“กฎฝ่ายวิญญาณ….กับพระสัญญา”
เมื่อกล่าวถึงกฎแรงโน้มถ่วงของโลก ทุกคนต่างรู้จัก เราเรียนรู้เรื่องกฎแรงโน้มถ่วงของโลกตั้งแต่เด็ก ในการหัดเดิน เรารู้จักเมื่อเราหกล้ม เราพยายามทรงตัว และยืนอย่างมั่นคงได้ สิ่งที่ช่วยเราในการประคองตัว มีทั้งเท้า ทั้งแขน ที่จะกวัดแกว่ง เพื่อเราจะทรงตัวได้ รวมทั้งน้ำในหูที่เท่ากันก็จะช่วยเราเรื่องการทรงตัวด้วย แรงโน้มถ่วงของโลกทำให้เราระมัดระวังที่จะไม่ตกจากที่ต่ำเตี้ย หรือที่สูงอย่างตึก ยกเว้นคนที่ตั้งใจฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดตึกโดยใช้กฎแรงโน้มถ่วงของโลกในทางลบ แต่ก็มีคนที่ใช้กฎแรงโน้มถ่วงของโลกในทางประโยชน์มากมายมหาศาล ซึ่งคงไม่ต้องเอ่ยถึงในเวลานี้ ที่ข้าพเจ้าเกริ่นกับพี่น้องเพื่อจะนำเข้าสู่ประเด็นของกฎฝ่ายวิญญาณ ที่เรามองไม่เห็น แต่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ทุกคน แม้ว่าเราจะรู้จักหรือไม่รู้จัก ยอมรับหรือมไม่ยอมรับก็ตาม ล้วนมีผลทั้งทางตรงและทางอ้อม ในพระคัมภีร์ได้กล่าวถึงกฎฝ่ายวิญญาณหลายแง่มุม ทั้งความสัมพันธ์ของลูกที่มีต่อพ่อแม่ เอเฟซัส 6:1-3 1 ฝ่ายบุตรจงนบนอบเชื่อฟังบิดามารดาของตนในองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะกระทำอย่างนั้นเป็นการถูก2 จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้า นี่เป็นพระบัญญัติข้อแรกที่มีพระสัญญาไว้ด้วย3 เพื่อเจ้าจะไปดีมาดีและมีอายุยืนนานที่แผ่นดินโลก สังเกตว่า ผลลัพธ์ของกฎฝ่ายวิญญาณนี้เหมือนกับผลลัพธ์ความสัมพันธ์ระหว่างคนอิสราเอลกับพระเจ้าในเรื่องการเชื่อฟังและรักษากฎเกณฑ์ของพระเจ้า เฉลยธรรมบัญญัติ 4:40 40 เพราะฉะนั้นพวกท่านจงรักษากฎเกณฑ์และพระราชบัญญัติของพระองค์ ซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาแก่ท่านในวันนี้ เพื่อท่านและลูกหลานที่เกิดมาภายหลังท่านจะไปดีมาดี และวันคืนของท่านจะยืนนานอยู่ในแผ่นดิน…” กฎฝ่ายวิญญาณหมายถึงถ้าใครทำตามก็จะได้ผลลัพธ์ ใครไม่ทำตามก็จะพลาดจากผลลัพธ์นั้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในมื้ออาหารที่ข้าพเจ้าได้ร่วมโต๊ะด้วย ได้มีการหยิบยกเรื่องการละเลยการสอนเรื่องการถวายสิบลด การไม่เปิดโอกาสให้สมาชิกได้ถวายสิบลด เป็นการปล้นสมาชิก ทำให้สมาชิกคริสตจักรนั้นๆขาดพระพรที่เป็นกฎฝ่ายวิญญาณเรื่องการถวาย (ซึ่งไม่ใช่พระสัญญา แต่เป็นกฏฝ่ายวิญญาณ) ในคำสอนของพระเยซูเกี่ยวข้องเรื่องเงินและการถวายมาก เพราะเงินทองคือคู่แข่งหมายเลขหนึ่งที่คนของพระเจ้าจะเลือกปรนนิบัติเงินทองยิ่งกว่าการปรนนิบัติพระเจ้า มัทธิว 6:24 24 “ไม่มีผู้ใดเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เพราะว่าจะชังนายข้างหนึ่ง และจะรักนายอีกข้างหนึ่ง หรือจะนับถือนายฝ่ายหนึ่ง และจะดูหมิ่นนายอีกฝ่ายหนึ่ง ท่านจะปฏิบัติพระเจ้าและจะปฏิบัติเงินทองพร้อมกันไม่ได้ ศิษยาภิบาลมากมายไม่อยากพูดถึงเรื่องการถวาย เพราะกลัวว่าสมาชิกจะหนี ไม่อยากมาโบสถ์ กลัวสมาชิกจะไม่ถวาย แต่ในความจริง การมีความรู้เรื่องนี้ จะเป็นพระพรต่อตัวของสมาชิกเอง มาลาคี 3:10 10 พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า จงนำทศางค์เต็มขนาดมาไว้ในคลัง เพื่อว่าจะมีอาหารในนิเวศของเรา จงลองดูเราในเรื่องนี้ดูทีหรือว่า เราจะเปิดหน้าต่างในฟ้าสวรรค์ให้เจ้า และเทพรอย่างล้นไหลมาให้เจ้าหรือไม่ พระสัญญา..พระเจ้าทำให้ แต่กฎฝ่ายวิญญาณ…ต้องทำเองจึงจะได้มา เชิญมาลองดู….