“สู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์….มั่นใจในความรอด”
ทุกวันนี้ มีสิ่งต่างๆมากมายที่ทำลายความมั่นใจในชีวิตของคนไม่น้อย มีคำๆหนึ่งที่ในยุคของเรามักจะใช้เวลาขาดความมั่นใจในตัวเอง คือคำว่า “เสียเซลฟ์” แปลว่า เสียความเป็นตัวเอง เสียเอกลักษณ์ประจำตัว มีอะไรบ้างที่ทำให้เรามาถึงการเสียความมั่นใจได้บ้าง เช่นอ้วนเกินไป น้ำหนักเกิน ทรงผมไม่สวย เสื้อผ้าไม่พอดีตัว ไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า และที่แย่ที่สุด คือคำพูดของคน ก่อให้เกิดหลายสาเหตุที่จะทำให้คนแต่ละคนเสียเซลฟ์ เสียความมั่นใจในตัวเอง และทำลายความเป็นอัตลักษณ์ หรือความเป็นบุคคลของตนเองไป ดังนั้น พี่น้อง โปรดระมัดระวังคำพูดของตนเอง
สุภาษิต12:18 18 มีบางคนที่คำพูดพล่อยๆ ของเขาเหมือนดาบแทง แต่ลิ้นของปราชญ์นำการรักษามาให้
คำพูดของคนทำร้ายคนให้บาดเจ็บ และทำลายความเป็นตัวตนของคนให้เสียเซลฟ์ได้ พ่อแม่บางคนด่าลูกเป็นควาย พี่น้องบางคนโกรธก็ด่าด้วยคำว่าสัตว์มากมาย แต่พระคัมภีร์กลับมีถ้อยคำที่รื้อฟื้นและสร้างความเป็นคนกลับคืนมา ตั้งแต่ในปฐมกาล ได้กล่าวถึงกำเนิดของคน เกิดจากการสร้างของพระเจ้า คนไม่ใช่สัตว์ พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาพิเศษกว่าสัตว์ พระองค์ทรงสวมพระฉายาของพระเจ้าให้กับสิ่งทรงสร้างเดียว คือ มนุษย์ สัตว์ไม่ได้รับการสวมพระฉายาของพระเจ้า ดังนั้น อย่าให้ใครทำลายความเป็นคนของคนอื่น ด้วยการเอาคนไปเปรียบกับสัตว์ หรือกดคนให้ต่ำกว่าคนด้วยกัน ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย เด็กหรือผู้ใหญ่ คนมีการศึกษาหรือไม่มี คนร่ำรวยหรือยากจน คนเก่งหรือไม่เก่ง จะเป็นคนบ้าหรือคนสติดี คนผิดหรือคนที่ยังไม่ถูกจับผิดได้ ต่างก็มีความเป็นคนเท่ากัน
โรม 3:21-24 21 แต่บัดนี้ได้ปรากฏแล้วว่า ความชอบธรรมซึ่งมาจากพระเจ้านั้นปรากฏนอกเหนือกฎบัญญัติ ธรรมบัญญัติกับพวกผู้เผยพระวจนะเป็นพยานอยู่22 คือความชอบธรรมของพระเจ้า ซึ่งทรงประทานโดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์แก่ทุกคนที่เชื่อ เพราะว่าคนทั้งหลายไม่ต่างกัน23 เพราะว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า24 แต่พระเจ้าทรงพระกรุณาให้เขาเป็นผู้ชอบธรรม โดยไม่คิดมูลค่า โดยที่พระเยซูคริสต์ทรงไถ่เขาให้พ้นบาปแล้ว
พระคัมภีร์สร้างความมั่นใจให้กับความเป็นคน ในขณะที่ค่านิยมของโลกนี้กำลังทำลายความเป็นคน ทำให้คนเสียเซลฟ์ ด้วยวัตถุสิ่งของที่มีไม่เท่ากัน ความสวยความงามภายนอกที่เป็นค่านิยมของโลกกำลังทำให้คนถูกทำลายความเป็นอัตลักษณ์ความเป็นบุคคลไป เดี๋ยวนี้ มีธุรกิจที่กำลังมาแรง คือธุรกิจเปลี่ยนใบหน้าให้อย่างที่ต้องการ และส่วนใหญ่ก็จะมีบล็อกใบหน้าอย่างเดียวกัน คือ เหลาคาง เสริมจมูก ผ่าตาสองชั้น ดึงหน้าตึงตลอดเวลา เป็นต้น จนตอนนี้ดูหน้าตาของคนเหมือนๆกันไปหมด แทบจะแยกไม่ออก ไม่มีความเป็นอัตลักษณ์ มีเด็กสาวคนหนึ่งถามข้าพเจ้าว่า ฝรั่งชอบคนเอเชียที่ตรงไหน ข้าพเจ้าตอบเด็กสาวคนนั้นว่า เขาชอบสิ่งที่เขาไม่มี คือ จมูกแบน หน้ากางคางใหญ่ ผิวคล้ำ ผมดำ ตัวเตี้ย เราจะพบว่า คนในภาคอีสานเราเป็นกลุ่มคนที่ฝรั่งเลือกเป็นคู่ครองมากกว่าทุกภาค เพราะฉะนั้น พี่น้องจงมั่นใจในความเป็นตัวของคุณเองเถิด
เรารู้หรือไม่ว่า การทำลายความเป็นคน เป็นเป้าหมายของใคร (มารซาตาน) มารต้องการทำลายความมั่นใจในความเป็นคน และถ้าคนใดเสียเซลฟ์เรื่องนี้ (เด็กวัยรุ่นในยุคของเรากำลังตกเป็นเป้าหมายของมารซาตาน) เราก็ได้สูญเสียความมั่นใจในพระฉายาของพระเจ้า เราจะสูญเสียการรู้ว่าตนเองเป็นใครในพระเจ้า
คำถามเพื่อหาคำตอบว่า ตนเองคือใคร ไม่ใช่คำถามโง่ๆ แต่เป็นคำถามที่ฉลาด การค้นหาตนเอง เป็นคำถามที่จะไม่ถูกมารหลอก และไม่หลอกตนเอง เราจะค้นหาว่าเราคือใครได้จากที่ไหน ที่จะให้ความจริงกับเรามากที่สุด เราต้องหาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือที่สุด นั่นคือ จากคนที่รักเรามากที่สุด พระเจ้าได้พิสูจน์ว่าพระองค์รักเรามากที่สุด ด้วยการเสียสละพระบุตรองค์เดียวของพระองค์มาตายไถ่บาปเรา นำเรากลับสู่สภาพเดิม ความเป็นคนที่มีพระฉายาของพระเจ้า นี่คือเป้าหมายของพระเจ้า ที่พระคัมภีร์เรียกว่า ความรอด อ.เปาโลได้เขียนหนังสือโรมเพื่ออธิบายถึงแผนการของพระเจ้านำความเป็นคนกลับคืนมาสู่มนุษย์
โรม 1:16-17 16 เพราะว่าข้าพเจ้าไม่มีความละอายในเรื่องข่าวประเสริฐ เพราะว่าข่าวประเสริฐนั้นเป็นฤทธิ์เดชของพระเจ้า เพื่อให้ทุกคนที่เชื่อได้รับความรอด พวกยิวก่อน แล้วพวกต่างชาติด้วย17 เพราะว่าในข่าวประเสริฐนั้น ความชอบธรรมของพระเจ้าก็ได้สำแดงออก โดยเริ่มต้นก็ความเชื่อ สุดท้ายก็ความเชื่อ ตามที่พระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า คนชอบธรรมจะมีชีวิตดำรงอยู่โดยความเชื่อ
คำว่า ความรอด มาจากรากศัพท์ภาษากรีก คำว่า โซโซ แปลว่า การช่วยกู้ให้รอดชีวิต ให้ปลอดภัย การเยียวยารักษา และการมีสุขภาพที่ดี ความเชื่อที่พระคัมภีร์กล่าวถึงว่า คนชอบธรรมดำรงอยู่โดยความเชื่อ สอดคล้องกับที่หนังสือฮีบรูบทที่ 11 ได้กล่าวถึงเป็นปัจจุบัน
ฮีบรู 11:1 1 ความเชื่อคือความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นความรู้สึกมั่นใจว่า สิ่งที่ยังไม่ได้เห็นนั้นมีจริง
เราดำรงอยู่กับปัจจุบัน คือวันนี้ พระเยซูสอนสาวกให้อธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องการดำรงชีวิตด้วยอาหาร ก็เป็นเรื่องของปัจจุบัน
มัทธิว 6:11 11 ขอทรงโปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายในกาลวันนี้
ไม่ใช่การขอสำหรับวันพรุ่งนี้ แต่เป็นวันนี้ ดังนั้น ความรอดที่เราได้รับเป็นปัจจุบัน ความรอดทำงานในชีวิตของเรา ณ เวลานี้ ความรอดแปลว่า การเยียวยา รักษา การมีสุภาพที่ดี เรามีความมั่นใจในความรอดนี้ขนาดไหน?เรามองความรอดเป็นอนาคต หรือปัจจุบัน ถ้าพระเจ้าช่วยเราในวันนี้ไม่ได้ แล้วพระองค์จะช่วยเราเรื่องใหญ่ๆในอนาคตได้อย่างไร เราต้องตระหนักว่า ความรอดที่ต้องวันนี้ เราต้องอยู่รอดในวันนี้ให้ได้ คุณเชื่อเช่นนั้นไม๊
2โครินธ์ 6:2 2 เพราะพระองค์ตรัสว่า ในเวลาอันชอบเราได้ฟังเจ้า ในวันแห่งความรอดเราได้ช่วยเจ้า นี่แน่ะ บัดนี้เป็นเวลาอันชอบ นี่แน่ะ บัดนี้เป็นวันแห่งความรอด
พระคัมภีร์ใช้คำว่า บัดนี้ สองครั้ง บัดนี้ พระเจ้าฟังเรา บัดนี้ พระเจ้าช่วยเรา เป็นวันนี้ ไม่ใช่วันพรุ่งนี้ เป็นปัจจุบัน ไม่ใช่อนาคต และรากศัพท์คำว่าบัดนี้ ใช้คำว่า Now ไม่ใช่แค่วันนี้เท่านั้น แต่เป็น เดี๋ยวนี้ เวลานี้ เวลาที่ พระเจ้าฟังเรา และช่วยเรา เรามั่นใจในความรอดเป็นรูปธรรมได้อย่างไร ขณะที่เรากำลังก้าวแต่ละย่างก้าวสู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์…ด้วยความมั่นใจในความรอด
1.เพราะพระเจ้าทรงฟังเรา 2โครินธ์ 6:2ก
2 เพราะพระองค์ตรัสว่า ในเวลาอันชอบเราได้ฟังเจ้า…
เรามีความมั่นใจในความรอดที่เป็นปัจจุบัน เพราะพระเจ้าทรงฟังเรา เราเชื่อ เรามีประสบการณ์อะไร เรารู้จักคำว่า ไครอส (โอกาส เวลาของพระเจ้า) คริสเตียนมีเวลาที่เรียกว่าไครอส เป็นเวลาที่พระเจ้าทรงฟังเรา คำว่า เวลาที่พระคัมภีร์ตอนนี้ใช้ คือว่า ไครอส มีคำพูดที่กล่าวว่า ทุกคนมีเวลา 24 ชม. เท่ากัน แต่ไม่ใช่ทุกคนใช้เวลาเหมือนกัน บางคนใช้เวลาหมดไปกับการพูดที่ไร้สาระ พูดอย่างเปลืองคำพูด พูดโดยไม่ได้คิด พูดล่อยๆ พูดซ้ำซาก
มัทธิว 6:7 7 “แต่เมื่อท่านอธิษฐานอย่าพูดพล่อยๆ ซ้ำซาก เหมือนคนต่างชาติกระทำเพราะเขาคิดว่าพูดมากหลายคำ พระจึงจะทรงโปรดฟัง
พระเยซูสอนสาวกเรื่องการใช้เวลาในการอธิษฐาน คือเวลาที่เรียกว่า ไครอส คือเวลาที่พระเจ้าจะฟังเรา แต่การใช้เวลาในการอธิษฐานก็อย่าใช้อย่างคนต่างชาติ หมายความว่า คนต่างชาติ ไม่มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า ดังนั้น เขาจึงพูดซ้ำๆซากๆ การพูดซ้ำๆซากๆ ก็คือการไม่ใส่ใจว่าคนฟังจะรู้สึกอย่างไร ไม่สนใจความสัมพันธ์ เป็นเหมือนนกแก้วนกขุนทอง ที่พูดโดยไม่มีความหมายแห่งจิตใจ อันนี้ พระเจ้าไม่ฟัง และเป็นการใช้ไครอส (โอกาสที่พระเจ้าจะฟังเสียไป) นี่คือการเรียกว่า เสียของที่แท้จริง และยังทำลายความมั่นใจในการอธิษฐาน เพราะคำอธิษฐานนั้นจะไม่ได้รับคำตอบ เพราะพระเจ้าไม่ฟังคำอธิษฐานอย่างคนไม่มีความสัมพันธ์ แต่เพราะพระเจ้าจะฟังเราในเวลาไครอส คือการอธิษฐานด้วยความสัมพันธ์ จงรักษาความมั่นใจในความรอดของท่าน ด้วยการพูดกับพระเจ้า อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างใส่ใจ บางคนว่า อธิษฐานเรื่องนี้ ไม่ได้รับคำตอบ คนพูดประโยคนี้ ก็เพราะเขามีประสบการณ์ที่พระเจ้าไม่ฟังเขา แต่ช่างไม่ดูตัวเองเลย ว่า พระเจ้าไม่ฟังตัวเอง แล้วยังไปแนะนำ (ประจานตัวเอง) ว่าเรื่องนี้ พระเจ้าไม่ตอบ ก็เพราะพระเจ้าไม่ฟังคุณ ถ้าคุณอธิษฐานอย่างที่พระเจ้าฟัง คุณจะได้รับคำตอบ พระเยซูจึงได้ตรัสต่อในข้อต่อไปในเรื่องการสอนการอธิษฐานกับสาวก ว่า
มัทธิว 6:8 8 อย่าทำเหมือนเขาเลย เพราะว่าสิ่งไรซึ่งท่านต้องการ พระบิดาของท่านทรงทราบก่อนที่ท่านทูลขอแล้ว
พระเจ้ารู้แล้ว ว่าเราต้องการอะไร แต่ทำไม เราต้องอธิษฐาน เหมือนพ่อกับลูก ที่ต้องการใช้เวลากัน มีปฏิสัมพันธ์กัน พระเจ้าพระบิดารักมนุษย์อย่างพ่อรักลูก พระเจ้าต้องการให้มนุษย์ทุกคนกลับคืนสู่สภาพเดิม คือเป็นเหมือนพระองค์ มีพระฉายาที่พระองค์สวมให้ มนุษย์สูญเสียความเป็นคนไป เรามักจะได้ยินคนไทยเวลาพูดกับพระที่ตนเองกราบไหว้ จะเรียกตัวเองว่า ลูกช้าง ลูกม้า ลูกหมา ไม่กล้ายกตัวเองเทียบเท่าพระนั้นๆทั้งๆที่รูปปั้นเหล่านั้นก็ถูกสร้างขึ้นมาด้วยมือของมนุษย์ แต่ตัวเองกลับสูญเสียความเป็นตัวตนของความเป็นมนุษย์ที่พระเจ้าสร้างไป
ความรอด แปลว่า ปลอดภัย สุขภาพดี และการเยียวยารักษา เป็นปัจจุบัน หากเรากำลังอยู่ตกอยู่ในสภาพที่ตรงกันข้าม เราคงต้องสำรวจชีวิตของตนเองอีกครั้ง (ความจริงเราต้องสำรวจชีวิตตลอดเวลา) ว่า มีอะไรผิดปกติ พระเจ้ายังฟังเราอยู่ แต่ทำไม เราจึงมีชีวิตที่ย่ำแย่และป่วยๆ ทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ความรอดคือเส้นทางนำเราไปสู่ความสมบูรณ์ ต้องแข็งแรง ไม่ใช่หมดสภาพ เราต้องค้นหาตัวตนของเราให้เจอ Are you real? คุณเป็นตัวจริงหรือไม่? อย่าลืมว่า การทำลายความเป็นคนที่แท้จริง คือเป้าหมายของมารซาตาน แต่พระเจ้าต้องการนำเรากลับสู่สภาพดีดังเดิม มารใช้ค่านิยมของโลกนี้ทำให้ความเป็นคนหายไป มนุษย์เริ่มเป็นเหมือนโคลนนิ่ง คือเคาะออกมาในบล็อกเดียวกัน เหมือนหุ่นยนต์ ดูเหมือนมีเสรีภาพ แต่ได้สูญเสียเสรีภาพที่แท้จริงไป ห่างไกลจากวิถีที่จะใช้เวลา ไครอส เวลาที่พระเจ้าฟัง ไปฟังอย่างอื่น และเรียกร้องสิ่งของ สัตว์ ฟังความกระหายของตนเองแทน แทนที่จะสัมพันธ์กับพระเจ้ากลับไปสัมพันธ์แบบผิดธรรมชาติ ความรอดกลายเป็นเรื่องของอนาคต และเป็นไปไม่ได้สำหรับปัจจุบัน เรากำลังถูกมารหลอกเต็มๆ ความจริง บัดนี้ เดี๋ยวนี้ พระเจ้าทรงฟังเรา ขอให้เรากลับมาสู่เวลา ไครอส เวลาที่พระเจ้าทรงฟังเรา หยุดใช้เวลาไครอส ในการไปฟังอย่างอื่น และทำลายความมั่นใจในความรอด ทำลายเวลาแห่งการเยียวยา ทำลายการฟื้นฟู ทำลายเวลาที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับพระผู้สร้างที่แท้จริง
ความมั่นใจในความรอด เกิดจากความมั่นใจว่า เราได้ใช้เวลาไครอส อย่างเหมาะสม อย่างไม่พลาดเวลานั้น เราจึงจะพบกับการช่วยกู้ของพระเจ้าตลอดเวลา จงอธิษฐาน และอธิษฐานในชีวิตของท่าน เพราะนี่คือเวลาที่พระเจ้าทรงฟังเรา
2.เพราะพระเจ้าทรงช่วยเรา 2โครินธ์ 6:2ข
ในวันแห่งความรอดเราได้ช่วยเจ้า
วันแห่งความรอด คือตลอดเวลาที่เป็นปัจจุบัน เราเคยสงสัยไม๊ว่า ทำไม มีคริสเตียนบางคน ซวยตลอด ทำอะไรก็ไม่ขึ้น ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น เวลาของคริสเตียนคนนั้น ทำไมจึงไม่เหมือนคริสเตียนคนอื่นๆ ที่มีคำพยาน ประสบการณ์กับการช่วยเหลือ การจัดเตรียมของพระเจ้า ข้าพเจ้ามักมีคำถาม กับคริสเตียนประเภทนี้ ว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะข้าพเจ้าเชื่อพระคัมภีร์ตอนนี้ ในวันแห่งความรอดเราได้ช่วยเจ้า ความรอดเป็นปัจจุบัน พระเจ้าอยู่กับเราในปัจจุบัน พระเจ้ามาทันเวลาเสมอ พระเจ้าไม่เคยมาสาย ต้องมีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ
ในห้องนอนข้าพเจ้ามีกรอบรูปที่มีคำเขียนเป็นภาษาอังกฤษแปลว่า
ข้าพเจ้าเสียใจกับอดีต และหวั่นไหวกับอนาคต แต่ทันใดนั้น พระเจ้าทรงพูดกับข้าพเจ้าว่า ชื่อของเราคือ เราเป็น เมื่อเจ้าเสียใจและจมอยู่กับความล้มเหลวในอดีต มันเป็นสิ่งยาก เพราะเราไม่ได้อยู่ในอดีต ชื่อของเราไม่ใช่เราเคยเป็น และเมื่อเจ้าอยู่กับปัญหาและอนาคตที่ทำให้หวาดกลัว มันก็เป็นสิ่งที่ยากสำหรับเจ้า เพราะชื่อของเราไม่ใช่ เราจะเป็น แต่เมื่อเจ้าดำเนินชีวิตอยู่ในปัจจุบัน มันไม่ยากเลย เพราะชื่อของเราคือ เราเป็นปัจจุบัน
ไม่ยากเลยที่พระเจ้าจะช่วยเรา หากเราอยู่ในปัจจุบันกับพระองค์ ถ้าเราไม่จมอยู่กับอดีต หรือกังวล สำหรับอนาคต เราจะพบกับการช่วยกู้ของพระเจ้าได้ตลอดเวลา ข้าพเจ้าเชื่อว่า ไครอส เวลาของพระเจ้าอยู่บนเส้นเวลาโครนอส 24 ชม. ของเราที่ทำให้เราแตกต่างจากเวลาของคนทั่วไป และเราจะไม่สูญเสียความมั่นใจในความรอด (ปลอดภัย สุขภาพดี และหายดี)เป็นปัจจุบัน
อย่าเสียเซลฟ์ ไปกับโลกนี้ เพราะนี่คือเวลาแห่งความรอด
“สู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์….มั่นใจในความรอด”
1.เพราะพระเจ้าทรงฟังเรา
2. เพราะพระเจ้าทรงช่วยเรา