“…ไม่เป็นภาระ”

1ยอห์น 5:1-5  1 ผู้ใด​เชื่อ​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​เป็น​พระ​คริสต์​ ผู้​นั้น​ก็​เกิด​จาก​พระ​เจ้า และ​ผู้ใด​รัก​พระ​องค์​ผู้​ทรง​ให้​กำเนิด ผู้​นั้น​ก็​รัก​คน​ที่​เกิด​จาก​พระ​องค์​ด้วย​2 โดย​ข้อ​นี้​เรา​จึง​รู้​ว่า​เรา​รัก​คน​ทั้ง​หลาย​ที่​เป็น​บุตร​ของ​พระ​เจ้า เมื่อ​เรา​ทั้ง​หลาย​รัก​พระ​เจ้า และ​ประพฤติ​ตาม​พระ​บัญญัติ​ของ​พระ​องค์​3 เพราะ​นี่​แหละ​เป็น​ความ​รัก​ต่อ​พระ​เจ้า คือ​ที่​เรา​ทั้ง​หลาย​ประพฤติ​ตาม​พระ​บัญญัติ​ของ​พระ​องค์ และ​พระ​บัญญัติ​ของ​พระ​องค์​นั้น​ไม่​เป็น​ภาระ​4 เพราะ​ทุก​คน​ที่​เกิด​จาก​พระ​เจ้า ​ก็​มี​ชัย​ต่อ​โลก และ​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​นี่​แหละ​เป็น​ชัย​ชนะ​ที่​ชนะ​โลก​5 ใคร​เล่า​ชนะ​โลก ไม่ใช่​คน​อื่น คือ​ผู้​ที่​เชื่อ​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​เป็น​พระ​บุตร​ของ​พระ​เจ้า​นั่นเอง​  คำว่า ภาระ เป็นอะไรที่หลายคนรู้สึกกลัว และอยากจะผลักอะไรก็ตามที่รู้สึกว่าเป็นภาระออกไปให้ห่างไกลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้  บางคนที่ทำไม่ได้ ก็ฝืนทนแบกภาระด้วยความอึดอัด ไม่เต็มใจ (เรียกว่า ทำไปบ่นไป) บางคนก็ใช้คำว่า เหวี่ยงงูไม่พ้นคอ คือไม่สามารถเอาภาระออกไปจากตัวเองได้  แต่จะทำอย่างไรที่จะมีความสุขกับชีวิตที่ไม่สามารถเอาภาระออกไปได้ พระคัมภีร์ได้สอนเทคนิคการดำเนินชีวิต และสามารถเผชิญกับทุกสภาวะความรับผิดชอบด้วยความรู้สึกใหม่ที่ไม่เป็นภาระ…. เมื่อต้องรักคนทั้งหลาย (ที่หลากหลาย) ที่มาเป็นบุตรของพระเจ้า 1โครินธ์ 1:26 26 ดูก่อน​พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย จง​พิจารณา​ดู​ว่า พวก​ท่าน​ที่​พระ​เจ้า​ได้​ทรง​เรียก​มา​นั้น​เป็น​คน​พวก​ไหน มี​น้อย​คน​ที่​โลก​นิยม​ว่า​มี​ปัญญา มี​น้อย​คน​ที่​มี​อำนาจ มี​น้อย​คน​ที่​มี​ตระกูล​สูง​ พูดตามภาษาชาวบ้านก็คือ คนที่มาเป็นคริสเตียนส่วนใหญ่ มักจะมาพร้อมกับภาระ…(แต่ก็มีไม่น้อยที่ไม่อยากเป็นภาระกับใคร ด้วยท่าที และมารยาทงามๆ ด้วยความเป็นคนไทย ที่มักจะใช้คำว่า เกรงใจ) พระคัมภีร์สอนคนของพระเจ้าให้เป็นผู้ปรนนิบัติ เป็นผู้ให้ (มีความสุขยิ่งกว่าการรับ)  และพี่น้องคริสเตียนไทยก็เลยปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในเรื่องนี้ จนทำให้ไม่คุ้นเคยกับการรับการปรนนิบัติ ความจริงพระเยซูทรงเป็นแบบอย่างเรื่องการปรนนิบัติ ด้วยการล้างเท้า คือแบบอย่างของความถ่อมของพระอาจารย์ เพื่อให้สาวกปรนนิบัติกันและกัน แต่การปรนนิบัติจะไม่มีทางทำได้ หากปราศจากผู้รับการปรนนิบัติ ยอห์น 13:4-8,14 4 ​พระ​องค์​ทรง​ลุก​ขึ้น​จาก​การ​รับประทาน​อาหาร ทรง​ถอด​ฉลอง​พระ​องค์​ออกวาง​ไว้ และ​ทรง​เอา​ผ้าเช็ดตัว​คาด​เอว​ของ​พระ​องค์​5 แล้ว​ก็​ทรง​เท​น้ำ​ลง​ใน​อ่าง และ​ทรง​เอา​น้ำ​ล้าง​เท้า​ของ​พวก​สาวก และ​เช็ด​ด้วย​ผ้า​ที่​ทรง​คาด​เอว​ไว้​นั้น​6 ​พระ​องค์​ทรง​มาถึง​ซีโมน​เปโตร และ​เปโตร​ทูล​พระ​องค์​ว่า “​พระ​องค์​เจ้า​ข้า ​พระ​องค์​จะ​ทรง​ล้าง​เท้า​ของ​ข้า​พระ​องค์​หรือ”7 ​พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​เขา​ว่า “สิ่ง​ที่​เรา​กระทำ​ใน​ขณะนี้​ท่าน​ยัง​ไม่​รู้​เรื่อง แต่​ภายหลัง​ท่าน​จะ​เข้าใจ”8 ​เปโตร​ทูล​พระ​องค์​ว่า “​พระ​องค์​จะ​ทรง​ล้าง​เท้า​ของ​ข้า​พระ​องค์​ไม่ได้” ​พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​เขา​ว่า “ถ้า​เรา​ไม่​ล้าง​ท่าน​แล้ว ท่าน​จะ​มี​ส่วน​ใน​เรา​ไม่ได้”… 14 ฉะนั้น​ถ้า​เรา​ผู้​เป็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า และ​พระ​อาจารย์​ของ​ท่าน​ได้​ล้าง​เท้า​ของ​พวก​ท่าน พวก​ท่าน​ก็​ควร​จะ​ล้าง​เท้า​ของ​กัน​และ​กัน​ด้วย​  วันนี้ เราจะมีรายการภาคบ่าย เรื่องของพ่อแม่ลูก ครอบครัว ขอให้เราทั้งหลายได้รับพระพรผ่านทีมของอ.สุภิจที่จะมาแบ่งปันให้กับเรา  เรื่องที่ดูจะเป็นภาระสำหรับสังคมในยุคของเรา เรื่อ’พ่อๆ แม่ๆ ลูกๆ ขอพระเจ้าทรงนำและเคลื่อนไหวที่ทุกคนในครอบครัวจะเข้าใจในพระธรรมตอนนี้ โดยเฉพาะคำว่า  ไม่เป็นภาระ อาเมน

By admin