“ชีวิตที่มีฤทธานุภาพ”

ชีวิตที่มีฤทธานุภาพ ไม่ใช่ชีวิตที่มีฤทธิ์เอาไว้เพื่อใช้สำหรับตัวเอง คำไทยมีคำว่า แผลงฤทธิ์ เป็นสำนวนของการกระทำของคนบางคนที่ไม่มีฤทธิ์ แต่มักจะแผลงฤทธิ์แผลงเดช นิยามในพจนานุกรมได้ให้ความหมายว่าหมายถึง  อาละวาดด้วยความโกรธเพราะถูกขัดใจ ในพระคัมภีร์ใหม่ได้ใช้คำว่าแผลงฤทธิ์กับคนประเภทหนึ่งเช่นกัน ลูกา8:27-29  27 เมื่อ​พระ​องค์​เสด็จ​ขึ้น​บก​แล้ว มี​ชาย​คน​หนึ่ง​จาก​เมือง​นั้น​มา​พบ​พระ​องค์ คน​นั้น​มี​ผี​เข้า​สิง และ​นาน​แล้ว​มิได้​สวม​เสื้อ​มิได้​อยู่​เรือน แต่​อยู่​ตาม​อุโมงค์​ฝัง​ศพ​28 ครั้น​เห็น​พระ​เยซู​เขา​ก็​โห่​ร้อง และ​กราบ​ลง​ตรง​พระ​พักตร์​พระ​องค์ ร้อง​เสียง​ดัง​ว่า “ข้า​แต่​พระ​เยซู​บุตร​ของ​พระ​เจ้า​สูงสุด ​พระ​องค์​มา​ยุ่ง​กับ​ข้า​พระ​องค์​ทำไม ขอ​พระ​องค์​อย่า​ทรมาน​ข้า​พระ​องค์”29 ที่​พูด​เช่นนี้​ก็​เพราะ​พระ​องค์​ได้​สั่ง​ผี​โสโครก​ให้​ออกมา​จาก​ตัว​คน​นั้น (​ด้วย​ว่า​ผี​นั้น​แผลงฤทธิ์​ใน​ตัว​เขา​บ่อยๆ และ​เขา​ถูก​จำ​ด้วย​โซ่​ตรวน​แต่​เขา​ได้​หัก​เครื่อง​จำ​นั้น​เสีย แล้ว​ผี​ก็​ขับ​เขา​ไป​ใน​ที่​เปลี่ยว​) มาระโก 5:3-4​  3 คน​นั้น​อาศัย​อยู่​ตาม​อุโมงค์​ฝัง​ศพ และ​ไม่​มี​ผู้ใด​จะ​ผูกมัด​ตัว​เขา​อีก​ได้ แม้​จะ​ล่าม​ด้วย​โซ่​ตรวน​ก็​ไม่​อยู่​4 เพราะ​ว่า​ได้​ล่าม​โซ่​ใส่​ตรวน​หลาย​หน​แล้ว เขา​ก็​หัก​โซ่​และ​ฟาด​ตรวน​เสีย ไม่​มี​ผู้ใด​มี​แรง​พอที่จะ​ทำ​ให้​เขา​สงบ​ได้​  ใครที่อาละวาดด้วยความโกรธอยู่บ่อยๆ ควบคุมตัวเองไม่ได้ ท่านอาจจะถูกล่ามโซ่ของสังคมในยุคนี้คือ บอยคอต ไม่อยากพูดอะไรด้วย ไม่อยากเตือน ไม่อยากสอน เพราะเดี๋ยวแผลงฤทธิ์แผลงเดชออกมาอีก และจงรู้เถิดว่า ถ้าคนไม่อยากยุ่งด้วย ผีก็จะมายุ่งแทน คนไทยมีสำนวนว่า ผีเข้าผีออก กับคนที่เดี๋ยวอารมณ์ดี เดี๋ยวอารมณ์ร้าย คนประเภทนี้ผีไม่กลัว เพราะไม่มีฤทธานุภาพในชีวิต  ส่วนคนที่ให้พระวิญญาณนำพาชีวิต จะมีฤทธานุภาพที่ผีจะกลัว ไม่กล้ายุ่งด้วย พระเยซูคริสต์ได้ตรัสไว้ว่า กิจการ 1:8 (2011)   8 แต่​พวก​ท่าน​จะ​ได้​รับ​พระ​ราช​ทาน​ฤทธา​นุภาพ เมื่อ​พระ​วิญ​ญาณ​บริ​สุทธิ์​เสด็จ​มา​เหนือ​ท่าน และ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​เป็น​สักขี​พยาน​ของ​เรา​ใน​กรุง​เยรู​ซา​เล็ม ทั่ว​แคว้น​ยูเดีย ทั่ว​แคว้น​สะมา​เรีย และ​จน​ถึง​ที่​สุด​ปลาย​แผ่นดิน​โลก”  ฤทธานุภาพที่ฉบับ 2011 พูดถึง ในฉบับ 1971 ใช้คำว่า ฤทธิ์เดช คือสิทธิอำนาจที่ทำงานในผู้เชื่อเมื่อเกิดการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณ ให้พระวิญญาณฯทำงาน แทนที่จะให้เนื้อหนังทำงาน บันทึกเมื่อสองพันปีที่แล้วได้บอกเราว่า ชีวิตผู้เชื่อที่มีฤทธานุภาพ เริ่มต้นจากการรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และสำแดงออกเป็นภาษาลิ้น เหตุการณ์ในวันนั้นเกิดขึ้นในวันเพนเตคอสต์ ซึ่งเป็นวันฉลองครบวันที่ห้าสิบหลังจากเทศกาลปัสกา ได้เกิดเหตุการณ์หนึ่งก็คือ เหล่าสาวกของพระเยซู120คนได้รวมตัวกันอธิษฐานที่ห้องชั้นบน แล้วพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ลงมาปกอยู่เหนือพวกเขา จึงได้เริ่มต้นพูดภาษาต่างๆ 120 คนอยู่รวมกันในห้องเดียวกัน ส่งเสียงดัง ในกรุงเยรูซาเล็ม ผู้คนคงจะแตกตื่นว่าเกิดอะไรขึ้น กิจการ 2:1-8 1 เมื่อ​วัน​เทศกาล​เพ็น​เท​คอสต์​มาถึง จำพวก​ศิษย์​จึง​รวมอยู่​ใน​ที่​แห่ง​เดียว​กัน​2 ​ใน​ทันใด​นั้น​มี​เสียง​มา​จาก​ฟ้า​เหมือน​เสียง​พายุ​กล้า​สั่น​ก้อง​ทั่ว​ตึก​ที่​เขา​นั่ง​อยู่​นั้น​3 มี​เปลว​ไฟ​สัณฐาน​เหมือน​ลิ้น​ปรากฏ​แก่​เขา​กระจาย​อยู่​บน​เขา​สิ้น​ทุก​คน​4 เขา​เหล่า​นั้น​ก็​ประกอบด้วย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์ จึง​ตั้ง​ต้น​พูด​ภาษา​อื่นๆ ตาม​ที่​พระ​วิญญาณ​ทรง​โปรด​ให้​พูด 5 มี​พวก​ยิว​จาก​ทุก​ประเทศ​ทั่ว​ใต้​ฟ้า​ซึ่ง​เป็น​ผู้​เกรง​กลัว​พระ​เจ้า มา​อยู่​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม​6 เมื่อ​มี​เสียง​อย่าง​นั้น​เขา​จึง​พา​กัน​มา และ​ฉงน​สนเท่ห์​เพราะ​ต่าง​คน​ต่าง​ได้​ยิน​เขา​พูด​ภาษา​ของ​ตัว​7 คน​ทั้ง​ปวง​จึง​ประหลาด​และ​อัศจรรย์​ใจ​พูด​ว่า “ดูแน่ะ คน​ทั้ง​หลาย​ที่​พูด​กัน​นั้น​เป็น​ชาว​กาลิลี​ทุก​คน​ไม่ใช่​หรือ​8 เหตุ​ไฉน​เรา​ทุก​คน​ได้​ยิน​เขา​พูด​ภาษา​ของ​บ้าน​เกิด​เมือง​นอน​ของ​เรา​….ชีวิตที่มีฤทธานุภาพได้เริ่มต้นแล้ว จากประสบการณ์การพูดด้วยภาษาที่ตนเองไม่เข้าใจ แต่เจ้าของภาษาเข้าใจและความหมายในวันนั้นคือการสรรเสริญถึงกิจการที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ข้อ 12-13 …เรา​ทั้ง​หลาย​ต่าง​ก็​ได้​ยิน​คน​เหล่า​นี้​กล่าวถึงมห​กิจ​ของ​พระ​เจ้า ตาม​ภาษา​ของ​เรา​เอง”  12 เขา​ทั้ง​หลาย​จึง​อัศจรรย์​ใจ และ​ฉงน​สนเท่ห์​พูด​กัน​ว่า “นี่​อะไร​กัน” 13 แต่​บาง​คน​เยาะ​เย้ย​ว่า “คน​เหล่า​นั้น​เมา​เหล้า​องุ่น​ใหม่”  จึงเป็นที่มาของเปโตรที่ได้ใช้ฤทธานุภาพจากการพูดภาษาลิ้นด้วยการพูดภาษาฮีบรูกับคนยิวทั้งหมดทั้งยิวที่อิสราเอลและยิวที่มาจากที่อื่น หนังสือกิจการ 2:14-21,33,37-41 (2011) ​14 แต่​เปโตร​ได้​ยืน​ขึ้น​พร้อม​กับ​อัคร​ทูต​สิบ​เอ็ด​คน และ​กล่าว​กับ​เขา​ทั้ง​หลาย​ด้วย​เสียง​ดัง​ว่า “พี่​น้อง​ชาว​ยิว​กับ​ทุก​ท่าน​ที่​อยู่​ใน​กรุง​เย​รู​ซา​เล็ม จง​ทราบ​เรื่อง​นี้​และ​ฟัง​ถ้อย​คำ​ของ​ข้าพ​เจ้า15 คน​เหล่า​นี้​ไม่​ได้​เมา​เหล้า​องุ่น​เหมือน​อย่าง​ที่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​คิด เพราะ​ว่า​เพิ่ง​จะ​เก้า​โมง​เช้า​เท่า​นั้น16 แต่​เหตุ​การณ์​นี้​เกิด​ขึ้น​ตาม​คำ​ที่​โย​เอล​ผู้​เผย​พระ​วจนะ​กล่าว​ไว้​ว่า 17 ‘พระ​เจ้า​ตรัส​ว่า ใน​วาระ​สุด​ท้าย เรา​จะ​เท​พระ​วิญ​ญาณ​ของ​เรา​บน​มนุษย์​ทั้ง​หมด บุตรา บุตรี​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลายจะ​เผย​พระ​วจนะ บรร​ดา​คน​หนุ่ม​ของ​ท่าน​จะ​เห็น​นิมิต และ​บรร​ดา​คน​แก่​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลายจะ​ฝัน​เห็น 18 แน่​ที​เดียว​เว​ลา​นั้น เรา​จะ​เท​พระ​วิญ​ญาณ​ของ​เรา บน​ทาส​ทาสี​ของ​เรา และ​เขา​ทั้ง​หลาย​จะ​เผย​พระ​วจนะ19 เรา​จะ​สำ​แดง​การ​อัศ​จรรย์​ใน​อา​กาศ​เบื้อง​บน และ หมาย​สำ​คัญที่​แผ่น​ดิน เบื้อง​ล่าง เป็น​เลือด ไฟ และ​ไอ​ควัน 20 ดวง​อา​ทิตย์​จะ​มืด​ไป และ​ดวง​จันทร์​จะ​กลับ​เป็น​เลือด ก่อน​ถึง​วัน​ยิ่ง​ใหญ่​และ​สง่า​งามของ​พระ​เจ้า 21 และ​จะ​เป็น​เช่น​นี้​คือ ทุก​คน​ที่​ร้อง​ขอ​ใน​พระ​นาม​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จะ​ได้​รับ​ความ​รอด’….​และ​เมื่อ​พระ​องค์​ทรง​รับ​พระ​วิญ​ญาณ​บริ​สุทธิ์​จาก​พระ​บิดา​ตาม​พระ​สัญ​ญา​แล้ว พระ​องค์​ทรง​เท​ลง​มา​ดัง​ที่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ได้​ยิน​และ​ได้​เห็น….37 เมื่อ​คน​ทั้ง​หลาย​ได้​ยิน​แล้ว​ก็​รู้​สึก​แปลบ​ปลาบ​ใจ จึง​กล่าว​กับ​เป​โตร​และ​อัคร​ทูต​คน​อื่นๆ ว่า “พี่​น้อง​เอ๋ย เรา​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​ดี?”38 เป​โตร​จึง​กล่าว​กับ​เขา​ทั้ง​หลาย​ว่า “จง​กลับ​ใจ​ใหม่​และ​รับ​บัพ​ติศ​มา​ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​ให้​หมด​ทุก​คน เพื่อ​พระ​เจ้า​จะ​ทรง​ยก​ความ​ผิด​บาป​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย แล้ว​พวก​ท่าน​จะ​ได้​รับ​ของ​ประ​ทาน​คือ​พระ​วิญ​ญาณ​บริ​สุทธิ์39 เพราะ​ว่า​พระ​สัญ​ญา​นั้น​ตก​แก่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​กับ​ลูก​หลาน​ของ​พวก​ท่าน​ด้วย และ​แก่​ทุก​คน​ที่​อยู่​ไกล คือ​ทุก​คน​ที่​องค์​พระผู้​เป็น​เจ้า​พระ​เจ้า​ของ​เรา​ทรง​เรียก​ให้​มา​เฝ้า”40 เป​โตร​จึง​กล่าว​อีก​หลาย​เรื่อง​เป็น​พ​ยาน​และ​เตือน​สติ​พวก​เขา​ว่า “จง​เอา​ตัว​รอด​จาก​ชาติ​พันธุ์​ที่​คด​โกง​นี้​เถิด”41 คน​ทั้ง​หลาย​ที่​รับ​ถ้อย​คำ​ของ​เป​โตร​ก็​รับ​บัพ​ติศ​มา ใน​วัน​นั้น​มี​คน​เข้า​เป็น​สา​วก​ประ​มาณ​สาม​พัน​คน

เปโตรกำลังอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหล่าสาวกนี้ซึ่งทำให้ผู้คนประหลาดใจว่าเป็นไปได้อย่างไร มันคือฤทธานุภาพที่มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ตามที่พระคัมภีร์เดิมได้บันทึกและพยากรณ์ไว้ล่วงหน้า ว่า พระเจ้าจะเทพระวิญญาณของพระองค์ลงมาเหนือประชากรของพระองค์ เป็นฤทธิ์เดชของพระวิญญาณ ทำให้สาวกของพระเยซูผู้ที่ได้รับพระวิญญาณจากพระเยซูรับบัพติศมาเต็มล้นในพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทำให้พวกเขาพูดสิ่งที่ไม่เคยพูด รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ ยกย่องพระเจ้าอย่างที่ไม่เคยยกย่อง

ในการสอนเรื่องการอธิษฐานของพระเยซูคริสต์ตอนหนึ่ง พระเยซูได้สอนว่า มัทธิว 6:6-7  6 ฝ่าย​ท่าน​เมื่อ​อธิษฐาน​จง​เข้า​ใน​ห้อง​ชั้น​ใน และ​เมื่อ​ปิด​ประตู​แล้ว จง​อธิษฐาน​ต่อ​พระ​บิดา​ของ​ท่าน​ผู้​ทรง​สถิต​ใน​ที่​ลี้​ลับ และ​พระ​บิดา​ของ​ท่าน​ผู้​ทรง​เห็น​ใน​ที่​ลี้​ลับ​จะ​ทรง​โปรด​ประทาน​บำเหน็จ​แก่​ท่าน7 “แต่​เมื่อ​ท่าน​อธิษฐาน​อย่า​พูด​พล่อยๆ ซ้ำซาก เหมือน​คน​ต่างชาติ​กระทำ​เพราะ​เขา​คิด​ว่า​พูด​มาก​หลาย​คำ ​พระ​จึง​จะ​ทรง​โปรด​ฟัง​8 อย่า​ทำ​เหมือน​เขา​เลย เพราะ​ว่า​สิ่ง​ไร​ซึ่ง​ท่าน​ต้อง​การ ​พระ​บิดา​ของ​ท่าน​ทรง​ทราบ​ก่อนที่​ท่าน​ทูล​ขอ​แล้ว​ ถ้าอย่างนั้น สาวกของพระเยซูจะอธิษฐานยังไงที่แตกต่างจากคนต่างชาติ  นั่นคือการอธิษฐานโดยการนำของพระวิญญาณฯ ไม่ใช่การนำของเนื้อหนัง คำว่า เพราะ​ว่า​สิ่ง​ไร​ซึ่ง​ท่าน​ต้อง​การ ​พระ​บิดา​ของ​ท่าน​ทรง​ทราบ​ก่อนที่​ท่าน​ทูล​ขอ​แล้ว​ นั่นแสดงว่า เวลาอธิษฐาน อย่าใช้ความต้องการของเนื้อหนังอธิษฐาน แล้วใช้อะไรอธิษฐาน พระเยซูกำลังบอกกับสาวกของพระองค์ว่า ให้ใช้ฤทธานุภาพของพระวิญญาณอธิษฐานนั่นเอง เพราะพระเจ้าจะฟังผู้ที่อธิษฐานด้วยฤทธานุภาพแห่งพระวิญญาณเท่านั้น นี่เป็นคำตอบว่า ทำไมคำอธิษฐานของเราจึงไม่เกิดผล ไม่มีฤทธิ์เดช สิ่งนี้ไม่ขัดแย้งกับสิ่งที่หนังสือยากอบ5:16 ที่กล่าวว่า คำ​อธิษฐาน​ของ​ผู้​ชอบธรรม​นั้น​มี​พลัง​ทำ​ให้​เกิดผล​ The effectual fervent prayer  of a righteous man  availeth  muchภาษาอังกฤษใช้คำว่า คำอธิษฐานที่กระตือรือร้นของผู้ชอบธรรมทำให้เกิดผลมาก คำว่า กระตือรือร้น คำนี้ ภาษากรีกใช้คำว่า energeo มาจากรากศัพท์ที่ใช้คำว่า powerful แปลว่า มีพลังโน้มน้าว การทูลขอจากพระเจ้าที่จะเกิดประสิทธิผล ต้องมีพลังการโน้มน้าวให้พระเจ้าฟัง 1โครินธ์ 2:11  11 อัน​ความ​คิด​ของ​มนุษย์​นั้น ไม่​มี​ผู้ใด​หยั่ง​รู้​ได้ เว้น​แต่​จิต​วิญญาณ​ของ​มนุษย์​ผู้​นั้นเอง​ฉัน​ใด ​พระ​ดำริ​ของ​พระ​เจ้า​ก็​ไม่​มี​ใคร​หยั่ง​รู้​ได้ เว้น​แต่​พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​เจ้า​ฉัน​นั้น  เราคิดว่า อะไรคือพลังที่จะโน้มน้าวให้พระเจ้าจากฟ้าสวรรค์ตอบคำอธิษฐานของเรา นั่นคือ พลังที่มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่เบื้องหลังคำอธิษฐานของเรา พระวิญญาณทรงรู้จังหวะของการฟังคำอธิษฐานของพระเจ้าในชีวิตของเรานั่นเอง ​  เมื่อคนยิวในเวลานั้นได้ฟังเปโตรกล่าวถึงฤทธานุภาพแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ในผู้เชื่อ คนยิวเหล่านั้นเข้าใจ และถามทันทีว่า เขาต้องทำอย่างไร เพราะนี่คือพระสัญญาของพระเจ้าที่เขามีสิทธิ์ได้รับ  เขาถามเพราะเขามาถึงเยรูซาเล็มก็เพื่อจะให้คำอธิษฐานของเขาไปถึงพระเจ้า เพื่อพระเจ้าจะฟัง จะตอบ และทำกิจของพระองค์ในชีวิตของพวกเขา ในข้อ 38 เป​โตร​จึง​กล่าว​กับ​เขา​ทั้ง​หลาย​ว่า “จง​กลับ​ใจ​ใหม่​และ​รับ​บัพ​ติศ​มา​ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​ให้​หมด​ทุก​คน เพื่อ​พระ​เจ้า​จะ​ทรง​ยก​ความ​ผิด​บาป​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย แล้ว​พวก​ท่าน​จะ​ได้​รับ​ของ​ประ​ทาน​คือ​พระ​วิญ​ญาณ​บริ​สุทธิ์39 เพราะ​ว่า​พระ​สัญ​ญา​นั้น​ตก​แก่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​กับ​ลูก​หลาน​ของ​พวก​ท่าน​ด้วย และ​แก่​ทุก​คน​ที่​อยู่​ไกล คือ​ทุก​คน​ที่​องค์​พระผู้​เป็น​เจ้า​พระ​เจ้า​ของ​เรา​ทรง​เรียก​ให้​มา​เฝ้า

นอกจากยิวที่เชื่อในพระเยซูคริสต์เจ้าจะได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว เราทั้งหลายคือผู้ที่อยู่ไกล ที่พระเจ้าทรงเรียกให้มาเฝ้า  เราทุกคนที่มาในวันนี้ เพราะเรากลับใจใหม่ เรารับบัพติศมาในน้ำ เรารับการยกความผิดบาปจากพระเจ้าแล้วเราก็มานั่ง มายืน ลุกๆนั่งๆ ในวันอาทิตย์และกลับบ้านไปดำเนินชีวิต เพื่ออะไร เพื่ออะไร…… เพื่อพระเจ้าจะฟังเรา พระเจ้าจะตอบเรา พระเจ้าจะช่วยเรา พระเจ้าจะใช้เรา พระเจ้าจะทำอะไรอีกมากมายผ่านเรา ใช่ไม๊ ….. เราต้องการชีวิตที่มีฤทธานุภาพแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์   ให้ถามตัวเราเองว่า ทำไม เราจึงขาดอิทธิพลกับคนอื่นในทางบวก  ความจริงเราต้องแตกต่างจากคนที่ไม่มีพระเจ้า คนที่ไม่มีพระเจ้ากลัวผี คริสเตียนก็กลัวผี ความจริง ผีต้องกลัวเรา เราไปไหน ใครมีผีต้องกลัวเรา ใครทำบาปต้องกลัวเรา เพราะเราไม่ทำบาป เราเป็นเหมือนยาฆ่าเชื้อโรค ทำไมพระเยซูจึงตรัสว่าท่านทั้งหลายเป็นเกลือ เป็นแสงสว่าง เพราะสองสิ่งนี้คือมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค หยุดการเจริญเติบโตของเชื้อที่ทำให้เน่าเสีย ดังนั้น เราอยู่ที่ไหน คนที่มีเชื้อไม่ดี จะกลัว ไม่กล้าทำต่อไป นี่คือฤทธานุภาพแห่งพระวิญญาณที่ทำงานในตัวเรา นี่คือเหตุผลที่เหล่าอัครทูตในยุคสมัยนั้น จึงให้ความสนใจกับการรับพระวิญญาณบริสุทธิ์ในผู้เชื่อ กิจการ 19:1-6  1 ขณะที่​อปอล​โล​ยัง​อยู่​ใน​เมือง​โค​รินธ์ ​เปาโล​ได้​ไป​ตาม​ที่​ดอน แล้ว​มายัง​เมือง​เอเฟ​ซัส ท่าน​พบ​สาวก​บาง​คน​ที่​นั่น​2 จึง​ถาม​เขา​ว่า “เมื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เชื่อ​นั้น ท่าน​ได้รับ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​หรือ​เปล่า” เขา​ตอบ​ว่า “เปล่า เรื่อง​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​นั้น​เรา​ก็​ยัง​ไม่​เคย​ได้​ยิน​เลย”3 ​เปาโล​จึง​ถาม​เขา​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น​ท่าน​ได้รับ​บัพติศมา​อัน​ใด​เล่า” เขา​ตอบ​ว่า “บัพติศมา​ของ​ยอห์น​”4 ​เปาโล​จึง​ว่า “​ยอห์น​ให้​รับ​บัพติศมา​สำแดง​ถึง​การ​กลับ​ใจ​ใหม่ แล้ว​บอก​คน​ทั้ง​ปวง​ให้​เชื่อ​ใน​พระ​องค์​ผู้​จะ​เสด็จ​มา​ภายหลัง​คือ​พระ​เยซู”5 เมื่อ​เขา​ได้​ยิน​อย่าง​นั้น เขา​จึง​รับ​บัพติศมา​ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​เยซู​เจ้า​6 เมื่อ​เปาโล​ได้​วางมือ​บน​เขา​แล้ว ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ก็​เสด็จ​ลง​มา​บน​เขา เขา​จึง​พูด​ภาษา​แปลกๆ และ​ได้​ทำนาย​ด้วย​ สัญญาณที่สำแดงในชีวิตที่มีฤทธานุภาพแห่งพระวิญญาณฯ

1.กล้าหาญในการเป็นพยาน กิจการ 4:31

31 เมื่อ​เขา​อธิษฐาน​แล้ว ที่​ซึ่ง​เขา​ประชุม​อยู่​นั้น​ได้​หวั่นไหว และ​คน​เหล่า​นั้น​ประกอบด้วย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์ ได้​กล่าว​พระ​วจนะ​ของ​พระ​เจ้า​ด้วย​ใจ​กล้า​หาญ​  เปโตรที่เคยกลัวแม้กระทั่งเด็กรับใช้ที่ตั้งคำถามว่าอยู่กับพระเยซูหรือไม่ เปโตรปฏิเสธถึงสามครั้ง แต่วันนั้น เปโตรลุกขึ้นประกาศตัวอยู่กับพระเยซูต่อหน้าคนยิวในกรุงเยรูซาเล็มและคนยิวจากทั่วโลกมากกว่าสามพันคน นี่คือความกล้าหาญจากฤทธานุภาพแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่เปลี่ยนคนกลัวการยอมรับพระเยซูต่อหน้าคนอื่นกลาย เป็นคนที่กล้าหาญในการเป็นพยานเพื่อพระเยซู  สิ่งที่น่าสังเกตอันหนึ่งคือ เปโตรมีสิทธิอำนาจในกาารตรึงคนมากกว่าสามพันคนให้ฟังเสียงพูดเป็นเวลานานพอสมควรอย่างมีสมาธิ  นี่ก็คือฤทธานุภาพแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทำงานผ่านเปโตร  อีกคนหนึ่งคือเปาโล กิจการ 9:17-18  17 แล้ว​อา​นาเนีย​ก็​ไป และ​เข้า​ไป​ใน​ตึก​วางมือ​บน​เซาโล​ กล่าว​ว่า “พี่​เซาโล​เอ๋ย องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า คือ​พระ​เยซู​ได้​ทรง​ปรากฏ​แก่​ท่าน​กลาง​ทาง​ที่​ท่าน​มา​นั้น ได้​ทรง​ใช้​ข้าพเจ้า​มา เพื่อ​ท่าน​จะ​เห็น​ได้​อีก และ​เพื่อ​ท่าน​จะ​ได้รับ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​เต็ม​บริบูรณ์”18 และ​ใน​ทันใด​นั้น​มี​อะไร​เหมือน​เกล็ด​ตก​จาก​ตา​ของ​เซาโล​ แล้ว​ก็​เห็น​ได้​อีก ท่าน​จึง​ลุก​ขึ้น​รับ​บัพติศมา​ คำว่า เต็มบริบูรณ์ ก็คือการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณ ทำให้เปาโลหายจากตาบอด มองเห็นได้ และยอมที่จะรับบัพติศมาในน้ำกับคนยิวที่เปาโลมีศักดิ์ศรีที่สูงกว่า แต่ยอมถ่อมใจให้กดหัวลงน้ำ นี่เป็นฤทธานุภาพที่เกิดขึ้นในชีวิต อ.เปาโลเปลี่ยนไปคนละคน ความโกรธที่เคยมีกับคนยิว ทิฐิ ความก้าวร้าว ความทะนงตน ถูกฤทธานุภาพที่อยู่ในชีวิตออกฤทธิ์นำการเปลี่ยนแปลง ฤทธานุภาพจะทำงานภายในตัวเราก่อนที่จะไปทำงานในคนอื่น กิจการ 9:26-30  26 ครั้น​เซาโล​ไป​ถึง​กรุง​เยรูซาเล็ม​แล้ว ท่าน​ใคร่​จะ​คบ​ให้​สนิท​กับ​พวก​สาวก แต่​เขา​ทั้ง​หลาย​กลัว เพราะ​ไม่​เชื่อ​ว่า​เซาโล​เป็น​สาวก​27 แต่​บารนาบัส​ได้​พา​ท่าน​ไป​หา​พวก​อัครทูต และ​เล่า​ให้​เขา​ฟัง​ว่า ​เซาโล​ได้​เห็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ที่​กลาง​ทาง และ​พระ​องค์​ตรัส​แก่​ท่าน ท่าน​จึง​ประกาศ​ออก​พระ​นาม​พระ​เยซู ด้วย​ใจ​กล้า​หาญ​ใน​เมือง​ดามัสกัส​28 แล้ว​เซาโล​เข้านอกออก​ใน อยู่​กับ​พวก​อัครทูต​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม​29 ประกาศ​ออก​พระ​นาม​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ด้วย​ใจ​กล้า​หาญ ท่าน​พูด​และ​ไล่​เลียง​กับ​พวก​ที่​นิยม​กรีก แต่​พวก​นั้น​หา​ช่อง​ที่​จะ​ฆ่า​ท่าน​เสีย​30 เมื่อ​พี่​น้อง​รู้​อย่าง​นั้น จึง​พา​ท่าน​ไป​ยัง​เมือง​ซีซารียา​ แล้ว​ส่งไป​ยัง​เมือง​ทาร์ซัส 31 เหตุ​ฉะนั้น คริสตจักร​ตลอด​ทั่ว​แคว้น​ยูเดีย กาลิลี และ​สะมาเรีย​จึง​มี​ความ​สงบ​สุข​และ​เจริญ​ขึ้น ประพฤติ​ตน​ด้วย​ใจ​ยำเกรง​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า และ​ด้วย​รับ​ความ​หนุน​ใจ​จาก​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์ คริสต​สมาชิก​ก็​ยิ่ง​ทวี​มาก​ขึ้น​

2.ผีกลัว ขับผี วางมือรักษาโรค กิจการ 19:11-20

11 ​พระ​เจ้า​ได้​ทรง​กระทำ​อิทธิฤทธิ์​อัน​พิสดาร​ด้วย​มือ​ของ​เปาโล​12 จน​เขา​นำเอา​ผ้าเช็ดหน้า​กับ​ผ้า​กัน​เปื้อน​จาก​ตัว​เปาโล​ไป​วาง​ที่​ตัว​คน​ป่วย​ไข้ โรค​นั้น​ก็​หาย​และ​ผี​ร้าย​ก็​ออก​จาก​คน​13 แต่​พวก​ยิว​บาง​คน ที่​เที่ยว​ไป​เป็น​หมอ​ผี​พยายาม​ใช้​พระ​นาม​ของ​พระ​เยซู​เจ้า ขับ​ผี​ร้าย​ว่า “เรา​สั่ง​เจ้า​โดย​พระ​เยซู​ซึ่ง​เปาโล​ได้​ประกาศ​นั้น”14 พวก​ยิว​คน​หนึ่ง​ชื่อ​เส​วา​เป็น​ปุโรหิต​ใหญ่ มี​บุตร​ชาย​เจ็ด​คน​ซึ่ง​ทำ​อย่าง​นั้น​15 ฝ่าย​ผี​ร้าย​จึง​พูด​กับ​เขา​ว่า “​พระ​เยซู ข้า​ก็​คุ้นเคย และ​เปาโล​ ข้า​ก็​รู้จัก แต่​พวก​เจ้า​เป็น​ผู้ใด​เล่า”16 คน​ที่​มี​ผี​สิง​นั้น จึง​กระโดด​ใส่​คน​เหล่า​นั้น​และ​ต่อสู้​จน​ชนะ​เขา​ได้ เขา​ต้อง​หนี​ออกไป​จาก​เรือน​ตัว​เปล่า​และ​มี​บาดเจ็บ​17 เรื่อง​นั้น​ได้​ลือ​กัน​ไป​ถึง​หู​คน​ทั้ง​ปวง​ที่​อยู่​ใน​เมือง​เอเฟ​ซัส ทั้ง​พวก​ยิว​กับ​พวก​กรีก และ​คน​ทั้ง​ปวง​ก็​พา​กัน​มี​ความ​เกรง​กลัว และ​พระ​นาม​ของ​พระ​เยซู​เจ้า​ก็​เป็น​ที่​ยก​ย่อง​สรรเสริญ​18มี​หลาย​คน​ที่​เชื่อ​แล้ว​ได้มา​สารภาพ​และ​เปิด​เผย​ว่า เขา​ได้​ใช้​เวท​มนตร์​19 และ​หลาย​คน​ที่​ใช้​เวท​มนตร์​คาถา ได้​เอา​ตำรา​ของ​ตน​มา​เผา​ไฟ​เสีย​ต่อ​หน้า​คน​ทั้ง​ปวง ตำรา​เหล่า​นั้น คิด​เป็น​ราคา​เงิน​ถึง​ห้า​หมื่น​เหรียญ​20 ​พระ​วจนะ​ของ​พระ​เจ้า​ก็​บังเกิด​ผล​เจริญ​และ​มี​ชัย

เราจะเห็นบุตรเสวาพยายามเลียนแบบผู้เชื่อโดยการขับผีด้วยพระนามของพระเยซู แต่ผีไม่ออก ผีไม่กลัว เพราะคนๆนั้นไม่มีพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่มีฤทธานุภาพของพระเจ้าอยู่ในเขา 15 ฝ่าย​ผี​ร้าย​จึง​พูด​กับ​เขา​ว่า “​พระ​เยซู ข้า​ก็​คุ้นเคย และ​เปาโล​ ข้า​ก็​รู้จัก แต่​พวก​เจ้า​เป็น​ผู้ใด​เล่า”16 คน​ที่​มี​ผี​สิง​นั้น จึง​กระโดด​ใส่​คน​เหล่า​นั้น​และ​ต่อสู้​จน​ชนะ​เขา​ได้ เขา​ต้อง​หนี​ออกไป​จาก​เรือน​ตัว​เปล่า​และ​มี​บาดเจ็บ คำที่ผีมันใช้พูดว่า มันรู้จักพระเยซู คือคำว่า กินอสโค คือ มันรู้ดีที่สุด ว่าพระเยซูคือพระเจ้าที่มันต้องเกรงกลัว และระวังที่จะไม่เข้าใกล้ ส่วนเปาโล ผีมันคุ้นเคย เพราะเปาโลเปลี่ยนไปแล้ว เปาโลไม่เหมือนเดิม เปาโลเป็นคนที่มีพระวิญญาณบริสุทธิ์เต็มล้นบริบูรณ์ เป็นคนที่กำลังรับใช้พระเจ้า ผีมันคุ้นเคย คำกรีกใช้คำว่า อีพิสตัมไอ ซึ่งเป็นคนละคำกับคำว่า กีนอสโคที่ผีมันใช้กับพระเยซูที่มันรู้จัก มันรับรู้การเปลี่ยนแปลงการกลับใจใหม่ของเปาโล ซึ่งเมื่อผีมันรับรู้ มันคุ้นเคยกับชีวิตแบบนี้ที่มันต้องระวัง ไม่เข้าใกล้  เพราะเป็นชีวิตที่เอาผีอยู่  ตัวอย่างเหมือนกับสุนัขที่พร้อมจะสู้กับสิ่งที่มันไม่คุ้นเคย ไม่รู้จักว่าใครเป็นนาย มันจะรู้จักแต่คนที่เป็นนายมันและคนที่เอามันอยู่ มันคุ้นเคยกับคำสั่ง และสิทธิอำนาจ นอกเหนือจากนั้น มันกัดลูกเดียว ชีวิตที่มีฤทธานุภาพ จะเป็นชีวิตที่มารมันกลัว เพราะมันคุ้นเคยว่า เอามันอยู่ และนี่คือสิ่งที่พระเจ้าทรงทำกิจที่อัศจรรย์ผ่านชีวิตที่มีฤทธานุภาพ

3.กล่าวคำพยากรณ์ เห็นนิมิต และฝันเห็น กิจการ 2:16-18

16 แต่​เหตุ​การณ์​นี้​เกิด​ขึ้น​ตาม​คำ​ที่​โย​เอล​ผู้​เผย​พระ​วจนะ​กล่าว​ไว้​ว่า 17 ‘พระ​เจ้า​ตรัส​ว่า ใน​วาระ​สุด​ท้าย เรา​จะ​เท​พระ​วิญ​ญาณ​ของ​เรา​บน​มนุษย์​ทั้ง​หมด บุตรา บุตรี​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลายจะ​เผย​พระ​วจนะ บรร​ดา​คน​หนุ่ม​ของ​ท่าน​จะ​เห็น​นิมิต และ​บรร​ดา​คน​แก่​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลายจะ​ฝัน​เห็น 18 แน่​ที​เดียว​เว​ลา​นั้น เรา​จะ​เท​พระ​วิญ​ญาณ​ของ​เรา บน​ทาส​ทาสี​ของ​เรา และ​เขา​ทั้ง​หลาย​จะ​เผย​พระ​วจนะ

คำพยากรณ์ นิมิต ความฝัน เป็นเรื่องของอนาคต สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น หรือสิ่งที่ไม่มีให้มี ให้เกิด ให้เป็นจริง เป็นเรื่องของความหวัง เป็นเรื่องของชีวิต ฤทธานุภาพแห่งพระวิญญาณทำให้สิ่งที่เหนือธรรมชาติเหล่านี้เกิดขึ้น กิจการ 11:25-30  25 ​บารนาบัส​จึง​ไป​หา​เซาโล​ที่​เมือง​ทาร์ซัส​26 เมื่อ​พบ​แล้ว​จึง​พา​มายัง​เมือง​อันทิโอก​ ท่าน​ทั้ง​สอง​ได้​ประชุม​กัน​กับ​คริสตจักร​ตลอด​ปี​หนึ่ง ได้​สั่ง​สอน​คน​เป็น​อัน​มาก และ​ใน​เมือง​อันทิโอก​นั่นเอง พวก​สาวก​ได้​ชื่อ​ว่าค​ริส​เตียน​เป็น​ครั้ง​แรก 27 คราว​นั้น​มี​พวก​ผู้เผย​พระ​วจนะ​ลง​มา​จาก​กรุง​เยรูซาเล็ม จะ​ไป​ยัง​เมือง​อันทิโอก​28 ฝ่าย​ผู้​หนึ่ง​ใน​จำนวน​นั้น​ชื่อ​อา​กา​บัส ได้​ลุก​ขึ้น​กล่าว​โดย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ว่า จะ​บังเกิด​การ​กันดาร​อาหาร​มาก​ยิ่ง​ทั่ว​แผ่นดิน​โลก การ​กันดาร​อาหาร​นั้น ได้​บังเกิด​ขึ้น​ใน​รัช​สมัย​จักรพรรดิ​คลาวดิอัส​29 พวก​สาวก​ทุก​คน​จึง​ตก​ลง​ใจ​ว่า จะ​เรี่ยไร​กัน​ตาม​กำลัง​ฝาก​ไป​ช่วย​บรรเทา​ทุกข์​พวก​พี่​น้อง​ที่​อยู่​ใน​แคว้น​ยูเดีย​30 เขา​จึง​ได้​ทำ​ดังนั้น และ​ฝาก​ไป​กับ​บารนาบัส​และ​เซาโล​เพื่อ​นำไป​ให้​พวก​ผู้ปกครอง​  ชีวิตที่มีฤทธานุภาพแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ทำให้คริสตจักรได้รับคำพยากรณ์ล่วงหน้าถึงกันดารอาหารที่จะเกิดขึ้น และทำให้เกิดการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาทุกข์ คริสตจักรขับเคลื่อนโดยการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ คริสตจักรตอบสนองได้ทันที อย่างไม่ลังเลใจ เพราะนี่คือการสำแดงอย่างแม่นยำที่มาจากพระเจ้า คริสเตียนที่มีฤทธานุภาพแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์จะไม่พลาดโอกาสงามๆ โอกาสที่ดีๆ โอกาสที่จะช่วยเหลือคนและรับการช่วยเหลือ ในยามที่คับขัน ยามที่ความยากลำบากกำลังคืบคลานเข้ามา ชีวิตที่มีฤทธานุภาพสามารถเผชิญกับทุกสถานการณ์ได้  เปาโลได้กล่าวประโยคทองที่พลังมากมาย ฟิลิปปี 4:13  13 ข้าพเจ้า​ผจญ​ทุก​สิ่ง​ได้ โดย​พระ​องค์​ผู้​ทรง​เสริม​กำลัง​ข้าพเจ้า การเสริมกำลังที่มาจากพระเจ้า นั่นก็ฤทธานุภาพนั่นเอง อาเมน

“ชีวิตที่มีฤทธานุภาพ”

1.กล้าหาญในการเป็นพยาน

2.ผีกลัว ขับผี วางมือรักษาโรค

3.กล่าวคำพยากรณ์ เห็นนิมิต และฝันเห็น

By admin