1 ยอห์น 2:12-14 12 ลูกทั้งหลายเอ๋ย ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะว่าได้ทรงยกบาปของท่านแล้ว ด้วยเห็นแก่พระนามของพระองค์13 ท่านทั้งหลายที่เป็นบิดา ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะท่านทั้งหลายได้คุ้นกับพระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ตั้งแต่ปฐมกาล ท่านทั้งหลายที่เป็นคนหนุ่มๆ ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่านเพราะท่านทั้งหลายได้ชนะมารร้ายนั้น ท่านทั้งหลายผู้เป็นลูก ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่านเพราะท่านทั้งหลายได้คุ้นกับพระบิดา14 ท่านทั้งหลายที่เป็นบิดา ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะท่านทั้งหลายได้คุ้นกับพระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ตั้งแต่ปฐมกาล ท่านทั้งหลายที่เป็นคนหนุ่มๆ ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่านเพราะท่านทั้งหลายมีกำลังมาก และพระวจนะของพระเจ้าดำรงอยู่ในท่านทั้งหลาย และท่านชนะมารร้ายนั้นแล้ว อยากให้เราดูข้อหนึ่ง ในข้อที่ 13 “ท่านทั้งหลายที่เป็นคนหนุ่ม ๆ ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่านทั้งหลาย เพราะท่านชนะมารร้ายนั้นแล้ว”ในโลกของวิญญาณมีมาร แต่มารในความคิดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ในความเป็นจริง มารคือทูตสวรรค์ที่หล่นจากพระสิริของพระเจ้า และมันไม่เป็นรองมนุษย์คนไหนเลยหลังจากที่มนุษย์ทำบาป ยกเว้นพระเยซูคริสต์ ทุกยุคทุกสมัยมันไม่เคยเป็นรองใครรวมทั้งเราด้วย แต่ในข้อที่ 13 บอกว่าท่านได้ชนะมารร้ายนั้นแล้ว ยอห์นในเวลานั้นอายุมากแล้ว และเขียนจดหมายถึงคริสตจักร ที่หมายถึงคริสเตียน คริสตจักรทุกวัย เมื่อพูดว่าลูกทั้งหลายเอ๋ย นั่นหมายความว่ามีคริสเตียนในเวลานั้นที่มีชีวิตที่ชนะมารร้าย คำถามที่ถามคือ ชนะได้อย่างไร ? ในข้อ 14 บอกเคล็ดลับที่ชัดเจนว่าเขาชนะมารร้ายได้ เพราะเขามีกำลังมาก เราอยู่ในปีของการเกิดผล แต่มารไม่ต้องการให้เราเกิดผล มันต้องการให้เราแพ้มันด้วยการไม่ให้เราเกิดผล เมื่อเราแพ้มันควบคุมเราเราไม่มีทางได้เกิดผล ถ้าคริสเตียนเกิดผลมารมันเดือดร้อน แต่ขอบคุณพระเจ้า พระเยซูชนะมารร้ายแล้วตั้งแต่วันที่พระองค์เสด็จจากอุโมงค์ วันนี้พระคัมภีร์กำลังพูดถึงเรา ท่านทั้งหลายที่อยู่ที่นี่ได้ชนะมารร้าย แต่ชนะได้ยังไงถ้าไม่มีกำลังมาก เราจะชนะได้ถ้าเรามีกำลังมาก ให้เราสำรวจชีวิตตัวเองที่ผ่านมา เราอ่อนแอแค่ไหนในฝ่ายวิญญาณ แม้ร่างกายเราอ่อนแอ แต่จิตวิญญาณของเราเป็นอย่างไร และในชัยชนะนั้นสิ่งที่ทำให้เรามีกำลังมากคือ พระวจนะที่ดำรงอยู่ในเราทั้งหลาย ยอห์นพูดถึงเรื่องนี้เพื่อให้เราตระหนักจริง ๆ ว่าเราสามารถเอาชนะมารร้ายนั้นได้ เพราะเรามีกำลังมาก แข็งแรงมาก และเราแข็งแรงด้วยพระวจนะที่ดำรงอยู่ในเรา มารที่จู่โจมคริสเตียนในสมัยยอห์น กับสมัยเราเป็นตัวเดียวกัน ถ้าคนในสมัยนั้นชนะมันได้ เราก็ชนะมันได้ด้วย ถ้ามันพ่ายแพ้คนในยุคนั้นเพราะพระวจนะที่ดำรงอยู่ในคนเหล่านั้นได้ มารก็พ่ายแพ้เราที่มีพระวจนะดำรงอยู่ในเราด้วย ไม่ใช่ว่ามันทำอะไรเราไม่ได้ แต่เราจะทำกับมันจนมันยอมแพ้ หลายครั้งเราพูดว่า สัปดาห์ที่ผ่านมามารทำอะไรเราไม่ได้เลย นั่นยังไม่ชนะ เพียงแต่เรายังไม่แพ้ เราคำนึงแค่ว่ามันทำอะไรเราไม่ได้ แต่เราต้องชนะมารร้าย ถ้าชีวิตเราจะเกิดผล เราต้องชนะมารร้าย เราต้องให้พระวจนะดำรงอยู่ในเรา ไม่มีทางอื่น ให้เราใช้เวลากับพระคัมภีร์ ศึกษา อ่านจริง ๆ มีอีกคำถามหนึ่ง เราจะเอาชนะอะไรมารร้าย ? วิ่งแข่ง แข่งขันในเรื่องฤทธิ์เดชหรือ ? ถ้าเราชนะมารร้าย และเราชนะจริง ๆ อุปสรรคที่จะขัดขวางการเกิดผลจะถูกขจัดอย่างสิ้นเชิง เรามาดู 2 ประการที่เกี่ยวข้องกับความบาป
1.มันคอยฟ้องเรา พระคัมภีร์เรียกมันว่า ผู้กล่าวโทษ วิวรณ์ 12 :10-11 10 และข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังขึ้นในสวรรค์ว่า “บัดนี้ความรอดและฤทธิ์เดชและราชอาณาจักรแห่งพระเจ้าของเรา และอำนาจพระคริสต์ของพระองค์ได้มาถึงแล้ว เพราะว่าผู้ที่กล่าวโทษพวกพี่น้องของเราต่อพระพักตร์พระเจ้าทั้งกลางวันและกลางคืนนั้น ก็ได้ถูกผลักทิ้งลงไปแล้ว11 เขาเหล่านั้นชนะพญามารด้วยพระโลหิตของพระเมษโปดก และเพราะคำพยานของพวกเขาเอง เพราะเขาไม่ได้เสียดายที่จะพลีชีพของตน คนที่เล่นงานคริสเตียนคือ มาร มันกล่าวโทษเราต่อพระพักตร์พระเจ้าทั้งกลางวัน กลางคืน แล้วมันกล่าวโทษเราได้อย่างไร กล่าวโทษอะไรเรา มันรู้มั้ยว่าพระเจ้าสัพพัญญู มันรู้มั้ยว่าพระเจ้ารู้ว่าอะไรจริง ไม่จริง มันรู้ แล้วมันกล้ากล่าวโทษเราแสดงว่ามันรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงใช่มั้ย ใช่ แล้วมันกล่าวโทษเราตอนไหน ก็ตอนที่เราทำบาป เศคาริยาห์ 3 :1-5 1 แล้วท่านได้แสดงให้ข้าพเจ้าเห็นโยชูวามหาปุโรหิต ซึ่งยืนอยู่หน้าทูตสวรรค์ของพระเจ้า และซาตานยืนอยู่ข้างขวามือของท่าน จะฟ้องท่าน2 และพระเจ้าตรัสกับซาตานว่า “โอ ซาตาน พระเจ้าตรัสห้ามเจ้าเถอะ พระเจ้าผู้ทรงเลือกสรรกรุงเยรูซาเล็มทรงห้ามเจ้าเถิด นี่ไม่ใช่ดุ้นฟืนที่ฉวยออกมาจากไฟดอกหรือ”3 ฝ่ายโยชูวานั้นสวมเครื่องแต่งกายสกปรกยืนอยู่หน้าทูตสวรรค์4 และทูตสวรรค์จึงบอกผู้ที่ยืนอยู่ข้างหน้าท่านว่า “จงเปลื้องเครื่องแต่งกายที่สกปรกจากท่านเสีย” และทูตสวรรค์พูดกับท่านว่า “ดูเถิด เราได้เอาความผิดบาปออกไปเสียจากเจ้าแล้ว และเราจะประดับตัวเจ้าด้วยเสื้อผ้าอันสะอาด 5 และข้าพเจ้าว่า “จงให้เขาทั้งหลายเอาผ้าสะอาดมาโพกศีรษะของท่าน” เขาจึงโพกผ้าสะอาดและสวมเครื่องแต่งกายให้ท่านและทูตสวรรค์ของพระเจ้าก็ยืนอยู่ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนมาก เวลานั้นโยชูวามีบาป พระคัมภีร์ใช้คำสำนวนที่เป็นความนัยว่า โยชูวา สวมเครื่องแต่งกายที่สกปรก ซึ่งคือความบาป มารมันมาฟ้องแต่พระเจ้าหุบปากมัน พระเจ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าของโยชูวา คือการขจัดความบาปของโยชูวาจนหมดและใส่ความชอบธรรมของพระเจ้าเข้าไป ขอพระเจ้าช่วยเราให้มองเห็นว่า นี่คืองานของมัน และเราจะชนะมารร้ายได้โดยไม่ทำบาป 1 ยอห์น 2:1-2 1 ลูกของข้าพเจ้าเอ๋ย ข้าพเจ้าเขียนข้อความเหล่านี้ถึงท่านทั้งหลาย เพื่อท่านจะได้ไม่ทำบาป และถ้าผู้ใดทำบาป เราก็มีพระองค์ผู้ทูลขอพระบิดาเพื่อเรา คือพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเที่ยงธรรมนั้น2 และพระองค์ทรงเป็นผู้ลบล้างพระอาชญาที่ตกกับเราทั้งหลาย เพราะบาปของเรา และไม่ใช่แต่บาปของเราพวกเดียว แต่ของมนุษย์ทั้งปวงในโลกด้วย จุดประสงค์ของยอห์นที่เขียนจดหมายฉบับนี้ เพื่อเราไม่ทำบาป และเราสามารถเอาชนะมารร้ายนั้นได้ด้วย เพราะมารเต็มไปด้วยบาป และเมื่อเราไม่มีบาป เรามีความชอบธรรมของพระเจ้าสู้กับมารและมันจะอยู่ไม่ได้ ทำไมบางคนขับผีไม่ออก คนนั้นต้องถามตัวเองว่ามีบาปมั้ย เราจะชนะมารร้ายได้โดยเราไม่ทำบาป และเราไม่ทำบาปโดยรพระวจนะ แต่ถ้าผู้ใดทำบาปก็ให้เราสารภาพบาป เรามีพระเจ้าผู้ทรงช่วยเรา แต่ถ้าเราทำบาปเราก็ยังเอาชนะมารร้าย เพราะเราเชื่อในพระเยซู และพระโลหิตลบล้างพระอาชญาให้กับเรา แม้โยชูวาสกปรก แต่พระเจ้าก็แต่งตัวให้เขาใหม่ ให้เราเชื่อในสิ่งที่พระเยซูทำเพื่อเรา กาลาเทีย 3:13 13 พระคริสต์ทรงไถ่เราให้พ้นความแช่งสาปแห่งธรรมบัญญัติ โดยการที่พระองค์ทรงยอมถูกแช่งสาปเพื่อเรา (เพราะพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า ทุกคนที่ต้องถูกแขวนไว้บนต้นไม้ต้องถูกสาปแช่ง ) ขอพระเจ้าช่วยเรา ถ้าเราทำบาปให้เรากลับใจใหม่จริง ๆ แล้วมันจะฟ้องเราไม่ได้ เราสามารถเอาชนะมารร้ายนั้นได้ 1 ยอห์น 2:24 24 ฝ่ายท่านทั้งหลาย จงให้ข้อความที่ท่านได้ยินมาตั้งแต่ต้นนั้นดำรงอยู่กับท่านเถิด ถ้าข้อความที่ท่านได้ยินตั้งแต่ต้นนั้นดำรงอยู่กับท่าน ท่านก็ตั้งมั่นคงอยู่ในพระบุตรและในพระบิดาด้วย ข้อความที่ได้ยินคือพระวจนะพระเจ้า และเราต้องรื้อฟื้นพระวจนะในชีวิต 1 ยอห์น 5:4-5 4 เพราะทุกคนที่เกิดจากพระเจ้า ก็มีชัยต่อโลก และความเชื่อของเรานี่แหละเป็นชัยชนะที่ชนะโลก 5 ใครเล่าชนะโลก ไม่ใช่คนอื่น คือผู้ที่เชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้านั่นเอง ถึงแม้เราพลาดพลั้งทำบาปเป็นครั้งเป็นคราว และเรากลับใจ มารชนะเราไม่ได้ เราต้องเชื่อจริง ๆ ในผลของการไถ่บาป ั
2.มันทดลองเรา มันคอยหาโอกาสทดลองเราเพื่อล่อลวงเราไปทำบาป วิวรณ์ 12 :9 9 พญานาคใหญ่ซึ่งเป็นงูดึกดำบรรพ์ ที่เขาเรียกกันว่ามารและซาตาน ผู้ล่อลวงมนุษย์ทั้งโลกก็ถูกผลักทิ้งลงไป พญานาคและบริวารของมันถูกผลักทิ้งลงไปในแผ่นดินโลก เมื่อเราไปทำบาป เราก็จะมีจุดอ่อนเพื่อให้มันเล่นงานเราฟ้องเรา ปฐมกาล3:1-6 1 ในบรรดาสัตว์ป่าที่พระเจ้าทรงสร้างนั้น งูฉลาดกว่าหมด มันถามหญิงนั้นว่า “จริงหรือที่พระเจ้าตรัสห้ามว่า ‘อย่ากินผลจากต้นไม้ใดๆ ในสวนนี้’ ”2 หญิงนั้นจึงตอบงูว่า “ผลของต้นไม้ต่างๆ ในสวนนี้เรากินได้3 เว้นแต่ผลของต้นไม้ที่อยู่กลางสวนนั้น พระเจ้าตรัสห้ามว่า ‘อย่ากินหรือถูกต้องเลย มิฉะนั้นจะตาย’ ”4 งูจึงพูดกับหญิงนั้นว่า “เจ้าจะไม่ตายจริงดอก5 เพราะพระเจ้าทรงทราบอยู่ว่า เจ้ากินผลไม้นั้นวันใด ตาของเจ้าจะสว่างขึ้นในวันนั้น แล้วเจ้าจะเป็นเหมือนพระเจ้า คือสำนึกในความดีและความชั่ว”6 เมื่อหญิงนั้นเห็นว่า ต้นไม้นั้นน่ากิน และน่าดูด้วย ทั้งเป็นต้นไม้ที่มุ่งหมายจะให้เกิดปัญญา จึงเก็บผลไม้นั้นมากิน แล้วส่งให้สามีกินด้วย เขาก็กิน การทดลองหรือการล่อลวงนั้นมาจากมาร และมันมีการโกหกอยู่ด้วย บทสรุปการโกหกของมารคือ พระเจ้าไม่ดี และบาปดีกว่า คำว่าบาป ไม่ได้หมายถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นที่ขัดแย้งกับศีลธรรม กฎหมายเท่านั้น เพราะหลายครั้งเราจำกัดคำว่าบาปที่ ล่วงประเวณี โกหก หลอกลวง ฆ่าคน ค้ายาบ้า เสพยานั่นเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่บาปคืออะไรก็ตามที่บอกว่าพระเจ้าไม่ดี และความคิดของเรานั้นดีกว่า นั่นคือบาป เช่นวันนี้วันอาทิตย์เราต้องไปนมัสการพระเจ้า แต่มีอีกสิ่งหนึ่งเข้ามา แล้วบอกว่าอาทิตย์หน้ายังมีค่อยไปอาทิตย์หน้าดีกว่า วันนี้ไปทำอย่างอื่นก่อน หรือไปทำธุรกิจดีกว่า วันอาทิตย์เป็นวันทำเงิน นี่คือการทดลอง ที่กำลังบอกว่าพระเจ้าไม่ดี นั่นแหละคือบาป และเราก็แพ้ พระวจนะพระเจ้าไม่ได้อยู่ในเรา ไม่ได้อยู่ในวิถีการดำเนินชีวิตของเรา ทำให้เราคิดว่าพระเจ้าไม่ดี บาปดีกว่า มารทำสำเร็จในสมัยอาดัม เอวา และวันนี้มันก็ยังทำสำเร็จ ยอห์น 8:31-32 31 พระเยซูจึงตรัสกับพวกยิวที่ศรัทธาในพระองค์แล้วว่า “ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในคำของเรา ท่านก็เป็นสาวกของเราอย่างแท้จริง32 และท่านทั้งหลายจะรู้จักสัจจะ และสัจจะจะทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไท” พระเยซูพูดกับยิว กับคริสเตียน กับผู้ที่ศรัทธาในพระองค์แล้ว และไม่เพียงแต่ศรัทธา เราต้องให้พระเยซูดำรงอยู่ในคำของเรา และเราจะเป็นไทจากการถูกหลอกลวงของมารซาตาน เป็นไทจากการทดลอง มารจะเข้านำเสนอเนียนแค่ไหน เราจะเห็นอย่างชัดเจน เราจะเห็นการหลอกลวงนั้นอย่างชัดเจน เราจะเห็นว่าไม่มีอะไรจะดีไปกว่าพระเจ้า พระเจ้าดีตลอดเวลา มารก็จะไม่กล้ามาทำร้ายเรา และเราก็จะไปช่วยคนที่ถูกมารหลอกได้ ชีวิตเราก็จะเกิดผลมาก ให้เราเรียนรู้ที่จะมีชีวิตในพระคำพระเจ้า มีพระคัมภีร์อีกตอนที่พูดถึงบาปว่าถ้ารู้ว่าอะไรดีไม่ทำนั่นก็บาป ฉะนั้นอะไรที่แทนที่พระเจ้าก็บาป 2 ทิโมธี 4: 7-8 7 ข้าพเจ้าได้ต่อสู้อย่างเต็มกำลัง ข้าพเจ้าได้แข่งขันจนถึงที่สุด ข้าพเจ้าได้รักษาความเชื่อไว้แล้ว8 ต่อแต่นี้ไปมงกุฎแห่งความชอบธรรมก็จะเป็นของข้าพเจ้า ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้พิพากษาอันชอบธรรม จะทรงประทานเป็นรางวัลแก่ข้าพเจ้าในวันนั้น และมิใช่แก่ข้าพเจ้าผู้เดียวเท่านั้น แต่จะทรงประทานแก่คนทั้งปวงที่ยินดีในการเสด็จมาของพระองค์ อ.เปาโลยืนหยัดในการต่อสู้โดยพระวจนะของพระเจ้า และทิโมธีควรทำแบบนั้น การต่อสู้กับบาปกับการทดลองไม่ใช่เกิดขึ้นกับเราเพียงครั้งเดียว มันยังจะเข้ามาอีก วันนี้เราอาจสู้ได้มันสู้เราไม่ได้ แต่วันไหนที่เราอ่อนแอมันก็จะกลับมาเล่นงานเรา โอกาสที่เราอ่อนแอมีมั้ย มี และเราอ่อนแอเมื่อพระวจนะไม่ได้อยู่ในเรา เวลาเราเจอมรสุมหนัก ๆ อะไรเข้ามาในชีวิตเรา ความสงสัย ความกลัว ความเสียดาย ความวิตกกังวล แล้วพระวจนะอยู่ไหน กลับไปอยู่ในพระคัมภีร์หมดเลย แต่ถ้ามีมรสุมเข้ามาแต่พระวจนะยังอยู่ในเราเราจะสู้ได้ เหมือนโยบไม่ว่าจะเจออะไรมากแค่ไหน เขาคิดถึงความจริงในพระวจนะ ว่าเขามาตัวเปล่าก็กลับไปตัวเปล่า เขาไม่ต่อว่าพระเจ้าเลย ไม่ทำผิดกับพระเจ้าด้วยปาก และยังนมัสการพระเจ้า เพราะพระเจ้ายังอยู่ในสมองของโยบ แต่เวลามรสุมเข้ามาในชีวิตเรา พระเจ้าหายไป ลูกา 4:13 13 เมื่อมารทำการทดลองทุกอย่างสิ้นแล้ว จึงละพระองค์ไปจนถึงโอกาสเหมาะ ในข้อนี้ มารทำการทดลองทุกอย่างสิ้นแล้วต่อพระเยซู แต่มันก็ยังตามพระองค์ไป มารก็ตามเราแต่เราจะไม่ให้โอกาสเหมาะของมารเกิดขึ้นกับเราที่จะมาทดลองเอาชนะเราได้ มันจะมีโอกาสไม่ได้ถ้าให้พระคัมภีร์ฝังหัวเรา อ่านพระคัมภีร์ ดำเนินชีวิตตามพระคำ แล้วมารจะไม่มีโอกาส อะไรฝังหัวเราสิ่งนั้นนำชีวิตของเรา คนเหล่านั้นชนะมารร้ายเพราะพระวจนะในชีวิต สิ่งที่เข้ามาแทนพระคัมภีร์ได้ง่ายที่สุดคืออะไร อารมณ์ พออารมณ์ปี๊ดเมื่อไหร่พระคัมภีร์หาย 1 ยอห์น 3 :5 5 ท่านทั้งหลายรู้แล้วว่า พระองค์ได้ทรงปรากฏ เพื่อกำจัดบาปของเราให้หมดไป และพระองค์ไม่ทรงมีบาปเลย ให้พระวจนะดำรงอยู่ในเรา และเป็นวิถีการดำเนินชีวิตของเรา 1 ยอห์น 3 :8 8 ผู้ที่กระทำบาปก็มาจากมาร เพราะว่ามารได้กระทำบาปตั้งแต่เริ่มแรก พระบุตรของพระเจ้าได้เสด็จมาปรากฏก็เพราะเหตุนี้ คือเพื่อทรงทำลายกิจการของมาร การกล่าวหากล่าวโทษและการทดลองจะถูกทำลายถ้าพระวจนะดำรงอยู่ในเรา และเรามีกำลังมาก กิจการของมารไม่สามารถเข้ามา พระบุตรของพระเจ้าเสด็จเข้ามาเพื่อทำลายกิจการของมาร เมื่อเราปลอดมาร บริเวณชีวิตเราปลอดมาร พื้นที่ชีวิตเราปลอดมาร ชีวิตเราจะเกิดผลอย่างแน่นอน ขอบคุณพระเจ้าพระเยซูเสด็จมาเพื่อทำลายกิจการของมาร ทั้งการกล่าวโทษและการทดลอง ให้พระวจนะพระเจ้าดำรงในเรา มารไม่ใช่จะทำอะไรเราไม่ได้ แต่เราสามารถชนะมันได้อย่างสิ้นเชิง