“ผู้รับใช้กับการเชื่อฟัง”

สิ่งที่เป็นของคู่กัน  ขาดกันและกันไม่ได้ ถ้าขาดข้างหนึ่ง ก็ไม่เรียกสิ่งนั้น ต้องเป็นคู่  เช่น กลางวันกลางคืน  ผู้ชายผู้หญิง  แสงกับเงา ผีเสื้อกับดอกไม้  ทรายกับทะเล  โต๊ะ เก้าอี้ ช้อน ส้อม เมฆหมอก   กระเพราไก่+ไข่ดาว  นี่เป็นแค่ตัวอย่างในอินเตอร์ที่มีคนตั้งกระทู้ถามว่า มีอะไรในชีวิตประจำวันที่เรามองเห็นว่า คู่กัน มีสิ่งหนึ่งก็ต้องมีสิ่งหนึ่ง

ในพระคัมภีร์จะมีสิ่งที่คู่กัน และขาดกันไม่ได้ และเป็นที่มาของหัวข้อเทศนาในวันนี้ ก็คือ “ผู้รับใช้กับการเชื่อฟัง”

ทำไมพระเจ้าจึงให้ความสำคัญกับการเชื่อฟัง

1ซามูเอล 15:22ข  22 ….ดู​เถิด ที่​จะ​เชื่อ​ฟัง​ก็​ดีกว่า​เครื่อง​สัตว​บูชา และ​ซึ่ง​จะ​สดับ​ฟัง​ก็​ดีกว่า​ไขมัน​ของ​บรรดา​แกะ​ผู้

2โครินธ์ 10:4—6 4 เพราะ​ว่า​ศาสตรา​วุธ​ของ​เรา​ไม่​เป็น​ฝ่าย​โลกีย​วิสัย แต่​มี​ฤทธิ์​เดช​จาก​พระ​เจ้า อาจ​ทำลาย​ป้อม​ได้​5 คือ​ทำลาย​ความ​คิด​ที่​มี​เหตุผล​จอม​ปลอม และ​ทิฐิ​มานะ​ทุก​ประการ​ที่ตั้ง​ตัว​ขึ้น​ขัดขวาง​ความ​รู้​ของ​พระ​เจ้า และ​น้อม​นำ​ความ​คิด​ทุก​ประการ​ให้​เข้า​อยู่​ใต้​บังคับ​จนถึง​รับ​ฟัง​พระ​คริสต์​6 และ​พร้อม​ที่​จะ​ลงโทษ​ทุก​คน​ที่​ไม่​เชื่อ​ฟัง ใน​เมื่อ​ท่าน​รับ​ว่า​จะ​เชื่อ​ฟัง​อย่าง​สมบูรณ์​แล้ว​

พระคัมภีร์ทั้งเก่าและใหม่ ต่างให้ความสำคัญ และมีทิศทางเดียวกัน คือการเชื่อฟัง และเชื่อฟัง

ตัวอย่างของคู่กัน ในพระคัมภีร์ที่ชัดเจน แบบโบราณๆ ก็คือสามีภรรยา

เอเฟซัส 5:24-25 24 คริสตจักร​ยอม​ฟัง​พระ​คริสต์​ฉัน​ใด ภรรยา​ก็​ควร​ยอม​ฟัง​สามี​ทุก​ประการ​ฉัน​นั้น​25 ฝ่าย​สามี​ก็​จง​รัก​ภรรยา​ของ​ตน เหมือน​อย่าง​ที่​พระ​คริสต์​ทรง​รัก​คริสตจักร และ​ทรง​ประทาน​พระ​องค์​เอง​เพื่อ​คริสตจักร​

สามีภรรยาเป็นของคู่กันที่ยาวนานที่สุดในโลก (แม้ว่าในยุคของเราสามีภรรยาจะอยู่กันไม่นานก็หย่ากัน) แต่ความเป็นสามีภรรยาคือของคู่กันที่พระคัมภีร์รับรอง และมีเป้าหมายให้อยู่ด้วยกันจนความตายจะแยกทั้งสองออกจากกัน

พระคัมภีร์ได้ให้มุมมองถึงการเป็นสามีภรรยาที่คลาสสิคที่สุดคือ ภรรยาเชื่อฟังสามี และสามีรักภรรยา (มอบชีวิตตนเองให้กับภรรยา)ขอย้ำ อย่าเอาแค่ข้อ 24 มาอ้างเท่านั้น นี่ก็คู่กัน การเชื่อฟัง คู่กับการอุทิศตัวของอีกฝ่ายด้วย สามีบางคนอ้างแต่ข้อ ที่ตนเองได้เปรียบ แต่ไม่ยอมทำในข้อที่ตนเองต้องอุทิศตนเพื่อภรรยา

จะเห็นว่า การเชื่อฟังจะขาดไปไม่ได้ ในของคู่กันตัวอย่างนี้  ทำนองเดียวกัน “ ผู้รับใช้คู่กับการเชื่อฟัง”

คำว่า ผู้รับใช้ ในพระคัมภีร์ใหม่มีสามคำ  ดูลอส   ไดโคนอส  และไลทัวกอส คำสามคำนี้ พระคัมภีร์ไทยใช้แปลด้วยคำเดียวคือแปลว่า ผู้รับใช้  แต่วันนี้ เราจะมารู้จักคำแรกของผู้รับใช้ คือคำว่า ดูลอส

ยอห์น 13:16  16 เรา​บอก​ความ​จริง​แก่​ท่าน​ว่า บ่าว​จะ​เป็น​ใหญ่​กว่า​นาย​ก็​ไม่ได้ และ​ทูต​จะ​เป็น​ใหญ่​กว่า​ผู้​ที่​ใช้​เขา​ไป​ก็​หา​มิได้

พระเยซูทรงใช้คำว่า  ดูลอสในตอนนี้ ซึ่งแปล บ่าว  (ผู้รับใช้)  บทเรียนสำหรับเรื่องการเป็นผู้รับใช้คู่กับการเชื่อฟังในวันนี้ ประการแรก คือ

 

เชื่อฟังอย่างทาสสมัครใจ

คำว่า บ่าว  (แปลว่า คนรับใช้)  ในรากศัพท์ภาษากรีก ใช้คำว่า ดูลอส แปลได้ทั้งสองความหมาย คือ ทาสที่ไม่สมัครใจ(ถูกบังคับ) และทาสสมัครใจ (คือยอมเป็นทาสทั้งๆที่มีโอกาสที่จะพ้นสภาพทาส)  พระเยซูทรงเลือกใช้คำว่า ดูลอสนี้ เจาะจงในความหมายคำว่า ทาสสมัครใจ

(ทาสสมัคร คนยิวจะเข้าใจดี เพราะธรรมบัญญัติ ได้กล่าวถึงสภาพทาส จะมีวาระพ้นสภาพทาส และให้ทาสเลือกตัดสินใจที่จะกลับเป็นทาสด้วยความสมัครใจ และการตัดสินนี้สำคัญ คือ จะเป็นทาสตลอดไป)

มัทธิว 20:27-28 27 ถ้า​ผู้ใด​ใคร่​จะ​ได้​เป็น​เอก​เป็น​ต้น ผู้​นั้น​จะต้อง​เป็น​ทาส​สมัคร​ของ​พวก​ท่าน28 อย่าง​ที่​บุตร​มนุษย์​มิ​ได้มา​เพื่อ​รับ​การ​ปรนนิบัติ แต่​ท่าน​มา​เพื่อ​จะ​ปรนนิบัติ​เขา และ​ประทาน​ชีวิต​ของ​ท่าน​ให้​เป็น​ค่า​ไถ่​คน​เป็น​อัน​มาก”

พระเยซูทรงเอาพระองค์เองเป็นแบบอย่างของความสมัครใจ ไม่มีใครบังคับ และก็ไม่มีใครจะสามารถบังคับพระองค์ได้

แต่คนมากมายมักจะแสดงออกว่า ไม่มีใครจะสามารถบังคับตนเองให้เชื่อฟัง หรือก้มหัวทำตามให้ได้ และคริสเตียนไม่น้อยก็เป็นอย่างคนทั่วไปมากมายนั้น คือ ไม่มีใครจะบังคับข้าให้เชื่อฟังได้ ทั้งๆที่บางทีสถานะของตนเอง ก็ตกอยู่ในสภาพที่อยู่ใต้บังคับบัญชา แปลว่า ต้องทำตามคำสั่ง เพียงแต่ผู้ที่มีอำนาจที่ดี มักจะไม่ใช้อำนาจบังคับ แต่ใช้ความเป็นเพื่อนทำงานร่วมกัน แม้แต่การเป็นพ่อแม่ของคนในสมัยของเรา ก็ใช้ความเป็นเพื่อนมากกว่าการบังคับ แต่ปรากฏว่า ผู้อยู่ใต้บังคับทั้งหลาย กลับหลงผิด คิดว่า ตนเองมีสิทธิ์ที่จะไม่เชื่อฟังก็ได้

ลูกบางคนไม่เชื่อฟังพ่อแม่ (แต่ยังไม่เห็นการบังคับให้เชื่อฟัง พ่อแม่หลายคนไม่ลงดาบเพราะรักลูก ลูกน้องบางคนไม่เชื่อฟังหัวหน้า เพราะหัวหน้าบางคนยังไม่ลงดาบเพราะรักลูกน้อง  ภรรยาบางคนไม่เชื่อฟังสามี เพราะสามียังไม่ลงดาบภรรยา เพราะรักภรรยา ผู้อยู่ภายใต้การดูแล ไม่เชื่อฟังผู้ดูแล ผู้ดูแล ยังไม่ลงดาบ เพราะรัก

จงรู้เถิดเพราะรัก ไม่ใช่ไม่มีดาบที่จะลง

โรม 13:4,1  4 เพราะ​ว่า​ผู้​ครอบ​ครอง​นั้น เป็น​ผู้รับ​ใช้​ของ​พระ​เจ้า​เพื่อให้​ประโยชน์​แก่​ท่าน แต่​ถ้า​ท่าน​ทำ​ความ​ชั่ว​ก็​จง​กลัว​เถิด เพราะ​ว่า​ผู้​ครอบ​ครอง​นั้น​หา​ได้​ถือ​ดาบ​ไว้​เฉยๆ ไม่ ท่าน​เป็น​ผู้รับ​ใช้​ของ​พระ​เจ้า และ​จะ​เป็น​ผู้​ลง​พระ​อาชญา​แทน​พระ​เจ้า​แก่​ทุก​คน​ที่​ประพฤติ​ชั่ว​

…..1 ทุก​คน​จง​ยอม​อยู่​ใต้​บังคับ​ของ​ผู้​ที่​มี​อำนาจ​ปกครอง เพราะ​ว่า​ไม่​มี​อำนาจ​ใด​เลย​ที่​มิ​ได้มา​จาก​พระ​เจ้า และ​ผู้​ที่​ทรง​อำนาจ​นั้น ​พระ​เจ้า​ทรง​แต่งตั้ง​ขึ้น​

จะเห็นว่า ลักษณะของคนในยุคนี้ตรงกันข้ามกับพระเยซู ผู้เป็นหัวหน้าผู้รับใช้ที่ยอมทำตาม แม้ไม่มีใครจะบังคับพระองค์ได้จริงๆ และน้ำพระทัยพระเจ้าก็ต้องการให้คริสเตียนดำเนินชีวิตในการเชื่อฟังตามแบบอย่างของพระเยซู

ฟิลิปปี 2:5-8  5 ท่าน​จง​มี​น้ำใจ​ต่อ​กัน​เหมือน​อย่าง​ที่​มี​ใน​พระ​เยซู​คริสต์​6 ผู้​ทรง​สภาพ​ของ​พระ​เจ้า แต่​มิได้​ทรง​ถือ​ว่า​การ​เท่า​เทียม​กับ​พระ​เจ้า​นั้น​เป็น​สิ่ง​ที่​จะต้อง​ยึดถือ​7 แต่​ได้​กลับ​ทรง​สละ และ​ทรง​รับ​สภาพ​ทาส ทรง​ถือ​กำเนิด​เป็น​มนุษย์​8 และ​เมื่อ​ทรง​ปรากฏ​พระ​องค์​ใน​สภาพ​มนุษย์​แล้ว ​พระ​องค์​ก็​ทรง​ถ่อม​พระ​องค์​ลง​ยอม​เชื่อ​ฟัง​จนถึง​ความ​มรณา กระทั่ง​ความ​มรณา​ที่​กางเขน​

นี่คือความหมายของคำว่า ทาสสมัคร  (ผู้รับใช้ที่คู่กับการเชื่อฟัง)  การเป็นผู้รับใช้อย่างสมัครใจ  คือทางเลือก ไม่ใช่อัตโนมัติ มีทางเลือกที่จะไม่เชื่อฟัง แต่เลือกที่จะเชื่อฟัง (ซึ่งมีค่ากว่าการถูกบังคับให้เชื่อฟัง)  พระเจ้าไม่ได้ต้องการให้เราเป็นเหมือนหุ่นยนต์ พระเจ้าต้องการคน คนที่มีชีวิต  ขนาดเราที่เป็นมนุษย์ เราก็ยังให้คุณค่ากับการตอบสนองอย่างสมัครใจ ไม่ใช่ฝืนใจ มันไม่มีความโรแมนติค ไม่มีความสุนทรีย์ หากอยู่กันอย่างทำตามหน้าที่ ไม่มีใครอยากได้คนใกล้ตัวอย่างนั้น และคนมากมายหย่ากัน เลิกกัน หนีจากกัน ก็เพราะขาดบรรยากาศของความสมัครใจที่จะอยู่ด้วยกัน แต่อยู่กันอย่างฝืนใจ และก็จะอยู่กันไม่นาน  พระเจ้าเองก็ไม่ต้องการผู้รับใช้ที่ฝืนใจ และวิธีที่พระเจ้าทรงให้บทเรียนกับผู้รับใช้ที่ฝืนใจ ปรากฏอยู่ในเรื่องราวของโยนาห์บทที่ 4:1ff.

1 เหตุการณ์​นี้​ไม่​เป็น​ที่​พอใจ​โย​นาห์​อย่าง​ยิ่ง และ​ท่าน​โกรธ​

2 ท่าน​จึง​อธิษฐาน​ต่อ​พระ​เจ้า​ว่า “ข้า​แต่​พระ​เจ้า เมื่อ​ข้า​พระ​องค์​ยัง​อยู่​ใน​ประเทศ​ของ​ข้า​พระ​องค์ ข้า​พระ​องค์​พูด​แล้ว​ว่า​จะ​เป็นไป​เช่นนี้​มิใช่​หรือ นี่​แหละ​เป็น​เหตุ​ให้​ข้า​พระ​องค์​ได้​รีบ​หนี​ไป​ยัง​เมือง​ทาร​ชิช เพราะ​ข้า​พระ​องค์​ทราบ​ว่า ​พระ​องค์​ทรง​เป็น​พระ​เจ้า​ผู้​ทรง​กอปร​ด้วย​พระ​คุณ และ​ทรง​พระ​กรุณา ทรง​กริ้ว​ช้า และ​บริบูรณ์​ด้วย​ความ​รัก​มั่นคง และ​ทรง​กลับ​พระ​ทัย​ไม่​ลงโทษ​

3 ข้า​แต่​พระ​เจ้า เพราะ​ฉะนั้น บัดนี้ ขอ​พระ​องค์​ทรง​เอา​ชีวิต​ของ​ข้า​พระ​องค์​ไป​เสีย เพราะ​ว่า​ข้า​พระ​องค์​ตาย​เสีย​ก็​ดีกว่า​อยู่”

เหตุที่โยนาห์โกรธพระเจ้า เพราะพระเจ้าใช้โยนาห์ไปประกาศกับเมืองนีนะเวห์ เมืองของคนบาปที่โหดร้ายทารุณ เป็นเมืองคนชั่ว (เป็นเหตุผลที่ดูมีน้ำหนักที่จะไม่เชื่อฟัง)   โยนาห์ไม่อยากทำ โยนาห์ไม่เชื่อฟัง โยนาห์หนีคำสั่งของพระเจ้า เรื่องราวที่เรารู้ว่า โยนาห์ต้องถูกจับโยนออกจากเรือ และพระเจ้าให้ปลาใหญ่มากลืนโยนาห์เข้าไปในท้อง (เหมือนนั่งเรือดำน้ำ และปลามาสำรองโยนาห์ที่ชายฝั่ง คำสั่งของพระเจ้าครั้งที่สอง คือบังคับให้โยนาห์ต้องไปเมืองนีนะเวห์ (โยนาห์จึงจำต้องไปเมืองนีนะเวห์ ด้วยความฝืนใจ ) ทำเพราะถูกบังคับให้ต้องทำ ไม่สมัครใจ คือไปประกาศกับคนที่ไม่อยากจะประกาศ ประกาศว่า อีกสี่สิบวัน พระเจ้าจะทำลายเมืองนีนะเวห์ ถ้าไม่กลับใจ ประกาศเสร็จ โยนาห์ก็ออกมานอกเมืองนีนะเวห์ เพื่อรอคอยว่า คนในเมืองจะถูกทำลาย โยนาห์ไม่ได้คิดอย่างพระเจ้าคิด โยนาห์ทำตามการถูกบังคับ แต่อะไรเกิดขึ้น

โยนาห์ 3:5 5 ฝ่าย​ประชาชน​นครนี​นะเวห์​ได้​เชื่อ​ฟัง​พระ​เจ้า เขา​ประกาศ​ให้​อด​อาหาร และ​สวม​ผ้า​กระสอบ ตั้งแต่​ผู้ใหญ่​ที่สุด​ถึง​ผู้น้อย​ที่สุด

การเชื่อฟังเกิดขึ้น มีผลต่อเนื่อง….

โยนาห์ 3:6-8  6 กิตติศัพท์​นี้​ลือ​ไป​ถึง​กษัตริย์​นครนี​นะเวห์ ​พระ​องค์​ทรง​ลุก​ขึ้น​จาก​พระ​ที่​นั่ง ทรง​เปลื้อง​ฉลอง​พระ​องค์​ออก​เสีย ทรง​สวม​ผ้า​กระสอบ​แทน และ​ประทับ​บน​กอง​ขี้เถ้า​7 ​พระ​องค์​ทรง​ออก​พระ​ราช​กฤษฎีกา ประกาศ​ไป​ทั่ว​นครนี​นะเวห์​ว่า “โดย​อำนาจ​กษัตริย์​และ​บรรดา​ขุน​นาง​ทั้ง​หลาย คน​หรือ​สัตว์ ไม่​ว่า​ฝูง​สัตว์​ใหญ่​หรือ​ฝูง​สัตว์​เล็ก ห้าม​ลิ้ม​รส​สิ่ง​ใดๆ อย่า​ให้​กิน​อาหาร อย่า​ให้​ดื่ม​น้ำ​8 ให้​ทั้ง​คน​และ​สัตว์​นุ่ง​ห่ม​ผ้า​กระสอบ ให้​ตั้ง​จิต​ตั้งใจ​ร้อง​ทูล​ต่อ​พระ​เจ้า เออ ให้​ทุก​คน​หัน​กลับ​เสีย​จาก​การ​ประพฤติ​ชั่ว และ​เลิก​การ​ทารุณ​ซึ่ง​มือ​เขา​กระทำ​

การเชื่อฟังของคนกลุ่มหนึ่ง นำไปถึงคนอีกกลุ่มที่ใหญ่กว่า ระดับประเทศ อะไรเกิดขึ้น ในข้อ 10

โยนาห์ 3:10  10 เมื่อ​พระ​เจ้า​ทอด​พระ​เนตร​การ​กระทำ​ของ​เขา​แล้ว​ว่า เขา​กลับ​ไม่​ประพฤติ​ชั่ว​ต่อไป ​พระ​เจ้า​ก็​ทรง​กลับ​พระ​ทัย ไม่​ลงโทษ ตาม​ที่​พระ​องค์​ตรัส​ไว้ และ​พระ​องค์​ก็​มิได้​ทรง​ลงโทษ​เขา​

พระเจ้าทรงคาดหวังการเชื่อฟัง และพระองค์เชื่อมั่นว่า การเชื่อฟังจะเกิดขึ้น  โยนาห์ไม่เข้าใจ โยนาห์เอาแต่ใจที่อคติของตนเองเป็นที่ตั้ง  พระเจ้าจึงให้บทเรียนกับโยนาห์ ผู้รับใช้ที่ไม่สมัครใจ

โยนาห์ 4:7-11 7 แต่​ใน​เวลา​เช้า​วันรุ่งขึ้น ​พระ​เจ้า​ทรง​กำหนดให้​หนอน​ตัว​หนึ่ง​มา​กัด​กิน​ต้น​ละหุ่ง​ต้น​นั้น จน​มัน​เหี่ยว​ไป​8 เมื่อ​ดวง​อาทิตย์​ขึ้น​แล้ว ​พระ​เจ้า​ทรง​กำหนดให้​ลม​ตะวันออก​ที่​ร้อน​ผาก​พัด​มา และ​แสงแดด​ก็​แผด​ลง​บน​ศีรษะ​ของ​โย​นาห์​จน​ท่าน​อ่อนเพลีย​ไป​และ​ท่าน​ก็​ทูล​ขอ​ว่า ให้​ท่าน​ตาย​เสีย​เถิด ท่าน​ว่า “ข้า​ตาย​เสีย​ก็​ดีกว่า​อยู่”9 แต่​พระ​เจ้า​ตรัส​กับ​โย​นาห์​ว่า “ที่​เจ้า​โกรธ​เพราะ​ต้น​ละหุ่ง​นั้น​ดี​อยู่​แล้ว​หรือ” ท่าน​ทูล​ว่า “ที่​ข้า​พระ​องค์​โกรธ​ถึง​อยาก​ตาย​นี้​ดี​แล้ว ​พระ​เจ้า​ข้า”10 และ​พระ​เจ้า​ตรัส​ว่า “เจ้า​หวง​ต้นไม้​ซึ่ง​เจ้า​มิได้​ลง​แรง​ปลูก​หรือ​มิได้​กระทำ​ให้​มัน​เจริญ มัน​งอก​เจริญ​ขึ้น​ใน​คืน​เดียว แล้ว​ก็​ตาย​ไป​ใน​คืน​เดียว​ดุจ​กัน​11 ไม่​สมควร​หรือ​ที่​เรา​จะ​หวง​เมือง​นี​นะเวห์​นคร​ใหญ่​นั้น ซึ่ง​มี​พล​เมือง​มากกว่า​หนึ่ง​แสน​สอง​หมื่น​คน ผู้​ไม่​ทราบ​ว่า​ข้าง​ไหน​มือ​ขวา​ข้าง​ไหน​มือ​ซ้าย และ​มี​สัตว์​เลี้ยง​เป็น​อัน​มาก​ด้วย”

บทเรียนวันนี้ สั้นๆ สำหรับวันตรุษจีนที่เป็นวันครอบครัว เราเห็นคนจีน เป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งครอบครัวตัวเอง ลูกน้อง และกันคนรอบข้าง คือการแสดงความเป็นครอบครัว ขอให้ครอบครัวของพวกเราทุกคน จงมีแต่ความสุข และมีการเชื่อฟังอยู่ในครอบครัว ที่ทำงาน และที่คริสตจักร อย่างลูกที่เชื่อฟังพ่อแม่ ลูกน้องเชื่อฟังหัวหน้า และลูกพระเจ้าที่เชื่อฟังพระเจ้า พระบิดา และอย่างผู้รับใช้สมัครใจ อย่างพระเยซูคริสต์ อาเมน

By admin