พระเยซูคริสต์…พันธกิจชำระใจ
คลิปวีดีโอ พระเยซูคริสต์ชำระพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็ม
ลูกา 19:41-48 41 เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้และทอดพระเนตรเห็นกรุงแล้ว ก็ทรงกันแสงสงสารกรุงนั้น42 ตรัสว่า “โอ เราอยากให้ตัวเจ้ารู้ในเวลานี้ว่าสิ่งใดสร้างสันติ แต่เดี๋ยวนี้สิ่งนั้นถูกซ่อนไว้จากตาของเจ้าแล้ว43 เพราะว่าเวลานั้นจะมาถึงเจ้า เมื่อพวกศัตรูของเจ้าจะก่อเชิงเทินต่อสู้เจ้า และล้อมขังเจ้าไว้ทุกด้าน44 แล้วจะเหวี่ยงเจ้าลงให้ราบบนพื้นดิน ทั้งตัวเจ้าและลูกๆ ที่อยู่ข้างในเจ้า และพวกเขาจะไม่ปล่อยให้มีศิลาซ้อนทับกันไว้ข้างในเจ้า เพราะเจ้าไม่รับรู้วันเวลาที่พระองค์เสด็จมาเยี่ยมเจ้า”45 พระองค์เสด็จเข้าไปในบริเวณพระวิหาร แล้วทรงเริ่มขับไล่คนทั้งหลายที่ค้าขายอยู่นั้น46 และตรัสกับพวกเขาว่า “มีพระวจนะเขียนไว้ว่า ‘นิเวศของเราควรจะเป็นนิเวศอธิษฐาน แต่พวกท่านทำให้เป็นถ้ำของพวกโจร’ ” 47 พระองค์ทรงสั่งสอนในบริเวณพระวิหารทุกวัน แต่พวกหัวหน้าปุโรหิต พวกธรรมาจารย์ และผู้นำคนอื่นๆ ของประชาชนหาช่องทางที่จะฆ่าพระองค์48 แต่พวกเขาไม่พบช่องทางที่จะทำอะไรได้ เพราะว่าประชาชนทุกคนชอบฟังพระองค์มาก
เยรูซาเล็ม เป็นชื่อของเมืองหลวง ของอิสราเอล ชื่อของกรุงเยรูซาเล็ม ภาษาฮีบรู แปลว่า ก่อตั้งอย่างสันติ พระเยซูทรงตรัสทำนายถึงเยรูซาเล็มว่า จะถูกทำลาย (ในปี 70 เยรูซาเล็มถูกเผาทำลายสิ้น โดยกษัตริย์เนโร และใส่ร้ายว่า สาวกของพระเยซูเป็นผู้วางเพลิง ทำให้สาวกของพระเยซูต้องหนี และหลบซ่อนตัวจากการตามจับของทางการโรม และเป็นที่ต่อต้านของพวกยิวบางคน คำตรัสของพระเยซูคริสต์เกี่ยวกับกรุงเยรูซาเล็มในตอนนี้ ได้กล่าวถึงเหตุที่ทำให้กรุงเยรูซาเล็มถูกทำลาย นั่นเพราะภายในกรุงเยรูซาเล็ม เป็นที่ตั้งของพระวิหารบริสุทธิ์ที่คนยิวจะต้องมานมัสการพระเจ้า มาทำพิธีไถ่บาป และจัดเทศกาลต่างๆตามธรรมบัญญัติของโมเสส แต่ว่า สภาพของพระวิหารในเวลานั้น ได้กลายเป็นที่ค้าขาย ที่แลกเงิน ที่แสวงหาผลประโยชน์ต่างๆ ตั้งแต่ผู้นำทางศาสนาจนถึงประชาชนทั่วไป พระเยซูคริสต์ทรงเห็นสิ่งที่ผิดปกตินี้ ที่พระวิหารไม่ได้เป็นอย่างที่ควรจะเป็น คือ เป็นที่สำหรับนมัสการพระเจ้า คือการอธิษฐานต่อพระเจ้า
หนังสือบันทึกพระกิตติคุณสี่เล็ม ทั้งมัทธิว มาระโก ลูกา และยอห์น บันทึกเหตุการณ์การชำระพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็ม ของพระเยซูคริสต์ อย่างไม่มีการตัดออก เพราะนี่คือสาระสำคัญหนึ่งของการทำพันธกิจของพระเยซู ประชาชนยิวมากมาย ไม่มีใครกล้าที่จะทำ เพราะความไม่เข้าใจ ไม่มีความรู้ถึงความจริงของเจตนารมย์ของพระเจ้าในการให้สร้างพระวิหารตั้งแต่ต้น ตั้งแต่กษัตริย์ดาวิด ปรารถนาจะสร้างพระวิหาร แต่พระเจ้าทรงไม่อนุญาตให้ดาวิดสร้าง เพราะว่าดาวิดมือเปื้อนเลือด (ของการเป็นนักรบ ออกทำศึกสงคราม) แต่พระเจ้าได้กำหนดให้กษัตริย์ซาโลมอน (ลูกของดาวิด) ที่พระเจ้าทรงเลือกให้สร้างพระวิหาร แม้จะถูกทำลายไปในยุคบาบิโลน และพระวิหารถูกสร้างรื้อฟื้นการนมัสการหลายครั้ง พระวิหารในยุคของพระเยซูคริสต์ เป็นพระวิหารที่ถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งที่สาม แต่ไม่เหลือความโอ่อ่า มั่งคั่งอย่างในตอนต้นที่กษัตริย์ซาโลมอนสร้างและตกแต่ง แต่คนยิวในเวลาต่อๆมา ก็ยังคงใช้พระวิหารในการทำพิธีชำระบาป ทำพิธีตามธรรมบัญญัติ จ่ายเงินบำรุงพระวิหาร ซึ่งเรียกว่า ส่วย มีมาตั้งแต่สมัยโมเสส ที่กำหนดให้ชายฮีบรูอายุตั้งแต่ยี่สิบปีทุกคนจะต้องจ่ายเงินส่วยนี้(ครึ่งเชเขล) สำหรับเต็นท์พลับพลา จนมาถึง พระวิหาร ก็ยังดำเนินการกัน และในยุคของพระเยซูคริสต์เกิดเป็นไอเดียการแลกเงิน เพราะพระวิหารจะรับแต่เงินฮีบรู ที่เรียกว่า เชเขล น่าจะไม่รับเงินของอาณาจักรโรม (จึงเป็นที่มาของการที่มีพวกหัวหมอถามพระเยซูเรื่อง พวกเขาควรจ่ายภาษีให้กับทางการโรมหรือไม่ พระเยซูจึงตอบพวกหัวหมอเหล่านั้นด้วยการหยิบเงินสกุลโรมที่มีตราของจักรพรรดิซีซ่าร์ และถามกลับว่า นี่คือเงินของใคร ถ้าเป็นเงินของซีซ่าร์ ก็ให้ซีซาร์ ถ้าเป็นเงินของพระเจ้าถวายให้กับพระเจ้า
เกิดโต๊ะแลกเงินในพระวิหาร เพราะในพระวิหารจะรับเงินเชเขล (เงินสกุลฮีบรู) จึงเกิดบรรยากาศของโต๊ะแลกเงิน และนอกจากนั้น จะมีการนำของที่คนจะต้องถวาย เช่น นกพิราบ และของอื่นๆที่จะใช้ในพิธีกรรมตามธรรมบัญญัติ มาขาย เพราะที่นี่ มีความต้องการ ของพวกนี้ (มี Demand ก็จะมี Supply) บรรยากาศของพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็มจึงกลายเป็นตลาด แต่พระเยซูคริสต์ทรงตำหนิแรง ด้วยการใช้คำว่า กลายเป็นถ้ำโจร พระองค์ทรงมองลึกเข้าไปถึงความโลภของคนที่แสดงออกรุนแรงที่สุด คือโจร แปลว่า พวกปล้น พวกขโมย บรรยากาศนี้เกิดขึ้นก็เพราะเรื่องเงิน
พระเยซูคริสต์…พันธกิจชำระใจ มุ่งตรงที่จัดการกับสิ่งที่บาดใจคนมากที่สุด คือเรื่องเงิน
มัทธิว 16:19-21 19 “อย่าสะสมทรัพย์สมบัติเพื่อตัวพวกท่านเองไว้ในโลก ที่อาจเป็นสนิมและที่แมลงกินเสียได้ และที่ขโมยอาจทะลวงลักเอาไปได้20 แต่จงสะสมทรัพย์สมบัติเพื่อตัวพวกท่านเองไว้ในสวรรค์ ที่ไม่มีแมลงจะกินและไม่มีสนิมจะกัด และที่ไม่มีขโมยทะลวงลักเอาไปได้21 เพราะว่าทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ไหน ใจของท่านก็อยู่ที่นั่นด้วย21 เพราะว่าทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ไหน ใจของท่านก็อยู่ที่นั่นด้วย
พระวิหารที่ควรเป็นที่ที่จิตใจของคนจะจดจ่อกับเรื่องจิตวิญญาณ นมัสการพระเจ้า กลับกลายเป็นที่จิตใจของคนจดจ่ออยู่กับเรื่องเงิน และคนที่ควรจะดูแลเรื่องนี้ คือผู้นำทางศาสนา นอกจากจะไม่ห้ามแล้ว กลับรู้สึกไม่พอใจและหาทางกำจัดพระเยซู เพราะเหตุที่พระองค์ทรงชำระพระวิหาร
มีคำพูดหนึ่งกล่าวเกี่ยวกับผู้สอนเทียมเท็จ ในยุคสุดท้าย มาจากผู้ที่รู้ว่าอะไรถูกและอะไรผิด แต่ต้องการจะสอนผิด ไม่อยากจะสอนสิ่งที่ถูก นำคนไปในทางที่ผิด ไม่อยากจะนำไปในทางที่ถูก ทั้งหมด เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ ที่ตนเองเกรงว่าจะสูญเสียไป นั่นคือคนที่ไม่มีความซื่อสัตย์ หรือที่เรียกว่า Integrity ที่ภาษาไทยแปลว่า คุณธรรม
คนมีความซื่อสัตย์ Integrity เมื่อรู้ว่า อะไรถูก อะไรผิด ก็จะไม่บิดเบือนสิ่งที่ถูกให้กลายเป็นผิด หรือบิดเบือนสิ่งที่ผิดให้กลายเป็นถูก แต่จะยืนหยัดในความถูกต้องนั้น แม้ว่า ตนเองจะต้องสูญเสียผลประโยชน์ หรือถูกเกลียดชัง จากการไม่อะลุ้มอะล่วยกับสิ่งที่ผิด โดยเฉพาะความบาป ที่ขัดต่อน้ำพระทัยพระเจ้า
พระเยซูคริสต์…พันธกิจชำระใจ มุ่งตรงที่ใจของคน ที่ไม่ซื่อสัตย์ เพื่อแก้ไข ปรับปรุง จิตใจคนให้หันกลับมาในทางที่ถูกต้อง ทางที่ควรจะจดจ่อ กับการอธิษฐานต่อพระเจ้า เพราะพระเจ้าจะสอนให้คนทำดี แต่เงิน ทำให้คนเป็นโจร พระเยซูคริสต์ทรงตรัสเรื่องนายของคนในโลกนี้ มีแค่สองนาย
ลูกา 16:10-13 10 “คนที่ซื่อสัตย์ในของเล็กน้อยจะซื่อสัตย์ในของมากด้วย และคนที่ไม่ซื่อสัตย์ในของเล็กน้อย จะไม่ซื่อสัตย์ในของมากเช่นกัน11 ดังนั้นถ้าพวกท่านยังไม่ซื่อสัตย์ในเงินทองอธรรมแล้ว ใครจะมอบของเที่ยงแท้ให้แก่ท่าน?12 และถ้าพวกท่านยังไม่ซื่อสัตย์ในสิ่งที่เป็นของคนอื่นแล้ว ใครจะมอบสิ่งที่เป็นของท่านเองให้แก่ท่าน? 13 ไม่มีผู้ใดเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เพราะจะเกลียดชังนายคนหนึ่งและจะรักนายอีกคนหนึ่ง หรือจะนับถือนายคนหนึ่งและจะดูหมิ่นนายอีกคนหนึ่ง ท่านจะรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้”
พระเยซูคริสต์…พันธกิจชำระใจ จิตของคนในยุคนี้ มุ่งรักแต่เงินทอง และสอนให้คนรักเงินทอง จนกลายเป็นทาสของเงินทอง พันธกิจชำระใจของพระเยซูคริสต์ เพื่อให้เราเป็นนายของเงิน ไม่ถูกเงินควบคุม ความจริง เราต้องใช้เงิน ต้องการเงิน แต่ถ้ามีความต้องการมากจนให้เงินเป็นพระเจ้า เรากำลังตกเป็นทาสของเงินทอง ใจที่ติดอยู่กับเงินทอง มักจะไม่สงบ ไม่มีสันติสุข คนไทยเองยังมีคำไทยที่กล่าวว่า มีทองเท่าหนวดกุ้ง นอนสะดุ้งจนเรือนไหว แปลว่า หมายถึง มีทรัพย์สมบัติอยู่เพียงเล็กน้อยแต่เป็นกังวลเพราะกลัวว่าจะมีคนมาขโมยไปจนนอนไม่หลับ
พระเยซูคริสต์ได้ตรัสทำนายถึงกรุงเยรูซาเล็ม ที่มีชื่อว่า ก่อตั้งด้วยสันติสุข แต่ไม่มีสันติสุขอีกต่อไป มีแต่จะรอคอยการถูกทำลาย เพราะพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็ม ที่เป็นหัวใจของการเป็นเมืองหลวง ที่คนยิวมุ่งเดินทางมาจากทั่วโลกเพื่อเทศกาลปัสกา เทศกาลต่างๆ ได้กลายเป็นเมืองที่ไม่มีสันติสุขอย่างชื่อ ที่เรียก ว่าเมืองสันติสุข เพราะหัวใจของเมืองกลายเป็นตลาด กลายเป็นถ้ำโจร คือเต็มไปด้วยความโลภเงินทอง ของผู้นำทางศาสนา ของผู้ที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากผู้ศรัทธา
ลูกา 19:41-4441 เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้และทอดพระเนตรเห็นกรุงแล้ว ก็ทรงกันแสงสงสารกรุงนั้น42 ตรัสว่า “โอ เราอยากให้ตัวเจ้ารู้ในเวลานี้ว่าสิ่งใดสร้างสันติ แต่เดี๋ยวนี้สิ่งนั้นถูกซ่อนไว้จากตาของเจ้าแล้ว43 เพราะว่าเวลานั้นจะมาถึงเจ้า เมื่อพวกศัตรูของเจ้าจะก่อเชิงเทินต่อสู้เจ้า และล้อมขังเจ้าไว้ทุกด้าน44 แล้วจะเหวี่ยงเจ้าลงให้ราบบนพื้นดิน ทั้งตัวเจ้าและลูกๆ ที่อยู่ข้างในเจ้า และพวกเขาจะไม่ปล่อยให้มีศิลาซ้อนทับกันไว้ข้างในเจ้า เพราะเจ้าไม่รับรู้วันเวลาที่พระองค์เสด็จมาเยี่ยมเจ้า”
พระเยซูคริสต์…พันธกิจชำระใจ สำหรับพระคัมภีร์ในลูกาตอนนี้ ได้แก่…
1.เอาสิ่งปิดบังใจออก
41 เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้และทอดพระเนตรเห็นกรุงแล้ว ก็ทรงกันแสงสงสารกรุงนั้น42 ตรัสว่า “โอ เราอยากให้ตัวเจ้ารู้ในเวลานี้ว่าสิ่งใดสร้างสันติ แต่เดี๋ยวนี้สิ่งนั้นถูกซ่อนไว้จากตาของเจ้าแล้ว
เมืองที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้มีสันติสุข แต่กลับปราศจากสันติสุข และมองไม่เห็นสันติสุข คนยิวมีคำอวยพรกันเวลาเจอกัน หรือจะจากกัน ด้วยคำว่า Shalom แปล่ว สันติสุขจงอยู่กับท่าน เหมือนคริสเตียนในเวลานี้ เจอกัน หรือจากกัน ก็มีคำว่า ขอพระเจ้าอวยพร แปลว่า อะไร เพราะเราต้องการพร เราไม่ต้องการคำแช่งสาป คำว่า อวยพร ในรากศัพท์กรีก แปลว่า เป็นสุข ไปไหน ก็เป็นสุข ความหมายก็เหมือนกับ คนยิว ที่ขอให้ไปไหน ก็มีสันติสุข อย่ามีความทุกข์
พระเยซูทรงมองเห็นจุดจบของกรุงเยรูซาเล็ม ที่ในเวลานี่ ไม่รู้ว่า สิ่งใดจะสร้างสันติ สิ่งนั้นถูกซ่อนไว้แล้ว คือหาไม่เจอ เพราะเงินได้บังตาใจของผู้นำศาสนา ที่เป็นตัวแทน เป็นผู้นำทางคนให้เดินผิดทาง
วันนี้ เราผู้เชื่อ เป็นพระวิหารที่สถิตของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระคัมภีร์สอนเราในการดำเนินชีวิตให้เป็นที่นมัสการพระเจ้า
โรม 12:1-2 1 ดังนั้น พี่น้องทั้งหลาย โดยเห็นแก่ความเมตตากรุณาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของท่านแด่พระองค์ เพื่อเป็นเครื่องบูชาอันบริสุทธิ์ที่มีชีวิต และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ซึ่งเป็นการนมัสการโดยวิญญาณจิตของท่าน2 อย่าลอกเลียนแบบอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบพระประสงค์ของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัย และอะไรดียอดเยี่ยม
พันธกิจชำระใจ ของพระเยซูคริสต์ นำเรากลับมาเป็นพระนิเวศแห่งการอธิษฐานต่อพระเจ้า และเราจะรู้ว่า อะไรคือน้ำพระทัย อะไรดี อะไรดียอดเยี่ยมสำหรับตัวเรา
ให้เราพิจารณาดูประเทศต่างๆรอบข้างเรา รอบโลกที่กำลังเผชิญกับโรคระบาดอย่างรุนแรง เป็นเพราะอะไร เพราะผู้นำประเทศเหล่านั้น ไม่ยอมล้อคดาวน์ เหตุผลก็คือ กลัวกระทบเศรษฐกิจ แล้วยังไง สุดท้าย ก็ต้องกระทบอยู่ดี เพราะคนป่วย และตาย ใครจะมาทำการค้ากันอีก แต่หากเราดูบางประเทศที่ยังปลอดภัย เป็นเพราะผู้นำประเทศ ให้ความสำคัญกับชีวิตคนมากกว่าเศรษฐกิจ อย่างไทยเรา ตอนแรก คนต้องปลอดภัยก่อน แล้วค่อยๆ ฟื้นฟูเศรษฐกิจในเวลาต่อมา
คำสอนของพระเยซูคริสต์ ก็สอนให้รักษาชีวิตด้วยการยอมสละบางส่วนของอวัยวะ ก็ดีกว่าทั้งชีวิตต้องตกนรก
มัทธิว 5:29-30 29 ถ้าตาข้างขวาของท่านทำให้ตัวท่านหลงผิด จงควักออกทิ้งเสีย เพราะว่าถึงจะเสียอวัยวะอย่างหนึ่ง ก็ดีกว่าตัวท่านจะต้องลงนรก30 ถ้ามือข้างขวาของท่านทำให้ตัวท่านหลงผิด จงตัดทิ้งเสีย เพราะถึงจะเสียอวัยวะอย่างหนึ่ง ก็ดีกว่าตัวท่านจะต้องลงนรก
พระเยซูคริสต์ …พันธกิจชำระใจ ให้ความสำคัญกับภายในจิตใจ มากกว่า ภายนอก เอาสิ่งที่บังตาใจออกไป
วันนี้ อะไรที่ยังบังตาใจให้มองไม่เห็น สังเกตจากผลที่เกิดขึ้น คือขาดสันติสุข peaceful เมื่อเอามันออกได้เมื่อไหร่ เราจะพบสันติสุขที่ซ่อนไว้ สันติสุขที่พระเยซูทรงตรัสว่า ไม่เหมือนกับโลกนี้ให้
ยอห์น 14:27 27 เรามอบสันติสุขไว้กับพวกท่าน สันติสุขของเราที่ให้กับท่านนั้น เราไม่ได้ให้อย่างที่โลกให้ อย่าให้ใจของท่านเป็นทุกข์ อย่ากลัวเลย
พระเยซูคริสต์…พันธกิจชำระใจ กำลังทำกิจอยู่ในวันนี้
2.กลับสู่น้ำพระทัยพระเจ้า
45 พระองค์เสด็จเข้าไปในบริเวณพระวิหาร แล้วทรงเริ่มขับไล่คนทั้งหลายที่ค้าขายอยู่นั้น46 และตรัสกับพวกเขาว่า “มีพระวจนะเขียนไว้ว่า ‘นิเวศของเราควรจะเป็นนิเวศอธิษฐาน แต่พวกท่านทำให้เป็นถ้ำของพวกโจร’ ” 47 พระองค์ทรงสั่งสอนในบริเวณพระวิหารทุกวัน แต่พวกหัวหน้าปุโรหิต พวกธรรมาจารย์ และผู้นำคนอื่นๆ ของประชาชนหาช่องทางที่จะฆ่าพระองค์48 แต่พวกเขาไม่พบช่องทางที่จะทำอะไรได้ เพราะว่าประชาชนทุกคนชอบฟังพระองค์มาก
จากนิเวศอธิษฐาน ….มาเป็นถ้ำพวกโจร เป็นการเรียกความต่างกันชนิดคนละขั้วแบบสุดโต่ง นิเวศ แปลว่า บ้าน อธิษฐาน คือการได้ใกล้ชิดพระเจ้า ได้พูดคุยกับพระเจ้า รับพระลักษณะของพระเจ้าเข้ามาในชีวิต ส่วนถ้ำโจร ถ้ำ แปลว่า ที่ซ่อนตัว ไม่ให้ใครได้เห็นได้รู้ ไม่ให้ใครจับได้ โจรแปลว่า คนไม่มี มีแต่การปล้น แย่งชิง ตัวใครตัวมัน ใครอยู่ในถ้ำโจร ก็รับลักษณะของโจรเข้ามาในชีวิต
พระเยซูคริสต์…พันธกิจชำระใจ เพื่อส่องเข้าไปในจิตใจของคนว่า มีสภาพเป็นบ้านของพระเจ้า หรือ ที่หลบซ่อนตัวของโจร
ขอพระเจ้าช่วยเราทั้งหลายให้ส่องชีวิตของตนเองเสมอ และตระหนักว่า เป้าหมายของการดำเนินชีวิตคริสเตียน คือ การเป็นนิเวศอธิษฐาน เป็นชีวิตที่มีสัมพันธ์สนิทกับพระเจ้า รับพระลักษณะของพระเจ้า หลุดจากสภาพการซ่อนตัว ความโลภ ความอยาก ความปรารถนาอยากได้ โดยเฉพาะของๆคนอื่น ที่ไม่ใช่ของตนเอง
ขอให้พันธกิจชำระใจของพระเยซูคริสต์ ทำกิจภายในเรา อย่างถูกที่ถูกทาง และเข้าใจถึงจุดที่ทำให้คนเราโกรธ ไม่พอใจ มักจะมาจากการสูญเสียผลประโยชน์ทั้งสิ้น ลองคิดดูดีๆ คิดอย่างรอบคอบ เริ่มต้นที่ตัวเราก่อน ที่จะไปคิดกับคนอื่น
47 พระองค์ทรงสั่งสอนในบริเวณพระวิหารทุกวัน แต่พวกหัวหน้าปุโรหิต พวกธรรมาจารย์ และผู้นำคนอื่นๆ ของประชาชนหาช่องทางที่จะฆ่าพระองค์48 แต่พวกเขาไม่พบช่องทางที่จะทำอะไรได้ เพราะว่าประชาชนทุกคนชอบฟังพระองค์มาก
หาช่องทางที่จะฆ่า เป็นวิสัยอย่างโจร โดยพวกหัวหน้าปุโรหิต พวกธรรมาจารย์ และผู้นำคนอื่นๆของประชาชน ที่น่าจะนำคนในทางศาสนา แต่กลับเสียความเป็นผู้นำนั้นไป เพียงเพราะการมองพระเยซูคริสต์เป็นผู้ขวางทางผลประโยชน์ ของตนเอง คนเหล่านี้ คอยหาช่องทางที่จะฆ่าพระองค์ คำว่า ช่องทาง ก็คือ จับผิด เมื่อจับผิดไม่ได้ และพระองค์ก็สอนสิ่งที่ประชาชนได้รับประโยชน์ นี่คือวิถีของแบบอย่างพันธกิจชำระใจ ที่พระเยซูคริสต์ทรงสำแดงความซื่อสัตย์ integrity ของพระองค์ ทำให้พระองค์รอดพ้นจากการมุ่งร้ายหมายฆ่าได้
สุดท้าย พระเยซูยอมตาย ก็เพื่อให้ชีวิตของพระองค์เป็นค่าไถ่ นั่นคือ พระองค์ยอมเดินเข้าสู่การชำระใจของมนุษย์ในระดับสูงสุด เพื่อทำให้ชีวิตของคนเป็นวิหาร ที่อธิษฐานแทนพระวิหารในเยรูซาเล็ม
พระเยซูคริสต์…พันธกิจชำระใจ
1.เอาสิ่งปิดบังใจออก
2.กลับสู่น้ำพระทัยพระเจ้า