“เป็นหนึ่งในพระคริสต์ ต้องคืนดีกัน”

คำถามง่ายๆ   เราเคยทะเลาะไม๊?  ทะเลาะกัน ทำยังไง  คำว่า ตบมือข้างเดียวไม่ดัง  (ชวนทะเลาะฝ่ายเดียว สำเร็จไม๊?  ทะเลาะหมายถึง ต้องสองฝ่าย?  เราเคยได้ยินคำว่า

-กวนประสาท  ทำยังไง? ทำเป็นไม๊

-สงครามประสาท ทำยังไง? ใครทำไม่เป็น

-สงครามเย็น  ทำยังไง? เย็นชา คือสงครามเย็นไม๊?

-สูญญากาศ  ทำยังไง? คือการทำลาย หรือเสริมสร้าง

เอเฟซัส4:31 31 จง​ให้​ใจ​ขม​ขื่น และ​ใจ​ขัด​เคือง และ​ใจ​โกรธ และ​การ​ทะเลาะ​เถียง​กัน และ​การ​พูด​ให้​ร้าย กับ​การ​คิด​ปอง​ร้าย​ทุก​อย่าง​อยู่​ห่างไกล​จาก​ท่าน​เถิด​

สิ่งที่พระคัมภีร์ข้อนี้บอก คือ สาเหตุก่อนจะไปถึงสงคราม การทะเลาะเถียงกัน…..ทุกอย่างเริ่มต้นที่ใจ  (ใจขมขื่น ใจขัดเคือง ใจโกรธ….) พระคัมภีร์เตือน ให้อยู่ห่างไกล

2ทิโมธี 2:23-26  23 อย่า​ข้อง​แวะ​กับ​ปัญหา​อัน​โง่​เขลา​และ​ไม่​เป็น​สาระ ด้วย​รู้​แล้ว​ว่า​ปัญหา​เหล่า​นั้น​ก่อให้เกิด​การ​ทะเลาะ​วิวาท​กัน​ 24 ฝ่าย​ผู้รับ​ใช้​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ต้อง​ไม่​เป็น​คน​ที่​ชอบ​การ​ทะเลาะ​วิวาท แต่​ต้อง​มี​ใจ​เมตตา​ต่อ​ทุก​คน เป็น​ครู​ที่​เหมาะสม​และ​มี​ความ​อดทน​25 ชี้แจง​ให้​ฝ่าย​ตรงกัน​ข้าม​เข้าใจ​ด้วย​ความ​สุภาพ ว่า​พระ​เจ้า​อาจจะ​ทรง​โปรด​ให้​เขา​กลับ​ใจ และ​มาถึง​ซึ่ง​ความ​จริง​26 และ​หลุด​พ้น​บ่วง​ของ​มาร​ผู้​ซึ่ง​ดัก​จับ​เขา​ไว้​ให้​ทำ​ตาม​ความ​ประสงค์​ของ​มัน​

วันนี้ ข้าพเจ้าได้คัดลอกบทความตอนหนึ่งจากหนังสือชื่อ “เหยื่อล่อของมารซาตาน”  กล่าวถึงเรื่อง “ความขุ่นเคือง”  พี่น้องต้องอ่าน มันจะทำให้เรารู้ว่า บ่วงที่มารวางกับดักไว้จับคนทุกคนคือความ “ขุ่นเคือง” และพระเยซูได้พยากรณ์ไว้ว่า สัญญาณของยุคสุดท้ายก็คือ คนจำนวนมากจะขุ่นเคืองกันมาก และความรักอย่างอากาเป้ ซึ่งเป็นความรักของคริสเตียนก็จะเยือกเย็นลง

มัทธิว 24:10-13 10 คราว​นั้น​คน​เป็น​อัน​มาก​จะ​ถดถอย​ไป(ขุ่นเคืองกัน  –  พระคัมภีร์ฉบับแปล คิงส์ เจมส์) และ​อายัด​กัน​และ​กัน ทั้ง​จะ​เกลียด​ชัง​ซึ่ง​กัน​และ​กัน​ด้วย​11 ผู้เผย​พระ​วจนะ​ปลอม​หลาย​คน​จะ​เกิด​มี​ขึ้น และ​ล่อลวง​คน​เป็น​อัน​มาก​ให้​หลง​ไป​12 ความ​รัก​ของ​คน​ส่วนมาก​จะ​เยือก​เย็น​ลง เพราะ​ความ​อธรรม​แผ่​กว้าง​ออกไป​13 แต่​ผู้ใด​ทน​ได้​จนถึง​ที่สุด​ผู้​นั้น​จะ​รอด

ระวัง…ความรักเยือกเย็นลง คือความรักอย่างอากาเป้  ความรักอากาเป้ เป็นความรักของพระเจ้าที่ให้ไว้กับคริสเตียน พระเยซูกำลังเตือนสาวกของพระองค์ตั้งแต่รุ่นแรก จนถึงรุ่นในยุคสุดท้าย คือเราทั้งหลาย เรากำลังอยู่ในยุคสุดท้ายที่ความขุ่นเคืองของคนมากมายได้แสดงออกมากในรูปแบบต่างๆหลากหลาย

….บ่วงของมารผู้ซึ่งดักจับเขาไว้ให้ทำตามความประสงค์ของมัน….

บ่วงของมารกำลังวางไว้ทุกที่ทุกเวลา หากคริสเตียนไม่ระวัง ไม่รักษาความรักอากาเป้ที่พระเจ้าให้ไว้กับเรา ความรักของเราจะติดกับดักของมาร และเป้าหมายของมาร สำหรับคนทั่วไป คือขุ่นเคืองมากยิ่งๆขึ้น (คนข้างนอกจะโกรธกันมากขึ้น) สำหรับคริสเตียนคือทำให้ความรักอากาเป้เยือกเย็นลงกับคนภายในคริสตจักรกันเอง เราจะนิ่ง เราจะท้อ และไม่อยากหว่านความรักอีกต่อไป  ความรักอากาเป้ เป็นหนึ่งในลักษณะในผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์

กาลาเทีย 5:22-23 22 ฝ่าย​ผล​ของ​พระ​วิญญาณ​นั้น คือ​ความ​รัก ความ​ปลาบ​ปลื้ม​ใจ สันติ​สุข ความ​อด​กลั้น​ใจ ความ​ปรานี ความ​ดี ความ​สัตย์​ซื่อ​23 ความ​สุภาพ​อ่อน​น้อม การ​รู้จัก​บังคับ​ตน เรื่อง​อย่าง​นี้​ไม่​มีธรรม​บัญญัติ​ห้าม​ไว้​เลย​

ผลพระวิญญาณ เป็นคำเอกพจน์  Singular verb  ในผลเดียวมีเก้าคุณลักษณะ(ที่มีในผลเดียวกัน)  คุณลักษณะที่สำคัญเด่นชัด ถูกจัดอันดับอันแรกคือ ความรักอากาเป้  เป็นคำเดียวกันกับที่พระเยซูได้ใช้   ความรักจะเยือกเย็นลงของคริสเตียน   เมื่อคริสเตียนหยุดหว่านความรัก เมล็ดของความรักก็จะถูกเก็บไว้ ไม่ได้หว่านลงดิน เมล็ดความรักจะไม่งอก แล้วคริสเตียนจะเก็บเกี่ยวผลของความรักไม่ได้

ยอห์น 12:24 24 เรา​บอก​ความ​จริง​แก่​ท่าน​ว่า ถ้า​เมล็ด​ข้าว​ไม่ได้​ตก​ลง​ไป​ใน​ดิน​และ​เปื่อย​เน่า​ไป ​ก็​จะ​คง​อยู่​เป็น​เมล็ด​เดียว แต่​ถ้า​เปื่อย​เน่า​ไป​แล้ว ​ก็​จะ​งอก​ขึ้น​เกิดผล​มาก​

ความรักอากาเป้ เป็นเมล็ดพันธ์ฝ่ายพระวิญญาณ  มีธรรมชาติเหมือนเมล็ดพืช พระคัมภีร์จึงยกตัวอย่างของการหว่าน

กาลาเทีย 6:8 8 ผู้​ที่​หว่าน​ใน​ย่าน​เนื้อ​หนัง​ของ​ตน ​ก็​จะ​เกี่ยว​เ​ก็​บ​ความ​เปื่อย​เน่า​จาก​เนื้อ​หนัง​นั้น แต่​ผู้​ที่​หว่าน​ใน​ย่าน​พระ​วิญญาณ ​ก็​จะ​เกี่ยว​เ​ก็​บ​ชีวิต​นิรันดร์​จาก​พระ​วิญญาณ​นั้น

บทความเรื่องการเจริญของเมล็ดพืชน ต้องอาศัยอุณหภูมิในการงอกเงย ถ้าเมล็ดไม่ถูกหว่าน เมล็ดก็นั้นก็ไม่ต่างจากการอยู่ในที่ที่จุดเยือกแข็งจะเป็นอันตรายสำหรับการงอกของเมล็ดพันธุ์พืชเขตร้อน ถ้าอุณหภูมิสูงหรือต่ำกว่าระดับที่เหมาะสม ซึ่งเกินกว่าที่เมล็ดพันธุ์จะสามารถงอกได้ เมล็ดบางชนิดอาจจะมีการพักตัวหรือบางชนิดอาจจะเสียชีวิตได้

มีการค้นพบเมล็ดข้าวที่เก็บไว้ในไหสมัยอียิปต์นานนับพันปี และสามารถนำมาเพาะให้งอกเงยได้ นั่นคือแสดงว่า ถ้าเราไม่หว่านความรักอากาเป้ ด้วยการแสดงออก เราจะไม่มีวันที่จะได้เก็บเกี่ยวผลในย่านพระวิญญาณ  ผลของความรักที่เกิดในคนอื่น ที่แสดงออกมาให้เราได้เห็น เราก็จะเห็นแต่ผลของเนื้อหนังเต็มไปหมดรอบตัวเรา เรามีแต่จะเรียกร้องให้คนอื่นแสดงความรัก ต่างคนต่างก็หว่านแต่เนื้อหนัง แล้วผลของรักอากาเป้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร  หนังสือกาลาเทียตอนนี้ได้กล่าวถึง การใช้เสรีภาพของคริสเตียน

กาลาเทีย 5:13-15 13 ดูก่อน​พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย ที่​ทรง​เรียก​ท่าน​ก็​เพื่อให้​มี​เสรีภาพ อย่า​เอา​เสรีภาพ​ของ​ท่าน​เป็น​ช่องทาง​ที่​จะ​ปล่อย​ตัว​ไป​ตาม​เนื้อ​หนัง แต่​จง​รับ​ใช้​กัน​และ​กัน​ด้วย​ความ​รัก​เถิด​14 เพราะ​ว่าธรรม​บัญญัติ​ทั้งสิ้น​นั้น​สรุป​ได้​เป็น​คำ​เดียว คือ​ว่า จง​รัก​เพื่อน​บ้าน​เหมือน​รัก​ตนเอง 15 แต่​ถ้า​ท่าน​กัด​และ​กิน​เนื้อ​กัน​และ​กัน จง​ระวัง​ให้​ดี เกรง​ว่า​จะ​ย่อย​ยับ​ไป​ตามๆ กัน​

กาลาเทียได้กล่าวถึง การใช้เสรีภาพด้วยความรัก ก็คือการหว่านความรักอากาเป้นั่นเองเป็นหนึ่งเดียวในพระคริสต์ ต้องคืนดีกัน  การคืนดีคือการหว่านความรัก การคืนดีกัน ทำให้เราได้เห็นผลของความรักงอกเงยขึ้นมาให้เราเก็บเกี่ยว

2โครินธ์ 5:19-21 19 คือ​พระ​เจ้า​ทรง​ให้​โลก​นี้​คืน​ดี​กัน​กับ​พระ​องค์​โดย​พระ​คริสต์​ มิได้​ทรง​ถือ​โทษ​ใน​การ​ผิด​ของ​เขา และ​ทรง​มอบ​เรื่อง​การ​คืน​ดี​กัน​นั้น​ให้​เรา​ประกาศ​20 ฉะนั้น​เรา​จึง​เป็น​ทูต​ของ​พระ​คริสต์​ โดย​ที่​พระ​เจ้า​ทรง​ขอร้อง​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ทาง​เรา เรา​จึง​ขอร้อง​ท่าน​ใน​นาม​ของ​พระ​คริสต์​ให้​คืน​ดี​กัน​กับ​พระ​เจ้า​ 21 เพราะ​ว่า​พระ​เจ้า​ได้​ทรง​กระทำ​พระ​องค์​ผู้​ทรง​ไม่​มี​บาป​ให้​บาป เพราะ​เห็น​แก่​เรา เพื่อ​เรา​จะ​ได้​เป็น​คน​ชอบธรรม​ของ​พระ​เจ้า​ทาง​พระ​องค์

พระเจ้าได้หว่านความรักของพระองค์ด้วยเมล็ดพันธ์แรกด้วยชีวิตของพระเยซูคริสต์เจ้า ด้วยการที่พระเยซูต้องมารับโทษแทนเรา เมล็ดพันธ์แห่งความรักนี้ได้ตกลงดินแล้วและได้งอกเงยขึ้นมาเป็นชีวิตคริสเตียนมากมาย และคริสเตียนมากมายในอดีต ก่อนหน้าเราได้หว่านชีวิตของพวกเขาเพื่อให้มีวันนี้  ข่าวประเสริฐมาถึงเรา มีคริสเตียนมากมายยอมหว่านชีวิตของตนเอง ทนทุกข์ ถูกข่มเหง และตายไป เพื่อข่าวประเสริฐที่พวกเขาเชื่อ

ความรักของเราทุกคนในยุคสุดท้ายนี้ กำลังถูกทดสอบอุณภูมิว่า เราจะเก็บความรักนั้นไว้ หรือจะหว่านความรักออกไป เรากำลังคาดหวังที่จะเก็บเกี่ยวในย่านพระวิญญาณ หรือไม่คาดหวังอีกแล้ว(กลัวเจ็บ เข็ด) ความรักของเราก็กำลังถูกแช่แข็ง และอาจตายไปในที่สุด อันนี้คืออันตราย

อุณภูมิที่ทำให้ความรักถูกหว่านและเติบโต คือความร้อนรนในพระเจ้า อย่าใช้ความรู้สึก ความสบายใจของตัวเราเองเป็นหลัก อย่าติดกับดักของมารซาตาน  มารซาตานต้องการให้ความรักอากาเป้ของเราเยือกเย็นลง และตายไปในที่สุด  และเราก็จะเก็บเกี่ยวแต่สิ่งที่เป็นลมเป็นแล้งเท่านั้น

แต่ถ้าเราได้หว่านเมล็ดแห่งความรัก เราก็จะเก็บเกี่ยวความรัก คือความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและกัน  และนี่คือสิ่งที่หนังสือฟิลิปปีที่เป็นหัวข้อประจำปีของคริสตจักรใจสมานเพชรเกษม 11 ของเรา ในปีนี้ “เป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสต์”

เป็นไปไม่ได้ที่เราจะดำเนินชีวิตสมกับข่าวประเสริฐ หรือสู้เหมือนอย่างคนเดียวเพื่อข่าวประเสริฐ หากเรายังไม่คืนดีกันกับพระเจ้า และไม่คืนดีกันและกัน

จงหยุดสงครามประสาท จงหยุดกวนประสาท จงหยุดสงครามเย็น จงหยุดการทำให้ใครบางคนในชีวิตของตนเองกลายเป็นสูญญากาศ  และจงหยุดความสัมพันธ์ที่ไกลห่าง  เพราะการไม่ยอมห่างไกลจากใจที่ขมขื่น ใจขัดเคือง ใจโกรธ…  หยุดทำให้ชีวิตของตนเองมีเหมือนฟันหลอ คือบางคนถูกเว้น มองข้ามไป ความรักอย่างอากาเป้ ไม่เลือกที่จะรักบางคน ชังบางคน รับบางคน ปฏิเสธบางคน

เป็นหนึ่งในพระคริสต์…ต้องคืนดีกัน  ทำยังไง…

1.มุ่งห่างไกล…ใจขมขื่นใจขัดเคืองและใจโกรธ

เอเฟซัส4:31 31 จง​ให้​ใจ​ขม​ขื่น และ​ใจ​ขัด​เคือง และ​ใจ​โกรธ และ​การ​ทะเลาะ​เถียง​กัน และ​การ​พูด​ให้​ร้าย กับ​การ​คิด​ปอง​ร้าย​ทุก​อย่าง​อยู่​ห่างไกล​จาก​ท่าน​เถิด​

ถ้าเรามุ่งห่างไกล คือทิ้งใจขมขื่น ใจขัดเคือง ใจโกรธ แน่นอนว่า การทะเลาะจะไม่เกิด คำพูดที่เลวร้ายต่างๆจะไม่เกิด ตัดไฟเสียแต่ต้นลม มีคำพูดไทยว่า ห้ามไฟไม่ให้มีควัน ห้ามไม่ได้ นั่นคือการบอกให้รู้ว่า อย่าให้เกิดการเผาไหม้ในจิตใจ ความขมขื่น ความขัดเคือง ความโกรธ ทำให้เกิดการเผาผลาญในจิตใจ ที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเวลา

มัทธิว 15:18  18 แต่​สิ่ง​ที่​ออก​จาก​ปาก​ก็​ออกมา​จาก​ใจ สิ่ง​นั้น​แหละ​ทำ​ให้​มนุษย์​เป็น​มลทิน​19 ความ​คิด​ชั่ว​ร้าย การ​ฆ่า​คน การ​ผิด​ผัว​ผิด​เมีย การ​ล่วง​ประเวณี การ​ลัก​ขโมย การ​เป็น​พยาน​เท็จ การ​ใส่​ร้าย ​ก็​ออกมา​จาก​ใจ​

2.มุ่งสานสัมพันธ์กัน

2โครินธ์ 5:18-19 18 ทั้งสิ้น​นี้​เกิด​มา​จาก​พระ​เจ้า ผู้​ทรง​ให้​เรา​คืน​ดี​กัน​กับ​พระ​องค์​ทาง​พระ​เยซู​คริสต์​ และ​ทรง​โปรด​ประทาน​ให้​เรา​มี​พันธ​กิจ​เรื่อง​การ​คืน​ดี​กัน​19 คือ​พระ​เจ้า​ทรง​ให้​โลก​นี้​คืน​ดี​กัน​กับ​พระ​องค์​โดย​พระ​คริสต์​ มิได้​ทรง​ถือ​โทษ​ใน​การ​ผิด​ของ​เขา และ​ทรง​มอบ​เรื่อง​การ​คืน​ดี​กัน​นั้น​ให้​เรา​ประกาศ​ (กับทุกคน)

เป็นน้ำพระทัยพระเจ้าให้เกิดการคืนดีกัน  พระเจ้านำการคืนดีมาให้เราทุกคนประกาศ พระเจ้าทรงเป็นแบบของการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พระองค์จึงสามารถนำการคืนดีกันมาให้แก่มนุษย์ได้ พระองค์ทรงเริ่มต้นการไม่ถือโทษ ทรงเริ่มต้นการให้อภัย ทรงเริ่มต้นการเสียสละพระองค์เองเพื่อให้เกิดการคืนดีกันระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า

….และ​ทรง​มอบ​เรื่อง​การ​คืน​ดี​กัน​นั้น​ให้​เรา​ประกาศ….

เราจะประกาศในสิ่งที่เราไม่เป็นไม่ได้  เราต้องคืนดีกันก่อน เป็นแบบอย่างต่อกันและกันก่อน  ดังนั้น การคืนดีกัน คือเป้าหมายของคริสเตียนที่จะต้องมุ่งการคืนดีกัน การคืนดีกันจึงจะเกิด ไม่ใช่ปล่อยไป

บ่อยครั้งเรามักจะอยากเคลียร์ แต่จุดมุ่งหมายของการเคลียร์กัน คือ การค้นหาว่า ใครผิด ใครถูก สุดท้ายไม่ได้ความสัมพันธ์ แต่ยิ่งทำลายความสัมพันธ์ ขอให้เรามุ่งที่จะคืนดีกัน บางที ไม่ต้องพูดเลย มีคำกล่าวว่า ความรัก ต้องแสดงออกด้วยการกระทำ และนี่คือการใช้ความหมายของคำว่า การกระทำดังกว่าคำพูดอย่างถูกกาลเทศะที่สุด

3.มุ่งข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์

ฟิลิปปี 1:27 27 ขอ​แต่​เพียง​ให้​ท่าน​ดำเนิน​ชีวิต​ให้​สม​กับ​ข่าว​ประเสริฐ​ของ​พระ​คริสต์​ เพื่อ​ว่า​แม้​ข้าพเจ้า​จะ​มา​หา​ท่าน​หรือ​ไม่​ก็​ตาม ข้าพเจ้า​ก็​จะ​ได้​รู้​ข่าว​ของ​ท่าน​ว่า ท่าน​เชื่อ​มั่นคง เป็น​น้ำ​หนึ่ง​ใจ​เดียว​กัน ต่อสู้​เหมือน​อย่าง​เป็น​คน​เดียว​เพื่อ​ความ​เชื่อ​อัน​เกิด​จาก​ข่าว​ประเสริฐ​นั้น​

การคืนดีกัน จะเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง ด้วยการมุ่งข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ เพราะข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ คือข่าวแห่งการคืนดีกัน การกลับใจใหม่ หันกลับมาหาพระเจ้า คือกระดุมเม็ดแรกที่เริ่มต้นอย่างถูกต้อง การคืนดีกันกับคนอื่นจะตามมา

ยิ่งใกล้พระเจ้า ยิ่งเห็นตัวเองบกพร่องและต้องแก้ไขปรับปรุง และจะหยุดมองหาจุดบกพร่องของคนอื่น ทำให้การคืนดีกันเกิดขึ้นได้  อุปสรรคของการคืนดีกัน คือการมองแต่ความผิดของคนอื่น ไม่ให้อภัย ขมขื่นใจ ขัดเคือง และยังโกรธอยู่

มัทธิว 7:1-6 1 “อย่า​กล่าวโทษ​เขา เพื่อ​พระ​เจ้า​จะ​ไม่​ทรง​กล่าวโทษ​ท่าน​ 2 เพราะ​ว่า​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​กล่าวโทษ​เขา​อย่างไร ​พระ​เจ้า​จะ​ทรง​กล่าวโทษ​ท่าน​อย่าง​นั้น และ​ท่าน​จะ​ตวง​ให้​เขา​ด้วย​ทะนาน​อัน​ใด ​พระ​เจ้า​จะ​ได้​ทรง​ตวง​ให้​ท่าน​ด้วย​ทะนาน​อัน​นั้น3 เหตุ​ไฉน​ท่าน​มองดู​ผง​ที่​ใน​ตา​พี่​น้อง​ของ​ท่าน แต่​ไม้​ทั้ง​ท่อน​ที่​อยู่​ใน​ตา​ของ​ท่าน ท่าน​ก็​ไม่​รู้สึก​4 เหตุ​ไฉน​ท่าน​จะ​กล่าว​แก่​พี่​น้อง​ว่า ‘ให้​เรา​เขี่ย​ผง​ออก​จาก​ตา​ของ​เธอ’ แต่​ที่​จริง​ไม้​ทั้ง​ท่อน​มี​อยู่​ใน​ตา​ของ​ท่าน​เอง​5 ท่าน​คน​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด จง​ชัก​ไม้​ทั้ง​ท่อน​ออก​จาก​ตา​ของ​ท่าน​ก่อน แล้ว​ท่าน​จะ​เห็น​ได้​ถนัด จึง​จะ​เขี่ย​ผง​ออก​จาก​ตา​พี่​น้อง​ของ​ท่าน​ได้ 6 “อย่า​ให้​ของ​ประเสริฐ​แก่​สุนัข อย่า​โยน​ไข่มุก​ให้แก่​สุกร เกลือ​กว่า​มัน​จะ​เหยียบ​ย่ำ​เสีย และ​จะ​หัน​กลับมา​กัด​ตัว​ท่าน​ด้วย​

สุภาษิต 26:17 17 บุคคล​ที่​เข้า​ยุ่ง​ใน​การ​ทะเลาะ​วิวาท​ซึ่ง​ไม่ใช่​เรื่อง​ของ​เขา​เอง ​ก็​เหมือน​คน​จับ​หู​สุนัข​ตัว​ที่​กำลัง​ผ่าน​ไป

การทะเลาะวิวาท ถูกเปรียบเหมือนกับ สุนัขที่พร้อมจะกัดคนที่ไปจับสิ่งที่มันหวงแหน พระเยซูเตือนให้เราอย่าหาเรื่องใคร อย่ามีเรื่องกับใคร และการสำรวจตัวเองบ่อยๆ จะทำให้ไม่ไปมีเรื่องหรือหาเรื่องใคร  คำว่า ของประเสริฐ ที่พระเยซูใช้ ด้วยคำว่า Hagios แปลว่าของบริสุทธิ์ สำหรับมนุษย์ คือการปราศจากตำหนิ  ชีวิตที่สะอาดแล้ว อย่าไปยุ่งกับคนที่สกปรก ที่ไม่ยอมทำความสะอาดตัวเอง ที่มักจะทำให้คนอื่นสกปรกไปด้วย

2เปโตร 2:22 22 พฤติกรรม​ได้​เกิด​กับ​เขา​ตาม​สุภาษิต​ซึ่ง​เป็น​ความ​จริง​ที่ว่า สุนัข​เลีย​กิน​สิ่ง​ที่​มัน​สำรอก​ออกมา  และ​สุกร​ที่​คน​ล้าง​มัน​ให้​สะอาด แล้ว​กลับ​ลุย​ลง​ไป​นอน​ใน​ปลัก​อีก​

“เป็นหนึ่งในพระคริสต์ ….ต้องคืนดีกัน”

1.มุ่งห่างไกล…ใจขมขื่นใจขัดเคืองและใจโกรธ

2.มุ่งสานสัมพันธ์กัน

3.มุ่งข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์

By admin