“สู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์….จงอวยพร”
ใครๆก็ชอบการอวยพร เรารู้สึกดีกับคำว่า “พร” ที่แปลว่า ของดี, ของที่เลือกเอา, ของประเสริฐ, สิ่งที่ขอร้อง, สิ่งที่ปรารถนา a blessing, a gift, a divine favor (พระพร ของขวัญ พระเจ้าโปรดปราน) “จงอวยพร “ ก็คือ การให้พร มอบพร ส่งพร เราชอบรับพร โดยเฉพาะกับคนที่เราคิดว่า เขามีพร วันนี้ เป็นวันสงกรานต์ เป็นวันที่เราอาจมองว่า ผู้ใหญ่มีหน้าที่ต้องอวยพร เรารดน้ำดำหัวผู้อาวุโสในท่ามกลางเรา ให้ผู้ใหญ่อวยพรเรา ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ก็จะอวยพรเรื่องสุขภาพ บ้างก็หน้าที่การงาน บ้างก็เศรษฐกิจ บ้างก็เรื่องความสุขในชีวิต มีอะไรอีกที่เราต้องการให้เกิดสิ่งดีกับชีวิตของเรา
เมื่อพระเจ้าทรงสร้างโลก พระเจ้าทรงอวยพรสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง ปฐมกาล 1:21-22,27-28,31 21 พระเจ้าทรงสร้างสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ และสัตว์ที่มีชีวิตนานาชนิด ซึ่งแหวกว่ายอยู่ในน้ำ เป็นฝูงๆ ตามชนิดของมัน และนกต่างๆ ตามชนิดของมัน พระเจ้าทรงเห็นว่าดี22 พระเจ้าจึงทรงอวยพระพรแก่สัตว์เหล่านั้นว่า “จงมีลูกดกทวีมากขึ้น จนเต็มน้ำในทะเล และให้นกทวีมากขึ้นบนแผ่นดิน”….27 พระเจ้าจึงทรงสร้างมนุษย์ขึ้นตามพระฉายาของพระองค์ ตามพระฉายาของพระเจ้านั้น พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้น และได้ทรงสร้างให้เป็นชายและหญิง 28 พระเจ้าทรงอวยพระพรแก่มนุษย์ ตรัสแก่เขาว่า “จงมีลูกดกทวีมากขึ้นจนเต็มแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน จงครอบครองฝูงปลาในทะเล และฝูงนกในอากาศ กับบรรดาสัตว์ที่เคลื่อนไหวบนแผ่นดิน”…31 พระเจ้าทอดพระเนตรสิ่งทั้งปวงที่พระองค์ทรงสร้างไว้ ทรงเห็นว่าดีนัก มีเวลาเย็นและเวลาเช้า เป็นวันที่หก
ปฐมกาล 2:32 วันที่เจ็ด พระเจ้าก็เสร็จงานของพระองค์ที่ทรงกระทำมานั้น ในวันที่เจ็ดนั้นก็ทรงพักการงานทั้งสิ้นของพระองค์ที่ได้ทรงกระทำ3 พระเจ้าจึงทรงอวยพระพรแก่วันที่เจ็ด ทรงตั้งไว้เป็นวันบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ เพราะในวันนั้นพระองค์ทรงหยุดพักจากการงานทั้งปวงที่พระองค์ทรงกระทำในการเนรมิตสร้าง
จะเห็นว่า พระเจ้าทรงอวยพรสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างในวันทำงานทั้งหกวัน
31 พระเจ้าทอดพระเนตรสิ่งทั้งปวงที่พระองค์ทรงสร้างไว้ ทรงเห็นว่าดีนัก มีเวลาเย็นและเวลาเช้า เป็นวันที่หก
พระเจ้าทรงสร้าง พระเจ้าทรงอวยพร และทรงเห็นว่าดีนัก แปลว่า ดีมากๆ พระเจ้าทรงพอพระทัยทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง และพระองค์ทรงพักจากการงาน พระองค์ทรงอวยพรวันที่พัก น่าสนใจที่วันพักนั้น พระเจ้าทรงตั้งไว้ให้เป็นวันบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์….รากศัพท์ภาษาฮีบรูตรงนี้แปลว่า วันเป็นวันทำความสะอาด (ด้านศีลธรรม) ขอให้การใช้วันหยุดพักสัปดาห์หน้าเป็นวันชำระทำความสะอาด อย่าเอาอะไรที่สกปรกเข้ามาในชีวิตก็เป็นการทำความสะอาดด้วยเช่นกัน ขอให้ได้พักจริงๆ อย่าทำอะไรที่เหน็ดเหนื่อยจนไม่ได้พัก
ในพระคัมภีร์ใหม่ หลังจากเปโตรมีประสบการณ์กับการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่นาน เปโตรต้องตอบคำถามของคนที่เฉลียงซาโลมอนเรื่องคนขอทานง่อยเดินได้ และกระโดดโลดเต้นสรรเสริญพระเจ้าในบริเวณพระวิหาร คำตอบของเปโตรเกี่ยวโยงกับความหมายของการหยุดพักที่พระเจ้าต้องการให้มนุษย์ทั้งหลายได้รับพรจริงๆ กิจการ 3:19,25-26 19 เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงหันกลับและตั้งใจใหม่ เพื่อพระเจ้าจะทรงลบล้างความผิดบาปของท่านเสีย เพื่อวาระพักผ่อนหย่อนใจจะได้มาจากพระพักตร์พระเจ้า….25 ท่านทั้งหลายเป็นลูกหลานของผู้เผยพระวจนะนั้น และของพันธสัญญาซึ่งพระเจ้าได้ทรงกระทำไว้กับบรรพบุรุษของท่าน คือได้ตรัสกับอับราฮัมว่า ‘บรรดาพงศ์พันธุ์ของแผ่นดินโลกจะได้พรเพราะเชื้อสายของเจ้า’ 26 ครั้นพระเจ้าทรงโปรดให้องค์ผู้รับใช้ของพระองค์เป็นขึ้นแล้ว จึงทรงใช้พระองค์มายังท่านทั้งหลายก่อน เพื่ออวยพระพรแก่ท่านทั้งหลาย โดยให้ทุกคนกลับจากบาปของตน” คนยิวในเวลานั้น ไม่เข้าใจถึงพระสัญญาของพระเจ้าที่ให้กับอับราฮัมเรื่อง ‘บรรดาพงศ์พันธุ์ของแผ่นดินโลกจะได้พรเพราะเชื้อสายของเจ้า’ และนี่คือเฉลยของพระเจ้าผ่านเปโตรว่า การฟื้นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูคริสต์เจ้า พระเยซูทรงปรากฏกับคนยิวก่อนใคร ก็เพราะพระสัญญาที่พระเจ้าทรงมีกับอับราฮัมว่า ลูกหลานของอับราฮัมจะนำพรไปสู่คนทั่วโลก และพระพรที่แท้จริง คือ ให้ทุกคนกลับจากบาปของตน
พระพรที่แท้จริง จะนำไปสู่การได้พักผ่อนหย่อนใจที่แท้จริง คนมากมายใช้วันหยุดพัก แต่กลับเหน็ดเหนื่อยมากกว่าเดิม มากกว่าการทำงานก็มี พระพรที่แท้จริง เกี่ยวข้องกับจิตใจ และสิ่งที่ขัดขวางพระพรที่แท้จริง ก็คือ ความบาปนั่นเอง ความบาปทำให้จิตใจของคนไม่ได้หยุดพัก แท้จริงพระเจ้าทรงมีของดีมากมายที่จะมอบให้กับมนุษย์ ความบาปเป็นเหมือนขยะที่อุดตันท่อน้ำ ทำให้พระพรไหลเข้ามาในชีวิตของคนๆนั้นไม่ได้ ความบาปเป็นเหมือนหุบเหวที่ทำให้มนุษย์เชื่อมต่อกับพระเจ้าไม่ได้ พระเจ้าทรงเป็นแหล่งแห่งของดีมากมาย หากเราสามารถเชื่อมต่อกับพระเจ้าได้ พระพรก็จะหลั่งไหลมาสู่เรา เปโตรเข้าใจเรื่องนี้แจ่มชัด เมื่อเปโตรเต็มล้นด้วยพระวิญญาณ ทำให้ความคิดของเปโตรตกผลึก จากประสบการณ์การใช้ชีวิตกับพระเยซูสามปีครึ่ง หลังจากใช้เวลาในช่วงสี่สิบวันที่พระเยซูฟื้นขึ้นมาจากความตาย และหลังจากมีประสบการณ์เต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เปโตรมองเห็นพระพรที่คนจำเป็น และต้องการมากที่สุด คือ การพักผ่อนหย่อนใจที่แท้จริงก็คือ การกลับใจจากบาป
26 ครั้นพระเจ้าทรงโปรดให้องค์ผู้รับใช้ของพระองค์เป็นขึ้นแล้ว จึงทรงใช้พระองค์มายังท่านทั้งหลายก่อน เพื่ออวยพระพรแก่ท่านทั้งหลาย โดยให้ทุกคนกลับจากบาปของตน” การกลับใจใหม่ การหยุดทำบาป ทำให้เรามีความสามารถที่จะรับพระพรได้ พระเยซูฟื้นขึ้นมาจากความตายเพื่อจะทำให้เราสามารถรับพระพรได้ ทำให้เราเชื่อมต่อกับพระเจ้าได้ การติดตามพระเยซู คือการทะลวงขยะที่อุดตันพระพรที่จะมาถึงเรา นี่คือเหตุผลที่ผู้เขียนหนังสือฮีบรูกล่าวว่า ฮีบรู 12:1,15-17 1 เหตุฉะนั้นเมื่อเรามีพยานพรั่งพร้อมอยู่รอบข้างเช่นนี้แล้ว ก็ขอให้เราละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงอยู่ และบาปที่เกาะแน่น ขอให้เราวิ่งแข่งด้วยความเพียรพยายาม ตามที่ได้กำหนดไว้สำหรับเรา…15 จงระวังให้ดีอย่าให้ใครเพิกเฉยต่อพระคุณของพระเจ้า และอย่าให้มีรากขมขื่นงอกขึ้นมา ทำความยุ่งยากให้ ซึ่งจะเป็นเหตุให้คนเป็นอันมากเสียไป16 อย่าให้ใครเป็นคนลามก หรือเป็นคนผิดธัมมะเหมือนอย่างเอซาว ผู้ได้เอาสิทธิของบุตรหัวปีนั้นขายเสีย เพราะเห็นแก่อาหารเพียงมื้อเดียว17 เพราะท่านทั้งหลายก็รู้อยู่แล้วว่า ต่อมาภายหลังเมื่อเอซาวอยากได้รับพรนั้นเป็นมรดก เขาก็ได้รับคำปฏิเสธ เพราะเขาไม่มีหนทางแก้ไขเลย ถึงแม้ว่าได้กลับใจแสวงหาจนน้ำตาไหล
เอซาวเป็นตัวอย่างของคนที่ทำลายช่องทางที่จะรับพระพรด้วยการขายสิทธิบุตรหัวปี เป็นสิทธิ์แห่งการรับพรจากพ่อคืออิสอัค เพียงเพราะเรื่องกิน ทำให้เอซาวยอมขายสิทธิ์บุตรหัวปีให้กับยาโคบ ความจริงหากเราดูประวัติของพี่น้องคู่นี้ เขาเป็นฝาแฝด ที่เกิดตามกันมาเพียงเสี้ยววินาที ปฐมกาล 25:25-26 25 คนแรกคลอดออกมาตัวแดงมีขนอยู่ทั่วตัวหมด เขาจึงตั้งชื่อว่า เอซาว26 ภายหลังน้องของเขาก็คลอดออกมา มือของเขาจับส้นเท้าของเอซาวไว้ เขาจึงตั้งชื่อว่ายาโคบ เมื่อนางคลอดลูกแฝดนั้นอิสอัคมีอายุได้หกสิบปี ประวัติของพี่น้องคู่นี้ไม่ธรรมดา สิทธิ์ที่จะรับพร คลาดกันแค่เพียงใครโผล่ออกมาก่อนใคร นี่อาจเป็นสิ่งที่ยาโคบอาจได้รับคำบอกเล่าจากแม่ว่า เขาน่าจะเป็นคนที่ได้รับพรมากกว่าพี่ชาย (เอซาว) เพราะยาโคบดำเนินชีวิตที่เชื่อฟังพ่อแม่ แต่เอซาวไม่ใช่ เอซาวมีสิทธิ์เพราะเกิดก่อนเท่านั้น และเอซาวก็ดำเนินชีวิตอย่างคนที่ไม่ใส่ใจกับสิทธิ์บุตรหัวปี ดังนั้น เขาจึงขายสิทธิ์นี้ง่ายๆให้กับยาโคบเพราะตนเองหิว และอยากกินถั่วต้มที่ยาโคบปรุง ยาโคบได้รับสิทธิ์ที่จะรับพร เพราะเขาใส่ใจในสิ่งที่เขาปรารถนา แม้ไม่มี ยาโคบก็ยังมีความเชื่อว่า ไม่ผิดที่เขาปรารถนาสิ่งดี คือพร เขาอยากจะมี และเขาก็เชื่อว่าเขามีได้ และในเวลาต่อมา ลูกหลานของยาโคบได้พิสูจน์ความเชื่อนี้ คือชนอิสราเอลสิบสองเผ่า ที่เป็นต้นตระกูลกำเนิดของพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระเจ้ามาประสูติ เติบใหญ่ ทำพันธกิจ สั่งสอน และสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน และฟื้นขึ้นมาอวยพระพร นำคนกลับใจจากบาป
เป้าหมายของข่าวประเสริฐคือการนำคนกลับใจใหม่จากบาป รับการไถ่บาปโดยพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ ดำเนินชีวิตเป็นคริสเตียน เป็นสาวกของพระเยซู ก็คือ เป็นเหมือนพระเยซู คืออวยพระพรคน เพื่ออวยพระพรแก่ท่านทั้งหลาย โดยให้ทุกคนกลับจากบาปของตน”
“สู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์….จงอวยพร” มีคำพูดหนี่งกล่าวว่า “เราไม่สามารถให้สิ่งที่เราไม่มี” เรามักจะคิดว่า เราต้องมีพร เราจึงจะอวยพรได้ ถ้าเราเดินตามเส้นทางของพระเยซูคริสต์จริง ก่อนพระเยซูจะอวยพระพร พระองค์ฟื้นก่อน ก่อนพระองค์จะฟื้น พระองค์ต้องตายก่อน ก่อนพระองค์จะตาย พระองค์ต้องถูกตรึงก่อน ก่อนถูกตรึง พระองค์ต้องต่อสู้กับตัวเอง เพื่อจะให้เป็นน้ำพระทัยของพระบิดา มิใช่ความปรารถนาของพระองค์เอง นี่คือคำอธิษฐานในสวนเกทเสมเน คืนที่พระเยซูทรงมีเหงื่อออกมาจนเป็นเหมือนเลือด นี่คือความทุกข์ทรมานที่สุดที่พระเยซูต้องต่อสู้เพื่อเอาชนะตนเอง คำเชิญชวนที่พระเยซูทรงเรียกคนให้มาเป็นสาวกของพระองค์ให้เดินในเส้นทางเดียวกัน ก็คือ
มัทธิว 16:24 24….“ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามาให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับกางเขนของตนแบกและตามเรามา
คริสเตียนทุกคนจงฟังดีๆ เราถูกกำหนดมาให้อวยพร ดังนั้น จงตั้งเป้าที่จะรับพรเพื่อส่งต่อพรให้กับคนรอบข้าง อย่าตั้งเป้ารับพรเพื่อเสวยสุขกับพระพรคนเดียว และพรที่เราจะส่งต่อ ก็คือการทำให้คนมาถึงวาระแห่งการพักผ่อนหย่อนใจที่แท้จริง อะไรก็ตามที่ทำให้ไม่ได้พักผ่อน แต่กลับทำให้กลายเป็นภาระหนัก นั่นไม่ใช่พร แต่เป็นเพลิง ทำให้ร้อนรุ่ม กินไม่ได้ นอนไม่หลับ พักไม่มี เหนื่อยตลอดเวลา นั่นไม่เป็นพร ขอให้เราเดินในทางของพระเยซูจริงๆ ทางของพระเยซูจะนำเราไปสู่การฟื้นขึ้นมาใหม่ เราจะฟื้นไม่ได้ ถ้าเราไม่ตายต่อตัวเอง เราตายตัวเราเองไม่ได้ ถ้าเราไม่แบกกางเขน และเราจะไปไม่ถึงการแบกกางเขน หากเราไม่ต่อสู้เพื่อเอาชนะตนเอง และนี่คือเส้นทางก่อนที่เราจะนำสิ่งดีไปสู่คนอื่น ด้วยการอวยพร นำคนกลับใจใหม่ที่แท้จริง คนที่กลับใจใหม่จริงๆ จะได้รับพรที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้กับอับราฮัม พรของคนอิสราเอลจะเป็นของเรา เมื่อเราเดินในทางของพระเยซู เส้นทางสู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์…จงอวยพร สิ่งที่น่าสังเกตเพื่อเป็นบทเรียนสำหรับเราในวันนี้ก็คือ
1.จงกำจัดขยะอุดตันพระพร ฮีบรู 12:1
1 เหตุฉะนั้นเมื่อเรามีพยานพรั่งพร้อมอยู่รอบข้างเช่นนี้แล้ว ก็ขอให้เราละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงอยู่ และบาปที่เกาะแน่น ขอให้เราวิ่งแข่งด้วยความเพียรพยายาม ตามที่ได้กำหนดไว้สำหรับเรา… พระเยซูสอนสาวกให้เอาชนะตนเอง ก่อนที่จะแบกกางเขน การเอาชนะตนเอง คือการทิ้งทุกอย่างที่ถ่วง บาปที่เกาะแน่น ไม่มีใครช่วยเราได้ นี่คือการต่อสู้กับตัวเอง บางคนว่า มันยาก เราต้องเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนวิธีให้อาหารทางความคิดด้วย หากเรายังให้อาหารทางความคิดที่เป็นเนื้อหนัง เราจะคิดและทำอย่างที่คิดอย่างเนื้อหนัง แต่ถ้าเราให้อาหารทางความคิดของเราเป็นฝ่ายวิญญาณ เราจะมีเรี่ยวแรงต่อสู้กับความคิดของเนื้อหนัง เพราะพระวิญญาณกับเนื้อหนังเป็นศัตรูกัน เราจะต่อสู้ เราจะไม่เห็นด้วย
ข้าพเจ้าเคยคิดว่าจะออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก คุมอาหาร แต่วิธีคิด ยังไม่ได้สนับสนุนให้เป็นอย่างที่ตั้งใจ ข้าพเจ้ายังคิดอยากกิน โน่นนี่นั่น ยังคิดขี้เกียจ ไม่ได้คิดขยัน ยังคิดแบบไม่ต่อสู้ ยังคิดอย่างคนที่ยอมแพ้ แค่นี้ ก็ไม่สำเร็จ จนกระทั่งข้าพเจ้าต้องเปลี่ยนวิธีคิด คือ ข้าพเจ้าอยากมีสุขภาพที่ดี อยากมีสุขภาพที่แข็งแรง อยากมีหุ่นที่ดี และอยากเฟิร์ม อยากมีกล้ามเนื้อ มันมาเป็นลำดับ ข้าพเจ้าเลือกเวลาที่จะออกกำลังกายที่ดีต่อสไตล์ชีวิตของตนเอง คือตื่นเช้า ข้าพเจ้าเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ไม่คิดเหมือนเดิม วันนี้ ได้ชื่นชมสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้น ข้าพเจ้าได้กำจัดขยะอุดตันพระพร พระเจ้าก็ทรงอวยพร สุขภาพข้าพเจ้า แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ สิ่งที่คิดว่า เป็นคำสาปแช่งของครอบครัวที่จะส่งต่อมายังเรา นั่นคือ โรคเบาหวาน ความดัน หัวใจ มันมาไม่ถึง เพราะพระพร ทำลายคำแช่งสาป ข้าพเจ้ากลับใจใหม่ และกลับใจใหม่หลายเรื่องในชีวิต รวมทั้งเรื่องกิน เรื่องดื่ม เรื่องการพักผ่อน เรื่องการใช้เวลา และวิธีคิด จงจัดการกับสิ่งที่เป็นขยะอุดตันพระพร
2.จงจัดการชีวิตด้วยจิตใจใหม่ ฮีบรู 12:15
15 จงระวังให้ดีอย่าให้ใครเพิกเฉยต่อพระคุณของพระเจ้า และอย่าให้มีรากขมขื่นงอกขึ้นมา ทำความยุ่งยากให้ ซึ่งจะเป็นเหตุให้คนเป็นอันมากเสียไป พระคัมภีร์สุภาษิตได้กล่าวไว้เกี่ยวกับชีวิตอย่างนี้ว่า
สุภาษิต 4:23 23 จงรักษาใจของเจ้าด้วยความระวังระไวรอบด้าน เพราะชีวิตเริ่มต้นออกมาจากใจ
คำว่า “รักษา” รากศัพท์ภาษาฮีบรู แปลว่า เป็นคนยาม ที่ทำหน้าที่คุ้มกัน รักษาไว้ เชื่อฟัง…เหมือนกับสิ่งที่ปิดผนึกไม่ให้ถูกแกะออกได้ “ใจ” เป็นศูนย์กลางของอารมณ์ ความคิด แรงบันดาลใจ ความกล้าหาญ และการกระทำ การจะเป็นคนยามของใจที่พระคัมภีร์สุภาษิตพูดถึง คือใจที่มีคุณภาพ ใจที่เป็นของคนชอบธรรม ใจที่ไม่สร้างความยุ่งยากให้กับชีวิตและคนรอบข้าง
โรม 12:2 2 อย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบน้ำพระทัยของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัยและอะไรดียอดเยี่ยม
นี่คือการจัดการชีวิตด้วยจิตใจใหม่ คำอวยพรจะออกมาจากชีวิตของเรา เมื่อเรามีจิตใจใหม่ ไม่ยากที่จะอวยพร บ่อยครั้งข้าพเจ้าให้พวกเราจับคู่กันอวยพรกัน หลายคนรู้สึกยากที่จะมีคำอวยพรออกมาจากปากของตนเอง ลองให้คำอวยพรนั้นมาจากจิตใจ แล้วจะพบว่า ไม่ยากที่จะอวยพร
3.จงปรารถนารับพรอย่างยาโคบ ฮีบรู 12:16-17
16 อย่าให้ใครเป็นคนลามก หรือเป็นคนผิดธัมมะเหมือนอย่างเอซาว ผู้ได้เอาสิทธิของบุตรหัวปีนั้นขายเสีย เพราะเห็นแก่อาหารเพียงมื้อเดียว17 เพราะท่านทั้งหลายก็รู้อยู่แล้วว่า ต่อมาภายหลังเมื่อเอซาวอยากได้รับพรนั้นเป็นมรดก เขาก็ได้รับคำปฏิเสธ เพราะเขาไม่มีหนทางแก้ไขเลย ถึงแม้ว่าได้กลับใจแสวงหาจนน้ำตาไหล
แม้เราจะไม่ได้เป็นบุตรหัวปี แต่เราสามารถที่จะรับพรอย่างบุตรหัวปีได้ หากเรามีความปรารถนาอย่างเดียวกันกับยาโคบ ยาโคบมีความเชื่อ เขาพยายาม และพยายาม และเมื่อมีโอกาส ยาโคบกล้าที่จะพูดเพื่อให้สิทธิ์ที่ไม่ใช่ของตนเอง มาเป็นของตนเอง ข้าพเจ้าตีความการกระทำของยาโคบคือ ความเชื่อ
ฮีบรู11:1 1 ความเชื่อคือความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นความรู้สึกมั่นใจว่า สิ่งที่ยังไม่ได้เห็นนั้นมีจริง
ในความเป็นจริง ยาโคบหมดสิทธิ์ไปแล้ว แต่เขายังมีความเชื่อและความปรารถนา ที่จะเป็นผู้สืบทอดพรจากพ่อของตนเอง มันใม่ใช่สิ่งที่ผิด หรือเป็นบาปเลยที่จะเชื่อและปรารถนาสิ่งที่ดี (พร)
1ทิโมธี 3:11 คำนี้เป็นคำจริง คือว่าถ้าผู้ใดปรารถนาหน้าที่ผู้ปกครองดูแลคริสตจักร ผู้นั้นก็ปรารถนากิจการงานที่ประเสริฐ
อย่าเป็นอย่างเอซาวที่นอกจากจะไม่ปรารถนาแล้ว ยังทำลายสิทธิ์ของตนเอง ซึ่งในสิทธิ์นั้น เอซาวมองแค่ว่า มันทำอะไรให้กับเขาบ้าง แทนที่เอซาวจะมองว่า ในสิทธิ์ที่ตนเองมีนั้น เขาจะทำอะไรเพื่อคนอื่นได้บ้าง
ปฐมกาล 25:29-34 29 วันหนึ่งขณะที่ยาโคบต้มอาหารอยู่ เอซาวกลับมาจากท้องทุ่งหิวจัดอดอยาก30 เอซาวพูดกับยาโคบว่า “ขอให้ข้ากินของแดงนั้น ของแดงนั้นน่ะ เพราะเราหิวจัด” (เพราะฉะนั้นเขาจึงเรียกชื่อว่าเอโดม)31 ยาโคบว่า “ขายสิทธิบุตรหัวปีของพี่ให้ฉันก่อนซี”32 เอซาวว่า “ดูซิ ข้ากำลังจะตายอยู่แล้ว สิทธิบุตรหัวปีจะเป็นประโยชน์อะไรแก่ข้า”33 ยาโคบว่า “สาบานให้ฉันก่อน” เอซาวจึงสาบานให้ และขายสิทธิบุตรหัวปีของตนแก่ยาโคบ34 ยาโคบจึงให้ขนมปังและถั่วแดงต้มแก่เอซาว เขาก็กินและดื่ม แล้วลุกไป ดังนี้เอซาวก็ดูหมิ่นสิทธิบุตรหัวปีของตน
เอซาวไม่เพียงไม่ใส่ใจกับสิทธิ์บุตรหัวปี แต่เอซาวยังดูหมิ่นดูถูกช่องทางแห่งพระพรนี้ ด้วยการตั้งเป็นราคาที่ถูกเท่ากับอาหารจานเดียว และก็ไม่สำนึก ไม่กลับใจใหม่ จนกระทั่งพ่อของตนเองใกล้จะตาย ถึงจะตระหนัก ก็สายเกินไปแล้ว พ่อคือคนที่จะอวยพร เปรียบเหมือนพรใกล้จะจากไป เอซาวถึงจะรู้ว่า ตัวเองได้พลาดพระพรของตนเองแล้ว
ปฐมกาล 27:34,38 34 เมื่อเอซาวได้ยินบิดากล่าวเช่นนั้นก็ร้องออกมาเสียงดังด้วยความขมขื่น และพูดกับบิดาว่า “คุณพ่อครับ ขออวยพรผม ขออวยพรผมด้วย”….38 เอซาวพูดกับบิดาว่า “พ่อครับ พ่อมีพรแต่เพียงพรเดียวเท่านั้นหรือ พ่อครับ ขออวยพรลูก ขออวยพรลูกด้วย” แล้วเอซาวก็ตะเบ็งเสียงร้องไห้
นักวิชาการพระคัมภีร์ได้วิเคราะห์ว่า เอซาวพลาดพระพรที่เขาควรได้รับ เพราะตัวเอง เอซาวได้ทำบาปห้าอย่างอันได้แก่ 1. ฆ่าคนบริสุทธิ์ 2. นอนกับหญิงพรมจารีย์ก่อนแต่งงาน 3. ปฏิเสธการดำรงอยู่ของพระเจ้า 4. ดูหมิ่นสิทธิบุตรหัวปีของตนเอง 5. อยากให้พ่อตาย และอยากจะเอาชีวิตของยาโคบ สิ่งที่เอซาวควรได้จึงหลุดลอยไปอยู่กับคนที่มีความปรารถนา และเป็นผู้อารักขาที่ดี เราจะพบว่า ยาโคบมีชีวิตบั้นปลายที่ดี ในขณะที่เกิดการกันดารอาหารทั่วโลก พรที่ยาโคบได้รับ ทำให้เขาได้อยู่ในที่ที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ทีสุด คืออียิปต์ และโยเซฟ ลูกชายของยาโคบเป็นถึงผู้นำระดับสูงรองจากฟาโรห์ พรที่ยาโคบได้รับส่งต่อไปยังลูกทุกคน และไปถึงอิสราเอลสิบสองเผ่าให้เข้าแผ่นดินคานาอัน ที่อุดมไปด้วยน้ำผึ้งและน้ำนม
เยเรมีย์ 17:7-8 7 “คนที่วางใจในพระเจ้าย่อมได้รับพระพร คือผู้ที่ความวางใจของเขาอยู่ในพระเจ้า8 เขาเป็นเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมน้ำ ซึ่งหยั่งรากของมันออกไปข้างลำน้ำ เมื่อแดดส่องมาถึงก็ไม่กลัว เพราะใบของมันคงเขียวอยู่เสมอ และไม่กระวนกระวายในปีที่แห้งแล้ง เพราะมันไม่หยุดที่จะออกผล”
“สู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์….จงอวยพร”
1.จงกำจัดขยะอุดตันพระพร
2.จงจัดการชีวิตด้วยจิตใจใหม่
3.จงปรารถนารับพรอย่างยาโคบ