“ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่พระวิญญาณประทานให้”
Iคำว่า ร้อยพ่อพันแม่ แปลว่า เรามาจากความแตกต่างกัน ความหมายอีกอย่างก็คือ ไม่ง่ายที่จะเข้ากันได้ และเป็นการบอกว่า มีปัญหาแน่เรื่องความสัมพันธ์แน่นอน เป็นความจริงที่คนเรายากจะเข้ากันได้ บางคนก็ว่า สารเคมีไม่ถูกกัน หรือ ไม่ถูกชะตา หรือชอบกันคนละอย่าง ต่างวัย ต่างเพศ ต่างความสนใจ ต่างสถานะ เอาแค่รสชาดของอาหาร บางคนก็ชอบจืดสนิท บางคนชอบเค็ม หวาน เผ็ด ยังมีระดับของรสชาดอีก ที่แตกต่างกัน
ไปร้านก๋วยเตี๋ยวบางร้าน จะมีระดับของความเผ็ด มาก เผ็ดกลาง เผ็ดน้อย และเผ็ดอนุบาล ที่รพ.ศรีธัญญา มีเจ้าประจำที่ข้าพเจ้าไป เขาจะจำได้ ว่า เอาเผ็ดแบบอนุบาล (ยังรู้สึกเผ็ดมากสำหรับข้าพเจ้า)
ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่ได้หมายความว่า จะต้องทำอะไรเหมือนกัน หรือชอบเหมือนกัน หรือมีความคิดเห็นแตกต่างกันไม่ได้ ซึ่งแตกต่างจากการค้านกันไปทุกเรื่อง อันนี้ มีเวลาแตกแยกมากกว่าความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
มีคนถามว่า ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีจริงหรือ? มันยากนะ เป็นไปได้จริงๆหรือ? ส่วนใหญ่ขึ้นต้นดี ตอนจบไม่ค่อยดี ตอนแรกอยู่ด้วยกัน ตอนจบต่างหนีจากกัน แค่สามีภรรยาที่มีกันแค่สองคน ยังหย่าร้างกันไปจำนวนมาก
ยังมีคำพูดอีกว่า ยิ่งมากคน ยิ่งมากความ อันนี้ ยิ่งทำให้ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เป็นเรื่องยากสำหรับคนกลุ่มใหญ่
แต่ความจริงอันหนึ่งของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน คือ เป็นพลังให้ทำสิ่งยากๆได้สำเร็จ อะไรที่คนเดียว หรือคนจำนวนน้อยทำไม่ได้ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันทำให้เกิดขึ้นได้ มีบางอย่างที่เกินความจำกัดของแต่ละคน แต่ถ้ารวมพลังกันได้ ก็จะทะลุทะลวงความจำกัดส่วนบุคคลไปได้
ในพระคัมภีร์เดิม มีเรื่องราวของพลังความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ปฐมกาล 11:1-9 1 ในเวลานั้นคนทั่วโลกพูดภาษาเดียวกัน และมีศัพท์สำเนียงเดียวกัน2 เมื่อย้ายไปทางทิศตะวันออก ก็พบทุ่งราบในดินแดนชินาร์ จึงตั้งหลักแหล่งอยู่ที่นั่น3 แล้วพวกเขาก็พูดกันว่า “มาเถิด เราจงทำอิฐ และเผาให้สุกแข็ง” เขาจึงใช้อิฐต่างหิน และใช้ยางมะตอยต่างปูน4 พวกเขาจึงว่า “มาเถิด ให้เราสร้างเมืองขึ้นสำหรับเราและสร้างหอให้ยอดเทียมฟ้า ให้เราทำชื่อเสียงไว้ เพื่อเราจะไม่ถูกทำให้กระจัดกระจายไปทั่วแผ่นดินโลก”5 พระยาห์เวห์เสด็จลงมาทอดพระเนตรเมือง และหอที่มนุษย์สร้างขึ้นนั้น6 แล้วพระยาห์เวห์ตรัสว่า “ดูสิ คนเหล่านี้เป็นชนชาติเดียวหมด มีภาษาเดียว นี่เป็นเพียงเบื้องต้นของสิ่งที่พวกเขาจะทำ และบัดนี้ไม่มีอะไรยับยั้งทุกสิ่งที่พวกเขาคิดจะทำ7 มาเถิด ให้เราลงไป ทำให้ภาษาของพวกเขาวุ่นวายที่นั่น เพื่อไม่ให้พวกเขาเข้าใจภาษาของกันและกันได้”8 พระยาห์เวห์จึงทรงทำให้พวกเขากระจัดกระจายจากที่นั่นไปทั่วพื้นแผ่นดิน คนเหล่านั้นก็เลิกสร้างเมืองนั้น9 เหตุฉะนี้จึงเรียกเมืองนั้นว่าบาเบล เพราะว่าที่นั่นพระยาห์เวห์ทรงทำให้ภาษาของทั้งโลกวุ่นวายไป และพระยาห์เวห์ทรงทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปทั่วพื้นแผ่นดิน
ในยุคหอบาเบล มนุษย์คุยกันรู้เรื่องทุกเรื่อง แต่ในยุคของเรา คุยกันไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ขนาดมีเครื่องมืออุปกรณ์ตัวช่วยมากมาย ก็ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง
จะเห็นว่า มนุษย์ยังคงมุ่งที่จะใช้พลังของภาษาเดียวกัน ศัพท์สำเนียงเดียวกัน ในยุคของเรากำลังกลายเป็นหอบาเบลอีกครั้ง การสื่อสารของคนทั้วโลกกำลังจะกลายเป็นภาษาเดียว ไม่ได้เป็นสิ่งที่ยากอีกต่อไป
รัฐบาลญี่ปุ่นทำหนังการใช้ชีวิตยุค 5G
สังเกตว่า การเป็นภาษาเดียวของคนในยุคอนาคตอันใกล้ของเรานี้ ยิ่งทำให้คนห่างไกลจากโลกของความเป็นจริง ความเป็นโลกาภิวัฒน์ทำให้คนมีโลกส่วนตัว สังคมกันแค่ในอินเตอร์เน็ตเท่านั้น แต่ความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดค่อยๆจางหายไป จนไม่มีสัมผัสจริงกันอีกต่อไป ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ตามวิถีของโลกที่ไม่มีพระเจ้า ถูกใช้เพื่อเชื่อมต่อกันเพียงแค่โลกเสมือนจริง พอใจอยู่กับสิ่งที่เหมือนจริง แต่ไม่ใช่ของจริง และและนี่คือช่องทางที่ทำให้คนไม่อยากจะอยู่ในโลกของความเป็นจริงอีกต่อไป
ทุกวันนี้คนฆ่ากันตายได้ง่ายๆ คนหมดความอดทนต่อกัน เปราะบาง มาตรฐานทางศีลธรรม จริยธรรมเสื่อมทราม เกิดจากอะไร ข้าพเจ้าวิเคราะห์ว่า เกิดจากการที่เราไม่ได้อยู่ในชีวิตจริง สัมผัสคนจริง พอเจอคนจริง เลยคิดว่า ฆ่าให้ตายได้ง่ายๆเหมือนในเกมวีดีโอ
ดูเหมือนว่า พระคัมภีร์จะรู้ว่า ยุคของเราในวันนี้ จะพบกับความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแบบจอมปลอม (เสมือนจริง)
คำสอนของพระคัมภีร์เกี่ยวกับเรื่องนี้จึงย้ำความสัมพันธ์ที่เป็นของจริง
เอเฟซัส 4:1-7 1 เหตุฉะนั้นข้าพเจ้า ผู้ถูกจำจองเพราะเห็นแก่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอวิงวอนท่านให้ดำเนินชีวิตสมกับพันธกิจอันเนื่องจากการทรงเรียกท่านนั้น2 คือจงมีใจถ่อมลงทุกอย่าง และใจอ่อนสุภาพอดทนนาน และอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก3 จงเพียรพยายามให้คงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งพระวิญญาณทรงประทานนั้นด้วยสันติภาพเป็นพันธนะ4 มีกายเดียวและมีพระวิญญาณองค์เดียว เหมือนมีความหวังใจอันเดียวที่เนื่องในการที่ทรงเรียกท่าน5 มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว ความเชื่อเดียว บัพติศมาเดียว6 พระเจ้าองค์เดียวผู้เป็นพระบิดาของคนทั้งปวง ผู้ทรงอยู่เหนือคนทั้งปวง และทั่วคนทั้งปวง และในคนทั้งปวง7 แต่ว่าพระคุณนั้นทรงโปรดประทานแก่เราทุกๆ คน ตามขนาดที่พระคริสต์ประทานให้
คริสตจักรในยุคสุดท้ายของเรา จะอยู่รอดต่อไปได้ โดยไม่หลงไปกับความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแบบจอมปลอม ต้องใช้พระคัมภีร์ตอนนี้ดังนี้
1.ผูกพันกันโดยพระวิญญาณ
2 คือจงมีใจถ่อมลงทุกอย่าง และใจอ่อนสุภาพอดทนนาน และอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก3 จงเพียรพยายามให้คงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งพระวิญญาณทรงประทานนั้นด้วยสันติภาพเป็นพันธนะ
เอเฟซัส 4:3 จงพยายามรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาจากพระวิญญาณนั้น โดยมีสันติภาพเป็นเครื่องผูกพัน (ฉบับแปล 2011)
ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทำให้เกิดสันติสุข ที่เป็นเครื่องผูกพัน แปลว่า ความผูกพันกัน ระหว่างผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์ ต้องเกิดจาก สันติสุขภายในที่เกิดขึ้นโดยพระวิญญาณก่อน (ถ้าความผูกพันกัน เกิดขึ้นเพียงแค่ จากความพอใจ หรือไม่พอใจกัน มันก็พังได้ง่ายๆ) แต่ความผูกพันกันทางพระวิญญาณ (อย่างที่อาทิตย์ที่แล้ว (ผู้ร่วมรับใช้ได้พบกับศิษยาภิบาล ได้รับนิมิตปี 2019 ที่มี ภาพของคริสตจักรสามภาพที่สมดุล ได้แก่ ความเป็นครอบครัว ของพระคริสต์ คือ ครอบครัวต่อทะเลาะกัน ก็ตัดกันไม่ขาด แต่ความรักของคริสตจักรต้องเป็นความรักอย่างเจ้าสาวของพระคริสต์ คนที่รอเจ้าบ่าวด้วยความรักที่มีต่อเจ้าบ่าวผู้เดียว และสุดท้าย ทหารของพระคริสต์ คือการเชื่อฟัง วินัย และความเป็นกองทัพ วันนี้อยากเอาภาพของความเป็นครอบครัว ที่ยังไง ก็ตัดกันไม่ขาด เพราะเราผูกพันกันโดยพระวิญญาณเป็นครอบครัว ไม่ใช่จากเหตุผลอื่นใด และความผูกพันกันโดยพระวิญญาณ ทำให้เราเชื่อมต่อกันด้วยพระวิญญาณ
ผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตของเราจะส่งผลให้เกิด ความถ่อมใจ ใจอ่อนสุภาพ อดทานนาน อันกลั้นกันและกัน ด้วยความรัก และความพยายาม(การรู้จักบังคับตน)
กาลาเทีย 5:22-23 22 ฝ่ายผลของพระวิญญาณนั้น คือความรัก ความปลาบปลื้มใจ สันติสุข ความอดกลั้นใจ ความปรานี ความดี ความสัตย์ซื่อ23 ความสุภาพอ่อนน้อม การรู้จักบังคับตน…..
เรามีแนวโน้มง่ายที่จะหมดความอดทน หมดความอดกลั้น และเย่อหยิ่ง ก้าวร้าว ถ้าเป็นเนื้อหนัง ก็ยาก พระคัมภีร์เรียกสิ่งเหล่านี้ว่า การงานของเนื้อหนัง
กาลาเทีย 5:19-21 19 การงานของเนื้อหนังนั้นเห็นได้ชัด คือการล่วงประเวณี การโสโครก การลามก20 การนับถือรูปเคารพ การถือวิทยาคม การเป็นศัตรูกัน การวิวาทกัน การริษยากัน การโกรธกัน การใฝ่สูง การทุ่มเถียงกัน การแตกก๊กกัน21 การอิจฉากัน การเมาเหล้า การเล่นเป็นพาลเกเร และการอื่นๆ ในทำนองนี้อีกเหมือนที่ข้าพเจ้าได้เตือนท่านมาก่อน บัดนี้ข้าพเจ้าขอเตือนท่านเหมือนกับที่เคยเตือนมาแล้วว่า คนที่ประพฤติเช่นนั้นจะไม่มีส่วนในแผ่นดินของพระเจ้า
เราอยู่ในยุคที่กำลังถูกผลักให้เชื่อมต่อกันด้วยเทคโนโลยี่ พูดคุยกันผ่านแอพต่างๆ ไม่พูดคุยกันแบบเผชิญหน้ากันแล้ว
ในโลกอินเตอร์เน็ต ใช้สัญญาณไวไฟ จาก 2G 3G 4G และ 5G ยิ่งสัญญาณแรง(อารมณ์ยิ่งรุนแรง) ทุกอย่างกลายเป็นเสมือนจริงมากเท่านั้น โลกเสมือนจริง จะซ่อนลักษณะจิตใจของมนุษย์ในสมัยสิ้นยุค….ที่เป็นการงานของเนื้อหนังเอาไว้
2ทิโมธี 3:1-5 1 แต่จงเข้าใจข้อนี้ คือว่าในสมัยจะสิ้นยุคนั้น จะเกิดเหตุการณ์กลียุค2 เพราะมนุษย์จะเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน เย่อหยิ่ง ยโส ชอบด่าว่า ไม่เชื่อฟังคำบิดามารดา อกตัญญู ไร้ศีลธรรม3 ไร้มนุษยธรรม ไม่ให้อภัยกัน ใส่ร้ายกัน ไม่ยับยั้งชั่งใจ ดุร้าย เกลียดชังความดี4 ทรยศ มุทะลุ หัวสูง รักความสนุกยิ่งกว่ารักพระเจ้า5 ถือศาสนาแต่เปลือกนอก ส่วนแก่นแท้ของศาสนาเขาไม่ยอมรับ….
การเชื่อมต่อกันด้วยสัญญาณไวไฟ เปราะบางมาก เข้าใจกันผิด คิดไม่ดี คิดทางลบได้ง่าย และง่ายต่อการทำลายความสัมพันธ์ เพราะไม่มี…
2 คือจงมีใจถ่อมลงทุกอย่าง และใจอ่อนสุภาพอดทนนาน และอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก3 จงเพียรพยายามให้คงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งพระวิญญาณทรงประทานนั้นด้วยสันติภาพเป็นพันธนะ
โดยพระวิญญาณผูกพันเราไว้ ด้วยสันติภาพ Peace ต้องลงทุนลงแรง ด้วยความพยายามด้วยความรัก เงินซื้อไม่ได้ ห่างไกลกัน ทำไม่ได้ ต้องใกล้ชิด ต้องพบเจอกัน ต้องเห็นกันตัวเป็นๆ ของจริง นี่เป็นเหตุผลที่คริสตจักรของเรามีโครงสร้างเป็นคริสตจักรเซลล์
วงจรชีวิตของเซลล์ เริ่มจากก่อตั้ง หัวเลี้ยวหัวต่อ สนิทสนม ปฏิบัติการ และทวีคูณ เป็นการพบเจอกัน สัมพันธ์กัน ช่วงที่ยากคือหัวเลี้ยวหัวต่อ เพราะจะรู้จักนิสัยบางอย่างที่ไม่น่ารักของกันและกัน นิสัยที่ไม่ดี นิสัยเสียๆ และต้องตัดสินใจว่า จะไปต่อ หรือจะหยุดความสัมพันธ์นี้ โดยการงานของเนื้อหนัง คือ จบ แต่โดยพระวิญญาณ คือ ความผูกพัน
2.เป็นหนึ่งเดียว
4 มีกายเดียวและมีพระวิญญาณองค์เดียว เหมือนมีความหวังใจอันเดียวที่เนื่องในการที่ทรงเรียกท่าน5 มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว ความเชื่อเดียว บัพติศมาเดียว
มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า จะร้าวยังไง ก็ไม่ยอมแตก คือความตั้งใจที่จะรักษาความเป็นหนึ่งเดียว
1โครินธ์ 3:2 2 ข้าพเจ้าเลี้ยงท่านด้วยน้ำนม มิใช่ด้วยอาหารแข็ง เพราะว่าเมื่อก่อนนั้นท่านยังไม่สามารถรับ และถึงแม้เดี๋ยวนี้ท่านก็ยังไม่สามารถ
เปาโลคนเดียวกันที่เขียนถึงคริสตักรเมืองเอเฟซัสอย่างสอนผู้ใหญ่ อย่างอาหารแข็ง แต่ในโครินธ์ เปาโลก็ต้องสอน อีกแบบ เพราะคริสเตียนที่เมืองโครินธ์ยังไม่สามารถ สังเกตว่า คำสอนในเอเฟซัส เรื่องความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สำหรับคนที่เติบโต มีวุฒิภาวะฝ่ายวิญญาณพร้อมจะทำสงครามกับมิติฝ่ายวิญญาณ แต่คริสเตียนที่เมืองโครินธ์ต้องรับคำสอนแบบเด็ก เพราะมีความแตกแยกกัน ไม่เป็นหนึ่งเดียว
1โครินธ์ 1:10 10 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าวิงวอนท่านในพระนามของพระเยซูคริสตเจ้าของเรา ขอให้ท่านปรองดองกัน อย่าถือพวกถือคณะ แต่ขอให้ท่านเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
คริสตจักรที่เมืองโครินธ์ถูกอ.เปาโลต่อว่า เรื่องความแบ่งก๊กแบ่งฝ่ายกัน อ.ประยูรเคยพูดเรื่องการแบ่งกลุ่มเซลล์ว่า ไม่ใช่การแบ่งก๊กแบ่งเหล่า แต่เป็นการสร้างความแน่ใจว่า สมาชิกทุกคนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง และรับนิมิตโดยตรงจากศิษยาภิบาลอาวุโส และมองเห็นภาพรวมของคริสตจักรด้วยกัน นี่คือความเป็นหนึ่งเดียว จากพระธรรมเอเฟซัส
4 มีกายเดียวและมีพระวิญญาณองค์เดียว เหมือนมีความหวังใจอันเดียวที่เนื่องในการที่ทรงเรียกท่าน5 มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว ความเชื่อเดียว บัพติศมาเดียว
3.มีพระเจ้าองค์เดียวกัน
6 พระเจ้าองค์เดียวผู้เป็นพระบิดาของคนทั้งปวง ผู้ทรงอยู่เหนือคนทั้งปวง และทั่วคนทั้งปวง และในคนทั้งปวง7 แต่ว่าพระคุณนั้นทรงโปรดประทานแก่เราทุกๆ คน ตามขนาดที่พระคริสต์ประทานให้
มีหนังสือเล่มหนึ่งส่งมายังข้าพเจ้า ชื่อหนังสือว่า อธิษฐานเผื่อมุสลิม และได้ให้รายละเอียดถึง คนที่กำลังทำพันธกิจกับคนมุสลิม ต้องรู้ว่า เขามองคริสเตียนอย่างไร ข้อมูลหนึ่งจากผู้ที่กำลังทำพันธกิจกับพี่น้องมุสิม คือ มุสลิมมองตนเองว่า เขาเชื่อในพระเจ้าองค์เดียว แต่มองคริสเตียนเป็นพวกเชื่อในพระเจ้าสามองค์
แต่ก็น่าสนใจในมุมมองคนที่มองเรามีพระเจ้าสามองค์ บางทีก็มาจากพฤติกรรมของคริสตจักร ที่ไม่ได้มีความสมดุลในการดำเนินชีวิต ในความสัมพันธ์กับพระเจ้าองค์เดียวกัน ทำให้ มีคริสเตียนไม่น้อยที่ดำเนินชีวิต มีพระเจ้าหลายองค์ คือ สัมพันธ์กันแค่พระเจ้าที่เป็นความรักด้านเดียว แต่ไม่ได้ดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นแรงขับ (เนื้อหนังเป็นแรงขับ) ไม่ได้มีชีวิตตามแบบอย่างของพระเยซูคริสต์ผู้ทรงอยู่อย่างโลกนี้ชั่วคราว ทนทุกข์และลำบากเพื่อผู้อื่น แต่ จะเลือกเอาที่ตนเองชอบ สบาย สะดวก เท่านั้น จะรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก็เพียงเรื่องที่ตนเองพอใจจะทำ พอใจจะตาม
จึงมีคริสเตียนที่มีชีวิตที่ไม่ชัดเจน มองไม่เห็นพระเยซู มองไม่เห็นผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ มองไปก็มีแต่มองคน คนนั้นไม่ดีพอ คนนี้ไม่ผ่าน
ไม่ต่างจาก อ.เปาโลได้กล่าวเตือน คริสเตียนเมืองโครินธ์ที่กำลังแตกแยกกัน เพราะการมองที่คน บางคนว่า เขาเป็นศิษย์อปอลโล บางคนว่าเขาเป็นศิษย์เปาโล
1โครินธ์ 1:12-13 12 ข้าพเจ้าหมายความว่า พวกท่านต่างก็กล่าวว่า “ข้าพเจ้าเป็นศิษย์เปาโล” หรือ “ข้าพเจ้าเป็นศิษย์อปอลโล” หรือ “ข้าพเจ้าเป็นศิษย์เคฟาส” หรือ “ข้าพเจ้าเป็นศิษย์พระคริสต์ 13 พระคริสต์แบ่งออกเป็นหลายองค์แล้วหรือ….
ให้เราหยุดผูกพันกันตามความต้องการของเนื้อหนัง และหันกลับมาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันตามที่พระวิญญาณประทานให้……
“ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่พระวิญญาณประทานให้”
1.ผูกพันกันโดยพระวิญญาณ
2.เป็นหนึ่งเดียว
3.มีพระเจ้าองค์เดียวกัน