“ขนมปังห้าก้อน ปลาสองตัว”
มีคนตั้งโจทย์ว่า ถ้ามีเงิน 100 บาท ถ้าใช้อย่างประหยัดสุด สามารถซื้อของกินได้กี่วัน มีคำตอบที่น่าสนใจ
- เคยซื้อ แป้งสาลีราคาถูก มา 2 กิโล =50 บาท มาการีน 35 น้ำตาลแดง 1 กิโล 18 บาท ทำขนมปังกินได้ทั้งเดือนเลยค่ะ ตอนนั้นออกไปทำวิจัยอยู่ต่างจังหวัด ยากจนสุดๆ
- ข้าวสารถุงละ 80 ปลาเค็ม 15บาท เหลือไว้ดูเป็นกำลังใจ 5บาท อยู่ได้ครึ่งเดือน
วิธีทำ- ต้มข้าวต้มทุกมื้อ ปลาเค็มนั้นแขวนไว้ดูและดมตอนกินข้าว
คำตอบที่พยายามใช้เงิน 100 บาท สำหรับการอยู่รอดของตนเอง
แต่มีอีกคำถามที่ถามว่า เงิน 1 อเมริกันดอลล่าร์ (ประมาณ 36 บาท) จะเลี้ยงครอบครัวหนึ่งได้นานแค่ไหน
- มีคนส่งภาพมาให้ข้าพเจ้า เป็นครอบครัวในประเทศหนึ่ง ข้าพเจ้าจำชื่อไม่ได้ พร้อมกับรูปสมาชิกในครอบครัว 5 คน ในภาพมีถุงแป้งประมาณสักห้ากก. และก็ผักประเภทหัวๆ และพริกแบกับดิน และเขียนว่า เงินหนึ่งดอลล่าร์ ซื้อได้เท่านี้ สามารถอยู่ได้หนึ่งเดือน
ข้าพเจ้าเคยไปอบรมไมโครไฟแนนซ์ ประโยคที่จำแม่นที่สุดก็คือ คนจนมีสติปัญญาในการใช้เงินได้ดีที่สุด ด้วยเงินจำนวนเล็กน้อย ก็สามารถใช้เลี้ยงครอบครัวทั้งหมดได้ และยาวนานได้ด้วย ในพระคัมภีร์มีเรื่องราวของการใช้สิ่งที่มีราคาเล็กน้อยที่สุด เพื่อเลี้ยงคนจำนวนมาก ดังนี้
ยอห์น 6:5-13 5 พระเยซูทรงเงยพระพักตร์ทอดพระเนตรเห็นคนเป็นอันมากพากันมาหาพระองค์ พระองค์จึงตรัสกับฟีลิปว่า “ทำอย่างไรเราจึงจะซื้ออาหารให้คนเหล่านี้กินได้” 6 พระองค์ตรัสอย่างนั้นเพื่อจะลองใจฟีลิป เพราะพระองค์ทรงทราบแล้วว่า พระองค์จะทรงกระทำประการใด7 ฟีลิปทูลตอบพระองค์ว่า “สองร้อยเหรียญเดนาริอัน ก็ไม่พอซื้ออาหารให้เขากินกันคนละเล็กละน้อย” 8 สาวกคนหนึ่งของพระองค์ คืออันดรูว์น้องชายของซีโมนเปโตรทูลพระองค์ว่า9 “ที่นี่มีเด็กคนหนึ่งมีขนมบารลีห้าก้อนกับปลาสองตัว แต่เท่านั้นจะพออะไรกับคนมากอย่างนี้” 10 พระเยซูตรัสว่า “ให้คนทั้งปวงนั่งลงเถิด” ที่นั่นมีหญ้ามาก คนเหล่านั้นจึงนั่งลง นับแต่ผู้ชายได้ประมาณห้าพันคน11 แล้วพระเยซูก็ทรงหยิบขนมปังนั้น เมื่อโมทนาพระคุณแล้ว ก็ทรงแจกแก่บรรดาคนที่นั่งอยู่นั้น และให้ปลาด้วยตามที่เขาปรารถนา12 เมื่อเขาทั้งหลายกินอิ่มแล้วพระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “จงเก็บเศษอาหารที่เหลือไว้ อย่าให้มีสิ่งใดตกหล่น”13 เขาจึงเก็บเศษขนมบารลีห้าก้อนซึ่งเหลือจากที่คนทั้งหลายได้กินแล้วนั้นใส่กระบุงได้สิบสองกระบุงเต็ม
สำนวนที่คริสเตียนเอามาใช้จากพระคัมภีร์ สำหรับความหมายเล็กน้อย ก็คือ ขนมปังห้าก้อน ปลาสองตัว เพราะเป็นอาหารสำหรับเด็กหนึ่งคน สำหรับหนึ่งมื้อเท่านั้น ขนมปังที่เด็กน้อยที่พระคัมภีร์กล่าวถึง เป็นขนมปังราคาถูก (ทำจากข้าวบารเลย์) และปลาเค็มตัวเล็กสองตัว บ่งบอกถึงฐานะที่ยากจนของเด็กคนนี้ ดูเหมือนไม่น่าจะมีความสำคัญอะไรกับคนจำนวนมากมายที่กำลังติดตามพระเยซู แต่กลับกลายเป็นว่า ขนมปังห้าก้อน ปลาสองตัว อยู่กับเด็กคนหนึ่ง ( ทั้งๆที่มีเด็กมากมายในที่นั้นด้วย) แต่เด็กที่มีขนมปังห้าก้อน ปลาสองตัวคนนี้ เป็นเด็กคนเดียวที่มีอาหารเล็กน้อยนี้สำหรับที่จะเป็นต้นทุนของการอัศจรรย์ที่พระเยซูจะใช้สำหรับเลี้ยงคนจำนวนมากมาย เรื่องการเลี้ยงคนห้าพันคน ถูกบันทึกในพระกิตติคุณทั้งสี่เล่ม เป็นไฮไลท์การอัศจรรย์ที่คนจดจำและมีประสบการณ์มากที่สุดก็ว่าได้ และไม่มีการพลาดที่จะบันทึก ขนมปังห้าก้อน ปลาสองตัว (สิ่งเล็กน้อย กลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่…ได้ยังไง)มาวิเคราะห์วิธีคิดของพระเยซูคริสต์เจ้า…
1.ปัญหาที่ได้ยิน ยอห์น 6:5-6
5 พระเยซูทรงเงยพระพักตร์ทอดพระเนตรเห็นคนเป็นอันมากพากันมาหาพระองค์ พระองค์จึงตรัสกับฟีลิปว่า “ทำอย่างไรเราจึงจะซื้ออาหารให้คนเหล่านี้กินได้6 พระองค์ตรัสอย่างนั้นเพื่อจะลองใจฟีลิป เพราะพระองค์ทรงทราบแล้วว่า พระองค์จะทรงกระทำประการใด
พระเจ้าทรงได้ยินปัญหาของท่านเสมอ โดยเฉพาะเรื่องปากท้องของมนุษย์
มัทธิว 6:25-26 25 “เหตุฉะนั้น เราบอกท่านทั้งหลายว่า อย่ากระวนกระวายถึงชีวิตของตนว่า จะเอาอะไรกิน หรือจะเอาอะไรดื่ม และอย่ากระวนกระวายถึงร่างกายของตนว่า จะเอาอะไรนุ่งห่ม ชีวิตสำคัญยิ่งกว่าอาหารมิใช่หรือ และร่างกายสำคัญยิ่งกว่าเครื่องนุ่งห่มมิใช่หรือ26 จงดูนกในอากาศ มันมิได้หว่าน มิได้เกี่ยว มิได้ส่ำสมไว้ในยุ้งฉาง แต่พระบิดาของท่านทั้งหลาย ผู้ทรงสถิตในสวรรค์ทรงเลี้ยงนกไว้ ท่านทั้งหลายมิประเสริฐกว่านกหรือ
พระเจ้าทรงห่วงใยเรื่องปากท้องของเราทุกคน ขนาดนก พระเจ้ายังทรงเลี้ยง แล้วเรา พระเจ้าจะมิยิ่งจัดเตรียมให้หรือ หนังสือยอห์นบันทึกตอนนี้ว่า พระเยซูทรงถามฟิลิป เพราะพระองค์ทรงรู้แล้วว่าจะทำยังไง คำถามที่ถามฟิลิป “ทำอย่างไรเราจึงจะซื้ออาหารให้คนเหล่านี้กินได้ คำถามนี้กำลังบอกกับเราว่า พระเจ้าไม่ได้คาดหวังเราให้ทำเกินกำลังความสามารถของเราเลย เพราะพระองค์ทรงรู้ว่าเราจำกัด
7 ฟีลิปทูลตอบพระองค์ว่า “สองร้อยเหรียญเดนาริอัน ก็ไม่พอซื้ออาหารให้เขากินกันคนละเล็กละน้อย” 8 สาวกคนหนึ่งของพระองค์ คืออันดรูว์น้องชายของซีโมนเปโตรทูลพระองค์ว่า9 “ที่นี่มีเด็กคนหนึ่งมีขนมบารลีห้าก้อนกับปลาสองตัว แต่เท่านั้นจะพออะไรกับคนมากอย่างนี้”
ทั้งฟิลิปและอันดรูว์ ต่างก็แสดงความจำกัดของตนเองออกมา ด้วยคำตอบที่ว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเลี้ยงคนห้าพันคน เพราะเรามีเงินไม่พอ และมีอาหารของคนยากจนที่เลี้ยงเด็กตัวเล็กๆหนึ่งคนเท่านั้น คำตอบของฟิลิปและอันดรูว์ คือความจริงของมนุษย์ และมีเหตุผลเพียงพอสำหรับพระเยซูที่จะทำการอัศจรรย์ได้แล้ว คุณคิดว่า พระเยซูไม่รู้หรือ ยอห์นบอกว่า พระองค์รู้ ว่าพระองค์จะทำอะไร แต่ที่พระองค์ถามเพื่อให้สาวกหาคำตอบ คำตอบคือคำว่า เป็นไปไม่ได้ คุณว่าใครได้ยิน ….พระเจ้าพระบิดาทรงได้ยิน ได้ยินอะไร ได้ยินปัญหา ได้ยินคำว่า เป็นไปไม่ได้ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่ไม่มีอะไรเป็นไม่ได้ แล้วพระองค์จะทรงนิ่งเฉยอยู่หรือ
ในสังคมของเรา ในโลกโซเชียล กำลังทำสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างหนึ่ง (เราไม่พูดถึงสิ่งที่แย่ๆจากโลกโซเชียล นั่นคือ การทำให้ปัญหาเป็นที่ได้ยิน และมีการช่วยกันเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องให้มีการจัดการกับปัญหามีคนมองข้าม ไม่สนใจ และขาดการช่วยเหลือ เมื่อปัญหาของคนบางคนที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือ เป็นที่ได้ยิน คนที่มีกำลังก็เข้ามาช่วยกัน เช่นเดียวกัน วิธีคิดของพระเยซูในเวลานี้ คือ ทำให้ปัญหาเป็นที่ได้ยิน ความจริง สาวกได้ยิน แต่คำตอบของสาวก ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาอย่างพระเจ้า
มัทธิว 14:15-17 15 ครั้นเวลาเย็นแล้วพวกสาวกมาทูลพระองค์ว่า “ที่นี่กันดารอาหารนัก และบัดนี้ก็เย็นลงมากแล้ว ขอพระองค์ทรงให้ประชาชนไปเสียเถิด เพื่อเขาจะได้ไปซื้ออาหารรับประทานตามหมู่บ้าน” การแก้ปัญหาของสาวกคือ ส่งพวกเขากลับบ้านไปรับผิดชอบตนเอง นี่เป็นวิธีแก้ปัญหาจากการได้ยินปัญหาอย่างง่ายๆ 16 ฝ่ายพระเยซูตรัสกับพวกสาวกว่า “เขาไม่จำเป็นต้องไปจากที่นี่ พวกท่านจงเลี้ยงเขาเถิด”17 พวกสาวกจึงทูลพระองค์ว่า “ที่นี่พวกข้าพระองค์มีแต่ขนมปังเพียงห้าก้อนกับปลาสองตัวเท่านั้น”
วิธีแก้ปัญหาของพระเยซูตรงกันข้ามกับสาวกอย่างสิ้นเชิง ซึ่งสาวกกลับมองว่า วิธีของพระเยซูยิ่งสร้างปัญหาซ้อนขึ้นมาอีก คือการเลี้ยงคนจำนวนมากจากสิ่งที่มีเพียงเล็กน้อย สาวกมองเห็นแต่ปัญหาและปัญหา ถ้าทำมากก็ยิ่งมีปัญหามาก สาวกกำลังแนะนำพระเยซูแบบอ้อมๆว่า พระองค์อย่าทำอะไรมากเลย อยู่เฉยๆ แล้วปัญหามันจะแก้ปัญหาของมันเอง ???? เรากำลังคิดอย่างพระเยซู หรือคิดอย่างสาวก ในการมองขนมปังห้าก้อน ปลาสองตัว เป็นปัญหา หรือเป็นหนทางสู่การอัศจรรย์ เรากำลังทำให้ขนมปังห้าก้อน ปลาสองตัวเป็นปัญหาที่ได้ยินแบบไหน แบบหยุด ยุติ ดับความคิดที่จะช่วย ดับความเชื่อ หรือต่อยอดได้ เป็นหนทางสู่การอัศจรรย์ได้
2.อยูในมือใคร ยอห์น 6:10-13
10 พระเยซูตรัสว่า “ให้คนทั้งปวงนั่งลงเถิด” ที่นั่นมีหญ้ามาก คนเหล่านั้นจึงนั่งลง นับแต่ผู้ชายได้ประมาณห้าพันคน11 แล้วพระเยซูก็ทรงหยิบขนมปังนั้น เมื่อโมทนาพระคุณแล้ว ก็ทรงแจกแก่บรรดาคนที่นั่งอยู่นั้น และให้ปลาด้วยตามที่เขาปรารถนา12 เมื่อเขาทั้งหลายกินอิ่มแล้วพระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “จงเก็บเศษอาหารที่เหลือไว้ อย่าให้มีสิ่งใดตกหล่น”13 เขาจึงเก็บเศษขนมบารลีห้าก้อนซึ่งเหลือจากที่คนทั้งหลายได้กินแล้วนั้นใส่กระบุงได้สิบสองกระบุงเต็ม
ข้าพเจ้าชอบคำพูดของพี่น้องท่านหนึ่ง เมื่อตอนเข้ามาในคริสตจักรเราใหม่ๆ เขามองเห็นคริสตจักรเราเล็กๆ แต่ทำอะไรมากมายหลายอย่าง เราเป็นขนมปังห้าก้อน ปลาสองตัว ที่สามารถเลี้ยงและดูแลคนมากมายได้ เราไม่มีเงินเก็บสะสมในธนาคาร แต่เราก็เลี้ยงผู้รับใช้มานับสิบปี สมาชิกของเราไม่ใช่เศรษฐี แต่เราก็ไปได้ทุกๆเดือน เรากำลังเดินในเส้นทางเดียวกันกับพระเยซู คริสตจักรนี้อยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้า มิใช่ในมือของเราเอง ยิ่งจำกัด ยิ่งเห็นการอัศจรรย์ พระเยซูเป็นผู้บุกเบิกความเชื่อให้กับเรา พระองค์เสด็จมาเกิดในความจำกัด แต่พระองค์ทรงทำสิ่งที่ไม่จำกัด โดยการพึ่งพาพระบิดาบนฟ้าสวรรค์ วันนี้ สิ่งที่อยู่ในมือเรา ดูเหมือนจะมีมากกว่าพระเยซูในวันนั้นเสียอีก
มีคริสตจักรไม่น้อยที่มั่งคั่ง แต่ดำเนินไปอย่างคนที่มีวิธีคิดแบบที่ขัดสน กับคำว่า ไม่พอ หรือคำว่า จะพออะไร ถ้าเรายังคิดแบบชาวโลก ความเชื่อ ความไว้วางใจในพระเจ้า ของคริสเตียนก็กำลังอยู่ในกระบวนการที่เรียกว่า Critical process died
เมื่อวานคอมพิวเตอร์ของข้าพเจ้าขึ้นข้อความนี้ แล้วมันก็ไม่ทำงานเลย หยุดนิ่ง ข้าพเจ้าทำอะไรไม่ได้เลยหรือ ข้าพเจ้ากำลังเตรียมคำเทศนา และกำลังมีนัดหมายที่ต้องตอบจดหมายให้กับทางพี่น้องที่กำลังรอความช่วยเหลือจากข้าพเจ้าผ่านทางอินเตอร์เน็ด และข้าพเจ้าก็ต้องใช้คอมพิวเตอร์เพื่อนำอธิษฐานรุ่งอรุณทุกเช้า และในคจ.ทัศนาจร ข้าพเจ้าคิด และคิด ขอบคุณพระเจ้าข้าพเจ้าไม่ได้ตกใจ และพระเจ้าทรงให้สติปัญญามองเห็นปัญหา และวิธีแก้ปัญหา บนพื้นฐานว่า ข้าพเจ้ามีอะไรในมือ ข้าพเจ้าจึงฆ่าไวรัสด้วยโปรแกรมที่มี (ความจริงข้าพเจ้าไม่มีความรู้มาก และไม่รู้สาเหตุของปัญหา) แต่พระเจ้าทรงรู้ ผลก็คือ แก้ได้ คอมพิวเตอร์กลับมาทำงานปกติ และดีกว่าเดิม ไม่มีสิ่งที่น่ารำคาญใจหน้าจอ เตือนว่า คอมพิวเตอร์ของคุณมีปัญหาอีก นี่ถือว่าเป็นการอัศจรรย์หรือไม่
พระเยซูทรงเดินหน้าแก้ปัญหาด้วยขนมปังห้าก้อน ปลาสองตัว
มัทธิว 14:18 18 พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “เอาอาหารนั้นมาให้เราเถิด”
พระเยซูกำลังบอกว่า เอาขนมปังห้าก้อน ปลาเค็มเล็กๆสองตัว เอาปัญหาของคุณมาไว้ในมือเรา นอกจากจะไม่เป็นปัญหาแล้ว พระเยซูจะใช้สิ่งนั้นแก้ปัญหาให้ สิ่งเล็กน้อย…กลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ จงมองดูว่า ขนมปังห้าก้อน ปลากะจิ๋วสองตัว ยังอยู่ในมือของคุณอยู่ หรือยู่ในมือของพระเยซู
สิ่งที่น่าสังเกตว่า เมื่อชนมปังห้าก้อน ปลาสองตัว ถูกเอามาไว้ในมือของพระเยซูก่อน แล้วพระองค์ก็คืนกลับมา ขนมปังยังเป็นขนมปังเดิม แต่ปริมาณมันเพิ่มในมือของคนที่จะกิน เราจะพบว่า มีขนมปังเหลือเก็บถึงสิบสองกระบุง
12 เมื่อเขาทั้งหลายกินอิ่มแล้วพระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “จงเก็บเศษอาหารที่เหลือไว้ อย่าให้มีสิ่งใดตกหล่น”13 เขาจึงเก็บเศษขนมบารลีห้าก้อนซึ่งเหลือจากที่คนทั้งหลายได้กินแล้วนั้นใส่กระบุงได้สิบสองกระบุงเต็ม
แสดงว่า อาหารเพิ่มในมือของคนกิน พระเยซูแบ่งอาหารออกไป คนที่รับ รับด้วยความเชื่อ แม้จะเล็กน้อย แต่ไม่ได้รังเกียจว่ามันเล็กน้อย แต่เมื่ออาหารถูกส่งต่อไป มันสามารถเลี้ยงคนห้าพันคนได้ นี่คือความมหัศจรรย์ ทุกคนกินอิ่ม แต่อาหารไม่หมด ไม่ใช่อาหารมีมากเพียงพอ แต่อาหารสามารถทำให้คนอิ่ม และยังเหลืออีกสิบสองกระบุง พระเยซูทรงตรัสสั่งสาวกว่า “จงเก็บเศษอาหารที่เหลือไว้ อย่าให้มีสิ่งใดตกหล่น” มันคือเศษอาหาร ตอนไปมันคือเศษอาหาร ที่เหลือพระเยซูก็ยังเรียกขนมปังห้าก้อน ว่า เศษอาหาร น่าสังเกตว่า ปลาหมด ไม่เหลือ เหลือแต่ขนมปัง พวกเขาได้กินปลาเต็มที่ จนหมด ไม่เหลือ ปลาน่าจะอร่อยสุด และเป็นอาหารที่ดีสุด กินมากเท่าที่อยากกิน พวกเขากินจนหมด ไม่เหลือ เหลือแต่ขนมปัง
ขอบคุณพระเจ้าที่พี่น้องบางคนตัดสินใจไปพักผ่อน กับขนมปังห้าก้อน ปลาสองตัวด้วยกัน โดยแต่เดิม กังวลเรื่องทำมาหากิน กังวลเรื่องสิ่งที่ท่านมีอยู่น้อยอยู่แล้ว ยิ่งหยุดทำมาหากิน ยิ่งน้อยลงไปอีกหรือ ข้าพเจ้าอยากบอกว่า ท่านตัดสินใจถูกแล้ว การตัดสินของท่านคือการเอาขนมปังห้าก้อนปลาสองตัวไปไว้ในมือของพระเยซู ให้พระองค์เป็นผู้ทำให้มันสามารถเลี้ยงคนห้าพันคน ไม่ใช่แค่คนในครอบครัวของท่าน อาเมน
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ ยังมีอีกหลายอย่างที่เราแต่ละคนจะถูกทดสอบกับการมองขนมปังห้าก้อน ปลาสองตัวในแต่มุมของชีวิตเรา สิ่งนั้น อาจไม่ใช่แค่อาชีพการงาน การเงิน แต่อาจเป็นความสามารถ สติปัญญา การศึกษา ฐานะทางสังคม เศรษฐกิจ จงมอบขนมปังห้าก้อน ปลาสองตัวไว้ในมือของพระเยซู แล้วพระองค์จะทำสิ่งเล็กน้อยให้ยิ่งใหญ่เอง อาเมน
ขนมปังห้าก้อน ปลาสองตัว
1.ปัญหาที่ได้ยิน
2.อยู่ในมือใคร