน และช้าที่จะเดือด ยากอบก็บอกเรา ยากอบ 1:19 19ดูก่อนพี่น้องที่รักของข้าพเจ้า จงทราบข้อนี้ จงให้ทุกคนไวในการฟัง ช้าในการพูด ช้าในการโกรธ เมื่อเราอดทนได้นั่นแหละจะเป็นพลังที่ดีมากของซุปเปอร์มัม ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับการที่จะอดทน ใช่มั้ยคะคุณแม่ อยากจะขออนุญาตเล่าเรื่องนึงของป้าบัว ขอกันตรงนี้เลย ได้มั้ยคะป้าบัว ป้าบอกโดนอีกแล้ว อาจเป็นเรื่องที่ใครหลายคนรู้ แต่มีบางมุมที่ไม่มีใครรู้ แต่ข้าพเจ้าเห็น วันอาทิตย์วันหนึ่งป้าบัวลุงเกรียงทำกับข้าวให้เรา วันนั้นมีต้มข้าวต้มด้วยหม้อใหญ่ แต่แล้วก็เกิดอุบัติเหตุหม้อข้าวต้มล้ม ข้าวหกหมด วินาทีนั้นความรู้สึกของป้าบัวก็คงหลาย ๆ อย่างทั้งเสียใจ โมโห หงุดหงิด แล้วก็จะไม่อดทนแล้ว แต่ป้าบัวทำยังไงรู้มั้ยคะ เดินขึ้นไปชั้นลอย เข้าไปนั่งในออฟฟิศ ด้วยอาการร้องไห้ เราก็ตกใจ ถามป้าบัวเป็นอะไร แล้วก็สักพักนะถึงจะพูดได้ ว่าลุงเกรียงทำหม้อข้าวต้มล้ม เราก็พากันปลอปใจ ไม่เป็นไร ๆ ช่างมัน ไม่มีใครเป็นอะไรก็ดีแล้ว ป้าบัวก็นั่งสงบใจอยู่สักพักก็ลงไปเข้าครัวต่อ แล้วข้าพเจ้าก็มาคุยเรื่องนี้ทีหลังอีกกับน้องชล บอกน้องชลว่า ชลแม่น่ะเก่งมากนะ วันนั้นพี่รู้ว่าจริง ๆ แม่คงโมโหพ่อมาก แต่แม่ก็พาตัวเองขึ้นมานั่งสงบใจที่ออฟฟิศ น้องชลบอก “ใช่พี่ ใช่ หนูก็คุยกับแม่ แม่บอกถ้าเป็นเมื่อก่อนของอะไรอยู่ในห้องครัวบินให้ว่อนแล้ว มีจานบินแน่ ๆ พี่ “ “แล้วแม่บอกหนูว่า เกือบทำแล้วแหละ แต่นึกได้ห้องครัวมันมีกล้องวงจรปิดนี่หว่า” ขอบคุณพระเจ้าสำหรับกล้องวงจรปิดนะ เรามีวงจรปิดเพื่อสิ่งนี้นี่เอง พูดเล่น จริง ๆ ป้าบัวอดทนได้มากขึ้นต่างหาก ขอบคุณป้ากับลุงนะทำอาหารให้เราทุกอาทิตย์ เป็นงานที่เหนื่อยมาก เป็นซุปเปอร์ป้าซุปเปอร์ลุงของเราเลย ขอพระเจ้าอวยพรคัก ๆ หลาย ๆ เด้อ พระเจ้ามองดูเราทุกคนด้วยนะพี่น้อง พระเจ้าก็มีกล้องวงจรปิดที่เฝ้ามองดูชีวิตของเรา ให้เราตระหนักและยำเกรงต่อพระเจ้าผู้ทรงรักเราอย่างที่สุด ที่อยากจะเห็นคุณแม่ทุกคนเป็นคุณแม่ที่อดทนนานนนนน เป็นซุปเปอร์มัม ยอดคุณแม่มหัศจรรย์ 2 เปโตร 3:9 9องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงเฉื่อยช้าในเรื่องพระสัญญาของพระองค์ ตามที่บางคนคิดนั้น แต่พระองค์ได้ทรงอดกลั้นพระทัยไว้ เพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลายมาช้านาน พระองค์ไม่ทรงประสงค์ที่จะให้ผู้หนึ่งผู้ใดพินาศเลย แต่ทรงปรารถนาที่จะให้คนทั้งปวงกลับใจเสียใหม่ ฉะนั้น เมื่อพระเจ้าก็อดทนกับเรา เราก็จะรับพระคุณนั้น และส่งต่อพระคุณ ส่งต่อความอดทนไปให้กับลูกของเราด้วย ความอดทนไม่ใช่เรื่องง่าย และมันไม่ใช่อะไรที่เป็นธรรมชาติของเรา แต่เมื่อเราหยุดที่จะไม่ฟัง และเริ่มให้คำพูดความโกรธมันไหลหลั่งพรั่งพรูออกมา โดยเฉพาะกับลูกกับสามีกับครอบครัว มันเป็นอะไรบางอย่างที่ไปฟาดฟันลูกของเรา และโดยเฉพาะมันเข้าไปฟาดฟันจิตวิญญาณ และเราก็กำลังส่งต่อถ่ายทอดสิ่งที่เราเป็นให้กับลูก สิ่งที่เราทำและสิ่งที่เราเป็น ก็คือสิ่งที่ลูกก็จะทำลูกก็จะเป็น ความอดทน ความอดกลั้นใจเป็นผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ดังนั้นยิ่งเมื่อเราพึ่งพาพระเจ้าในพลังการอธิษฐาน เราก็ยิ่งมีพลังที่จะอดทน อดทน และอดทนมากยิ่งขึ้น
3.พลังแห่งการพัก – ผ่อน – คลาย
แม่ต้องมีพลังจากการพัก ผ่อน คลาย สดุดี 127:1-3 ถ้าพระเจ้ามิได้ทรงสร้างบ้าน บรรดาผู้ที่สร้างก็เหนื่อยเปล่า ถ้าพระเจ้ามิได้ทรงเฝ้าอยู่เหนือนคร คนยามตื่นอยู่ก็เหนื่อยเปล่า 2เป็นการเหนื่อยเปล่า ที่ท่านลุกขึ้นแต่เช้ามืด นอนดึก และกระหืดกระหอบกินอาหาร เพราะพระองค์ประทานแก่ผู้ที่รักของพระองค์ ให้หลับสบาย 3นี่แน่ะ บุตรทั้งหลายเป็นมรดกจากพระเจ้า ผลิตผลของครรภ์เป็นรางวัล จุดประสงค์ของพระคัมภีร์ข้อนี้กำลังบอกอะไร พระเจ้าไม่ได้ต้องการให้เรามีชีวิตเป็นเซเว่น – อีเลฟเว่น พระเจ้าต้องการให้คุณแม่ รีแลกซ์ด้วย ได้พัก ได้ enjoy กับชีวิตกับลูก ๆ โดยเฉพาะกับคนที่มีลูกเล็ก ๆ เด็ก ๆ เนี่ยโตเร็วมากนะ อย่างหลานข้าพเจ้า แป๊ปเดียวจะ 7 ขวบแล้ว เวลาผ่านไปเร็วมาก และนี่คือความท้าทายของคุณแม่ที่มีลูกยังเล็ก เพราะฉะนั้นเล่นกับลูก สนุกกับลูก ใช้เวลากับลูก อย่าใช้เวลากับอย่างอื่น แต่แม้คุณแม่หลายคนที่ลูกโตแล้วก็ตาม ก็อยากหนุนใจ ใช้เวลากับลูก สำหรับเด็ก ๆ คำว่าความรักของพวกเค้า ไม่ได้สะกดว่า ร ไม้หันอากาศ ก.ไก่ รัก แต่คำว่ารักของเด็กๆ สะกดว่า สระเอ ว แหวน ล.ลิง สระ อา อ่านว่า เวลา ไม่ว่าเราจะเป็นแม่ที่ออกไปทำงาน แม่ที่อยู่บ้าน แม่เดี่ยว หรือเราจะบอกเรามีงานบ้านที่ต้องทำเยอะแยะ อยากจะบอกว่า ยังไงซะงานบ้านมันก็ยังมีอยู่เสมอ มีจานให้ล้างทุกวัน มีผ้าต้องซักต้องตากต้องเก็บ มันเป็นสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด พระเจ้าทรงรู้ว่าแม่มีงานทำไม่เคยได้หยุดตั้งแต่เช้าจนเข้านอนนั่นแหละ แต่พระองค์ก็ต้องการให้เราทั้งหลายที่เป็นคุณแม่รีแลกซ์ มีเวลาพักผ่อน มีเวลาผ่อนคลาย มีช่วงเวลาที่สนุก ได้หัวเราะกับคนในครอบครัว มีบางคนบอกว่า “แม่ที่ดี ต้องมีจานที่ยังไม่ล้างอยู่ในอ่าง มีครัวที่เลอะเทอะ มีพื้นบ้านเหนียว ๆ และมีลูก ๆ และสามี ที่มีความสุข” หมายความว่าอย่างไร ไม่ได้หมายความว่าเราปล่อยให้บ้านสกปรกเลอะเทอะไม่ดูแล แต่กำลังหมายความว่าอย่าหมกมุ่น มัวแต่ทำงาน ทำงานบ้านจนไม่ได้ใช้เวลากับลูก ไม่มีเวลาเล่นกับลูก ไม่มีเวลาคุยกับลูกเลย ไม่ว่าลูกของเราจะอายุเท่าไหร่ เราต้องมีเวลากับลูกของเรา กับสามีกับครอบครัว ในอีกด้านหนึ่ง ซุปเปอร์มัมจะสามารถ พัก ผ่อน คลาย ได้ก็ด้วยกำลังหลักจากลูกและสามี มีเรื่องเล่าเรื่องปลาทูไหม้ แม่ของผมชอบทำอาหาร คืนหนึ่งหลังจากที่แม่ทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน แม่กลับบ้านด้วยความเหนื่อยล้า และทำอาหารเย็นให้เราตามปกติที่โต๊ะอาหาร แม่วางจานที่มีปลาทูไหม้เกรียมบนโต๊ะต่อหน้าพ่อและแม่ทุกคน ผมรอว่าแต่ละคนจะว่าอย่างไร แต่พ่อไม่ว่าอะไร และตั้งหน้าตั้งตากินปลาทูไหม้ตัวนั้น และหันมาถามผมว่าที่โรงเรียนเป็นอย่างไรบ้าง คืนนั้นหลังอาหารเย็น ผมจำได้ว่าได้ยินแม่ขอโทษพ่อที่ทอดปลาไหม้ และผมไม่เคยลืมที่พ่อพูดเลย พ่อพูดว่า “พ่อชอบปลาทูทอดเกรียม ๆ อร่อยมากนะแม่” คืนต่อมา ผมเก็บคำถามในใจมาถามพ่อว่า พ่อชอบปลาทูไหม้ ๆ เกรียม ๆ จริง ๆ เหรอ พ่อลูบหัวผมและตอบว่า “แม่ของลูกทำงานหนักมาทั้งวัน ปลาทูไหม้ 1 ตัว ไม่เคยทำร้ายใคร แต่คำพูดว่ากันต่างหาก ที่จะทำร้ายกัน ชีวิตเราไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ตัวเราเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าใคร ๆ พ่อเองเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยจำวันเกิดแม่ หรือวันครบรอบวันแต่งงานเหมือนคนอื่น ๆ แต่สิ่งที่พ่อเรียนรู้ในช่วงชีวิตคือ การเรียนรู้ที่จะยอมรับความผิดของคนอื่น และการเลือกที่จะยินดีกับความคิดต่างกันของแต่ละบุคคล เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างชีวิตครอบครัวที่มีความสุขและยืนยาว ชีวิตคนเราสั้นเกินกว่าที่จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเสียใจที่ว่า เราทำผิดกับคนที่เรารัก และรักเรา จงดูแลและทะนุถนอมคนที่รักเรานะ เรามีสิทธิ์ที่จะทำผิดพลาด แต่ถ้าเราให้ความผิดพลาดนั้นอยู่ในบรรยากาศของการพัก ผ่อนและคลาย ครอบครัวจะมีความสุข คุณแม่มีความสุข เป็นซุปเปอร์มัมที่แข็งแรง คุณแม่ คุณภรรยาทุกคนวันนี้ถ้ายังไม่รู้ว่าจะทำอะไรทาน ลองกลับไปทำเมนูปลาทูทอดเกรียมกรอบไหม้ดีมั้ยคะ ทดสอบความรักสามีกัน ได้ผลยังไงมาบอกด้วยนะคะ เป็นหน้าที่ของลูกและสามีที่ต้องให้กำลังใจซุปเปอร์มัมในบ้านของเรา สามีต้องรัก ให้ความรัก เอเฟซัส 5:25 25ฝ่ายสามีก็จงรักภรรยาของตน เหมือนอย่างที่พระคริสต์ทรงรักคริสตจักร และทรงประทานพระองค์เองเพื่อคริสตจักร คุณสามีวันนี้บอกรักภรรยาหรือยัง พระเจ้าใส่ใจต่อผู้หญิง ต่อผู้เป็นภรรยาเป็นแม่มาก และพระเจ้าต้องการให้สามีใส่ใจด้วย เรามาดูตั้งแต่การสร้างของพระเจ้าเลยว่าพระเจ้าใส่ใจผู้หญิงมากแค่ไหน ปฐมกาล2:7 7พระเจ้าทรงปั้นมนุษย์ด้วยผงคลีดิน ระบายลมปราณเข้าทางจมูก มนุษย์จึงเป็นผู้มีชีวิต พระเจ้าสร้างผู้ชายจากผงคลีดิน แล้วมาดูผู้หญิงสร้างอย่างไร ปฐมกาล 2 :18-23 18พระเจ้าตรัสว่า “ไม่ควรที่ชายผู้นี้จะอยู่คนเดียว เราจะสร้างคู่อุปถัมภ์ที่สมกับเขาขึ้น”19พระเจ้าจึงทรงปั้นบรรดาสัตว์ในท้องทุ่ง และนกในท้องฟ้าให้เกิดขึ้นจากดิน แล้วทรงนำมายังชายนั้น เพื่อดูว่า เขาจะเรียกชื่อมันว่าอะไร ชายนั้นตั้งชื่อสัตว์ทั้งปวงที่มีชีวิตว่าอย่างไร สัตว์นั้นก็มีชื่ออย่างนั้น 20ชายนั้นจึงตั้งชื่อบรรดาสัตว์ใช้งาน และนกในอากาศและบรรดาสัตว์ป่า แต่ชายนั้นยังหามีคู่อุปถัมภ์ที่สมกับตนไม่ 21แล้วพระเจ้าจึงทรงกระทำให้ชายนั้นหลับสนิท ขณะที่เขาหลับสนิทอยู่ พระองค์ทรงชักกระดูกซี่โครงอันหนึ่งของเขาออกมา แล้วทำให้เนื้อติดกันเข้าแทนกระดูกอย่างเดิม 22ส่วนกระดูกซี่โครงที่พระเจ้าได้ทรงชักออกจากชายนั้น พระองค์ทรงสร้างให้เป็นหญิง แล้วทรงนำมาให้ชายนั้น 23ชายจึงว่า “นี่แหละ กระดูกจากกระดูกของเรา เนื้อจากเนื้อของเรา จะต้องเรียกว่าหญิง เพราะหญิงนี้ออกมาจากชาย” เอวาเป็นสิ่งทรงสร้างที่มีความสวยไม่มีใครเทียบ เธอเป็นสิ่งสุดยอดแห่งการทางสร้าง เอวาไม่ได้สร้างจากผงคลีเหมือนกับอาดัม แต่ได้รับการสร้างสรรค์ออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อเป็นของขวัญพิเศษให้กับอาดัม และแน่นอน คุณสามี คุณพ่อทั้งหลายในที่นี้ พระเจ้าสร้างภรรยาของคุณให้คุณโดยเฉพาะ พระเจ้าได้ออกแบบภรรยาของเราไว้อย่างสร้างสรรค์ สวยงามสำหรับคุณสามีคุณพ่อในที่นี้ ขอเสียงเอเมนของคุณสามีหน่อยค่ะ ขอเสียงผู้ชายพูดประโยคนี้ “พระเจ้าสร้างผู้หญิงเป็นพิเศษ” และช่วยหันไปพูดกับภรรยาหน่อยว่า “ขอบคุณพระเจ้าสำหรับภรรยาที่น่ารักของผม” สำหรับลูก เราสามารถให้ซุปเปอร์แม่ของเรา พัก ผ่อน และคลายได้ ด้วยการที่เราต้องให้เกียรติ และให้ความเคารพแม่ของเรา เพราะเป็นสิ่งสมควรที่แม่ควรจะได้รับ แม่เป็นของขวัญจากพระเจ้าที่ต้องได้รับการทนุถนอม การดูแล เอเฟซัส 6:1 1ฝ่ายบุตรจงนบนอบเชื่อฟังบิดามารดาของตนในองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะกระทำอย่างนั้นเป็นการถูก 2จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้า นี่เป็นพระบัญญัติข้อแรกที่มีพระสัญญาไว้ด้วย 3เพื่อเจ้าจะไปดีมาดีและมีอายุยืนนานที่แผ่นดินโลก ลูก ๆ เคยถามตัวเองมั้ยว่า เราทำดีกับแม่ รักแม่ มากพอหรือยังกับความรักที่แม่มอบให้ แม่เป็นอาชีพที่ไม่เคยมีวันหยุด ไม่มีวันได้พัก มีเพียงสิ่งหล่อเลี้ยงหัวใจคือ ความรักของลูก จงกอดแม่ เมื่อยังมีแม่ให้กอด จงบอกรักแม่เมื่อยังมีโอกาส การเป็นซุปเปอร์มัม ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ถ้าเราเป็นแม่ที่พึ่งพาการอธิษฐาน วางใจในพระเจ้าด้วยความอดทนในช่วงเวลายาก ๆ ของชีวิต และมีเวลาพักผ่อนคลาย ได้รับความรักความเข้าใจจากครอบครัว นั่นแหละคือการที่แม่กำลังจะแปลงร่างเป็นซุปเปอร์มัม