“สู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์…อย่างนกอินทรี”

มีนิทานเรื่องเล่าว่า ลูกนกอินทรีถูกเลี้ยงกับลูกไก่ มันได้รับการป้อนอาหารอย่างลูกไก่ มันหาอาหารอย่างลูกไก่ มันกินอาหารแบบไก่ ที่ไม่มีชีวิต นานๆจะได้หนอนที่มีชีวิตสักตัว มันตื่นเต้นกับอาหารที่มีชีวิต ในขณะที่พวกลูกไก่ต่างเยาะเย้ยมันว่า มันไม่เป็นที่ชอบใจของแม่ไก่ เพราะมันทำตัวแตกต่างจากแม่ไก่ แม่ไก่สอนอะไรมันทำตาม แต่ก็ไม่เหมือนไก่ มันกลายเป็นแกะดำ หลงฝูง มันกลายเป็นลูกไก่ที่มีความคิดที่แตกต่าง จากลูกไก่ มันคิดว่ามันผิดปกติ เพราะมันคิดอย่างลูกนกอินทรี มันไม่ใช่ลูกไก่ จนมันโต มันจึงรู้ว่ามันไม่ใช่ลูกไก่ แต่เป็นลูกนกอินทรี

บินสูง บินเร็ว สายตาแหลมคม ความคิดการตัดสินใจเร็ว มันหาอาหารได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการจับปลาที่กำลังว่ายน้ำ

มันมีนิสัยทำรังในที่สูง มีความอดทน มีความขยันและมีแรงต้านพายุฝน และมีภูมิต้านทานต่ออากาศที่ไม่ดี

ลูกของมันปลอดภัยมากๆ เพราะมันมีความรับผิดชอบในการปกป้องลูกให้อยู่ภายใต้ปีกของมัน และปีกของมันสามารถปกป้องลูกในยามที่มีพายุ และอากาศที่ไม่ดี

มันกระฉับกระเฉง แข็งแรง และมีพลัง

และขณะที่มันกำลังเติบโต โดยสันชาตญาณของนกอินทรี มันฝีกกระพือปีก มันออกกำลังกาย จนมันแข็งแรงที่จะบินออกจากรัง เป็นนกอินทรีที่ไม่ต้องรอแม่เอาหารมาป้อนมันอีกต่อไป มันรู้จักหาอาหารกินเอง

น่าสนใจที่ว่า ลูกนกอินทรีที่อยู่กับลูกไก่ จะไม่รู้ว่ามันเป็นนกอินทรี จนกว่ามันจะโตเต็มที่ ความโตเต็มที่ของมันทำให้มันแตกต่างจากลูกไก่  นี่คือเป้าหมายที่พระเยซูคริสต์ต้องการให้คนของพระองค์โตเต็มที่ เพื่อจะได้รู้ว่า เราคือนกอินทรี

เอเฟซัส 4:13-14 13 จนกว่า​เรา​ทุก​คน​จะ​บรรลุ​ถึง​ความ​เป็น​น้ำ​หนึ่ง​ใจ​เดียว​กัน​ใน​ความ​เชื่อ และ​ใน​ความ​รู้​ถึง​พระ​บุตร​ของ​พระ​เจ้า จนกว่า​เรา​จะ​โต​เป็น​ผู้ใหญ่​เต็มที่ คือ​เต็ม​ถึง​ขนาด​ความ​ไพบูลย์​ของ​พระ​คริสต์​14 เพื่อ​เรา​จะ​ไม่​เป็น​เด็ก​อีก​ต่อไป ถูก​ซัด​ไป​ซัด​มา​และ​หัน​ไป​เหมา​ด้วย​ลมปาก​แห่ง​คำ​สั่ง​สอน​ทุก​อย่าง และ​ด้วย​เล่ห์​กล​ของ​มนุษย์​ตาม​อุบาย​ฉลาด​อัน​เป็น​การ​ล่อลวง​

แต่เป้าหมายของมารซาตาน คือ ลัก ฆ่าและทำลาย ถ้าเราไม่ตาย มารก็ต้องทำทุกวิถีทางที่คริสเตียนจะเลี้ยงไม่โต ดังนั้น การล่อลวงที่ร้ายกาจของมารซาตาน ก็คือการทำให้นกอินทรีกลายเป็นลูกไก่ แต่ตัวอย่างที่พระเยซูทรงยกไว้เมื่อสองพันปีที่แล้ว ไม่ใช่ลูกไก่ แต่คืออีแร้ง ลูกนกอินทรีอาจถูกเลี้ยงร่วมอยู่กับลูกอีแร้ง

มัทธิว 24:23-28 23 ​ใน​เวลา​นั้น​ถ้า​ผู้ใด​จะ​บอก​พวก​ท่าน​ว่า ‘แน่ะ ​พระ​คริสต์​อยู่​ที่นี่’ หรือ ‘อยู่​ที่​โน่น’ อย่าได้​เชื่อ​เลย​24 ด้วย​ว่า​จะ​มี​พระ​คริสต์​เทียม​เท็จ และ​ผู้​ทำนาย​เทียม​เท็จ​หลาย​คน​เกิดขึ้น ทำ​หมาย​สำคัญ​อัน​ใหญ่​และ​การ​มหัศจรรย์ ล่อลวง​แม้​ผู้​ที่​พระ​เจ้า​ทรง​เลือกสรร​ให้​หลง ถ้า​เป็นได้​  25 ดู​เถิด เรา​ได้​กล่าว​เตือน​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ไว้​ก่อน​แล้ว​26 เหตุ​ฉะนั้น​ถ้า​ใคร​จะ​บอก​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ว่า ‘ท่าน​ผู้​นั้น​อยู่​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร’ ​ก็​จง​อย่า​ออกไป หรือ​จะ​ว่า ‘อยู่​ที่​ห้อง​ใน​’ ​ก็​จง​อย่า​เชื่อ​27 ด้วย​ว่า​ฟ้า​แลบ​มา​จาก​ทิศ​ตะวันออก ส่อง​ไป​จนถึง​ทิศ​ตะวันตก​ฉัน​ใด การ​เสด็จ​มา​ของ​บุตร​มนุษย์​ก็​จะ​เป็น​ฉัน​นั้น28 ซากศพ​อยู่​ที่​ไหน​ฝูง​นก​แร้ง​ก็​จะ​ตอม​กัน​อยู่​ที่​นั่น

ความเหมือนมากที่แยกแทบไม่ออกเลย จะทำให้คนเป็นอันมาก หลงไป และคำว่า ในเวลานั้น ก็หมายถึงเวลาที่ใกล้ที่พระเยซูกำลังจะเสด็จกลับมา เวลาที่จะมีภัยพิบัติมากมายเกิดขึ้น เวลาที่ความทุกข์ของคนในโลกจะมีมากขึ้น (ความสุขน้อยลงไปเรื่อยๆ) เวลาที่พระเยซูพูดถึง คือเวลาในยุคของเรานี่เอง  เราได้เห็นทุกอย่างที่พระคัมภีร์ทำนาย เป็นจริงในยุคของเรา รวมถึงสิ่งเทียมเท็จมากมาย  อาหารเทียม แม้กระทั่งคนเทียม (หุ่นยนต์)หญิงเทียม ชายเทียม ของเทียมมากมายจนหาของแท้ยากเหลือเกิน ธรรมชาติเทียม น้ำตกเทียม ไดโนเสาเทียม อวัยวะเทียม  สิ่งเทียมเหล่านี้ เราสามารถแยกแยะออกได้ไม่ยาก แต่ที่แยกยาก ดูยากที่สุด นั่นคือ พระคริสต์เทียม ผู้เผยพระวจนะเทียม พระเยซูตรัสว่า คนที่อ้างตัวว่าเป็นพระคริสต์เทียมเท็จ เป็นผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จเหล่านี้ จะมีสิ่งที่เหมือนมาก นั่นคือการ ทำ​หมาย​สำคัญ​อัน​ใหญ่​และ​การ​มหัศจรรย์ ล่อลวง​แม้​ผู้​ที่​พระ​เจ้า​ทรง​เลือกสรร​ให้​หลงถ้า​เป็นได้​25 ดู​เถิด เรา​ได้​กล่าว​เตือน​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ไว้​ก่อน​แล้ว​ และความเหมือนมากนี้ จะมีคนของพระเจ้า (คนที่พระเจ้าทรงเลือกสรรไว้) ติดตาม  คำที่พระคัมภีร์ใช้คือคำว่า หลง  รากศัพท์ภาษากรีกแปลว่า ถูกทำให้ออกจากทาง ถูกนำให้ออกจากทางที่ปลอดภัย ออกจากทางของความจริง ออกจากวิถีชีวิตที่เที่ยงตรงทางศีลธรรม (นัยยะก็คือ ถูกหลอก ถูกนำไปอย่างผิดทิศทาง) พระเยซูทรงย้ำว่า พระองค์ได้เตือนไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะมีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น

และในยุคของเรามีมากขึ้นเรื่อยๆ  ยังคงย้ำ “อย่าเชื่อ”  หากมีคนอ้างว่าพระเยซูจะเสด็จมาเมื่อนั้นเมื่อนี้  นั่นคือคำสอนเท็จ พระองค์ยกตัวอย่างเรื่องฟ้าแลบ เพื่อเป็นตัวอย่างว่าไม่มีใครรู้ล่วงว่าฟ้าจะแลบจากทิศไหน การเสด็จของพระองค์ก็เป็นเช่นนั้น

 28 ซากศพ​อยู่​ที่​ไหน​ฝูง​นก​แร้ง​ก็​จะ​ตอม​กัน​อยู่​ที่​นั่น คือคำปิดท้ายการเตือนเรื่องพระคริสต์เทียม ผู้เผยพระวจนะเทียม

แร้ง หรือ อีแร้ง[1] (อังกฤษ: Vulture) เป็นนกขนาดใหญ่จำพวกหนึ่ง อยู่ในกลุ่มนกล่าเหยื่อเช่นเดียวกับเหยี่ยว, อินทรี หรือนกเค้าแมว โดยที่แร้งถือว่าเป็นนกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มนี้  แร้ง จะแตกต่างจากไปนกในกลุ่มนี้คือ จะไม่ล่าเหยื่อหรือกินสัตว์เป็น ๆ เป็นอาหาร แต่จะกินเฉพาะซากสัตว์ที่ตายแล้ว อันเนื่องจากอุ้งตีนของแร้งนั้นไม่แข็งแรงพอที่จะขย้ำเหยื่อได้ เพราะได้วิวัฒนาการให้มีอุ้งตีนที่แบนและกรงเล็บที่เล็กสั้นเหมาะกับการอยู่บนพื้นดินมากกว่านกล่าเหยื่อจำพวกอื่น อีแร้งเป็นนกชนิดหนึ่ง พวกมันกินซากศพเพื่อยังชีพ พวกมันจะบินวนๆ อยู่เหนือสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอ ถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง และกำลังจะตาย  ว่ากันว่าอีแร้งไม่แข็งแรงมากพอที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้อาหาร มันจึงต้องกินซากศพ

พวกกลุ่มเก่ามีสายตาเป็นเลิศ มองปร๊าดเดียวก็รู้แล้ว ว่าเหยื่ออยู่ที่ไหน  ส่วนกลุ่มอีแร้งใหม่ จะหาซากอาหารโดยการใช้จมูกดมกลิ่นเอาที่ไหนเหม็นเน่า (ไม่มีความสดของชีวิต) พวกนี้จะไว

ความแตกต่างระหว่างอีแร้ง กับนกอินทรี ในการหาอาหาร นกอินทรีจะล่าเหยื่อด้วยตัวเอง เดี่ยวๆ แต่อีแร้งจะไปเป็นฝูง เพราะมันไม่ล่าเหยื่อ มันใช้วิธี รุมกินโต๊ะ กินเหยื่อที่ตายแล้ว นกอินทรีที่โตเต็มวัย จะมีความสามารถในการหาอาหารได้ด้วยตัวมันเอง  ลูกนกอินทรีจะต้องรอพ่อแม่ของมันป้อนให้  พระคัมภีร์ได้กล่าวถึงความเป็นทารกของคริสเตียน เป็นลูกนกที่ยังกินอาหารแข็งไม่ได้ เพราะยังดำเนินชีวิตอย่างเนื้อหนัง

1โครินธ์3:1-3 1 พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย ข้าพเจ้า​ไม่​อาจจะ​พูด​กับ​ท่าน เหมือน​พูด​กับ​ผู้​ที่​อยู่​ฝ่าย​วิญญาณ​แล้ว​ได้ แต่​ต้อง​พูด​กับ​ท่าน​เหมือน​คน​ที่​อยู่​ฝ่าย​เนื้อ​หนัง เหมือนกับ​ท่าน​เป็น​ทารก​ใน​พระ​คริสต์​2 ข้าพเจ้า​เลี้ยง​ท่าน​ด้วย​น้ำนม มิใช่​ด้วย​อาหาร​แข็ง เพราะ​ว่า​เมื่อก่อน​นั้น​ท่าน​ยัง​ไม่​สามารถ​รับ และ​ถึงแม้​เดี๋ยวนี้​ท่าน​ก็​ยัง​ไม่​สามารถ​3 ด้วย​ว่า​ท่าน​ยัง​อยู่​ฝ่าย​เนื้อ​หนัง เพราะ​ว่า​เมื่อ​ยัง​อิจฉา​กัน และ​ขัด​เคือง​ใจ​กัน ท่าน​ไม่ได้​อยู่​ฝ่าย​เนื้อ​หนัง​หรือ และ​ไม่ได้​ประพฤติ​ตาม​มนุษย์​สามัญ​ดอก​หรือ​

คำวา ประพฤติ​ตาม​มนุษย์​สามัญ​ มีความหมายถึง ยังดำเนินชีวิตเหมือนคนทั่วไป คนทั่วไป คนส่วนใหญ่ทำอะไร คนเหล่านั้น ทั้งกินอาหารที่ตายแล้ว  อ.เปาโลได้เปรียบเทียบคริสเตียนตรงกันข้ามกับคนทั่วไปอย่างนี้

2โครินธ์ 2:16-17 16 ฝ่าย​หนึ่ง​เป็น​กลิ่น​แห่ง​ความ​ตาย​ซึ่ง​นำไปสู่​ความ​ตาย และ​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง​เป็น​กลิ่น​หอม​แห่ง​ชีวิต​ซึ่ง​นำไปสู่​ชีวิต ใคร​เล่า​จะ​มี​ความ​สามารถ​เหมาะสม​กับ​พันธ​กิจ​เหล่า​นี้​17 เพราะ​ว่า​เรา​ไม่​เหมือน​คน​เป็น​อัน​มาก ที่​เอา​พระ​วจนะ​ของ​พระ​เจ้า​ไป​ขาย​กิน แต่​ว่า​เรา​ประกาศ​ด้วย​อาศัย​พระ​คริสต์​อย่าง​คน​สัตย์​ซื่อ อย่าง​คน​ที่มา​จาก​พระ​เจ้า และ​อย่าง​คน​ที่​อยู่​จำเพาะ​พระ​พักตร์​พระ​เจ้า​

 นี่เป็นภาพเปรียบเทียบระหว่างนกอินทรีกับอีแร้ง  วิถีสู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์ …ต้องอย่างนกอินทรี มิใช่อีแร้ง  นกอินทรีดำรงชีพด้วยอาหารที่มีชีวิต แต่อีแร้งดำรงชีพด้วยซากศพ ไม่มีชีวิต    ผู้เขียนสดุดีได้กล่าวถึงวิถีของผู้ที่นมัสการพระเจ้า

สดุดี 103:1-5 1 จิตใจ​ของ​ข้า​เอ๋ย จง​ถวาย​สาธุการ​แด่​พระ​เจ้า และ​ทั้งสิ้น​ที่​อยู่​ภาย​ใน​ข้า จง​ถวาย​สาธุการ​แด่​พระ​นาม​บริสุทธิ์​ของ​พระ​องค์2 จิตใจ​ของ​ข้า​เอ๋ย จง​ถวาย​สาธุการ​แด่​พระ​เจ้า และ​อย่า​ลืม​พระ​ราช​กิจ​อันมี​พระ​คุณ​ทั้งสิ้น​ของ​พระ​องค์ 3 ผู้​ทรง​อภัย​ความ​บาป​ผิด​ทั้งสิ้น​ของ​ท่าน ผู้​ทรง​รักษา​โรค​ทั้งสิ้น​ของ​ท่าน 4 ผู้​ทรง​ไถ่​ชีวิต​ของ​ท่าน​มา​จาก​ปาก​แดน​ผู้ตาย ผู้​ทรง​สวม​ความ​รัก​มั่นคง​และ​พระ​กรุณา​ให้​ท่าน 5 ผู้​ทรง​ให้​ท่าน​อิ่ม​ด้วย​ของ​ดี ตลอด​ชีวิต​ของ​ท่าน วัย​หนุ่ม​ของ​ท่าน​จึง​กลับคืน​มา​ใหม่​อย่าง​วัย​นก​อินทรี

ภาพที่เราเคยได้รับคือ นกอินทรีแก่หมดแรง ต้องลอกจงอยปาก ต้องถอนกรงเล็บ ถอนขนเก่า เป็นภาพผิดๆมาตลอด พระคัมภีร์สดุดีตอนนี้กำลังบอกเราว่า นกอินทรีแม้จะอยู่ในวัยแก่ มันก็ยังแข็งแรงยังกับวัยหนุ่ม และมันสามารถมีอาหารดีๆกินได้ตลอดชีวิตของมัน เปรียบกับมนุษย์ผู้ซึ่งรอคอยพระเจ้าตลอดชีวิต คือชีวิตที่ใกล้ชิดติดสนิทกับพระเจ้า เขาจะได้รับอาหารที่มีชีวิตตลอดเวลา  ความแข็งแรงของคนๆนั้น จะแข็งแรงและอิ่มด้วยของดี  (สดใหม่) เสมอ อาเมน  นกอินทรีคือแบบอย่างที่พระเจ้าต้องการให้คนของพระองค์เป็นในด้านใดบ้าง

1.มีเรี่ยวแรง สายตา และปัญญา (สดใหม่)

อิสยาห์40:31  31แต่​เขา​ทั้ง​หลาย​ผู้​รอ​คอย​พระ​เจ้า​จะ​เสริม​เรี่ยว​แรง​ใหม่ เขา​จะ​บิน​ขึ้น​ด้วย​ปีก​เหมือน​นก​อินทรี เขา​จะ​วิ่ง​และ​ไม่​เหน็ด​เหนื่อย เขา​จะ​เดิน​และ​ไม่​อ่อน​เปลี้ย​

นกอินทรีหาเหยื่อด้วยความเร็ว เกิดจากพลังการขับเคลื่อน ที่แข็งแรงของปีก  นกอินทรีอยู่รอดได้ด้วยอาหารที่สดใหม่ ดังนั้น นกอินทรีจะต้องมีกำลังปีกที่แข็งแรง ข้าพเจ้าได้ดูสารคดีเกี่ยวกับลูกนกอินทรี กว่ามันจะบินออกจากรัง มันจะกระพือปีกในรังของมันหลายสัปดาห์ นี่คือการออกกำลังกาย และข้าพเจ้าเชื่อแน่ เมื่อมันโต มันก็ยังไม่หยุดออกกำลังกาย เพราะมันรู้ว่า ปีกของมันคือกำลังที่จะพามันไปได้เร็ว เร็วจนปลาหนีไม่ทัน ข้าพเจ้าทึ่งกับภาพที่นกอินทรีจับปลาบนผิวน้ำได้  แสดงว่า นกอินทรีนอกจากจะมีปีกที่แข็งแรงแล้ว มันยังมีสายตาที่แหลมคมชัด ที่จะมองเห็นตำแหน่งของปลาที่จะรู้ว่า เงาของมันจะไม่ทำให้ปลารู้ตัวเสียก่อน ที่จะเข้าใกล้และจับปลาได้ การวัดองศา การหักเหของแสง โดยธรรมชาติ ปลาจะหนีเงาและเสียงที่ใกล้มันอย่างรวดเร็ว แต่นกอินทรีสามารถจับปลาได้ และเป็นปลาตัวใหญ่เสียด้วย  และที่สำคัญ การจับปลาทะเล ย่อมเป็นที่ที่ไม่มีที่เกาะ ปีกต้องทำหน้าที่บินและเหินเวหาบนฟ้าตลอดเวลาขณะอยู่ที่สูง เพื่อจะโฉบ จากที่สูง ลงตำแหน่งที่แม่นยำ นั่นคือไม่เหนื่อยง่ายๆ ไม่ล้าง่าย นี่คือภาพนกอินทรีที่พระเจ้าต้องการให้คริสเตียนเป็น และพระเจ้าคาดหวังเราเป็นได้ กุญแจสำคัญ เราต้องอยู่ใกล้พระเจ้า ผู้ทรงเสริมกำลังแก่เรา อ.เปาโลได้กล่าวว่า

ฟิลิปปี 4:13 13 ข้าพเจ้า​ผจญ​ทุก​สิ่ง​ได้ โดย​พระ​องค์​ผู้​ทรง​เสริม​กำลัง​ข้าพเจ้า

คริสตจักรของเราเป็นชุมชนอัครทูต คำว่า อัครทูต แปลว่า ถูกส่งออกไป  เพื่อทำหน้าที่สามอย่าง 1. ปุโรหิต 2. ผู้เผยพระวจนะ 3. กษัตริย์ บทบาทปุโรหิต คือบทบาทของคนที่อยู่ใกล้พระเจ้า อยู่ในการทรงสถิตของพระเจ้า ทำหน้าที่อธิษฐานเพื่อคนมากมาย และแนะนำให้คนดำเนินชีวิตอย่างถูกสุขอนามัยทั้งร่างกายและฝ่ายวิญญาณ ปุโรหิตเป็นแบบอย่างชีวิตที่ปราศจากตำหนิ  ส่วนบทบาทผู้เผยพระวจนะ  ซึ่งสัญลักษณ์ของเขาก็คือนกอินทรี เขาจะแข็งแรงทางความคิด คิดอย่างพระเจ้าคิด เพราะเขาได้รับการสื่อสารจากพระเจ้าเพื่อพูดกับคน   ผู้เผยพระวจนะได้รับเรี่ยวแรง การมอง และสติปัญญาอย่างจากพระเจ้า ที่สดใหม่ ดังนั้น คริสเตียนทุกคนคือผู้ที่พระเยซูส่งออกไป เพื่อจะจับคนเหมือนอย่างจับปลา  และบทบาทสุดท้าย คือกษัตริย์  คือลักษณะที่สอง

 

2.พระเจ้าเป็นที่ลี้ภัย

ศัตรูคือมารซาตาน ถูกเปรียบเทียบเป็นเหมือนงู  (พญานาค)  ที่จ้องจะลัก ฆ่าและทำลาย ทุกสิ่งที่อ่อนแอ โดยเฉพาะคริสเตียนที่บาดเจ็บ อ่อนแอ  คริสเตียนจะรอดพ้นจากการถูกโจมตีของศัตรู คือมารซาตาน คริสเตียนต้อง บินสูง และอยู่รังที่สูง เป็นเหมือนกษัตริย์ที่อยู่ในราชวังที่ปลอดภัย

วิวรณ์ 12:13-17 13 เมื่อ​พญานาค​นั้น​เห็น​ว่า​มัน​ถูก​ผลัก​ทิ้ง​ลง​ไป​ใน​แผ่นดิน​โลก​แล้ว มัน​ก็​ไล่​ตาม​หญิง​ที่​คลอด​บุตร​ชาย​นั้น​14 แต่​พระ​เจ้า​ทรง​ประทาน​ปี​กนก​อินทรี​ใหญ่​สอง​ปีก​แก่​หญิง​นั้น เพื่อให้​นาง​บิน​หนี​พญานาค​เข้า​ไป​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร จนถึง​ที่​ซึ่ง​นาง​จะ​ได้รับ​การ​เลี้ยง​ดู​ตลอด​วาระ​หนึ่ง​และ​สอง​วาระ​และ​ครึ่ง​วาระ15 งู​นั้น​ก็​พ่น​น้ำ​ออก​จาก​ปาก​เหมือน​แม่น้ำ​ไหล​ตาม​หญิง​นั้น เพื่อ​จะ​ให้​พัด​หญิง​นั้น​ไป​16 แต่​แผ่นดิน​ก็​ได้​ช่วย​หญิง​นั้น​ไว้​ได้ โดย​แยก​ออกเป็น​ช่อง​แล้ว​สูบ​น้ำ​ที่​พ่น​ออก​จาก​ปาก​พญานาค​นั้น​ลง​ไป​17 พญานาค​โกรธ​แค้น​หญิง​นั้น มัน​จึง​ออกไป​ทำ​สงคราม​กับ​พงศ์​พันธุ์​ของ​นาง​ที่​เหลืออยู่​นั้น คือ​ผู้​ที่​ประพฤติ​ตาม​พระ​บัญญัติ​ของ​พระ​เจ้า และ​ยึดถือ​คำ​พยาน​ของ​พระ​เยซู และ​มัน​​ก็​ได้​ยืน​อยู่​ที่​หาด​ทราย​ชายทะเล​

หนังสือวิวรณ์ได้กล่าวถึงการเสด็จมาบังเกิดของพระเยซูในตอนที่เป็นทารก และขณะที่พระองค์อยู่ในครรภ์ของนางมารีย์  กษัตริย์เฮโรด ได้ออกบัญชาให้ประหารเด็กที่คลอดออกมาใหม่จนถึงอายุสองปี เพราะคำทำนายว่า การมาเกิดของเด็กคนหนึ่งในเวลานั้น คือการบังเกิดของกษัตริย์ ที่จะมาปกครอง  หนังสือวิวรณ์ได้กล่าวถึงพระเจ้าประทานปีกของนกอินทรีใหญ่ให้กับหญิงนั้น ก็คือนางมารีย์รอดพ้นจากการถูกทำลาย เพื่อการปกป้องแก่กษัตริย์ที่มาประสูติ และเติบโตขึ้นด้วยปีกของนกอินทรีที่ทำให้รอดพ้นจากการทำลายของซาตาน  ปีกของนกอินทรีใหญ่ให้ไปถึงรังที่อยู่สูง และเป็นที่ลี้ภัย ปลอดภัย จากการทำร้ายของศัตรูได้   จำเป็นที่เราจะต้องมีที่ลี้ภัย  ที่ปลอดภัย คนมากมายมีเซฟตี้โซน ซึ่งคิดว่า จะทำให้ตนเองปลอดภัย  แต่ความจริงแล้ว เซฟตี้โซนที่เราสร้างขึ้นมาเป็นกับดักขังตัวเรานั่นเอง พระคัมภีร์ได้กล่าว การเข้าลี้ภัยในพระเจ้าคือการออกจากกับดักนั่นเอง เซฟตี้โซนของเรา มีอะไรบ้าง…….อะไรที่ยังเป็นมุมมืด มุมที่ไม่สามารถเปิดเผย ไม่สามารถให้การเยียวยาเข้าไปถึง มุมที่ไม่ยอมให้แตะ ไม่เปิดประตู  บางคนปิดตาย

สดุดี 31:1-4 1 ข้า​แต่​พระ​เจ้า ข้า​พระ​องค์​ลี้​ภัย​ใน​พระ​องค์ ขอ​อย่า​ให้​ข้า​พระ​องค์​ได้​อาย​เลย ขอ​ทรง​ช่วย​กู้​ข้า​พระ​องค์​ใน​ความ​ชอบธรรม​ของ​พระ​องค์2 ขอ​ทรงเงี่ย​พระ​กรรณ​ให้แก่​ข้า​พระ​องค์ ขอ​ทรง​ช่วย​ข้า​พระ​องค์​ให้​รอด​อย่าง​รวดเร็ว​เถิด ขอ​พระ​องค์​ทรง​เป็น​พระ​ศิลา​ลี้​ภัย​ของ​ข้า​พระ​องค์ เป็น​ป้อม​ปราการ​เข้มแข็ง​ที่​จะ​ช่วย​ข้า​พระ​องค์​ให้​รอด 3 ​พระ​เจ้า​ข้า ​พระ​องค์​ทรง​เป็น​พระ​ศิลา​และ​เป็น​ป้อม​ปราการ​ของ​ข้า​พระ​องค์ ขอ​ทรง​พา​และ​นำ​ข้า​พระ​องค์​ด้วย​เห็น​แก่​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์ 4 ขอ​ทรง​ปลด​ข้า​พระ​องค์​ออก​จาก​ข่าย​ที่​ดัก​ข้า​พระ​องค์​อยู่ เพราะ​พระ​องค์​ทรง​เป็น​ที่​ลี้​ภัย​ของ​ข้า​พระ​องค์

หากเราต้องการความรวดเร็วในคำตอบที่มาจากพระเจ้า การช่วยกู้ที่มาจากพระองค์ เราต้องหาที่ลี้ภัยอย่างนกอินทรี อย่าหนีปัญหาด้วยวิธีอย่างนกกระจอกเทศ โดยเอาหัวมุดรู มองไม่เห็นศัตรูที่ไล่ล่า ก็เข้าใจว่าตนเองปลอดภัย นั่นเป็นวิธีโง่ๆ  แต่สำหรับนกอินทรี อยู่ที่สูง เห็นศัตรูชัด และถ้าจะสู้ ก็สู้กลางอากาศ  เพราะศัตรูจะสิ้นเรี่ยวแรงเมื่อต่อสู้กับนกอินทรีกลางอากาศ นกอินทรีมีปีกที่แข็งแรง เช่นเดียวกัน คริสเตียนมีปีกที่แข็งcรง คือปีกของพระเจ้า พระเจ้าจะทรงทำให้เราเข้าสู่การต่อสู้อย่างนกอินทรี

อพยพ 19:3-4 3 โมเสส​ขึ้น​ไป​เฝ้า​พระ​เจ้า ​พระ​เจ้า​ตรัส​จาก​ภูเขา​นั้น​ว่า “บอก​วงศ์​วาน​ยาโคบ​และ​ชน​ชาติ​อิสราเอล​ดังนี้​ว่า​4 พวก​เจ้า​ได้​เห็น​กิจการ​ซึ่ง​เรา​กระทำ​กับ​ชาว​อียิปต์​แล้ว และ​ที่​เรา​เทิด​ชู​เจ้า​ขึ้น ดุจ​ดัง​ด้วย​ปี​กนก​อินทรี เพื่อ​นำ​เจ้า​มาถึง​เรา​

กองทัพของฟาโรห์ที่ยกมาเพื่อจับอิสราเอลกลับไปเป็นทาส ไล่กระชั้นชิด แต่พระเจ้าทรงประทานปีกอย่างนกอินทรีช่วยกู้ให้คนอิสราเอลรอดพ้นได้  ปีกอย่างนกอินทรีได้นำ ได้พาคนอิสราเอลข้ามทะเลแดง และพัดเอาน้ำที่แหวกออกท่วมกองทัพของฟาโรห์ตายสิ้น อิสราเอลปลอดภัย

เราจะไปถึงความไพบูลย์ของพระคริสต์ ความอุดมสมบูรณ์ ความมั่งคั่งในมิติฝ่ายวิญญาณ เหนือแผ่นดินที่เราอาศัยอยู่ เหนือที่ทำงาน เหนือครอบครัว เหนือทุกสถานการณ์ เราต้องเป็นอย่างนกอินทรี กินอย่างนกอินทรี อยู่อย่างนกอินทรี ปลอดภัยอย่างนกอินทรี  และรับการเลี้ยงดูอย่างลูกนกอินทรี  ต่อสู้อย่างนกอินทรี และลี้ภัยอย่างนกอินทรี อยู่ที่สูง

สดุดี 24:3-10 3 ผู้ใด​จะ​ขึ้น​ไป​บน​ภูเขา​ของ​พระ​เจ้า และ​ผู้ใด​จะ​ยืน​อยู่​ใน​วิสุทธิสถาน​ของ​พระ​องค์ 4 คือ​ผู้​ที่​มี​มือ​สะอาด​และ​ใจ​บริสุทธิ์ ผู้​ที่​มิได้​ปลง​ใจ​ใน​สิ่ง​เท็จ และ​มิได้​สาบาน​อย่าง​หลอก​ลวง 5 เขา​จะ​รับ​พระ​พร​จาก​พระ​เจ้า และ​ความ​ยุติธรรม​จาก​พระ​เจ้า​แห่ง​ความ​รอด​ของ​เขา 6 อย่าง​นี้​แหละ​เป็น​พวก​ที่​เสาะ​พระ​องค์ หน้า​ของ​ท่าน​นะ ยาโคบ​เอ๋ย 7 ประตู​เมือง​เอ๋ย จง​ยก​หัว​ของ​เจ้า​ขึ้น บาน​ประตู​นิรันดร์​เอ๋ย จง​ยกขึ้น​เถิด เพื่อ​กษัตริย์​ผู้​ทรง​พระ​สิริ​จะ​ได้​เสด็จ​เข้า​มา 8 กษัตริย์​ผู้​ทรง​พระ​สิริ​นั้น​คือ​ผู้ใด คือ​พระ​เจ้า ผู้​เข้มแข็ง​และ​ทรง​อานุภาพ ​พระ​เจ้า​ผู้​ทรง​อานุภาพ​ใน​สงคราม 9 ประตู​เมือง​เอ๋ย จง​ยก​หัว​ของ​เจ้า​ขึ้น​เถิด บาน​ประตู​นิรันดร์​เอ๋ย จง​ยกขึ้น​เถิด เพื่อ​กษัตริย์​ผู้​ทรง​พระ​สิริ​จะ​เสด็จ​เข้า​มา 10 กษัตริย์​ผู้​ทรง​พระ​สิริ​นั้น​คือ​ผู้ใด คือ​พระ​เจ้า​จอม​โยธา ​พระ​องค์​ทรง​เป็น​กษัตริย์​ผู้​ทรง​พระ​สิริ​

นกอินทรี มีฉายาที่เรียกว่า ราชาแห่งนก  คริสเตียนผู้ที่เป็นชุมชนอัครทูต เป็นปุโรหิต ผู้เผยพระวจนะ และเป็นกษัตริย์  ที่อยู่ของกษัตริย์ผู้ทรงพระสิริอยู่ที่ใด ที่นั้นเป็นที่ลี้ภัยของเรา

สุภาษิต 31:18-19 18 มี​สาม​สิ่ง​ที่​ประหลาด​เหลือ​สำหรับ​ข้า เออ สี่​สิ่ง​ที่​ข้า​ไม่​เข้าใจ 19 คือ​ท่าที​ของ​นก​อินทรี​ใน​ฟ้า….

คือการบอกว่า วิถีของการบินของนกอินทรีนั้น เกินจากที่จะคาดเดาได้ บินสูง ไปสูง สง่างาม และนี่คือวิถีที่พระเจ้าจะนำคนของพระองค์ไปด้วยปีกของนกอินทรี ขอให้เราไว้วางใจในพระเจ้า และเป็นนกอินทรีที่สนใจเรื่องอาหารที่มีชีวิตเท่านั้น

“สู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์…อย่างนกอินทรี”

1.มีเรี่ยวแรง สายตา และปัญญา (สดใหม่)

2. พระเจ้าเป็นที่ลี้ภัย

By admin