“ไม่กระหายอีกเลย”
ยอห์น 7:37-39 37 ในวันสุดท้ายของงานเทศกาลซึ่งเป็นวันใหญ่นั้น พระเยซูทรงยืนและประกาศว่า “ถ้าผู้ใดกระหาย ผู้นั้นจงมาหาเราและดื่ม38 ผู้ที่วางใจในเราตามที่มีคำเขียนไว้แล้วว่า ‘แม่น้ำที่มีน้ำธำรงชีวิต จะไหลออกมาจากภายในผู้นั้น’ ”39 สิ่งที่พระเยซูตรัสนั้นหมายถึงพระวิญญาณ ซึ่งผู้ที่วางใจในพระองค์จะได้รับ เหตุว่ายังไม่ได้ประทานพระวิญญาณให้ เพราะพระเยซูยังมิได้ประสบเกียรติกิจ
ยอห์น 4:14 14 แต่ผู้ที่ดื่มน้ำซึ่งเราจะให้แก่เขานั้น จะไม่กระหายอีกเลย น้ำซึ่งเราจะให้เขานั้น จะบังเกิดเป็นบ่อน้ำพุในตัวเขาพลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร์”
ความกระหาย ที่พระเยซูทรงตรัสในพระคัมภีร์สองตอนนี้ หมายถึงความกระหายภายในจิตใจของมนุษย์ ซึ่งไม่เคยเปลี่ยน สองพันปีที่แล้ว เป็นอย่างไร ก็ยังเป็นความกระหายอย่างเดียวกัน เพียงแค่รูปแบบของการแสวงหาและการเสพอาจแตกต่างกันไปตามยุคสมัย คำไทย มีคำว่า ถมเท่าไหร่ ไม่รู้จักเต็ม บริโภคเท่าไร ไม่รู้จักพอ ภาษาวัยรุ่นอาจจะเรียกว่า เบื่อ เซ็ง จึงต้องโหยหาอะไรที่เรียกว่า ใหม่ๆ ไม่ซ้ำเหมือนเดิม แต่ปัญญาจารย์เมื่อก่อนสองพันปีที่แล้วได้กล่าวบทสรุปของคำว่า ใหม่ๆ ไว้ว่า…
ปัญญาจารย์ 1:8-10 8 สารพัดเหนื่อยกันหมด คนใดๆ ก็พูดไม่ออก นัยน์ตาก็ดูไม่อิ่ม หรือหูก็ฟังไม่เต็ม สิ่งที่เป็นขึ้นแล้ว คือสิ่งที่จะเป็นขึ้นอีก สิ่งที่ทำกันแล้ว คือสิ่งที่จะต้องทำกันอีก และไม่มีสิ่งใดใหม่ภายใต้ดวงอาทิตย์ 10 มีสักสิ่งหนึ่งหรือที่เขาจะพูดได้ว่า “ดูซี สิ่งนี้ใหม่” สิ่งนั้นมีอยู่แล้ว ในสมัยก่อนเราทั้งหลาย
สิ่งที่ปัญญาจารย์กล่าวขัดแย้งกับพระคัมภีร์ใหม่เรื่องสิ่งใหม่ๆหรือเปล่า คำตอบคือ ไม่ใช่ เพราะสิ่งที่ปัญญาจารย์กล่าวเป็นเรื่องของเนื้อหนัง พระคัมภีร์ใหม่ได้กล่าวถึง หว่านเนื้อหนังก็เก็บเกี่ยวเนื้อหนัง แต่หว่านในย่านพระวิญญาณก็เก็บเกี่ยวในย่านพระวิญญาณ ซึ่งนี่ก็คือ สิ่งที่พระเยซูได้ตรัสถึงน้ำที่ดื่มนี้จะไม่กระหายอีกเลย คือจบครบ พอใจภายใน แม้ภายนอกดูจะไม่มี ไม่ครบ ไม่ได้ อย่างค่านิยมของโลกนี้
ไม่กระหายอีกเลย เป็นความพอใจ อิ่มเอิบใจ กับสิ่งที่มี สิ่งที่เป็น สิ่งที่ได้มา หรือไม่ได้มา ตัวตัดสินความสุข ความสมบูรณ์ของชีวิต ที่เรียกว่า perfect ในมุมมองของพระคัมภีร์ คือเส้นทางการไปถึงความไพบูลย์ของพระเยซูคริสต์ ไม่ใช่ของตัวเองอีกต่อไป
เอเฟซัส 4: 13 13 จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อ และในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า จนกว่าเราจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ คือเต็มถึงขนาดความไพบูลย์ของพระคริสต์
39 สิ่งที่พระเยซูตรัสนั้นหมายถึงพระวิญญาณ ซึ่งผู้ที่วางใจในพระองค์จะได้รับ
พระวิญญาณบริสุทธิ์ จะทำให้เกิดภาวะ ไม่กระหายอีกเลย กับตัณหาและกิเลศของเนื้อหนัง