“สู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์…เปลี่ยนในทางที่ดีขึ้น”

มนุษย์ทุกคน ตั้งแต่คลอดออกมา มีการเจริญเติบโต เปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ เปลี่ยนและเปลี่ยน เพียงแต่ว่าจะดีขึ้น หรือแย่กว่าเดิม ไม่มีใครที่เป็นเหมือนเดิม สิ่งที่เห็นชัด คือการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ  มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า เราไม่ต้องคาดหวังให้เด็กเติบโต เพราะว่า เด็กๆจะเติบโต และเติบโต แม้จะกินมากหรือน้อย เพราะเขาอยู่ในวัยที่กำลังเติบโต เพียงแต่ว่า เขาจะเติบโตอย่างสมบูรณ์ หรือไม่สมบูรณ์ เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเด็กๆ ในแต่ละวัย จนถึงวัยโตเต็มที่  ที่เรียกว่า วัยหนุ่มสาว บางคนเรียกว่าหยุดเติบโตทางกายภาพ แต่ในด้านจิตใจกำลังเติบโต เปลี่ยนแปลงหรือไม่ เรามักจะเรียกการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจด้วยประสบการณ์ จากประสบการณ์หนึ่งสู่อีกประสบการณ์หนึ่ง ประสบการณ์ตั้งแต่วัยเด็กทำให้เขาเติบโตทางด้านอารมณ์ ความรู้สึก แต่มีคำถามว่า อารมณ์ความรู้สึกนั้น มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และหยุดการเติบโตเมื่อไร  แต่เราได้เห็นผู้ใหญ่มีอารมณ์เด็กก็ไม่น้อย  สิ่งที่เราได้พบเห็นอารมณ์ความรู้สึกของคน คืออารมณ์ที่แปรปรวน คือเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวเป็นผู้ใหญ่ เดี๋ยวเป็นเด็ก  จะเรียกว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่แย่ลงหรือไม่   มีภาพเปรียบเทียบอารมณ์ความรู้สึกของเรา เหมือนกับน้ำใสที่มีตะกอนนอนก้น มีเวลาที่อารมณ์ดี และมีเวลาที่อารมณ์เสีย(ขุ่น) ในยามที่ถูกกวน เหมือนเอาไม้มากวนตะกอนที่นอนก้นให้ขึ้นมา ทำให้น้ำใสกลายเป็นน้ำขุ่น  อย่างนี้ไม่เรียกว่า เปลี่ยน แต่คืออาการแปรปรวน   เราเป็นอย่างนี้ไม๊ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น (เติบโต) ทางด้านอารมณ์ ยังแปรปรวนเหมือนเดิม พระคัมภีร์ได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง ไว้อย่างน่าสนใจ

2โครินธ์4:16  16 เหตุ​ฉะนั้น​เรา​จึง​ไม่​ย่อ​ท้อ ถึงแม้ว่า​กาย​ภายนอก​ของ​เรา​กำลัง​ทรุด​โทรม​ไป แต่​จิตใจ​ภาย​ใน​นั้น​ก็​ยัง​คง​จำเริญ​ขึ้น​ใหม่​ทุก​วัน​

ฉบับแปล 2011 แปลคำว่า แต่จิตใจ​ภาย​ใน​นั้น​ก็​ยัง​คงจำเริญขึ้นใหม่ทุกวัน  ด้วยสำนวนว่า  แต่​สภาพ​ภาย​ใน​นั้น​ก็​ได้​รับ​การ​เปลี่ยน​ใหม่​ทุกๆ วัน  คำว่า  จำเริญ หรือคำว่า รับการเปลี่ยนใหม่  ใช้คำว่า อนาไคนู  (Renewed) ที่แปลว่า สิ่งใหม่ที่ไม่เคยเป็น (ความสดใหม่)

พระคัมภีร์ตอนนี้กำลังบอกเราว่า มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น และแย่ลง เมื่อถึงเวลาหนึ่ง ของความเสื่อมทั้งหลาย เราไม่สามารถหยุดการเปลี่ยนแปลงได้ เช่นฝ่ายร่างกาย แต่มีคำว่าชะลอความแก่  Anti aging  แต่ยังไง คนเราก็ต้องเสื่อมถอยด้านความสวยความงาม ความอ่อนวัยภายนอก และจิตใจภายในก็เช่นกัน ก็มีปัจจัยมากมายที่จะทำให้เสื่อมถอยได้ เช่นศีลธรรม กำลังใจ หากเราไม่พยายามที่จะต่อสู้กับความชั่วร้ายทั้งหลาย  Anti evils คำที่ใช้ในพระคัมภีร์คำว่า ไม่ย่อท้อ คือการไม่ยอมแพ้ต่อความชั่วร้าย faint not ไม่ยอมอ่อนข้อ ไม่ยอมอ่อนแอ และไม่ยอมพ่ายแพ้ในทางจิตใจ  ภาษาชาวบ้านเรียกว่า ไม่ถอดใจ ต้องสู้ๆ ที่จะทำดี

กาลาเทีย 6:9  9 อย่า​ให้​เรา​เมื่อยล้า​ใน​การ​ทำ​ดี เพราะ​ว่า​ถ้า​เรา​ไม่​ท้อ​ใจ​แล้ว เรา​ก็​จะ​เกี่ยว​เ​ก็​บ​ใน​เวลา​อัน​สมควร​

คำว่า เมื่อยล้า ใช้คำกรีกคำเดียวกันกับย่อท้อ  “อย่า” เมื่อยล้า  “ไม่” ย่อท้อ คือสิ่งที่พระคัมภีร์กำลังหนุนใจเราทั้งหลายที่กำลังมุ่งหน้าสู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์ ….กับการเปลี่ยนที่ดีขึ้น  และชี้ให้เราได้เห็นความจริงว่า ในการเปลี่ยนในทางที่ดีขึ้น ไม่ใช่เรื่องง่าย มีแรงต้าน มีความรู้สึกที่เรียกว่า เจ็บผสมอยู่ด้วย

มีเรื่องเล่าว่า มีเด็กคนหนึ่งชื่อจอห์น  หนีโรงเรียน แล้วครูก็รายงานให้ทางบ้านรู้ ทางพ่อแม่ ก็ลงวินัยลูกว่า ให้ขึ้นไปนอนบนห้องใต้หลังคาเป็นเวลาสามวัน ในคืนแรก เด็กน้อยนอนไม่หลับ ทั้งเหงา ทั้งกลัวความมืดของห้องใต้หลังคา พ่อของจอห์นก็นอนไม่หลับ เพราะเป็นห่วงลูกที่ยังเล็กที่ไม่เคยนอนคนเดียวในความมืดที่ห้องใต้หลังคา สุดท้ายพ่อก็คว้าหมอนขึ้นไปนอนที่ห้องใต้หลังคา และพบว่า เด็กน้อยจอห์นกำลังนอนร้องไห้ สะอึกสะอื้น พ่อเข้าไปปลอบและบอกว่า จำเป็นที่ลูกจะต้องถูกลงวินัย เพื่อลูกจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และพ่อก็มานอนข้างๆลูกเพื่อร่วมรับการลงวินัยกับลูก ลูกไม่ได้ถูกลงวินัยคนเดียว ลูกมีพ่ออยู่เคียงข้างด้วย

หมอนของพ่อ คือกางเขนที่พระเยซูทรงถูกตรึงเพื่อจะร่วมรับการลงวินัยร่วมกับเราทั้งหลาย ชีวิตที่จะเปลี่ยนในทางที่ดีขึ้น แน่นอน ย่อมมีความเจ็บปวดร่วมด้วย อันเนื่องจากสิ่งที่ไม่ดีในชีวิตของเราต้องถูกลิดออก  ภาพที่พระเยซูตรัสว่า พระองค์เป็นเถาองุ่น และเราทั้งหลายเป็นแขนง

ยอห์น 15:1-2 1 “เรา​เป็น​เถา​องุ่น​แท้ และ​พระ​บิดา​ของ​เรา​ทรง​เป็น​ผู้​ดู​แล​รักษา​2 แขนง​ทุก​แขนง​ใน​เรา​ที่​ไม่​ออก​ผล ​พระ​องค์​ก็​ทรง​ตัดทิ้ง​เสีย และ​แขนง​ทุก​แขนง​ที่​ออก​ผล ​พระ​องค์​ก็​ทรง​ลิด​เพื่อให้​ออก​ผล​มาก​ขึ้น​

พระบิดาเป็นผู้ดูแล ตัดทิ้ง ลิดเพื่อให้ออกผลมากขึ้น  เวลาพระเจ้าทรงลิด ทรงตัด พระเยซูทรงเจ็บปวดร่วมกับเราทุกคน  เพราะพระองค์ทรงเป็นส่วนหนึ่งกับเรา พระองค์ทรงยอมสลายพระองค์เองเพื่อจะต่อติดกับเรา แม้เราทั้งหลายจะรู้สึกว่าเรายังไม่ต่อติดกับพระองค์ในบางครั้งก็ตาม  พระเจ้ากำลังทำให้เราทั้งหลายดีขึ้น ไม่ใช่แค่เปลี่ยนนิดๆ แต่เปลี่ยนชนิดหน้ามือเป็นหลังเท้า

อิสยาห์ 43:19  19 ดู​เถิด เรา​กำลัง​กระทำ​สิ่ง​ใหม่ งอก​ขึ้น​มา​แล้ว เจ้า​ไม่​เห็น​หรือ เรา​จะ​ทำทาง​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร และ​แม่น้ำ​ใน​ที่​แห้ง​แล้ง

พระเจ้ากำลังเปลี่ยนเรา จากคำว่าไม่มีทาง กลายเป็นมีทาง จากที่แห้งแล้ง กลายเป็นความชุ่มชื่นที่ไม่ธรรมดา คือกลายเป็นแม่น้ำ ที่มีน้ำหล่อเลี้ยงคนอื่นด้วย

2โครินธ์ 5:17  17 เหตุ​ฉะนั้น​ถ้า​ผู้ใด​อยู่​ใน​พระ​คริสต์​ ผู้​นั้น​ก็​เป็น​คน​ที่​ถูก​สร้าง​ใหม่​แล้ว สิ่ง​สารพัด​ที่​เก่าๆ ​ก็​ล่วง​ไป นี่​แน่ะ​กลาย​เป็น​สิ่ง​ใหม่​ทั้งนั้น​

นี่คือสำนวนที่บอกว่า สู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์….คือชีวิตที่เปลี่ยนในทางที่ดีขึ้น อาเมน  ให้เราพูดว่า “ฉันจะเปลี่ยน ฉันต้องเปลี่ยน และฉันสามารถเปลี่ยนได้”

ฟิลิปปี 4:13  3 ข้าพเจ้า​ผจญ​ทุก​สิ่ง​ได้ โดย​พระ​องค์​ผู้​ทรง​เสริม​กำลัง​ข้าพเจ้า

และนี่คือพระประสงค์ของพระเจ้าในการประทานกำลังเสริมให้กับเราเพื่อเราจะเปลี่ยนในทางที่ดีขึ้น  และข้าพเจ้าอยากจะให้เราได้มองเห็นว่า มีArea หรือพื้นที่ที่เราจะต้องใช้กำลังมากเป็นพิเศษ (การเสริมกำลังจากพระเจ้า)

 1.จัดการกับขยะอารมณ์  ฟิลิปปี 3:8,10

คำว่า ขยะ ใช้กับสิ่งของที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์  ไร้ประโยชน์สำหรับตนเอง วันนี้ในสูจิบัตร ข้าพเจ้าได้เขียนถึง สิ่งของมากมายที่คริสตจักรไม่ได้ใช้ ทั้งคนเอามาบริจาคก็เยอะ สำหรับเรามันไร้ประโยชน์ แต่กลายเป็นประโยชน์สำหรับคนอื่น เราจึงมีการจัดการกับสิ่งของที่ไม่เป็นประโยชน์กับเราโดยการบริจาคให้กับสมาคมคนพิการ และของบางอย่างที่คริสตจักรบางแห่งยังขาดอยู่ คริสตจักรเรามีเกิน เราก็ส่งต่อไปให้คริสตจักรเหล่านั้น นี่คือสิ่งที่เราเรียกว่า การจัดการกับขยะ  เมื่อเราจัดการออกไป เราได้พื้นที่ที่จะใช้สอยกลับคืนมา เป็นประโยชน์มากขึ้น เรียกว่า กำไร แต่ถ้าเราไม่จัดการกับสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ พื้นที่ที่จะใช้สอยถูกนำมาใช้เก็บ นั่นเรียกว่า ขาดทุน ซึ่ง อ.เปาโลได้ใช้คำเหล่านี้ ในการจัดการกับชีวิตการเป็นคริสเตียนของท่านเช่นกัน  ในหนังสือฟิลิปปี

ฟิลิปปี 3:8,10  8 ยิ่ง​กว่า​นั้น​ข้าพ​เจ้า​ถือ​ว่า​ทุก​สิ่ง​เป็น​การ​ขาด​ทุน เพราะ​เหตุ​คุณ​ค่า​อัน​สูง​ยิ่ง​ของ​การ​ได้​รู้​จัก​พระ​เยซู​คริสต์​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​ข้าพ​เจ้า เพราะ​เหตุ​พระ​องค์​ข้าพ​เจ้า​ยอม​ขาด​ทุน​ทุก​อย่าง และ​ถือ​ว่า​สิ่ง​เหล่า​นั้น​เป็น​เหมือน​เศษ​ขยะ​เพื่อ​ว่า​ข้าพ​เจ้า​จะ​ได้​พระ​คริสต์​เป็น​กำ​ไร ….10 ข้าพเจ้า​ต้อง​การ​จะ​รู้จัก​พระ​องค์ และ​ได้รับ​ประสบการณ์​ใน​ฤทธิ์​เดช เนื่อง​ใน​การ​ที่​พระ​องค์​ทรง​คืน​พระ​ชนม์​นั้น และ​ร่วม​ทุกข์​กับ​พระ​องค์ คือ​ยอม​ตั้ง​อารมณ์​ตาย​เหมือน​พระ​องค์​(2011)

ดังนั้น การจัดการกับขยะ (หยากเยื่อ ในฉบับแปล 1971) คือการจัดการกับอารมณ์ของตนเอง  การตั้งอารมณ์ตาย คือการจัดการกับขยะอารมณ์ คือรับสภาพเหมือนอย่างพระเยซูคริสต์บนไม้กางเขน พระองค์ทรงตายต่อความปรารถนาของตนเอง มุ่งเป้าหมาย คือมีชีวิตอยู่เพื่อจิตวิญญาณของคนมากมาย นี่คือสิ่งที่เปาโลได้กล่าวต่อไปว่า

ฟิลิปปี 3:11  11 ถ้า​เป็นไป​ได้​ข้าพเจ้า​ก็​จะ​ได้​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ความ​ตาย​ด้วย​

คำว่า เป็นขึ้นมาจากความตาย คือประสบการณ์ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป คำว่า เป็นขึ้นมา (Resurrection) มาจากรากศัพท์คำว่า สร้างใหม่ beget , produce, create นี่คือกระบวนการก่อนการเปลี่ยนในทางที่ดีขึ้น ต้องจัดการกับขยะ (หยากเยื่อ) ทางอารมณ์ จัดการด้วยวิธีเดียวคือ ต้องประหารให้ตาย เอาออกไป

ลูกา 6:41-42  41 เหตุ​ไฉน​ท่าน​มองดู​ผง​ที่​ใน​ตา​พี่​น้อง​ของ​ท่าน แต่​ไม้​ทั้ง​ท่อน​ที่​อยู่​ใน​ตา​ของ​ท่าน ท่าน​ก็​ไม่​รู้สึก​42 เหตุ​ไฉน​ท่าน​จึง​จะ​พูด​กับ​พี่​น้อง​ของ​ท่าน​ว่า ‘พี่​น้อง​เอ๋ย ให้​เรา​เขี่ย​ผง​ออก​จาก​ตา​ของ​เธอ’ แต่​ที่​จริง​ท่าน​เอง​ยัง​ไม่​เห็น​ไม้​ทั้ง​ท่อน​ที่​อยู่​ใน​ตา​ของ​ท่าน ท่าน​คน​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด จง​ชัก​ไม้​ทั้ง​ท่อน​ออก​จาก​ตา​ของ​ท่าน​ก่อน แล้ว​ท่าน​จะ​เห็น​ได้​ถนัด จึง​จะ​เขี่ย​ผง​ออก​จาก​ตา​พี่​น้อง​ของ​ท่าน​ได้​

เมื่อวานข้าพเจ้าเห็นขยะลอยมาตรงข้างบ้านพอดี ก็เลยถือโอกาสช้อนออก ก่อนหน้านี้ รู้สึก ว่าขยะในคลองมีเยอะ แต่มันอยู่ไกล มันทำให้รำคาญ จะช้อนออกก็ไม่ได้ เพราะมันไม่ลอยมาหน้าบ้าน แต่พอมันมาถึงหน้าบ้าน ก็สามารถช้อนออกได้ ขณะช้อนขยะไป ก็นึกถึงเพื่อนบ้าน (เจ้าของสวน) ที่ข้าพเจ้าได้เห็นเขาช้อนขยะออกจากคลองเช่นกัน ข้าพเจ้าเคยคิดว่า ทำไมเขาไม่ช้อนมันออก ก็เพราะมันยังไม่มาอยู่ตรงหน้า แต่ข้าพเจ้าเห็นและคอยมองขยะระยะไกลด้วยความรำคาญใจ บางที่ เพื่อนบ้านข้าพเจ้าก็คงจะคิดเหมือนกันว่า เมื่อเขาเห็นขยะลอยมาตรงบ้านข้าพเจ้า ทำไมข้าพเจ้าจึงไม่ช้อนออก ก็เพราะเวลานั้นข้าพเจ้าไม่ได้อยู่ที่ริมคลอง ไม่ได้มองเห็นขยะลอยมาใกล้ เช่นเดียวกัน คำที่พระเยซูใช้ว่า ไม้ทั้งท่อนอยู่ในตาของเรา เรามักจะมองไม่เห็น เรามักมองเศษผง (ระยะไกล) ในตาของคนอื่น  ขอให้เราเลิกที่จะติคนอื่น และหันกลับมารอคอยโอกาสที่จะจัดการกับขยะในตัวเอง และนี่คือการเปลี่ยนในทางที่ดีขึ้น  จัดการกับขยะอารมณ์ของตนเอง ก่อนอันดับแรก

 2.เพิ่มพื้นที่หัวใจให้กว้างขึ้น   2เปโตร 1:5-8

5 เพราะ​เหตุ​นี้​เอง ท่าน​จง​อุตส่าห์​จน​สุดกำลัง​ที่​จะ​เอา​คุณธรรม​เพิ่ม​ความ​เชื่อ เอา​ความ​รู้​เพิ่ม​คุณธรรม​6 เอา​ความ​เหนี่ยว​รั้ง​ตน​เพิ่ม​ความ​รู้ เอา​ขันตี​เพิ่ม​ความ​เหนี่ยว​รั้ง​ตน และ​เอา​ธรรม​เพิ่ม​ขันตี​7 เอา​ความ​รัก​ฉัน​พี่​น้อง​เพิ่ม​ธรรม และ​เอา​ความ​รัก​คน​ทั่วไป​เพิ่ม​ความ​รัก​ฉัน​พี่​น้อง​8 ถ้า​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เพียบพร้อม​ด้วย​ของ​ประทาน​เหล่า​นี้​แล้ว ​ก็​จะ​กระทำ​ให้​ท่าน​เกิด​ประโยชน์ และ​เกิดผล​ที่​ได้​ซาบซึ้ง​ใน​พระ​เยซู​คริสต​เจ้า​ของ​เรา​

คำที่เปโตรใช้คำว่า “เพิ่ม” มาจากรากศัพท์แปลว่า ยกขึ้น แข็งแรงขึ้น (ด้วยกำลังอย่างผู้ชาย) เราจะพบว่า พื้นที่ที่ต้องการให้เพิ่มขึ้น ได้แก่

1.1   ความเชื่อ  จะต้องเข้มแข็งขึ้น ด้วยการเสริมด้วยคุณธรรม (ความดีงาม)

1.2   คุณธรรม จะต้องเข้มแข็งขึ้นด้วยการเสริมด้วยการเสริมด้วยความรู้ (ของพระเจ้า)

1.3   การรู้ (ของพระเจ้า)จะต้องเข้มแข็งขึ้นด้วยการเสริมด้วยความเหนี่ยวรั้งตน (การควบคุมตนเอง)

1.4   การควบคุมตนเอง จะต้องเข้มแข็งขึ้นด้วยการเสริมด้วยขันติ (ความอดกลั้น)

1.5   การอดกลั้น จะต้องเข้มแข็งขึ้นด้วยการเสริมด้วย ความยำเกรงพระเจ้า

1.6   ความยำเกรงพระเจ้า จะเข้มแข็ง ด้วยการเสริมด้วยความรักฉันท์พี่น้อง

1.7   และความรักฉันท์พี่น้อง จะเข็มแข็ง ด้วยการเสริมด้วยความรักคนทั่วไป (การทำดี ทำกุศลกับคนอื่นๆ)

จะเห็นว่า พื้นที่ของหัวใจ สามารถขยายได้ และไร้ขอบเขต ไม่จำกัดวงเฉพาะคนที่เรารัก  แต่เราสามารถรักคนที่ไม่รู้จัก คนแปลกหน้าได้

ดาเนียล ชาวอินเดียมาเยี่ยมเรา อยู่กับเราสามสี่วันที่เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เขาพูดแต่คำว่า เขาเป็นคนแปลกหน้า แต่ได้รับการดูแลใส่ใจจนเขาแปลกใจ ว่าทำไมเราจึงปฏิบัติกับเขาดียอดเยี่ยม จนถึงเวลาที่จะจากกัน เขาพูดว่า เขารู้สึกเหมือนกำลังจะออกจากคานาอัน  เขาบอกว่า เขาได้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของคนในคริสตจักรเราไม่ใช่แค่เรื่องที่พัก อาหาร เงิน แต่คือความมั่งคั่งในความรัก ในฝ่ายจิตวิญญาณ  ข้าพเจ้าตอบคนบางคนว่า  This is our signature นี่คือ ลักษณะเด่นของเรา อาเมน เรากำลังเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และดีขึ้น เราเอาขยะออก และขยายพื้นที่ของหัวใจเราให้กว้างขึ้น สู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์ พร้อมที่จะต้อนรับคนทุกคนได้

ฮีบรู 13:1-2 1 จง​ให้​ความ​รัก​ฉัน​พี่​น้อง​มี​อยู่​ต่อ​กัน​เสมอ​ไป​2 อย่า​ละเลย​ที่​จะ​ต้อนรับ​แขก​แปลก​หน้า เพราะ​ว่า​โดย​การ​กระทำ​เช่นนั้น บาง​คน​ก็​ได้​ต้อนรับ​ทูตสวรรค์​โดย​ไม่​รู้ตัว

มีคำพูดหนึ่งกล่าว่า  ถ้าเรารักคนที่เรามองเห็นไม่ได้ เราจะรักพระจ้าที่เรามองไม่เห็นได้อย่างไร  ในทำนองเดียวกัน ถ้าเราไม่รักพี่น้องของเรา เราจะรักคนอื่นได้อย่างไร

ให้พูดกับหัวใจของเรา “ฉันจะเปลี่ยน ฉันต้องเปลี่ยน และฉันสามารถเปลี่ยนได้ และฉันกำลังเปลี่ยน”  ขอให้เราทุกคนมีการเปลี่ยนแปลงของชีวิต จิตใจ อารมณ์ความรู้สึกที่ดีขึ้น อาเมน

 “สู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์…เปลี่ยนในทางที่ดีขึ้น”

1.จัดการกับขยะอารมณ์ 

2.เพิ่มพื้นที่หัวใจให้กว้างขึ้น  

By admin