“แชมเปี้ยนตัวจริง”
ฉายวีดีโอก่อนเทศนา ของ Derek Redmond’s Emotional Olympic Story – Injury Mid-Race | Barcelona 1992 Olympics
สิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่เพื่อจะชนะ แต่คือการเป็นส่วนหนึ่งในสนามแข่งต่างหาก
The most important is not to win but to take part
เรามักถูกปลูกฝังให้เข้าใจคำว่า ผู้ชนะ คือผู้ที่จะได้รับเกียรติ และผู้พ่ายแพ้ คือความอับอาย จนมีคนคิดพิเรน เปลี่ยนสองคำนี้ สลับกัน ด้วยคำว่า แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร เพื่อจะสร้างความรู้สึกอะไรบางอย่างว่า การพ่ายแพ้ ไม่ใช่อะไรน่าอับอาย และฮีโร่ ก็ใช่ว่าจะเป็นของผู้ชนะเลิศเสมอไป คำว่า แชมเปี้ยน แปลว่า ผู้ชนะเลิศ แต่ในวีดีโอที่เราได้รับชมไปนั้น ปรากฏว่า คนที่ไม่สามารถชนะในการแข่งขัน เพราะบาดเจ็บ แต่สามารถชนะใจผู้ชม กลายเป็นที่ประทับใจของคนทั้งสนาม ต่างปรบมือให้กับสปิริตของการเป็นนักกีฬา ไม่ยอมออกจากสนามแข่งขัน ไม่เลิก ไม่ถอย ไม่ถอนตัว แต่ยังคงมุ่งหน้าต่อไป ไปให้ถึงหลักชัย และ Derek Redmond คือ แชมเปี้ยนตัวจริง กลายเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่แปลกสุดของกีฬาโอลิมปิก
นั่นเพราะประสบการณ์ในอดีตของดีเรก เคยบาดเจ็บและเคยพ่ายแพ้ และต้องยืนอยู่ข้างสนามมองดูผู้คนอื่นเข้าเส้นชัย เขามีความรู้สึกว่า เขากลายเป็นคนนอก เขาพาตัวเองพร้อมกับความบาดเจ็บออกมานอกสนาม ความบาดเจ็บได้ทำให้เขาเลิก ถอนตัว และหยุดความใฝ่ฝันของตนเอง
แต่การแข่งขันครั้งนี้ ดีเรก จะไม่ยอมให้เป็นเหมือนเดิมอีก เขาลงแข่งในสนามอีกครั้ง วิ่งสี่ร้อยเมตร แต่ก็เกิดปัญหาซ้ำเหมือนเดิม แต่คราวนี้ ดีเรก กลับตอบสนองต่อปัญหาเดิม ด้วยท่าทีใหม่ และที่สำคัญ พ่อของเขาลงมาประคองให้เขาเดินต่อไป
วันนี้ ข้าพเจ้าได้เขียนสูจิบัตร เรื่อง Kingdom of Champion อาณาจักรของแชมป์ (ผู้ชนะ) ในนิยามของสวรรค์ ไม่ใช่คนที่ชนะคนอื่น แต่คือคนที่ทำให้คนอื่นไปสู่ชัยชนะเหนืออิทธิพลอำนาจมืดของโลกนี้ ย้ายจากอาณาจักรของความมืดมาสู่ความสว่างได้ นั่นคือ แชมเปี้ยนตัวจริง
1โครินธ์ 9:19 19 เพราะถึงแม้ว่าข้าพเจ้ามิได้อยู่ในบังคับของผู้ใด ข้าพเจ้าก็ยังยอมตัวเป็นทาสรับใช้คนทั้งปวง เพื่อจะได้ชนะใจคนมากยิ่งขึ้น
มีคนมากมายที่พยายามจะชนะใจคนที่ตนเองถูกใจ และนี่คือสิ่งที่คนมากมายในยุคของเราพยายามจะเอาชนะใจคนด้วยการทำให้คนอื่นถูกใจตนเอง ด้วยการทำให้หลงไหล ยึดติด กับความสามารถ ความเก่ง ความสวย ความงาม ความเท่ ความดูดี เป็นสิ่งที่เรียกว่า ตรงกันข้าม
วีดีโอของนักวิ่งที่ชนะใจคนดูทั้งสนาม ไม่ใช่เพราะเขาแข่งชนะคนอื่น แต่เขาชนะใจตัวเอง เขายังคงวิ่งต่อไปเพื่อไปให้ถึงเส้นชัย ด้วยสปิริตของนักกีฬา นี่แหล่ะ คือจุดที่ชนะใจคนดู เป็นบทเรียนสำหรับคนรอบข้าง ให้ทำตาม และเป็นบทเรียนที่ตรงกับพระคัมภีร์ที่พระเจ้าเป็นเหมือนพ่อของดีเรกที่จะเข้ามาประคองและเคียงคู่ให้ไปต่อจนถึงหลักชัย
อ.เปาโล เป็นคริสเตียนเมื่อสองพันปีที่แล้ว ที่เข้าใจและมองเห็นตัวเอง ในสนามแข่งของชีวิต ได้เขียนหนังสือ ฟิลิปปีดังนี้
ฟิลิปปี 3:12-17 12 มิใช่ว่าข้าพเจ้าได้แล้ว หรือสำเร็จแล้ว แต่ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไป เพื่อข้าพเจ้าจะได้ฉวยเอาไว้เป็นของตน อย่างที่พระเยซูคริสต์ได้ทรงฉวยข้าพเจ้าไว้เป็นของพระองค์แล้ว13 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าได้ฉวยไว้ได้แล้ว แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย และโน้มตัวออกไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า14 ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัล ซึ่งในพระเยซูคริสต์พระเจ้าได้ทรงเรียกจากเบื้องบน ให้เราไปรับ15 เราซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้วจึงคิดอย่างนั้น และถ้าท่านคิดอย่างอื่น พระเจ้าก็จะทรงโปรดให้เรื่องนั้นประจักษ์แก่ท่านด้วย16 แต่เราได้แค่ไหนแล้ว ก็ให้เราดำเนินตรงตามนั้นต่อไป 17 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ท่านจงร่วมกันตามแบบอย่างของข้าพเจ้า ท่านมีพวกเราเป็นตัวอย่างแล้ว จงดูคนที่ประพฤติตามแบบนั้น
…ลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย และโน้มตัวออกไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า…
นี่คือสิ่งที่ยากที่สุด เพราะคนเรามักจะยึดติดอยู่กับอดีต ที่สำเร็จ หรือล้มเหลว บ่อยครั้งที่เรามักจะคิดว่า ความล้มเหลวคือปัญหา แต่ความจริง การมุ่งมองแต่ความสำเร็จ ต่างหากคือปัญหา และเมื่อไม่สำเร็จ ก็ทำให้เกิดความท้อใจ และล้มเลิกความตั้งใจ
คำที่อ.เปาโลใช้ในการหนุนใจสำหรับพี่น้องคริสเตียนในเมืองฟิลิปปี ก็คือคำว่า
14 ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัล….
คำว่า บากบั่น ภาษากรีก ใช้คำว่า ดีโอโก้
เรามักจะคุ้นเคยกับคำว่า อีโก้ แปลว่า อาตมา อัตตา ถูกนำมาใช้เป็นสำนวนบ่งบอกว่า การมีอีโก้ คือการเอาตัวเองเป็นหลักของความพอใจตัวเอง
คำว่า ดีโอโก้ ภาษากรีก แปลว่า การข่มเหงตัวเอง (ไม่ตามใจตัวเอง)
อ.เปาโลกำลังบอกกับคริสเตียนในยุคนั้น และเราทั้งหลายในยุคนี้ว่า การจะไปถึงหลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัล ต้อง ดีโอโก้ ไม่ใช่อีโก้ (บอกกับคนข้างๆ พี่น้อง ว่า ดีโอโก้ ไม่ใช่อีโก้)
สุภาษิต 29:1 1 บุคคลที่ถูกตักเตือนบ่อยๆ แต่ยังแข็งคอ ประเดี๋ยวคอจะหัก รักษาไม่ได้
พวกอีโก้ มักจะคอแข็ง
แชมเปี้ยนตัวจริง ต้องข่มใจตัวเอง และมีเป้าหมายคือเส้นชัย ที่ต้องไปให้ถึง ไมใช่เอาชนะคนอื่นๆ และที่สำคัญ รางวัลที่พระเจ้าทรงเตรียมไว้ให้ มาจากเบื้องบน นั่นคือ การทำให้พระเจ้าทรงพอพระทัย ไม่ใช่มนุษย์พอใจ
แชมเปี้ยนตัวจริง เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนอื่น ที่อยากจะเป็นอยากจะทำตาม
น่าสนใจว่า คนที่วิ่งเข้าเส้นชัยในการแข่งขันในรอบที่ดีเรกแข่งนั้น ไม่ได้ถูกกล่าวถึง ไม่ถูกฉายวีดีโอ ไม่ได้การยกย่อง ดีเรก กลายเป็นดาวเด่นของการแข่งขันครั้งนั้น คนเดียว คนอื่นตกกระป๋องหายไปไหนไม่รู้ นี่คือรางวัลของการชนะใจตนเอง และชนะใจคนเชียร์
การเป็บแชมเปี้ยนตัวจริง จากพระคัมภีร์ฟิลิปปีตอนนี้ แบ่งออกเป็นสามประการดังนี้
1.ต่อสู้และชนะใจของตนเอง ฟิลิปปี 3:12-13
12 มิใช่ว่าข้าพเจ้าได้แล้ว หรือสำเร็จแล้ว แต่ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไป เพื่อข้าพเจ้าจะได้ฉวยเอาไว้เป็นของตน อย่างที่พระเยซูคริสต์ได้ทรงฉวยข้าพเจ้าไว้เป็นของพระองค์แล้ว13 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าได้ฉวยไว้ได้แล้ว แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย และโน้มตัวออกไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า
ความจริงอ.เปาโลมีโปรไฟล์อย่างที่คนในยุคของเราปัจจุบันนี้แสวงหา มีการศึกษา มีฐานะเบื้องหลังที่ดี (ที่คนในยุคนั้นต่างต้องการ) การเป็นพลเมืองโรม มีสิทธิพิเศษมากมาย และได้รับการคุ้มครองปกป้องภายใต้กฏหมายโรม คนในยุคนั้น ถือว่าคนที่มีโปร์ไฟล์อย่างอ.เปาโลถือว่า ประสบความสำเร็จ แต่อ.เปาโลกลับพูดว่า
12 มิใช่ว่าข้าพเจ้าได้แล้ว หรือสำเร็จแล้ว แต่ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไป….
และเมื่อเปาโลมาเป็นคริสเตียน คนมากมายที่เคยรู้จักเปาโลก็รู้สึกว่า เปาโลล้มเหลว ความเจริญก้าวหน้าของเปาโลหยุดชะงัก ความจริงเปาโลมีหนทางที่จะเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานของตนเอง คือการเป็นฟาริสี มีอาจารย์อย่างกามาลิเอล เป็นที่นับถือของพวกผู้ใหญ่ที่อยู่ในสภาแซนเฮดริน (เจ็ดสิบคน) เป็นพวกคนที่มีสติปัญญา เป็นอาวุโส เก่งกาจทางธรรมบัญญัติ มีอำนาจทางการเมืองของคนยิวในเวลานั้น เปาโลน่าจะเป็นคนหนึ่งที่เป็นตัวเก็งของการเข้าไปนั่งในสภาแซนเฮดรินนี้( 70 คน) ที่ประกอบไปด้วยผู้ที่จะตัดสินคดีความ ว่าเรื่องการบ้านการเมืองของคนยิว
แต่เปาโลได้ทิ้งอนาคตนั้น เพื่อจะบากบั่น (เอาชนะตัวเอง)
ไม่ง่ายที่คนเราจะยอมทิ้งค่านิยมของโลก ไม่ใช่แค่ทิ้ง แต่เดินสวนกระแสด้วย นั่นคือ ทำตรงกันข้าม คนในสังคมกำลังแข่งขันกันเพื่อจะชนะ ฉวยโอกาส คว้าให้ได้ก่อนคนอื่น คนไทยเราไม่ค่อยจะเข้าคิว เพราะกลัวไม่ได้โอกาส กลัวของหมด กลัวไม่พอ กลัวไม่มี ไม่ค่อยยอมรับสภาพที่ว่า พลาดโอกาส หรือพ่ายแพ้
ภาพที่พระเยซูอยู่บนไม้กางเขน และมีพวกปุโรหิต พูดกับพระเยซูว่า ถ้าเป็นบุตรของพระเจ้าจริง ก็ลงมาจากกางเขนเองสิ
ในยุคของเราก็มีคนจะพูดในทำนองเดียวกันนี้ เช่นกัน ว่า ถ้าจะพิสูจน์ว่า พระเจ้ามีจริง ก็ต้องทำให้รวย ทำให้หายดี ทำให้มีอย่างที่อยากจะมี สำเร็จอย่างที่คนทั่วไปสำเร็จ นั่นคือภาพของคนในยุคนี้
แต่เปาโลใช้คำว่า ความสำเร็จ และสิ่งที่เป็นค่านิยมของโลก คือหยากเยื่อ เป็นเหมือนสิ่งไร้ค่า เปาโลมองมุมเดียวกัน และเห็นภาพอย่างเดียวกันกับพระเยซูขณะพระองค์อยู่บนไม้กางเขน
….เพื่อข้าพเจ้าจะได้ฉวยเอาไว้เป็นของตน อย่างที่พระเยซูคริสต์ได้ทรงฉวยข้าพเจ้าไว้เป็นของพระองค์แล้ว
สำนวนที่ใช้คำว่า ฉวยเอามาเป็นของตน… อย่างที่พระองค์ฉวยข้าพเจ้าเป็นของพระองค์
เป็นการสื่อถึงความสัมพันธ์ทางจิตใจ ที่เปาโลสัมผัสถึงความรักของพระเยซูที่มีต่อเปาโล ด้วยการทนทุกข์ และสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อเปาโล พระเยซูชนะใจเปาโล เปาโลอยากจะชนะใจคนอย่างพระเยซู
มีคำพูดหนึ่งที่กล่าวว่า ถ้าท่านไม่ชนะ จะไม่มีใครเห็นพระคริสต์ในชีวิตของท่าน และถ้าท่านไม่แพ้ ก็จะไม่มีใครเห็นพระคริสต์ในชัยชนะของท่าน
ฟิลิปปี 3:10 10 ข้าพเจ้าต้องการจะรู้จักพระองค์ และได้รับประสบการณ์ในฤทธิ์เดช เนื่องในการที่พระองค์ทรงคืนพระชนม์นั้น และร่วมทุกข์กับพระองค์ คือยอมตั้งอารมณ์ตายเหมือนพระองค์
เปาโลมองเห็นชัยชนะของพระเยซูที่ทรงชนะตัวของพระองค์บนไม้กางเขน ตั้งอารมณ์ตาย ทนทุกข์ถึงที่สุด และเปาโลตระหนักว่า ทำไมพระเยซูจึงได้ใจของคนมากมาย
ประการที่สอง ของการเป็นแชมเปี้ยนตัวจริง
2.ฝึกฝนตนให้มีวินัย ให้แข็งแรง ฟิลิปปี 3:14-17
14 ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัล ซึ่งในพระเยซูคริสต์พระเจ้าได้ทรงเรียกจากเบื้องบน ให้เราไปรับ15 เราซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้วจึงคิดอย่างนั้น และถ้าท่านคิดอย่างอื่น พระเจ้าก็จะทรงโปรดให้เรื่องนั้นประจักษ์แก่ท่านด้วย16 แต่เราได้แค่ไหนแล้ว ก็ให้เราดำเนินตรงตามนั้นต่อไป17 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ท่านจงร่วมกันตามแบบอย่างของข้าพเจ้า ท่านมีพวกเราเป็นตัวอย่างแล้ว จงดูคนที่ประพฤติตามแบบนั้น
และนี่คือย่างก้าวสู่หลักชัย ที่ไม่ง่าย ต้องบากบั่น ด้วยการข่มเหงตัวเอง ซึ่งคนมากมายไม่ชอบที่จะข่มเหงตัวเอง และก็ไม่ยอมให้ใครมาข่มเหงตัวเองด้วย จนเกิดเป็นวิธีคิดที่เหมือนกันในคนมากมายคือ จะไม่ยอมถูกใครปฏิเสธก่อน ถ้ารู้ว่ากำลังถูกปฏิเสธ
คำว่า ต่อสู้และชนะใจตนเอง ก็คือ การปฏิเสธตัวเอง
มัทธิว 16:24 24 ขณะนั้นพระเยซูจึงตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามาให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับกางเขนของตนแบกและตามเรามา
Let him deny himself….
รากศัพท์ภาษากรีกใช้คำว่า ปฏิเสธตัวเองอย่างถึงที่สุด (ไม่ใช่แค่ครึ่งเดียว) บอกปัดตัวเอง ละเว้นตัวเอง
อ.เปาโลใช้คำว่า ทุบตีเนื้อหนังให้มันอยู่มือ
1โครินธ์ 9:26-27 26 ส่วนข้าพเจ้าวิ่งแข่งโดยมีเป้าหมาย ข้าพเจ้ามิได้ต่อสู้อย่างนักมวยที่ชกลม27 แต่ข้าพเจ้าก็ทุบตีร่างกายให้มันแข็งจนอยู่มือ เพราะเกรงว่าเมื่อข้าพเจ้าได้ประกาศข่าวประเสริฐแก่คนอื่นแล้ว ตัวข้าพเจ้าเองจะเป็นคนที่ใช้การไม่ได้
วิ่งแข่งอย่างมีเป้าหมาย นักมวยที่ไม่ได้ชกลม น่าสนใจมากกับการเปรียบเทียบสองนักกีฬา ที่มีความชัดเจนว่า กำลังทำอะไรกับตัวเอง เพื่อจะไปให้ถึงเป้าหมาย มองที่ตัวเอง ในด้านที่ต้องฝึกวินัยและความแข็งแกร่ง เพื่อทำลายสถิติเพื่อชนะตัวเอง
โค้ชเกาหลีที่มาดูแลนักฟุตบอลไทย ได้กล่าวคำหนึ่งว่า นักฟุตบอลไทยจะเข้าไปเล่นในระดับยุโรปได้ ต้องแข็งแรง วิ่งให้ได้ตลอดเวลาของการแข่งขัน น่าสนใจว่า นักฟุตทีมเกาหลี เป็นชาติเดียวที่เข้าไปแข่งบอลโลกได้ (ถ้าจำไม่ผิด) แค่ได้เข้าไปแข่ง ไม่ต้องชนะ ก็ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจแล้ว ความแข็งแกร่งนี้ เกิดจากความบากบั่น พัฒนาตนเองให้สามารถที่จะเล่นฟุตบอลได้ในระยะเวลาของเกม น่าจะสองชั่วโมงกว่า วิ่งตลอดเวลาอย่างทรหดอดทน นั่นแหล่ะ คือการบากบั่นที่แท้จริง ชนะหรือไม่ชนะ ไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับการยังคงเป็นผู้เล่นอยู่ในสนาม
สนามแข่งของชีวิต ต้องการแชมเปี้ยนตัวจริง คือ ยังคงวิ่งอยู่ ยังอยู่ในสนาม มีสปิริต ไม่ถอดใจ ไม่ยอมหยุด ยังทำบทบาทหน้าที่อย่างเต็มที่ สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น ต้องมีการฝึกฝน ที่เปาโลใช้คำว่า ทุบตีร่างกาย (เนื้อหนัง) ให้อยู่มือ คือควบคุมได้ ไม่ปล่อยตัวปล่อยใจ ทำอะไรสบาย คือไทยแท้ ขาดวินัย ขาดการพัฒนาตนเอง
ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ หรือได้มาโดยไม่ลงทุน วันนี้ เรากำลังลงทุนพัฒนาตัวเองด้านใด ที่จะทำให้เราเป็นแชมเปี้ยนตัวจริง ในอาณาจักรของพระเจ้า
เรากำลังเป็นแบบอย่างให้กับใคร และใครกำลังมองดูเราอยู่ เชียร์ให้ชนะ หรือเชียร์ให้เป็นส่วนหนึ่ง ให้ไปให้จบ เชียร์ให้ลุกขึ้น จากที่ล้มลง ขอให้สปิริตอย่างนี้มีท่ามกลางพวกเรา
3.ชนะใจคน 1โครินธ์ 9:19
19 เพราะถึงแม้ว่าข้าพเจ้ามิได้อยู่ในบังคับของผู้ใด ข้าพเจ้าก็ยังยอมตัวเป็นทาสรับใช้คนทั้งปวง เพื่อจะได้ชนะใจคนมากยิ่งขึ้น
นี่คือภาพที่สวยงาม เมื่อชีวิตของเราแตะใจของคนมากมายได้ ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรพี่น้องทุกคน ให้เป็นแชมเปี้ยนตัวจริง
“แชมเปี้ยนตัวจริง”
1,ต่อสู้และชนะใจของตนเอง
2.ฝึกฝนตนให้มีวินัย ให้แข็งแรง
3. ชนะใจคน