“แม่…ผู้รับภาระของลูก”
สวัสดีพี่น้องที่รักในพระคริสต์ วันนี้เป็นวันที่ทางคริสตจักรของเราได้จัดรายการพิเศษในหัวข้อที่ชื่อว่า “แม่…ผู้รับภาระของลูก” ในช่วงเวลานมัสการของวันนี้ รวมทั้งคำเทศนา จะเกี่ยวข้องกับคุณแม่ทุกท่าน เพื่อจะสดุดี ขอบพระคุณคุณแม่ ไม่มีใครเกิดมาโดยไม่อาศัยท้องแม่ ท้องของแม่คือที่รับภาระของลูกแห่งแรกก่อนที่ลูกจะออกมาลืมตาดูโลก ท้องของแม่เป็นศูนย์กลางของการหล่อเลี้ยง แบกรับน้ำหนักชีวิตของลูกทุกอย่าง มีคนบางคนออกไอเดียว่า อยากรู้ว่าแม่แบกภาระการตั้งท้องลูกอย่างไร ให้เอาแตงโมผูกไว้ที่ท้องตลอดเวลา ไม่ว่าจะเดิน จะนั่ง เข้าห้องน้ำทำธุระ ทุกกิจวัตร แม้กระทั่งเวลานอน ตลอดเวลาเก้าเดือน แล้วจะพบว่า ภาระนี้ทั้งหนัก และน่าอึดอัดขนาดไหน แต่แม่ก็อดทน ยินดีที่จะแบกภาระนี้จนกว่าลูกจะคลอด พระคัมภีร์ได้กล่าวถึงความน่ายินดีของคนเป็นแม่ในช่วงเวลาหลังคลอดลูกว่า ยอห์น16:21 เมื่อผู้หญิงจะคลอดบุตรนางก็มีแต่ความทุกข์ เพราะถึงกำหนดแล้ว แต่เมื่อคลอดบุตรแล้ว นางก็ไม่คิดถึงความเจ็บปวดนั้นเลย เพราะมีความชื่นชมยินดี ที่คนหนึ่งเกิดมาในโลก พระเยซูทรงเป็นผู้ตรัส ใช้ภาพเปรียบ เทียบความทุกข์ของจิตใจผู้เป็นแม่ ที่ต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวด แต่เมื่อคนหนึ่งได้เกิดมาในโลก แม่ไม่คิดถึงความเจ็บปวดนั้นเลย เพราะมีความชื่นชมยินดีที่ลูกเกิดมา จะเห็นว่า ภาระของแม่ นั้นไม่ใช่แค่น้ำ หนัก แต่เป็นความเจ็บปวดก่อนที่ลูกจะเกิดมา ถ้าแม่ไม่ยอมเจ็บปวด เราทั้งหลายก็จะไม่ได้เกิดออกมา แม้ในปัจจุบันจะมีการผ่าคลอดก็ตาม ก็ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดของการผ่าคลอดได้ นั่นแสดงให้เห็นว่า กว่าจะเป็นคนเต็มตัวในท้องแม่ แม่ต้องรับภาระของชีวิตหนึ่ง กว่าจะคลอดออกมาเป็นบุคคลตามกฎหมาย แม่ก็ต้องเจ็บปวดเพื่อเรา ลูกทั้งหลายค่ะ หยุดกรรโชก ข่มขู่ ดูถูก ดูแคลน กอบโกยความรักจากแม่ฝ่ายเดียว จงเป็นผู้ตอบแทนพระคุณแม่ให้มากสุดความสามารถของตนเอง หยุดทำให้แม่ต้องร้องไห้ เสียใจ เพราะไม่มีใครจะทำให้แม่เจ็บปวดได้เท่ากับลูกของตนเองที่ทำร้ายจิตใจแม่ สำหรับลูกที่ปฏิบัติดีต่อแม่ ก็จงยิ่งมีสติปัญญามากยิ่งขึ้นที่จะตอบแทนพระคุณของท่าน ให้ลูกๆทุกคนจงไปดีมาดี และมีชีวิตยืนยาว ลูกที่ประสบความสำเร็จ ลูกที่มีอายุยืนยาว นี่แหละคือการดำเนินชีวิตที่ไม่เป็นภาระกับแม่ มีแม่หลายคนต้องแบกภาระของลูกตั้งแต่อยู่ในท้อง จนคลอดออกมา ต้องเลี้ยงดู ฟูมฝัก จนเติบใหญ่ จนสุนัขเลียก้นไม่ถึง ลูกบางคนก็ยังเป็นภาระให้กับแม่ ทำให้แม่เดือดร้อน (แต่แม่ที่รักลูกไม่รู้สึกว่า เดือด ร้อน และพร้อมปัดเป่าความเดือดร้อนของลูกเสมอ) ลูกบางคนมีอายุจนเกษียร ก็ยังทำให้แม่ต้องหนักใจ ขออย่าให้เราเป็นหนึ่งในลูกบางคนนั้นเลย และหยุดได้แล้วกับการเป็นภาระให้กับแม่ แต่จงรับภาระของแม่มาเป็นภาระของตนเอง จงเรียนรู้จากพระเยซู พระองค์เป็นครูที่ดีแก่ทุกคน มัทธิว 11:29-30 29 จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อม และจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก30 ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ และภาระของเราก็เบา” แม่…ผู้รับภาระของลูก ขอให้ท่านได้พักหายเหนื่อยกับพระเยซู อาเมน