“คุณค่าของชีวิต”

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับวันนี้ ทุก ๆ ปีในเดือนกุมภาพันธ์เรามีวัน NGM พันธกิจคนรุ่นใหม่ เพราะคริสตจักรเห็นความสำคัญของคนใน generation นี้ ทั้งเด็ก ๆ วัยรุ่นยุวชน อนุชนคนหนุ่มสาว  แต่ทั้งหมดของคริสตจักรไม่สามารถขาดคนรุ่นใดรุ่นหนึ่งไปได้ คริสตจักรต้องประกอบด้วยคนทุกวัย เพื่อเสริมสร้างกันและกัน เพื่อก่อกันขึ้น  การดำรงอยู่ การมาของเราแต่ละคนสำคัญมาก  ถ้าคริสตจักรนั้นไม่มีผู้หลักผู้ใหญ่ คริสตจักรนั้นขาดความมั่นคง ถ้าคริสตจักรขาดวัยรุ่นคนหนุ่มสาว คริสตจักรนั้นขาดพลัง  ถ้าคริสตจักรขาดเด็ก ๆ คริสตจักรนั้นไม่มีอนาคต   อยากให้เราหันไปบอกกันและกันว่า “ขอบคุณที่มีเธอ”  ทุกชีวิต ทุกคน ทุกวัยมีคุณค่าในแผ่นดินของพระเจ้า หัวข้อเทศนาในเช้าวันนี้คือ คุณค่าของชีวิต     เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนต้องการเป็นคนที่มีคุณค่า แล้วเราจะทำอย่างไรให้ชีวิตมีคุณค่า  เราเคยได้ยินสโลแกนนี้ งามอย่างมีคุณค่า เป็นสโลแกนของการประกวดมิสเวิล์ด และเราคงไม่ไปประกวดมิสเวิล์ด เพื่อเราจะมีคุณค่า   มีโฆษณาสินค้ายี่ห้อหนึ่ง  ลอรีอัล คุณค่าที่คุณคู่ควร ก็คงไม่ใช่เพราะเราใช้ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนี้เราจึงมีคุณค่า    แล้วถ้ามีคำถามว่า คุณมีค่าเท่าไหร่ มีคุณค่าเท่าไหร่   เราจะตอบว่าตัวเรามีค่ามีคุณค่าเท่าไหร่ดี ….คำตอบก็คงมีต่าง ๆ กัน  หรืออาจตอบไม่ได้ว่าเท่าไหร่  เพราะมาตรฐานการให้คุณค่าเราแต่ละคนก็แตกต่างกันไป ค่านิยมในสังคม ค่านิยมของโลกนี้ ความคิดของผู้คนก็มีการกำหนดคุณค่าที่ไม่เหมือนกัน   แล้วอะไรคือคุณค่า อะไรคือความหมาย อะไรคือมาตรฐานจริง ๆ โลกนี้ไม่มีคำตอบ แต่พระเจ้าทรงมีคำตอบในเรื่องนี้อย่างชัดเจน คุณค่าของชีวิตประการที่ 1

1.พระเจ้าผู้กำหนดคุณค่า

เมื่อนักประดิษฐ์ทั้งหลาย ประดิษฐ์สิ่งของอะไรขึ้นมาก็ตาม นาฬิกา ยานพาหนะ คอมพิวเตอร์ มือถือ ปากกา ผู้สร้างก็ต้องมีวัตถุประสงค์ว่าสิ่งนั้นจะไว้ใช้เพื่อประโยชน์อะไร เมื่อสร้างมาแล้วจะมีคุณค่า และก่อให้เกิดคุณค่าอย่างไร พระเจ้าเป็นพระเจ้าผู้ทรงสร้างชีวิตของเรา และเป็นผู้ที่กำหนดคุณค่าให้กับชีวิตของเรา สดุดี 139:13-16 13เพราะพระองค์ทรงปั้นส่วนภายในของข้าพระองค์  พระองค์ทรงทอข้าพระองค์เข้าด้วยกัน   ในครรภ์มารดาของข้าพระองค์  14ข้าพระองค์โมทนาพระคุณ พระองค์เพราะพระองค์ทรงกระทำ ให้ข้าพระองค์แปลกประหลาด       อย่างน่ากลัว    พระราชกิจของพระองค์อัศจรรย์    พระองค์ทรงทราบข้าพระองค์ดี 15เมื่อข้าพระองค์ถูกสร้างอยู่ในที่ลับลี้    ประดิษฐ์ขึ้นมา  ณ  ภายในที่ลึกแห่งโลก โครงร่างของข้าพระองค์ไม่ปิดบังไว้จากพระองค์  16พระเนตรของพระองค์ทรงเห็นส่วนประกอบของข้าพระองค์ วันทั้งหลายทุกๆวันที่กำหนดให้ข้าพระองค์นั้น    ก็ทรงจารึกไว้ในพระตำรับของพระองค์ เมื่อครั้งยังไม่เกิดวันนั้นเลย  พระเจ้าเป็นพระเจ้าที่สร้างชีวิตมนุษย์  มีส่วนในพัฒนาการของชีวิตในทุกลำดับขั้นตอนของเรา ทรงเอาใจใส่ดูแลชีวิตตั้งแต่เริ่มปฎิสนธิในท้องแม่ เอาใจใส่จนกระทั่งเกิดมา ชีวิตของเรานั้นอยู่ในมืออยู่ในพระหัตถ์ที่ยิ่งใหญ่มาก และคุณค่าในชีวิตของเรานั้นก็กำเนิดมาจากพระเจ้า วินาทีแรกที่เราปฎิสนธิอยู่ในท้องแม่  พระเจ้าก็ได้วางคุณค่าลงบนชีวิตของเราเรียบร้อยแล้ว  เวลาที่เราสนใจอะไร ให้ความสำคัญกับอะไร เราจะสนใจ ใส่ใจต่อสิ่งนั้นเป็นพิเศษ เพราะสิ่งนั้นมีค่าสำหรับเรา   และเมื่อเราคิดใคร่ครวญจริง ๆ ว่าพระเจ้าทรงสร้างเราแต่ละคน ทรงดูแลเรา ในทุกพัฒนาการ  สนใจ ใส่ใจในทุกขั้น ทุกก้าวของชีวิต ทุกลมหายใจ ทุกจังหวะของชีพจรที่เต้นอยู่ของเรา  นี่ก็เป็นสิ่งยืนยันที่ทำให้เรารู้ว่าเรามีคุณค่ามากเพียงใด  พระธรรมสดุดีที่ดาวิดบันทึกไว้ในบทที่ 139 นี้  บอกเราว่าดาวิดสนใจผู้ที่สร้างเขา  และดาวิดก็กล่าวว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างผู้ทำให้เกิดพัฒนาการในร่างกายแม้ในขณะที่เขาอยู่ในท้องแม่ พระเจ้าเอาใจใส่ต่อการสร้างชีวิตอย่างดียอดเยี่ยม รวมทั้งเอาใจใส่ต่อการพัฒนาฝ่ายจิตวิญญาณของดาวิด   และเมื่อพระเจ้าสร้างเรา พระเจ้าก็สร้างเราด้วยความเอาใจใส่อย่างดียอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน  ในสายตาของพระเจ้าเราถูกสร้างอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แต่เราก็อาจมีคำถามว่าแล้วทำไมบางคนถึงเกิดมาแล้วถึงมีความบกพร่องทางร่างกายล่ะ  สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพระเจ้า ก็คือจิตวิญญาณของมนุษย์ ซึ่งเป็นส่วนที่จะเป็นนิรันดร์  สิ่งที่จะอยู่กับเราตลอดไป แต่ร่างกายวันหนึ่งอย่างไรก็ต้องเสื่อมสูญไป แต่จิตวิญญาณของเราจะ    ยังคงดำรงอยู่ต่อไป และวันหนึ่งที่เราจะได้รับกายที่สมบูรณ์จากพระเจ้าอย่างแท้จริง  ดาวิดตระหนักถึงความเอาใจใส่ของพระเจ้าในชีวิตของเขา เป็นการตระหนักถึงคุณค่า ให้คุณค่าต่อชีวิตตัวเองตามสายตาของพระเจ้า ไม่ใช่ตามค่านิยมหรือตามกระแสของโลกนี้  โลกนี้อาจบอกว่าจะมีคุณค่าได้ต้อง   มีของแบรนเนม มียี่ห้อ แพง ต้องสวย ต้องหล่อ ต้องขาว ต้องผอม ต้องมีเงิน  ต้องอะไรอีกเยอะแยะ  แล้วเราจะ ต้องวิ่งตามความคิดเหล่านี้เพื่อจะมีคุณค่าอย่างนั้นหรือ ไม่ใช่ เรามีคุณค่าอยู่แล้วในตัวของเราที่พระเจ้าเป็นผู้กำหนดไว้  สดุดี 139:17-18 17ข้าแต่พระเจ้า  พระดำริของ พระองค์ประเสริฐแก่ข้าพระองค์จริงๆ รวมกันเข้าก็ไพศาลนักหนา18ถ้าข้าพระองค์จะนับก็มากกว่าเม็ดทราย  เมื่อข้าพระองค์ตื่นขึ้น  ข้าพระองค์ก็จะยังอยู่กับพระองค์  คำว่า พระดำริ หมายถึง ความคิด  คือความคิดของพระเจ้าที่คิดเกี่ยวกับดาวิด เป็นความคิดที่ดี ความคิดที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของดาวิด   และพระเจ้าก็มีความคิดที่ดี ประเสริฐ ยิ่งใหญ่ที่เกี่ยวกับชีวิตเราด้วย พระเจ้าคิดถึงเราเสมอด้วยเช่นเดียวกัน  พระเจ้าคิดถึงเราตลอดเวลา แม้ในเวลาที่เราหลับ ถ้าจะนับความคิดถึงของพระเจ้าที่มีต่อเราก็มากกว่าเม็ดทราย ซึ่งไม่มีใครนับจำนวนของเม็ดทรายได้  แล้วทำไมพระเจ้าจะต้องใช้เวลามากมายที่มาคิดถึงเราด้วย นั่นเพราะว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างเรา และเราสำคัญสำหรับพระองค์จริง ๆ  พระองค์ห่วงใยเราต้องการให้เราปลอดภัย เราเป็นผู้ที่มีคุณค่า

คนที่มีลูกคงเข้าใจความรู้สึกนี้ดี ในความห่วงใย ในความคิดถึงของพ่อแม่ที่มีต่อลูก เช่นกันที่พระเจ้าทรงห่วงใยเรา พระเจ้ายังคงเฝ้ามองดูเรา แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีปัญหา อุปสรรค อันตรายเกิดขึ้นกับเรา แต่ขอให้รู้ว่าถ้ามีปัญหามีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น พระเจ้าอยู่ที่นั่นเสมอกับเรา และจะพาเราก้าวข้ามผ่านสิ่งเหล่านั้นไปได้  เราสามารถอุ่นใจได้ เมื่อรู้ว่าพระเจ้าทรงรู้ถึงความจำเป็น ปัญหา ความทุกข์ยากของเราตลอดเวลา และพระเจ้าทรงมีแผนการเพื่อจะช่วย เอาใจใส่ ให้อภัย ให้ความรอด และชำระเราให้บริสุทธิ์  ความคิดพระดำริของพระเจ้าสำหรับเรานั้น ไม่สามารถหยั่งวัดได้ 1 โครินธ์ 2:9  9ดังที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า  สิ่งที่ตาไม่เห็นหูไม่ได้ยิน    และสิ่งที่มนุษย์คิดไม่ถึง คือสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับคนที่รักพระองค์  เรามาลองดูในพระคัมภีร์ใหม่บ้างว่าพระเจ้ายังคงให้คุณค่ากับเราเหมือนในสดุดีพระคัมภีร์เดิมหรือไม่  อ่านด้วยกัน   ลูกา 12:6-7   6นกกระจาบห้าตัวเขาขายสองบาทมิใช่หรือ   และนกนั้นแม้สักตัวเดียวพระเจ้ามิได้ทรงลืมเลย 7ถึงผมของท่านทั้งหลายก็ทรงนับไว้แล้วทุกเส้น   อย่ากลัวเลยท่านทั้งหลายก็ประเสริฐกว่านกกระจาบหลายตัว  พระคัมภีร์ตอนนี้ พระเยซูคริสต์กำลังสอนสาวกถึงเรื่องของคุณค่าของชีวิต  ว่าพระเจ้าทรงให้คุณค่าต่อสาวกมากเพียงใด    พระเยซูคริสต์ทรงเริ่มต้นสอนสาวกของพระองค์เกี่ยวกับคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ในพระเจ้า โดยกาด้วยการเลือกเอานกกระจาบขึ้นมาเป็นบทเรียน  พระเยซูคริสต์ทรงมีเหตุผลที่เลือกนกกระจาบเพราะเป็นอะไรที่ดูไม่มีค่า ดูธรรมดา  พระคัมภีร์ตอนนี้บอกว่า ขายนกกระจาบ 5 ตัว 2 บาท ซึ่งในสมัยนั้นมีค่า 1 ส่วน 16 เดนาริอัน (1 เดนาริอันมีค่าเท่ากับค่าแรงวันหนึ่งในสมัยนั้น)   และนกกระจาบยิ่งดูไม่มีค่าไปอีกเพราะ ขายแบบถูกมาก 5 ตัว 2 บาท คนซื้อไม่ต้องมาเสียเวลาต่อรองราคาอะไรเลย  ที่บอกว่าถูกมากเพราะมันมีที่มาของ 5 ตัวนี้  เราลองดู ในมัทธิว 10:29 29นกกระจาบสองตัวเขาขายบาทหนึ่งมิใช่หรือ   แต่ถ้าพระบิดาของท่านไม่ทรงเห็นชอบ   นกนั้นแม้สักตัวเดียวจะตกลงถึงดินก็ไม่ได้  แล้วตกลงขาย 5 ตัวบาท หรือ 2 ตัวบาทกันแน่  มัทธิวบันทึกบอกว่าจริง ๆ นกเค้าขายกัน 2 ตัวหนึ่งบาท ถ้าต้องการซื้อนก 4 ตัวต้องเป็นราคา 2 บาท ฉะนั้นในลูกาที่บอกว่าขาย 5 ตัว 1 บาท มันเป็นราคาที่ลดแลกแจกแถม เป็นราคาที่ผู้ซื้อฟังแล้วหูผึ่ง เมื่อเราไปห้าง แล้วมีการลด แลก แจก แถม  สิ่งที่แถมมาเราจะรู้สึกได้มาฟรี ๆ ไม่มีราคาอะไรสำหรับเรา บางทีไปเจอโปรโมชั่นที่บอกว่า ซื้อ 1 แถม 1 ด้วย เหมือนได้มาฟรี ๆ ในพระธรรมลูกาพระเยซูกำลังบอกว่านกกระจาบซื้อ 4 แถม 1 เป็นภาพที่พระเยซูกำลังบอกถึงคุณค่าของชีวิต ว่าแม้นกตัวเดียวพระเจ้าจะไม่ลืมเลย รวมทั้งเจ้านกตัวที่แถมฟรีซื้อ 4 แถม 1 เจ้าตัวที่แถมไม่ต้องเอาเงินซื้อใช่มั้ย ถูกแถมมาไม่มีราคาสำหรับมนุษย์ แต่พระเจ้าให้คุณค่า พระเจ้าไม่ลืม พระเจ้าไม่มองข้าม ไม่หลงลืม ไม่เมินเฉย พระเจ้าใส่ใจ สนใจแม้แต่กับนกตัวที่ถูกแถมมาว่ามันสำคัญ มันยังสำคัญสำหรับพระเจ้า แล้วเราล่ะ ยิ่งสำคัญ ยิ่งมีคุณค่ามากอย่างที่สุด เยเรมีย์ 31:3  3พระเจ้าทรงปรากฏแก่เขาจากที่ไกล  ตรัสว่า     ‘เราได้รักเจ้าด้วยความรักนิรันดร์ เพราะฉะนั้นเราจึงมีความรักมั่นคงต่อเจ้าสืบไป  คุณค่าที่พระเจ้าวางไว้บนบางสิ่งบางอย่างนั้น คนอื่นอาจเห็นว่าไม่มีค่า แต่พระเจ้าให้ความสำคัญ ให้น้ำหนัก ให้คุณค่า  ฉนั้นคุณค่าจึงขึ้นกับว่าใครเป็นเจ้าของ ใครเป็นผู้ที่กำหนดคุณค่านั้น  ถ้าเราเป็นของพระเยซูคริสต์ เราก็มีคุณค่า ถ้าเราอยู่ในพระเยซูเชื่อพระเยซู พระเยซูก็เป็นผู้กำหนดคุณค่าให้กับเรา   และคุณค่าจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับว่าผู้นั้นจ่ายไปเท่าไหร่ และพระเยซูคริสต์ทรงจ่ายราคาด้วยชีวิตของพระองค์เอง ที่จะซื้อเรา ไถ่เราเพื่อให้เรามีชีวิตนิรันดร์  ฉนั้นเราจึงมีคุณค่าสูงสุดโดยพระเยซู    พระเยซูยังให้คุณค่ากับรายละเอียดในชีวิตของเรา  เมื่อเราอ่านพระคำตอนนี้  และได้รู้ว่าพระเจ้าให้คุณค่าสิ่งที่ดูไม่สำคัญอย่างนกตัวที่ 5  ทำให้เราเข้าใจในคุณค่าที่พระเยซูมีต่อชีวิตเรา สิ่งนี้เป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของเราอย่างมากว่าพระเจ้าทรงให้คุณค่าต่อเราที่เป็นสาวกของพระองค์มากเพียงไร พระเยซูทรงสนใจในทุก ๆ รายละเอียดของเรา   พระเยซูยังบอกเราด้วยว่าที่พระองค์บอกว่าสนใจเรานั้น สนใจขนาดไหน ในข้อที่ 7 บอกว่า  7ถึงผมของท่านทั้งหลายก็ทรงนับไว้แล้วทุกเส้น   อย่ากลัวเลยท่านทั้งหลายก็ประเสริฐกว่านกกระจาบหลายตัว  โดยเฉลี่ยแล้ว คนเรามีเส้นผมมากกว่า  140,000 เส้น บนศรีษะ  สิ่งนี้กำลังบอกถึงความใส่ใจในรายละเอียดของพระเจ้าที่มีต่อเราเป็นการส่วนตัว แต่ละคนพระเจ้ารู้จักหมด เข้าใจในอารมณ์ความรู้สึกของเราดีกว่าใคร ๆ นั่นเพราะพระเจ้าสนใจ ใส่ใจ ให้ความสำคัญกับเราแต่ละคน  มันยากที่จะหาใครที่สนใจ ใส่ใจเราถึงขนาดมานับเส้นผมของเราได้จริง ๆ มนุษย์ไม่ทำแต่พระเจ้าทำ ที่จะให้คุณค่าอย่างสูงต่อเราทุกคน  พระเจ้าสนใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตของเรา   สดุดี 100:3  3จงรู้เถิดว่า  พระเยโฮวาห์ทรงเป็นพระเจ้า คือพระองค์เองที่ทรงสร้างเราทั้งหลาย   และเราก็เป็นของพระองค์  เราเป็นประชากรของพระองค์   เป็นแกะแห่งทุ่งหญ้าของพระองค์   เศฟันยาห์ 3:17 17พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าอยู่ท่ามกลางเจ้า   เป็นนักรบผู้ประทานความมีชัย  พระองค์ทรงเปรมปรีดิ์เพราะเจ้าด้วยความยินดี  พระองค์จะทรงรื้อฟื้นเจ้าใหม่ด้วยความรักของพระองค์ พระองค์จะทรงเริงโลดเพราะเจ้าด้วยร้องเพลงเสียงดัง  นี่คือความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรา  พระเจ้าอยู่ล้อมรอบเราด้วยการทรงสถิตของพระองค์ ไม่มีที่ไหนที่เราจะไปแล้วพระเจ้าไม่รู้ ไม่มีคำพูดใดที่เราพูดแล้วพระเจ้าจะไม่ได้ยิน สิ่งที่เรากระทำในชีวิตแม้ว่าเล็กที่สุดพระเจ้าก็มองเห็น พระเจ้าทรงสนใจแม้ส่วนที่เล็กที่สุด  ชีวิตเรามีคุณค่า และพระเจ้าจะทำทุกวิถีทางเพื่อเราจะมีชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่า เราจะมาดูวิดีโอคลิปสั้น ๆ เรื่องหนึ่ง เป็นความพยายามของหมอ พยาบาลที่จะทำให้เด็กทารกแรกเกิดมีชีวิต  ในที่สุดเด็กคนนี้ก็มีชีวิต เพราะเด็กคนนี้มีคุณค่า หมอ พยาบาลจึงทำทุกอย่างเพื่อให้ทารกนี้มีชีวิตอยู่ต่อไป พระเจ้าก็จะทำทุกอย่าง ทำทุกวิถีทางเพื่อเราจะมีชีวิตอยู่ต่อไป

หลายคนรู้จักหลานข้าพเจ้า น้องโอห์ม เค้าเกิดก่อนกำหนดตอน 7 เดือน ตอนที่เกิดมา น้ำหนัก 7 ขีด ไม่ถึงโล เหมือนปลาช่อน และต้องอยู่ในตู้อบนานถึง 2 เดือน ข้าพเจ้าเฝ้าภาวนาอธิษฐานยืนร้องไห้อยู่ข้างตู้กระจกทุกครั้งที่ไปเยี่ยม  ตอนนี้น้องโอห์มอายุ 6 ขวบ เค้ารู้เรื่องราวในชีวิตเค้าตอนเกิด และน้องโอห์มมักพูดกับพ่อแม่เค้าเสมอว่า อยากเจอหมอที่ทำคลอดให้เค้า  เดือนที่ผ่านมา คุณแม่น้องโอห์มมีนัดตรวจกับหมอที่ทำคลอด แม่โอห์มเลยเล่าให้คุณหมอฟัง ว่าตอนนั้นลูกเกิดมาเป็นยังไง แต่วันนี้เค้า 6 ขวบแล้วค่ะหมอ  คุณหมอได้ฟังแล้ว นิ่งไปสักพัก แล้วเปิดแฟ้มดูประวัติ แล้วคุณหมอถามว่าวันนี้น้องโอห์ม มาด้วยใช่มั้ย หมออยากเจอ แล้วโอห์มก็ได้เจอกับหมอที่ทำคลอดให้สมใจ คุณหมอขอถ่ายรูปด้วย ให้น้องโอห์มนั่งโต๊ะทำงานของหมอ และบอกว่าชีวิตของน้องโอห์มมีค่ามาก  วันนี้ไม่ว่าเราจะรู้สึกอย่างไรกับชีวิตตัวเอง ขอให้รู้ว่าพระเจ้าจะไม่มีวันปล่อยมือของพระองค์จากชีวิตเรา เพราะว่าเรามีคุณค่า พระเยซูกำลังยืนยันกับเราว่า อย่ากลัวเลย ท่านทั้งหลายประเสริฐกว่านกกระจาบหลายตัว   เราประเสริฐ เรามีคุณค่าเหนือกว่าสิ่งใด ๆ ทั้งหมด เรามีคุณค่าสูงสุดต่อพระเจ้า  เราอยู่ในหัวใจพระเจ้าเสมอ คุณค่าที่พระเจ้าทรงวางไว้บนชีวิตเรานั้น ควรจะนำเราไปสู่การดำเนินชีวิตที่มีคุณค่า

2. ดำเนินชีวิตอย่างรู้คุณค่า

เมื่อเรารู้ว่าในพระเจ้าเรามีคุณค่า  ในพระเจ้าเราเป็นที่รัก ในพระเจ้าเรามีความสำคัญ แล้วเราจะดำเนินชีวิตอย่างไรให้สมกับคุณค่าที่เรามีเราเป็น เมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา NGM ก็รวมตัวกันไปลองเตะบอลที่สนามพระราม 2 ทุกคนเตรียมรองเท้าที่จะไปเตะ แต่วันนั้นน้องพีไม่ได้เตรียมไป เล่นบอลเท้าเปล่าเลย ลุยเต็มที่ ใจสู้ แต่การไม่มีรองเท้า ทำให้ลื่นมาก เมื่อกลับบ้านน้องพีบอกแม่เลยว่า แม่ต้องซื้อรองเท้าให้น้องนะ ชีวิตน้องพีมีค่านะแม่ ถ้าลื่นล้มเป็นอะไรไปละก็เจ็บตัวได้นะแม่ น้องพีรู้ว่าชีวิตตัวเองมีคุณค่า และเราทุกคนก็รู้แล้วว่าเรามีคุณค่า เราจะต้องดูแลชีวิตตัวเอง มีความระมัดระวังในการดำเนินชีวิต และสิ่งที่จะช่วยให้ชีวิตของเราปลอดภัยจากอันตราย จากการเจ็บตัว คือ หัวใจที่เชื่อฟัง การเชื่อฟังนำเราสู่ความปลอดภัยเสมอ  เมื่อโมเสสสิ้นชีวิตลง พระเจ้าทรงแต่งตั้งโยชูวาขึ้นมาเป็นผู้นำแทน เพื่อเข้าไปครอบครองดินแดนพันธสัญญา และจะทำสิ่งนี้ได้สำเร็จไม่ใช่โดยกำลังกองทัพ กองทหาร อาวุธอะไร แต่ความสำเร็จเกิดได้โดยหัวใจที่เชื่อฟังของชาวอิสราเอล   พระเจ้าตรัสผ่านโยชูวาถึงอิสราเอลว่า โยชูวา 1 : 7-9  7เพียงแต่จงเข้มแข็งและกล้าหาญยิ่งเถิด   ระวังที่จะกระทำตามธรรมบัญญัติทั้งหมด   ซึ่งโมเสสผู้รับใช้ของเราได้บัญชาเจ้าไว้นั้น   อย่าหลีกเลี่ยงจากธรรมบัญญัตินั้นไปทางขวามือหรือทางซ้าย   เพื่อว่าเจ้าจะไปในถิ่นฐานใดเจ้าจะได้รับความสำเร็จ อย่างดี 8อย่าให้หนังสือธรรมบัญญัตินี้ห่างเหินไปจากปากของเจ้า   แต่เจ้าจงตรึกตรองตามนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน   เพื่อเจ้าจะได้ระวังที่จะกระทำตามข้อความที่เขียนไว้นั้น ทุกประการ   แล้วเจ้าจะมีความจำเริญ  และเจ้าจะสำเร็จผลเป็นอย่างดี 9เราสั่งเจ้าไว้แล้วมิใช่หรือว่าจงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด   อย่าตกใจหรือคร้ามกลัวเลย   เพราะว่าเจ้าไปในถิ่นฐานใด   พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทรงสถิตกับเจ้า”  การระวังที่จะกระทำตาม การไม่หลีกเลี่ยง จากพระบัญญัติจากพระคำของพระเจ้า จะทำให้ชีวิตพบกับความสำเร็จ พบความเจริญ  พบความปลอดภัย และมีพระเจ้าอยู่ด้วย แต่ถ้าเราไม่มีหัวใจของการเชื่อฟัง ลองดูสิ่งต่อไปนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น  การเชื่อฟังให้ผลดี  และการไม่เชื่อฟังก็ส่งผลร้ายเสมอ ครั้งนี้ลูกหมีตัวนี้อาจรอดได้ แต่ก็บาดเจ็บไม่ใช่น้อย แต่ถ้าลูกหมีคิดจะดื้ออีก ไม่เชื่อฟังอีก ครั้งหน้าอาจไม่มีชีวิตรอดอีกแล้ว เด็ก ๆ วัยรุ่น เรายังอยู่ในวัยที่ยังต้องเชื่อฟังพ่อแม่ เชื่อฟังครู เชื่อฟังครูอาจารย์ที่โบสถ์  ถ้าเราดื้อไม่เชื่อฟัง เรากำลังหาเรื่องใส่ตัว ยิ่งไปกว่านั้นเราต้องเชื่อฟังพระเจ้า เชื่อฟังพระคำ รวมทั้งเราทุกคนทุกวัยที่นี่ด้วย ต้องมีหัวใจเชื่อฟัง จึงจะเป็นการดำเนินชีวิตอย่างรู้คุณค่า บางคนบอกไม่อยากจะใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า มันไม่สนุก แต่อยากจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่า เกิดมาทั้งทีขอใช้ชีวิตให้คุ้ม ลองทุกอย่าง ทำทุกอย่างที่เค้าห้าม อะไรที่บอกอย่าจะทำ บอกไม่ได้จะเอา บอกอันตรายจะไป แล้วในที่สุดคุณค่าในชีวิตไม่มีเหลือ ไม่มีราคา ลดคุณค่าทำลายคุณค่าของตัวเอง ทั้งเรื่องเพศ สิ่งเสพติด การพนัน สิ่งไม่ดีอะไรทำหมด  เมื่อวานวันวาเลนไทน์  เราไม่รู้มีวัยรุ่น มีหนุ่มสาวหญิงชายมากมายแค่ไหนในสังคมของเราที่ใช้ชีวิตแบบคุ้มค่าแต่ไม่มีคุณค่า และทำลายคุณค่าของตัวเอง (หยิบดอกกุหลาบขึ้นมา)  ดอกกุหลาบมันสวยงามมีกลิ่นหอมมีคุณค่าในตัวของมัน  ถ้าเปรียบกุหลาบเป็นชีวิตของเรา แต่ว่าเราไม่รักษาคุณค่า เราใช้ชีวิตแบบสิ้นเปลือง เปลืองตัวเปลืองใจไปเรื่อย ๆ (เด็ดกลีบกุหลาบ) ข้าพเจ้าจะส่งดอกกุหลาบไป กุหลาบอยู่ที่ใคร ก็เด็ดออกไปกลีบหนึ่ง แล้วส่งต่อให้คนข้าง ๆ   การเด็ดกลีบเปรียบเหมือนการใช้ชีวิตอย่างไม่รู้คุณค่า ไม่รักษาคุณค่า รวมทั้งการไม่ให้คุณค่ากับพระเจ้า แต่ให้สิ่งอื่นมาแทนที่ ……แล้วในที่สุด ดอกกุหลาบก็ไม่เหลือคุณค่าความงามอะไรอีก  และเราไม่สามารถที่จะนำกลีบที่เด็ดทิ้งกลับมาประกอบให้เหมือนเดิม มันไม่มีวันเหมือนเดิม อย่าเพียงแค่อยากใช้ชีวิตให้คุ้มค่า  เพราะผลที่ตามมามันไม่คุ้มเลย 1 โครินธ์ 6:19-20 19ท่านไม่รู้หรือว่า   ร่างกายของท่านเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งสถิตอยู่ในท่าน   ซึ่งท่านได้รับจากพระเจ้า   ท่านไม่ใช่เจ้าของตัวท่านเอง 20พระเจ้าได้ทรงซื้อท่านไว้แล้ว   ด้วยราคาสูง   เหตุฉะนั้น   ท่านจงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยร่างกายของท่านเถิด 1 เปโตร 1:18-19 18ท่านรู้ว่าพระองค์ได้ทรงไถ่ท่านทั้งหลายออกจากการประพฤติอันหาสาระมิได้   ซึ่งท่านได้รับต่อจากบรรพบุรุษของท่าน   มิใช่ไถ่ไว้ด้วยสิ่งที่เสื่อมสลายได้   เช่นเงินและทอง 19แต่ทรงไถ่ด้วยพระโลหิตประเสริฐของพระคริสต์   ดังเลือดลูกแกะที่ปราศจากตำหนิหรือจุดด่าง  พระเจ้าต้องการให้เราปราศจากที่ติ และเราจะเป็นเช่นนั้นได้ก็ต่อเมื่อเราดำเนินชีวิตในพระเจ้าอย่างรู้คุณค่า  เมื่อเรามีคุณค่าที่พระเจ้าให้แล้ว  จงรักษาไว้ให้ดีที่สุดด้วยหัวใจเชื่อฟัง แต่เพียงการเชื่อฟังยังไม่เพียงพอ การเชื่อฟังยังต้องบวกกับการประพฤติที่สอดคล้อง  ยากอบ 2:14-17    14ดูก่อนพี่น้องของข้าพเจ้า   แม้ผู้ใดจะว่าตนมีความเชื่อ   แต่ไม่ประพฤติตามจะได้ประโยชน์อะไร   ความเชื่อของเขาจะช่วยเขาให้รอดได้หรือ 15ถ้าพี่น้องชายหญิงคนใดขัดสนเครื่องนุ่งห่มและอาหารประจำวัน 16และมีคนใดในพวกท่านกล่าวแก่เขาว่า   “เชิญไปเป็นสุขเถิด   ขอให้อบอุ่นและอิ่มเถิด”   และไม่ได้ให้สิ่งที่เขาขัดสนนั้น   จะเป็นประโยชน์อะไร 17ความเชื่อก็เช่นเดียวกัน   ถ้าไม่ประพฤติตามก็ไร้ผล  คุณค่าที่พระเจ้าให้ไว้ในเรา มันไม่ได้จบอยู่ที่ตัวเรา แต่พระเจ้าจะทรงขับเคลื่อนคุณค่าที่มีอยู่ในเราส่งต่อไปให้คนอื่น ในฐานะที่เป็นศิษยาภิบาลคนรุ่นใหม่ ข้าพเจ้าเชื่อว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์กำลังกระทำกิจของพระองค์ท่ามกลาง NGM ทั้งคริสตจักรเด็ก ยุวชน อนุชน พระเจ้ากำลังขับเคลื่อนคุณค่าในคนเหล่านี้ที่จะทำในสิ่งที่มีคุณค่า และเป็นคุณค่าในแบบแผ่นดินสวรรค์  เวลานี้คริสตจักรเด็กมีการเคลื่อนไหวของพระเจ้า กำลังมีการเพิ่มพูนของเด็ก ๆ ที่อาจยังไม่พรวดพราดเวลานี้ แต่กำลังเป็นไปอย่างมั่นคง น้องป่านนำเด็ก ๆ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องในคอนโดมาคริสตจักร ซึ่งจะต้องขอบคุณผู้ปกครองด้วยถ้าไม่ให้การสนับสนุนมันก็เกิดขึ้นไม่ได้  น้องพีม น้องนน ที่เป็นต้นเสียงตรงนี้ อยู่ในชุมชนใกล้โบสถ์ที่มาโบสถ์สม่ำเสมอตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้เราเจอน้องนนตอนเทศกาลคริสต์มาสเท่านั้น อยู่ดี ๆ ก็มีจุดเปลี่ยนที่น้องนนเป็นสมาชิกประจำ ขาดโบสถ์น้อยมาก แล้วก็พาน้องพีม พาน้องภูมิมาด้วย  และเด็ก ๆ จากชุมชนโกบอลท์ที่มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีลุงแก้วคอยรับส่งเด็ก ๆ ให้ มีพี่ตาด้วยที่ช่วยนะ นี่คือคุณค่า   อยากจะบอกอีกอย่างคริสตจักรเด็กที่นี่พิเศษมาก โดยปกติในคริสตจักรที่เคยเห็นมาถ้ามีเด็กชุมชนเข้าโบสถ์ มักจะเข้ากันไม่ได้กับเด็กโบสถ์ แต่คริสตจักรเด็กที่นี่ไม่เป็นแบบนั้นแลย ทุกคนเล่นด้วยกัน กินด้วยกัน  ส่วนน้องภูมิ ข้าพเจ้าภูมิใจนำเสนอ เหตุการณ์เกิดเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา สอนพระธรรมนางรูธ ถึงตอนที่นางรูธแต่งงานกับโบอาส เราก็มีการฉลองงานแต่งงานนางรูธ มีปาร์ตี้กินขนม กินช๊อคโกแลตปั่น กินเสร็จข้าพเจ้าก็เช็ดพื้นที่เลอะเทอะอยู่  ภูมิเดินเข้ามา ขอผ้าขี้ริ้วจะทำความสะอาดบ้าง บอกว่าอยากจะทำความสะอาดห้องเรียนของเรา ข้าพเจ้าก็ไปหาผ้ามาส่งให้ ภูมิบอก “ขอบใจนะจ๊ะ”  พอถึงเวลาเที่ยงใคร ๆ เค้าลงไปกินข้าวกันหมด ภูมิยังเช็ดอยู่ ลงไปกินเป็นคนสุดท้าย พอกินข้าวเสร็จเดินมาบอกอีก ครูหนึ่งน้องภูมิอยากจะเช็ดกระจกโบสถ์ ไงล่ะ คุณค่าเลอเลิศมาก  คือเด็กวัยนี้ถ้าเค้าทำอะไรได้ แล้วเราส่งเสริมเค้าจะรู้สึกมีคุณค่ามาก แล้วไม่พอมันส่งผลออกมาเป็นการกระทำ  ยังมีอีก อิ๊กคิว อาทิตย์ที่แล้วเหมือนกัน ช่วงนมัสการ เพลงแรกเราร้อง พระเจ้ารักเธอและฉัน ร้องได้ร้องเสียงดังเลย เพลงที่ 2 ทางที่เข้าไปในสวรรค์นั้นมีทางพระเยซูเท่านั้น ร้องได้ร้องเสียงดังอีก จนพี่ทาอุนำนมัสการประทับใจบอกครูหนึ่งให้เหรียญรางวัลเลย แล้วนมัสการต่อเพลงที่ 3 พระเจ้าจัดเตรียมหนทาง คราวนี้ร้องไม่ได้ แต่ความที่ได้รับรางวัลไปแล้วไง เลยต้องทำหน้าที่ต่อ พยามยามจะร้องให้เสียงดังอ่านเนื้อเพลงไม่ทัน ครูหนึ่งเลยไปยืนบอกบทเนื้อเพลงข้าง ๆ นำให้ ให้เค้าร้องได้ โอยเท่านั้นสู้ขาดใจ นี่คือคุณค่าในชีวิตของเขา  เด็ก ๆ ทุกคนมีคุณค่าในพระเจ้าที่จะทำสิ่งที่ดี ๆ ตามน้ำพระทัยพระเจ้า ทั้ง……(ชื่อเด็กแต่ละคน)  ทุกคนมีศักยภาพ ความสามารถ มีคุณค่า รักษาสิ่งที่ดีนี้ไว้ และทำต่อไป   รวมทั้งวัยรุ่นยุวชน อนุชนทุกคน เราเป็นวัยที่มีพลัง มีความสร้างสรรค์ เราต้องใช้มันอย่างมีคุณค่า 2 อาทิตย์ก่อน ข้าพเจ้ากับเอลียาห์  เราไปทำเซลล์ที่นครปฐม น้องป๊อปเล่าเรื่องเพื่อนที่โรงเรียนให้ฟัง บอกว่าเพื่อนชื่อฐา พ่อแม่แยกทาง ต้องทำงานหาเงินเรียนหนังสือเองขายน้ำที่หน้าบิ๊กซี เลิกงาน 4 ทุ่มกว่าจะถึงบ้าน ตื่นมาตี 5 เพื่อนั่งทำการบ้าน น้องป๊อปบอกอธิษฐานเผื่อเพื่อนหนูด้วย  ใจหนึ่งข้าพเจ้าและเอลียาห์มีภาระใจกับเด็กคนนั้น พุธที่จะถึงนี้เราจะไปเยี่ยมเขา และดูว่าจะช่วยอะไรเค้าได้ต่อไป  อีกใจหนึ่งข้าพเจ้าขอบคุณพระเจ้าที่น้องป๊อปคิดถึงคนอื่น ไม่คิดเรื่องตัวเองให้อธิษฐานเผื่อตัวเองเท่านั้น นี่ก็คือคุณค่าที่ดีงามและพระเจ้าทรงพอพระทัย   หลาย ๆ คนใน NGMกำลังอยู่ในการเคลื่อนไหวของพระเจ้าอย่างไม่รู้ตัว บางคนถูกขับเคลื่อนเข้ามาในการรับใช้แล้ว และจะมีอีกหลายคนขึ้นมาเรื่อย ๆ  และเราต้องตอบสนองต่อพระเจ้า นี่คือสิ่งที่เราต้องให้คุณค่า และเราต้องรักษาดุแล ใส่ใจรวมทั้งคริสตจักรทั้งหมดด้วยไม่ว่าเราจะอยู่ใน generation ไหนเราจะต้องตระหนักถึงคุณค่าที่พระเจ้ากำหนดไว้ให้เรา ทำให้สิ่งนั้นมีคุณค่ามากขึ้น และ มากขึ้นพระเจ้าใส่ศักยภาพที่มีคุณค่าในชีวิตเราทุกคนแล้ว ครั้งหนึ่ง เบนสัน ไอดาโฮซา เด็กชาวไนจีเรีย เกิดมาไม่สมบูรณ์ พ่อให้แม่นำไปทิ้งในไร่อ้อย แต่วันรุ่งขึ้นแม่แอบไปนำมาเลี้ยงไว้ จนอายุ 17 ปี พระเจ้าเรียกให้เขามาเป็นคริสเตียน ถวายตัวรับใช้ และตั้งคริสตจักรในอัฟริกา 5 พันแห่ง ไปประกาศข่าวประเสริฐมากว่า 100 ประเทศทั่วโลก   พระเจ้าทำสิ่งยิ่งใหญ่ในชีวิตเราได้ทุกคน เราทุกคนสามารถทำสิ่งที่มีคุณค่าในแผ่นดินของพระเจ้าได้ทั้งสิ้น เพราะพระองค์วางคุณค่านั้นไว้ในเราแล้ว

By admin