“มองดูที่พระเยซู”

คริสตจักรใจสมานเพชรเกษม 11 เกิดขึ้นจากพระเจ้าเป็นผู้ริเริ่มและทรงสถาปนาคริสตจักรนี้ด้วยพระองค์เอง อย่างที่ได้เล่าให้พี่น้องฟังเกี่ยวกับที่มาที่ไปกว่าจะเกิดเป็นคริสตจักรนี้ได้ ผู้นำรับนิมิต  รับการหนุนใจ และพระเจ้าก็ส่งผู้นำผู้รับใช้คนอื่นๆมาช่วยให้คริสตจักรนี้เกิดขึ้น  ยังมีองค์ประกอบอื่นๆอีกมากมาย ที่ข้าพเจ้าอยากจะนำมาหนุนใจพี่น้องว่า ขณะที่เรากำลังเดินในหนทางที่เผชิญกับปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ  และกำลังเผชิญกับปัญหาด้านอื่นๆด้วย  ไม่ว่าจะเป็นผู้นำหลายคนในคริสตจักรเราถูกโจมตี เข้าใจผิด สุขภาพย่ำแย่  จิตใจถูกบั่นทอน จนบ่อยครั้งอยากถอดใจ ถอนตัวจากการรับใช้  ข้าพเจ้าเองก็เป็นหนึ่งในผู้นำเหล่านั้นที่กำลังเผชิญกับวิกฤตเหล่านี้

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วข้าพเจ้าได้ไปนั่งทานข้าวกับบรรดาอาจารย์ทั้งหลายที่เราเคยร่วมทีมศิษยาภิบาลที่คริสตจักรใจสมานสุขุมวิทซอย 6 เมื่อประมาณ 14 ปีที่แล้ว เราได้หนุนใจกันและกัน คุยกัน หลายเรื่อง แชร์ความทุกข์ใจ ความกดดันของการรับใช้พระเจ้าในที่ที่เรากำลังอยู่   ข้าพเจ้าเองก็แชร์ความรู้สึกกับเพื่อนผู้รับใช้รุ่นพี่ว่า ปีนี้ เป็นปีที่ยากลำบากทางจิตใจมาก  เมื่อคืนยังนอนน้ำตาไหล ร้องไห้กับพระเจ้าอยู่คนเดียว

ผู้รับใช้รุ่นพี่ก็หนุนใจข้าพเจ้าว่า เป็นกันแทบทุกคน ปีนี้ เป็นปีที่มีคำพยากรณ์มาถึงคริสตจักรไทยว่า พระเจ้ากำลังจัดเตรียมยุ้งฉางของพระองค์ ยุ้งฉางแปลว่า ที่สำหรับที่จะเก็บพืชผลที่เก็บเกี่ยวมา  หมายถึงสถานที่ เขาพูดโดยไม่รู้ว่า สถานที่ของคริสตจักรใจสมานเพชรเกษม 11 ที่พวกเรากำลังนั่งอยู่เวลานี้ ได้ขยายชั้นลอย สำหรับรองรับคนมากขึ้น

ผู้รับใช้รุ่นพี่ท่านนี้ได้หนุนใจข้าพเจ้าต่อไปอีกว่า  เมื่อเขารับรู้ว่าคริสตจักรของเรา กำลังอยู่ในปีที่ 14 และกำลังจะเข้าสู่ปีที่ 15  เขาได้ยกคำพูดของอ.ซินดี้ แจคอป ขุนพลนักอธิษฐานระดับโลก  ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า 7 ปี คือ 1 รอบ ปีที่ 14 กำลังจะครบรอบที่สอง และรอบที่สามกำลังจะมา ดังนั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่อีกครั้งสำหรับรอบใหม่  ปีหน้าคริสตจักรของเราจะเข้าสู่ปีที่ 15 ของการตั้งคริสตจักรที่นี่ เป็นรอบใหม่ที่เราจะก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหม่

และการที่เราจะก้าวไปสู่รอบใหม่ เราต้องเป็นถุงหนังใหม่ ที่สามารถจะรองรับพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้มากขึ้น เราทุกคนต้องโตขึ้น เราต้องก้าวไปให้สูงกว่าที่เป็นอยู่  ก้าวไปให้พ้นจากความอ่อนแอของตนเอง อย่าไปมองความอ่อนแอของคนอื่น คนที่ก้าวตามเราก็จะสูงขึ้นด้วย ช่วยกันพากันสูงขึ้น อย่าดึงกันต่ำลง

มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า ความเข้มแข็งของคริสตจักร คือการปกป้องคนที่อ่อนแอ  ไม่ใช่กำจัดคนที่อ่อนแอ เหมือนกำจัดจุดอ่อน คนนี้ไม่ใช่พวกเรา เข้ากับเราไม่ได้ เป็นแกะดำ เป็นปัญหา ไล่มันออกไปจากโบสถ์   นั่นยิ่งทำให้คริสตจักรอ่อนแอ  พระเยซูคริสต์ทรงเป็นเหมือนแกะดำในท่ามกลางพวกครูสอนศาสนา (คือพวกฟาริสี และธรรมาจารย์) เพราะพระเยซูทรงสอนสิ่งที่แทงใจ ทิ่มเข้าไปในชีวิตของพวกครูสอนศาสนาเหล่านี้  คนพวกนี้ จึงรวมหัวกันกำจัดพระเยซู ด้วยการกล่าวหา ใส่ร้าย และวางแผนฆ่าพระเยซู  และจุดที่จะกำจัดพระเยซูได้ดีที่สุดคือดึงพระเยซูให้ต่ำลงสุดๆ เทียบเท่ากับคนทำผิดทำบาปในสังคมเวลานั้น

และพระเยซูทรงรู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า พระองค์จะต้องถูกดึงให้ต่ำลงไประดับนั้น แต่พระเยซูได้ตรัสในมุมมองอย่างพระเจ้ามอง ไม่ใช่มนุษย์มองว่า การดึงให้พระเยซูต่ำลงในมาตรฐานของพวกฟารีสิ (ครูสอนศาสนาเหล่านี้ที่พยายามหยุดคนไม่ให้มาหาพระเยซู ) แต่ในทางตรงกันข้าม  ยิ่งทำให้พระเยซูถูกยกขึ้นสูงจนเป็นเหตุให้คนยิ่งมาหาพระเยซู

ยอห์น 12:32-34 32 เมื่อ​เรา​ถูก​ยก​ขึ้น​จาก​แผ่น​ดิน​โลก​แล้ว เรา​จะ​ชัก​นำ​ทุก​คน​ให้​มา​หา​เรา” 33 พระ​องค์​ตรัส​อย่าง​นั้น​เพื่อ​แสดง​ว่า​พระ​องค์​จะ​สิ้น​พระ​ชนม์​อย่าง​ไร34 ฝูง​ชน​จึง​ทูล​พระ​องค์​ว่า “เรา​ทราบ​จาก​ธรรม​บัญ​ญัติ​ว่า พระ​คริสต์​จะ​อยู่​เป็น​นิตย์ ท่าน​พูด​ได้​อย่าง​ไร​ว่า ‘บุตร​มนุษย์​จะ​ต้อง​ถูก​ยก​ขึ้น?’ บุตร​มนุษย์​นั้น​คือ​ใคร?”

สำหรับคนยิวในยุคของพระเยซู คำว่า “ถูกยกขึ้น” แปลว่า ถูกตรึงตายบนไม้กางเขน  ฝูงชนยิวเวลานั้นกำลังรอคอยพระเมสสิยาห์พระผู้ช่วยให้รอดที่จะเสด็จมาแบบอัศวินขี่ม้าขาว และอยู่อย่างเทพ เท่ห์ทุกท่า ตายไม่เป็น เป็นฮีโร่ ช่วยกู้คนยิวให้รอดพ้นจากการเป็นทาสของอาณาจักรโรม และก็พยายามมองหาว่าใครคือคนนั้น พระเยซูกำลังถูกมองว่าคือคนหนึ่งที่น่าจะใช่  เพราะพระเยซูทรงทำการอัศจรรย์ และมีคำสอนที่ดีสุดในเวลานั้น

34 ฝูง​ชน​จึง​ทูล​พระ​องค์​ว่า “เรา​ทราบ​จาก​ธรรม​บัญ​ญัติ​ว่า พระ​คริสต์​จะ​อยู่​เป็น​นิตย์ ท่าน​พูด​ได้​อย่าง​ไร​ว่า ‘บุตร​มนุษย์​จะ​ต้อง​ถูก​ยก​ขึ้น?’ บุตร​มนุษย์​นั้น​คือ​ใคร?”

บุตรมนุษย์คือใคร? ฝูงชนไม่ยอมรับว่า พระเยซูทรงเป็นมนุษย์ พระเยซูในสายตาของพวกเขา คือพระคริสต์ไม่ใช่เหรอ พระเยซูต้องไม่ตาย พระเยซูจะตายบนไม้กางเขนไม่ได้ สำนวนคำว่า ยกขึ้น คือถูกตรึงบนไม้กางเขน เป็นที่ที่ต่ำสุดของการตายของคน ตายอย่างนักโทษ ตายอย่างผู้ร้าย ตายอย่างคนสกปรก เป็นไปได้อย่างไร เป็นไปได้ จำเป็นที่พระเยซูจะต้องถูกกล่าวหา ใส่ร้าย และพระองค์ต้องรับแบกบาปแทนคนทั้งโลก นี่คือวิธีช่วยกู้โลกของพระเจ้า  (ในวิธีกำจัดคนด้วยกันของมนุษย์)

พระเยซูได้นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสมัยของโมเสสมาเคียงคู่กับเรื่องไม้กางเขนที่พระเยซูจะถูกตรึง คือเรื่องเดียวกัน

ยอห์น  3:14 โม​เสส​ยก​งู​ขึ้น​ใน​ถิ่น​ทุร​กัน​ดาร​อย่าง​ไร บุตร​มนุษย์​จะ​ต้อง​ถูก​ยก​ขึ้น​อย่าง​นั้น

เบื้องหลังของโมเสสยกงูขึ้นในถิ่นทุรกันดาร ปรากฏในหนังสือกันดารวิถี

กันดารวิถี 21:4-9 4 พวก​เขา​ออก​เดิน​จาก​ภูเขา​โฮร์​ตาม​ทาง​ที่​ไป​ทะเล​แดง เพื่อ​จะ​อ้อม​แผ่น​ดิน​เอโดม ประ​ชา​ชน​เกิด​ความ​ท้อ​แท้​ระหว่าง​ทาง5 แล้ว​ประ​ชา​ชน​ก็​ต่อ​ว่า​พระ​เจ้า​และ​โมเสส​ว่า “ทำ​ไม​พา​เรา​ออก​จาก​อียิปต์​ให้​มา​ตาย​ใน​ถิ่น​ทุร​กัน​ดาร? เพราะ​ไม่​มี​อาหาร​และ​ไม่​มี​น้ำ เรา​เกลียด​อา​หาร​อัน​ไร้​ค่า​นี้”6 และ​พระ​ยาห์​เวห์​ทรง​ส่ง​พวก​งู​พิษ​มา​ใน​หมู่​ประ​ชา​ชน งู​ก็​กัด​ประ​ชา​ชน และ​คน​อิส​รา​เอล​ตาย​เป็น​จำนวน​มาก7 และ​ประ​ชา​ชน​มา​หา​โมเสส​กล่าว​ว่า “เรา​ทำ​บาป​เพราะ​เรา​ต่อ​ว่า​พระ​ยาห์​เวห์​และ​ต่อ​ว่า​ท่าน ขอ​ทูล​วิง​วอน​พระ​ยาห์​เวห์​ให้​พระ​องค์​ทรง​นำ​งู​ไป​จาก​เรา” ดัง​นั้น​โมเสส​จึง​ทูล​วิง​วอน​เพื่อ​ประ​ชา​ชน8 และ​พระ​ยาห์​เวห์​ตรัส​กับ​โมเสส​ว่า “จง​ทำ​งู ​พิษ​ตัว​หนึ่ง​ติด​ไว้​บน​เสา และ​ทุก​คน​ที่​ถูก​งู​กัด​มอง​ดู​งู​นั้น ก็​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ได้”9 ดัง​นั้น​โมเสส​จึง​ทำ​งู​ทอง​สัม​ฤทธิ์​ตัว​หนึ่ง และ​ติด​ไว้​บน​เสา และ​เมื่อ​งู​กัด​ใคร ถ้า​คน​นั้น​มอง​ดู​งู​ทอง​สัม​ฤทธิ์​นั้น เขา​ก็​มี​ชีวิต​อยู่​ได้

เรื่องราวในตอนนี้ ชาวอิสราเอลได้เดินทางในถิ่นทุรกันดารมาถึงสี่สิบปีแล้ว มีเรียมกับอาโรนตายไปหมดแล้ว อิสราเอลกำลังใกล้คานาอันเข้าไปทุกที แต่พวกเขาไม่รู้ว่า ตัวเองกำลังกำลังเข้าใกล้คานาอัน ประชาชนมองแต่ความยากลำบาก มองแต่อะไรที่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน อาหารเหมือนเดิม ความลำบากเหมือนเดิม โมเสสก็คนเดิม พระเจ้าก็พระเจ้าเดิม มองไปมองมา ต่อว่า พระเจ้าเดิมๆ โมเสสผู้นำคนเดิมละกัน

ฉบับแปล 1971 แปลว่า “บ่น” แต่ฉบับแปล 2011 แปลว่า “ต่อว่า” รากศัพท์ฮีบรู คือการพูดต่อต้าน ความเป็นพระเจ้า ต่อต้านความเป็นผู้นำของโมเสส น่าสนใจในฉบับแปล 2011 แปลแยกคำว่า พระเจ้า กับคำว่า พระยาเวห์ คำว่า พระเจ้า ใช้คำว่า เอโลฮีม แปลว่า พระเจ้าสูงสุด คำว่า พระยาเวห์ แปลว่า เราเป็นซึ่งเราเป็น  การเรียกพระเจ้าสองคำในเหตุการณ์เดียวกัน เป็นการย้ำถึง สถานะของพระเจ้าที่ต่างบทบาทกัน

คนอิสราเอลต่อต้าน ความเป็นพระเจ้าสูงสุด (เอโลฮีม)

พระเจ้า (พระยาเวห์) พระองค์ไม่เปลี่ยนแปลง ทรงเป็นซึ่งพระองค์เป็น ตอบสนองต่อการบ่น ต่อต้านของคนอิสราเอลอย่างตรงไปตรงมา

นี่เป็นกฏฝ่ายวิญญาณที่คนอิสราเอลต้องรับผลจากการต่อต้านความเป็นพระเจ้าสูงสุด ด้วยการตำหนิโมเสส ผู้ทำหน้าที่ผู้นำ

งูแมวเซา (งูหางกระดิ่งในทะเลทราย) วงศ์ตระกูลเดียวกัน เป็นงูที่ชุกชุมในทะเลทรายในเวลานั้น แต่ตลอดสี่สิบปีที่อิสราเอลเดินในทะเลทรายนี้ ไม่มีสักคนที่ถูกงูชนิดนี้กัดเลย เป็นเพราะเสาเมฆ เสาไฟ การทรงสถิตของพระเจ้านำทางพวกเขาตลอดเส้นทาง แต่พอใกล้จะจบการเดินทาง ใกล้จะเข้าคานาอัน คนอิสราเอล พวกนี้ กลับรู้สึกเบื่อ เซ็ง ผู้นำ ขึ้นมา และพูดต่อต้าน ผู้นำ ก็คือต่อต้านพระเจ้า

เหตุผลที่ใช้ในการต่อต้าน คือเรื่องปัจจัยการดำรงชีพ  เพราะ​ไม่​มี​อาหาร​และ​ไม่​มี​น้ำ เรา​เกลียด​อา​หาร​อัน​ไร้​ค่า​นี้”  ไม่มีน้ำ ไม่มีอาหารที่ชอบ

มีแต่ มานา (อะไรกันนี่) แม้จะมีนกคุ่มให้กิน แต่ก็ไม่ชอบมานา

มานา สำหรับคริสเตียน ในปัจจุบันก็คือพระคำพระเจ้า  พระคัมภีร์ อะไรที่เป็นกิจกรรมที่มีพระคัมภีร์เข้ามาเกี่ยวข้อง จะกลายเป็นอะไรที่น่าเบื่อน่าเซ็ง จนต้องออกแบบกิจกรรมที่เป็นเครื่องล่อให้ไม่เบื่อ ไม่เซ็ง เช่นดนตรี เกมส์ การละเล่น สนุกสนานต่างๆ  อันไหน่ที่มีสาระเกี่ยวกับพระเจ้าน้อยๆยิ่งดี พวกผู้รับใช้ชอบพูดแต่เรื่องจิตวิญญาณ น่าเบื่อ

คนอิสราเอลที่ใกล้คานาอัน แต่ไม่ได้เข้าคานาอัน กำลังเบื่อ เซ็ง และต่อต้าน อาหารของพระเจ้า แบบเดียวกัน

6 และ​พระ​ยาห์​เวห์​ทรง​ส่ง​พวก​งู​พิษ​มา​ใน​หมู่​ประ​ชา​ชน งู​ก็​กัด​ประ​ชา​ชน และ​คน​อิส​รา​เอล​ตาย​เป็น​จำนวน​มาก

กฏฝ่ายวิญญาณทำงานทันที  พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อมากในเรื่องกฏฝ่ายวิญญาณ พวกงูพิษที่ไม่เคยกัดประชาชนตลอดสี่สิบปีทำงานทันที ประชาชนถูกกัด คนอิสราเอลตายมากมาย จนรู้สึกว่า มันไม่ปกติแล้ว จนต้องมาพึ่งพาผู้นำ

7 และ​ประ​ชา​ชน​มา​หา​โมเสส​กล่าว​ว่า “เรา​ทำ​บาป​เพราะ​เรา​ต่อ​ว่า​พระ​ยาห์​เวห์​และ​ต่อ​ว่า​ท่าน ขอ​ทูล​วิง​วอน​พระ​ยาห์​เวห์​ให้​พระ​องค์​ทรง​นำ​งู​ไป​จาก​เรา”

เริ่มรู้ตัวว่าตนเองทำบาป ตรงนี้ใช้คำเรียก พระยาเวห์ (พระเจ้าผู้ทรงรักษากฏฝ่ายวิญญาณ) การต่อต้าน คือการละเมิดกฏฝ่ายวิญญาณ ตรงนี้ คือการกลับมาสู่โหมดการยอมรับสิทธิอำนาจที่พระเจ้ามอบให้กับโมเสส  มาเพื่อขอให้โมเสสช่วย ขอให้พระเจ้าเอางูออกไป มาดูว่า อะไรเกิดขึ้น

ดัง​นั้น​โมเสส​จึง​ทูล​วิง​วอน​เพื่อ​ประ​ชา​ชน

8 และ​พระ​ยาห์​เวห์​ตรัส​กับ​โมเสส​ว่า “จง​ทำ​งู ​พิษ​ตัว​หนึ่ง​ติด​ไว้​บน​เสา และ​ทุก​คน​ที่​ถูก​งู​กัด​มอง​ดู​งู​นั้น ก็​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ได้”9 ดัง​นั้น​โมเสส​จึง​ทำ​งู​ทอง​สัม​ฤทธิ์​ตัว​หนึ่ง และ​ติด​ไว้​บน​เสา และ​เมื่อ​งู​กัด​ใคร ถ้า​คน​นั้น​มอง​ดู​งู​ทอง​สัม​ฤทธิ์​นั้น เขา​ก็​มี​ชีวิต​อยู่​ได้

โมเสสทำหน้าที่การเป็นผู้นำ ทำตามที่ประชาชนขอ คือ อธิษฐานขอพระเจ้าช่วยประชาชน  ตรงนี้ เราจะเห็นว่า พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ และยังคงสำแดงความรักความห่วงใยต่อประชาชน งูยังคงอยู่ ไม่ได้ถูกเอาออกไป เพราะการล่วงละเมิดได้เกิดขึ้นแล้ว แต่ทางแก้ไข คือ ให้โมเสสต้องทำงูทองสัมฤทธิ์แขวนบนเสา (ปัจจุบันคือสัญลักษณ์ของกระทรวงสาธารณสุข)

…และ​เมื่อ​งู​กัด​ใคร ถ้า​คน​นั้น​มอง​ดู​งู​ทอง​สัม​ฤทธิ์​นั้น เขา​ก็​มี​ชีวิต​อยู่​ได้

การมองดูที่งูสัมฤทธิ์ คือการเยียวรักษาที่มาจากพระเจ้า พิษงูหางกระดิ่งจะฆ่าคนตายได้อย่างรวดเร็ว คนที่มองดูที่งูทองสัมฤทธิ์จะรอดตาย เมื่อเขาใช้สายที่เร็วกว่าพิษงู มองไปด้วยความเชื่อในการนำของโมเสสเรื่องนี้ คือให้ไว้วางใจในผู้นำ โมเสสคือคนที่จะต้องถ่ายทอดความเชื่อนี้ (โมเสสรับเละ) ไม่ง่ายเลย ที่จะเชื่อโมเสส แต่นี่คือทางรอด ทางเดียว ถ้าถูกงูกัด สังเกตว่า วีธีของพระเจ้า ไม่ใช่อย่างวิธีที่นำเสนอของประชาชน (คือให้เอางูออกไป)  ความเดือดร้อนเกิดกับคนส่วนใหญ่ เพราะคนบางคนบ่น และต่อต้าน

มีคำพูดของวอร์เร้น บัฟเฟต ได้กล่าวว่า

“เมื่อเรายังเล็ก เราใช้ดินสอเขียน เพราะมันลบได้ แต่พอเราโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เราใช้ปากกาเขียน เวลาผิดพลาดแล้ว มันลบไม่ได้”  หมายถึงเราต้องรับผิดชอบ สิ่งที่เราพูด เราทำ แบบคนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว

พระเจ้าทรงให้บทเรียนกับชนชาติอิสราเอลแบบคนที่โตแล้ว ต้องรับผิดชอบคำพูดของตนเองที่ต่อต้านพระเจ้า ต่อต้านโมเสส

วันนี้ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับชีวิตของเรา มันมาจากคำพูดที่ต่อต้านพระเจ้าอยู่หรือไม่ ต่อต้านผู้นำในครอบครัว ต่อต้านผู้นำในที่ทำงาน  ต่อต้านสิทธิอำนาจในคริสตจักร หรือไม่  เราจะทำยังไงต่อไปกันดี คำตอบคือ  “มองดูที่พระเยซู”  เพื่อรับการเยียวยา ให้หายดี หยุดส่งต่อพิษร้าย บาดแผล ความเจ็บปวดให้แก่กันและกัน

มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า คำพูดของคน เหมือนใบมีดโกน อาบยาพิษ  มันสามารถทำร้าย เฉือดเฉือนจิตใจของคนได้อย่างมากมาย   ข้าพเจ้าเองก็ใช้คำพูดทำร้ายคน เวลาโกรธ   และรู้สึกเสียใจ  และต้องขอโทษพี่น้องด้วย หากข้าพเจ้าได้ทำให้พี่น้องต้องถูกทำร้ายจากคำพูดของข้าพเจ้า และก็อยากจะพูดในฐานะของศิษยาภิบาลของพวกเราว่า หยุดพูดสิ่งที่ตนเองคิดว่าคนอื่นไม่ดี  หยุดซุบซิบนินทา หยุดส่งต่อความรู้สึกที่ตนเองรู้สึกไม่ดีแล้วหาแนวร่วมความรู้สึกไม่ดีไปด้วย

ยากอบ 3:2 2 เพราะ​เรา​ทุก​คน​ทำ​ผิดพลาด​ไป​หลายๆ อย่าง ถ้า​ผู้ใด​มิได้​ทำ​ผิด​ทาง​วาจา ผู้​นั้น​ก็​เป็น​คน​ดี​รอบคอบ​แล้ว และ​สามารถ​บังคับ​ทั้งตัว​ไว้​ได้​ด้วย​

“มองดูที่พระเยซู” เพื่อรับการเยียวยา รักษาให้หาย เวลาถูกคำพูดที่เหมือนงูพิษกัด ก็จงมองดูที่พระเยซู  พระองค์ทรงถูกกัดมาก่อน และตายบนไม้กางเขน เพื่อจะถูกยกขึ้น ให้การรักษาหายดีเกิดขึ้นกับคนที่มาหาพระองค์ และพระองค์ทรงฟื้นขึ้นมาจากความตาย เพื่อให้เราทุกคนฟื้นขึ้นมาใหม่ อย่างคนใหม่ ด้วยฤทธิ์เดชการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์

By admin