“เป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสต์…ด้วยความเชื่อและหวังใจเดียวกัน”
1โครินธ์ 13:13 13 ดังนั้นยังตั้งอยู่สามสิ่ง คือความเชื่อ ความหวังใจ และความรัก แต่ความรักใหญ่ที่สุด
เมื่อวานช่วงเช้า ข้าพเจ้าได้รับโทรศัพท์จากพี่น้องของเราว่า เกิดไฟไหม้ที่บ้าน ที่ปิดประตูไว้ เพื่อนบ้านจะเข้าไปช่วยดับไฟก็ทำไม่ได้ ความคิดหนึ่งแวบเข้ามา คือ บ้านแจ๊ดเหรอ ทำไมต้องเกิดเรื่องนี้ด้วย เป็นได้อย่างไร ในใจข้าพเจ้ารู้สึก ไม่ยอม แจ๊ดโทรมาเพื่อขอให้ข้าพเจ้าติดต่อเปิ้ล เพื่อเอากุญแจสำรองไปเปิดประตูบ้าน เมื่อข้าพเจ้าโทรไปหาเอลียาห์ให้เอากุญแจไป ข้าพเจ้าก็คิด กว่าเอจะไป เร็วสุดก็15 นาที ไฟมันไม่รอเราหรอก มันก็เผาไหม้อย่างรวดเร็ว สิ่งหนึ่งก็คือ ภาวนา ขอพระเจ้าทรงช่วยด้วย นี่คือความเชื่อและความหวังใจ ที่เราสามารถทำได้ แจ๊ดคงเป็นทุกข์ใจมาก ข้าพเจ้าเองกำลังย่างอาหารบนเตา (เพราะญาติๆกำลังเดินทางมาที่บ้านเพื่อจะตรุษจีนกับผู้ใหญ่ในบ้าน) ของที่ย่างไว้ ไหม้หมด ใจไม่ได้อยู่ที่การย่าง ใจอยู่ที่บ้านแจ๊ด ส่งข้อความให้พี่น้องที่อยู่ในไหลน์รุ่งอรุณช่วยกันอธิษฐาน
ในเวลาไม่นาน ก็ได้รับโทรศัพท์จากแจ๊ดว่า ทุกอย่างเรียบร้อย สามารถดับไฟได้ ต้นเพลิงไม่ใช่บ้านแจ๊ด แต่เป็นหลังบ้าน สบายใจสองเปาะ ก็คือ ต้นเพลิงไม่ใช่บ้านแจ๊ด และสามารถดับไฟได้ ขอบคุณพระเจ้า
นี่คือความเป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสต์…ด้วยความเชื่อและหวังใจ ที่มีร่วมกันที่สามารถแสดงออกได้ในไลน์รุ่งอรุณ ข้าพเจ้าเชื่อว่ามีคนที่มีความคำอธิษฐานที่มีพลังทำให้เกิดผล คนๆนั้น คือคุณที่เปิดไลน์รุ่งอรุณ และแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสต์ คนๆนั้น คือคนที่เชื่อและหวังใจในการปกป้องของพระเจ้าต่อคนของพระองค์ คนๆนั้น คือคนที่เชื่อและหวังใจอย่างเดียวกันในผู้รับใช้ของพระเจ้าที่มีพระสัญญาของพระองค์ด้วยกัน
อิสยาห์ 43:2 2 เมื่อเจ้าลุยข้ามน้ำ เราจะอยู่กับเจ้า เมื่อข้ามแม่น้ำ น้ำจะไม่ท่วมเจ้า เมื่อเจ้าลุยไฟ เจ้าจะไม่ไหม้ และเปลวเพลิงจะไม่เผาผลาญเจ้า
หัวข้อประจำปีของคริสตจักรเราในปีนี้ คือ มีความเชื่อและความหวังใจเดียวกัน เหมือนคนๆเดียวกัน
ฟิลิปปี 1:27 27 ขอแต่เพียงให้ท่านดำเนินชีวิตให้สมกับข่าวประเสริฐของพระคริสต์ เพื่อว่าแม้ข้าพเจ้าจะมาหาท่านหรือไม่ก็ตาม ข้าพเจ้าก็จะได้รู้ข่าวของท่านว่า ท่านเชื่อมั่นคง เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ต่อสู้เหมือนอย่างเป็นคนเดียวเพื่อความเชื่ออันเกิดจากข่าวประเสริฐนั้น
…เพื่อว่าแม้ข้าพเจ้าจะมาหาท่านหรือไม่ก็ตาม….
เป็นอะไรที่บอกกับเราว่า ไม่ว่าจะเราอยู่ห่างไกลกันแค่ไหน จะไม่สามารถขนาดไหนอย่างไร ความเชื่อมั่นคง เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ต่อสู้เหมือนอย่างคนเดียวเพื่อความเชื่ออย่างเดียวกัน คือความเชื่อในพระเยซูคริสต์
เรามีความหวังใจอย่างเดียวกัน คือความรอด มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า ความรอด เป็นปัจจุบัน ไม่ใช่อนาคต
ฮีบรู 11:1 1 ความเชื่อคือความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นความรู้สึกมั่นใจว่า สิ่งที่ยังไม่ได้เห็นนั้นมีจริง
ความรอด ในภาษากรีก แปลครอบคลุมทุกอย่างของชีวิตผู้ที่รอด ไม่ใช่แค่ตายแล้วถึงจะได้รับความรอด ความหมายของความรอดจึงหมายถึง สุขภาพโดยรวม และแน่นอน หมายถึง สวัสดิภาพโดยรวมด้วย
ลูกา 3:6 6 มนุษย์ทั้งปวงจะได้เห็นความรอดของพระเจ้า”
โสโซ เป็นรากศัพท์ของคำว่า ปลดปล่อย สุขภาพ ความรอด ปลอดภัย การช่วยกู้ deliver, health, salvation, save, saving
มนุษย์ทั้งปวงจะได้เห็นความรอด…เหล่านี้ในชีวิตปัจจุบัน และมันจะไม่ใช่แค่อดีต ที่เคยเห็น เคยมี เคยเป็น
มีคริสเตียนไม่น้อย ที่ความรอดกลายเป็นอดีต นานแค่ไหนแล้ว ที่การช่วยกู้ของพระเจ้า การเคลื่อนไหวของพระเจ้า การอัศจรรย์ที่เคยเกิดขึ้น มันหายไปไหน คริสเตียนหลายคนกำลังหลงไปกับความเชื่อในความอยู่รอดของโลกเศรษฐกิจใหม่หรือเปล่า
- ดีกว่า
- เร็วกว่า
- ถูกกว่า
- สะดวกกว่า
แนวโน้มในเศรษฐกิจใหม่กำลังมีอิทธิพลไปทุกชีวิต….
เปลี่ยนแปลงมากขึ้น รุนแรงมากขึ้น เร็วขึ้น มีผลทำให้ สภาพจิตใจ ของมนุษย์จะเป็นดังนี้
2 ทิโมธี 3:1-4
“ในสมัยจะสิ้นยุคนั้น จะเกิดเหตุการณ์กลียุค เพราะมนุษย์จะเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน เย่อหยิ่ง ยโส ชอบด่าว่า ไม่เชื่อฟังบิดามารดา อกตัญญู ไร้ศีลธรรม ไร้มนุษยธรรม ไม่ให้อภัยกัน ใส่ร้ายกัน ไม่ยับยั้งชั่งใจ ดุร้าย เกลียดชังความดี ทรยศ มุทะลุ หัวสูง รักความสนุกยิ่งกว่ารักพระเจ้า ถือศาสนาแต่เปลือกนอก ส่วนแก่นแท้ของศาสนาเขาไม่ยอมรับ…”
เราจะอยู่ในกระแสของโลกอย่างไร…เมื่อการเปลี่ยนแปลงรอบตัวเรากำลังผลักให้เรา
ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ข่าวสารต่างๆถูกใช้เพื่อ…..
เพื่อความอยู่รอดของโลกเศรษฐกิจใหม่ 1. ดีกว่า2. เร็วกว่า3. ถูกกว่า4. สะดวกกว่า
พระคัมภีร์ได้บอกไว้ล่วงหน้าแล้วว่า เราจะไม่นิ่ง…เพราะความรู้ที่เพิ่มขึ้น.
ดาเนียล 12:4 “จนถึงวาระสุดท้าย คนเป็นอันมากจะวิ่งไปวิ่งมา และความรู้จะทวีมากขึ้น”
2 ทิโมธี 4:3-4 “เพราะจะถึงเวลาที่คนจะทนต่อคำสอนที่มีหลักไม่ได้ แต่เขาจะรวบรวมครูไว้ให้สอนในสิ่งที่เขาชอบฟัง เพื่อบรรเทาความอยาก เขาจะเลิกฟังความจริง และจะหันไปฟังเรื่องนิยายต่างๆ”
2ทิโมธี 4:5-7 5 แต่ท่านจงหนักแน่นมั่นคง จงอดทนต่อความทุกข์ยากลำบาก จงทำหน้าที่ของผู้ประกาศข่าวประเสริฐ และจงกระทำพันธบริการของท่านให้สำเร็จ 6 เพราะว่าข้าพเจ้ากำลังจะตกเป็นเครื่องบูชาอยู่แล้ว ถึงเวลาที่ข้าพเจ้าจะจากไป7 ข้าพเจ้าได้ต่อสู้อย่างเต็มกำลัง ข้าพเจ้าได้แข่งขันจนถึงที่สุด ข้าพเจ้าได้รักษาความเชื่อไว้แล้ว
เราจะนิ่งได้ เมื่อเราเป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสต์…ด้วยความเชื่อและความหวังใจ (เดียวกัน) นั่นคือ เราจะอยู่และรับใช้พระเจ้าด้วยสปิริตเดียวกัน เป็นความเชื่อเดียวกันกับพระเยซูคริสต์ ผู้บุกเบิกเส้นทางแห่งความเชื่อและความหวังใจให้กับเรา
ฮีบรู 12:2 2 หมายเอาพระเยซูเป็นผู้บุกเบิกความเชื่อ และผู้ทรงทำให้ความเชื่อของเราสมบูรณ์ พระองค์ได้ทรงอดทนต่อกางเขน เพื่อความรื่นเริงยินดีที่ได้เตรียมไว้สำหรับพระองค์ ทรงถือว่าความละอายนั้นไม่เป็นสิ่งสำคัญและพระองค์ได้ประทับ ณ เบื้องขวาพระที่นั่งของพระเจ้า
มีเส้นทางแห่งความเชื่อของโลกนี้มากมาย ข้าพเจ้าได้อ่านหนังสือที่ชื่อว่า “กระเป๋าแห่งความเชื่อ” ได้รวบรวมความเชื่อของคนไทยไว้ยี่สิบสี่คน แต่ละคนต่างยกเอาความเชื่อและความหวังใจของตนเองเป็นที่ตั้ง และต่างภูมิใจในความเชื่อและความหวังใจของตนเองที่พาตัวเองไปสู่สิ่งที่ตนเองใฝ่ฝัน หนังสือเล่มนี้ กำลังบอกกับคนในยุคสุดท้ายว่า คุณจะเชื่อยังไงก็ได้ เพื่อให้คุณได้สิ่งที่ตอบสนองความพอใจของคุณ
คำถามคือ ใช่หรือ? คนเราจะอยู่เพียงแค่ความพอใจของตนเองเท่านั้นหรือ?
มีอะไรที่มีคุณค่ามากกว่านั้นไม๊ คุณค่าสูงสุดของการเกิดมาเป็นคน ที่แตกต่างจากสัตว์
มีการกล่าวถึงน้ำตาของคนกับสัตว์ต่างกัน น้ำตาของสัตว์ เกิดจากความเจ็บปวดและเสียใจ แต่น้ำตาของคน นอกจากจะเกิดจากความเจ็บปวดและเสียใจแล้ว ยังเกิดจากความปลาบปลื้มใจ ดีใจด้วย
ข้าพเจ้าเป็นคนร้องไห้ง่าย กินอาหารเผ็ดมากๆ ก็น้ำตาไหล ร้องไห้เสียใจ เจ็บปวดในใจก็ร้องไห้ แต่เจ็บปวดของบาดแผล ยังไม่เคย แต่สิ่งที่ข้าพเจ้าชอบช่วงจังหวะของชีวิต เมื่อน้ำตาของข้าพเจ้าไหลออกมาในขณะมีความรู้สึกปลาบปลื้มใจ เวลาได้พบกับบุคคลที่น่าพึงใจ อย่างในหลวงร.9 พ่อแม่ คนที่รัก น้ำตาไหล โดยเฉพาะเมื่อได้สัมผัสกับพระเจ้า สัมผัสพระองค์ น้ำตาแห่งความปลาปลื้มจะไหลโดยไม่รู้ตัว เป็นน้ำตาแห่งความเชื่อและความหวังใจในพระเจ้า และได้สัมผัสกับพระองค์ พระองค์คือของจริง God is real ที่เราสามารถสัมผัสได้ สัมผัสลึก ยากที่จะอธิบายนอกจากจะมีประสบการณ์กับพระองค์ด้วยตัวเอง
เป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสต์…ด้วยความเชื่อและความหวังใจ (เดียวกัน) คุณมีความความเชื่อและความหวังใจนี้ไม๊?
อย่าให้ความเชื่อและความหวังใจ เป็นแค่อนาคต หรือกลายเป็นอดีตไปนานแล้ว จงให้เป็นปัจจุบัน
ความเชื่อและความหวังใจของเราต้องเป็นอย่างเดียวกันกับพระเยซูคริสต์ นั่นแหล่ะ เราจะเป็นหนึ่งเดียวกันได้
มีศาสนาหนึ่งที่เอาความเชื่อของศาสนานั้นไปใช้ เพื่อจะสร้างความเป็นปัจเจกของศาสนานั้น แต่กลับสร้างกลุ่มคนที่เรียกว่า Extremist พวกหัวรุนแรง และก่อให้เกิดการทำลายแก่ชีวิตของคนมากมาย นั่นเป็นความเชื่อที่สร้างความหวังในการพยายามจะเอาคนอื่นมาร่วมความเชื่อของตนเองเชิงบังคับ กดขี่ข่มเหง
หากจะมองสเกลให้เล็กลงมาระดับครอบครัว ก็มีไม่น้อยที่ในครอบครัวที่มีคนหัวรุนแรง ที่ต้องการใช้ความเชื่อความคาดหวังของตนเอง ก่อให้เกิดการทำลายมากกว่าเสริมสร้าง แก่คนในครอบครัวของตนเอง ก็ไม่แตกต่างในการพยายามที่จะเอาคนอื่นมาร่วมความเชื่อและความคาดหวังของตนเอง
ให้เรามาพิเคราะห์พิจารณาเส้นทางความเชื่อของพระเยซูคริสต์ที่ทรงบุกเบิกให้กับเรา
ฮีบรู 12:2-5 3 ท่านทั้งหลายจงคิดถึงพระองค์ผู้ได้ทรงยอมทนต่อคำคัดค้านของคนบาป เพื่อว่าท่านทั้งหลายจะได้ไม่รู้สึกท้อถอย4 ในการต่อสู้กับบาปนั้น ท่านทั้งหลายยังไม่ได้สู้จนถึงกับต้องเสียโลหิตเลย5 และท่านได้ลืมคำเตือน ที่พระองค์ได้ทรงเตือนในฐานะที่เป็นบุตรว่า บุตรชายของเราเอ๋ย อย่าละเลยต่อการตีสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า และอย่าท้อถอยในเมื่อพระองค์ทรงตีสอนนั้น
เป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสต์….ด้วยความเชื่อและหวังใจ(เดียวกัน)
1.คิดถึงวิธีและวิถีของพระเยซู
3 ท่านทั้งหลายจงคิดถึงพระองค์ผู้ได้ทรงยอมทนต่อคำคัดค้านของคนบาป เพื่อว่าท่านทั้งหลายจะได้ไม่รู้สึกท้อถอย
2.ต่อสู้อย่างเดียวกันกับพระเยซู
4 ในการต่อสู้กับบาปนั้น ท่านทั้งหลายยังไม่ได้สู้จนถึงกับต้องเสียโลหิตเลย
3.วินัย=ไม่มีทางลัด
5 และท่านได้ลืมคำเตือน ที่พระองค์ได้ทรงเตือนในฐานะที่เป็นบุตรว่า บุตรชายของเราเอ๋ย อย่าละเลยต่อการตีสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า และอย่าท้อถอยในเมื่อพระองค์ทรงตีสอนนั้น
4.สู่ความเชื่อสมบูรณ์
…. 2 หมายเอาพระเยซูเป็นผู้บุกเบิกความเชื่อ และผู้ทรงทำให้ความเชื่อของเราสมบูรณ์….
เส้นทางที่เรากำลังเดินไปกับพระเยซู คือการทำให้ความเชื่อของเราที่ไม่ค่อยจะสมบูรณ์ (และบางทีอาจอยู่ในสภาพขึ้นๆลงๆ ผลุบๆโผล่เป็นพักๆ) ได้ไปถึงความเชื่อที่เติบโต เข้มแข็ง และมั่นคง นี่คือความหมายของคำว่า ความเชื่อที่สมบูรณ์
รากศัพท์คำว่า ความเชื่อที่สมบูรณ์ ก็คือ ผู้ทำให้ความเชื่อที่มีนั้นสำเร็จ Finisher
ความเชื่อและความหวังใจ ที่ไม่เหมือนกับโลกนี้ให้ (โลกพยายามสร้างความเชื่อและความหวังตามกระแสของโลก ที่เปลี่ยนไปอยู่เรื่อยๆ เมื่อวานหวังอีกอย่าง วันนี้หวังอีกอย่าง ความเชื่อของโลกกำลังวิ่งตามความรู้ที่เกิดขึ้นมากมาย)
แต่ความเชื่อและความหวังใจในเส้นทางของพระเยซูคริสต์ ไม่เปลี่ยน
ฮีบรู 13:8-9 8 พระเยซูคริสต์ยังทรงเหมือนเดิมในเวลาวานนี้ และเวลาวันนี้ และต่อๆ ไปเป็นนิจกาล9 อย่าหลงไปตามคำสอนต่างๆ ที่แปลกๆ เพราะว่าเป็นการดีอยู่แล้วที่จะให้กำลังใจเข้มแข็งขึ้นด้วยพระคุณ….
เป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสต์…ด้วยความเชื่อและหวังใจ(เดียวกัน) ดังนั้น การเป็นคริสเตียนของเราไมใช่การมาแสวงหาความร่ำรวย ความสำเร็จ หรืออะไรๆที่คนมากมายในโลกนี้กำลังแสวงหา แต่เรามาพบกับวิถีชีวิตใหม่ ที่มีความเชื่อและความหวังใจเดียวกันที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปตามการชักชวนของโลกนี้
ขอให้เราจงแสวงหาปัญญาจากเบื้องบน และมีความรอบคอบที่จะดำเนินชีวิตในโลกนี้ อย่างไม่เป็นของโลกนี้
ยอห์น 17:14-15 14 ข้าพระองค์ได้มอบพระดำรัสของพระองค์ให้แก่เขาแล้ว และโลกนี้ได้เกลียดชังเขา เพราะเขาไม่ใช่ของโลก เหมือนดังที่ข้าพระองค์ไม่ใช่ของโลก15 ข้าพระองค์ไม่ได้ขอให้พระองค์เอาเขาออกไปจากโลก แต่ขอปกป้องเขาไว้ให้พ้นจากมารร้าย
“เป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสต์…ด้วยความเชื่อและหวังใจ” (เดียวกัน)
1.คิดถึงวิธีและวิถีของพระเยซู
2.ต่อสู้อย่างเดียวกันกับพระเยซู
3.วินัย=ไม่มีทางลัด
4.สู่ความเชื่อสมบูรณ์