“เราเป็นของจริง…หรือของปลอม?”
เอเฟซัส 4:11-16 11 ของประทานของพระองค์ ก็คือให้บางคนเป็นอัครทูต บางคนเป็นผู้เผยพระวจนะ บางคนเป็นผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์12 เพื่อเตรียมธรรมิกชนให้เป็นคนที่จะรับใช้ เพื่อเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ให้จำเริญขึ้น13 จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อ และในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า จนกว่าเราจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ คือเต็มถึงขนาดความไพบูลย์ของพระคริสต์14 เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป ถูกซัดไปซัดมาและหันไปเหมาด้วยลมปากแห่งคำสั่งสอนทุกอย่าง และด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ตามอุบายฉลาดอันเป็นการล่อลวง15 แต่ให้เรายึดความจริงด้วยใจรัก เพื่อจะจำเริญขึ้นทุกอย่างสู่พระองค์ผู้เป็นศีรษะ คือพระคริสต์16 คือเนื่องจากพระองค์นั้น ร่างกายทั้งสิ้นที่ติดต่อสนิทและประสานกันโดยทุกๆ ข้อต่อที่ทรงประทาน ได้จำเริญเติบโตขึ้นด้วยความรัก เมื่ออวัยวะทุกอย่างทำงานตามความเหมาะสมแล้ว ความทันสมัยของพระคัมภีร์ตอนนี้เข้ากับยุคสมัยของเราในวันนี้ ที่สังคมรอบข้างเรากำลังเผชิญกับสถานการณ์ของความแตกแยกกันอย่างมาก โดยเฉพาะสถาบันครอบครัวที่เป็นสังคมหน่วยแรกจนถึงสถาบันต่างๆ ยากที่จะหาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ อีกทั้งผู้คนมากมายก็ตกอยู่ในสภาพ …ถูกซัดไปซัดมาและหันไปเหมาด้วยลมปากแห่งคำสั่งสอนทุกอย่าง และด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ตามอุบายฉลาดอันเป็นการล่อลวง คนใกล้ตัวกันแต่ขาดการเชื่อมต่อกัน ขาดความรัก และต่างก็ไม่รู้บทบาทหน้าที่ของตนเองว่าต้องทำอะไรที่เหมาะที่ควร พระคัมภีร์ตอนนี้ได้กล่าวถึงคริสตจักรคือชุมชนอัครทูตที่มีของประทานของพระเจ้าที่ให้ไว้ ภาษาอังกฤษเรียกว่า five folds ministries พันธกิจห้าอย่างที่พระเจ้าประทานไว้เพื่อเตรียมธรรมิกชนเพื่อการรับใช้ คือมีสปิริตอย่างเดียวกันกับพระเยซูคริสต์เจ้า มาระโก 10:45 เพราะว่าบุตรมนุษย์มิได้มาเพื่อรับการปรนนิบัติ แต่ท่านมาเพื่อจะปรนนิบัติเขา และประทานชีวิตของท่านให้เป็นค่าไถ่คนเป็นอันมาก” พันธกิจทั้งห้าอย่างนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ให้จำเริญขึ้นจนถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อ ดังนั้น พี่น้องที่รัก พระเยซูคริสต์เจ้าทรงเตือนเราว่า เราจะรู้จักต้นไม้ได้ก็ที่ผลของมัน และหนึ่งในพันธกิจห้าอย่างที่พระเยซูคริสต์ทรงเตือนว่าต้องระวังนั่นคือ ผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จ พี่น้องจะรู้จักผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จได้โดยการดูที่ผลของมัน ว่านำไปสู่ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อและเสริมสร้างคริสตจักรมีสปิริตอย่างเดียวกัน หรือทำลายคริสตจักร ยิ่งฟังยิ่งแกว่งหรือยิ่งอยากเป็นใหญ่ มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า เราจะรู้จักว่าอะไรปลอมได้โดยการอยู่กับของจริงตลอดเวลา 1เธสะโลนิกา 5:21 จงพิสูจน์ทุกสิ่ง สิ่งที่ดีนั้นจงยึดถือไว้ให้มั่น การพิสูจน์อันแรกที่เราควรต้องทำอย่างยิ่งก็คือ การสำรวจตัวเราเองก่อน ว่าเราเป็นของจริงหรือของปลอม?(คริสเตียนปลอม ผู้รับใช้ปลอม คริสตจักรปลอม) ปลอม = เสแสร้งเป็นจริง