“ใครคือ…ผู้รับพร”

พระพร เป็นสิ่งที่ผู้คนมากมายปรารถนา พระพร ตรงกันข้ามกับคำแช่งสาป พระพร นำมาซึ่งความสุข พระพร ในภาษากรีก ใช้คำว่า blessed แปลว่า ผู้รับพร ผู้มีความสุข  ผู้ที่พระเจ้าอวยพร

คำแช่งสาปมาจากศัตรู คือมารซาตาน ที่ต้องการทำลาย แต่พระพรคือการเสริมสร้าง  พระเจ้าทรงอวยพระพรแก่คนของพระองค์ มารซาตาน ไม่มีพร มีแต่คำแช่งสาป และมันจะดีใจที่คนถูกแช่งสาป  สิ่งที่มารซาตานทำได้ คือ ทำให้คนตกอยู่ในคำแช่งสาป   การมาตายบนไม้กางเขนของพระเยซูคือ การมารับคำแช่งสาปแทน  พระคัมภีร์กล่าวว่า ผู้ที่ถูกแขวนบนต้นไม้ คือผู้ที่รับคำแช่งสาป กางเขนจึงเป็นสัญญลักษณ์ของการทำลายคำแช่งสาปที่อยู่ในมนุษย์อย่างหมดสิ้นแล้ว เพราะฉะนั้น มารซาตานแพ้แล้วที่ไม้กางเขน  สิ่งที่มารซาตานทำได้ คือทำให้จิตใจภายในของคนทำให้คนพ่ายแพ้

มีคนบางคนที่พยายามเอาตัวรอด จากคำแช่งสาป ชีวิตที่เป็นลบ และมาสอนคนอื่นได้ในเรื่องนี้ จึงนำสโลแกนหนึ่งมาใช้

ปลวกพลังบุก………ปลุกพลังบวก  เป็นสโลแกนที่นำมาใช้ สำหรับการปลุกพลังชีวิตภายในของมนุษย์ขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับกลยุทธทำลายของมารซาตาน  คนไทยมีคำว่า  “ชีวิตคือ การต่อสู้  ศัตรูคือยากำลัง” กลยุทธของการต่อสู้ในสงครามที่ต่างฝ่ายต่างจะเอาชนะกันก็คือ  การทำลายชวัญกำลังใจของอีกฝ่าย

นวนิยายดัง เรื่องสามก๊ก ที่แต่งเป็นนิทานในสมัยโบราณโช้โครงเรื่องจากพงศาวดารจีน  เป็นตำราสำหรับศึกษาอุบายการเมือง และการสงคราม   จนมีคำพูดที่ว่า ใครอ่านสามก๊กจบ คบไม่ได้  มีตัวละครหนึ่งที่ชื่อขงเบ้ง ใช้พลังที่ซ่อนอยู่ภายในของฝ่ายศัตรู  เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ตนเองเป็นรอง (มีจำนวคนเพียงพัน กับกองทัพนับแสนของสุมาอี้)

ขงเบ้งรู้ว่าขืนยกทัพสู้มีแต่แพ้ แพ้ แล้วก็แพ้*   จึงใช้อุบายเมืองร้าง และเป็นที่มาของ สำนวนคำว่า นั่งตีขิม….บนกำแพงเมือง เปิดประตูเมือง ทำทีว่าเป็นเมืองร้าง…. (ฉายภาพยนต์ตอนนี้)

“กองทัพหน้าสุมาอี้เคลื่อนมาถึงแล้วเห็นเหตุการณ์เช่นนั้นก็ชะงักอยู่ในระยะห่างประตูเมือง สุมาอี้ขี่ม้ามาถึงกองหน้าแล้วออกไปยืนพินิจพิเคราะห์ดู เห็นเหตุการณ์เช่นนั้นก็รำลึกถึงกลในพิชัยสงครามที่ว่า  น้อยแกล้งทำเป็นมาก มากแกล้งทำเป็นน้อย ไม่มีแสร้งทำเป็นมี มีแสร้งทำเป็นไม่มี   แล้ว ก็คิดว่าขงเบ้งคงซุ่มทหารแล้วลวงให้รุกตีเข้าไปในเมือง จึงแสร้งทำเป็นไม่มีทหาร “

สุมาอี้ นอกจากเก่งการรบแล้ว ยังเป็นหนึ่งในเรื่องดนตรี และเมื่อฟังเสียงพิณที่ขงเบ้งเล่น ..สุมาอี้ถึงกับสะดุ้ง เพราะแม่ทัพแคว้นเว่ยใช้สมาธิฟังเสียงขิมที่ขงเบ้งบรรเลงเพื่อพิเคราะห์จิตใจของผู้เล่นขิมแล้วพบว่า

“เป็นท่วงทำนองที่สะท้อนถึงจิตใจของผู้เล่นพิณว่ามีความเบิกบานมั่นอกมั่นใจ อย่างเต็มเปี่ยม ทำนองเพลงรื่นไหลดุจดังกระแสน้ำ ไม่มีติดขัด จังหวะเบาไร้ร่องรอยดุจดังสายลมพัด จังหวะหนักก็หนักหน่วงดุจขุนเขาถล่มทลาย หาใช่จิตใจของผู้ที่มีความหวั่นเกรงหรือสะทกสะท้านแต่ประการใดไม่  ”

บทเพลงขิมที่ขงเบ้งเล่นนั้น เนื้อเพลงกล่าวว่า….มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ไหนเลยจะไร้คลื่นลม  ท้องน้ำอันยากหยั่ง ไหนเลยจะมีแต่ปลาน้อย

จึงน่าจะมีมฤตยูใต้ห้วงน้ำลึกแอบแฝงอยู่   ในพงพฤกษา ไหนเลยจะมีแค่ผีเสื้อหลากสีสัน  หากแต่ย่อมต้องมีฝูงนกป่านานาพันธุ์

สุมาอี้ยินเสียงเพลงจากขิมของผู้หยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทร ก็ตีความว่าเป็นกลอุบายของขงเบ้งที่ต้องการลวงให้ตนบุกเข้าไปในเมืองแล้วใช้ทหารซุ่มโจมตี และอาจจะมีทหารรุกตีกระหนาบเข้ามาอีกหลายทิศทาง  “ก็ตกใจด้วยความประหวั่นครั่นคร้าม เม็ดเหงื่อขนาดใหญ่ไหลลงโทรมหน้าโดยไม่รู้ตัว” นั่นคืออาการของสุมาอี้

กลยุทธของขงเบ้งตอนนี้  คือการ ปลุกพลังความกลัว ความกลัว คือพลังลบ ที่ทำลายได้แม้แต่ตัวของเจ้าตัวเอง  พระคัมภีร์ได้ต่อต้านการปลุกพลังลบนี้ ด้วยคำว่า  

2ทิโมธี 2:7   7 เพราะ​ว่า​พระ​เจ้า​มิได้​ทรง​ประทาน​จิต​ที่​ขลาด​กลัว​ให้​เรา แต่​ได้​ทรง​ประทาน​จิต​ที่​กอปร​ด้วย​ฤทธิ์ ความ​รัก และ​การ​บังคับ​ตนเอง​ให้แก่​เรา

ทำนองเดียวกัน พระเจ้าต้องการปลุกพลังบวก ในคนของพระองค์ และให้คนของพระองค์ปลุกพลังบวกต่อกันและกัน

ฟิลิปปี 4:4  4 จง​ชื่น​ชม​ยินดี​ใน​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ทุก​เวลา ข้าพเจ้า​ขอ​ย้ำ​อีก​ครั้ง​ว่า จง​ชื่น​ชม​ยินดี​เถิด

1เธสะโลนิกา 5:16-18  16 จง​ชื่น​บาน​อยู่​เสมอ​17 จง​อธิษฐาน​อย่าง​สม่ำเสมอ​18 จง​ขอบ​พระ​คุณ​ใน​ทุก​กรณี เพราะ​นี่​แหละ​เป็น​น้ำ​พระ​ทัย​ของ​พระ​เจ้า ซึ่ง​ปรากฏ​อยู่​ใน​พระ​เยซู​คริสต์​เพื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​​

นี่คือคุณลักษณะของ  ผู้รับพร ผู้มีความสุข ผู้ที่พระเจ้าอวยพร  มีคริสเตียนไม่น้อย ที่ข้าพเจ้าเคยเทศนาว่า เป็นพวกชอบของแถม (ผลพลอยได้จากการได้รับความรอด คือพระพร) และเรียงลำดับความสำคัญให้พระพรมาก่อน ความรอด  ข้าพเจ้าเทศนาเรื่องนี้ ไม่ได้ต่อต้านการรับพระพร หรือการเชื่อในพระสัญญาของพระเจ้าเรื่องนี้   พระพรเป็นพระสัญญาของพระเจ้า และวันนี้ ข้าพเจ้าจะนำให้พี่น้องไปให้ถึงพระสัญญาของพระเจ้า ในฐานะที่เรามาถึงความรอดขององค์พระเยซูคริสตเจ้าแล้ว (อย่าลืมว่า การเรียงลำดับความสำคัญ เป็นกุญแจสำคัญของการรับพระพร) และนี่คือ คำตอบคำว่า ทำไม…

ทำไม คริสเตียนจึงถูกเรียกว่า ผู้รับพร

เฉลยธรรมบัญญัติ 28:1-14

1 “ถ้า​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เชื่อ​ฟัง​พระ​สุรเสียง​ของ​พระ​เยโฮวาห์​พระ​เจ้า​ของ​ท่าน และ​ระวัง​ที่​จะ​กระทำ​ตาม​พระ​บัญญัติ​ของ​พระ​องค์​ซึ่ง​ข้าพเจ้า​บัญชา​ท่าน​ใน​วันนี้ ​พระ​เยโฮวาห์​พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​จะ​ทรง​ตั้ง​ท่าน​ไว้​ให้​สูง​กว่า​บรรดา​ประชาชาติ​ทั้ง​หลาย​ทั่ว​โลก​2 ​พระ​พร​เหล่า​นี้​จะ​ตามมา​ทัน​ท่าน ถ้า​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ฟัง​พระ​สุรเสียง​ของ​พระ​เยโฮวาห์​พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​3 ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​รับ​พระ​พร​ใน​เมือง​ ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​รับ​พระ​พร​ใน​ทุ่ง​นา​4 พงศ์​พันธุ์​ของ​ตัว​ท่าน​เอง ผล​แห่ง​พื้นดิน​ของ​ท่าน​และ​พันธุ์​แห่ง​สัตว์​ของ​ท่าน​จะ​รับ​พระ​พร คือ​ฝูง​วัว​ของ​ท่าน​ที่​เพิ่มขึ้น ฝูง​แกะ​ของ​ท่าน​ที่​เพิ่ม​ลูก​ขึ้น​5 กระจาด​ของ​ท่าน และ​ราง​นวด​แป้ง​ของ​ท่าน​จะ​รับ​พระ​พร​6 ท่าน​จะ​รับ​พระ​พร​เมื่อ​ท่าน​เข้า​มา และ​ท่าน​จะ​รับ​พระ​พร​เมื่อ​ท่าน​ออกไป 7 “​พระ​เจ้า​จะ​ทรง​กระทำ​ให้​ศัตรู​ผู้​ลุก​ขึ้น​ต่อสู้​ท่าน​พ่าย​แพ้​แก่​ท่าน เขา​จะ​ออกมา​ต่อสู้​ท่าน​ทาง​หนึ่ง และ​หนี​จาก​ท่าน​เจ็ด​ทาง​8 ​พระ​เจ้า​จะ​ทรง​บัญชา​พระ​พร​ให้แก่​ฉาง​ของ​ท่าน และ​บรรดา​กิจการ​ที่​ท่าน​กระทำ และ​พระ​องค์​จะ​ทรง​อำนวย​พระ​พร​แก่​ท่าน​ใน​แผ่นดิน​ซึ่ง​พระ​เยโฮวาห์​พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​ประทาน​แก่​ท่าน​9 ​พระ​เจ้า​จะ​ทรง​ตั้ง​ท่าน​ให้​เป็น​ชน​ชาติ​บริสุทธิ์​แด่​พระ​องค์ ดังที่​พระ​องค์​ทรง​ปฏิญาณ​แก่​ท่าน​แล้ว ถ้า​ท่าน​รักษา​พระ​บัญญัติ​ของ​พระ​เยโฮวาห์​พระ​เจ้า​ของ​ท่าน และ​ดำเนิน​ใน​มรรคา​ของ​พระ​องค์​10 และ​ชน​ชาติ​ทั้ง​หลาย​ใน​โลก​จะ​เห็น​ว่า​เขา​เรียก​ท่าน​ตาม​พระ​นาม​พระ​เจ้า และ​เขา​ทั้ง​หลาย​จะ​เกรง​กลัว​ท่าน​11 ​พระ​เจ้า​จะ​ทรง​กระทำ​ให้​ท่าน​ทั้ง​หลาย​อุดม​สมบูรณ์​ไป​ด้วย​พันธุ์​ของ​ตัว​ท่าน​เอง ผล​ของ​ฝูง​สัตว์​ของ​ท่าน​และ​ผล​แห่ง​พื้นดิน​ของ​ท่าน ใน​แผ่นดิน​ซึ่ง​พระ​เจ้า​ทรง​ปฏิญาณ​แก่​บรรพ​บุรุษ​ว่า​จะ​ให้​ท่าน​12 ​พระ​เจ้า​จะ​เปิด​คลัง​ฟ้า​อัน​ดี​ของ​พระ​องค์​ประทาน​ฝน​แก่​ท่าน​ตาม​ฤดูกาล และ​ทรง​อำนวย​พระ​พร​แก่​กิจการ​น้ำมือ​ของ​ท่าน และ​ท่าน​จะ​ให้​ประชาชาติ​หลาย​ประชาชาติ​ขอ​ยืม แต่​ท่าน​จะ​ไม่​ขอ​ยืม​เขา​13 ถ้า​ท่าน​เชื่อ​ฟัง​พระ​บัญญัติ​ของ​พระ​เยโฮวาห์​พระ​เจ้า​ของ​ท่าน ซึ่ง​ข้าพเจ้า​บัญชา​ท่าน​ใน​วันนี้ และ​ระวัง​ที่​จะ​กระทำ​ตาม ​พระ​เจ้า​จะ​ทรง​กระทำ​ให้​ท่าน​เป็น​หัว​ไม่ใช่​เป็น​หาง กระทำ​ให้​สูงขึ้น​ทาง​เดียว​มิใช่​ให้​ต่ำลง​14 และ​ถ้า​ท่าน​ไม่​หัน​เห​ไป​จาก​ถ้อยคำ​ซึ่ง​ข้าพเจ้า​บัญชา​ท่าน​ใน​วันนี้ โดย​หัน​ไป​ทาง​ขวามือ​หรือ​ทางซ้าย ไป​ติดตาม​ปรนนิบัติ​พระ​อื่น

กุญแจสำคัญคือการเชื่อฟัง และไม่ไปติดตามปรนนิบัติพระอื่น  กุญแจสำคัญนี้  ทำให้ผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์เจ้าเข้าสู่ประบกาณณ์ เป็นผู้รับพร

2 พระพรเหล่านี้จะตามมาทันท่าน ถ้าท่านทั้งหลายฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน….. 14 และถ้าท่านไม่หันเหไปจากถ้อยคำซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ โดยหันไปทางขวามือหรือทางซ้าย ไปติดตามปรนนิบัติพระอื่น

แนวทางที่เราจะเป็นผู้รับพระพร ตามพระสัญญาในหนังสือเฉลยธรรมบัญญัตินี้ มีสองประการ

1.จงฟังพระสุรเสียงเพื่อจะเชื่อฟัง

เราอยู่ในยุคที่คนเลือกฟังสิ่งที่ตนเองอยากจะฟัง  เสียงมากมายที่เกิดขึ้นเพื่อจะให้คนพอใจ ถูกใจ แต่เสียงของพระเจ้า มักจะตรงกันข้าม คนที่ได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าจริงๆ จะรู้ว่า มักจะตรงกันข้าม มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า สิ่งที่ถูกต้อง มักจะไม่ถูกใจ เป็นความจริงกับเสียงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่มาถึงคนของพระองค์ อย่างที่อ.ประยูรได้เทศนาอยู่ครั้งเกี่ยวกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ว่า พระองค์ไม่ทำให้เราเสียใจ แต่พระองค์มักจะทำให้เราขัดใจ เพราะพระองค์ไม่ตามใจเรา และนี่คือสถานการณ์ที่เรียกว่า ฟังพระสุรเสียงเพื่อจะเชื่อฟัง  ไม่ใช่ฟังเพื่อจะไม่เชื่อฟัง

พระเยซูคริสต์ทรงยกคำอุปมาเรื่องคนสร้างบ้านที่จะเผชิญกับพายุและลมแรงดังนี้

มัทธิว 7:24-27   24 “เหตุ​ฉะนั้น​ผู้ใด​ที่​ได้​ยิน​คำ​เหล่า​นี้​ของ​เรา และ​ประพฤติ​ตาม เขา​ก็​เปรียบ​เสมือน​ผู้​ที่​มี​สติปัญญา​สร้าง​เรือน​ของ​ตน​ไว้​บน​ศิลา​25 ฝน​ก็​ตก​และ​น้ำ​ก็​ไหล​เชี่ยว ลม​ก็​พัด​ปะทะ​เรือน​นั้น แต่​เรือน​มิได้​พัง​ลง เพราะ​ว่า​ราก​ตั้งอยู่​บน​ศิลา​26 แต่​ผู้​ที่​ได้​ยิน​คำ​เหล่า​นี้​ของ​เรา​และ​ไม่​ประพฤติ​ตาม​เล่า เขา​ก็​เปรียบ​เสมือน​ผู้​ที่​โง่​เขลา สร้าง​เรือน​ของ​ตน​ไว้​บน​ทราย​27 ฝน​ก็​ตก​และ​น้ำ​ก็​ไหล​เชี่ยว ลม​ก็​พัด​ปะทะ​เรือน​นั้น เรือน​นั้น​ก็​พังทลาย​ลง และ​การ​ซึ่ง​พังทลาย​นั้น​ก็​ใหญ่​ยิ่ง”

คนมีปัญญาคือคนฉลาด ที่ได้ยินพระสุรเสียงของพระเยซูคริสต์เจ้าเพื่อจะเชื่อฟัง  เสียงที่พระเยซูคือเสียงของพระวิญญาณบริสุทธิ์

ยอห์น 14:24,26  24 ผู้​ที่​ไม่​รัก​เรา ​ก็​ไม่​ประพฤติ​ตาม​คำ​ของ​เรา และ​คำ​ซึ่ง​ท่าน​ได้​ยิน​นี้​ไม่ใช่​คำ​ของ​เรา แต่​เป็น​พระ​วจนะ​ของ​พระ​บิดา​ผู้​ทรง​ใช้​เรา​….26 แต่​องค์​ผู้ช่วย​คือ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ซึ่ง​พระ​บิดา​จะ​ทรง​ใช้​มา​ใน​นาม​ของ​เรา​นั้น จะ​ทรง​สอน​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ทุก​สิ่ง และ​จะ​ให้​ท่าน​ระลึก​ถึง​ทุก​สิ่ง​ที่​เรา​ได้​กล่าว​ไว้​แก่​ท่าน​แล้ว​

พระเยซูทรงตรัสประโยคนี้กับสาวกของพระองค์ ในเวลานั้น  ถึงเวลาที่พระเยซูจะไป แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์จะมาทำหน้าที่แทน  การทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ทำได้กว้างไกลไปทั่วทุกคนทั่วโลก เหมือนติดเครื่องรับสัญญาณสื่อสารไปได้ทุกที่  หนังสือเอเฟซัสได้กล่าวทำนองนี้ว่า

เอเฟซัส 1:22-23  22 ​พระ​เจ้า​ได้​ทรง​ปราบ​สิ่ง​สารพัด​ลง​ไว้​ใต้​พระ​บาท​ของ​พระ​คริสต์​ และ​ได้​ทรง​ตั้ง​พระ​องค์​ไว้​เป็น​ประมุข​เหนือ​สิ่ง​สารพัด​แห่ง​คริสตจักร​23 ซึ่ง​เป็น​พระ​กาย​ของ​พระ​องค์ คือ​ซึ่ง​เต็ม​บริบูรณ์​ด้วย​พระ​องค์ ผู้​ทรง​อยู่​เต็ม​ทุก​อย่าง​ทุก​แห่ง​หน​

คริสตจักรที่เป็นพระกายของพระเยซูคริสต์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทุกแห่งหน สามารถรับการสื่อสารจากพระเยซูคริสต์ผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์ และผู้ที่เชื่อมต่อกับพระกายของพระเยซูจริงๆ ต้องเชื่อมต่อกันด้วยการดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ ในพระวิญญาณ โดยพระวิญญาณ  การได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าจะเกิดขึ้น และการเชื่อฟังก็จะตามมา เป็นธรรมชาติ ไม่ต้องฝืนใจ  ความรู้สึกว่าจะเชื่อดีไม่เชื่อดี นั่นยังไม่ใช่ธรรมชาติที่แท้จริงของการเป็นพระกาย เป็นส่วนหนึ่งในคริสตจักรที่แท้จริง การมาโบสถ์ อาจเป็นแค่มาสังเกตการณ์

คริสตจักรยุคแรก็เจอลักษณะคริสเตียนสังเกตุการณ์แบบเดียวกัน อย่างหนังสือยูดาได้กล่าวว่า…

ยูดา 1:4   4 เพราะ​ว่า​มี​บาง​คน​ได้​แอบ​แฝง​เข้า​มา ซึ่ง​พระ​คัมภีร์​ได้​บ่ง​ไว้​นาน​แล้ว​ว่า เขา​จะ​ถูก​พิพากษา​ลงโทษ​อย่าง​นี้ เขา​เหล่า​นั้น​เป็น​คน​อธรรม ที่​ถือเอา​พระ​คุณ​ของ​พระ​เจ้า​ของ​เรา​เป็น​เหตุ​ให้​กระทำ​ความ​ชั่ว​ช้า​ลามก​และ​เขา​ปฏิเสธ​พระ​เยซู​คริสต์​ ผู้​ทรง​เป็น​เจ้านาย​และ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​เรา​แต่​องค์​เดียว

หนังสือยูดาได้กล่าวถึง จะมีคริสเตียนที่เอาพระคุณของพระเจ้าไปใช้ในทางที่ผิดๆ และมีคริสเตียนที่ฟังแต่ไม่ได้ยินพระสุรเสียงของพระเยซู  จึงตอบสนองแบบคนไม่เชื่อฟัง  ข้าพเจ้าอยากจะย้ำกับเราว่า  ถ้าเราได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าจริงๆ เราจะเชื่อฟัง

ประการที่สอง ของการเป็นผู้รับพระพร จากพระเจ้า (แต่เพียงผู้เดียว)

2.ระวังการหันไปปรนนิบัติพระอื่น

พระอื่น  ไม่ใช่เพียงแค่รูปเคารพ หรือศาสนาอื่น แต่พระคัมภีร์ใหม่ได้ใช้คำว่า กระเพาะ เป็นพระอื่นด้วย

ฟิลิปปี 3:18-19  18 เพราะ​ว่า มี​คน​หลาย​คน​ที่​ประพฤติ​ตัว​เป็น​ศัตรู​ต่อ​กางเขน​ของ​พระ​คริสต์​ ซึ่ง​ข้าพเจ้า​ได้​บอก​ท่าน​ถึง​เรื่อง​ของ​เขา​หลาย​ครั้ง​แล้ว และ​บัดนี้​ยัง​บอก​ท่าน​อีก​ด้วย​น้ำตา​ไหล​19 ปลายทาง​ของ​คน​เหล่า​นั้น​คือ​ความ​พินาศ ​พระ​ของ​เขา​คือ​กระเพาะ เขา​ยก​ความ​ที่​น่า​อับ​อาย​ของ​เขา​ขึ้น​มา​โอ้​อวด เขา​สนใจ​ใน​วัตถุ​ทาง​โลก​

เราทั้งหลายกำลังอยู่ในยุคที่เรื่องบริโภคนิยมมีความรุนแรงมากที่สุดยิ่งกว่ายุคใดๆ  บริโภคแปลว่า กิน  กินไปทุกอย่าง กินหิน กินเหล็ก กินสารพัด เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่น ทั้งทางตรงและทางอ้อม  ทุกการกิน จบลงที่ปากท้องทั้งหมด

เรื่องของปากท้อง คือ ตัวกระตุ้นความกลัวภายใน ที่เป็นกลยุทธของธุรกิจในสังคมในยุคของเราทุกวันนี้  และสุดท้าย มันคือกลยุทธของมารซาตานนั่นเอง ปลุกพลังลบ ทำให้คนกลัว และหันไปหาพระอื่น

สำหรับคริสเตียน คือผู้รับพระพร จากการได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าเพื่อจะเชื่อฟัง และพระคัมภีร์คือเสียงของพระเจ้าทรงตรัสให้ราได้ยิน…..

2ทิโมธี 2:7   7 เพราะ​ว่า​พระ​เจ้า​มิได้​ทรง​ประทาน​จิต​ที่​ขลาด​กลัว​ให้​เรา แต่​ได้​ทรง​ประทาน​จิต​ที่​กอปร​ด้วย​ฤทธิ์ ความ​รัก และ​การ​บังคับ​ตนเอง​ให้แก่​เรา

ฟิลิปปี 4:4-7  4 จง​ชื่น​ชม​ยินดี​ใน​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ทุก​เวลา ข้าพเจ้า​ขอ​ย้ำ​อีก​ครั้ง​ว่า จง​ชื่น​ชม​ยินดี​เถิด 5 จง​ให้​จิตใจ​ที่​อ่อน​สุภาพ​ของ​ท่าน​ประจักษ์​แก่​คน​ทั้ง​ปวง องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ทรง​อยู่​ใกล้​แล้ว​6 อย่า​ทุกข์​ร้อน​ใน​สิ่ง​ใดๆ เลย แต่​จง​ทูล​เรื่อง​ความ​ปรารถนา​ของ​ท่าน​ทุก​อย่าง​ต่อ​พระ​เจ้า ด้วย​การ​อธิษฐาน การ​วิงวอน กับ​การ​ขอบ​พระ​คุณ​7 แล้ว​สันติ​สุข​แห่ง​พระ​เจ้า​ซึ่ง​เกิน​ความ​เข้าใจ จะ​คุ้มครอง​จิตใจ​และ​ความ​คิด​ของ​ท่าน​ไว้​ใน​พระ​เยซู​คริสต์​  

1เธสะโลนิกา 5:16-18  16 จง​ชื่น​บาน​อยู่​เสมอ​17 จง​อธิษฐาน​อย่าง​สม่ำเสมอ​18 จง​ขอบ​พระ​คุณ​ใน​ทุก​กรณี เพราะ​นี่​แหละ​เป็น​น้ำ​พระ​ทัย​ของ​พระ​เจ้า ซึ่ง​ปรากฏ​อยู่​ใน​พระ​เยซู​คริสต์​เพื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​​

มัทธิว 6:32  32 เพราะ​ว่า​พวก​ต่างชาติ​แสวงหา​สิ่งของ​ทั้ง​ปวง​นี้ แต่​ว่า​พระ​บิดา​ของ​ท่าน​ผู้​ทรง​สถิต​ใน​สวรรค์​ทรง​ทราบ​แล้ว​ว่า ท่าน​ต้อง​การ​สิ่ง​ทั้ง​ปวง​เหล่า​นี้​

ใครคือผู้รับพร….คือคนที่มุ่ง…

1.จงฟังพระสุรเสียงเพื่อจะเชื่อฟัง

2.ระวังการหันไปปรนนิบัติพระอื่น

 

 

 

By admin