“สู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์…เดินตามการนำของพระเจ้า”

มีเพลงเพื่อชีวิต  “คนกับหมา” ของพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ  เนื้อเพลงได้กล่าวถึง ชีวิตมีแต่หมานำ  เดินตามหมาเดิน ต้องสร้างสัมผัสจำเป็นเหนือกฏเกณฑ์คนธรรมดา เลือกไม่ได้ เกิดมาพร้อมกับสังขารที่ไม่สมประกอบ คือตาบอด อาศัยและพึ่งพาดวงตาของหมา ชีวิตมีแต่หมาพาไป มีแต่หมานำทาง ฟังเพลงนี้แล้วทำให้มองเห็นชีวิตของคนตาบอดไม่มีทางเลือก  สำหรับคนตาดี เวลาเราจูงหมา เราจะไม่ปล่อยให้หมานำ เราจะนำหมา จะเห็นว่า แม้จะเกิดการยื้อฉุดกระชาก แต่สุดท้าย เรายังคงนำหมา มิใช่ให้หมานำ  มีวีดีโอหมาตัวโตจูงโดยเด็ก กำลังของหมามากกว่าก็ลากเด็กไป นี่คือหมานำอีกแบบ แบบใช้กำลัง

บางคนพอต้นเดือน กลางเดือน ไม่เป็นอันทำอะไร เฝ้ารอการนำของสิ่งที่เป็นตัวเลข เรียกว่าอะไร….หวย อันนี้ก็ให้หวยนำ

ต้นไม้ ใบหญ้า สัตว์ประหลาด สารพัดที่จะเอามาตีเป็นตัวเลขเด็ด  ทะเบียนรถ  วันเกิด วันตาย ก็เอามาตีความ

มีชาวบ้านได้เดินทางมาจุดธูปขอโชคลาภที่บริเวณดังกล่าวต้องมีโทรศัพท์ที่ใช้ถ่ายรูปได้ แล้วใช้โทรศัพท์เดินถ่ายรูปกันไปโดยรอบๆ ต้นข่อยและต้นตะโกนา หากดูในระยะไกลจะคล้าย กับเกมตามล่าหาโปเกม่อนที่กำลังฮิตอยู่ในขณะนี้  อันนี้เรียกว่า ความโลภนำ

โปเกมอน โก ที่กำลังฮิตในท่ามกลางคนไทย คนไทยกำลังให้โปเกม่อนนำ คุณรู้ไม๊ว่า โปเกมอน แปลว่า อะไร กระเป๋าของปีศาจ Pocket monster แนวคิดของเกมคือให้คนเดินตามตัวละครในเกม และตามล่า สะสม และต่อสู้ เพื่อเป็น ยิมลีดเดอร์ (นักฝึกผู้ทรงพลัง  8 คน) เพื่อเป็นนักฝึกผู้มีพรสวรรค์ 4 คน (จตุรเทพ) แล้วไปถึงการต่อสู้เพื่อชนะนักฝึกจตุรเทพ ก็จะกลายเป็นแชมเปียน คือเป็น โปเกม่อนมาสเตอร์คนต่อไป  (แชมป์) เนื้อหาของเกมมีแค่นี้

ด้านสุขภาพ มีเกมโปเกม่อนเวอร์ชั่นหนึ่งทำให้เด็กญี่ปุ่นถูกส่งเข้าโรงพยาบาลเพราะเป็นลมชัก 700 คน ในปี 1997

มีอะไรอีกที่เรายอมให้มานำชีวิตของเรา ในด้านอารมณ์ สุขภาพจิต สุขภาพร่างกาย หรือแม้แต่จิตวิญญาณ ความเชื่อแบบแปลกๆ

มีพี่น้องส่งคลิปวีดีโอการพูดของวิทยากรชาวไทยคนหนึ่งที่ถือว่าเป็นอันดับหนึ่งในด้านไอทีของบ้านเรา  ในคำที่พูดถึงการเปลี่ยนแปลง หรือการนำของระบบไอทีของโลกกำลังนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ทุกคน สรุปเนื้อหาสาระที่วิทยากรคนนี้พูด คือ อีก  2 ปี ธนาคารเจ๊ง!! ห้างใหญ่ล้ม!! ลูกจ้างตกงาน!! โลกเรากำลังจะเปลี่ยน ประเทศไทยกำลังจะเปลี่ยนอีก2ปี โลกเปลี่ยน สังคมเปลี่ยน คุณต้องเปลี่ยน หากคุณไม่เปลี่ยน เขาจะเปลี่ยนคุณ

นี่คือความหมายที่แปลว่า เรากำลังให้อะไรนำเราอยู่   โลกนี้กำลังให้วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีที่วางอยู่บนหลักความโลภ ความอยากของมนุษย์มาออกแบบชี้นำให้มนุษย์เดินตาม เราจะอยู่อย่างไร คนที่เป็นวิทยากรพูดประโยคหนึ่งน่าสนใจมาก เขาพูดว่า “ผมไม่รู้ว่าเรากำลังต่อสู้อยู่กับอะไร” ไม่สามารถรู้ว่าอนาคตมันจะเกิดอะไรขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงในเชิงล่มสลายหายไปของอาชีพ ของงาน แม้แต่ความเป็นปัจเจกบุคคล ต่างถูกโลกอินเตอร์เน็ตชี้นำ พูดอย่างภาษาชาวบ้านว่า เรากำลังถูกเปลี่ยนไปเป็นอะไรที่ไม่ใช่ตัวเรา ความเป็นตัวเรากำลังจะกลายพันธ์เป็นสปีชี่ใหม่แบบตัวละครในเกมโปเกม่อน?

เมื่อก่อนเรามีคำพูดว่า สถานการณ์พาไป แต่ตอนนี้ ธุรกิจเกมกำลังพาผู้คนไป และวิทยากรได้กล่าวถึงธุรกิจเกมส์กำลังทรงอิทธิพลที่สุดในโลกเวลานี้ เราซึ่งเป็นคริสเตียน เราต้องให้พระเจ้าเป็นผู้พาเราไป มิใช่ให้อิทธิพลของโลกพาเราไป พระคัมภีร์ได้กล่าวถึงชีวิตของคนๆหนึ่งที่ยังยืนหยัดในการให้พระเจ้าทรงนำ ในขณะที่สภาพแวดล้อม หรือเรียกว่า โลกของเขาเต็มไปด้วยสถานการณ์ที่กำลังผลักดันให้เขาเปลี่ยน ถ้าไม่ไป เขาจะเป็นคริสเตียนต่อไปไม่ได้ โลกของคริสเตียนเมื่อสองพันปีที่แล้วเป็นโลกของการข่มเหงคริสเตียน แต่โลกของคริสเตียนในยุคของเราวันนี้ เป็นโลกของการหลอกลวงคริสเตียน ซึ่งการตอบสนองของคริสเตียนที่จะยืนหยัดมั่นคงในพระวจนะและประกาศเรื่องพระเยซูคริสต์ เราจะรับมืออย่างไร เราจะมาเรียนรู้วิธีรับมือกับการเปลี่ยนแปลงจากคริสเตียนยุคแรกที่ได้ชื่อว่า

1.ผู้เปลี่ยนโลก    กิจการ 8:1,4-8

​…คราว​นั้น​เกิด​การ​ข่ม​เหง​คริสตจักร​ครั้ง​ใหญ่​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม และ​ศิษย์​ทั้ง​ปวง​นอก​จาก​พวก​อัครทูต​ได้​กระจัด​กระจาย​ไป​ทั่ว​แว่น​แคว้น​ยูเดีย​กับ​สะมาเรีย​…4 ฝ่าย​ศิษย์​ทั้ง​หลาย​ซึ่ง​กระจัด​กระจาย​ไป ​ก็​เที่ยว​ประกาศ​พระ​วจนะ​นั้น​5 ส่วน​ฟีลิป​ก็​ไป​ยัง​เมือง​หนึ่ง​ใน​แคว้น​สะมาเรีย และ​ประกาศ​เรื่อง​พระ​คริสต์​ให้​ชาว​เมือง​นั้น​ฟัง​6 ประชาชน​ก็​พร้อม​ใจ​กัน​ฟัง​ถ้อยคำ​ที่​ฟีลิป​ได้​ประกาศ เพราะ​เขา​ได้​ยิน​ท่าน​พูด และ​ได้​เห็น​หมาย​สำคัญ​ซึ่ง​ท่าน​ได้​กระทำ​นั้น​7 ด้วย​ว่า​ผี​โสโครก​ที่​สิง​อยู่​ใน​คน​หลาย​คน​ได้​พา​กัน​ร้อง​ด้วย​เสียง​ดัง แล้ว​ออกมา​จาก​คน​เหล่า​นั้น และ​คน​ที่​เป็น​โรค​อัมพาต​กับ​คน​ง่อย​ก็​หาย​เป็น​ปกติ​8 จึง​เกิด​ความ​ปลื้ม​ปีติ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​เมือง​นั้น

ฟิลิป ไม่ใช่ฟิลิปอัครทูตสิบสองคน แต่คือมัคนายหนึ่งในเจ็ดคนที่ถูกคัดเลือกออกมารับใช้ด้วยคุณลักษณะชีวิตที่เด่นชัด

กิจการ 6:3-5 3 เหตุ​ฉะนั้น​พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย​จง​เลือก​เจ็ด​คน​ใน​พวก​ท่าน ที่​มี​ชื่อเสียง​ดี​ประกอบด้วย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​และ​สติปัญญา เรา​จะ​ตั้ง​เขา​ให้​ดูแล​การ​งาน​นี้​4 ฝ่าย​พวก​เรา​จะ​ขะมักเขม้น​อธิษฐาน และ​รับ​ใช้​พระ​เจ้า​ใน​พันธ​กิจ​แห่ง​พระ​วจนะ​เสมอ​ไป”5 คน​ทั้ง​หลาย​เห็นชอบ​กับ​คำ​นี้ จึง​เลือก​สเทเฟน​ผู้​ประกอบด้วย​ความ​เชื่อ​และ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์ กับ​ฟีลิป​ โปร​โครัส นิ​คา​โนร์ ทิโมน ปาร​เมนัส และ​นิ​โค​เลาส์​ชาว​เมือง​อันทิโอก​ซึ่ง​เป็น​ผู้​เข้า​จารีต​ฝ่าย​ศาสนา​ยิว​

งานรับใช้ที่ฟิลิปทำคือการแจกทาน แจกอาหารแก่บรรดาผู้เชื่อทั้งคนต่างชาติ และคนยิว หลังจากสเทเฟนตาย ก็เกิดการข่มเหงคริสเตียนในกรุงเยรูซาเล็ม สาวกเจ็ดสิบคน และร้อยยี่สิบคน ยกเว้นอัครทูตสิบเอ็ดคน ต้องหนีกระจัดกระจายออกนอกกรุงเยรูซาเล็ม ออกไปที่แคว้นยูเดียและสะมาเรียซึ่งถือว่าเป็นบ้านนอก เมืองห่างไกลออกไป ฟิลิปเป็นคนหนึ่งที่ต้องหนีด้วย  และฟิลิปได้หนีไปที่สะมาเรีย ก่อนหน้านี้ สะมาเรียคือเมืองที่พระเยซูเคยประกาศ กับหญิงที่บ่อน้ำ และชาวเมืองก็พากันมาหาพระเยซู ฟิลิปถูกสถานการณ์การข่มเหงความเป็นสาวกของพระเยซูของเขา สถานการณ์ในกรุงเยรูซาเล็มทำให้ไม่สามารถประกาศตัวการเป็นสาวกของพระเยซู แต่การข่มเหงไม่สามารถทำลายความเป็นสาวกของพระเยซูในชีวิตของฟิลิปได้ ดังนั้น เมื่อเขาไปยังสะมาเรีย ฟิลิปยังสำแดงชีวิตที่เป็นสาวกของพระเยซู และที่นี่ คือการต่อยอดจากที่พระเยซูได้หว่านพระวจนะของพระเจ้าไว้ก่อนแล้ว

 4 ฝ่าย​ศิษย์​ทั้ง​หลาย​ซึ่ง​กระจัด​กระจาย​ไป ​ก็​เที่ยว​ประกาศ​พระ​วจนะ​นั้น

คำที่พระคัมภีร์บันทึกตอนนี้ ว่า ประกาศพระวจนะ Logos โลกอส พระวจนะในที่นี้หมายถึงอะไร หนังสือยอห์นได้กล่าวถึงพระเยซูโดยใช้คำว่า Logos พระวาทะมาบังเกิด คือพระเยซู  บรรดาศิษย์ที่กระจัดกระจายเพราะการข่มเหง พวกเขาไปพร้อมกับพระวจนะที่เป็นชีวิต (สำเร็จแล้ว) คือพระเยซูคริสต์

5 ส่วน​ฟีลิป​ก็​ไป​ยัง​เมือง​หนึ่ง​ใน​แคว้น​สะมาเรีย และ​ประกาศ​เรื่อง​พระ​คริสต์​ให้​ชาว​เมือง​นั้น​ฟัง

การประกาศพระวจนะก็คือการประกาศพระคริสต์นั่นเอง พระคัมภีรืได้บันทึกว่า นอกจากฟิลิปจะยืนหยัดความเชื่อของเขา และรักษาสถานการเป็นสาวกของพระเยซูด้วยการประกาศว่าพระเยซูเป็นพระมาซีฮาที่มาแล้วตามคำพยากรณ์ พระคัมภีร์ยังบันทึกว่า ประชาชนฟังฟิลิป เพราะ ​...เขา​ได้​ยิน​ท่าน​พูด และ​ได้​เห็น​หมาย​สำคัญ​ซึ่ง​ท่าน​ได้​กระทำ​นั้น​

ฟิลิปได้พูดให้คนฟัง ถ้าไม่พูด คนจะไม่ฟัง  เราทั้งหลายซึ่งเป็นคริสเตียน เราไม่ค่อยยอมพูด เราเงียบ เราคิดว่าคนจะไม่ฟังเรา เราคิดว่า สิ่งที่เราควรจะพูด เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ ต้องรอสถานการณ์พาไป วันนี้ มีหลายคนในท่ามกลางเราเงียบ แท้ที่จริง การไม่พูด ไม่เป็นพยานของพระเยซูคริสต์ในชีวิตของพวกเรา ก็คือการปล่อยให้สถานการณ์ของการข่มเหงรูปแบบแอบแฝงพาเราไปให้เราเงียบ ไม่พูด ไม่เป็นพยาน เราปล่อยให้เรื่องของปากท้องความอยู่รอด การดิ้นรนในสังคมพาเราไป ให้เราเงียบเรื่องพระเยซู แต่พูดเสียงดังเรื่องปากท้อง เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องสารพัดที่กระแสของโลกกำลังผลักเราไป

แต่เราจะเห็นว่า คริสเตียนยุคแรกอย่างฟิลิป ไม่เงียบ และเมื่อเขาไม่เงียบ อะไรเกิดขึ้น  ข้าพเจ้าเชื่อว่า การไม่เงียบของฟิลิปนำไปสู่หมายสำคัญ การอัศจรรย์ผ่านชีวิตของฟิลิป

พี่น้อง การประกาศ เป็นพยานเพื่อพระเยซูคริสต์คือการเปิดประตูให้กับหมายสำคัญและการอัศจรรย์เกิดขึ้นในชีวิตของเรา  สาวกของพระเยซูในยุคแรกถูกขนานนามว่า ผู้เปลี่ยนโลก พวกเขาไม่ได้ถูกสถานการณ์เปลี่ยน แต่พวกเขากลับเป็นผู้มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงโลก และคนรอบข้าง

​7 ด้วย​ว่า​ผี​โสโครก​ที่​สิง​อยู่​ใน​คน​หลาย​คน​ได้​พา​กัน​ร้อง​ด้วย​เสียง​ดัง แล้ว​ออกมา​จาก​คน​เหล่า​นั้น และ​คน​ที่​เป็น​โรค​อัมพาต​กับ​คน​ง่อย​ก็​หาย​เป็น​ปกติ​8 จึง​เกิด​ความ​ปลื้ม​ปีติ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​เมือง​นั้น

ผีโสโครก วิญญาณชั่ว ในยุคนั้นทำให้คนหมดอิสรภาพ เป็นทาส เป็นอัมพาต ง่อย ป่วย การพูดเรื่องพระเยซูของฟิลิป (คนธรรมดา) ได้เปลี่ยนบรรยากาศที่น่าเศร้าให้กลายเป็นความชื่นชมยินดี  ฟิลิปหนีการข่มเหง(อิทธิพลในเวลานั้นที่พยายามเปลี่ยนเขา) แต่ฟิลิปไม่ยอม เขายังคงยืนหยัดที่จะเป็นผู้เปลี่ยนโลก อย่างที่พระเยซูได้เป็นต้นแบบให้กับเขา และเขาทำสำเร็จ เหมือนกับสาวกอีกหลายๆคนทำสำเร็จ และส่งต่อข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์มาถึงเราในวันนี้

แล้วเราในทุกวันนี้ เรากำลังถูกสถานการณ์ (ธุรกิจเกมส์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกของเราในเวลานี้) กำลังผลักดันให้เราเปลี่ยน เรากำลังหนี หรือกำลังถูกเปลี่ยน วันนี้ เราไม่ต้องหนีด้วยระยะทาง แต่เราต้องหนีด้วยระยะของจิตใจ และความคิดให้ออกห่างจากอิทธิพลเหล่านี้  คนที่ไม่เชื่อพระเจ้าที่มีความคิด มีสติ มีความรู้เรื่องไอทีระดับต้นๆของเมืองไทย ยังพูดประโยคว่า ผมไม่รู้ว่า เรากำลังสู้อยู่กับอะไร (แสดงให้เห็นถึงความกลัว และไม่รู้ว่าจะหนีออกจากสิ่งนี้ที่ใกล้ตัวมากได้อย่างไร)

โลกเปลี่ยน สังคมเปลี่ยน คุณต้องเปลี่ยน หากคุณไม่เปลี่ยน เขาจะเปลี่ยนคุณ สำหรับคริสเตียน เราถูกกำหนดไว้ให้เป็นผู้เปลี่ยนโลก ภายใต้การนำของพระเจ้า ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่า ฟิลิปอยู่ภายใต้การนำของพระเจ้า เขาจึงกลายเป็นผู้เปลี่ยนโลกรอบข้างเขาในเวลานั้น

2.ผู้รู้ว่าใครคือทูตของพระเจ้า    กิจการ 8:26-28

26 แต่​ทูต​องค์​หนึ่ง​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​สั่ง​ฟีลิป​ว่า “จง​ลุก​ขึ้น ไป​ยัง​ทิศ​ใต้​ตาม​ทาง​ที่​ลง​ไป​จาก​กรุง​เยรูซาเล็ม​ถึง​เมือง​กา​ซา” (​ซึ่ง​เป็น​ทาง​เปล่า​เปลี่ยว​)27 ฝ่ายฟีลิ​ป​ก็​ลุก​ขึ้น​ไป และ​ดู​เถิด​มี​ชาว​เอธิโอเปีย​คน​หนึ่ง​เป็น​ขันที เป็น​ข้าราชการ​ของ​พระ​นาง​คาน​ดา​สี​พระ​ราชินี​ของ​ชาว​เอธิโอเปีย และ​เป็น​นาย​คลัง​ทรัพย์​ทั้งหมด​ของ​พระ​ราชินี​นั้น ได้มา​นมัสการ​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม​28 ขณะ​นั่ง​รถ​กลับไป ท่าน​อ่าน​หนังสือ​อิสยาห์​ผู้เผย​พระ​วจนะ​อยู่​

จนถึงวันนี้ ไม่มีใครรู้ว่า ทูต​องค์​หนึ่ง​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าที่​ได้​สั่ง​ฟีลิป มาในรูปแบบไหน เป็นทูตสวรรค์มิคาเอล หรือทูตสวรรคกาเบรียล (โดยปกติพระคัมภีร์จะระบุชื่อทูตสวรรค์ที่พระเจ้าส่งมาพบกับคนที่พระเจ้าจะสื่อสาร) แต่คำว่า ทูตของพระเจ้า ตรงนี้ใช้สำนวนเดียวกันกับที่พระเจ้าส่งมาให้สื่อสารกับคนในสมัยพระคัมภีร์เดิมบางคน อาจมาในลักษณะของคนอย่างที่อับราฮัมได้ต้อนรับอย่างแขกแปลกหน้า แต่ต้อนรับเหมือนต้อนรับพระเจ้า และคนเหล่านั้นได้ให้ถ้อยคำชี้นำบางอย่าง หรืออย่างทูตที่ไปช่วยโลท ฉุดกระชากลากโลทและคนในครอบครัวให้ออกจากเมืองโสโดม โกโมราห์ ที่กำลังจะพินาศด้วยไฟกำมะถัน

วันนี้ อาจมีคนบางคนกำลังทำหน้าที่ทูตของพระเจ้าเพื่อจะชี้นำให้เราไปในทิศทางที่ปลอดภัย  และในการรับใช้ก็ได้ เรากำลังให้พระเจ้านำเพื่อตอบสนอง หรือเรากำลังให้อิทธิพลของโลกนี้นำ เรารู้หรือไม่ว่าใครคือทูตของพระเจ้า ข้าพเจ้าเชื่อว่า ถ้าเราใส่ใจในการนำของพระเจ้า เราจะรู้ได้ว่าใครคือผู้สื่อสารของพระเจ้าที่มาถึงเรา

ฮีบร13:1-2  1 จง​ให้​ความ​รัก​ฉัน​พี่​น้อง​มี​อยู่​ต่อ​กัน​เสมอ​ไป​2 อย่า​ละเลย​ที่​จะ​ต้อนรับ​แขก​แปลก​หน้า เพราะ​ว่า​โดย​การ​กระทำ​เช่นนั้น บาง​คน​ก็​ได้​ต้อนรับ​ทูตสวรรค์​โดย​ไม่​รู้ตัว

ความรักฉันพี่น้อง Brotherly love คือสิ่งที่พระธรรมฮีบรูกำลังบอกเราว่า เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เราสามารถต้อนรับคนแปลกหน้า หรือคนที่เราไม่เคยรักได้ ในคำเทศนาที่ผ่านมา หัวข้อหนึ่งที่ข้าพเจ้าเทศนาคือ การเปลี่ยนในทางที่ดีขึ้น  เราต้องเพิ่มพื้นที่หัวใจให้กว้างขึ้น

2เปโตร 1:5-8    5 เพราะ​เหตุ​นี้​เอง ท่าน​จง​อุตส่าห์​จน​สุดกำลัง​ที่​จะ​เอา​คุณธรรม​เพิ่ม​ความ​เชื่อ เอา​ความ​รู้​เพิ่ม​คุณธรรม​6 เอา​ความ​เหนี่ยว​รั้ง​ตน​เพิ่ม​ความ​รู้ เอา​ขันตี​เพิ่ม​ความ​เหนี่ยว​รั้ง​ตน และ​เอา​ธรรม​เพิ่ม​ขันตี​7 เอา​ความ​รัก​ฉัน​พี่​น้อง​เพิ่ม​ธรรม และ​เอา​ความ​รัก​คน​ทั่วไป​เพิ่ม​ความ​รัก​ฉัน​พี่​น้อง​ 8 ถ้า​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เพียบพร้อม​ด้วย​ของ​ประทาน​เหล่า​นี้​แล้ว ​ก็​จะ​กระทำ​ให้​ท่าน​เกิด​ประโยชน์ และ​เกิดผล​ที่​ได้​ซาบซึ้ง​ใน​พระ​เยซู​คริสต​เจ้า​ของ​เรา​

คำที่เปโตรใช้คำว่า “เพิ่ม” มาจากรากศัพท์แปลว่า ยกขึ้น แข็งแรงขึ้น (ด้วยกำลังอย่างผู้ชาย) เราจะพบว่า พื้นที่ที่ต้องการให้เพิ่มขึ้น ได้แก่

1.1   ความเชื่อ  จะต้องเข้มแข็งขึ้น ด้วยการเสริมด้วยคุณธรรม (ความดีงาม)

1.2   คุณธรรม จะต้องเข้มแข็งขึ้นด้วยการเสริมด้วยการเสริมด้วยความรู้ (ของพระเจ้า)

1.3   การรู้ (ของพระเจ้า)จะต้องเข้มแข็งขึ้นด้วยการเสริมด้วยความเหนี่ยวรั้งตน (การควบคุมตนเอง)

1.4   การควบคุมตนเอง จะต้องเข้มแข็งขึ้นด้วยการเสริมด้วยขันติ (ความอดกลั้น)

1.5   การอดกลั้น จะต้องเข้มแข็งขึ้นด้วยการเสริมด้วย ความยำเกรงพระเจ้า

1.6   ความยำเกรงพระเจ้า จะเข้มแข็ง ด้วยการเสริมด้วยความรักฉันท์พี่น้อง

1.7   และความรักฉันท์พี่น้อง จะเข็มแข็ง ด้วยการเสริมด้วยความรักคนทั่วไป (การทำดี ทำกุศลกับคนอื่นๆ)

การจะรู้ว่า ใครคือทูตของพระเจ้า เราต้องไม่ตั้งธงปฏิเสธ ซึ่งคนในยุคของเรากำลังเป็นแบบนั้น เราปล่อยให้ความกลัวมาทำให้เรามีความคิดหวาดระแวง ขาดความรอบคอบในการเผชิญหน้ากับคนทุกประเภท จนเราพลาดที่จะเรียนรู้จักการได้พบกับทูตของพระเจ้า

เกมโปเกม่อน คือหนึ่งในหลายๆเกมที่กำลังสอนเราให้ล่า และต่อสู้เพื่อจะชนะและเป็นแชมเปี้ยนในวิถีที่เรียกว่า กระเป๋าของมาร  มีคริสเตียนที่ไร้เดียงสาบางคนพูดว่า ทำไมเราไม่ประกาศกับมารให้มารกลับใจ ขอบอกว่า มารไม่มีทางกลับใจ มารกำลังรอวันพิพากษาเท่านั้น แต่มนุษย์คือผู้ที่จะกลับใจได้ เราต้องประกาศกับมนุษย์  ฟิลิปรู้ว่า ใครคือทูตของพระเจ้า ฟิลิปจึงได้ประกาศกับขันทีเอธิโอเปีย เพราะขันทีคนนี้ กำลังอยากรู้ว่า ใครคือคนที่พระวจนะของพระเจ้าที่เขากำลังอ่านอยู่

3.ผู้มีความชัดเจนในข่าวประเสริฐของพระเยซู  กิจการ 6:34-38

34 ขันที​จึง​ถาม​ฟีลิป​ว่า “ผู้เผย​พระ​วจนะ​ได้​กล่าว​อย่าง​นั้น​เล็ง​ถึง​ผู้ใด เล็ง​ถึง​ตัว​ท่าน​เอง หรือ​เล็ง​ถึง​ผู้อื่น บอก​ข้าพเจ้า​เถิด”35 ฝ่ายฟีลิ​ปจึง​เริ่ม​เล่า​จับ​ต้น​กล่าว​ตาม​พระ​คัมภีร์​ข้อ​นั้น ชี้แจง​ถึง​ข่าว​ประเสริฐ​เรื่อง​พระ​เยซู​36 ครั้น​กำลัง​เดินทาง​ไป​ก็​มาถึง​ที่​มี​น้ำ​แห่ง​หนึ่ง ขันที​จึง​บอก​ว่า “นี่​แน่ะ มี​น้ำ มี​อะไร​ขัดข้อง​ไม่ให้​ข้าพเจ้า​รับ​บัพติศมา”37 และฟีลิ​ปจึง​ตอบ​ว่า “ถ้า​ท่าน​เต็ม​ใจ​เชื่อ​ท่าน​ก็​รับ​ได้” และ​ขันที​จึง​ตอบ​ว่า “ข้าพเจ้า​เชื่อ​ว่า ​พระ​เยซู​คริสต์​ทรง​เป็น​พระ​บุตร​ของ​พระ​เจ้า”38 แล้ว​ท่าน​จึง​สั่ง​ให้​หยุด​รถ และ​คน​ทั้ง​สอง​ลง​ไป​ใน​น้ำ​ทั้ง​ฟีลิป​กับ​ขันที ​ฟีลิป​ก็​ให้​ท่าน​รับ​บัพติศมา

เมื่อฟิลิปไปในสถานที่ที่เขาไม่รู้ว่าจะได้พบใคร เขาตอบสนองทันที และเมื่อเขาอยู่ในสถานที่นั้น พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสสั่งอีกว่า ให้วิ่งไปใกล้ชิดรถ จะเห็นว่า ฟิลิปไปตามการทรงนำของพระเจ้า ทั้งผ่านคน และตอนนี้ผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์ จนฟิลิปได้เข้าไปนั่งในรถคันเดียวกันกับขันที

กิจการ 6:29-31 29 ฝ่าย​พระ​วิญญาณ​ตรัส​สั่ง​ฟีลิป​ว่า “จง​เข้า​ไป​ให้​ชิด​รถ​นั้น​เถิด”30 ฟีลิ​ปจึง​วิ่ง​เข้า​ไป​ใกล้ และ​ได้​ยิน​ท่าน​อ่าน​หนังสือ​อิสยาห์​ผู้เผย​พระ​วจนะ จึง​ถาม​ว่า “ซึ่ง​ท่าน​อ่าน​นั้น​ท่าน​เข้าใจ​หรือ”31 ขันที​จึง​ตอบ​ว่า “ถ้า​ไม่​มี​ใคร​อธิบาย​ให้ ที่​ไหน​จะ​เข้าใจ​ได้” ท่าน​จึง​เชิญฟีลิ​ปขึ้น​นั่ง​รถ​กับ​ท่าน​

นี่คือโอกาสที่ฟิลิปจะได้พูดข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์แก่ขันที

34 ขันที​จึง​ถาม​ฟีลิป​ว่า “ผู้เผย​พระ​วจนะ​ได้​กล่าว​อย่าง​นั้น​เล็ง​ถึง​ผู้ใด เล็ง​ถึง​ตัว​ท่าน​เอง หรือ​เล็ง​ถึง​ผู้อื่น บอก​ข้าพเจ้า​เถิด”

35 ฝ่ายฟีลิ​ปจึง​เริ่ม​เล่า​จับ​ต้น​กล่าว​ตาม​พระ​คัมภีร์​ข้อ​นั้น ชี้แจง​ถึง​ข่าว​ประเสริฐ​เรื่อง​พระ​เยซู​

 ฟิลิปคนธรรมดาคนหนึ่งที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ ดำเนินชีวิตด้วย   ชื่อเสียง​ดี​ประกอบด้วย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​และ​สติปัญญา  การไปตามการนำของพรเจ้าทำให้ฟิลิปได้เข้าไปนั่งในรถคันเดียวกันกับขันที ผู้มีตำแหน่งสูง และเป็นที่ไว้วางใจของพระราชินีแห่งเอธิโอเปีย ไม่ง่ายเลย แทบจะเรียกว่า เป็นไปไม่ได้ แต่ภายใต้การนำของพระเจ้า ด้วยการดำเนินชีวิตคริสเตียนที่รักษาชื่อเสียงดี ในที่นี้ข้าพเจ้าตีความว่า น่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง ฟิลิปที่หนีการข่มเหงได้ ถ้าหนีไม่ได้ ก็ต้องอยู่ในคุกเหมือนกับคริสเตียนไม่น้อยที่ถูกเซาโลจับเข้าคุก  แต่ฟิลิปนอกจากจะหนีได้ ยังได้นั่งในรถของข้าราชการผู้มีอำนาจในอีกประเทศ ไม่ธรรมดาสำหรับคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ดำเนินชีวิตภายใต้การนำของพระเจ้า ของพระวิญญาณ ของทูตสื่อสารของพระเจ้า ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่า ในชีวิตการเป็นคริสเตียนของฟิลิป เขาเรียนรู้ที่จะมีความชัดเจนในข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ ในชีวิตของเรา ข่าวประเสริฐ แปลว่า ข่าวดี ข่าวดี สำหรับฟิลิป เป็นข่าวดีของคนรอบข้างด้วย เป็นข่าวดีที่ต้องประกาศ ไม่ใช่ข่าวลับที่ต้องเก็บไว้คนเดียว และสุดท้าย ฟิลิปได้เดินทางด้วยวิธีพิเศษ  (ข้าพเจ้าอยากเดินทางแบบนี้จริงๆ)

 39 เมื่อ​ท่าน​ทั้ง​สอง​ขึ้น​จาก​น้ำ​แล้ว ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ทรง​รับ​ฟีลิป​ไป​เสีย และ​ขันที​นั้น​ไม่ได้​เห็น​ท่าน​อีก จึง​เดินทาง​ต่อไป​ด้วย​ความ​พอใจ​40 แต่​มี​ผู้​พบ​ฟีลิป​ที่​เมือง​อา​โซทัส และ​เมื่อ​เดินทาง​มา ท่าน​ได้​ประกาศ​ข่าว​ประเสริฐ​ใน​ทุก​เมือง​ จน​ท่าน​มาถึง​เมือง​ซีซารียา​

ฟิลิปไม่ได้ตาย แต่เดินทางไปโดยการรับไปอยู่อีกที่หนึ่ง โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ มหัศจรรย์จริงๆ ชีวิตที่เดินตามการนำของพระเจ้า

โลกเปลี่ยน สังคมเปลี่ยน คุณต้องเปลี่ยน หากคุณไม่เปลี่ยน เขาจะเปลี่ยนคุณ  คนมากมายกำลังเดินตามโลกและถูกโลกเปลี่ยน แต่คริสเตียนที่เดินตามการนำของพระเจ้า เขาคือผู้เปลี่ยนโลก  คุณกำลังเดินตามการนำของอะไร

“สู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์…เดินตามการนำของพระเจ้า”

1.ผู้เปลี่ยนโลก

2.ผู้รู้ว่าใครคือทูตของพระเจ้า

3.ผู้มีความชัดเจนในข่าวประเสริฐของพระเยซู     

By admin