“ชีวิตที่ปราศจากที่ติ….เป็นคนบาปที่กลับใจใหม่”
ในภาษากรีก มีคำหนึ่งที่ใช้สำหรับคำว่า “บริสุทธิ์” ฮากีออส Hagios สำหรับพระเจ้า คือความศักดิ์สิทธิ์ เข้าใกล้แล้วตาย สำหรับมนุษย์ คือการปราศจากที่ติ คนมากมายตีความว่า การปราศจากที่ติ คือ เริ่มตั้งแต่ต้น เหมือนผ้าขาวที่ไม่เคยมีรอยเปื้อนเลย พระเยซูตรัสในยอห์น 17 มีความหมายว่าอย่างไร ยอห์น17:17 17ขอทรงโปรดชำระเขาให้บริสุทธิ์ด้วยความจริง พระวจนะของพระองค์เป็นความจริง พระเยซูใช้คำว่า ฮากีอาโซ่ เป็นคำกริยาของคำว่า ฮากีออส ซึ่งแปลว่า ชำระให้บริสุทธิ์ ปราศจากตำหนิ ถ้าสาวกสะอาดแล้ว ก็ไม่ต้องรับการชำระ แต่ที่นี่ พระเยซูทรงอธิษฐานขอให้พระบิดาทรงชำระสาวกของพระองค์ให้บริสุทธิ์ เพราะสาวกยังมีที่ติอยู่ และกระบวนการชำระนี้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยพระวจนะแห่งความจริง สิ่งที่น่าสังเกตตรงนี้คือ คำว่า ความจริง สิ่งที่ทำให้ชีวิตมีที่ติก็คือ ชีวิตที่อยู่ในการหลอกลอง การเท็จ สิ่งที่ไม่ใช่ความจริงที่มาจากพระเจ้า พระเยซูคริสต์ทรงตรัสว่า ยอห์น14:6,16-17 6 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริงและเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากจะมาทางเรา…16 เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้แก่ท่าน เพื่อจะได้อยู่กับท่านตลอดไป17 คือพระวิญญาณแห่งความจริง ซึ่งโลกรับไว้ไม่ได้ เพราะแลไม่เห็นและไม่รู้จักพระองค์ ท่านทั้งหลายรู้จักพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสถิตอยู่กับท่าน และจะประทับอยู่ในท่าน พระเยซูทรงสัญญาว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์แห่งความจริงจะทำงานในผู้เชื่อมากมาย ในคนสอน ในคนตีความ ในคนฟัง พระองค์จะทำให้เกิดการจูนเข้าหากันของคนหลากหลายมาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันภายใต้ศรีษะเดียวคือพระเยซูคริสต์ เอเฟซัส 1:22-23 พระเจ้าได้ทรงปราบสิ่งสารพัดลงไว้ใต้พระบาทของพระคริสต์ และได้ทรงตั้งพระองค์ไว้เป็นประมุขเหนือสิ่งสารพัดแห่งคริสตจักร23 ซึ่งเป็นพระกายของพระองค์ คือซึ่งเต็มบริบูรณ์ด้วยพระองค์ ผู้ทรงอยู่เต็มทุกอย่างทุกแห่งหน ไม่ว่าคนที่มีที่ติ จะอยู่ที่ไหน หากคนที่มีที่ติคนนั้นกลับใจใหม่ พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะทำงานให้คนนั้นให้สามารถจูนเข้ากับพระเยซูคริสต์ได้ เรื่องราวต่อไปนี้ปรากฏในหนังสือ ลูกา 19:1-10 1 ฝ่ายพระเยซูจึงเสด็จเข้าเมืองเยรีโคและกำลังจะทรงผ่านไป2 ดูเถิด มีชายคนหนึ่งชื่อศักเคียส เป็นนายด่านภาษีและเป็นคนมั่งมี3 ศักเคียสพยายามจะดูให้เห็นพระเยซูว่า พระองค์เป็นผู้ใดแต่ดูไม่เห็นเพราะคนแน่น ด้วยเขาเป็นคนเตี้ย4 เขาจึงวิ่งไปข้างหน้าขึ้นต้นมะเดื่อ เพื่อจะได้เห็นพระองค์เพราะว่าพระองค์จะเสด็จไปทางนั้น5 เมื่อพระเยซูเสด็จมาถึงที่นั่น พระองค์ทรงแหงนพระพักตร์ดูศักเคียสแล้วตรัสแก่เขาว่า “ศักเคียสเอ๋ย จงรีบลงมา เพราะว่าเราจะต้องพักอยู่ในตึกของท่านวันนี้”6 แล้วเขาก็รีบลงมาต้อนรับพระองค์ด้วยความปรีดี7 เมื่อคนทั้งหลายเห็นแล้วเขาก็พากันบ่นว่า “พระองค์เข้าไปพักอยู่กับคนบาป”8 ฝ่ายศักเคียสยืนทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ดูเถิด พระเจ้าข้า ทรัพย์สิ่งของของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ยอมให้คนอนาถากึ่งหนึ่ง และถ้าข้าพระองค์ได้ฉ้อโกงของของผู้ใด ข้าพระองค์ยอมคืนให้เขาสี่เท่า”9 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “วันนี้ความรอดมาถึงครอบครัวนี้แล้ว เพราะคนนี้เป็นลูกของอับราฮัมด้วย10 เพราะว่าบุตรมนุษย์ได้มาเพื่อจะเที่ยวหาและช่วยผู้ที่หลงหายไปนั้นให้รอด”
ในการบันทึกพระคัมภีร์ตอนนี้ได้บรรยายให้เห็นภาพของฝูงชนคนที่ห้อมล้อมพระเยซูมากมายจนใช้คำว่า “แน่น” คือมีคนเยอะมาก มีชายคนหนึ่งชื่อศักเคียสไม่สามารถเข้าถึงพระเยซูได้ ความจำกัดของศักเคียสในการมองเห็นพระเยซู แต่มองไม่เห็น คือความเตี้ยของเขา ขณะที่พระเยซูกำลังเดินไปเรื่อยๆ ศักเคียสก็ต้องคอยเดินตาม และต้องเดินให้เร็วกว่า เพื่อจะล่วงหน้าพระเยซูไปขึ้นต้นไม้ เพื่อจะมองให้เห็นพระเยซู 3 ศักเคียสพยายามจะดูให้เห็นพระเยซูว่า พระองค์เป็นผู้ใดแต่ดูไม่เห็นเพราะคนแน่น ด้วยเขาเป็นคนเตี้ย4 เขาจึงวิ่งไปข้างหน้าขึ้นต้นมะเดื่อ เพื่อจะได้เห็นพระองค์เพราะว่าพระองค์จะเสด็จไปทางนั้น ศักเคียสไม่เดินแล้ว แต่วิ่งให้เร็ว ให้ทันก่อนที่พระเยซูจะผ่านเขาไป แล้วรีบปีนขึ้นต้นไม้ นานมาแล้ว ข้าพเจ้าไปร่วมการประชุมสัมมนาที่โบสถ์ทรินิตี้ สิงคโปร์ งานนั้นได้เชิญนักเทศน์ดังๆหลายคนมา คนหนึ่งชื่อ เช อาน ใครๆก็อยากออกไปหาเขาให้เขาอธิษฐาน ข้าพเจ้าไม่ออก แต่ใจอยากจะพบเขาไม๊ อยาก เพราะคนมากและโอกาสจะได้พบเขาคงยาก ข้าพเจ้าอธิษฐานกับพระเจ้าว่า ถ้าพระเจ้าอนุญาตให้ข้าพเจ้าได้พบ ข้าพเจ้าไม่จำเป็นต้องเบียดเสียดผู้คนเพื่อจะพบเขา และวันรุ่งขึ้น ขณะที่ข้าพเจ้านั่งรอคิวที่จะใช้อินเตอร์เน็ตในห้องคอมพิวเตอร์ อยู่ๆก็มีมือผู้ชายคนหนึ่งยื่นมาตรงหน้าเพื่อให้เช็คแฮนด์ด้วย เมื่อข้าพเจ้าเงยหน้าขึ้น เชอาน เขายิ้มให้กับข้าพเจ้า ข้าพเจ้ารีบยื่นมือตอบการเช็คแฮนด์นั้น และขอให้เขาอธิษฐานให้ข้าพเจ้า เช่นเดียวกันกับศักเคียสที่ความจำกัดคือความเตี้ย เขาอยากเห็นพระเยซู แต่เขาไม่สามารถเบียดเสียดผู้คนได้ เขาจึงปีนต้นไม้ คือท่าทีที่พระเยซูทรงรู้ถึงความปรารถนาของเขา พระองค์ทรงหยุด และเรียกเขาให้ลงจากต้นไม้ 5 เมื่อพระเยซูเสด็จมาถึงที่นั่น พระองค์ทรงแหงนพระพักตร์ดูศักเคียสแล้วตรัสแก่เขาว่า “ศักเคียสเอ๋ย จงรีบลงมา เพราะว่าเราจะต้องพักอยู่ในตึกของท่านวันนี้” พระเยซูทรงหยุดเดิน เพื่อเรียกศักเคียส พระองค์เรียกชื่อ ศักเคียส แปลว่า บริสุทธิ์ สะอาด Pure พระเยซูทรงตรัสกับศักเคียส เป็นคำตรัสว่า พระองค์จะเสด็จไปบ้านของศักเคียสเพื่อจะพักในบ้านของศักเคียส สำหรับคนยิว การจะเข้าไปพักบ้านของคนนั้น คือ ความสนิทสนม ความใกล้ชิด และแน่นอนต้องรับประทานอาหารด้วยกัน นั่นคือความเป็นมิตรสหายเท่านั้นที่จะทำได้ 6 แล้วเขาก็รีบลงมาต้อนรับพระองค์ด้วยความปรีดี7 เมื่อคนทั้งหลายเห็นแล้วเขาก็พากันบ่นว่า “พระองค์เข้าไปพักอยู่กับคนบาป” ผู้คนที่รู้จักศักเคียสในฐานะของคนที่มีที่ติ ศักเคียสเป็นนายด่านภาษีที่มั่งคั่งจากการโกง เก็บเงินเกินพิกัด เป็นทาสรับใช้ของอาณาจักรโรม ในสายตาของคนยิว ศักเคียสคือคนบาป น่ารังเกียจ คนยิวจะไม่ร่วมเสวนาหรือเป็นเพื่อนกับคนบาป เชื่อแน่ว่า คนยิวส่วนใหญ่จะไม่เรียกชื่อศักเคียส เพราะชื่อของเขาตรงกันข้ามกับพฤติกรรมของเขา ชื่อแปลว่า สะอาด แต่พฤติกรรมสกปรก วันนี้ เราทุกคนมีชื่อเรียกใหม่ อย่างที่พระคัมภีร์ได้พยากรณ์ไว้ อิสยาห์ 43:7 7 คือทุกคนที่เขาเรียกตามชื่อของเรา คือผู้ที่เราได้สร้างเพื่อพระสิริของเรา ผู้ที่เราได้ปั้นและได้กระทำไว้”เพราะเราเป็นคนบาปที่กลับใจใหม่ เราจึงเรียกตัวเองว่าคริสเตียน เราให้คนอื่นเรียกเราว่า คริสเตียน เพราะเราตั้งใจเดินในเส้นทางชีวิตอย่างเดียวกันกับพระเยซูคริสต์ คำว่า คริสต์ แปลว่า ผู้ที่ถูกเจิม ถูกกำหนดไว้ และพระเยซูก็จะเรียกเราเสมอว่า ผู้ที่ถูกกำหนดไว้ ถูกเจิมไว้ การเจิม คือการแต่งตั้ง พระเยซูตรัสว่า ยอห์น 17:18 18 พระองค์ทรงใช้ข้าพระองค์มาในโลกฉันใด ข้าพระองค์ก็ใช้เขาไปในโลกฉันนั้น เราจะพบว่า นื่คือข้อความที่ต่อจากข้อ 17 การชำระดัวยพระวจนะแห่งความจริง เพื่อจะถูกใช้ไปในโลก ไปทำภารกิจอย่างเดียวกันกับที่พระเยซูทรงทำ คือการทำให้คนกลับใจใหม่ กลับมาหาพระเจ้า เพื่อชีวิตจะเข้ากระบวนการชำระด้วยพระวจนะแห่งความจริง เราจึงเห็นว่า เมื่อพระเยซูทรงเห็นศักเคียส พระองค์ทรงมองศักเคียสที่ภายใน พระองค์ทรงมองศักเคียสที่ปัจจุบัน ในขณะที่คนมากมายมองศักเคียสที่อดีต พระองค์ทรงเรียกชื่อศักเคียสที่แปลว่า สะอาด พระองค์ทรงมองเห็นหัวใจที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงต่อพระเยซู 1ซามูเอล 16:7 แต่พระเจ้าตรัสกับซามูเอลว่า “อย่ามองดูที่รูปร่างภายนอกหรือที่ความสูงแห่งร่างกายของเขา ด้วยเราไม่ยอมรับเขา เพราะพระเจ้าทอดพระเนตรไม่เหมือนกับที่มนุษย์ดู มนุษย์ดูที่รูปร่างภายนอกแต่พระเจ้าทอดพระเนตรจิตใจ” สิ่งที่คนมากมายมองดูศักเคียสคือภายนอก แต่พระเยซูทรงมองเห็นจิตใจของศักเคียสที่พร้อมแสดงผลจากการกลับใจใหม่ 8 ฝ่ายศักเคียสยืนทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ดูเถิด พระเจ้าข้า ทรัพย์สิ่งของของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ยอมให้คนอนาถากึ่งหนึ่ง และถ้าข้าพระองค์ได้ฉ้อโกงของของผู้ใด ข้าพระองค์ยอมคืนให้เขาสี่เท่า” พระเยซูจึงตรัสว่า ศักเคียสได้ชื่อใหม่แล้ว คือคริสเตียน 9 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “วันนี้ความรอดมาถึงครอบครัวนี้แล้ว เพราะคนนี้เป็นลูกของอับราฮัมด้วย ชีวิตที่ปราศจากที่ติ…..เป็นคนบาปที่กลับใจใหม่ บทเรียนสำหรับเราวันนี้คืออะไร
1.จิตใจที่พร้อมกลับใจใหม่จูนติดกับพระเยซู ลูกา 19:1-6
1 ฝ่ายพระเยซูจึงเสด็จเข้าเมืองเยรีโคและกำลังจะทรงผ่านไป2 ดูเถิด มีชายคนหนึ่งชื่อศักเคียส เป็นนายด่านภาษีและเป็นคนมั่งมี3 ศักเคียสพยายามจะดูให้เห็นพระเยซูว่า พระองค์เป็นผู้ใดแต่ดูไม่เห็นเพราะคนแน่น ด้วยเขาเป็นคนเตี้ย4 เขาจึงวิ่งไปข้างหน้าขึ้นต้นมะเดื่อ เพื่อจะได้เห็นพระองค์เพราะว่าพระองค์จะเสด็จไปทางนั้น5 เมื่อพระเยซูเสด็จมาถึงที่นั่น พระองค์ทรงแหงนพระพักตร์ดูศักเคียสแล้วตรัสแก่เขาว่า “ศักเคียสเอ๋ย จงรีบลงมา เพราะว่าเราจะต้องพักอยู่ในตึกของท่านวันนี้”6 แล้วเขาก็รีบลงมาต้อนรับพระองค์ด้วยความปรีดี เหมือนแม่เหล็กที่วิ่งเข้าหากัน เหมือนคนที่มีเป้าหมายเดียวกันจะไปทิศทางเดียวกัน เอเฟซัส2:16,18 16 และเพื่อจะทรงกระทำให้ทั้งสองพวกคืนดีกับพระเจ้า เป็นกายเดียวโดยกางเขน ซึ่งเป็นการทำให้การเป็นปฏิปักษ์ต่อกันหมดสิ้นไป…18 เพราะว่าพระองค์ทรงทำให้เราทั้งสองพวกมีโอกาสเข้าเฝ้าพระบิดาโดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน พระคัมภีร์ตอนนี้กล่าวชัดเจนว่า การได้เข้าเฝ้าพระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ เกิดขึ้นโดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน ศักเคียสแตกต่างจากฝูงชนที่มุงดูพระเยซู จิตใจภายในของศักเคียส แสดงออกด้วยความกระตือรือร้นในการติดตามพระเยซูไม่ห่าง มองหาพระองค์ให้เห็น หาโอกาสทุกเมื่อขณะมีอุปสรรค ไม่ง่าย แต่ศักเคียสพยายามจัดการกับความจำกัดของตนเอง และศักเคียสก็ได้เห็นพระเยซู เป้าหมายสำเร็จ ฮีบรู 12:1-2ก 1 เหตุฉะนั้นเมื่อเรามีพยานพรั่งพร้อมอยู่รอบข้างเช่นนี้แล้ว ก็ขอให้เราละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงอยู่ และบาปที่เกาะแน่น ขอให้เราวิ่งแข่งด้วยความเพียรพยายาม ตามที่ได้กำหนดไว้สำหรับเรา2 หมายเอาพระเยซูเป็นผู้บุกเบิกความเชื่อ และผู้ทรงทำให้ความเชื่อของเราสมบูรณ์…. คำว่า หมายเอาพระเยซู ภาษากรีกใช้คำว่า มองดูที่พระเยซู คนที่มองดูที่พระเยซูจะต้องละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงอยู่และบาปที่เกาะแน่น ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่า ศักเคียส จะต้องวางทุกอย่างและทำตัวให้คล่องแคล่วมาก เพื่อจะปีนตันไม้สูงขึ้น ต้องทำตัวเบา ต้องเอาอะไรที่ขวางการมองเห็น ใจเลิกจดจ่ออยู่กับเรื่องเก็บเงิน เขาได้ทิ้งโต๊ะเก็บเงิน เขาได้ละด่านเก็บภาษี เพราะตอนนี้ สิ่งที่สำคัญคือการได้มองเห็นพระเยซู นี่คือท่าทีของความต้องการจูนติดกับพระเยซู เวลาเราจะตั้งเสาอากาศหรือตั้งจานรับสัญญาณ มีข้อแนะนำว่า ต้องหันไปทางทิศที่จะรับสัญญาณได้ จึงจะสามารถจูนสัญญาณที่ส่งมาจากทิศนั้น เช่นเดียวกัน พระเยซูทรงส่งสัญญาณมายังโลกนี้แล้วตลอดเวลา แต่อะไรคือทิศทางที่เราจะพบกับสัญญาณที่พระเยซูส่งมา นั่นคือความบริสุทธิ์ที่แท้จริงของพระเจ้าเพื่อหาความบริสุทธิ์ของมนุษย์ 1เปโตร1:15-16 15 แต่เพราะพระองค์ผู้ทรงเรียกท่านทั้งหลายนั้นบริสุทธิ์ ท่านทั้งหลายจงประพฤติให้บริสุทธิ์พร้อมทุกประการ16 ดังที่มีพระวจนะเขียนไว้แล้วว่า ท่านทั้งหลายจงเป็นคนบริสุทธิ์ เพราะเราบริสุทธิ์ มนุษย์ไม่สามารถบริสุทธิ์อย่างพระเจ้าได้ แล้วพระเจ้าทรงแสวงหาความบริสุทธิ์ของมนุษย์แบบไหน นั่นคือการกลับใจใหม่ของมนุษย์ คนที่มีที่ติ เป็นคนบาปที่กลับใจใหม่ ลูกา 18:9-14 9 สำหรับบางคนที่ไว้ใจในตัวเองว่าเป็นคนชอบธรรม และได้ดูหมิ่นคนอื่นนั้น พระองค์ตรัสคำอุปมานี้ว่า10 “มีสองคนขึ้นไปอธิษฐานในบริเวณพระวิหาร คนหนึ่งเป็นพวกฟาริสีและคนหนึ่งเป็นพวกเก็บภาษี11 คนฟาริสีนั้นยืนนึกในใจของตน อธิษฐานว่า ‘ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์โมทนาขอบพระคุณของพระองค์ ที่ข้าพระองค์ไม่เหมือนคนอื่น ซึ่งเป็นคนโลภ คนอธรรม และคนล่วงประเวณี และไม่เหมือนคนเก็บภาษีคนนี้12 ในสัปดาห์หนึ่งข้าพระองค์ถืออดอาหารสองหน และของสารพัดซึ่งข้าพระองค์หาได้ข้าพระองค์ได้เอาสิบชักหนึ่งมาถวาย’13 ฝ่ายคนเก็บภาษีนั้นยืนอยู่แต่ไกล ไม่แหงนดูฟ้า แต่ตีอกของตนว่า ‘ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงโปรดพระเมตตาแก่ข้าพระองค์ผู้เป็นคนบาปเถิด’14 เราบอกท่านทั้งหลายว่า คนนี้แหละเมื่อกลับลงไปยังบ้านของตนก็นับว่าชอบธรรม มิใช่อีกคนหนึ่งนั้น เพราะว่าทุกคนที่ยกตัวขึ้นจะต้องถูกเหยียดลง แต่ทุกคนที่ได้ถ่อมตัวลงจะต้องถูกยกขึ้น”คำว่า นับว่าชอบธรรม แปลว่า ถูกพิจารณาจากพระเจ้าว่าถูกต้อง พระคัมภีร์บอกเราว่า พระเจ้าไม่พิจารณาคนที่ภายนอก แต่ที่จิตใจ เพราะฉะนั้นจิตใจที่ถูกต้องกับพระเจ้าเท่านั้นที่จะได้รับการยอมรับจากพระเจ้า คือจิตใจที่กลับใจใหม่ กลับใจใหม่แปลว่า หันกลับมาที่พระเจ้า ในทิศทางเดียวกันกับพระเจ้า พระเยซูอยูที่ไหน พระเจ้าอยู่ที่นั่น
2.คนที่ไม่กลับใจใหม่จะตำหนิ..อยู่ตรงข้ามกับพระเยซู ลูกา 19:7
7 เมื่อคนทั้งหลายเห็นแล้วเขาก็พากันบ่นว่า “พระองค์เข้าไปพักอยู่กับคนบาป”คนที่ไม่กลับใจใหม่จะตำหนิ..อยู่ตรงกันข้ามกับพระเยซู แต่เราไม่ใช่ คำว่า ตรงกันข้าม หรือที่เรียกว่า ปฏิปักษ์ คืออยู่กับคนละพวก เราได้เห็นคนยิวแบ่งแยกตนเองออกจากคนที่ตนเองรังเกียจ ด้วยคำว่า คนบาป การมองคน ของคนที่ไม่กลับใจใหม่ ยังมองด้วยสายตาภายนอก คนเหล่านี้ไม่พิจารณาถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของศักเคียส ศักเคียสไม่ได้อยู่ที่ด่านเก็บภาษี ศักเคียสได้ละทิ้งสิ่งเก่า เขาทำสิ่งที่ไม่เหมือนเดิม คนเหล่านี้ตีตราบาปให้กับศักเคียส และมองแต่อดีต ไม่มองปัจจุบัน ความมหัศจรรย์ของพระเจ้าอันหนึ่งคือพระองค์ใช้ความเป็นปัจจุบันพระองค์กับเรา เมื่อโมเสสถามพระเจ้าว่า พระองค์คือใคร พระเจ้าทรงตอบโมเสสว่า เราคือยาเวห์ เราเป็นซึ่งเราเป็น พระเจ้าตอบโมเสสว่า พระองค์ทรงเป็นปัจจุบัน ไม่ใช่อดีต ไม่ใช่อนาคต แต่เป็นปัจจุบันเสมอ ข้าพเจ้าเชื่อว่า เพราะพระเจ้าทรงให้โอกาสแก่มนุษย์ที่จะเป็นปัจจุบันกับพระองค์โดยเฉพาะในเรื่องของการกลับใจใหม่ วินาที่ที่กลับใจใหม่ และรักษาการกลับใจใหม่ให้เป็นปัจจุบัน นั่นคือ พระเจ้าทรงยอมรรับ และพิจารณาว่าผ่าน พระองค์ไม่จดจำอดีตของคนที่กลับใจใหม่อีก ฮีบรู 10:12,14-15,17 12 แต่เมื่อพระคริสต์ทรงถวายพระองค์เองเป็นเครื่องสัตวบูชาเพราะบาปเพียงครั้งเดียว เป็นเครื่องบูชาที่ลบบาปได้ตลอดไป พระองค์ก็เสด็จประทับเบื้องขวาของพระเจ้า ….14 โดยการถวายบูชาเพียงครั้งเดียว พระองค์ก็ได้ทรงกระทำให้คนทั้งหลายที่ได้รับการทรงชำระให้บริสุทธิ์แล้วนั้นถึงความสมบูรณ์เป็นนิตย์15 และพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ทรงเป็นพยานให้แก่เราด้วย….17 แล้วตรัสต่อไปว่า “และเราจะไม่จดจำบาปกับการอธรรมของเขาทั้งหลายอีกต่อไป”
3.คนที่กลับใจใหม่จะชำระตนเองทันที ลูกา 19:8
8 ฝ่ายศักเคียสยืนทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ดูเถิด พระเจ้าข้า ทรัพย์สิ่งของของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ยอมให้คนอนาถากึ่งหนึ่ง และถ้าข้าพระองค์ได้ฉ้อโกงของของผู้ใด ข้าพระองค์ยอมคืนให้เขาสี่เท่า” ศักเคียสได้ตอบสนองต่อการทรงเรียกของพระเยซูทันทีด้วยการกลับใจใหม่ และเขาแสดงผลของการกลับใจใหม่ด้วยการเคลียร์ตนเอง หยุดทำบาป และใช้หนี้คืนให้กับคนที่เขาโกง มีส่วนในพันธกิจ 360 องศาทันที ด้วยการถวายเงินเพื่อการสงเคราะห์คนอนาถา นี่คือกระบวนการชำระตนเองของศักเคียสที่เคยเป็นคนบาป ปัจจุบันเขาสะอาด เขาเป็นเหมือนพระเยซู เขามีนายเดียว เงินทองไม่ใช่นายของเขาอีกต่อไป ลูกา 16:11-13 11 เหตุฉะนั้นถ้าท่านทั้งหลายไม่สัตย์ซื่อในทรัพย์สมบัติอธรรม ใครจะมอบทรัพย์สมบัติอันแท้ให้แก่ท่านเล่า12 และถ้าท่านทั้งหลายมิได้สัตย์ซื่อในของของคนอื่น ใครจะมอบทรัพย์อันแท้ให้เป็นของของท่านเล่า13 ไม่มีผู้ใดเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เพราะว่าจะชังนายข้างหนึ่ง และจะรักนายอีกข้างหนึ่ง หรือจะนับถือนายฝ่ายหนึ่ง และจะดูหมิ่นนายอีกฝ่ายหนึ่ง ท่านจะปฏิบัติพระเจ้าและจะปฏิบัติเงินทองพร้อมกันไม่ได้”ศักเคียสแสดงความสัตย์ซื่อในทรัพย์อธรรมของเขาทันที ทรัพย์ที่เขาได้มาที่ยังเหลืออีกครึ่งหนึ่งได้รับการชำระ นับจากวันนี้ ทรัพย์ที่ศักเคียสครอบครองเป็นทรัพย์ที่สะอาดสมชื่อเจ้าของ
4.พระเยซูมองหาคนที่กลับใจใหม่ ลูกา 19:9-10
9 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “วันนี้ความรอดมาถึงครอบครัวนี้แล้ว เพราะคนนี้เป็นลูกของอับราฮัมด้วย10 เพราะว่าบุตรมนุษย์ได้มาเพื่อจะเที่ยวหาและช่วยผู้ที่หลงหายไปนั้นให้รอด”รากศัพท์คำว่า หลงหาย แปลว่า เพื่อถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง พินาศ และหายไป คำว่า ความรอด แปลว่า ได้รับการช่วยกู้ ช่วยชีวิต คนที่กลับใจใหม่ คือคนที่อยากจะมีชีวิต มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า แม้เราจะพยายามจะให้คนๆหนึ่งมีชีวิตอยู่ยาวนานมากเพียงใด ก็ไม่เท่ากับตัวของคนๆนั้นอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป คำพูดนี้เรามักจะหนุนใจให้กับคนที่ป่วย คนที่กำลังใกล้ความตาย แต่ในความเป็นจริง คนดีๆที่ปกติไม่ป่วยฝ่ายร่างกาย แต่ใครจะมองเห็นว่า คนเหล่านั้นป่วยฝ่ายวิญญาณที่กำลังจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง พินาศ และหายไป พระเยซูทรงมองเห็น และพระองค์ทรงเสด็จมาเพื่อจะเที่ยวหาและช่วยผู้ที่หลงหายไปนั้นให้รอด นี่คือวัตถุประสงค์ของการเป็นคริสเตียน คือมีเป้าหมายอย่างเดียวกันกับพระเยซู เหมือนพระเยซู คือการช่วยให้คนได้รับความรอด การที่เราแจกใบปลิว ออกไปเดินตามท้องถนน หรือเปิดตัวเราให้สร้างสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เพื่อเราจะทำพันธกิจ 360 องศา แต่ข้าพเจ้าอยากจะบอกกับเราว่า พันธกิจของเราจะเป็นพันธกิจ 360+1 คือ 361 องศา คือไม่ใช่แค่รอบตัว แต่ลึกเข้าไปในจิตใจของคน นั่นคือสายของพระเยซูที่มองคนไม่ใช่ภายนอกอย่างเดียวแล้ว แต่มองลึกภายในที่แท้จริง มองเห็นคนที่ต้องการจะมีชีวิตอยู่ต่อไป และหนุนใจให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปในชีวิตโลกหน้าด้วย
“ชีวิตที่ปราศจากที่ติ….เป็นคนบาปที่กลับใจใหม่”
1.จิตใจที่พร้อมกลับใจใหม่จูนติดกับพระเยซู
2.คนที่ไม่กลับใจใหม่จะตำหนิ..อยู่ตรงข้ามกับพระเยซู
3.คนที่กลับใจใหม่จะชำระตนเองทันที
4.พระเยซูมองหาคนที่กลับใจใหม่