“เป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสต์…เป็นพระพร”
เมื่อวันก่อน ข้าพเจ้ามีความรู้สึกหนึ่งว่า ไม่น่ามีหัวข้อประจำปีนี้ เรื่องความเป็นหนึ่งเดียวกันเลย เพราะเราจะต้องพบกับบทเรียนเรื่องนี้ ที่หนักหน่วง แค่เริ่มต้นปี ก็แทบจะหืดขึ้นคอ ไม่ค่อยเป็นสุขเท่าไร ข้าพเจ้าถามพระเจ้าว่า จะมีแต่ความทุกข์เท่านั้นหรือ และพระเจ้าทรงยืนยันกับข้าพเจ้าว่า จะมีฟ้าหลังฝน จะมีพระพรที่พระเจ้าต้องการจะเทลงมาให้กับพวกเรา พระคัมภีร์หนึ่ง ผุดขึ้นมาทันที
สดุดี 133:1-3 1 ดูเถิด เป็นการดีและน่าชื่นใจมากสักเท่าใด ที่พี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว2 เหมือนน้ำมันประเสริฐอยู่บนศีรษะ ไหลลงมาบนหนวดเครา บนหนวดเคราของอาโรน ไหลลงมาบนคอเสื้อของท่าน3 เหมือนน้ำค้างของภูเขาเฮอร์โมน ซึ่งตกลงบนเทือกเขาศิโยน เพราะว่าพระยาห์เวห์ทรงบัญชาพระพรที่นั่น คือชีวิตยืนยาวเป็นนิตย์
แต่กว่าจะมาถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ เราต้องพบกับบททดสอบความอดทน ความอดกลั้นใจ (แต่ก็เบรกแตกไปหลายรอบ สอบไม่ผ่านก็หลายหน) วันนี้ ในสูจิบัตรที่ข้าพเจ้าเขียนให้กับพี่น้อง ชื่อว่า “ระวัง…คุกในจิตใจ” จากข้อพระคัมภีร์ในเอเฟซัส ได้ย้ำว่า การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ไม่ได้มาง่ายๆ ไม่ได้เกิดขึ้นแบบอัตโนมัติ และต้องฝ่าฟันอุปสรรคปัญหาความสัมพันธ์ทั้งสิ้น
แต่เราต้องการที่จะพบกับพระพรใช่ไม๊? และข้าพเจ้ามั่นใจเลยว่า พระเจ้ากำลังเตรียมพระพรที่จะเทลงมาให้กับพวกเราทุกคน หรือพระพรสำหรับบางคน อย่าเลย เราอยากได้พระพรทุกคน คำถามคือว่า เราทุกคนจะต้องเข้าสู่การทดสอบก่อนรับพระพรนี้ไม๊
ยากอบกล่าวถึงการทดลอง (ทดสอบ) การล่อลวง (ให้ทำบาป)
ยากอบ 1:12 12 คนที่สู้ทนต่อการทดลองใจก็เป็นสุข เพราะเมื่อเขาผ่านการทดสอบแล้ว เขาจะได้รับมงกุฎแห่งชีวิตที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้กับคนทั้งหลายที่รักพระองค์
ยากอบบอกกับเราว่า จะมีคนบางคนที่สอบผ่านการทดสอบ คือคนที่ต่อสู้กับการทดลองใจ (การทดสอบของจิตใจตนเอง) มันเป็นเรื่องของตัวเอง แต่ก็มักจะมีคนอื่นมารองรับการสอบของจิตใจของเราอยู่เรื่อย แต่ให้เราสังเกตว่า พระคัมภีร์ไม่ได้จบแค่สั้นๆห้วนๆ ยังมีต่อไปว่า คนที่สู้ทนต่อการทดลองใจ คือสอบผ่าน จะได้รางวัล คือมงกุฏแห่งชีวิต มงกุฏเป็นเครื่องแสดงถึงชัยชนะ มงกุฏแสดงถึงความงดงามสูงสุด
1โครินธ์2:9 9 ดังที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า สิ่งที่ตาไม่เห็นหูไม่ได้ยิน และสิ่งที่มนุษย์คิดไม่ถึง คือสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับคนที่รักพระองค์
และพระเจ้าทรงเตรียมไว้สำหรับคนที่รักพระองค์ พระเจ้าเชียร์ แล้วยังช่วย
โรม 8:28 28 เรารู้ว่า พระเจ้าทรงช่วยคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง คือคนทั้งปวงที่พระองค์ได้ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์
แน่นอนพระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งที่ที่ดีที่สุดสำหรับคนที่รักพระองค์ เกิดผล และมงกุฏ….
เราจะเห็นว่า พระเจ้าทรงกำหนด วางแผน สนับสนุนและช่วยให้ทุกคนจะสามารถสอบผ่านการทดสอบไปได้ เรียกว่า ถ้าตกก็ซ่อม ๆๆๆจนกว่าจะผ่าน
มงกุฏแห่งชีวิต สำหรับคนที่มีชีวิตยืนยาวเป็นนิตย์ พระคัมภีร์ยากอบกับสดุดี133 สองข้อนี้ มีความสอดคล้องกัน เรื่องความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน นำพระพร ชีวิตจำเริญ ยืนยาว และรับมงกุฏแห่งชีวิต
รากศัพทภาษาฮีบรู คำว่า ชีวิตจำเริญ (ยืนยาว) แปลว่า แข็งแรง เป็นคำที่ใช้กับพืช (มีน้ำตลอดปี มีความสด)
สดุดี 1:3 3 เขาเป็นเช่นต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ ซึ่งเกิดผลตามฤดูกาล และใบก็ไม่เหี่ยวแห้ง การทุกอย่างซึ่งเขากระทำก็จำเริญขึ้น
สดุดีตอนนี้ กล่าวถึง วิถีชีวิตของคนชอบธรรม เป็นเหมือนต้นไม้ (พืช) อยู่ในที่ที่มีน้ำตลอดปี (ริมน้ำ) ไม่เหี่ยวแห้ง (มีความสด) และทุกอย่างที่ทำก็จำเริญขึ้น (ชีวิตจำเริญ) แปลว่า แข็งแรง ความหมายเดียวกันผลของการอยู่ในที่ที่พระเจ้าทรงบังคับบัญชาพระพรที่นั่น….ที่ที่คนของพระเจ้ามีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
มีคำสามคำที่เราต้องใช้สำรวจสถานะของเราเสมอว่า เรากำลังอยู่ในสถานะไหน คำว่า Victim (เหยื่อ) Survivor (เอาตัวรอด) Thriver (เจริญเติบโตดี) เราไม่ใช่เหยื่อ และไม่ใช่แค่เอาตัวรอดไปวันๆ แต่เราเป็นคนที่แข็งแรงขึ้น และเจริญเติบโตดี ทำอะไรก็สำเริญขึ้น กุญแจสำคัญของการแข็งแรงดี จำเริญขึ้น คือ การเป็นหนึ่งเดียวกัน
และเรายัต้องสำรวจย่างก้าวของชีวิตเราว่าเรากำลังย่ำอยู่กับที่ หรือเรากำลังไปได้ไกลขึ้น มีคำภาษาอังกฤษคำหนึ่ง พูดว่า Not how fast but how far แปลว่า ไม่ใช่ไปเร็ว แต่ไปได้ไกล นั่นหมายความว่า บางคนไปเร็ว แต่ไปไม่ถึงเป้าหมาย ล่มซะก่อน ไปไกล คือไปได้ถึงจุดหมายปลายทาง ดังนั้น คำว่า อยากไปเร็ว ไปคนเดียว อยากไปไกล ต้องไปด้วยกัน คือความจริง เพราะมีการช่วยกันและกัน ในยามที่เราช่วยตัวเราเองไม่ได้
ปัญญาจารย์ 4:9-12 9 สองคนดีกว่าคนเดียว เพราะว่าเขาทั้งสองได้รับผลของงานดี 10 ด้วยว่าถ้าคนหนึ่งล้มลง อีกคนหนึ่งจะได้พะยุงเพื่อนของตนให้ลุกขึ้น แต่วิบัติแก่คนนั้นที่อยู่คนเดียวเมื่อเขาล้มลง และไม่มีผู้อื่นพะยุงยกเขาให้ลุกขึ้น11 อนึ่ง ถ้าสองคนนอนอยู่ด้วยกัน เขาก็อบอุ่น แต่ถ้านอนคนเดียวจะอุ่นอย่างไรได้เล่า12 แม้คนหนึ่งสู้คนเดียวได้ สองคนคงสู้เขาได้แน่ เชือกสามเกลียวจะขาดง่ายก็หามิได้
สำรวจความสัมพันธ์ ที่มีอยู่ สามีภรรยา พ่อแม่ลูก ญาติพี่น้อง การเป็นส่วนหนึ่งของคริสตจักร บทบาทเหล่านี้ ไม่ใช่เกิดขึ้นเพื่อให้ลดหรือตัดความสัมพันธ์ แต่เพื่อให้สานสัมพันธ์ต่อยอดกันยิ่งๆขึ้น ไปสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสต์ และพระเจ้าทรงกำหนดให้เป็นบทบาทที่เราทุกคนต้องสอบให้ผ่าน เพื่อจะรับพระพร
ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเป็นพระพร สามารถอุดช่องโหว่ รูรั่ว ที่เกิดขึ้นในครอบครัว ในชีวิตการทำหน้าที่การงาน
ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ยังเป็นการทลายอุปสรรคที่ขัดขวางพระพรที่จะเทเข้ามาในชีวิต หน้าที่การงาน ธุรกิจของเราทุกคนด้วย
หนังสือเอเฟซัสได้ให้แนวทางภาคปฏิบัติแก่คริสเตียน เรื่องการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ที่จะนำไปสู่พระพร ชีวิตจำเริญ แข็งแรง ดังนี้
1.สอบให้ผ่านบททดสอบของจิตใจ
เอเฟซัส4:2 2 คือจงถ่อมใจและมีความสุภาพอ่อนโยนอยู่เสมอ จงอดทน จงอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก
ดาวิด บุรุษที่ยิ่งใหญ่ของชนชาติอิสราเอล เป็นคนที่นำความปึกแผ่นมาสู่อิสราเอล ยุคสมัยของดาวิดจึงรุ่งเรือง ร่ำรวย มั่งคั่ง และส่งต่อไปยังซาโลมอน ความเป็นหนึ่งเดียวกันในความศรัธาในพระเจ้า แต่ก่อนจะถึงพระพร ก็ต้องเจอกับบททดสอบด้วย กว่าจะเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ไม่ง่าย ซึ่งดาวิดได้เผชิญ และต้องผ่านบททดสอบของหัวใจก่อน
สดุดี 34-35 เป็นบทเพลงที่ดาวิดเขียนขึ้นจากชีวิตจริง ประสบการณ์จริง ที่ผ่านบททดสอบได้ เพราะท่าทีของจิตใจที่ถ่อม
สรรเสริญเพราะรับการช่วยกู้จากความทุกข์ยาก ของดาวิด เมื่อท่านแกล้งทำเป็นบ้าอยู่ต่อหน้าอาบีเมเลค พระองค์จึงขับไล่ท่านออกไปเสีย และท่านก็ไป
จงถ่อมใจ….
สดุดี 34:6 6 คนจนคนนี้ร้องทูล และพระเจ้าทรงฟัง และทรงช่วยเขาให้พ้นจากความยากลำบากทั้งสิ้นของเขา
คำว่า คนจนคนนี้ รากศัพท์ภาษาฮีบรูคำนี้ มีความหมายถึงการแสดงตัวที่ถ่อมตัว วางตัวเองต่ำสุด (ในสภาพแวดล้อม หรือสถานการณ์ที่ตกต่ำ ดิ่งสุดๆ ดาวิดถ่อมใจ ยอมรับสภาพความจริงที่ตนเองเป็นอยู่
จงอดทน จงอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก
สดุดี 34:19 19 คนชอบธรรมนั้นถูกข่มใจหลายอย่าง แต่พระเจ้าทรงช่วยกู้เขาออกมาให้พ้นหมด
ในการถูกกดดัน ที่ทำให้รู้สึกตกต่ำ คือการทดสอบจิตใจสุภาพที่แท้ ถ้าไม่แท้ ก็จะได้จัดการให้ได้ของแท้ให้เกิดขึ้นให้ได้ เพราะจิตใจที่แท้เท่านั้นจึงจะผ่านการทดสอบเพื่อจะรับมรดกของพระเจ้า
มัทธิว 5:5 5 “บุคคลผู้ใดมีใจอ่อนโยน ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก
พระเจ้าเป็นเจ้าของแผ่นดินโลกนี้ ในสมัยของอิสราเอลที่เข้าคานาอัน ที่ถูกครอบครองโดยคนต่างชาติ ทั้งๆที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้กับอับราฮัม อิสอัค ยาโคบว่าพระองค์จะประทานแผ่นดินที่อุดมด้วยน้ำผึ้งและน้ำนม ให้กับลูกหลานของเขา พระเจ้าทรงนำอิสราเอล สอนคนอิสราเอลให้อยู่อย่างสงบ มีจิตใจที่อ่อนโยนต่อกันและกัน ดาวิดเป็นคนที่ผ่านการทดสอบ เรื่องนี้ ดาวิดจึงได้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล และในยุคของดาวิด คือยุคของการยึดครองแผ่นดินคานาอันได้มากที่สุด รุ่งเรืองที่สุด
และสันติภาพนำหน้าเสมอ
สดุดี 34:13 13 จงระวังลิ้นของเจ้าจากความชั่ว และอย่าให้ริมฝีปากพูดเป็นอุบายล่อลวง 14 จงหนีการชั่ว และกระทำการดี แสวงสันติภาพ และติดตามไป
มีคำพูดหนึ่งได้กล่าวว่า ความสัมพันธ์ต้องใช้เวลาสร้างนาน แต่ก็ถูกทำลายได้ในระยะเวลาอันสั้น แค่คำพูดที่ไม่ดีคำเดียว
เพราะฉะนั้น ดาวิดจึงเตือนสอนคนรุ่นหลังว่า ให้ระวังลิ้นจากความชั่ว (อันดับแรก ) และปิดท้ายด้วยการให้สันติภาพนำหน้า…. ซึ่งไม่ง่าย ดังนั้น การจะให้การบัญชาพระพรของพระเจ้ามาอยู่เหนือความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ต้องใช้อีกปัจจัยหนึ่ง…นั่นคือ ….
2.ต้องใช้ความเพียรพยายาม
เอเฟซัส 4:3 3 จงพยายามรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาจากพระวิญญาณนั้น โดยมีสันติภาพเป็นเครื่องผูกพัน
คำว่า พันธนะ หรือเครื่องผูกพัน หมายถึง สิ่งที่ผูกติดกัน ไม่แยกจากกันง่าย ในฉบับแปล 1971 ใช้คำว่า เพียร คือความอุตสาหะ รากศัพท์ภาษากรีก แปลว่า ความขยัน น่าสนใจกับคำนี้ว่า เกี่ยวข้องกับความรวดเร็ว to use speed เกี่ยวข้องกับเวลา ความสัมพันธ์ต้องใช้เวลาในการสร้างความสัมพันธ์ให้เกิดขึ้น ในคำอธิษฐานของดาวิด ที่ขอจากพระเจ้าไว้น่าสนใจมาก
สดุดี 141:3 3 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงตั้งยามเฝ้าปากของข้าพระองค์ ขอรักษาประตูริมฝีปากของข้าพระองค์
แสดงว่า ดาวิดมองเห็นจุดอ่อนของความสัมพันธ์ระหว่างกัน อยู่ที่คำพูดต่อกันและกัน
ดาวิดใช้สันติภาพเป็นพันธนะ ขณะอีกฝ่ายมุ่งทำลายความผูกพัน (ซาอูล หรืออับซาโลม ลูกชายของตัวเอง) ดาวิดหนีอย่างเดียว ไม่ประหน้า แม้มีโอกาสก็ไม่ทำลาย แต่ใช้โอกาสนั้น เพื่อจะชี้แจงและสื่อสาร
การใช้สันติภาพ คือไม่ทำสงคราม เป็นเครื่องผูกพัน ก็ไม่เกิดสงคราม ไม่เกิดการทะเลาะ ไม่เกิดการต่อสู้ ไม่เกิดการปกป้องตนเอง ไม่เกิดการแก้ตัว ไม่เกิดการให้ร้าย สันติภาพเป็นเครื่องผูกพัน คือทำให้เกิดความสัมพันธ์
วันนี้ ในสูจิบัตร ก็มีคำว่า สงครามไม่เคยนำสันติภาพ มีแต่สันติภาพเท่านั้นที่จะนำสันติภาพให้เกิดขึ้นได้ จงให้สันติภาพเป็นเครื่องผูกพันกันและกัน
3.พระเจ้าเป็นผู้บัญชาพระพร
สดุดี 133:1-3 1 ดูเถิด เป็นการดีและน่าชื่นใจมากสักเท่าใด ที่พี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว2 เหมือนน้ำมันประเสริฐอยู่บนศีรษะ ไหลลงมาบนหนวดเครา บนหนวดเคราของอาโรน ไหลลงมาบนคอเสื้อของท่าน3 เหมือนน้ำค้างของภูเขาเฮอร์โมน ซึ่งตกลงบนเทือกเขาศิโยน เพราะว่าพระยาห์เวห์ทรงบัญชาพระพรที่นั่น คือชีวิตยืนยาวเป็นนิตย์
ดาวิดผู้เขียนสดุดีบทนี้ ได้ให้ความสำคัญเรื่องความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จากประสบการณ์ของตนเองที่ได้เห็นพระพรมาจากการมุ่งสร้าง รักษา และรวบรวมคนอิสราเอลให้เป็นหนึ่งเดียวกัน และที่สำคัญ ให้พระเจ้าบัญชาพระพรด้วยพระองค์เอง
พระเยซูคริสต์เจ้าทรงตรัสเกี่ยวกับความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของพระองค์กับพระบิดา และทรงปรารถนาให้สาวกของพระองค์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเหมือนที่พระองค์เป็น
ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทำให้สาวกของพระองค์อยู่ในการปกป้องของพระเจ้า ให้พ้นจากมารร้าย อย่างสมเหตุสมผล ที่มารซาตานจะไม่มีช่องหรือโอกาส และเป็นความชอบธรรมที่พระเจ้าจะปกป้องคนของพระองค์ สาวกของพระเยซู….รักกันและกัน
มารไม่สามารถพูดว่า เห็นไม๊ สาวกของพระเยซูเปิดช่องให้มันโจมตีเอง มันเพียงแต่รอหาช่องและโอกาส แต่มารทำอะไรเราไม่ได้ มารซาตานหาช่องและโอกาสที่จะยุยง เสี้ยมให้คนของพระเจ้าทำลายความเป็นพันธนะ เครื่องผูกพันกัน ที่ได้มาโดยพระเยซูคริสต์เจ้าที่ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ทำให้เรามาผูกพันกัน เป็น The one new man เป็นคนๆเดียวกันในพระคริสต์
เอเฟซัส 2:14-16,21-22 14 เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นสันติสุขของเรา เป็นผู้ทรงกระทำให้ทั้งสองฝ่ายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และทรงรื้อกำแพงที่กั้นระหว่างสองฝ่ายลง15 คือการเป็นปฏิปักษ์กัน โดยในเนื้อหนังของพระองค์ ได้ทรงให้ธรรมบัญญัติอันประกอบด้วยบทบัญญัติและกฎหมายต่างๆ นั้นเป็นโมฆะ เพื่อจะกระทำให้ทั้งสองฝ่ายเป็นคนใหม่คนเดียวในพระองค์ เช่นนั้นแหละ จึงทรงกระทำให้เกิดสันติสุข 16 และเพื่อจะทรงกระทำให้ทั้งสองพวกคืนดีกับพระเจ้า เป็นกายเดียวโดยกางเขน ซึ่งเป็นการทำให้การเป็นปฏิปักษ์ต่อกันหมดสิ้นไป… 21 ในพระองค์นั้นทุกส่วนของโครงร่างต่อกันสนิท และเจริญขึ้นเป็นวิหารอันบริสุทธิ์ในองค์พระผู้เป็นเจ้า22 และในพระองค์นั้น ท่านก็กำลังจะถูกก่อขึ้นให้เป็นที่สถิตของพระเจ้าในฝ่ายพระวิญญาณด้วย
“เป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสต์…เป็นพระพร”
1.สอบให้ผ่านบททดสอบของจิตใจ
2.ต้องใช้ความเพียรพยายาม
3.พระเจ้าเป็นผู้บัญชาพระพร