“นัดหมายสวรรค์ นำเราออกจากกับดักความตาย”
มีบทวิเคราะห์ภาวะของคนในยุคนี้ว่า กำลังถูกโรคซืมเศร้าครองโลก สถิติคนไทยฆ่าตัวตายกำลังมีมากขึ้น อย่างน่าเป็นห่วง และวิธีฆ่าตัวตายที่กำลังนิยม คือ จุดเตาถ่านในรถ รมควันตัวเองตาย มีบทความเกี่ยวกับ คนในยุคนี้ว่า กำลังอยู่กับตัวเองไม่เป็น โดยเป็นสาวกมือถือ สังคมก้มหน้า ไปไหน ก็มีแต่คนก้มหน้าอยู่กับโทรศัพท์มือถือ ในโบสถ์ก็ยังมีขณะนมัสการ ขณะฟังคำเทศนา มีคำแนะนำว่า ให้เอาตะกร้าสำหรับให้ทุกคนเอามือถือใส่ก่อนที่จะเริ่มนมัสการ ฟังเทศน์ ต้องทำถึงขนาดนั้นเชียวหรือ ทำไมเราบังคับควบคุมตัวเราเองไม่ได้ นี่คือกับดักชีวิตอยู่หรือเปล่า กับดักที่นำเราไปถึงคำว่า กับดักความตาย
มีการวิเคราะห์คนที่ฆ่าตัวตายสำเร็จ เพราะ ไม่มีใครที่เขาจะสามารถนัดได้ และที่ฆ่าตัวตายไม่สำเร็จ เพราะเขายังมีนัดหมายอยู่ จึงมีคำแนะนำวิธีช่วยเหลือคนที่คิดฆ่าตัวตาย คือ นัดหมายคนๆนั้นให้ได้ เพราะคนที่คิดจะฆ่าตัวตายมักจะคิดว่า ไม่มีใครที่สนใจ ใส่ใจเขาแล้ว แต่นัดหมายคือความสำคัญที่คนที่คิดฆ่าตัวตายยังหลงเหลืออยู่ในวินาทีสุดท้าย มีการเก็บข้อมูลจำนวนครั้งการโทรศัพท์ของคนที่ฆ่าตัวตายสำเร็จ ปรากฏว่า คนที่เขาโทรหา ไม่รับสาย และมักจะmissed call ถึง 30 ครั้ง คุณคือคนที่ไม่รับใม่รับสายใครอยู่หรือเปล่า?
คนที่อยู่กับตัวเองไม่เป็น ทำอะไร การอยู่กับตัวเองให้เป็น ไม่ใช่การโดดเดี่ยว ไม่ใช่ความซืมเศร้า โรคซืมเศร้า คือโรคที่อยู่กับตัวเองไม่เป็น ไม่สามารถพาตัวเองออกจากปัญหา ความซึมเศร้าของตนเอง ทุกวันนี้ เรากำลังถูกพาเข้าไปสู่กับดักของโรคซึมเศร้าอยู่หรือเปล่า โรคซึมเศร้า จะมีอาการแยกตัวเองออกจากสังคม เก็บตัว การติดโทรศัพท์มือถือ ไม่เงยหน้ามองผู้คน คือการแยกตัวเองออกจากสังคม ในลักษณะทางจิตจดจ่อ แม้จะอยู่กับคนมากมาย ในรถไฟฟ้า ในห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร หรือบนโต๊ะอาหารในบ้าน แต่เรากำลังแยกตัวเองออกจากสังคมที่เรากำลังอยู่ ด้วยจิตที่จดจ่ออยู่กับสิ่งเราสนใจในโทรศัพท์มือถือ และเมื่อมาถึงจุดๆหนึ่งโทรศัพท์มือถือไม่สามารถตอบโจทย์ของชีวิตได้ อะไรจะเกิดขึ้น ภาวะ ไม่มีเพื่อน ไม่มีคนที่มีชีวิต มีแต่ภาวะที่เรียกว่า โลกเสมือนจริง ที่ความโหยหาลึกๆของวิญญาณมนุษย์ทุกคน จะบอกว่า มันไม่ใช่ ไม่ใช่ และสิ้นหวังกับคน หันไปทางไหน ก็จะเจอกับคำว่า Toxic people คนที่อยู่ใกล้แล้วเครียด เรารู้หรือไม่ว่า สังคมกำลังยัดยียดให้เรามองคนแบบ Toxic people อยู่ใกล้แล้วเครียด เราเครียดเอง หรือคนๆนั้นมีอิทธิพลกับเราขนาดนั้นเชียวหรือ นี่หรือไม่ ที่กำลังเป็น….กับดักความตาย
2 โครินธ์ 2:15-16 15 เพราะว่าเราเป็นกลิ่นอันหอมหวาน ที่พระคริสต์ถวายพระเจ้าในหมู่คนที่กำลังจะรอด และคนที่กำลังประสบความพินาศ16 ฝ่ายหนึ่งเป็นกลิ่นแห่งความตายซึ่งนำไปสู่ความตาย และอีกฝ่ายหนึ่งเป็นกลิ่นหอมแห่งชีวิตซึ่งนำไปสู่ชีวิต ใครเล่าจะมีความสามารถเหมาะสมกับพันธกิจเหล่านี้
สิ่งที่พระคัมภีร์ตอนนี้กล่าวถึง ชัดเจนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ในยุคของเรา กลิ่นของความตายอยู่ไปทั่วทุกสิ่งรอบตัวเรา เราลองดมอย่างตั้งใจ แม้แต่อาหารก็ยังมีกลิ่นของความตาย ถ้าเราไม่ระวัง ไม่เลือก ไม่ใส่ใจ ทุกอย่างที่เรากำลังใช้เพื่อดำรงชีวิต แต่มันกำลังทำลายชีวิตอยู่หรือไม่ แน่นอนว่า มนุษย์ทุกคนต้องตาย แต่จะตายเพื่อมีชีวิต หรือตายเพื่อจบชีวิต คำสอนของพระเยซูกำลังนำให้คนคิด และแสวงทางที่ควรจะเดินไปให้ถูกทาง แม้ตายก็ยังมีชีวิตต่อไปได้ จิตวิญญาณเป็นที่ให้ชีวิต
ยอห์น 6: 63 63 จิตวิญญาณเป็นที่ให้มีชีวิต ส่วนเนื้อหนังไม่มีประโยชน์อันใด ถ้อยคำซึ่งเราได้กล่าวกับท่านทั้งหลายนั้น เป็นจิตวิญญาณและเป็นชีวิต
มาระโก 8:34-37 34 พระองค์จึงทรงร้องเรียกประชาชนกับเหล่าสาวกให้เข้ามา แล้วตรัสแก่เขาว่า “ถ้าผู้ใดจะใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับกางเขนของตนแบก และตามเรามา35 เพราะว่าผู้ใดใคร่จะเอาชีวิตรอด ผู้นั้นจะเสียชีวิต แต่ผู้ใดจะเสียชีวิตเพราะเห็นแก่เราและข่าวประเสริฐ ผู้นั้นจะได้ชีวิตรอด36 เพราะถ้าผู้ใดจะได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก แต่ต้องเสียชีวิตของตน ผู้นั้นจะได้ประโยชน์อะไร37 เพราะว่าผู้นั้นจะนำอะไรไปแลกเอาชีวิตของตนกลับคืนมา
การดำเนินชีวิตติดตามในทางของพระเยซู จะทำให้เราได้พบกับนัดหมายสวรรค์ จะช่วยให้เราเดินออกจากกับดักของความตาย ได้
หนังสือกิจการได้บันทึกตัวอย่างของ “นัดหมายจากสวรรค์” Divine Appointment สำหรับคนสองคน คนหนึ่งเป็นต่างชาติ อีกคนคือคริสเตียนยิว
กิจการ 10:1-5, 14-20,33-43 1 ยังมีชายคนหนึ่งชื่อโครเนลิอัส อาศัยอยู่ในเมืองซีซารียา เป็นนายร้อยอยู่ในกองทหารที่เรียกว่า กองอิตาเลีย2 ทั้งท่านและครอบครัวเป็นคนยำเกรงพระเจ้า ท่านเคยให้ทานมากมายแก่ประชาชน และอธิษฐานพระเจ้าเสมอ3 เวลาประมาณบ่ายสามโมง นายร้อยนั้นเห็นนิมิตแจ่มกระจ่าง คือเห็นทูตองค์หนึ่งของพระเจ้าเข้ามาหาตนกล่าวว่า “โครเนลิอัสเอ๋ย”4 และเมื่อโครเนลิอัสเขม้นดูทูตองค์นั้น ด้วยความตกใจกลัว จึงถามว่า “นี่เป็นประการใด พระเจ้าข้า” ทูตสวรรค์จึงตอบท่านว่า “คำอธิษฐานและทานของท่านนั้น ได้ขึ้นไปเป็นเหตุให้พระเจ้าระลึกถึงแล้ว5 บัดนี้จงใช้คนไปยังเมืองยัฟฟา เชิญซีโมนที่เรียกว่าเปโตรมา
น่าสนใจว่า ทำไม พระเจ้าสำแดงกับนายร้อย คนต่างชาติ ซึ่งเป็นคนดี คนตั้งใจดำเนินชีวิตเป็นคนดี ให้ทาน และรู้จักพระเจ้าระดับหนึ่ง แต่พระเจ้าไม่เปิดเผยเรื่องพระเยซูให้นายร้อยเลย พระเจ้าส่งทูตสวรรค์มาปรากฏแก่นายร้อย ก็น่าจะเชื่อถือได้แล้ว่า พระเยซูเป็นของจริง แต่พระเจ้ากลับให้ทูตสวรรค์นัดหมายให้นายร้อยโครเนลิอัสคนนี้ ไปตามหาเปโตร (สาวกของพระเยซู) มาพบ
และในขณะเดียวกัน พระเจ้าก็สำแดงกับเปโตรเป็นนิมิต ขณะที่เปโตรกำลังหิว และรออาหาร ที่ยังไม่พร้อมเสริฟ พระเจ้าสำแดงแก่เปโตรเป็นภาพของสัตว์ที่เป็นมลทินสำหรับคนยิว ที่จะไม่กิน ตามธรรมบัญญัติของโมเสส
14 ฝ่ายเปโตรจึงทูลว่า “มิได้ พระเจ้าข้า เพราะว่าสิ่งซึ่งเป็นของต้องห้าม หรือของมลทินนั้น ข้าพระองค์ไม่เคยรับประทานเลย”15 แล้วจึงมีพระสุรเสียงเป็นครั้งที่สองว่าแก่ท่านว่า “ซึ่งพระเจ้าได้ทรงชำระแล้วอย่าว่าเป็นของต้องห้าม”16 เห็นอย่างนั้นถึงสามครั้ง แล้วสิ่งนั้นก็ถูกรับขึ้นไปในนภากาศทันที 17 เมื่อเปโตรยังคิดสงสัยเรื่องนิมิตที่เห็นนั้นว่ามีความหมายอย่างไร ดูเถิด คนที่โครเนลิอัสใช้ไปนั้น เมื่อถามหา และพบตึกของซีโมนแล้ว ก็มายืนอยู่หน้าประตูรั้ว18 และร้องถามว่า ซีโมนที่เรียกว่าเปโตรพักอยู่ที่นั่นหรือไม่
19 เมื่อเปโตรตริตรองเรื่องนิมิตนั้น พระวิญญาณก็ตรัสกับท่านว่า “ดูเถิด ชายสามคนมาหาเจ้า20 จงลุกขึ้นลงไปข้างล่างและไปกับเขาเถิด อย่าลังเลใจเลย เพราะว่าเราได้ใช้เขามา”
นัดหมายของสวรรค์ เกิดขึ้นแล้ว และพระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสกับเปโตร ในเวลานั้น เปโตรคุ้นเคยกับพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว เปโตรเชื่อฟัง และตอบสนองต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์บ่อย เปโตรตอบรับนัดหมายคนของโครเนลิอัส และเดินทางไป (ใช้เวลาสี่วันในการเดินทาง) เมื่อเปโตรพบกับโครเนลิอัส
25 ครั้นเปโตรเข้าไป โครเนลิอัสก็ต้อนรับเปโตรและหมอบที่เท้ากราบไหว้ท่าน26 ฝ่ายเปโตรจึงจับตัวโครเนลิอัสให้ลุกขึ้น และกล่าวว่า “จงยืนขึ้นเถิด ข้าพเจ้าก็เป็นแต่มนุษย์เหมือนกัน”27 เมื่อกำลังสนทนากันอยู่ เปโตรจึงเข้าไป แลเห็นคนเป็นอันมากมาพร้อมกัน28 จึงกล่าวแก่คนเหล่านั้นว่า “ท่านทั้งหลายทราบแล้วว่า คนชาติยิวนั้นจะคบให้สนิทกับคนต่างชาติ หรือเข้าเยี่ยมก็เป็นที่ห้าม แต่พระเจ้าได้ทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้าแล้วว่า ไม่ควรเรียกคนหนึ่งคนใดว่าเป็นที่ห้ามหรือมลทิน29 เหตุฉะนั้นเมื่อท่านใช้คนไปเชิญข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็มาโดยไม่ขัด ข้าพเจ้าขอถามว่า ท่านเชิญข้าพเจ้ามาด้วยประสงค์อะไร”
โครเนลิอัสจึงเล่าเรื่องราวว่า มีทูตสวรรค์จากพระเจ้า มาปรากฏแก่เขา และสั่งให้ไปเชิญเปโตรมาหา เขารู้ว่า เปโตรต้องมีข่าวสารที่พระเจ้าต้องการให้เขารู้ (แต่น่าแปลกที่พระเจ้าไม่บอกทีเดียว ทำไมต้องนัดหมายให้พบ…)
33 ข้าพเจ้าจึงใช้คนไปเชิญท่านมาทันที ที่ท่านมาก็ดีแล้ว บัดนี้พวกข้าพเจ้าอยู่พร้อมกันต่อพระพักตร์พระเจ้า เพื่อจะฟังสิ่งสารพัด ซึ่งพระองค์ได้ตรัสสั่งท่านไว้”34 ฝ่ายเปโตรจึงกล่าวว่า “ข้าพเจ้าเห็นจริงแล้วว่า พระเจ้าไม่ทรงเลือกหน้าผู้ใด35 แต่คนใดๆ ในทุกชาติที่เกรงกลัวพระองค์ และประพฤติตามทางชอบธรรมก็เป็นที่ชอบพระทัยพระองค์
36 เรื่องที่พระองค์ได้ทรงฝากไว้กับพวกอิสราเอล คือทรงประกาศข่าวดีเรื่องสันติสุขโดยพระเยซูคริสต์ ผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของคนทั้งปวง 37 เรื่องนั้นท่านทั้งหลายก็รู้ คือเรื่องที่ได้เล่ากันตั้งแต่ต้น ที่แคว้นกาลิลีไปจนตลอดทั่วแคว้นยูเดีย ภายหลังการบัพติศมาที่ยอห์นได้ประกาศนั้น38 คือเรื่องพระเยซูชาวนาซาเร็ธ ว่าพระเจ้าได้ทรงเจิมพระองค์ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และด้วยฤทธานุภาพอย่างไร และพระเยซูเสด็จไปกระทำคุณประโยชน์ และรักษาบรรดาคนซึ่งถูกมารเบียดเบียน เพราะว่าพระเจ้าทรงสถิตกับพระองค์39 เราทั้งหลายเป็นพยานถึงกิจการทั้งปวง ซึ่งพระองค์ทรงกระทำ ในแคว้นยูเดียและในกรุงเยรูซาเล็ม พระองค์นั้นเขาได้ฆ่าโดยแขวนไว้ที่ต้นไม้40 ในวันที่สาม พระเจ้าได้ทรงให้พระองค์คืนพระชนม์และทรงให้ปรากฏ41 มิใช่ทรงให้ปรากฏแก่คนทั่วไป แต่ทรงปรากฏแก่เราพวกพยานซึ่งพระเจ้าได้ทรงเลือกไว้แต่ก่อน คือทรงปรากฏแก่พวกเราที่ได้รับประทานและดื่มกับพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงคืนพระชนม์แล้ว
42 พระองค์ทรงสั่งให้เราทั้งหลายประกาศแก่คนทั้งปวง และเป็นพยานว่า พระเจ้าได้ทรงตั้งพระองค์ไว้เป็นผู้พิพากษาทั้งคนเป็นและคนตาย43 ผู้เผยพระวจนะทั้งหลายย่อมเป็นพยานถึงพระองค์ว่า ทุกๆ คนที่เชื่อถือในพระองค์นั้น พระเจ้าจะทรงยกความผิดบาปของเขา เพราะพระนามของพระองค์”
44 เมื่อเปโตรยังกล่าวคำเหล่านั้นอยู่ พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เสด็จลงมาสถิตกับคนทั้งปวงที่ฟังพระวจนะนั้น
นัดหมายสวรรค์ที่จะนำคนออกจากกับดักของความตาย คือข่าวดี เรื่องสันติสุขของพระเยซูคริสต์ ผู้เป็นพระเจ้าของคนทั้งปวง
พระเยซูเป็นผู้พิพากษาทั้งคนเป็นและคนตาย คนที่เชื่อถือในพระองค์จะไดรับการยกความผิดบาป
นัดหมายสวรรค์ สำเร็จ ในกระบวนการของการส่งข่าวสาร เปโตรได้ทำหน้าที่ผู้สื่อสาร ผู้ที่พระเยซูใช้ออกไป แม้จะมีเงื่อนไขความจำกัดของตัวเปโตรในฐานะคนยิวที่ไม่คบหา ไม่ไปหาคนต่างชาติ ไม่เข้าบ้านของคนต่างชาติ แต่เมื่อพระเยซูสั่ง เปโตรทำตาม โดยการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ โครเนลิอัสกับครอบครัว เพื่อนฝูงได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ทันที นัดหมายสวรรค์ ได้นำคนเหล่านี้ ไปสู่ชีวิต
การดำเนินชีวิตของโครเนลิอัส คือลักษณะของคนที่หิวกระหายความดี ความชอบธรรม การทำดี พระเจ้าทรงพอพระทัย แต่คนเหล่านี้ไม่สามารถจะพบกับการเติมเต็มได้ จนกว่าจะได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์
วันนี้ ข้าพเจ้าเขียนสูจิบัตรในหัวเรื่อง ชื่อว่า ไม่กระหายอีกเลย
ยอห์น 7:37-39 37 ในวันสุดท้ายของงานเทศกาลซึ่งเป็นวันใหญ่นั้น พระเยซูทรงยืนและประกาศว่า “ถ้าผู้ใดกระหาย ผู้นั้นจงมาหาเราและดื่ม38 ผู้ที่วางใจในเราตามที่มีคำเขียนไว้แล้วว่า ‘แม่น้ำที่มีน้ำธำรงชีวิต จะไหลออกมาจากภายในผู้นั้น’ ”39 สิ่งที่พระเยซูตรัสนั้นหมายถึงพระวิญญาณ ซึ่งผู้ที่วางใจในพระองค์จะได้รับ เหตุว่ายังไม่ได้ประทานพระวิญญาณให้ เพราะพระเยซูยังมิได้ประสบเกียรติกิจ
ยอห์น 4:14 14 แต่ผู้ที่ดื่มน้ำซึ่งเราจะให้แก่เขานั้น จะไม่กระหายอีกเลย น้ำซึ่งเราจะให้เขานั้น จะบังเกิดเป็นบ่อน้ำพุในตัวเขาพลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร์”
ความกระหาย ที่พระเยซูทรงตรัสในพระคัมภีร์สองตอนนี้ หมายถึงความกระหายภายในจิตใจของมนุษย์ ซึ่งไม่เคยเปลี่ยน สองพันปีที่แล้ว เป็นอย่างไร ก็ยังเป็นความกระหายอย่างเดียวกัน เพียงแค่รูปแบบของการแสวงหาและการเสพอาจแตกต่างกันไปตามยุคสมัย คำไทย มีคำว่า ถมเท่าไหร่ ไม่รู้จักเต็ม บริโภคเท่าไร ไม่รู้จักพอ ภาษาวัยรุ่นอาจจะเรียกว่า เบื่อ เซ็ง จึงต้องโหยหาอะไรที่เรียกว่า ใหม่ๆ ไม่ซ้ำเหมือนเดิม แต่ปัญญาจารย์เมื่อก่อนสองพันปีที่แล้วได้กล่าวบทสรุปของคำว่า ใหม่ๆ ไว้ว่า…
ปัญญาจารย์ 1:8,10 8 สารพัดเหนื่อยกันหมด คนใดๆ ก็พูดไม่ออก นัยน์ตาก็ดูไม่อิ่ม หรือหูก็ฟังไม่เต็ม สิ่งที่เป็นขึ้นแล้ว คือสิ่งที่จะเป็นขึ้นอีก สิ่งที่ทำกันแล้ว คือสิ่งที่จะต้องทำกันอีก และไม่มีสิ่งใดใหม่ภายใต้ดวงอาทิตย์ 10 มีสักสิ่งหนึ่งหรือที่เขาจะพูดได้ว่า “ดูซี สิ่งนี้ใหม่” สิ่งนั้นมีอยู่แล้ว ในสมัยก่อนเราทั้งหลาย
สิ่งที่ปัญญาจารย์กล่าวขัดแย้งกับพระคัมภีร์ใหม่เรื่องสิ่งใหม่ๆหรือเปล่า คำตอบคือ ไม่ใช่ เพราะสิ่งที่ปัญญาจารย์กล่าวเป็นเรื่องของเนื้อหนัง พระคัมภีร์ใหม่ได้กล่าวถึง หว่านเนื้อหนังก็เก็บเกี่ยวเนื้อหนัง แต่หว่านในย่านพระวิญญาณก็เก็บเกี่ยวในย่านพระวิญญาณ ซึ่งนี่ก็คือ สิ่งที่พระเยซูได้ตรัสถึงน้ำที่ดื่มนี้จะไม่กระหายอีกเลย คือจบครบ พอใจภายใน แม้ภายนอกดูจะไม่มี ไม่ครบ ไม่ได้ อย่างค่านิยมของโลกนี้
ไม่กระหายอีกเลย เป็นความพอใจ อิ่มเอิบใจ กับสิ่งที่มี สิ่งที่เป็น สิ่งที่ได้มา หรือไม่ได้มา ตัวตัดสินความสุข ความสมบูรณ์ของชีวิต ที่เรียกว่า perfect ในมุมมองของพระคัมภีร์ คือเส้นทางการไปถึงความไพบูลย์ของพระเยซูคริสต์ ไม่ใช่ของตัวเองอีกต่อไป
เอเฟซัส4:13 13 จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อ และในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า จนกว่าเราจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ คือเต็มถึงขนาดความไพบูลย์ของพระคริสต์
39 สิ่งที่พระเยซูตรัสนั้นหมายถึงพระวิญญาณ ซึ่งผู้ที่วางใจในพระองค์จะได้รับ
44 เมื่อเปโตรยังกล่าวคำเหล่านั้นอยู่ พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เสด็จลงมาสถิตกับคนทั้งปวงที่ฟังพระวจนะนั้น
นี่คือนัดหมายสวรรค์ เพื่อนำออกจากกับดักของความตาย ก็คือ ความหิวกระหาย อย่างโครเนลิอัส และคนในสังคมของเขาที่กำลังแสวงหา แม้จะเป็นทางที่ดีอย่างคนดี ก็ยังเป็นความหิวกระหายที่ไม่จบ ไม่ครบ ยังไปไม่ถึงชีวิตที่ครบบริบูรณ์ ยังรู้สึกไม่เต็ม ไม่อิ่ม และน่าจะเป็นเหตุผลว่า ทำไมทูตของพระเจ้า ที่มาหาโครเนลิอัส จึงไม่เล่าเรื่องพระเยซูคริสต์ และสำแดงว่าพระเยซูเป็นพระเจ้าเสียเลย ทำไมต้องมีนัดหมายสวรรค์ให้ต้องได้เจอกับเปโตร และเปโตรเองก็ต้องทำตามพระบัญชาของพระเยซู
คำตอบคือ ประสบการณ์จริงของเปโตร ทำให้โคเนลิอัสและคนรอบข้างของเขาเชื่อ ในพระเยซูคริสต์ ไม่ใช่ เพราะประสบการณ์ของโครเนลิอัสที่ได้ฟังแค่เรื่องเล่าของทูตสวรรค์เท่านั้น
หนังสือกิจการในพระคัมภีร์ เป็นบันทึกเรื่องราวการทำกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ผ่านสาวกของพระเยซูทุกคน ตั้งแต่ ระดับที่ได้ใกล้ชิดใช้เวลากับพระเยซูตัวเป็นๆ จนมีประสบการณ์กับการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู จนถึงระดับสาวกที่เกิดจากอัครสาวก และสาวกจากสาวกธรรมดาๆอย่างฟิลิป หรือแม้แต่ขันทีชาวเอธิโอเปีย พระวิญญาณบริสุทธิ์ไปกับสาวก ที่สาวกไป และสาวกเป็นพยานตามนัดหมายสวรรค์ทำให้คนมากมายเดินออกจากกับดักความตาย อ.เปาโลได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า
1โครินธ์ 15:55 55 โอ มัจจุราชเอ๋ย ชัยชนะของเจ้าอยู่ที่ไหน โอ มัจจุราชเอ๋ย เหล็กไนของเจ้าอยู่ที่ไหน
คริสตจักรในวันนี้ คือ หนังสือกิจการหน้าต่อไป ที่กำลังบันทึกถึงเรื่องราวการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตของสาวกของพระเยซู พระองค์กำลังนำเราไปสู่นัดหมายของสวรรค์ และนำเราออกจากกับดักของความตาย
มาระโก 8:34-37 34 พระองค์จึงทรงร้องเรียกประชาชนกับเหล่าสาวกให้เข้ามา แล้วตรัสแก่เขาว่า “ถ้าผู้ใดจะใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับกางเขนของตนแบก และตามเรามา35 เพราะว่าผู้ใดใคร่จะเอาชีวิตรอด ผู้นั้นจะเสียชีวิต แต่ผู้ใดจะเสียชีวิตเพราะเห็นแก่เราและข่าวประเสริฐ ผู้นั้นจะได้ชีวิตรอด36 เพราะถ้าผู้ใดจะได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก แต่ต้องเสียชีวิตของตน ผู้นั้นจะได้ประโยชน์อะไร37 เพราะว่าผู้นั้นจะนำอะไรไปแลกเอาชีวิตของตนกลับคืนมา
“นัดหมายสวรรค์ นำเราออกจากกับดักความตาย”