รับชมไลฟ์สดผ่านเฟสบุ้ค เพจ คริสตจักรใจสมานเพชรเกษม 11 วันที่ดังกล่าวได้ค่ะ

สุดแห่งความบาปของดาวิด

  • เมื่อฟังคำเทศนาจบแล้ว…ยังคงยืนยันว่า “บุคคลที่รู้จักพระทัยพระเจ้า(ปรารถนาจะเดินตามพระทัย)ยังคงเป็นดาวิด”…

เพราะผู้ที่ตั้งฉายานี้ให้เขาคือพระเจ้า และพระเจ้าไม่เคยพลาด

⚔️1ซมอ.13:14แต่บัดนี้ราชอาณาจักรของท่านจะไม่ยั่งยืน พระเยโฮวาห์ทรงหาชายอีกคนหนึ่งตามชอบพระทัยพระองค์(the LORD hath sought him a man after his own heart)คือ ไม่ใช่หาคนตามใจชอบของพระเจ้า..แต่หาชายที่ปรารถนาเดิมตามพระทัย.

  • “การรู้จักใจใคร” หรือ “เดินตามใจใคร”ไม่เท่ากับ “การมีใจแบบเดียวกับคนนั้น”
  • การรู้จักใจพระเจ้า…ในที่นี้คือ…การเดินตามพระทัยพระเจ้า….จึงไม่ได้หมายความว่า…. ใจของเราเหมือนพระองค์ทันทีทันใด
  • ❤️ทั้งๆที่บ่อยครั้งที่เรามัก….มีเป้าหมายเปลี่ยนให้ใจของเราเป็นเหมือนพระองค์และต้องการเดินตามหัวใจของพระองค์
  • เหมือนดาวิดแต่ดาวิดก็ยังมีวันพลาด…..

2ซมอ.11:1และอยู่มาพอสิ้นปีแล้วเมื่อบรรดากษัตริย์ยกกองทัพออกไปรบ ดาวิดทรงใช้โยอาบพร้อมกับพวกข้าราชการและอิสราเอลทั้งหมด เขาไปกวาดล้างคนอัมโมนและล้อมเมืองรับบาห์ไว้ แต่ดาวิดประทับที่เยรูซาเล็ม 2อยู่มาเวลาเย็นวันหนึ่งเมื่อดาวิดทรงลุกขึ้นจากพระแท่น และดำเนินอยู่บนดาดฟ้าหลังคาพระราชวัง ทอดพระเนตรจากหลังคาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งอาบน้ำอยู่ หญิงคนนั้นสวยงามมาก 3ดาวิดทรงใช้คนไปไต่ถามเรื่องผู้หญิงคนนั้น คนหนึ่งมากราบทูลว่า “หญิงคนนี้ชื่อบัทเชบา บุตรสาวของเอลีอัม ภรรยาของอุรีอาห์คนฮิตไทต์มิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ” 4ดาวิดก็ทรงใช้ผู้สื่อสารไปรับนางมา นางก็มาเฝ้าพระองค์ แล้วพระองค์ทรงร่วมหลับนอนกับนาง พอดีนางได้ชำระตัวให้สิ้นมลทินของนางแล้ว แล้วนางก็กลับไปเรือนของตน 5ผู้หญิงนั้นก็ตั้งครรภ์ นางจึงใช้คนไปกราบทูลดาวิดว่า “หม่อมฉันตั้งครรภ์แล้ว

จากพระคำ…

…แล้วอะไรที่ทำให้ดาวิด “ทำบาปล่วงประเวณี” ได้ทั้งๆที่เขาก็รู้ว่าพระเจ้าเกลียดชังบาปนี้

ทวน

ข้อ11และอยู่มาพอสิ้นปีแล้วเมื่อบรรดากษัตริย์ยกกองทัพออกไปรบ ดาวิดทรงใช้โยอาบพร้อมกับพวกข้าราชการและอิสราเอลทั้งหมด เขาไปกวาดล้างคนอัมโมนและล้อมเมืองรับบาห์ไว้ แต่ดาวิดประทับที่เยรูซาเล็ม

  • สิ้นปีเป็นช่วงฤดูหนาวเข้าสู่ใบไม้ผลิ สภาพอากาศกำลังดี….แต่กองทัพอิสราเอลยังคงรบอยู่เพื่อครองแผ่นดินให้ได้อย่างสมบูรณ์
  • แต่ดาวิดงีบหลับตอนบ่าย…เขาไม่ออกรบ
  • ..เขาใช้ชีวิตสบายเกินไปทั้งๆที่กองทัพยังอยู่ในสนามรบ
  • ดาวิดเริ่มสูญเสีย ”วินัย” ชีวิต
  • วินัย…จะช่วยเรา,เบรคเรา,..ที่จะไม่เดินเข้าสู่การทดลองอย่างไม่รู้ตัวได้…จะพูดอีกอย่างคือ …การรักวินัยของชีวิต..ทำให้ชีวิตปลอดภัยจากการล่อลวง
  • ถ้าเราลองสืบไปในชีวิตของคนที่มักตกอยู่ในความบาป / ความยากลำบาก… ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ …เราจะพบว่าเริ่มต้น 80% คือทิ้งวินัย เช่น..ไม่รักษาเวลา ..ไม่รักษาคำพูด..ทิ้งความรับผิดชอบแม้ชั่วคราว ..เถลไถล..ทิ้งเป้าหมาหรือเบื่อหน่ายที่จะรักษาเป้าหมายนั้น …..ไม่วางแผน ….. ไม่คิดเผื่อพลาด…..ไม่ควบคุมตนเองเพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้อง…จึงให้สิ่งรอบตัว พาไปง่ายๆ

วินัยจึงไม่ใช่กฏ

วินัยเปรียบเหมือนพาหนะชนิดหนึ่ง….ที่นำเราไปถึงเป้าหมาย

  • การวางแผนชีวิตและพยายามอยู่ในแผนงานที่วางไว้…เริ่มจาก “การสร้างวินัย ..สร้างพาหนะ….เพื่อการเดินทางเข้าสู่ความสำเร็จ”

พาหนะนั้นจะเป็น เรือ รถ เครื่องบิน จรวด ขึ้นกับความแข็งแกร่งของ “วินัย”

ถ้าวินัยอ่อน..เหมือนพาหนะที่ไม่มีสมรรถภาพ…..สุดท้าย…..

สภษ.5:23 “เขาตายเพราะขาดวินัย”

สภษ.7:7-8…เราเห็นว่าท่ามกลางคนเขลาและท่ามกลางคนหนุ่มๆที่เราพิเคราะห์ดูนั้น ก็มีหนุ่มคนหนึ่งไร้ความเข้าใจ 8ผ่านไปตามถนนใกล้ทางแยกไปบ้านของนาง เดินตามถนนซึ่งไปบ้านนาง

พระคำตอนนี้พูดถึง..ลักษณะชายหนุ่มที่จะเป็นเหยื่อแห่งความบาปของการล่วงประเวณี…”หนุ่มที่ไร้ความเข้าใจ” = “โง่ “ …ในการใช้ชีวิต.

…>.คนโง่จะทิ้ง(เกลียด)วินัย

สดด50:17-18 เพราะเจ้าเกลียดวินัย(คำสั่งสอน) และเจ้าเหวี่ยงคำของเราไว้ข้างหลังเจ้า 18เมื่อเจ้าเห็นโจร เจ้าก็คบเขา และเจ้าเข้าสังคมกับคนล่วงประเวณี….

สภษ.1:7ข ….คนโง่ย่อมดูหมิ่นปัญญาและคำสั่งสอน

พระคำชี้ให้เห็นว่า เมื่อชายหนุ่มคนนี้เดินมาถึงทางแยก… คือ…มีเส้นทางให้เลือก(ข้อ 8)…เขาเลือกเดินไปยัง “บ้านของนาง” ข้อ 9ชายหนุ่มคนนี้ ..เดินบนถนนในยามโพล้เพล้ ในเวลาเย็น…นี่คือผลของชีวิตที่ขาดวินัย…

  • ……คือ …เขาทิ้งเป้าหมายในการดำเนินชีวิต ..เขาทิ้งวินัย…ทิ้งหน้าที่…เวลานี้คือ เวลาที่ต้องกลับบ้าน..เมื่อหมดธุระการงานแล้ว ..บ้าน/ครอบครัวคือเป้าหมาย …

ถ้าเราอ่านต่อไปเราจะรู้ว่า

  • “นาง” คนนี้ไม่ใช่เมียชายหนุ่มคนนี้แน่นอน…

ชัดเจน ..จากพระคำพูดชัดว่า “ชายหนุ่มที่เลือกไปทางบ้านของนาง คือคนโง่”(หนุ่มไร้ความเข้าใจ)ในข้อ 22

“22เขาก็ติดตามนางไปทันทีอย่างวัวตัวผู้ไปสู่การฆ่า หรืออย่างคนเขลาที่ไปรับโทษที่ขื่อ 23จนลูกธนูปักเข้าไปถึงตับ อย่างนกรนเข้าไปหาบ่วง เขาหาทราบไม่ว่านี่มีค่าถึงชีวิต

 

ถ้าเขาฉลาด เขาจะเลือกวินัย ..และเมื่อการทดลองมา …เขาจะเห็นอีกทางหนึ่งที่กลับบ้านของตน

  • 1คร.10:13ไม่มีการทดลองใดๆเกิดขึ้นกับท่าน นอกเหนือจากการทดลองซึ่งเคยเกิดกับมนุษย์ทั้งหลาย แต่พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ พระองค์จะไม่ทรงให้ท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะทนได้ แต่เมื่อท่านถูกทดลองนั้น พระองค์จะทรงโปรดให้ท่านมีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้ด้วย เพื่อท่านจะมีกำลังทนได้

สภษ.5:23 “เขาตายเพราะขาดวินัย”

💢ย้อนกลับมาที่ตัวเรา…เรารักวินัย..แค่ไหน…

💢วินัยจะไม่เกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ…ต้องตั้งใจให้เกิด..ต้องฝืด..ฝืน..ฝึก

; การมีหน้าที่:…. ช่วยสร้างเราให้มีวินัยรวมทั้งความรับผิดชอบ

: “ตำแหน่ง”…ที่ได้รับมอบหมาย ..จะสูงขึ้นคือ…”ผลของวินัย” /ความรับผิดชอบ…และความสามารถที่ผู้อื่นจับต้องได้

  • แต่หลายคนคิดว่าต้องได้ตำแหน่งก่อน ฉันถึงจะมีวินัย”…มีความรับผิดชอบ

การฝึกงานปี 4 …3เดือน งานหลักที่ถูกมอบหมายคือ ทำสำเนาถ่ายเอกสาร ส่งหนังสือ …ผ่านไป 1 เดือนเริ่มเบื่อ..ขอลา..ไปสาย..บ่น…เล่นแต่มือถือในเวลางาน..เริ่มไม่สนใจคำสั่งที่ ให้ทำ …ทำตกหล่น…เถลไถล..แล้วก็หงุดหงิด..โกรธที่ทำงานเล็กน้อย…

  • คนไทยรุ่นใหม่ เกลียดวินัย ..ชอบชิว..ชอบทำตามใจตัวเอง..และคิดว่า..นี่คือลักษณะเด่นของคนรุ่นใหม่(ที่ดี) …แต่

“เขาตายเพราะขาดวินัย”

  • ประเทศที่เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วประชากรในประเทศ ขึ้นชื่อว่า “มีวินัยสูง” ไม่ว่าจะญี่ปุ่น สิงคโปร์ หรือ เกาหลี
  • 💢การมีวินัยคนละเรื่องกับความคิดสร้างสรรค…อย่าหลงประเด็น

เรามักคิดว่าถ้าเรามีวินัย…คืออยู่ในกรอบ..จะถูก บล๊อคความคิดสร้างสรร….แต่จริงๆแล้ว…ในทางกลับกัน….การมีวินัยจะทำให้ความคิดสร้างสรรค์ออกมาเป็นจริงได้

💢 ถ้าเรามีความคิดสร้างสรรค์ในการแต่งเพลงแร็ปอย่างดี ไม่มีใครสู้ แต่เมื่อถึงเวลาไปนำเสนอ …เราสาย..เราลืม…เราไม่เตรียมอะไรเลย..เราคิดว่า..ผลงานเราจะไปถึงระดับไหน…

  • หลายคนล้มเหลวทางการงาน ไม่ใช่เพราะทำงานไม่ได้หรือไม่มีความสามารถ…แต่เขาไม่มีวินัย
  • ตย.วรุฒ วรธรรม : จบอาชีพนักแสดงอย่างรวดเร็วเพราะเขาขาดระเบียบวินัย

กลับมาที่ดาวิด ….

ดาวิดเช่นเดียวกัน ..เป้าหมายเขาตอนนี้คือ “การรบ” เอาแผ่นดินพระสัญญาอย่างสมบูรณ์…เขาทิ้งวินัย..เขาทิ้งความรับผิดชอบ…เขาทิ้งหน้าที่….แทนที่เขาจะออกรบกับกองทัพด้วยอย่างทุกครั้ง ..เขากลับปล่อยให้ทหารไปเอง..เดิมดาวิดมีวินัย..ดาวิดออกรบและนำกองทัพที่ไม่เคยมีวิชาการรบเข้าบุกจนได้แผ่นดินบางส่วนไว้เป็นของอิสราเอล (ฉธบ.18:9-14)… แต่ตอนนี้ตนเองอยู่ในวังที่แสนสบาย บรรยากาศดีปลอดภัย…และงีบหลับในช่วงบ่าย

คำถาม …อะไร..ทำให้ดาวิดขาดวินัย?….

.”ความประมาท”

  • 1คร.10:12 ผู้ใดรู้สึกว่ามั่นคงดีแล้ว จงระวังให้ดี กลัวว่าจะล้มลง

….เมื่อใกล้เป้าหมาย ..ความประมาทก็เข้าครอบงำใจได้ง่าย

  • การได้ลิ้มรสความสำเร็จ ..แม้ยังไม่จบบริบูรณ์ ..ก็นำความชะล่าใจหรือความประมาทเข้ามาในการดำเนินชีวิตได้

💢สำหรับคต.พระคำเตือนอย่าประมาทเพราะ…พระกรุณาอันอุดมและความอดทนของพระเจ้า…..เราว่าจริงหรือไม่❓

  • รม.2:4หรือว่าท่านประมาทพระกรุณาคุณอันอุดมและความอดกลั้นพระทัย และความอดทนของพระองค์ ท่านไม่รู้หรือว่า พระกรุณาคุณของพระเจ้านั้นมุ่งที่จะชักนำท่านให้กลับใจใหม่

และความหมายของคำว่า “ประมาท” นี้ ..แรงกว่าที่เรานึกได้ ..เพราะรากศัพท์= เหยียดหยาม/ไม่แคร์/ไม่ใส่ใจ/เพิกเฉย

การดำเนินชีวิตด้วยความประมาท…ทำให้เราเริ่มทิ้ง..สิ่งที่สำคัญไปอย่างง่ายดาย

กลับมาที่ดาวิด….เมื่อเขาทิ้งวินัย..เขาก็ทำสิ่งอื่นแทน

📜2ซมอ.11:2อยู่มาเวลาเย็นวันหนึ่งเมื่อดาวิดทรงลุกขึ้นจากพระแท่น และดำเนินอยู่บนดาดฟ้าหลังคาพระราชวัง ทอดพระเนตรจากหลังคาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งอาบน้ำอยู่ หญิงคนนั้นสวยงามมาก

  • อยู่มาเวลาเย็นวันหนึ่ง(แสดงว่าเขามีชีวิตแบบนี้มาระยะหนึ่งแล้ว) ….ดาวิดลุกขึ้นจากที่นอน สภาพงัวเงีย..และเดินขึ้นไปยังดาดฟ้า …มองเห็นหญิงคนหนึ่งอาบน้ำอยู่

การทดลองก็เข้ามาทันที…

2ซมอ.11:3ดาวิดทรงใช้คนไปไต่ถามเรื่องผู้หญิงคนนั้น คนหนึ่งมากราบทูลว่า “หญิงคนนี้ชื่อบัทเชบา บุตรสาวของเอลีอัม ภรรยาของอุรีอาห์คนฮิตไทต์มิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ” 4ดาวิดก็ทรงใช้ผู้สื่อสารไปรับนางมา นางก็มาเฝ้าพระองค์ แล้วพระองค์ทรงร่วมหลับนอนกับนาง พอดีนางได้ชำระตัวให้สิ้นมลทินของนางแล้ว แล้วนางก็กลับไปเรือนของตน 5ผู้หญิงนั้นก็ตั้งครรภ์ นางจึงใช้คนไปกราบทูลดาวิดว่า “หม่อมฉันตั้งครรภ์แล้ว

เรื่องเพศ

โยเซฟ : เขาชนะ

แต่ดาวิด : กลับพ่ายแพ้

สิ่งใดมีอิทธิพลต่อการพ่ายแพ้การทดลอง?

ค้นหาคำตอบจากพระคำ

ยก. 1:14-15 แต่ว่าทุกคนก็ถูกล่อลวง เมื่อตัณหาของตนเองชักนำให้กระทำผิด แล้วตัวก็กระทำตาม 15ครั้นตัณหาเกิดขึ้นแล้ว ก็ทำให้เกิดบาป และเมื่อบาปโตเต็มที่แล้ว ก็นำไปสู่ความตาย

Then when lust hath conceived, it bringeth forth sin: and sin, when it is finished, bringeth forth death.

(ข้อ13…เมื่อผู้ใดถูกล่อให้หลงอย่าพูดว่าพระเจ้าทรงล่อข้าพเจ้าให้หลง..เพราะความชั่วจะล่อพระเจ้าให้หลงไม่ได้)

  • เราไม่รู้ว่าชีวิตส่วนตัวดาวิดในที่ลับมีอะไรบ้าง จนเราได้อ่านพระคำยก.1:15..พบว่า”ครั้นตัณหาเกิดขึ้นแล้ว ก็ทำให้เกิดบาป และเมื่อบาปโตเต็มที่แล้ว ก็นำไปสู่ความตาย”

“ดาวิด…ต้อง..มีการบ่มความบาปในเรื่องนี้ไว้ในใจแล้ว”

Lust has conceived.

conceived = ตั้งครรภ์/ตั้งท้อง

เมื่อเปิดช่องให้..”ตัญหา” ..เข้ามาในชีวิตเราได้ ..มันจะเริ่มเติบโตภายในจิตใจของเรา…ทีละน้อย….แน่นอน มันใช้เวลา…และค่อยๆเติบโต

คำว่า “บ่ม”คือการ “ตั้งท้อง” “conceive” ดูแลให้เติบโตจนถึงเวลา

เมื่อเราละทิ้ง”วินัย”ในเรื่องอื่นๆ..เราจะใช้เวลานั้นบ่มความบาปได้ ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว

เมื่อ “บาปโตเต็มที่แล้ว ก็นำไปสู่ความตาย”

1คร.10:13 ไม่มีการทดลองใดๆเกิดขึ้นกับท่าน นอกเหนือจากการทดลองซึ่งเคยเกิดกับมนุษย์ทั้งหลาย แต่พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ พระองค์จะไม่ทรงให้ท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะทนได้ แต่เมื่อท่านถูกทดลองนั้น พระองค์จะทรงโปรดให้ท่านมีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้ด้วย เพื่อท่านจะมีกำลังทนได้

. จากพระคำข้อนี้ ทำให้เรารู้ว่า……1.การทดลองจะเป็นแค่การทดสอบ…ถ้าเราไม่มีเชื้อบาปเช่นนั้นอยู่

1 เราชนะการทดลองทุกประการได้แน่นอน…ถ้าเราไม่มีการบ่มบาปแห่งการทดลองนั้นไว้ในใจมาก่อน….

2 การพ่ายแพ้เกิดเพราะความบาปนั้นสุกงอมเต็มที่แล้ว..และรอการนำไปสู่ความตาย

3 ความบาป…ปิดตาที่จะมองเห็นทางออก..

คต…ก็ไม่ออกจากกฎนี้…ถ้าเรารับมันเข้ามา

เรื่องเพศที่ไม่มาด้วยเส้นทางของพระเจ้าเต็มด้วยความสกปรกและไร้เกียรติ ..

เราสามารถสรุปได้ว่า………..เราแพ้การทดลอง..เพราะเราตั้งท้องความชั่วไว้ในสิ่งนั้นไว้ในใจก่อนแล้ว

ระวัง💥

. อย่าคิดว่า “เราเป็นคนโปรดของพระเจ้าแล้วกฎของพระเจ้าจะไม่มีผลต่อชีวิตของเรา”

พระเจ้าไม่เคยลำเอียง

2พศว.19:7. ฉะนั้นจงให้ความยำเกรงพระเยโฮวาห์อยู่เหนือท่าน จงระมัดระวังสิ่งที่ท่านกระทำ เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราไม่มีความชั่วช้า ไม่เห็นแก่หน้าคนใด(ลำเอียง) และไม่มีการรับสินบน”

บาป..ไม่ปล่อยเรากลับใจง่ายๆ

มันใช้ความมั่นคงทางเนื้อหนัง..นำให้เขาทำบาปชั่วลึกลงไป

2ซมอ.11:6ดาวิดทรงใช้คนไปบอกโยอาบว่า “จงส่งอุรีอาห์คนฮิตไทต์มาให้เรา” โยอาบก็ส่งตัวอุรีอาห์ไปให้ดาวิด 7เมื่ออุรีอาห์เข้าเฝ้าพระองค์ ดาวิดรับสั่งถามว่าโยอาบเป็นอย่างไรบ้าง พวกพลเป็นอย่างไร การสงครามคืบหน้าไปอย่างไร 8แล้วดาวิดรับสั่งอุรีอาห์ว่า “จงลงไปบ้านของเจ้า และล้างเท้าของเจ้าเสีย” อุรีอาห์ก็ออกไปจากพระราชวัง และมีคนนำของประทานจากกษัตริย์ตามไปให้ 9แต่อุรีอาห์ได้นอนเสียที่ประตูพระราชวังพร้อมกับบรรดาข้าราชการของเจ้านายของเขา มิได้ลงไปที่บ้านของตน

ข้อ 13 ดาวิดทรงเชิญเขามา เขาก็มารับประทานและดื่มต่อพระพักตร์ และพระองค์ทรงกระทำให้เขามึนเมา ในเย็นวันนั้นเขาก็ออกไปนอนบนที่นอนกับข้าราชการของเจ้านายของเขา แต่มิได้ลงไปบ้าน

  • ดาวิดใช้อำนาจ…ความมั่นคงทางเนื้อหนังที่เขามี…แก้ปัญหาด้วยวิธีชั่วร้าย
  • เขาฟอกบาปให้เป็นความชอบธรรม..ด้วยตัวเขาเอง..คือการทิ้งลูกที่เกิดจากเขา….ไปให้คนที่ซื่อสัตย์กับเขาที่สุด…นี่ทำให้เรารู้อีกว่า..การหลับนอนครั้งนั้น….ไม่ใช่ความรักที่เขามีกับบัทเชบาเลย
  • หนุ่มสาว

“ความเสน่หาจากเรื่องเพศ..ไม่เท่ากับความรัก”

หนุ่มสาว…เราจะรู้ว่ารักใครลอง…ตัด .สิ่งเร้า เรื่องอารมณ์ทางเพศแบบหญิงชายออกไปเช่นรูปร่าง หน้าตา …แล้วพิจารณาตัวตนของเขาจริงๆ…เราจะรู้ว่า..เราเหลือความรักให้แก่ชายหรือหญิงนั้นแค่ไหน….

อุรีอาห์ ..ไม่ตกลงไปในหลุมพรางของดาวิด ..

เพราะเขามีวินัย…..

น่าสนใจในจริยธรรมเรื่องนี้…ถ้าเป็นยุคนี้..เชื่อว่าหลายคนจะเห็นด้วยกับดาวิด..ในการกระทำของเขา…โดยยกลูกให้กับอุรีอาห์ ..ซึ่งเป็นสามีของบัทเชบาอยู่แล้ว..และทุกอย่างก็จบลง….อย่างสวยงาม

แต่สำหรับพระเจ้า ….พระเจ้ายอมรับการกระทำของอุรีอาห์และให้เกียรติ เขา….เขามีชื่อในพงศ์พันธ์ุพระเยซู(ทั้งๆที่เขาไม่เกี่ยวข้องเลย..ไม่รู้อะไรด้วยซ้ำ..และถ้าดูจริงๆชีวิตเขาไม่เจ็บปวดในเรื่องนี้เลย….พระเจ้าให้เขาตายอย่างสมเกียรติ)

…แต่นางบัทเชบาไม่มีชื่อไม่ได้เกียรติในกรณีนี้เพราะเธอไม่ปฏิเสธ…มธ.1:6

เรา..มนุษย์…ไม่สามารถฟอกบาปให้บริสุทธิ์ได้

เมื่อแผนแรกไม่สำเร็จ ….ดาวิดยังไม่เลิก..วางแผนชั่ว

14ต่อมาครั้นรุ่งเช้าดาวิดทรงอักษรถึงโยอาบและทรงฝากไปในมือของอุรีอาห์ 15ในลายพระหัตถ์นั้นว่า “จงตั้งอุรีอาห์ให้เป็นกองหน้าเข้าสู้รบตรงที่ดุเดือดที่สุดแล้วล่าทัพกลับเสียเพื่อให้เขาถูกโจมตีให้ตาย”

ดาวิดใช้อำนาจความเป็นกษัตริย์…เพื่อลบล้างความบาปของตนเองอย่างชั่วร้ายที่สุด

  • ดาวิดแย่งเมียทหารของตนเองที่จงรักภักดี
  • ดาวิดวางแผนป้ายความผิด..ฟอกความบาป
  • ดาวิดวางแผนทิ้งลูกตนเอง
  • ดาวิดวางแผนฆ่าปิดปาก

ดาวิด”ผู้รู้จักน้ำพระทัยพระเจ้า” เขาทำบาปให้พระเจ้าเจ็บปวด

ขอข้ามไปข้อ 24

2ซมอ.1: 24แล้วทหารธนูก็ยิงข้าราชการของพระองค์จากกำแพง ข้าราชการของกษัตริย์บางคนก็สิ้นชีวิต และอุรีอาห์คนฮิตไทต์ข้าราชการของพระองค์ก็สิ้นชีวิตด้วย” 25ดาวิดก็รับสั่งผู้สื่อสารนั้นว่า “เจ้าจงบอกโยอาบดังนี้ว่า ‘อย่าให้เรื่องนี้ทำให้ท่านลำบากใจ เพราะดาบย่อมสังหารไม่เลือกว่าคนนั้นหรือคนนี้ จงสู้รบหนักเข้าไปและตีเอาเมืองนั้นเสียให้ได้’ เจ้าจงหนุนน้ำใจท่านด้วย” 26เมื่อภรรยาของอุรีอาห์ได้ยินข่าวว่าอุรีอาห์สามีของตนสิ้นชีวิตแล้ว นางก็คร่ำครวญด้วยเรื่องสามีของนาง 27เมื่อสิ้นการไว้ทุกข์แล้วดาวิดก็ส่งคนไปให้พานางมาที่พระราชวัง และนางก็ได้เป็นมเหสีของพระองค์ ประสูติโอรสองค์หนึ่งให้พระองค์ แต่สิ่งซึ่งดาวิดทรงกระทำนั้นไม่เป็นที่พอพระทัยพระเยโฮวาห์

แผนชั่วของดาวิดสำเร็จ…”แต่สิ่งซึ่งดาวิดทรงกระทำนั้นไม่เป็นที่พอพระทัยพระเยโฮวาห์”

พระเจ้าตรัสผ่านนาธัน ผู้เผยพระวจนะ

2ซมอ.12:9ทำไมเจ้าดูหมิ่นพระบัญญัติของพระเยโฮวาห์กระทำชั่วในสายพระเนตรของพระองค์ เจ้าได้ฆ่าอุรีอาห์คนฮิตไทต์เสียด้วยดาบ เอาภรรยาของเขามาเป็นภรรยาของตน และได้สังหารเขาเสียด้วยดาบของคนอัมโมน

การดูหมิ่น = การทำลายพระบัญญัติ Break Covernant

เมื่อเราอ่านพระคำถึงตรงนี้…เราอาจรู้สึกว่า..อะไรทำให้ดาวิดยังไม่เลิกวางแผนชั่วร้าย..ทำไมเขาถึงไม่รู้ตัวสักที

ความบาป ปิดกั้นปัญญาจากพระเจ้า

รม.1:21เพราะถึงแม้ว่าเขาทั้งหลายได้รู้จักพระเจ้าแล้ว เขาก็มิได้ถวายพระเกียรติแด่พระองค์ให้สมกับที่ทรงเป็นพระเจ้า หรือหาได้ขอบพระคุณไม่ แต่เขากลับคิดในสิ่งที่ไม่เป็นสาระ และจิตใจโง่เขลาของเขาก็มืดมัวไป

ถ้าใครเคยสงสัยตัวเองว่า..ทำไมพระคำไม่เข้าในใจของเราเลย…ลองกำจัดบาปออกจากตัวเองทีละเรื่อง ทีละเรื่อง….แล้วเราจะพบว่า…ยิ่งกำจัดบาปออกมากเท่าไหร่ ..พระคำก็ง่ายที่จะลงไปในหัวใจเราได้เท่านั้น..

และยังพบอีกว่า..มันไม่ยากที่เราจะรักษาบัญญัติของพระองค์เหมือนที่เราเคยคิดเลย

ความบาป..ปิดกั้นตาใจฝ่ายวิญญาณ

สำหรับดาวิดในตอนนี้…สิ่งที่เป็นองค์ประกอบหลักของความบาปคือ “การขาดวินัย” ..ซึ่งนำให้เกิดและตัวเสริมคือ

1 ความประมาท(ความสำเร็จ/อำนาจ(ของโลก)..

2 บาปที่ตั้งครรภ์..

3 และการทดลอง

..นี่คือองค์ประกอบที่ลงตัวและทำให้

“บาปโตเต็มที่แล้ว ก็นำไปสู่ความตาย”

จบลงที่…

ดาวิด..กลับมาสู่สภาพ “ผู้ที่รู้จักพระทัยพระเจ้าได้อย่างไร”

2ซมอ.12:13ดาวิดจึงรับสั่งกับนาธันว่า “เรากระทำบาปต่อพระเยโฮวาห์แล้ว” และนาธันกราบทูลดาวิดว่า “พระเยโฮวาห์ทรงให้อภัยบาปของพระองค์แล้ว พระองค์จะไม่ถึงแก่มรณา 14อย่างไรก็ตาม เพราะด้วยการกระทำนี้พระองค์ได้ให้พวกศัตรูของพระเยโฮวาห์มีโอกาสเหยียดหยามได้ ราชบุตรที่จะประสูติมานั้นจะต้องสิ้นชีวิต”

“เรากระทำบาปต่อพระเยโฮวาห์แล้ว” นี่คือคำพูดของผู้สำนึกผิดแท้จริง

คำพูดสั้นๆ..แต่พระเจ้าผู้ทรงชันสูตรใจรู้ว่า..เป็นใจที่กลับใจอย่างแท้จริง….. “พระเยโฮวาห์ทรงให้อภัยบาปของพระองค์แล้ว”

ดาวิดรู้ว่า..นั่นคือบาปของเขาแท้จริง

  • ทำให้ไม่มีเหตุผลมาอ้าง แก้ต่าง
  • ไม่โทษใคร
  • ยอมรับการตัดสินของพระเจ้าอย่างเต็มใจ
  • การตระหนักถึงบาปของตนเอง……ทำให้เกิดการกลับใจใหม่ได้อย่างแท้จริง

และนี่คือ ….

“นี่คือ เอกลักษณ์ของ “ชาย/หญิง..ที่รู้จักพระทัยพระเจ้า”…ไม่ใช่ไม่เคยผิด..แต่เพียรพยายามเดินในน้ำพระทัยพระเจ้าเสมอ…ด้วยพระคุณเพื่อนำเรากลับใจ

“พระเจ้าทอดพระเนตรที่ใจ”

เพราะพระเยโฮวาห์ทอดพระเนตรไม่เหมือนกับที่มนุษย์ดู ด้วยว่ามนุษย์ดูที่รูปร่างภายนอก แต่พระ

เยโฮวาห์ทอดพระเนตรจิตใจ

By admin