”หัวใจที่ทุกคนต้องการ”
หุ่นยนต์กำลังเข้ามาใกล้เรามากขึ้นเรื่อยๆ และไม่ใช่สาวโรงงานเท่านั้นที่จะตกงาน แต่คนทำงานบ้าน ก็กำลังจะตกงานด้วย
เรากำลังเข้าสู่ยุคที่เรียกว่า 4.0 ยุคที่คนจะหายไปจากวงจรการผลิตขนาดใหญ่ ยุคที่มีการใช้หุ่นยนต์เพื่อการใช้งานในโรงงาน ยุค 4.0 เป็นยุคที่คนจะตกงานจำนวนมากมาย เราได้เห็นคนทำงานธนาคารกำลังตกงาน สาขาของธนาคารยุบตัวลงอย่างรวดเร็ว องค์กรทางด้านการเงินกำลังเจอกับคลื่นสึนามิ เรากำลังเข้าสู่สังคมไร้เงินสด และอะไรอีกมากมายที่คนทำงานด้านการเงินจะลดน้อยลง
การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเหล่านี้ มุมหนึ่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคน สามารถนำมาใช้ลดต้นทุนได้ แต่อีกมุมหนึ่ง เป็นความน่ากลัวและน่าวิตกสำหรับคนชนชั้นแรงงาน และชนชั้นกลาง ที่ยิ่งยากจนลงเรื่อยๆ จากการมีรายได้ลดน้อยลง จากการตกงาน
คนรุ่นใหม่ นี่คืออนาคตของพวกคุณที่จะต้องเผชิญ คุณจะอยู่รอดในอนาคตได้อย่างไร
วันก่อน ข้าพเจ้าได้ไปตลาดเดินผ่านแต่ละร้านที่ขายพวกข้าวของเครื่องใช้ ที่กว่าจะขายได้แต่ละชิ้น ไม่ง่ายเลย กว่าจะได้เงินมา มองวัยรุ่นใช้เงินอย่างกะเบี้ย มันช่างทำให้มองเห็นความแตกต่างอะไรบางอย่าง
อีกวันไปเดินในตลาดสด แบบสมัยใหม่ พื้นไม่เปียก ผ่านร้านขายขนมบ้าบิ่น ที่กำลังใส่ขนมลงกะทะ มีป้ายติดไว้ว่า เอาโทรศัพท์สแกนซื้อขนมได้ ไม่ต้องใช้เงินสด ทึ่งอ่ะ นี่เรากำลังเปลี่ยนเร็วขนาดนี้เชียวหรือ
เมื่อยี่สิบสามสิบปีที่แล้ว มีการตีความพระคัมภีร์ในหนังสือวิวรณ์ ตอนหนึ่ง ว่า ในยุคสุดท้าย สิ่งที่สร้างด้วยวัสดุต่างๆ ให้เป็นรูปเคารพ เช่นรูปปั้น จะสามารถพูดได้ ตอนนั้น เราคิดแต่ในเชิงอิทธิฤทธิ์ อำนาจมืด ที่ทำให้รูปปั้นพูดได้ แต่วันนี้ เราเรียกรูปปั้นเหล่านั้น ว่า AI แปลเป็นไทยว่า ปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ สิ่งที่พระคัมภีร์ได้พยากรณ์ไว้เป็นจริงแล้ว และกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ตัวเราอย่างรวดเร็ว อย่างชนิดตั้งตัวไม่ทัน
ภาษาพระคัมภีร์เรียกปัญญาประดิษฐ์ในยุคของเราว่า รูปเคารพ (ของคนรุ่นใหม่ และคนรุ่นมนุษย์ต่างด้าวอย่างเราที่มีอายุเกินสี่สิบขึ้นไป)
พระเจ้าทรงเตือนคนของพระองค์ให้เตรียมตัวรับมือกับสิ่งเหล่านี้ ในขณะที่ผู้คนที่ไม่รู้จักพระเจ้าจะหวาดหวั่นกับผลกระทบของปัญญาประดิษฐ์ที่มาทำลายระบบการทำงานด้านแรงงาน ทำลายรายได้ และความเป็นอยู่ของคนชนชั้นล่าง คนยากจน ที่ห่วงเรื่องปากท้อง และชนชั้นกลางจนถึงชนชั้นสูงขึ้นไป ต่างก็คิดแต่เพียงความสะดวก รวดเร็ว และการหนีให้พ้นๆปัญหาของคน แต่ลืมไปว่า รูปปั้นพูดได้เหล่านี้ กำลังจะกลายเป็นรูปเคารพที่ทำให้คนติด และพึ่งพาแทนคนด้วยกัน และคิดว่าเป็นคำตอบของปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างคน จนลืมปัญหาที่ลึกกว่านั้นก็คือ ปัญหาของจิตใจ ที่ต้องอาศัยเรื่องของหัวใจเข้ามาแก้ปัญหา
พระเจ้าทรงรู้ว่า อนาคตของมวลมนุษยชาติจะต้องเจอปัญหาใหญ่มากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ คือเรื่องความสัมพันธ์กับคนด้วยกัน และยากที่มนุษย์ด้วยกันจะกลับมาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ครอบครัวก็จะยิ่งถูกทำลายให้หายไป เป้าหมายของพระเจ้า ในหลักการของพระคัมภีร์ก็คือ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คริสตจักรคือคำตอบของการทำให้เกิดการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในภาพของครอบครัว หัวใจที่เราต้องการ คือกุญแจสำคัญ ที่จะทำให้น้ำพระทัยของพระเจ้าสำเร็จ ในขณะที่โลกนี้ กำลังเคลื่อนไปในทิศทางของการทำลายความเป็นครอบครัว ทำลายความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ชัดเจนว่า ตรงกันข้ามกับคริสตจักร
เราทุกคนที่นี่ ต้องการเป็นคนที่มีหัวใจ หรือแค่หุ่นยนต์ ที่ไร้หัวใจ ทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่มีหัวใจ พูดคำว่า รัก คำว่า ชอบ ตอบสนองได้ทุกอย่าง แต่ไร้หัวใจ เราต้องการอย่างนั้นหรือ เรารู้หรือไม่ว่า คนรุ่นใหม่ กำลังติดกับดักอันนี้ คนรุ่นใหม่ หาเงินมาเพื่อใช้ เพื่อกิน เพื่อตอบสนองความต้องการของตนเอง ไม่สนใจเรื่องของหัวใจคนเป็นพ่อเป็นแม่ มองความสัมพันธ์เป็นเรื่องการแลกเปลี่ยน ถ้าใครมาทำดีด้วย แสดงว่า ต้องการอะไรจากเขา
เขาไม่วางใจคน แต่กลับไปวางใจในวัตถุสิ่งของ นี่คือภาวะของการไร้หัวใจที่แท้จริง นี่คือกับดัก ที่กำลังพาคนในยุคของเราไปติดกับ และยึดเป็นรูปเคารพ ใครจะช่วยให้คนเหล่านี้ หลุดออกมาจากกับดักเหล่านี้ได้
เมื่อพระเจ้าทรงรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในอนาคต และพระเจ้าทรงเตือน ทรงบอกไว้ล่วงหน้า พระองค์ก็มีคำตอบ ทางออกให้เช่นกัน
เอเสเคียล 36:25-26 25 เราจะเอาน้ำสะอาดพรมเจ้า และเจ้าจะสะอาดพ้นจากมลทินทั้งหลายของเจ้า และเราจะชำระเจ้าจากรูปเคารพทั้งหลายของเจ้า26 เราจะให้ใจใหม่แก่เจ้าและเราจะบรรจุจิตวิญญาณใหม่ไว้ในเจ้า เราจะนำใจหินออกไปเสียจากเนื้อของเจ้า และให้ใจเนื้อแก่เจ้า
นี่เป็นคำพยากรณ์ล่วงหน้า 400 ปี เป็น 400 ปีก่อนที่พระเจ้าจะเงียบ ไม่ตรัสผ่านผู้เผยพระวจนะ และหลังจาก 400 ปี เมื่อยอห์นผู้ให้บัพติศมาในน้ำเกิด ในยุคเดียวกันกับพระเยซูเสด็จมาเกิด ยอห์น บัพติสโต ได้ให้คนรับการชำรด้วยน้ำ
มาระโก 1:8 8 เราให้เจ้าทั้งหลายรับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่พระองค์นั้นจะให้เจ้าทั้งหลายรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์”
ยอห์น บัพติสโต พูดถึงพระเยซู ผู้ที่จะนำการบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์มาสู่ชีวิตคริสเตียน
และพระวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้น คือคำตอบสำหรับคริสเตียนในยุค 4.0 ที่กำลังถูกทำให้กลายเป็นหุ่นยนต์ เป็นสังคมหุ่นยนต์
สิ่งที่พระคัมภีรได้พยากรณ์ว่า รูปปั้นพูดได้จะกลายเป็นรูปเคารพ (ของคนรุ่นใหม่) คนรุ่นใหม่ ไม่ไหว้รูปปั้นในวัด ในวิหารอีกต่อไป แต่รูปปั้นพูดได้ กำลังเข้ามาอยู่ในบ้าน ในชีวิตประจำวันของทุกคนในอนาคตอันใกล้นี้
พระคัมภีร์ได้กล่าวว่า โลกนี้ ไม่ใช่บ้านของเรา (คริสเตียน) แต่เราต้องอยู่ในโลกนี้ อย่างคนต่างด้าว ก็คือ ไม่สูญเสียความเป็นพลเมืองของพระเจ้า เราไม่ใช่พลเมืองของโลกนี้ แต่เราอาศัยอยู่ในโลกนี้ อย่างไม่ใช่ของโลกนี้ พระเยซูคริสต์ทรงตรัสในคำอธิษฐานของพระองค์ว่า
ยอห์น 17:16-18,21-22 16 เขาไม่ใช่ของโลก เหมือนดังที่ข้าพระองค์ไม่ใช่ของโลก17 ขอทรงโปรดชำระเขาให้บริสุทธิ์ด้วยความจริง พระวจนะของพระองค์เป็นความจริง18 พระองค์ทรงใช้ข้าพระองค์มาในโลกฉันใด ข้าพระองค์ก็ใช้เขาไปในโลกฉันนั้นยน….20 “ข้าพระองค์มิได้อธิษฐานเพื่อคนเหล่านี้พวกเดียว แต่เพื่อคนทั้งปวงที่วางใจในข้าพระองค์เพราะถ้อยคำของเขา21 เพื่อเขาทั้งหลายจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดังที่พระองค์ คือพระบิดาทรงสถิตในข้าพระองค์ และข้าพระองค์ในพระองค์ เพื่อให้เขาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระองค์ และกับข้าพระองค์ด้วย เพื่อโลกจะได้เชื่อว่าพระองค์ทรงใช้ข้าพระองค์มา
พระเยซูทรงรู้ล่วงหน้าอันยาวไกลในอนาคตว่า การทำลายล้างที่รุนแรงที่สุด คือทำลายความสัมพันธ์ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจะแตกสลาย ในสังคมหน่วยย่อยที่สุด คือครอบครัว และลามไปทั่วทั้งโลก พระเยซูคริสต์ทรงอธิษฐานเผื่อสาวกของพระองค์ ทั้งในเวลานั้น และในเวลานี้ด้วย พระองค์ทรงอธิษฐานขอการชำระและการปกป้องสาวกให้พ้นจากมารร้าย (อิทธิพลของโลกนี้) มนุษย์ทุกคนตกอยู่ภายใต้อานุภาพของมารร้าย
หน้าที่ของเราต้องตอบสนองต่อคำอธิษฐานของพระเยซูด้วยการรับการชำระ (ด้วยน้ำ และด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์)
การรับการชำระด้วยน้ำ ก็คือ การรับบัพติศมาด้วยน้ำ ที่คริสเตียนทุกคนควรทำ เพราะคือการประกาศอย่างเป็นทางการว่า เราเป็นของพระเจ้า ไม่ใช่ของโลกนี้ (ทำครั้งเดียว) ส่วนการรับการรับการชำระด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ (ต้องทำบ่อยๆ ทำตลอดเวลา) คือการล้างทัศนคติ ชีวิตภายใน ซึ่งมีพระวจนะที่เป็นความจริง เป็นอุปกรณ์ในการชำระด้วย)
ยอห์น 17:15-17 15 ข้าพระองค์ไม่ได้ขอให้พระองค์เอาเขาออกไปจากโลก แต่ขอปกป้องเขาไว้ให้พ้นจากมารร้าย16 เขาไม่ใช่ของโลก เหมือนดังที่ข้าพระองค์ไม่ใช่ของโลก17 ขอทรงโปรดชำระเขาให้บริสุทธิ์ด้วยความจริง พระวจนะของพระองค์เป็นความจริง
พระเยซูทรงนำคำตอบมาแก้โจทย์ที่คนในยุคของเรากำลังเผชิญ เพื่อจะได้ไม่เป็นคนที่ไร้หัวใจ กลายเป็นใจหิน ใจแข็งกระด้าง
ฤทธิ์เดชของพระวจนะของพระเจ้าที่เป็นความจริง ต้องถูกใช้โดยการเร้าใจด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่ภายในชีวิตของคริสเตียน และใช้ในชีวิตประจำวัน ทุกวัน ทุกเวลา นื่คือกระบวนที่หนังสือเอเสเคียลได้กล่าวไว้
เอเสเคียล 36:25-26 25 เราจะเอาน้ำสะอาดพรมเจ้า และเจ้าจะสะอาดพ้นจากมลทินทั้งหลายของเจ้า และเราจะชำระเจ้าจากรูปเคารพทั้งหลายของเจ้า26 เราจะให้ใจใหม่แก่เจ้าและเราจะบรรจุจิตวิญญาณใหม่ไว้ในเจ้า เราจะนำใจหินออกไปเสียจากเนื้อของเจ้า และให้ใจเนื้อแก่เจ้า
และนี่คือ ”หัวใจที่ทุกคนต้องการ”
ข้าพเจ้าอยากหนุนใจพี่น้องที่ยังไม่รับบัพติศมาในน้ำ จงยอมที่จะรับ เหมือนกับที่พระเยซูคริสต์ทรงตรัสกับยอห์นว่า
มัทธิว 3:15 15 แต่พระเยซูตรัสตอบยอห์นว่า “บัดนี้จงยอมเถิด เพราะสมควรที่เราทั้งหลายจะกระทำตามสิ่งชอบธรรมทุกประการ” แล้วยอห์นก็ยอม
ยอห์นไม่ยอมทำพิธีบัพติศมาในน้ำให้พระเยซู เพราะยอห์นรู้ว่า พระเยซูคือพระมาซีฮา เป็นพระผู้ช่วยให้รอดตามที่พระคัมภีร์ทำนายไว้ แต่พระเยซูสั่งยอห์นให้ยอม ประกอบพิธีบัพติศมาในน้ำให้พระองค์ เพราะพระองค์จะต้องเดินเข้าสู่การตาย และถูกฝัง และเป็นขึ้นมาจากความตาย
ส่วนเราทั้งหลายรับบัพติศมาในน้ำ เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า เป็นการประกาศว่า เราเป็นประชากรของพระเจ้า เปรียบเทียบก็เหมือนกับการได้รับ ความเป็นพลเมืองเต็มขั้นในแผ่นดินสวรรค์ Citizenship การอาศัยอยู่ในโลกนี้ของคริสเตียนจึงเป็นเพียงคนต่างด้าว ในมิติฝ่ายวิญญาณเราไม่ใช่ของโลกนี้
และการรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ (เต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ตลอดเวลา) ต้องคู่กับพระวจนะคือการใช้พระคัมภีร์จากการเร้าใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์) คือกระบวนการเปลี่ยนแปลง และรับใจใหม่ คือใจเนื้อที่มีความรู้สึกอย่างเดียวกันกับพระเจ้า
นี่คือหัวใจที่ทุกคนต้องการ ผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ คืออาการของใจใหม่ ใจเนื้อ
กาลาเทีย 5:22-23 22 ฝ่ายผลของพระวิญญาณนั้น คือความรัก ความปลาบปลื้มใจ สันติสุข ความอดกลั้นใจ ความปรานี ความดี ความสัตย์ซื่อ23 ความสุภาพอ่อนน้อม การรู้จักบังคับตน…
นี่คือ “หัวใจที่ทุกคนต้องการ” ตรงกันข้ามกับคนใจหินใจแข็งกระด้าง หนังสือกาลาเทียได้กล่าวถึงอาการเช่นกัน
กาลาเทีย 5:19-20 19 การงานของเนื้อหนังนั้นเห็นได้ชัด คือการล่วงประเวณี การโสโครก การลามก20 การนับถือรูปเคารพ การถือวิทยาคม การเป็นศัตรูกัน การวิวาทกัน การริษยากัน การโกรธกัน การใฝ่สูง การทุ่มเถียงกัน การแตกก๊กกัน21 การอิจฉากัน การเมาเหล้า การเล่นเป็นพาลเกเร และการอื่นๆ ในทำนองนี้….
เรากำลังตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของใจแบบไหน ใจเนื้อ หรือใจหิน จงใช้ข้อพระคัมภีร์กาลาเทียนี้ ตรวจวัดอาการของหัวใจของตัวเราดู
ข้าพเจ้าค่อนข้างมั่นใจว่า “หัวใจที่เราทุกคนต้องการ” คือใจที่ส่งอาการของผลพระวิญญาณบริสุทธิ์ แม้ว่า บางครั้ง เราจะมีอาการของความต้องการของเนื้อหนัง แต่เราก็ยังมีความต้องการคนที่มีอาการของใจเนื้อ
อย่าให้เราเป็นเพียงผู้ที่ต้องการ หรืออยาก แต่ให้เรามีและเป็น คนที่มีหัวใจเนื้อ
1.จงใส่ใจต่อการอ่านและศึกษาพระวจนะ
ยอห์น 17:17 17 ขอทรงโปรดชำระเขาให้บริสุทธิ์ด้วยความจริง พระวจนะของพระองค์เป็นความจริง
2.จงเปิดโอกาสให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เร้าใจ
ยอห์น 14:26 26 แต่องค์ผู้ช่วยคือพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งพระบิดาจะทรงใช้มาในนามของเรานั้น จะทรงสอนท่านทั้งหลายทุกสิ่ง และจะให้ท่านระลึกถึงทุกสิ่งที่เราได้กล่าวไว้แก่ท่านแล้ว
”หัวใจที่ทุกคนต้องการ”
1.จงใส่ใจต่อการอ่านและศึกษาพระวจนะ
2.จงเปิดโอกาสให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เร้าใจ