“พันธกิจครบองค์รวม” Holistic Ministry

 

ดุลยภาพแรงโน้มถ่วง Gravity meditation  ดุลยภาพของแรงโน้มถ่วง (ฉายวีดีโอ)

มีคำหนึ่งที่กำลังเป็นที่สนใจ และเป็นประเด็นสำคัญ นั่นคือคำว่า ครบองค์รวม  ภาษาอังกฤษใช้คำว่า holistic ministry แปลว่า พันธกิจที่ครบองค์รวม องค์กรต่างๆ โดยเฉพาะองค์กรอนามัยโลก WHO (World Health Organization) ดูแลเรื่องอนามัยของคนในโลกนี้ เรื่องที่อยู่อาศัย ยารักษาโลก เครื่องนุ่งห่ม อาหาร ปัจจัยสี่ แล้วยังมีเรื่องของจิตใจ ปัจจัยห้า ยังต้องเอาเรื่องของจิตวิญญาณมาเป็นปัจจัยที่หก จึงจะเรียกว่า พันธกิจครบองค์รวม

ดุลยภาพแรงโน้มถ่วงสำหรับแวดวงองค์กรที่เรียกว่า NGO (Nonprofit  Government Organization) องค์กรที่ไม่ค้ากำไร องค์กรที่ทำแต่เรื่องสงเคราะห์ โดยเฉพาะองค์กรคริสเตียน ต่างเริ่มตระหนักถึงพันธกิจครบองค์รวม ที่ต้องมีเรื่องของจิตวิญญาณ (ศาสนาเข้าไปร่วมในการทำพันธกิจด้วย) จึงจะเรียกว่า พันธกิจครบองค์รวมที่แท้จริง

แล้วคริสตจักรล่ะ เป็นองค์การศาสนาเกี่ยวกับจิตวิญญาณ เราทำพันธกิจครบองค์รวมอย่างไร ทั้งๆที่พระเยซูคริสต์เจ้าทรงเป็นต้นแบบของการทำพันธกิจครบองค์รวมคนแรกของโลก

ลูกา 4:16-21 16 แล้ว​พระ​องค์​เสด็จ​มาถึง​เมือง​นาซาเร็ธ เป็น​ที่​ซึ่ง​พระ​องค์​ทรง​เจริญ​วัย​ขึ้น ​พระ​องค์​เสด็จ​เข้า​ไป​ใน​ธรรม​ศาลา​ใน​วันสะบาโต​ตาม​เคย และ​ทรง​ยืน​ขึ้น​เพื่อ​จะ​อ่าน​พระ​ธรรม​17 เขา​จึง​ส่ง​พระ​คัมภีร์​อิสยาห์​ผู้เผย​พระ​วจนะ​ให้แก่​พระ​องค์ เมื่อ​พระ​องค์​ทรง​คลี่​หนังสือ​นั้น​ออก ​ก็​ค้นพบ​ข้อ​ที่​เขียน​ไว้​ว่า 18 ​พระ​วิญญาณ​แห่ง​พระ​เป็นเจ้า​ทรง​อยู่​เหนือ​ข้าพเจ้า เพราะ​ว่า​พระ​องค์​ได้​ทรง​เจิม​ตั้ง​ข้าพเจ้า​ไว้ เพื่อ​นำ​ข่าว​ดี​มายัง​คน​ยากจน ​พระ​องค์​ได้​ทรง​ใช้​ข้าพเจ้า​ให้​ร้อง​ประกาศ​อิสรภาพ​แก่​บรรดา​เชลย ให้​ประกาศ​แก่​คน​ตา​บอด​ว่า​จะ​ได้​เห็น​อีก ให้​ปล่อย​ผู้​ถูก​บีบ​บังคับ​เป็น​อิสระ 19 และ​ให้​ประกาศ​ปี​แห่ง​ความ​โปรด​ปราน​ของ​พระ​เป็นเจ้า 20 แล้ว​พระ​องค์​ทรง​ม้วน​หนังสือ​ส่งคืน​ให้แก่​เจ้าหน้าที่ แล้ว​ทรง​นั่ง​ลง และ​ตา​ของ​คน​ทั้ง​ปวง​ใน​ธรรม​ศาลา​ก็​เพ่ง​ดู​พระ​องค์​21 ​พระ​องค์​จึง​เริ่ม​ตรัส​แก่​เขา​ว่า “คัมภีร์​ตอนนี้​ที่​ท่าน​ได้​ยิน​กับ​หู​ของ​ท่าน​ก็​สำเร็จ​ใน​วันนี้​แล้ว”

พระเยซูทรงค้นในหนังสือผู้เผยพระวจนะ และเลือกอ่านตอนสำคัญที่พระเยซูทรงทำอย่างที่ทรงอ่าน และทรงทำอย่างที่ทรงพูด พระเยซูทรงทำพันธกิจครบองค์รวม  นั่นคือ ไม่ใช่แค่เน้นเรื่องจิตวิญญาณ แต่เน้นเรื่องการช่วยเหลือคน ปลดปล่อยคน ช่วยคนทุกด้านของชีวิตของเขา

มีคนให้ภาพของพันธกิจครบองค์รวม มีทั้งสงเคราะห์และจิตวิญญาณ เหมือนกับลูกบอลที่จะดุลแรงโน้มถ่วงอยู่บนยอดปิรามิด ไม่เอนตกขอบไปด้านใดด้านหนึ่ง

วันนี้ คริสตจักร กำลังขาดดุลยภาพของพันธกิจครบองค์รวมอยู่หรือไม่

ให้เราถามตัวเราเองว่า ชีวิต ความเชื่อในพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา เพื่ออะไร เพื่อให้เราได้สิ่งที่เราอยากได้ หรือ เรากำลังตกขอบไปที่ด้านไหนของความต้องการของเรา  บางทีการมุ่งความสำเร็จ ก็อาจเป็นการทำให้เราเสียความสมดุลของชีวิตที่เราประกาศว่า เราเดินในทางของพระเยซูคริสต์แต่เราไม่เหมือนพระเยซูคริสต์

ฮีบรู 12:1-2 1 เหตุ​ฉะนั้น​เมื่อ​เรา​มี​พยาน​พรั่ง​พร้อม​อยู่​รอบ​ข้าง​เช่นนี้​แล้ว ​ก็​ขอ​ให้​เรา​ละ​ทิ้ง​ทุก​อย่าง​ที่​ถ่วง​อยู่ และ​บาป​ที่​เกาะ​แน่น ขอ​ให้​เรา​วิ่ง​แข่ง​ด้วย​ความ​เพียร​พยายาม ตาม​ที่​ได้​กำหนด​ไว้​สำหรับ​เรา​2 หมาย​เอา​พระ​เยซู​เป็น​ผู้​บุกเบิก​ความ​เชื่อ และ​ผู้​ทรง​ทำ​ให้​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​สมบูรณ์ ​พระ​องค์​ได้​ทรง​อดทน​ต่อ​กางเขน เพื่อ​ความ​รื่น​เริง​ยินดี​ที่​ได้​เตรียม​ไว้​สำหรับ​พระ​องค์ ทรง​ถือ​ว่า​ความ​ละอาย​นั้น​ไม่​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​และ​พระ​องค์​ได้​ประทับ ณ เบื้อง​ขวา​พระ​ที่​นั่ง​ของ​พระ​เจ้า

พระคัมภีร์ตอนนี้มีความหมายอย่างไรกับเรา ทำไมต้องละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงอยู่ และบาปที่เกาะแน่น

สิ่งที่ถ่วงและบาปที่เกาะแน่นสามารถทำให้ชีวิตเราเสียสมดุล ในการดำเนินชีวิต อย่างครบองค์รวม อ.เปาโลเป็นสาวกของพระเยซูที่เข้าใจเรื่องชีวิตที่ครบองค์รวม ท่านจึงกล่าวไว้ในหนังสือกิจการอย่างนี้ว่า

กิจการ 20:33-35  33 ข้าพเจ้า​มิได้​โลภ​เงิน​หรือ​ทอง หรือ​เสื้อผ้า​ของ​ผู้ใด​34 ท่าน​ทั้ง​หลาย​ทราบ​ว่า มือ​ของ​ข้าพเจ้า​เอง​ได้​จัดหา​ปัจจัย​สำหรับ​ตัว​ข้าพเจ้า กับ​คน​ที่​อยู่​กับ​ข้าพเจ้า35 ข้าพเจ้า​ได้​วาง​แบบอย่าง​ไว้​ให้​ท่าน​ทุก​อย่าง​แล้ว ให้​เห็น​ว่า​โดย​ทำงาน​เช่นนี้​ควร​จะ​ช่วย​คน​ที่​มี​กำลัง​น้อย ระลึก​ถึง​พระ​วาทะ​ของ​พระ​เยซู​เจ้า ซึ่ง​พระ​องค์​ตรัส​ว่า ‘การ​ให้​เป็น​เหตุ​ให้​มี​ความ​สุข​ยิ่ง​กว่า​การ​รับ’ ”

ชีวิตที่สมดุล  ไม่ใช่รับอย่างเดียว แต่มีการให้ด้วย  ให้อย่างไรจึงจะสมดุลกับการรับ

ลูกา 12:48ข,42-44  ​48 …ผู้ใด​ได้รับ​มาก จะต้อง​เรียก​เอา​จาก​ผู้​นั้น​มาก​และ​ผู้ใด​ได้รับ​ฝาก​ไว้​มาก ​ก็​จะต้อง​ทวง​เอา​จาก​ผู้​นั้น​มาก​….42 องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ตรัส​ว่า “ใคร​เป็น​คน​ต้น​เรือน​สัตย์​ซื่อ​และ​ฉลาด ที่​นาย​ได้​ตั้ง​ไว้​เหนือ​พวก​คน​ใช้​สำหรับ​แจก​อาหาร​ตาม​เวลา​43 เมื่อ​นาย​มา​พบ​เขา​กระทำ​อยู่​อย่าง​นั้น บ่าว​ผู้​นั้น​ก็​จะ​เป็น​สุข​44 เรา​บอก​ความ​จริง​แก่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ว่า นาย​จะ​ตั้ง​เขา​ไว้​ให้​ดูแล​บรรดา​ข้าว​ของ​ของ​ท่าน​

“คนต้นเรือนสัตย์ซื่อและฉลาด” รับมอบหมายหน้าที่ดูแลเรื่องการแจกอาหารตามเวลา

คำว่า สัตย์ซื่อ รากศัพท์ภาษากรีก ใช้คำแปลว่า  สมกับที่ได้รับความไว้วางใจได้ Trustworthy

คำว่า ฉลาด  รากศัพท์ภาษากรีกแปลว่า Thoughtful แปลว่า ใส่ใจคนอื่นอย่างคนที่ดำเนินชีวิตระมัดระวัง

“สัตย์ซื่อและฉลาด”  ดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวังให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจได้ ในการทำหน้าที่แจกอาหารให้กับคนอื่น ตามเวลา

เวลา ในข้อนี้ ใช้คำว่า ไครอส  ไครอส Kairos  แปลว่า เวลาและโอกาสของชีวิต (ที่มาจากพระเจ้า)

คำว่า เวลา สำหรับคนทุกคน ภาษากรีกใช้คำว่า  โครนอส  ทุกคนมี 24 ชม.เท่ากัน ส่วนอีกคำ ที่เกี่ยวกับเวลา คำกรีกใช้คำว่า  ไครอส  แปลว่า โอกาส จังหวะ กำหนดเวลาของพระเจ้าสำหรับแต่ละคน

มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า ไม่ใช่ทุกคนที่ดำเนินชีวิตในเวลาทั่วไป (โครนอส) ที่มี 24 ชม. จะพบกับไครอส (โอกาสของชีวิต) ขึ้นอยู่กับว่า แต่ละคนจะสัตย์ซื่อและฉลาด(ในการเป็นผู้อารักขาเวลาของตนเองอย่างไร)

ใช้เวลาอย่างผู้สัตย์ซื่อต่อเวลา ผู้รักษาเวลา เราคงเคยได้ยินคำว่า โกงเวลา ทำยังไง ฆ่าเวลา ทำยังไง  เวลาที่ควรทำ ก็ไม่ทำ เวลาที่ไม่ควรทำก็ดันไปทำ อย่างนี้เรียกว่า ไม่ถูกกาละเทศะ

ใช้เวลาอย่างคนฉลาด ทำอย่างไร   ทั้งหมดนี้ คือความสมดุลของชีวิต

มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า เวลาที่เกี่ยวก็กลับไปหว่าน เวลาที่ควรจะหว่าน กลับไปเกี่ยว  เราจะรู้ได้อย่างไร

พระเยซูคริสต์ทรงตรัสให้สาวก เกี่ยวกับเวลาที่ต้องเกี่ยวข้าวเมื่อไหร่

ยอห์น 4:35-38,39-42 35 ท่าน​ทั้ง​หลาย​ว่า อีก​สี่​เดือน​จะ​ถึง​ฤดู​เกี่ยว​ข้าว​มิใช่​หรือ เรา​บอก​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ว่า เงย​หน้า​ขึ้น​ดู​นา​เถิด ว่า​ทุ่ง​นา​เหลือง​อร่าม ถึง​เวลา​เกี่ยว​แล้ว​36 คน​เกี่ยว​ก็​กำลัง​ได้รับ​ค่าจ้าง และ​กำลัง​ส่ำ​สม​พืชผล​ไว้​สำหรับ​ชีวิต​นิรันดร์ เพื่อ​ทั้ง​คน​หว่าน​และ​คน​เกี่ยว​จะ​ชื่น​ชม​ยินดี​ด้วย​กัน​37 เพราะ​ใน​เรื่อง​นี้​คำ​ที่​กล่าว​ไว้​นี้​เป็น​ความ​จริง คือ ‘คน​หนึ่ง​หว่าน​และ​อีก​คน​หนึ่ง​เกี่ยว’38 เรา​ใช้​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ไป​เกี่ยว​สิ่ง​ที่​ท่าน​มิได้​ลง​แรง​ทำ คน​อื่น​ได้​ลง​แรง​ทำ และ​ท่าน​ได้รับ​ประโยชน์​จาก​แรง​ของ​เขา”

เรื่องราวในตอนนี้ อยู่ในตอนที่พระเยซูทรงพบหญิงสะมาเรียที่บ่อน้ำ และนางก็ตื่นเต็นกับการพบกับพระเยซู ในฐานะพระเมสสิยาห์ นางจึงไปบอกคนในเมืองให้ออกมาพบกับพระเยซู

39 ชาว​สะมาเรีย​เป็น​อัน​มาก​ที่มา​จาก​เมือง​นั้น ได้​มี​ศรัทธา​ใน​พระ​องค์​เพราะ​คำ​พยาน​ของ​หญิง​ผู้​นั้น​ที่ว่า “ท่าน​เล่า​ถึง​สิ่ง​สารพัด​ซึ่ง​ฉัน​ได้​ทำ”40 ฉะนั้น​เมื่อ​ชาว​สะมาเรีย​มาถึง​พระ​องค์ เขา​จึง​ทูล​เชิญ​พระ​องค์​ให้​ประทับ​อยู่​กับ​เขา และ​พระ​องค์​ก็​ประทับ​ที่​นั่น​สอง​วัน​41 และ​คน​อื่น​เป็น​จำนวน​มาก​ได้​วางใจ เพราะ​พระ​ดำรัส​ของ​พระ​องค์​42 เขา​เหล่า​นั้น​พูด​กับ​หญิง​นั้น​ว่า “ตั้งแต่​นี้​ไป​ที่​เรา​เชื่อ​นั้น​มิใช่​เพราะ​คำ​ของ​เจ้า แต่​เพราะ​เรา​ได้​ยิน​เอง และ​เรา​รู้​ว่า​ท่าน​องค์​นี้​แหละ​เป็น​พระ​ผู้ช่วย​โลก​ให้​รอด​ที่​แท้จริง”

พระเยซูพูดกับสาวกเรื่องการเกี่ยวข้าวในเวลาที่ข้าวจริง ยังไม่พร้อมเกี่ยว แต่ข้าวในนาของหัวใจคนพร้อมให้พระเจ้าเกี่ยวแล้ว  นี่คือการทำนาเกี่ยวข้าวในหัวใจของคน หัวใจที่สุกงอมพร้อมให้พระเจ้าเก็บเกี่ยว  คำนี้ มาจากพันธกิจบำบัดภายใน ที่พูดถึงหัวใจของคนที่มีบาดแผล บาดเจ็บ กำลังร้องไห้ กำลังเป็นทุกข์  เราว่าคนที่มีหัวใจที่เป็นทุ่งนาพร้อมให้คนของพระเจ้าหว่าน และเกี่ยว อยู่ที่ไหน

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เราไปทำพันธกิจมิชชั่น แอ็กชั่นกันที่รร.ศึกษาสงเคราะห์บางกรวย เราเห็นอะไร หลายคนกลับมาร้องไห้ กลับมาด้วยความสะเทือนใจ ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่า พี่น้องเหล่านั้น ที่รู้สึกสะเทือนใจ ท่านได้เห็นลึกเข้าไปในดวงตาของเด็กๆเหล่านั้นจนถึงก้นบึ้งของหัวใจว่า นี่แหล่ะทุ่งนาในหัวใจที่พร้อมให้พระเจ้าเก็บเกี่ยว เขาบาดเจ็บมาก เขาร้องไห้ออกมา การเอากิจกรรมไปทำไปแจก ไปเลี้ยงอาหาร เป็นเพียงแค่การสร้างความสุขชั่วคราว แต่ความจริงแล้ว ความทุกข์คือของจริง ความสุขที่เขาแสดงออกมาคือแค่ทำให้ลืมความทุกข์ของจริง

วันนี้ ช่วงบ่าย เราจะคุยกัน หาบทสรุป หาหนทาง และน้ำพระทัยของพระเจ้าว่า เราจะทำยังไงต่อดี

วันนี้ เราได้ผลสัมฤทธิ์คือ สมาชิกได้ทำมิชชั่นแอ็กชั่น ด้วยกัน และกลับมาพร้อมกับความรู้สึกที่ดีๆ แต่ว่า เพียงแค่นั้นหรือ….

ฮีบรู 12:1 1 เหตุ​ฉะนั้น​เมื่อ​เรา​มี​พยาน​พรั่ง​พร้อม​อยู่​รอบ​ข้าง​เช่นนี้​แล้ว ​ก็​ขอ​ให้​เรา​ละ​ทิ้ง​ทุก​อย่าง​ที่​ถ่วง​อยู่ และ​บาป​ที่​เกาะ​แน่น ขอ​ให้​เรา​วิ่ง​แข่ง​ด้วย​ความ​เพียร​พยายาม ตาม​ที่​ได้​กำหนด​ไว้​สำหรับ​เรา​

คำว่า น้ำหนักที่ถ่วงเราไว้    ทำให้ข้าพเจ้าเห็นภาพที่พระเยซูทรงตรัสเกี่ยวกับก้อนหินในการสร้างคริสตจักรของพระองค์ว่า

มัทธิว 16:18  18 ฝ่าย​เรา​บอก​ท่าน​ว่า​ท่าน​คือ​เปโตร​​ และ​บน​ศิลา​นี้ เรา​จะ​สร้าง​คริสตจักร​ของ​เรา​ไว้ และ​พลัง​แห่ง​ความ​ตาย​จะ​มี​ชัย​ต่อ​คริสตจักร​นั้น​หา​มิได้​

คำว่า ศิลาที่พระเยซูใช้ สองคำ คำหนึ่งคือชื่อของเปโตร ในภาษากรีก ออกเสียงว่า เพทรอส Petros แปลว่า ก้อนหินหนึ่งก้อน และอีกคำหนึ่ง คำว่า เพทรา แปลว่า ก้อนหินก้อนใหญ่นี้  หมายถึงพระเยซู พระองค์จะให้คริสตจักรถูกก่อกันขึ้น บนก้อนหินก้อนใหญ่นี้ เปโตร หรือเพทรอส หมายถึงสาวกของพระเยซูทุกคน เป็นก้อนหินก้อนเล็กที่จะเรียงกันขึ้น วีดีโอที่เรารับชมเกี่ยวกับการเพ่งสมาธิในการเรียงก้อนหินต่างรูปร่าง ไม่ง่ายเลย แต่มันเป็นไปได้  ก้อนหินทุกก้อนจะมีความสมดุลอยู่บนหินอีกก้อนได้ ต้องอยู่ที่คนวางก้อนหินนั้น พระเยซูคริสต์เจ้าจะทรงเป็นผู้สร้างคริสตจักรด้วยพระองค์เอง

นั่นหมายความว่า พระองค์จะเป็นผู้มองเห็นจุดสมดุลในการวางก้อนหินแต่ละก้อน  ใครจะอยู่บน ใครจะอยู่ล่าง พันธกิจที่เรามีส่วน จะทำให้คริสตจักรของพระเยซูถูกก่อขึ้นมาอย่างงดงาม ที่จะไม่ล้มระเนระนาด ตราบใดที่เราอยู่ในที่ที่เราควรอยู่ เชื่อมต่อกันไว้ด้วยพันธกิจที่เราต่างทำกันเป็นทีม (เหมือนคนเดียวกัน) ความเป็นทีม ทำให้เรามีจุดสัมผัสกัน มีความรับผิดชอบต่อการรับน้ำหนักของอีกคนหนึ่ง ให้เรามองหาจุดสัมผัสกับ แตะกันได้ เชื่อมต่อกันให้ได้ แม้เพียงจุดเดียว เราก็จะต่อกันขึ้นไปได้อย่างสวยงาม (อย่างในวีดีโอ)

อาทิตย์ที่ผ่านมาสำเร็จ เพราะทุกคนต่างทำส่วนที่ตนเองรับผิดชอบ ทำบทบาทของตนเอง อยู่ในจุดที่ควรอยู่  มีคนที่ให้ ทั้งเวลา ทั้งข้าวของเงินทอง งานออกมางดงาม และเป็นที่พอใจ (ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่า แบบสำรวจที่ให้เราทำเช้านี้  คำตอบคือความพึงพอใจแน่นอน นี่แหล่ะ คือพันธกิจครบองค์รวมที่แท้จริง ที่คริสตจักรใจสมานเพชรเกษม 11 จะก้าวต่อไป ขอให้เราทุกคนจงรับการเร้าใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ว่าเราจะมีส่วนในงานพันธกิจครบองค์รวมนี้ที่ไหนบ้าง

น่าสนใจว่า พระเยซูใช้คำว่า ว่า ใครมีมาก ก็จะเรียกจากคนนั้นมาก อาจตีความว่า พระเจ้าได้เตรียมเอาไว้มากที่จะให้เรามีมากที่จะให้ได้ทุกคน อาเมน

By admin