“ล้มลงด้วยตัวเอง”
เท้าพลิก เท้าแพง เพราะสะดุดขาตัวเองล้ม เป็นประสบการณ์ที่ทุกคนมีมาตั้งแต่เด็ก และจะมีอีก เมื่อแก่ตัวลง ล่าสุด เมื่อสองวันที่แล้วข้าพเจ้าเองก็ เท้าพลิก ที่เดิม หน้าบ้าน ก่อนไปค่ายก็เท้าพลิก ถึงขนาดต้องไปโรงพยาบาล เพราะต้องรีบหายให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ทำภารกิจที่ค่ายได้ ดีที่มีประกัน ก็ตัดสินใจไปรพ. แล้วข้าพเจ้าก็ลืมสนิท ไม่คิดถึง เหตุที่ทำให้เท้าพลิกอีกประการก็คือ ร่องระบายน้ำหน้าบ้าน แต่เท้าพลิกล่าสุด ดูเหมือนจะเป็นการเตือนว่า ต้องแก้ไขร่องระบายน้ำหน้าบ้าน มิฉะนั้น ก็จะเกิดซ้ำอีก โดยเฉพาะมีคนแก่อยู่บ้าน ที่เคยล้มตรงจุดนี้ทั้งสองคน และเราก็แก้ไขด้วยการไม่ให้คนแก่สองคนนี้ เดินผ่านจุดนี้อีกเลย แต่ร่องนี้ ก็ยังเป็นจุดที่ทำให้คนที่ยังไม่แก่มากอย่างข้าพเจ้าล้มถึงสองครั้ง ดูเหมือนพระเจ้าอนุญาตให้มองเห็นว่า ถึงเวลาต้องแก้ไขแล้วนะ ข้าพเจ้าก็รีบไปซื้อแผ่นยางที่โฮมโปรมาวางสำหรับจะปิดร่องระบายน้ำนี้ หลังจากแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ การเดินเหินผ่านร่องน้ำมีความปลอดภัยมากขึ้น สีที่เด่น ให้มองเห็นจุดที่จะเดิน และระดับที่เท่ากับพื้นราบ ไม่สะดุดล้มลงด้วยตัวเองอีก
ฮีบรู 12:12-13 12 เพราะเหตุนั้นจงยกมือที่อ่อนแรงขึ้น และจงให้หัวเข่าที่อ่อนล้ามีกำลังขึ้น 13 และจงทำทางให้ตรงเพื่อให้เท้าของท่านเดินไป เพื่อว่าขาที่เขยกนั้นจะได้ไม่เคล็ด แต่จะหายเป็นปกติ
พระคัมภีร์ฮีบรูตอนนี้ ชี้ให้เราทั้งหลายต้องรีบหายดี และป้องกันการล้มลงด้วยเหตุของทางที่ไม่ตรง รากศัพท์กรีกคำว่าตรง ยังหมายถึง ระดับราบด้วย ทางที่ไม่ตรง ไม่ราบเท่ากัน จงทำให้ตรงและราบเท่ากัน เพื่อจะได้ไม่เป็นเหตุทำให้สะดุดล้มลง จนเกิดการบาดเจ็บของตนเอง
นื่คือการล้มลงด้วยตัวเอง เพราะทางที่ตนเองต้องเดินผ่านทุกๆวัน อาจหมายถึง การบาดเจ็บเพราะทำตัวเอง
คำว่าทาง หมายถึง วิถีการดำเนินในชีวิตประจำวัน เหตุใดทางจึงไม่ตรง และไม่ราบเรียบ มีคำกล่าวถึงหนทางชีวิตที่ราบเรียบ แปลว่า ปราศจากปัญหา ไม่มีอุปสรรค แล้วคำที่กล่าวว่า ตราบใดที่เรายังเป็นคน ย่อมหนีไม่พ้นปัญหา เมื่อไรที่ไม่มีปัญหา แปลว่าเมื่อนั้นเราไม่ได้ดำเนินชีวิตอย่างคน แต่กลายเป็นเทวดาไปแล้ว
ถ้าอย่างนั้น หนทางชีวิตประจำวัน ก็ไม่ตรง ไม่ราบรื่น ตลอดเวลาหรือ หากนำข้อพระคัมภีร์ตอนนี้ มาตีความ น่าจะหมายถึง ไม่ใช่ตลอดเวลา แต่ถ้าเจอกับหนทางที่มีอุปสรรค และปัญหา ก็จงแก้ปัญหา ฝ่าฟันอุปสรรคไป ปัญหาและอุปสรรคก็จะเป็นเรื่องปกติของการดำเนินชีวิตของความเป็นน ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
ฮีบรู 12:12-13 12 เพราะเหตุนั้นจงยกมือที่อ่อนแรงขึ้น และจงให้หัวเข่าที่อ่อนล้ามีกำลังขึ้น 13 และจงทำทางให้ตรงเพื่อให้เท้าของท่านเดินไป เพื่อว่าขาที่เขยกนั้นจะได้ไม่เคล็ด แต่จะหายเป็นปกติ
พระคัมภีร์ฮีบรูแนะนำสามประการ สำหรับการไม่กลับไปล้มลงด้วยตัวเอง ณ ที่เดิม หรือผิดพลาดซ้ำๆอีก
1.เพราะอ่อนแรงอ่อนล้า
เพราะเหตุนั้นจงยกมือที่อ่อนแรงขึ้น และจงให้หัวเข่าที่อ่อนล้ามีกำลังขึ้น
สาเหตุที่ทำให้คนเราอ่อนแรง และอ่อนล้า ก็คือความเหน็ดเหนื่อย พระเยซูทรงมองเห็นผู้คนมากมายเหน็ดเหนื่อย เพราะต้องเผชิญกับความยากลำบากของเส้นทางของชีวิตที่มีทั้งอุปสรรคและปัญหา และยิ่งเหนื่อยทับถมเหมือนดินพอกหางหมู บางคนหยุดไม่ได้ เพราะวงจรชีวิตของตนเอง มีภาระเยอะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รอวันหยุดยาว เพื่อจะได้หยุดงาน หยุดพัก แต่บางคนพอพักเสร็จ กลับมาเผชิญกับภาระของตนเองอีก ก็กระหายอยากจะพักเพิ่ม ราวกับว่า ชีวิตนี้ช่างแสนเหน็ดเหนื่อย ดูเหมือนพักเท่าไหร่ก็ไม่พอสักที คงต้องกลับมาดูคำที่พระเยซูใช้คำว่า พัก เพื่อให้มีกำลังมากขึ้นได้อย่างไร
มัทธิว 11:28-29 28 บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลาย หายเหนื่อยเป็นสุข29 จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อม และจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก
และจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก คำว่า พัก ถูกนำมาใช้กับคำว่า จิตใจ
คำว่า จิตใจ รากศัพท์กรีก แปลว่า จิตวิญญาณ ภายในชีวิต inner being or life ตัวในของเรา
มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า คนมากมายดำเนินชีวิตามความคาดหวังของคนอื่น จนบางที สิ่งที่แสดงออกมา ไม่ใช่ตัวในของเราที่แท้จริง และทำให้ตัวในเหนื่อย กดดัน และกระหายอยากพัก แต่ก็หาไม่ได้ ตราบใดที่ยังต้องอยู่ในสังคมนั้นๆ
พระเยซูทรงมองเห็นความรู้สึกภายในของมนุษย์ทุกคน พระคัมภีร์กล่าวว่า พระเยซูทรงรู้จักมนุษย์ทุกคน นี่จึงเป็นเหตุให้พระองค์เชิญชวนคนทุกคนให้มาหาพระองค์ เพื่อจะพระองค์จะทำให้หายเหนื่อยและเป็นสุข และจิตใจชีวิตภายในจะได้พัก
มาหาพระเยซู คำเชิญชวนง่าย มาหาพระองค์ พบพระเยซู เมื่อไร จิตใจภายในก็จะได้พัก พระเยซูอยู่ที่ไหน พระเยซูตรัสว่า
ยอห์น 14:15-19 15 “ถ้าท่านทั้งหลายรักเรา ท่านก็จะประพฤติตามบัญญัติของเรา16 เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้แก่ท่าน เพื่อจะได้อยู่กับท่านตลอดไป 17 คือพระวิญญาณแห่งความจริง ซึ่งโลกรับไว้ไม่ได้ เพราะแลไม่เห็นและไม่รู้จักพระองค์ ท่านทั้งหลายรู้จักพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสถิตอยู่กับท่าน และจะประทับอยู่ในท่าน 18 “เราจะไม่ละทิ้งท่านทั้งหลายไว้ให้เปล่าเปลี่ยว เราจะมาหาท่าน19 อีกหน่อยหนึ่งโลกก็จะไม่เห็นเรา แต่ท่านทั้งหลายจะเห็นเรา เพราะเราดำรงอยู่ ท่านทั้งหลายก็จะดำรงอยู่ด้วย
พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นตัวแทนของพระเยซูอยู่ในผู้ที่เชื่อในพระองค์ พระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ก็เหมือนพระเยซูอยู่ด้วย เราจะได้เห็นพระเยซูผ่านการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์
ยอห์น 14:26-27 26 แต่องค์ผู้ช่วยคือพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งพระบิดาจะทรงใช้มาในนามของเรานั้น จะทรงสอนท่านทั้งหลายทุกสิ่ง และจะให้ท่านระลึกถึงทุกสิ่งที่เราได้กล่าวไว้แก่ท่านแล้ว27 เรามอบสันติสุขไว้ให้แก่ท่านทั้งหลาย สันติสุขของเราที่ให้แก่ท่านนั้น เราให้ท่านไม่เหมือนโลกให้ อย่าให้ใจของท่านวิตก และอย่ากลัวเลย
ใจที่วิตก และกลัว คือการทำร้ายตัวเอง ทำให้ตัวเองอ่อนแรง อ่อนล้า เราต้องการกำลัง และความสงบนิ่งที่แท้จริง ที่เรียกว่า สันติสุขจะทำให้มีกำลัง พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นสันติสุข ที่อยู่กับผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์ ยิ่งเราใช้เวลากับพระวิญญาณบริสุทธิ์มากเท่าไหร่ ก็จะเป็นการพักที่ทำให้มีกำลังอย่างมากเท่านั้น
โรม 8:26 26 ในทำนองเดียวกัน พระวิญญาณก็ทรงช่วยเราเมื่อเราอ่อนกำลังด้วย เพราะเราไม่รู้ว่าเราควรจะอธิษฐานขอสิ่งใดอย่างไร แต่พระวิญญาณทรงช่วยขอแทนเรา ในเมื่อเราคร่ำครวญอธิษฐานไม่เป็นคำ
2.เพราะใจไม่ตรงไม่ราบ
และจงทำทางให้ตรงเพื่อให้เท้าของท่านเดินไป
การล้มลงด้วยตัวเอง นอกจากการอ่อนแรง อ่อนล้าของตัวเอง ยังมีอีกองค์ประกอบ คือเส้นทางการดำเนินชีวิต ที่ไม่ราบรื่น ดูเหมือนจะมีอุปสรรคตลอดเวลา
มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า คนที่มองโลกในแง่ร้าย มักจะมองทุกอย่างเป็นปัญหา เป็นอุปสรรคไปหมด แต่ในทางตรงกันข้าม คนที่มองโลกในแง่ดี มักจะมองอุปสรรคเป็นอุปกรณ์ มองวิกฤติเป็นโอกาสเสมอ และนี่คือสิ่งที่พระคัมภีร์ฮีบรูตอนนี้ กำลังสอนผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์เจ้าทุกคนว่า
และจงทำทางให้ตรงเพื่อให้เท้าของท่านเดินไป แปลว่า อุปสรรคจะกลายเป็นอุปกรณ์ วิกฤตจะกลายเป็นอุปกรณ์เสมอ สำหรับพระเจ้า ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้ และผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ก็จะเหมือนพระองค์ด้วย
ทะเลแดงที่ขวางหน้าแหวกออกให้คนอิสราเอลเดินต่อไป และหนีจากการไล่ล่าของงกองทัพอียิปต์ของฟาโรห์ แม่น้ำจอร์แดนที่แหวกออกให้อิสราเอลเดินเข้าสู่แผ่นดินคานาอัน แผ่นดินที่อุดมด้วยน้ำผึ้งและน้ำนม
พระเยซูตรัสกับศิษย์ของพระองค์ว่า ในการทำให้หนทางข้างหน้ที่มีภูเขาขวางอยู่
มาระโก 11:23 23 เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ถ้าผู้ใดๆ จะสั่งภูเขานี้ว่า ‘จงลอยไปลงทะเล’ และมิได้สงสัยในใจแต่เชื่อว่าจะเป็นไปตามที่สั่งนั้น ก็จะเป็นตามนั้นจริง
นี่คือคำแนะนำของพระเยซูให้ศิษย์ของพระองค์เปลี่ยนวิธีคิดใหม่ เพื่อทำทางข้างหน้าที่มันมีภูเขาขวางทางอยู่ ให้ราบเรียบ สามารถเดินผ่านไปได้ ด้วยความเชื่อ สั่งหนทางข้างหน้าจงราบเรียบ สั่งภูเขาให้ฟัง ภูเขาเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงที่มั่น ยากจะเปลี่ยน ถ้าเอามาเปรียบกับจิตใจ ก็เป็นเหมือนความแข็งกระด้าง ที่ยากจะย้ายออกไปได้
วันจัดพิธีคริสต์ในงานศพคุณพ่อวันชัย เสียงคนดังมาก แสดงถึงความไม่สนใจที่จะฟังเทศนา ไม่สนใจพิธีคริสต์ จนข้าพเจ้ารู้สึกว่า นี่คืออุปสรรคต่อการเทศนาอย่างยิ่ง เป็นเหมือนภูเขาสูงใหญ่ แต่ปรากฏว่า คนในศาลาที่มีจำนวนมาก ที่นิ่งเงียบฟังคำเทศนาเกือบทั้งห้อง มีแต่ที่ท้ายห้องไม่มาก ที่ยังคุยกันเสียงดัง แต่ก็ได้เห็นความแตกต่างจากตอนต้นที่คุยกันดังเกือบทั้งห้อง สิ่งที่ควรจัดการก่อน คือจิตใจภายในของข้าพเจ้าเอง ที่จะต้องเปลี่ยนอุปสรรคให้กลายเป็นอุปกรณ์
ยอห์น ผู้ให้บัพติศมาในน้ำ ได้กล่าวว่า เขาคือผู้ที่มาเตรียมหนทางล่วงหน้าก่อนพระมาซีฮา คือพระคริสต์จะเสด็จมา งานที่ยอห์นทำ คือนำคนให้กลับใจ สำนึกบาป และรอคอยที่จะพบกับพระเยซู ยอห์นใช้คำว่า เขาคือเสียงร้องในถิ่นทุรกันดาร เพื่อ…
มัทธิว 3:3 3 ยอห์นผู้นี้แหละ ซึ่งตรัสถึงโดยอิสยาห์ผู้เผยพระวจนะว่า “เสียงผู้ร้องในถิ่นทุรกันดารว่า จงเตรียมมรรคาแห่งพระเป็นเจ้า จงกระทำหนทางของพระองค์ให้ตรงไป”
ลูกา 3:5 หุบเขาทุกแห่งจะถมให้เต็ม ภูเขาและเนินทุกแห่งจะให้ต่ำลง ทางคดจะกลายเป็นทางตรง และทางที่สูงๆ ต่ำๆ จะเป็นทางราบ
ล้มลงด้วยตัวเอง แล้วลุกขึ้นมาใหม่ ไม่ล้มลงอีก ต้องจัดการกับจิตใจภายในให้เป็นทางตรงและทางราบ ด้วยการกลับใจใหม่ สำรวจ สำนึกบาปของตนเองก่อนอันดับแรกเสมอ
3.เพราะใจเจ็บ ไม่หายดี
เพื่อว่าขาที่เขยกนั้นจะได้ไม่เคล็ด แต่จะหายเป็นปกติ
ล้มลงด้วยตัวเอง ที่เกิดจากความอ่อนแรง อ่อนล้า และจิตใจภายในที่ไม่สงบ สุดท้าย ต้องหายดี การไม่หายดี ไม่หายอย่างสิ้นเชิง จะทำให้กลับไปอ่อนแรง อ่อนล้า และพบกับความลำบากใจบ่อยๆ ในการปฏิสัมพันธ์ กับผู้คนที่ผ่านเข้าในชีวิตของตนเอง บ่อยครั้งที่จะพบกับคนที่ทำให้ลำบากใจมากกว่าสบายใจ เป็นเพราะบาดแผลในอดีตมันคอยย้ำเตือนว่า ต้องระวัง ไม่อยากถูกทำให้เจ็บซ้ำอีก จากคนที่มีพฤติกรรมคำพูดคล้ายๆกับคนในอดีต แต่ถ้าเราแข็งแรง เหมือนบาดแผลที่หายดี ต่อให้กดบีบอย่างไร ก็ไม่รู้สึกอะไร นั่นคือตัวเราเองต้องหายดี เราไม่สามารถจะหนีลักษณะคล้ายของคนไปได้ตลอดชีวิต นื่ความหมายของพระคัมภีร์ฮีบรู ที่กล่าวกับคนที่มีความเชื่อในพระเยซูคริสต์ว่า การล้มลงส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นจากตัวของเราเอง ล้มเอง ก็ต้องลุกเอง และดูแลตัวเองไม่ให้ล้มลงอีก ต้องวิเคราะห์สาเหตุ และแก้ปัญหาเท่าที่จะแก้ได้ และนอกเหนือจากนั้น ต้องพึ่งพาการช่วยเหลือจากพระเยซูคริสต์ผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์
มัทธิว 10:22 22 คนทั้งปวงจะเกลียดชังท่าน เพราะความภักดีที่ท่านมีต่อเรา แต่ผู้ใดที่ทนได้ถึงที่สุด ผู้นั้นจะรอด
พระเยซูคริสต์ตรัสคำนี้ เพื่อเตือนศิษย์ของพระองค์ว่า หนทางที่พวกเขาจะต้องเดินผ่านไปนั้น มีอุปสรรคและปัญหาภายนอกถึงกับถูกเกลียดชัง แต่อุปสรรคที่ใหญ่กว่าที่ศิษย์พระเยซูจะต้องผ่านไปให้ได้ ก็คือ การชนะตัวเอง ที่พระองค์ใช้คำว่า ทนได้ถึงที่สุด ผู้นั้นจะรอด ความรอด ที่พระเยซูใช้คำกรีกคำนี้ ใช้คำว่า Sozo โสโซ แปลว่า ปลอดภัย ได้รับการรักษาเยียวยาให้หายดี มีสุขภาพดี ความภักดีต่อพระเยซู ก็คือ การทำดี เพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์ for my name’ sake
เรามักจะทนไม่ได้ ที่คนอื่นปฏฺิเสธเราเนื่องจากตัวเราเอง แต่พระเยซูตรัสกับศิษย์ของพระองค์ว่า การหายดีของพวกเขาจะทำให้พวกเขาทนได้ และทนได้ถึงที่สุด ไม่ใช่ทนเพื่อตัวเองอีกต่อไป แต่ทนเพื่อเห็นแก่พระนามของพระเยซู แปลว่า เขาจะไม่ล้มด้วยตัวเอง…..
“ล้มลงด้วยตัวเอง”
1.เพราะใจอ่อนแรงอ่อนล้า
2.เพราะใจไม่ตรงไม่ราบ
3.เพราะใจเจ็บ ไม่หายดี