“ผู้รับใช้ของพระคริสต์….หูดี  ฉลาดและไม่มีพิษภัย”

มีคนสามชนิด เราอยากเป็นคนแบบไหน

คนดี หมายถึง คนที่ดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ มีจิตใจที่ดีงาม มีคุณธรรมจริยธรรม มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ทั้งด้านจิตใจและพฤติกรรมที่แสดงออก เช่น มีวินัย มีความเอื้อเฟื้อเกื้อกูล มีเหตุผล รู้หน้าที่ ซื่อสัตย์ พากเพียร ขยัน ประหยัด มีจิตใจเป็นประชาธิปไตย เคารพความคิดเห็นและสิทธิของผู้อื่น มีความเสียสละ รักษาส่งแวดล้อม สามารถอยู่ร่วมกับบุคคล อื่นอย่างสันติสุข

คนเก่ง หมายถึง คนที่มีความสามารถสูงในการดำเนินชีวิต โดยมีความสามารถในด้านใดด้านหนึ่งหรือรอบด้าน หรือมีความสามารถพิเศษเฉพาะทาง เช่น ทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ความสามารถทางคณิตศาสตร์ มีความคิดสร้างสรร มีความสามารถด้านภาษา ศิลปะ ดนตรี กีฬา มีภาวะผู้นำ รู้จักตนเอง ควบคุมตนเองได้ เป็นต้น เป็นคนทันสมัย ทันเหตุการณ์ ทันโลก ทันเทคโนโลยี มีความเป็นไทย สามารถพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ และทำประโยชน์ให้เกิดแก่ตน

คนมีความสุข หมายถึง คนที่มีสุขภาพดีทั้งกายและจิตใจ เป็นคนร่าเริงแจ่มใส ร่างกายแข็งแรง มีมนุษยสัมพันธ์ มีความรอบรู้ต่อทุกสรรพสิ่ง มีอิสระภาพปลอดพ้นจากการตกเป็นทาสของอบายมุข และสามารถดำรงชีวิตได้อย่างพอเพียงแก่อัตภาพ

ค่านิยมของคนไทยคือเอา IQ (Intelligence Quotient) ความฉลาดเป็นหลัก แต่ประเทศจะพัฒนาได้ต้องมีคนดี ไม่ใช่คนเก่งอย่างเดียว จริงๆเราต้องเอา EQ(Emotional Quotient) ความฉลาดทางอารมณ์เป็นหลักนำประเทศ

มัทธิว 10:16 “ดู​เถิด เรา​ใช้​พวก​ท่าน​ไป​ดุจ​แกะ​อยู่​ท่ามกลาง​หมา​ป่า เหตุ​ฉะนั้น​จง​ฉลาด​เหมือน​งู และ​ไม่​มี​ภัย​เหมือน​นกพิราบ​

พระเยซูทรงสอนสาวกของพระองค์ให้มีทั้งไอคิวและอีคิวทั้งสองอย่าง ด้วยภาพของสัตว์สามชนิด ได้แก่ แกะ  งู และนกพิราบ  เบื้องหลังของพระคัมภีร์ที่พระเยซูกล่าวตอนนี้ เพราะว่า สาวกของพระเยซู (สาวกแปลว่า ผู้เรียนรู้) ถูกเรียกให้เรียนรู้จากพระเยซูเพื่อถูกส่งออกไปอยู่ท่ามกลางผู้คน  ดังนั้น การเป็นคริสเตียนไม่ใช่การแยกตัวออกโดดเดี่ยว แต่คือการออกไปใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นๆ สังคมคริสเตียนไม่ใช่สังคมที่ปิด แต่เป็นสังคมที่เปิดออกต้อนรับคน

ด้วยเป้าหมายของการใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น และเป็นสังคมที่ต้อนรับคน ดังนั้นใครเข้ามาเราก็ต้อนรับ แต่เราก็ต้องมีหูที่ดี ฉลาด และไม่มีพิษภัย ด้วยการมีลักษณะอย่างที่พระเยซูสอน

พระเยซูเตือนสอนสาวกของพระองค์ว่า หูดี ฉลาด และไม่มีพิษภัย  คือสิ่งที่ต้องมีในชีวิตการเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ เพือจะไปจะเป็นตามที่พระเยซสอน ต้องใส่ใจต่อคุณลักษณะสามปราการนี้  ความจริงในพระคัมภีร์ตอนนี้ กล่าวถึงสัตว์สี่ชนิด ชนิดที่สี่ คือหมาป่า ซึ่งเป็นอันตราย และมองหาแกะเป็นเหยื่อ สาวกของพระเยซูถูกส่งออกไปเหมือนแกะ อยู่ท่ามกลางหมาป่า ในอีกนัยยะหนึ่งก็คือ คำเตือนว่า จงเป็นแกะ อย่าเป็นหมาป่า พระคัมภีร์ได้กล่าวถึงหมาป่า ห่มหนังแกะ  หมายถึง มีการปลอมตัวให้เหมือนแกะ มาอยู่ท่ามกลางฝูงแกะ

มัทธิว 7:15 “ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​ระวัง​ผู้เผย​พระ​วจนะ​เท็จ ที่มา​หา​ท่าน​นุ่ง​ห่ม​ดุจ​แกะ แต่​ภาย​ใน​เขา​ร้าย​กาจ​ดุจ​หมา​ป่า​

หมาป่าที่ห่มหนังแกะ จะส่งเสียงแกะ อยู่ท่ามกลางแกะ แต่สายตาจับจ้องจะกินแกะ ไม่ใช่เลี้ยงแกะ ผู้เผยพระวจนะเท็จ หมายถึงคนที่พูดสิ่งที่ทำให้คนอื่นเข้าใจว่ามาจากพระเจ้า แต่ความจริงมาจากความต้องการของตัวเอง พระคัมภีร์ได้กล่าวถึง ความต้องการของมนุษย์เป็นเรื่องของการรักโลกล้วนๆ ซึ่งพระคัมภีร์ได้เตือนว่า อย่ารักโลก

1ยอห์น 2:16 16 เพราะ​ว่า​สารพัด​ซึ่ง​มี​อยู่​ใน​โลก คือ​ตัณหา​ของ​เนื้อ​หนัง​และ​ตัณหา​ของ​ตา และ​ความ​ทะนง​ใน​ลาภ​ยศ​ไม่ได้​เกิด​มา​จาก​พระ​บิดา แต่​เกิด​มา​จาก​โลก​

พระคัมภีร์กล่าวชัดเจนว่า คนที่รักโลกไม่ได้มาจากพระเจ้า นี่คือภาพที่ทำให้เราเห็นได้ชัดเจนว่า ใครมาจากพระเจ้า หรือมาจากโลก คนที่มาจากพระเจ้าจะไม่เอาเรื่องของโลกนำหน้า ดังนั้น ผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์จะต้อง พัฒนาคุณลักษณะสามประการดังนี้ เพื่อจะไม่เป็นเหยื่อของหมาป่า โดยเฉพาะหมาป่าห่มหนังแกะ

1.แกะ : หูดี ยอห์น 10:1-5

 1 “เรา​บอก​ความ​จริง​แก่​ท่าน​ว่า ผู้​ที่​มิได้​เข้า​ไป​ใน​คอก​แกะ​ทาง​ประตู แต่​ปีน​เข้า​ไป​ทาง​อื่น​นั้น​เป็น​ขโมย​และ​โจร​2 แต่​ผู้​ที่​เข้า​ทาง​ประตู​ก็​เป็น​ผู้​เลี้ยง​แกะ​3 นาย​ประตู​จึง​เปิด​ประตู​ให้​ผู้​นั้น แกะ​ย่อม​ฟัง​เสียง​ของ​ท่าน ท่าน​เรียกชื่อ​แกะ​ของ​ท่าน และ​นำออกไป​4 เมื่อ​ท่าน​ต้อน​แกะ​ของ​ท่าน ออกไป​หมด​แล้ว ​ก็​เดิน​นำหน้า และ​แกะ​ก็​ตาม​ท่าน​ไป เพราะ​รู้จัก​เสียง​ของ​ท่าน​5 ส่วน​ผู้อื่น​แกะ​จะ​ไม่​ตาม​เลย แต่​จะ​หนี​ไป​จาก​เขา เพราะ​ไม่​รู้จัก​เสียง​ของ​ผู้อื่น”

คำเตือนของพระเยซูเรื่องการเป็นผู้รับใช้ของพระองค์จะต้อง หูดี ฟังเสียงให้ชัดว่า นี่คือแกะด้วยกัน หรือเสียงของหมาป่า การจะเป็นแกะที่หูดี ต้องรับการฝึกให้จำเสียงของผู้เลี้ยง การจะจำเสียงของผู้เลี้ยงได้ ต้องอยู่กับผู้เลี้ยง ติดตามผู้เลี้ยง ผู้เลี้ยงจะอยู่กับแกะ รู้จักแกะของตนเอง และทำหน้าที่นำพาให้แกะไปหาอาหาร และนำหน้า พร้อมเผชิญภัยและปกป้องแกะ ผู้เลี้ยงจะมีแกะติดตาม และที่สำคัญ เมื่อหมาป่ามา อันตรายมา ผุ้เลี้ยงจะสู้เพื่อปกป้องแกะ

ยอห์น 10:9   9 เรา​เป็น​ประตู ถ้า​ผู้ใด​เข้า​ไป​ทาง​เรา​ผู้​นั้น​ก็​จะ​รอด เขา​จะ​เข้า​ออก​แล้ว​ก็​จะ​พบ​อาหาร​

คำว่า ศิษยาภิบาล แปลว่า ผู้เลี้ยงแกะ รากศัพท์มาจากคำว่า shepherd  ผู้เลี้ยงจะนำแกะไปในที่ที่มีอาหาร นั่นหมายถึง ศิษยาภิบาลจะมีอาหารคือพระวจนะของพระเจ้ามาป้อนให้กับสมาชิกได้เสมอ ผู้เลี้ยงจะเลี้ยงแกะด้วยอาหารฝ่ายจิตใจร่างกาย และฝ่ายจิตวิญญาณ

ยอห์น 10:11 11 เรา​เป็น​ผู้​เลี้ยง​ที่​ดี ผู้​เลี้ยง​ที่​ดี​นั้น​ย่อม​สละ​ชีวิต​ของ​ตน​เพื่อ​ฝูง​แกะ​

ผู้เลี้ยงที่ดี จะยอมสละชีวิต อุทิศตนเอง เพื่อแกะ นั่นหมายความว่า เขามีทางเลือกที่ดี แต่เขาเลือกที่จะลำบากเพื่อแกะ และทำหน้าที่ปกป้องแกะ ด้วยชีวิตของตนเอง

ดาวิด เข้าใจความเป็นผู้เลี้ยงของพระเจ้าได้ดี เพราะดาวิดเป็นผู้เลี้ยงที่ต่อสู้กับสิงห์ หมี หมาป่า เพื่อปกป้องแกะ ดาวิดจึงเขียนบทเพลงสดุดีบทที่ 23 ได้อย่างไพเราะ

สดุดี 23;1-6 1 ​พระ​เจ้า​ทรง​เลี้ยง​ดู​ข้าพเจ้า​ดุจ​เลี้ยง​แกะ ข้าพเจ้า​จะ​ไม่​ขัด​สน ​​​พระ​องค์​ทรง​กระทำ​ให้​ข้าพเจ้า​นอน​ลง​ที่​ทุ่ง​หญ้า​เขียว​สด ​พระ​องค์​ทรง​นำ​ข้าพเจ้า​ไป​ริมน้ำ​แดน​สงบ3​​ทรง​ฟื้น​จิต​วิญญาณ​ของ​ข้าพเจ้า ​พระ​องค์​ทรง​นำ​ข้าพเจ้า​ไป​ใน​ทาง​ชอบธรรม เพราะ​เห็น​แก่​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์ 4 แม้​ข้า​พระ​องค์​จะ​เดิน​ไป​ตาม​หุบ​เขา​เงา​มัจจุราช ข้า​พระ​องค์​ไม่​กลัว​อันตราย​ใดๆ เพราะ​พระ​องค์​ทรง​สถิต​กับ​ข้า​พระ​องค์ คทา​และ​ธาร​พระ​กร​ของ​พระ​องค์​เล้าโลม​ข้า​พระ​องค์ 5 ​พระ​องค์​ทรง​เตรียม​สำรับ​ให้​ข้า​พระ​องค์ ต่อ​หน้า​ต่อ​ตา​ศัตรู​ของ​ข้า​พระ​องค์ ​พระ​องค์​ทรง​เจิม​ศีรษะ​ข้า​พระ​องค์​ด้วย​น้ำ​มัน ขัน​น้ำ​ของ​ข้า​พระ​องค์​ก็​ล้น​อยู่ 6 แน่​ทีเดียว​ที่​ความ​ดี​และ​ความ​รัก​มั่นคง​จะ​ติดตาม​ข้าพเจ้า​ไป ตลอด​วัน​คืน​ชีวิต​ของ​ข้าพเจ้า และ​ข้าพเจ้า​จะ​อยู่​ใน​พระ​นิเวศ​ของ​พระ​เจ้า​สืบไป​เป็น​นิตย์​

ดาวิดมีหัวใจผู้เลี้ยงแกะจึงทำให้ดาวิดไว้วางใจพระเจ้า ว่าพระเจ้าจะทรงทำหน้าที่ผู้เลี้ยงอย่างสมบูรณ์ในชิวิตของเขา

ถ้าเราอยากจะเข้าใจพระเจ้า และรู้จักพระองค์ในมุมของผู้เลี้ยงแกะ ลองทำหน้าที่นี้เป็นผู้เลี้ยงแกะ ดูแลจิตวิญญาณของใครสักคน แล้วเราจะยิ่งรู้จักผู้เลี้ยงของเรา คือพระเยซูคริสต์ได้อย่างดี

มีแม่บางคนบอกว่า ตอนยังไม่เป็นแม่ ไม่รู้ว่า การเป็นแม่มันมีความรู้สึกนี้ได้อย่างไร พอมาเป็นแม่แล้วจึงได้รู้ว่า มันลึกซึ้งเกินคำบรรยาย ยอมสละได้แม้ชีวิตเพื่อลูก

ยอห์น 10:14 14 เรา​เป็น​ผู้​เลี้ยง​ที่​ดี เรา​รู้จัก​แกะ​ของ​เรา​และ​แกะ​ของ​เรา​ก็​รู้จัก​เรา​

สิ่งที่สำคัญของการเป็นแกะ คือรู้จักผู้เลี้ยง คือพระเยซูคริสต์เจ้าด้วยตัวของแกะเอง (ผู้เชื่อเอง) คำเตือนก็คือ อย่าเพียงดำเนินชีวิตที่ยืมจมูกคนอื่นหายใจ หมายความว่า อย่ารู้จักพระเยซูคริสต์เพียงคำบอกเล่าของคนอื่น คำสอนของคน แต่จงรู้จักพระองค์ด้วยตัวของคุณเอง เพื่อคุณจะไม่ถูกหลอก คริสเตียนต้องมีหูฝ่ายวิญญาณที่ดี สามารถแยกแยะออกว่า นี่คือเสียงของผู้เลี้ยง หรือผู้ที่จะเจี๊ยะ (หมาป่า) มาในคราบแกะ

ยอห์น 10:1-2 1 “เรา​บอก​ความ​จริง​แก่​ท่าน​ว่า ผู้​ที่​มิได้​เข้า​ไป​ใน​คอก​แกะ​ทาง​ประตู แต่​ปีน​เข้า​ไป​ทาง​อื่น​นั้น​เป็น​ขโมย​และ​โจร​2 แต่​ผู้​ที่​เข้า​ทาง​ประตู​ก็​เป็น​ผู้​เลี้ยง​แกะ

พระเยซูกำลังบอกสาวกว่า จะมีขโมยและโจรเข้ามาในคริสตจักรในคราบของหมาป่าห่มหนังแกะ ไม่ได้เข้ามาตามขั้นตอน มาแบบทางลัด แบบไม่ลงทุนอะไรเลย มาถึงก็แย่งแกะไป นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในคริสตจักรในอนาคต ก็คือยุคของเราด้วย เพราะฉะนั้น ผู้รับใช้ของพระคริสต์ต้องมีหูที่ดี ไวในการฟัง ฟังดีๆ มีสติ ไม่ถูกหลอก

พระคัมภีร์ได้เตือนอีกว่า จะมีคริสเตียนที่ไม่ได้เป็นแกะหูดี  แต่ฟังแบบไม่เลือก ฟังทุกคนที่พูด (ไม่มีความสัมพันธ์อย่างแกะกับผู้เลี้ยง)

2ทิโทธี 3:6-7 6 เพราะ​ใน​บรรดา​คน​เหล่า​นั้น มี​คน​ที่​แอบ​ไป​ตาม​บ้าน​ แล้ว​ลวง​หญิง​ที่​เบา​ปัญญา​หนา​ด้วย​บาป และ​หลงใหล​ไป​ด้วย​ตัณหา​ต่างๆ ไป​เป็น​เชลย​7 หญิง​พวก​นี้​จะ​ฟัง​ทุก​คน​ที่​พูด แต่​ไม่​อาจ​ที่​จะ​เข้าถึง​หลัก​แห่ง​ความ​จริง​ได้​เลย​

นอกจากหูต้องดี คริสเตียนต้องฉลาด พระเยซูทรงเปรียบเทียมความฉลาดให้เหมือนกับงู

2.งู  ฉลาด ปฐมกาล 3:1 1

 ​ใน​บรรดา​สัตว์​ป่า​ที่​พระ​เจ้า​ทรง​สร้าง​นั้น งูฉลาด​กว่า​หมด…

จะเห็นว่า ในพระคัมภีร์ปฐมกาลได้กล่าวถึงความฉลาดของงู ความจริงรากศัพท์ภาษาฮีบรูในข้อนี้ กล่าวถึงความฉลาดของงูมีสองด้าน คือเป็นได้ทั้งบวกและลบ งูมีความคิดที่ซับซ้อนกว่าสัตว์ทั้งหมด คำว่า ฉลาดที่พระเยซูในภาษากรีกแปลว่าใส่ใจ  Thoughtful พระเยซูทรงยกตัวอย่างความฉลาดของงู น่าจะจากปฐมกาลที่มีความฉลาดสองด้าน แต่พระเยซูทรงชี้ให้ใช้ในด้านบวก (ในทางที่ดี) ฉลาดเหมือนงู คือรู้จักใช้ความคิด แบบรอบคอบ เฉียบแหลม เพื่อการดี

อ.เปาโลได้ใช้คำอีกคำเกี่ยวกับการใส่ใจในการทำดี

โรม _16:19 19 การ​ซึ่ง​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ได้​เชื่อ​ฟัง​ก็​เลื่อง​ลือ​ไป​ถึง​หู​คน​ทั้ง​ปวง​แล้ว ข้าพเจ้า​จึง​มี​ความ​ยินดี​เพราะ​ท่าน​ทั้ง​หลาย ข้าพเจ้า​ใคร่​ให้​ท่าน​เชี่ยวชาญ​ใน​การ​ดี และ​ให้​เป็น​คน​ทึ่ม​ใน​การ​ชั่ว​

คำว่า เชี่ยวชาญ ในพระคัมภีร์ตอนนี้ ก็คือ ให้ฉลาดในการดี มีความหมายถึง การฉลาดอย่างคนมีไหวหริบเฉียบแหลม (ทักษะ) ส่วนคำว่าฉลาดที่พระเยซูใช้คือมีความฉลาดในการกรองข้อมูล ฉลาดในด้านควบคุมอารมณ์  ทีนี้ เราเห็นหรือยังว่า พระเยซูต้องการให้เราเป็นคริสเตียนที่ฉลาด ในการเป็นคนดี คนเก่ง และคนที่มีความสุข (คือฉลาดที่สุดอย่างครบถ้วน)

ข้าพเจ้าอยากจะยกตัวอย่างความโง่ของตัวเอง เรื่องหนึ่ง  ข้าพเจ้าออกกำลังกายทุกเช้าด้วยการขี่จักรยาน สิ่งที่น่ากลัวของนักขี่จักรยานก็คือสุนัข มันจะโผล่ออกมากัดเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าไปเยี่ยมคุณแม่ของอดีตสมาชิกของเราคนหนึ่ง ข้าพเจ้าใช้เวลาช่วงที่ขี่จักรยานเวลาเช้าไปแวะเยี่ยม พอจะออกจากบ้าน ก็ขี่จักรยานช้าๆออกมา ปรากฏว่า มีสุนัขตัวใหญ่ โผล่มาจากไหนไม่รู้ มางับตรงต้นขาของข้าพเจ้า ขณะที่กำลังปั่นจักรยานช้าๆ ดีที่เขี้ยวที่ยาวมันกัดไม่เข้า แต่หลุดออกไปได้ นึกแล้วสยอง จากวันนั้น ข้าพเจ้าก็พยายามที่จะหาวิธีว่าจะรับมือกับสุนัขข้างทางได้อย่างไร แรกๆ ก็ตะคอกใส่มันกลับ เวลาเจอสุนัขเห่าและวิ่งตาม สุดท้ายพบวิธีที่ดีที่สุดคือ ปั่นให้เร็วเพื่อหนี เมื่อมองเห็นมันแต่ไกล ก็เตรียมตัว เร่งความเร็ว และยิ่งปั่นก็ยิ่งเร็ว ขณะปั่นก็คิดไปว่า ความเร็วขนาดนี้ มันไม่มีทางกัด งับได้ เพราะต้องวิ่งตาม เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าเปลี่ยนวิธีคิด จากที่จะเตรียมไม้ เครื่องช้อทไฟ หรือจอดจักรยานลงไปฉะกับสุนัขสักตั้ง ให้มันรู้ไปว่า คนกับหมา ใครจะเฉลาดกว่ากัน  จะทั้งเตะทั้งเหวี่ยงจักรยานใส่ แต่สุดท้าย ข้าพเจ้ารู้ว่า ถ้าทำอย่างนั้น ข้าพเจ้าไม่ฉลาดเลย โง่จริงๆ

วิธีที่ดีที่สุด คือหนี ให้เร็ว ออกจากเขตแดนของมัน สุนัขมันสู้ตาย เพื่อรักษาเขตแดนที่มันฉี่เอาไว้ หากเราพ้นกลิ่นฉี่ของมันเมื่อไหร่ มันก็หยุดเห่า หยุดวิ่งตาม

กับดักที่มักจะจับคนมากมายไว้ ก็คือ อารมณ์โกรธ เมื่อเราโกรธ เราจะสูญเสียสติปัญญาไปถึง 50 %  เราจะห็นว่า เวลาคนโกรธ มักจะปะทะมากกว่าวิ่งหนี สู้เลือดตากระเด็น กับประเด็นเล็กๆ  มีคำพูดหนี่งกล่าวว่า สติ ทำให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก เรื่องยากกลายเป็นเรื่องง่าย แต่อคติ ทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ และเรื่องง่ายกลายเป็นเรื่องยาก  อย่างนี้เรียกว่า โง่  ผู้รับใช้ของพระคริสต์…นอกจากจะหูดีแล้ว ยังต้องฉลาด และประการสุดท้าย ต้อง

3.นกพิราบ : ไม่มีพิษภัย มัทธิว 3:15-17

 15 แต่​พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​ยอห์น​ว่า “บัดนี้​จง​ยอม​เถิด เพราะ​สมควร​ที่​เรา​ทั้ง​หลาย​จะ​กระทำ​ตาม​สิ่ง​ชอบธรรม​ทุก​ประการ” แล้ว​ยอห์น​ก็​ยอม​16 ครั้น​พระ​องค์​ทรง​รับ​บัพติศมา​แล้ว ใน​ทันใด​นั้น​ก็​เสด็จ​ขึ้น​จาก​น้ำ และ​ท้องฟ้า​ก็​แหวก​ออก และ​พระ​องค์​ได้​ทรง​เห็น​พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​เจ้า​ดุจ​นกพิราบ ลง​มา​สถิต​อยู่​บน​พระ​องค์17 และ​นี่​แน่ะ​มี​พระ​สุรเสียง​ตรัส​จาก​ฟ้า​สวรรค์​ว่า “ท่าน​ผู้​นี้​เป็น​บุตร​ที่​รัก​ของ​เรา เรา​ชอบ​ใจ​ท่าน​มาก”

คำว่า ไม่เป็นพิษมีภัย รากศัพท์ภาษากรีกแปลว่า ถ่อมตัว (Simple) และไม่ทำอันตรายแก่ใคร (harmless) นกพิราบมักจะเป็นภาพของพระวิญญาณบริสุทธิ์  เมื่อพระเยซูทรงยอมถ่อมใจรับบัพติศมาในน้ำโดยยอห์น บัพติศโต ซึ่งในตอนแรกยอห์นปฏิเสธ เพราะยอห์นได้รับการยืนยันจากพระวิญญาณของพระเจ้าว่า พระเยซูคริสต์คือพระมาซีฮา เป็นพระบุตรของพระเจ้า

ยอห์น 3:13-14 13 แล้ว​พระ​เยซู​เสด็จ​จาก​แคว้น​กาลิลี มา​หา​ยอห์น​ที่​แม่น้ำ​จอร์แดน​เพื่อ​จะ​รับ​บัพติศมา​จาก​ท่าน​14 แต่​ยอห์น​ทูล​ห้าม​พระ​องค์​ว่า “ข้า​พระ​องค์​ต้อง​การ​จะ​รับ​บัพติศมา​จาก​พระ​องค์ ควร​หรือ​ที่​พระ​องค์​จะ​เสด็จ​มา​หา​ข้า​พระ​องค์” 15 แต่​พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​ยอห์น​ว่า “บัดนี้​จง​ยอม​เถิด….

พระเยซูตอบยอห์นด้วยคำว่า ยอม ที่มีความหมายว่า จงร่วมทุกข์ด้วยกัน คนที่ถ่อม จะต้องยอมร่วมทุกข์ ไม่ใช่เห็นแก่ความสุขของตนเอง ยอห์นเข้าใจเรื่องนี้ จึงยอมทิ้งความปรารถนาของตนเอง คือการที่จะได้รับบัพติศมาโดยพระบุตรของพระเจ้า คือพระเยซูคริสต์ ใครๆก็อยากจะรับสิ่งที่ดีที่สุด จากคนที่ดีที่สุด แต่ยอห์นต้องยอมทำตรงกันข้ามกับความปราถนาของตนเอง เมื่อสองคนยอมร่วมทุกข์ พระเยซูทรงยอมถ่อมให้ยอห์นกดหัวลงน้ำ สำเร็จ  เสียงจากฟ้า การสำแดงของพระวิญญาณบริสุทธิ์

ลูกา 3:21-22 21 อยู่​มา​เมื่อ​คน​ทั้ง​ปวง​รับ​บัพติศมา และ​พระ​เยซู​ทรง​รับ​ด้วย ขณะ​เมื่อ​ทรง​อธิษฐาน​อยู่ ท้องฟ้า​ก็​แหวก​ออก​22 และ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ทรง​รูป​สัณฐาน​เหมือน​นกพิราบ​ได้​ลง​มาบ​นพ​ระ​องค์ และ​พระ​สุรเสียง​มา​จาก​ฟ้า​สวรรค์​ว่า “ท่าน​เป็น​บุตร​ที่​รัก​ของ​เรา เรา​ชอบ​ใจ​ท่าน​มาก”

ผู้รับใช้ของพระคริสต์…หูดี  ฉลาด และไม่มีพิษภัย (ถ่อมใจ) ความถ่อมใจไปที่ไหน ก็ไม่เป็นพิษเป็นภัย เป็นสปิริตที่ดี ไปที่ไหนคนสบายใจ นี่คือข้อสังเกตุสำหรับคริสเตียนในการเป็นผู้สังเกตุฝ่ายวิญญาณ นอกจากจะทำตัวให้คนสบายใจแล้ว ยังสามารถวินิจฉัยได้ว่า สปิริตแบบไหนที่มาจากพระเจ้า คนของพระเจ้าไปที่ไหน ทำให้คนสบายใจ ไม่อึดอัด ไม่ระแวง ไม่กลัว

ข้าพเจ้าอยากจะจบลงที่คำว่า ผู้รับใช้ของพระคริสต์ มีคุณลักษณะ…หูดี ฉลาด และไม่มีพิษมีภัย เป็นลักษณะที่พระคัมภีร์เรียกคนของพระเจ้าว่า เป็น มนุษย์ฝ่ายวิญญาณ ที่แท้จริง

1โครินธ์ 2:15-16 15 แต่​มนุษย์​ฝ่าย​วิญญาณ​วิจัย​สิ่ง​สารพัด​ได้ แต่​ไม่​มี​ผู้ใด​จะ​วิจัย​ใจ​คน​นั้น​ได้​16 เพราะ​ว่า ใคร​เล่า​รู้จัก​พระ​ทัย​ของ​พระ​เจ้า​เพื่อ​จะ​แนะนำ​สั่ง​สอน​พระ​องค์​ได้  แต่​เรา​ก็​มี​พระ​ทัย​ของ​พระ​คริสต์​

“ผู้รับใช้ของพระคริสต์….หูดี  ฉลาดและไม่มีพิษภัย”

  1. แกะ : หูดี
  2. งู : ฉลาด
  3. นกพิราบ : ไม่มีพิษภัย

By admin