“ปราศจากที่ติ…ด้วยชีวิตใหม่สามมิติ”

เมื่อก่อนที่เราจะมาเป็นคริสเตียน เรามีศาสนาอื่นที่กำหนดให้เราต้องทำอย่างโน้นอย่างนี้เพื่อจะได้บุญ ได้กุศล ได้รับการช่วยเหลือ หรือเพื่อจะไม่เจอกับเคราะห์ร้ายกรรมซ้ำ หรือเพื่อจะหนีจากสิ่งที่เรียกว่าซวย เพื่อให้ได้ชีวิตที่โชคดี ร่ำรวย  คุณน้าของข้าพเจ้าใช้สำนวนว่า ห่อมาตลอดชีวิต ข้าพเจ้าตีความหมายแปลว่า ประคองชีวิตด้วยพิธีกรรมต่างๆทางศาสนามาตลอดชีวิต วันนี้มาเชื่อพระเยซู ได้ปล่อยห่อที่ถือประคองมาตลอดออกไปจากชีวิตแล้ว ชีวิตไม่ต้องตกอยู่ภายใต้ความกลัวใดๆอีก เมื่อเรามาเป็นคริสเตียน เราได้หลุดพ้นจากอิทธิพลอำนาจของความมืดต่างๆ เราได้หลุดจากสิ่งที่ผูกมัดชีวิตของเรา คำสอนคำขู่ต่างๆที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้ถูกทำลายไป สำนวนในพระคัมภีร์ใช้คำว่า โคโลสี2:14-15 14 ​พระ​องค์​ทรง​ฉีก​กรมธรรม์​ซึ่ง​ได้​ผูกมัด​เรา​ด้วย​บัญญัติ​ต่างๆ ซึ่ง​ขัดขวาง​เรา และ​ได้​ทรง​หยิบ​เอา​ไป​เสีย​ให้​พ้น​โดย​ทรง​ตรึง​ไว้​ที่​กางเขน15 ​พระ​องค์​ทรง​ปลด​เทพ​ผู้​ครอง​และ​ศักดิ​เทพ​เสีย ​พระ​องค์​ได้​ทรง​ประจาน​เขา และ​ชนะ​เขา​โดย​กางเขน​นั้น​ และพระเยซูได้ทรงชนะแล้วในการฟื้นขึ้นมาจากความตายของพระองค์ ชีวิตคริสเตียนของเราทุกคนจึงเป็นชีวิตที่ไม่ได้ดำเนินไปด้วยความกลัว หรืออย่างไร้จุดมุ่งหมาย หรืออย่างคนที่ตกอยู่ภายใต้ชะตากรรมใดๆอีก แต่เรามีจุดมุ่งหมายชัดเจนตามที่พระเจ้าได้ทรงให้ชีวิตใหม่แก่เรา เป็นชีวิตที่มีมิติต่างๆทั้งกว้าง ยาว ลึก กลายเป็นชีวิตใหม่ที่มีมิติมากกว่าหนึ่ง คือการมีชีวิตอยู่ไม่ได้อยู่เพื่อตัวเอง แต่อยู่เพื่อพระเจ้าและอยู่เพื่อคนอื่น พระเยซูคริสต์จึงสรุปธรรมบัญญัติทั้งหมดของศาสนายิวออกมาได้สองข้อใหญ่ มาระโก 12:29-31 29 ​พระ​เยซู​จึง​ตรัส​ตอบ​คน​นั้น​ว่า “ธรรมบัญญัติ​เอก​นั้น​คือ​ว่า โอ ชน​อิสราเอล​จง​ฟัง​เถิด ​พระ​เจ้า​ของ​เรา​ทั้ง​หลาย​ทรง​เป็น​พระ​เจ้า​เดียว 30 และ​พวก​ท่าน​จง​รัก​พระ​เจ้า​ด้วย​สุด​จิต​สุดใจ​ของ​ท่าน ด้วย​สุด​ความ​คิด​และ​ด้วย​สิ้นสุด​กำลัง​ของ​ท่าน31 และธรรม​บัญญัติ​ที่​สอง​นั้น​คือ จง​รัก​เพื่อน​บ้าน​เหมือน​รัก​ตนเอง ​ธรรมบัญญัติ​อื่น​ที่​ใหญ่​กว่าธรรม​บัญญัติ​ทั้ง​สอง​นี้​ไม่​มี”นี่คือชีวิตใหม่ที่มีสามมิติของคริสเตียนทุกคน ความหมายของคำว่าสามมิติ หรือ สามดี คือทำให้เรามองเห็นภาพมีความกว้าง ยาว ลึกหรือหนา ตามสภาพความเป็นจริง ทำให้มองเห็นความเคลื่อนไหวของความมีชีวิต  ดังนั้น ชีวิตคริสเตียนที่จะสำแดงชีวิตใหม่ที่จะทำให้มองเห็นความมีชีวิตใหม่ เป็นสามมิติได้นั้นต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่การเปลี่ยนแค่ศาสนา แต่คือการมีชีวิตใหม่สามมิติจริงๆ คือชีวิตที่เปลี่ยนแปลงจากอดีตยังไง อยู่กับปัจจุบันอย่างไร และมีอนาคตไกลขนาดไหน นั่นคือ การปราศจากที่ติ…ด้วยชีวิตใหม่สามมิติ ที่คนจะสัมผัสได้ มองเห็นได้ทั้งสามด้าน ได้แก่

1. มิติอดีต….การจัดการกับชีวิตเก่า   โรม 12:1-2

1 พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย ด้วย​เหตุ​นี้​โดย​เห็น​แก่​ความ​เมตตา​กรุณา​ของ​พระ​เจ้า ข้าพเจ้า​จึง​วิงวอน​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ให้​ถวาย​ตัว​ของ​ท่าน​แด่​พระ​องค์ เพื่อ​เป็น​เครื่องบูชา​ที่​มี​ชีวิต​อัน​บริสุทธิ์​และ​เป็น​ที่​พอ​พระ​ทัย​พระ​เจ้า ซึ่ง​เป็น​การ​นมัสการ​โดย​วิญญาณ​จิต​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​2 อย่า​ประพฤติ​ตาม​อย่าง​คน​ใน​ยุค​นี้ แต่​จง​รับ​การ​เปลี่ยนแปลง​จิตใจ แล้ว​อุปนิสัย​ของ​ท่าน​จึง​จะ​เปลี่ยน​ใหม่ เพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​ทราบ​น้ำ​พระ​ทัย​ของ​พระ​เจ้า จะ​ได้​รู้​ว่า​อะไร​ดี อะไร​เป็น​ที่​ชอบ​พระ​ทัย​และ​อะไร​ดี​ยอด​เยี่ยม  มีคนเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า เขาอยู่ในเวลาอุบัติเหตุร่วมกับเพื่อนที่นั่งรถยนต์ไปด้วยกัน เกิดประสานงานกับรถบรรทุก เพื่อนข้างตัวขาดครึ่งท่อน และในวินาทีที่ยังสามารถพูดอะไรได้ เขาได้พูดคำว่า กูยังไม่อยากตาย คนฟังคิดในใจว่า ขนาดนี้มึงยังคิดว่ามึงจะรอดอีกเหรอ แล้วก็ได้เห็นว่าเขาตายในสภาพที่ไม่รอดแต่ยังมีความคิดว่าไม่อยากตาย ทำไมเขายังไม่อยากตาย เราไม่รู้ แต่รู้แน่ๆว่า เขาไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความตาย พระคัมภีร์ตอนนี้ได้มีประโยคหนึ่งที่สำคัญสำหรับการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ แม้กระทั่งความตาย นั่นก็คือ ​เป็น​เครื่องบูชา​ที่​มี​ชีวิต​อัน​บริสุทธิ์​และ​เป็น​ที่​พอ​พระ​ทัย​พระ​เจ้า เรารู้ว่าไม่มีอะไรน่ากลัวเท่ากับการที่เราต้องเผชิญหน้ากับพระเจ้าในสภาพที่เราไม่เป็นที่พอพระทัย พระธรรมวิวรณ์ได้กล่าวถึงวาระสุดท้ายของคนที่ไม่เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าดังนี้ วิวรณ์ 14:9-12 9 และ​ทูตสวรรค์​อีก​องค์​หนึ่ง​เป็น​องค์​ที่​สาม​ตาม​ไป ประกาศ​ด้วย​เสียง​อัน​ดัง​ว่า “ถ้า​ผู้ใด​บูชา​สัตว์​ร้าย​และ​รูป​ของ​มัน และ​มี​เครื่องหมาย​ของ​มัน​ไว้​ที่​หน้าผาก​หรือ​ที่​มือ​10 ผู้​นั้น​จัก​ต้อง​ดื่ม​เหล้า​องุ่น​แห่ง​พระ​พิโรธ​ของ​พระ​เจ้า ซึ่ง​ไม่ได้​ระคน​กับ​สิ่ง​ใด ที่​ได้​เท​ลง​ใน​ถ้วย​พระ​พิโรธ​ของ​พระ​องค์ และ​เขา​จะต้อง​ถูก​ทรมาน​ด้วย​ไฟ​และ​กำมะถัน ต่อ​หน้า​ทูตสวรรค์​ผู้​บริสุทธิ์​ทั้ง​หลาย​และ​ต่อ​พระ​พักตร์​พระ​เมษโปดก​11 และ​ควัน​แห่ง​การ​ทรมาน​ของ​เขา​พลุ่ง​ขึ้น​ตลอดไป​เป็น​นิตย์ และ​คน​ทั้ง​หลาย​ที่​บูชา​สัตว์​ร้าย​และ​รูป​ของ​มัน และ​ที่​รับ​เครื่องหมาย​ชื่อ​ของ​มัน จะ​ไม่​มี​การ​พักผ่อน​เลย​ทั้ง​กลางวัน​และ​กลางคืน” 12 นี่​แหละ​ความ​อดทน​ซึ่ง​พวก​ธรรมิก​ชน​คือ​ผู้​ที่​ประพฤติ​ตาม​พระ​บัญญัติ​ของ​พระ​เจ้า และ​ดำเนิน​ตาม​ความ​เชื่อ​ของ​พระ​เยซู​จะต้อง​มี การบูชาสัตว์ร้ายและรูปของมันและมีเครื่องหมายของมันไว้ที่หน้าผากหรือที่มือจะเกิดขึ้นผ่านการวิถีการดำเนินชีวิต การกิน การอยู่ การใช้ชีวิตของคนทุกระดับทุกชนชั้น วิวรณ์ 13:16-18  16 และ​มัน​ยัง​ได้​บังคับ​คน​ทั้ง​ปวง ทั้ง​ผู้ใหญ่​ผู้น้อย คน​มั่ง​มี และ​คน​จน ไท​และ​ทาส​ให้​รับ​เครื่องหมาย ไว้​ที่​มือ​ขวา​หรือ​ที่​หน้าผาก​ของ​เขา​17 เพื่อ​ไม่ให้​ผู้ใด​ทำ​การ​ซื้อ​ขาย​ได้ นอก​จาก​ผู้​ที่​มี​เครื่องหมาย​นั้น ซึ่ง​เป็น​ชื่อ​ของ​สัตว์​ร้าย​นั้น หรือ​เลข​ชื่อ​ของ​มัน​18 ​ใน​เรื่อง​นี้​จง​ใช้​สติปัญญา​ให้​ดี ถ้า​ผู้ใด​มี​ความ​เข้าใจ​ก็​ให้​คิด​ตรึก​ตรอง​เลข​ของ​สัตว์​ร้าย​นั้น เพราะ​ว่า​เป็น​เลข​ของ​บุคคล​ผู้​หนึ่ง เลข​ของ​มัน​คือ​หก​ร้อย​หก​สิบ​หก​ ขณะที่ธรรมิกชนคนของพระเจ้ายังต้องอาศัยอยู่ในโลกนี้อย่างไม่เป็นของโลก และอย่างคนที่นมัสการพระเจ้า เลิกบูชาสัตว์ร้ายที่เรียกว่า ผู้ต่อต้านพระคริสต์ พระคัมภีร์ได้เตือนว่า จงใช้สติปัญญาให้ดี  ถ้า​ผู้ใด​มี​ความ​เข้าใจ​ก็​ให้​คิด​ตรึก​ตรอง​เลข​ของ​สัตว์​ร้าย​นั้น เรารู้ว่า เลขเจ็ดร้อยเจ็ดสิบเจ็ด เป็นเลขของพระเจ้า แปลว่าความสมบูรณ์ครบถ้วน คำว่า ให้คิดตรึกตรองเลขของสัตว์ร้าย รากศัพท์แปลว่า ให้นับจำนวนเลขนั้น ข้าพเจ้าตีความ คือความไม่สมบูรณ์ ความไม่ครบถ้วน ซึ่งตรงกันข้ามกับเจ็ดร้อยเจ็ดสิบเจ็ด คือความสมบูรณ์ นั่นหมายถึงวิถีการดำเนินชีวิตตามอย่างโลก ตรงกันข้ามกับวิถีการดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยพระเจ้า ที่มีความสมบูรณ์ครบถ้วน ดังนั้นหนังสือโรมบทที่ 12ได้กล่าวเกี่ยวกับมิติการดำเนินชีวิตของผู้ที่นมัสการพระเจ้า จะใช้ชีวิตที่ ​2 อย่า​ประพฤติ​ตาม​อย่าง​คน​ใน​ยุค​นี้ แต่​จง​รับ​การ​เปลี่ยนแปลง​จิตใจ แล้ว​อุปนิสัย​ของ​ท่าน​จึง​จะ​เปลี่ยน​ใหม่ เราจะเปลี่ยนใหม่ เราต้องเลิก ต้องหยุด ต้องทิ้งชีวิตเก่า ต้องอยู่ตรงกันข้ามกับเครื่องหมายของมาร คือดูเหมือนสมบูรณ์ แต่ไม่สมบูรณ์ นับยังไงก็ไปไม่ถึงเลขเจ็ด อยู่แค่หกเท่านั้น สิ่งที่มาจากมารพาเราไปไม่ถึงความสุขแท้ ไปไม่ถึงชัยชนะอย่างสิ้นเชิง ไปไม่สุดทาง เป็นหนทางกว้างที่นำไปสู่ความตาย คริสเตียนต้องแสวงหาน้ำพระทัยพระเจ้า ต้องหาเลขเจ็ด เลขแห่งความสมบูรณ์ ต้องเปลี่ยนจิตใจ เปลี่ยนอุปนิสัยใหม่ ถ้ายังอยู่กับจิตใจเดิมๆ นิสัยเดิม เพราะชีวิตเก่าจะทำให้เราตกอยู่ภายใต้อิทธิพลเครื่องหมายเลข666 ของมาร หน้าผากและข้อมือของเรากำลังพร้อมรับเครื่องหมายนี้ในวันหนึ่งในอนาคต เพราะเราจะกำลังดำเนินชีวิตเหมือนคนที่ยอมให้ถูกบีบบังคับให้เป็นทาส เราใช้ชีวิตอย่างคนที่ไม่ตระหนักว่า อะไรคือน้ำพระทัยพระเจ้า อะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัย อะไรดียอดเยี่ยม ซึ่งไม่แตกต่างจากคนที่ไม่มีพระเจ้า เป็นการยอมให้มารใช้ชีวิตเก่า อดีตที่ไม่เปลี่ยนแปลงของเราอย่างที่มันอยากให้เราเป็น และไม่ยอมเป็นอย่างที่พระเจ้าอยากให้เราเป็น  เมื่อโมเสสถามว่าพระเจ้าชื่ออะไร พระเจ้าทรงตอบโมเสสว่า “เราเป็นซึ่งเราเป็น” คำที่พระเจ้าทรงใช้ในชื่อของพระองค์แปลว่า พระองค์ทรงเป็นปัจจุบันเสมอ พระองค์ไม่เคยเป็นอดีต พระเจ้าต้องการให้เราเป็นอย่างที่เราเป็นคือ เป็นอย่างที่พระเจ้าทรงสร้างเราตั้งแต่แรกเริ่ม แต่มนุษย์ได้ล้มลงในความบาป ทำให้มนุษย์ไม่ได้เป็นอย่างที่พระเจ้าต้องการให้เป็น การเสด็จมาของพระเยซูคือการกลับสู่สภาพดีดังเดิม  มารได้โกหกหลอกลวง ทำให้เรากลับไปสู่สภาพที่แย่กว่าเดิม  ทำให้มนุษย์สูญเสียและเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า เมื่อมนุษย์สูญเสียชีวิตที่เป็นปัจจุบันไป มารได้เอาอดีตที่ล้มเหลว เจ็บปวด และขมขื่นมาตอกย้ำในมนุษย์ ทำให้มนุษย์อยู่กับอดีตที่ล้มเหลว แม้กระทั่งคนที่มารู้จักพระเยซูคริสต์ เปลี่ยนเป็นคริสเตียนแล้ว แต่ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงภายนอกมิใช่ภายใน ทำให้คริสเตียนบางคนดำเนินชีวิตในมิติของอดีต เต็มไปด้วยความกลัว ความโกรธและความเศร้า ภายใต้อารมณ์ของอดีตที่เจ็บปวดเหล่านี้ทำให้คริสเตียนไปไม่ถึงชัยชนะขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าที่ทรงชนะแล้ว 1ยอห์น5:1,4 1 ผู้ใด​เชื่อ​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​เป็น​พระ​คริสต์​ ผู้​นั้น​ก็​เกิด​จาก​พระ​เจ้า และ​ผู้ใด​รัก​พระ​องค์​ผู้​ทรง​ให้​กำเนิด ผู้​นั้น​ก็​รัก​คน​ที่​เกิด​จาก​พระ​องค์​ด้วย….4 เพราะ​ทุก​คน​ที่​เกิด​จาก​พระ​เจ้า ​ก็​มี​ชัย​ต่อ​โลก และ​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​นี่​แหละ​เป็น​ชัย​ชนะ​ที่​ชนะ​โลก​​ คนที่อยู่กับมิติในอดีตที่เจ็บปวด ขมขื่นจะพ่ายแพ้ต่ออารมณ์ของตนเอง รักคนอื่นได้ยาก เพราะชีวิตไม่สามารถให้อภัยได้ง่าย รู้ว่าต้องให้อภัย รู้ว่าคือน้ำพระทัยพระเจ้า รู้อะไรๆมากมายแต่ขาดกำลังที่จะทำตามน้ำพระทัยพระเจ้า การเป็นคริสเตียนที่ดูเหมือนเป็นพวกเดียวกันกับพระเยซูคริสต์คือแค่ภาพลวงตา ไม่ใช่ของแท้  อย่ารอให้ถึงวันนั้น วันที่จิตใจของเราไม่มีแรงที่จะหันกลับมาหาพระเจ้า จิตใจที่อยากไปกับบาป ไปกับความอยาก ไปกับความปรารถนาของตัวเอง   ไปกับความรู้สึกที่รู้ว่าดีแต่ไม่ทำ ควรตอบสนองแต่ไม่ตอบสนอง ควรกลับมาหาพระเจ้าแต่ไม่กลับ พระคัมภีร์พูดถึงการเก็บเกี่ยวสองอย่าง เก็บเกี่ยวแรกคือการประกาศเพื่อนำคนมาถึงพระเจ้า เป็นการเก็บเกี่ยวโดยคริสเตียน เก็บเกี่ยวที่สองคือการเก็บเกี่ยวโดยทูตสวรรค์ที่จะมาแยกของแท้ออกจากของปลอม เป็นการเก็บเกี่ยวเพื่อการพิพากษา

2. มิติปัจจุบัน…การถวายทำให้อยู่รอด  มาลาคี 3:10-12

10 ​พระ​เจ้า​จอม​โยธา​ตรัส​ว่า จง​นำ​ทศางค์​เต็ม​ขนาด​มา​ไว้​ใน​คลัง เพื่อ​ว่า​จะ​มี​อาหาร​ใน​นิเวศ​ของ​เรา จง​ลอง​ดู​เรา​ใน​เรื่อง​นี้​ดู​ที​หรือ​ว่า เรา​จะ​เปิด​หน้าต่าง​ใน​ฟ้า​สวรรค์​ให้​เจ้า และ​เทพ​รอ​ย่าง​ล้น​ไหล​มา​ให้​เจ้า​หรือ​ไม่​11 เรา​จะ​ขนาบ​ตัว​ที่​ทำลาย​ให้แก่​เจ้า เพื่อ​ว่า​มัน​จะ​ไม่​ทำลาย​ผล​แห่ง​พื้นดิน​ของ​เจ้า และ​ผล​องุ่น​ใน​ไร่​นา​ของ​เจ้า​จะ​ไม่​ร่วง ​พระ​เจ้า​จอม​โยธา​ตรัส​ดังนี้​แหละ​12 ​พระ​เจ้า​จอม​โยธา​ตรัส​ว่า แล้ว​ประชาชาติ​ทั้งสิ้น​จะ​เรียก​เจ้า​ว่า ผู้​ที่​ได้รับ​พระ​พร ด้วย​ว่า​เจ้า​จะ​เป็น​แผ่นดิน​ที่​น่า​พึง​ใจ​ คนในโลกนี้กำลังมุ่งหน้าสู่มิติอนาคตโดยมองมิติปัจจุบันที่ความขาดแคลน   การมองแก้วน้ำที่มีน้ำครึ่งแก้ว ว่ายังขาดอีกครึ่ง ต้องหามาเติมให้เต็ม มีคำแนะนำมากมายให้ใช้น้ำครึ่งแก้วที่มีเพื่อหาส่วนที่ขาดให้เต็ม แต่คำสอนในพระคัมภีร์กลับให้ใช้น้ำครึ่งแก้วที่มีเพียงแค่หนึ่งในสิบกับการถวาย แล้วพระเจ้าจะเป็นผู้ทำให้ล้นไหลเอง ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องรับพระพรอย่างล้นไหลตามพระสัญญาของพระเจ้า ไม่ใช่รอให้มีเหลือก่อนค่อยถวาย แต่ถวายในขณะที่มีไม่เหลือ ไม่พอ แต่พระเจ้าทรงต้องการอวยพรเรา ให้เรามีล้นไหล ตัวอย่างเรื่อง หญิงม่ายชาวศาเรฟัทถูกผู้เผยพระวจนะเอลียาห์ท้าทายเรื่องการใช้สิ่งที่เธอมีอยู่ 1พงศ์กษัตริย์17:12-16 12 และ​นาง​ตอบ​ว่า “​พระ​เยโฮวาห์​พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​ทรง​พระ​ชนม์​อยู่​แน่​ฉัน​ใด ดิฉัน​ไม่​มี​อะไร​ที่​ปิ้ง​เสร็จ มี​แต่​แป้ง​สัก​กำ​มือ​หนึ่ง​ใน​หม้อ และ​น้ำ​มัน​เล็กน้อย​ที่​ใน​ไห บัดนี้​ดิฉัน​กำลัง​เ​ก็​บ​ฟืน​เล็กน้อย เพื่อ​จะ​เข้า​ไป​ทำ​สำหรับ​ตัว​ดิฉัน และ​บุตร​ชาย​ของ​ดิฉัน เพื่อ​เรา​จะ​ได้​กิน​แล้ว​ก็​จะ​ตาย”13 และ​เอลียาห์​บอก​นาง​ว่า “อย่า​กลัว​เลย จง​ไป​ทำ​ตาม​ที่​เจ้า​พูด แต่​จง​ทำ​ขนม​ก้อน​เล็ก​ให้​ฉัน​ก่อน แล้ว​เอา​มา​ให้​ฉัน ภายหลัง​จึง​ทำ​สำหรับ​ตัว​เจ้า​และ​บุตร​ของ​เจ้า​14 เพราะ​พระ​เยโฮวาห์​พระ​เจ้า​ของ​อิสราเอล​ตรัส​ดังนี้​ว่า ‘แป้ง​ใน​หม้อ​นั้น​จะ​ไม่​หมด และ​น้ำ​มัน​ใน​ไห​นั้น​จะ​ไม่​ขาด จนกว่า​จะ​ถึง​วันที่​พระ​เจ้า​ทรง​ส่ง​ฝน​ลง​มายัง​พื้นดิน’ ”15 นาง​ก็​ไป​กระทำ​ตาม​คำ​ของ​เอลียาห์ นาง ตัว​ท่าน​และ​ครอบครัว​ของ​นาง​ก็​รับประทาน​อยู่​หลาย​วัน​16 แป้ง​ใน​หม้อ​ก็​ไม่​หมด น้ำ​มัน​ใน​ไห​ก็​ไม่​ขาด ตาม​พระ​วจนะ​ของ​พระ​เจ้า​ซึ่ง​ตรัส​ทาง​เอลียาห์ หญิงม่ายชาวศาเรฟัท กำลังมองปัจจุบันที่มีไม่พอ และอนาคตที่ขาดแคลน แต่เอลียาห์คนของพระเจ้าได้นำหญิงม่ายให้มองปัจจุบันว่า เธอมีเพียงพอที่จะให้พระเจ้า และมีพอที่จะให้กับตัวเองและลูกด้วย โดยให้เริ่มต้นด้วยการถวายสิ่งที่มีอยู่ที่เหลือน้อย เพื่อฤดูกาลหน้าที่จะไม่ขาดแคลน ไหน้ำมัน ถังแป้งไม่ขาด จนกว่าสถานการณ์โลกจะกลับมาปกติ ในช่วงเวลาของเอลียาห์ก็เจอกับสถานการณ์กันดารอาหารรุนแรงกับแผ่นดิน ฝนไม่ตกเป็นเวลาสามปีครึ่ง วันนี้เรากำลังเจอกับภัยแล้งที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่พระเจ้าจะทำให้เราอยู่ได้ ขอให้เราดำเนินชีวิตในมิติปัจจุบันด้วยการใช้สิ่งที่มีอยู่เพื่อพระเจ้า เพื่องานของพระเจ้า เพื่อคนของพระเจ้า แล้วเราจะรอดตายไปด้วยกัน 2โครินธ์ 9:6-8  6 นี่​แหละ​คน​ที่​หว่าน​เพียง​เล็กน้อย​ก็​จะ​เกี่ยว​เ​ก็​บ​ได้​เพียง​เล็กน้อย คน​ที่​หว่าน​มาก​ก็​จะ​เกี่ยว​เ​ก็​บ​ได้​มาก​7 ทุก​คน​จง​ให้​ตาม​ที่​เขา​ได้​คิด​หมาย​ไว้​ใน​ใจ มิใช่​ให้​ด้วย​นึก​เสียดาย มิใช่​ให้​ด้วย​การ​ฝืน​ใจ เพราะ​ว่า​พระ​เจ้า​ทรง​รัก​คน​นั้น​ที่​ให้​ด้วย​ใจ​ยินดี​8 และ​พระ​เจ้า​ทรง​ฤทธิ์​อาจ​ประทาน​ของ​ดี​ทุก​สิ่ง​อย่าง​อุดม​แก่​ท่าน​ทั้ง​หลาย เพื่อให้​ท่าน​มี​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​เพียงพอ​สำหรับ​ตัว​เสมอ ทั้ง​จะ​มี​สิ่งของ​บริบูรณ์​สำหรับ​งาน​ที่​ดี​ทุก​อย่าง​ด้วย​ พระเยซูคริสต์ได้ตรัสเกี่ยวกับหญิงม่ายที่ถวายแค่เหรียญทองแดงสองเหรียญว่าได้ให้มากกว่าคนอื่น เพราะนางได้ให้ทั้งหมดที่มี แต่คนอื่นได้ให้ที่เหลือแล้วแด่พระเจ้า ข้าพเจ้าอยากท้าทายเราทั้งหลายให้ใช้สิ่งที่มีอยู่เพื่อพระเจ้า ถวายสิบลด ถวายเพื่อพันธกิจ ถวายเพื่องานของพระเจ้า ข้าพเจ้าได้ฟังคำพยานมากมายว่าพระเจ้าทรงทำตามพระสัญญาเรื่องการถวายอย่างมากมายอย่างไร สถานการณ์ของโลก เศรษฐกิจของโลกกำลังถดถอย เราจะเตรียมตัวรับมืออย่างไร  ข้าพเจ้าคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะเตรียมรับมือกับอนาคตด้วยการทำให้ปัจจุบันของเราขึ้นอยู่กับพระเจ้า ไม่ใช่ขึ้นอยู่ความวิตกกังวลว่าอนาคตจะไม่พอ อนาคตจะขาด

3. มิติอนาคต….การใช้เวลาส่งต่อชีวิตสามมิติแก่ผู้อื่น   มัทธิว 28:19-20

19 เหตุ​ฉะนั้น​เจ้า​ทั้ง​หลาย​จง​ออกไป​สั่ง​สอน​ชน​ทุก​ชาติ ให้​เป็น​สาวก​ของ​เรา ให้​รับ​บัพติศมา​ใน​พระ​นาม​แห่ง​พระ​บิดา ​พระ​บุตร​และ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​20 สอน​เขา​ให้​ถือ​รักษา​สิ่ง​สารพัด​ซึ่ง​เรา​ได้​สั่ง​พวก​เจ้า​ไว้ นี่​แหละ​เรา​จะ​อยู่​กับ​เจ้า​ทั้ง​หลาย​เสมอ​ไป จนกว่า​จะ​สิ้น​ยุค”  พระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์ตอนนี้คือการบอกกับสาวกของพระองค์ว่า อย่าดำเนินชีวิตอย่างคนที่ฆ่าเวลา การฆ่าเวลาคือการทำลายชีวิตทั้งของตนเองและของคนอื่น การมองมิติอนาคตอย่างคนของพระเจ้าคือการช่วยชีวิตคน  พระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์คือการช่วยชีวิตคนด้วยการออกไปประกาศข่าวประเสริฐและสอนคนให้เป็นสาวกของพระเยซู คือการเปลี่ยนมิติมุมมองแก่คนในโลกนี้ให้มองอดีต มองปัจจุบัน และอนาคตด้วยมิติมุมมองของพระเจ้า  ข้าพเจ้าได้ไปประชุมคองเกรสในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีวีดีโอที่น่าประทับใจหลายเรื่อง เรื่องหนึ่งได้ฉายให้เห็นว่า มีคริสเตียนคนหนึ่งเข้าสู่ภวังค์เห็นตัวเองมีพลังวิเศษสามารถมองเห็นเวลาที่เหลืออยู่ของบนหัวของคนมากมาย เขาเห็นคนที่ยังมีเวลาเหลืออีกหลายปี และเห็นคนที่มีเวลาเหลือน้อย เขาจึงเริ่มไปแบ่งปันข่าวประเสริฐกับคนที่มีเวลาเหลือน้อย ขณะที่กำลังประกาศเรื่องพระเยซูกับคนที่มีเวลาเหลือน้อยอยู่นั้น เขาก็เห็นอีกคนเหลือเวลาแค่สิบห้าวินาที และเมื่อเวลากำลังจะหมดไป เขาก็ไปไม่ทันคนๆนั้น ซึ่งถูกรถชนตายไป ทำให้เขารีบวิ่งกลับไปหาพ่อแม่ที่บ้าน และเมื่อเขามองเห็นเวลาของพ่อแม่ยังเหลืออยู่อีกคนละห้าปี คนละแปดปี เขาก็โล่งอก พ่อแม่ถามว่ามาหาเรื่องอะไร เขาก็เปลี่ยนความคิดที่จะประกาศกับพ่อแม่ เพราะคิดว่า ยังมีเวลาเหลืออยู่สำหรับที่จะประกาศกับพ่อแม่ แต่สิ่งหนึ่งเขาลืมไปก็คือ เขาลืมมองดูเวลาของตัวเองว่าเหลืออยู่เท่าไหร่ จนเขามองดูที่กระจกและเห็นเวลาของตัวเองเหลือแค่สิบห้าวินาที เขาตัดสินใจอยากวิ่งกลับไปหาพ่อแม่ ก็ไม่ทัน อยากไปทำอะไรก็ไม่ทัน และตอนจบของวีดีโอได้ทำให้เขาออกจากภวังค์และรู้ว่า ความจริงเขาไม่ได้มีพลังวิเศษที่จะรู้เวลาว่าเวลาของใครเหลือเท่าไหร่ แม้กระทั่งเวลาของตัวเอง เขาขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้เขาไม่รู้เวลาเหล่านั้นเพื่อเขาจะประกาศกับทุกคนทุกเวลาทุกโอกาส และใช้เวลาของตัวเองในการทำตามพระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์คือสร้างคนทุกคนให้มีชีวิตใหม่ในสามมิติแห่งการใช้ชีวิต ใช้เงินทอง และใช้เวลาอย่างคนที่กำลังก้าวไปสู่ชีวิตที่ครบบริบูรณ์ที่แท้จริง ยอห์น 10:10 10 ขโมย​นั้น​ย่อม​มา​เพื่อ​จะ​ลัก​และ​ฆ่า​และ​ทำลาย​เสีย เรา​ได้มา​เพื่อ​เขา​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​ชีวิต และ​จะ​ได้​อย่าง​ครบ​บริบูรณ์​ พระเยซูทรงตรัสว่าพระองค์ทรงมาเพื่อทำให้เราไปถึงความสมบูรณ์ อย่าลืมว่า เลขแห่งความสมบูรณ์ของพระเจ้าคือเลขเจ็ด แต่ของมารคือเลขหก ห่างกันแค่นิดเดียว ดูเหมือนใช่ ใกล้ แต่ไม่ใช่ และไม่ได้นำเราไปสู่ความสมบูรณ์ที่แท้จริง จงใช้สติปัญญาในการใช้ชีวิต ใช้เงินทอง และใช้เวลาให้ไปถึงความสมบูรณ์ของพระเจ้า ที่ปราศจากที่ติ…ด้วยชีวิตใหม่ในสามมิตินี้ อาเมน

“ปราศจากที่ติ…ด้วยชีวิตใหม่สามมิติ”

1. มิติอดีต…ที่ต้องจัดการกับชีวิตเก่า

2. มิติปัจจุบัน….การถวายทำให้อยู่รอด

3. มิติอนาคต….การใช้เวลาส่งต่อชีวิตสามมิติแก่ผู้อื่น

By admin