“พระเจ้าทรงเลือกคุณ” You are Chosen
วีดีโอ เพลง อัลเลลูยา เนื้อหาของภาพยนต์การ์ตูนนี้ มาจากพระคัมภีร์ตอนโมเสสพาชนชาติอิสราเอลกว่าสองล้านคนหนีการไล่ล่าของกองทัพฟาโรห์ที่ตามมาเพื่อจะจับชนชาติอิสราเอลกลับไปเป็นทาสแรงงานในอิยิปต์อีก อียิปต์สร้างสิ่งอัศจรรย์ของโลก อันได้แก่ ปิระมิด สฟิงค์ ได้จากแรงงานทาสมากมาย เหมือนกับกำแพงเมืองจีนที่ต้องสังเวยด้วยชีวิตผู้คนมากมาย สิ่งมหัศจรรย์ของโลกเหล่านี้ ต้องใช้แรงงานที่ถูกเกณฑ์มาใช้งาน ยิ่งฟาโรห์ ผู้ครอบครองอิยิปต์ มีความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย จะฟื้นขึ้นมาอีก ด้วยระบบของดวงดาว การสร้างปิระมิด ที่ต้องแรงงานคน จำนวนมากมาย อย่างชนชาติอิสราเอลจึงเป็นสิ่งที่ฟาโรห์เสียดาย และต้องการกักขังควบคุมเอาไว้ แต่เพราะอิสราเอลเป็นชนชาติที่พระเจ้าทรงเลือก และมีพันธสัญญากับบรรพบุรุษคือ อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ พระเจ้าจึงทรงฟังเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากลูกหลานของพวกเขา ที่อยูในอียิปต์ และเป็นที่มาของการที่พระเจ้าทรงเรียกโมเสสให้ทำภารกิจนำคนอิสราเอลออกจากอียิปต์ นี่เป็นประวัติศาสตร์ของชนชาติอิสราเอล ที่พระเจ้าทรงสั่งให้โมเสสกำชับคนอิสราเอลให้อย่าลืม ว่าพระเจ้าทรงทำอะไรให้กับบรรพบุรุษของพวกเขาบ้าง หนึ่งในเรื่องราวการช่วยกู้ของพระเจ้า ก็คือ ทะเลแดงแหวกออกให้ชนชาติอิสราเอลเดินหนีการไล่ล่าจากกองทัพของฟาโรห์ และหนีได้ เพื่อชนชาติอิสราเอลเดินพ้นทะเลแดงที่แหวกออก กองทัพฟาโรห์ที่คิดจะใช้ทะเลแดงที่แหวกออกเพื่อติดตามไล่ล่าเช่นกัน แต่ทะเลแดงที่แหวกออกกลับกลายเป็นที่ฝังศพของกองทัพฟาโรห์แทนเพราะทะเลกลับมาถมทับคนอียิปต์ทั้งหมด ปัจจุบันได้มีการค้นพบใต้ทะเลแดง มีซากรถรบ ล้มรถ กระดูกม้า ที่กลายเป็นปะการังอยู่ใต้ทะเลแดง….
พระเจ้าทรงเลือก….ชนชาติอิสราเอล พระองค์จึงทรงฟังเสียงร้องขอการช่วยกู้ พระเจ้าทรงตอบเสียงร้องนั้นด้วยทุกวิถีทาง เพื่อให้การทรงเลือกของพระองค์ ไม่หยุด สะดุดจบลง แม้จะมีอุปสรรคขัดขวางก็ตาม ไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าทำไม่ได้ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่ทรงทำได้ทุกอย่าง
พระเจ้าทรงเลือกคุณ You are Chosen เช่นเดียวกัน พระเยซูคริสต์ทรงตรัสกับสาวกผู้ที่ติดตามพระองค์ว่า….
John ยอห์น 15:16-17 16 ท่านไม่ได้เลือกเรา แต่เราเลือกพวกท่านและแต่งตั้งท่านให้ไปเกิดผลและเพื่อให้ผลของท่านคงอยู่ เพื่อว่าเมื่อพวกท่านทูลขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระองค์จะประทานสิ่งนั้นแก่ท่าน17 สิ่งที่เราสั่งพวกท่านไว้ก็คือ จงรักกันและกัน 18 “ถ้าโลกนี้เกลียดชังพวกท่าน ก็จงรู้ว่าโลกเกลียดชังเราก่อน19 ถ้าพวกท่านเป็นของโลก โลกก็ย่อมจะรักคนที่เป็นของโลกเอง แต่เพราะท่านไม่ได้เป็นของโลก คือเราเลือกท่านออกจากโลก เพราะเหตุนี้ โลกจึงเกลียดชังท่าน
ในขณะที่พระเยซูคริสต์ทรงเริ่มทำพันธกิจ พระองค์ทรงเรียก ชาวประมง คนเก็บภาษี คนธรรมดาๆ ชาวกาลิลี (ที่คนในยุคนั้นดูถูกว่า เป็นคนไร้การศึกษา เป็นคนบ้านนอก)เป็นคนจน คนที่สังคมปฏิเสธ รังเกียจ พระเยซูทรงเรียกคนเหล่านี้ให้ติดตามเป็นศิษย์ของพระองค์ มาถึงบันทึกของหนังสือยอห์นตอนนี้ ที่พระเยซูทรงตรัสกับคนเหล่านี้ว่า พระองค์ทรงเลือกพวกเขา ให้เชื่อฟังแตะติดตามพระเยซู ไม่มีทางเลือกที่จะทำบ้างไม่ทำบ้าง ตามบ้าง ไม่ตามบ้าง
Verse 16 ท่านไม่ได้เลือกเรา แต่เราเลือกพวกท่านและแต่งตั้งท่าน…..
เรามักจะชอบประโยคที่พระเยซูคริสต์ตรัสในตอนนี้ว่า
….เพื่อว่าเมื่อพวกท่านทูลขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระองค์จะประทานสิ่งนั้นแก่ท่าน….
แต่ไม่ได้เอาเนื้อหาทั้งหมดที่มีตอนนี้ด้วย….
16 ท่านไม่ได้เลือกเรา แต่เราเลือกพวกท่านและแต่งตั้งท่านให้ไปเกิดผลและเพื่อให้ผลของท่านคงอยู่
และคำสั่งที่ต้องทำตาม คือ….
17 สิ่งที่เราสั่งพวกท่านไว้ก็คือ จงรักกันและกัน
สิ่งที่ผู้ที่ถูกเลือกต้องเผชิญเหมือนกับผู้ที่เลือก นั่นก็คือ….
18 “ถ้าโลกนี้เกลียดชังพวกท่าน ก็จงรู้ว่าโลกเกลียดชังเราก่อน19 ถ้าพวกท่านเป็นของโลก โลกก็ย่อมจะรักคนที่เป็นของโลกเอง แต่เพราะท่านไม่ได้เป็นของโลก คือเราเลือกท่านออกจากโลก เพราะเหตุนี้ โลกจึงเกลียดชังท่าน
You are Chosen พรเจ้าทรงเลือกคุณ คุณยังอยากเป็นคนที่พระเจ้าเลือกคุณอยู่อีกหรือไม่ ถ้าคุณถูกเกลียดชังจากโลก เพราะคุณยังอยู่ในการทรงเลือกของพระเจ้า
พระเยซูทรงตรัสเหตุผลที่โลกเกลียดชังพระเยซูก่อน และสาวกก็เป็นศิษย์ที่ไม่ใหญ่กว่าครู ต้องเจอสภาพเดียวกัน คือการเกลียดชังจากโลก โลกรักสิ่งที่เป็นของโลก เหตุผลเดียวกันนั้นเหมือนกับเหตุผลของฟาโรห์ที่ต้องการชนชาติอิสราเอล เพราะฟาโรห์รักความเป็นทาส รักที่จะใช้แรงงานทาสของชนชาติอิสราเอล เมื่อพระเจ้าใช้โมเสสให้มาปลดปล่อยคนอิสราเอลออกจากความเป็นทาส ฟาโรห์เกลียด ปฏิเสธ และไม่ยอมที่จะปล่อยอิสราเอลออกจากความเป็นทาส
ทำนองเดียวกัน พระเยซูคริสต์ทรงเสด็จมาเพื่อจะปลดปล่อยคนให้ออกจากความเป็นทาสของโลกนี้ นี่คือคำที่พระเยซูคริสต์ทรงเรียกการเลือกของพระองค์ว่า….
…..แต่เพราะท่านไม่ได้เป็นของโลก คือเราเลือกท่านออกจากโลก เพราะเหตุนี้ โลกจึงเกลียดชังท่าน
You are Chosen พระเจ้าทรงเลือกคุณ ออกจาความขมและความกระด้างของชีวิต
ครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าได้มีโอกาสร่วมพิธีกินขนมปังไร้เชื้อ ที่คนยิวเรียกว่า พิธีปัสกา ซึ่งความจริงเป็นพิธีสำหรับคนยิวโดยเฉพาะ แต่เพราะมีศิษยาภิบาลยิวมาสอนเรา ท่านก็ได้นำครอบครัวของท่านมาสาธิตพิธีปัสกาให้กับเรา ซึ่งเป็นคริสเตียนต่างชาติ ในงาน Prayer Wave Asia ซึ่งจัดที่ประเทศสิงคโปร์ ในพิธีนี้ จะเป็นการรวมตัวกันของคนยิวในครอบครัวเดียวกัน คนเป็นพ่อ หรือปู่ย่าตายาย จะพูด(ซึ่งในปัจจุบันได้ประยุกต์มาเป็นบทเพลง) มีเนื้อหาว่า ลูกจงฟังพ่อแม่ ถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงทำกับบรรพบุรุษของเรา คือพระเจ้าทรงนำเราออกจากอียิปต์ ดินแดนแห่งความเป็นทาส ในคืนสุดท้าย ให้เรากินขนมปังไร้เชื้อ การร้องเพลงของพ่อแม่ ก็จะมีลูกร้องเพลงร่วมด้วย ฝ่ายลูกก็จะร้องเป็นคำถามว่า พระเจ้าทำอะไรให้กับปู่ย่าตายายของเรา พ่อแม่ก็จะร้องตอบกลับมาว่า พระองค์ปลดปล่อยเราออกจากความขมขื่นของความเป็นทาส แล้วเขาก็จะกินอาหารที่มีรสขม ในพิธีปัสกานี้ มีทั้งขนมปังไร้เชื้อ ที่แข็งกระด้าง เพื่อให้รู้ว่า ชีวิตจริงๆของความเป็นทาส มันขมและกระด้าง ข้าพเจ้าก็ได้ลิ้มรสชาติของขนมปังที่แข็งและของขม ที่ครอบครัวศิษยาภิบาลคนยิว ได้นำเราร่วมโต๊ะในพิธีปัสกา
อพยพ 12:1,-2,8,24-27 1 พระเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนในประเทศอียิปต์ว่า2 “ให้เดือนนี้เป็นเดือนเริ่มต้นสำหรับเจ้าทั้งหลาย ให้เป็นเดือนแรกในปีใหม่สำหรับพวกเจ้า….8 ในคืนวันนั้นให้เขากินเนื้อปิ้ง กับขนมปังไร้เชื้อและผักรสขม….24 ท่านทั้งหลายจงถือพิธีนี้ให้เป็นกฎถาวรของท่านและของลูกหลานท่าน25 ครั้นท่านไปถึงแผ่นดินซึ่งพระเจ้าจะทรงประทานแก่ท่านตามที่ได้ทรงสัญญาไว้แล้วนั้น ท่านจงถือพิธีนี้ไว้ปฏิบัติ26 เมื่อลูกหลานของท่านถามว่า ‘พิธีนี้หมายความว่ากระไร’27 ท่านทั้งหลายจงตอบว่า ‘เป็นการถวายสัตวบูชาปัสกาแด่พระเจ้า เพราะพระองค์ทรงผ่านเว้นบ้านของชนชาติอิสราเอลในอียิปต์ เมื่อพระองค์ทรงประหารคนอียิปต์ แต่ไว้ชีวิตครอบครัวของเราทั้งหลาย’ ” ประชากรทั้งปวงก็กราบลงนมัสการ
คนอิสราเอล ไม่ลืมความขมและความกระด้างของชีวิต ชนชาตินี้ เป็นเหมือนตุ๊กตาจำลอง ให้เห็นถึงชีวิตที่ไม่มีพระเจ้าต้องพบกับความขมและความกระด้างของชีวิต และเมื่อการช่วยกู้ของพระเจ้ามาถึง พวกเขาได้เข้าสู่แผ่นดินคานาอันที่อุดมไปด้วยน้ำผึ้งและน้ำนม น้ำผึ้งหวาน น้ำนม นุ่ม ตรงกันข้ามกับความขมและแข็งกระด้าง
แผ่นดินคานาอันในฝ่ายวิญญาณจริงๆ ก็คือ ชีวิตที่หลุดจากความขมและความกระด้างของชีวิต
มีใครที่ตอนนี้ยังรู้สึก ชีวิตของตนเอง ขม(ขื่น) จิตใจแข็งกระด้าง (เหมือนไม้กระดานที่พร้อมด้วยแรงสะท้อนขนาดเท่ากันกับแรงกระทบภายนอก) รู้สึก เหมือนเจอแต่ของแข็ง และอยากจะตอบโต้ด้วยความแข็งกร้าว การต่อต้าน นั่นคือ ภาวะของจิตใจ ที่พระคัมภีร์มักเรียกว่า ถิ่นทุรกันดารที่ยังไม่ได้เข้าแผ่นดินคานาอัน ที่อุดมไปด้วยน้ำผึ้งและน้ำนม
เป้าหมายของพระเจ้าในการทรงนำอิสราเอลไม่เพียงออกจากดินแดนทาส ในอียิปต์ แต่ทรงมีเป้าหมายให้คนอิสราเอลได้อาศัยในแผ่นดินคานาอันที่อุดมไปด้วยน้ำผึ้งและน้ำนม
เราทั้งหลายได้รับการเลือกจากพระเยซูคริสต์เพื่อจะได้อาศัยในแผ่นดินคานาอัน ที่อุดมไปด้วยน้ำผึ้งและน้ำนมด้วยเช่นกัน และนี่คือที่มาของคำสั่งของพระเยซูคริสต์ต่อจากการทรงเลือกสาวกของพระองค์ออกจากโลกนี้เพื่อให้ทำ….
Verse 17 สิ่งที่เราสั่งพวกท่านไว้ก็คือ จงรักกันและกัน
การรักกันและกัน คือความหวาน ความนุ่มนวลของจิตใจ โลกที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ไม่สามารถที่จะเข้าพวกเดียวกันกับคนที่รักกันและกันได้ การรักกันและกัน คือการออกจากโลกของความเกลียดชัง คำว่า รักที่พรเยซูคริสต์สั่งให้เรารักกันและกัน คือคำว่า รัก(อากาเป้) แต่รักที่โลกรัก คืออีกคำ ฟิเลโอ้ รักอย่างเพื่อน ที่จะรักเมื่อได้รับความรักตอบ รักเมื่อทำเหมือนกัน คล้อยตามกัน ถ้าแตกต่าง ไม่เข้าพวกกัน ก็ไม่รัก
? เรากำลังรักอย่างโลก หรือรักอย่างที่พระเยซูคริสต์สั่งให้เรารัก พระเยซูทรงตรัสว่า พระองค์เลือกเราออกจากโลก เพื่อให้รักแตกต่างจากโลก รักอย่างอากาเป้ รักอย่างไม่มีเงื่อนไข
You are Chosen พระเจ้าทรงเลือกคุณ เพื่อให้คุณรัก อย่างที่พระเจ้าทรงรักคุณ
พิธีปัสกา ซึ่งในเวลาต่อมา พระเยซูคริสต์ทรงใช้เป็นจุดเริ่มต้นของการสถาปนาพิธีมหาสนิท ที่มีแต่การกินขนมปังไร้เชื้อและน้ำองุ่น เพื่อเล็งถึงการสิ้นพระขนม์บนไม้กางเขน กายที่ต้องถูกเฆี่ยนตี และโลหิตที่หลั่งออก เพื่อประกาศการวายพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ และรอคอยการเสด็จมาของพระองค์อีกครั้ง (หลังจากที่พระองค์ฟื้นขึ้นมาจากความตาย) และนี่คือการประกาศเสรีภาพพ้นจากสภาพทาสของโลกนี้ มีเสรีภาพที่จะรัก
1โครินธ์ 6:17 17 แต่คนที่ผูกพันกับองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็เป็นจิตวิญญาณเดียวกับพระองค์
2โครินธ์ 3:17 17 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ และพระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ที่ไหน เสรีภาพก็มีอยู่ที่นั่น
มีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ เสรีภาพแห่งการให้อภัย ได้กล่าวถึง คนมากมาย ไม่มีเสรีภาพในการให้อภัย เมื่อคนเหล่านี้ได้พบกับความผิดพลาดของคนที่ตนเองรัก ยากที่จะให้อภัย ให้อภัยไม่ได้ และนั่นคือสำนวนที่เพลงๆหนึ่งได้ใช้คือคำว่า กำหิน บางคนชอบเพลงนี้มาก แต่ในภาคปฏิบัติ ทำไม่ได้อย่างเพลงที่ตนเองชอบ ยังคงกำหินไว้ ทำให้ตนเองเจ็บปวด และจมอยู่กับความขมขื่น และมีจิตใจที่แข็งกระด้าง
You are Chosen พระเจ้าทรงเลือกคุณ ออกจากโลกของความเกลียดชัง เข้าสู่โลกของการให้อภัย และมีจิตใจที่ได้รับความหวานชื่นหมือนน้ำผึ้ง และความอ่อนนุ่มเหมือน้ำนม เป็นคานาอันของจิตใจ
เมื่อวานนี้ ข้าพเจ้า ต้องเจอกับคำตำหนิ ที่ความจริง ข้าพเจ้าทำผิดจริงๆ คือจอดตรงปากทาง และถูกเตือน ตรงๆจากคนที่ขับรถเข้ามา ข้าพเจ้าคิดว่า จอดแปบเดียว เพราะรีบเอาโทรศัพท์ที่ลืมไว้ตั้งแต่คืนวันศุกร์ แต่ปรากฏว่า ใช้เวลานานกว่าที่คิด คือโทรศัพท์มันถูกเอาขึ้นไปไว้ชั้นสอง แทนที่จะอยู่ตรงธรรมาสต์ และรีบหยิบ รีบออกมา เลยกลายเป็นความมักง่ายในสายตาของคนที่ขับรถจะเข้าซอย เขาเปิดกระจกพูดกับข้าพเจ้า ตอนแรกข้าพเจ้ารู้สึกไม่ดีกับคนที่พูด แต่ข้าพเจ้าก็ขอโทษเขา และบอกเขาว่า แปบเดียว นะค่ะ จะเอาของแล้วก็ไป นี่คือคำแก้ตัว และมันติดในความรู้สึกของข้าพเจ้าตลอดเป็นชั่วโมง เมื่อขับรถออกมา ก็พยายามจะสลัดความรู้สึกนี้ออกไป มันสลัดยากนะ แต่ก็ทำได้ ในที่สุด เพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่ภายในข้าพเจ้าสอนให้ข้าพเจ้าจงมีใจที่อ่อนสุภาพ อย่าแข็งกระด้าง นั่นไม่ใช่ผลของพระวิญญาณ
กาลาเทีย 5:22-23 22 ฝ่ายผลของพระวิญญาณนั้น คือความรัก ความปลาบปลื้มใจ สันติสุข ความอดกลั้นใจ ความปรานี ความดี ความสัตย์ซื่อ23 ความสุภาพอ่อนน้อม การรู้จักบังคับตน เรื่องอย่างนี้ไม่มีธรรมบัญญัติห้ามไว้เลย
ยังไม่จบ ในตอนบ่าย อยากทานปลา ก็เลยชวนน้องชายว่า ก่อนเข้าโบสถ์มาซ้อมเพลง แวะทานแฮมเบอเกอร์กัน แต่ปรากฏว่า ข้าพเจ้าเปลี่ยนจากปลามาเป็นเนื้อ เห็นน้องชายสั่งก็เกิดความอยากเหมือนกัน ก็เจอกับความผิดพลาดของคนรับออร์เดอร์ คิดเงินถูก แต่คนทำไม่ใส่ตามที่คิดเงิน ครั้งแรก ข้าพเจ้าไปทวงว่า มันขาดไป เขาก็ใส่ให้ และขอโทษ พอเปิดทาน และดูใบเสร็จ อ้าว คิดเงิน แต่ยังขาดอีก พอทานเสร็จ ก็เอาใบเสร็จไปบอกเขาว่า คุณคิดเงินผิดนะค่ะ ราคานี้ ไม่จำเป็นต้องเพิ่ม แต่คุณคิดเงินเพิ่ม แต่ของที่ใส่มาเท่าเดิม ก็ได้พบกับคำแก้ตัว ของพนักงาน แบบเดียวกับที่ข้าพเจ้าแก้ตัวเล้ย พระเจ้าสอนข้าพเจ้าในวันเดียวกัน นี่คือ ความไม่สัตย์ซื่อต่อความจริง และคุณธรรมที่เรามักจะเคยชินด้วยการแก้ตัวด้วยเหตุผลที่เราคิดว่า ถูกต้อง สำหรับตัวเราเอง
You are Chosen พระเจ้าทรงเลือกคุณ เพื่อให้คุณสัตย์ซื่อต่อคุณธรรม ดำเนินชีวิต ออกจากโลกนี้ ด้วยคุณธรรม ความจริง ที่พระเยซูคริสต์ทรงเป็นผู้นำทางให้กับเรา
ยอห์น 8:31-32 31 พระเยซูจึงตรัสกับพวกยิวที่ศรัทธาในพระองค์แล้วว่า “ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในคำของเรา ท่านก็เป็นสาวกของเราอย่างแท้จริง32 และท่านทั้งหลายจะรู้จักสัจจะ และสัจจะจะทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไท”
ขอพระเจ้าทรงช่วยเราทุกคน ในขณะที่เรายังดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้ แต่เหมือนกับคนที่ออกไปจากโลกนี้แล้ว พระเยซูทรงสัญญาในการประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ และตรัสถึงการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตของเราผู้เชื่อในพระองค์ว่า….
ยอห์น 14:16-17,26 16 เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้แก่ท่าน เพื่อจะได้อยู่กับท่านตลอดไป17 คือพระวิญญาณแห่งความจริง ซึ่งโลกรับไว้ไม่ได้ เพราะแลไม่เห็นและไม่รู้จักพระองค์ ท่านทั้งหลายรู้จักพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสถิตอยู่กับท่าน และจะประทับอยู่ในท่าน….26 แต่องค์ผู้ช่วยคือพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งพระบิดาจะทรงใช้มาในนามของเรานั้น จะทรงสอนท่านทั้งหลายทุกสิ่ง และจะให้ท่านระลึกถึงทุกสิ่งที่เราได้กล่าวไว้แก่ท่านแล้ว
ในความเป็นมนุษย์ของเรา การมีความรู้สึกในตัวเรา ที่เป็นความโกรธ ความเศร้า หรือความกลัว ไม่ได้เป็นความผิด (มีค่าเป็นกลางNeutral) เมื่อมันเกิดขึ้น มันทำหน้าที่เป็นเหมือนคนยามที่เตือนเราว่า มีบางอย่างผิดปกติ และถ้าเราควบคุมได้ และนำไปสู่การแก้ไข ปรับปรุง นั่นคือวิถีชีวิตของคนที่พระเจ้าทรงเลือก You are Chosen พระเจ้าทรงเลือกคุณ ให้เป็นคนปกติ ไม่ใช่ เทวดา หรือผู้วิเศษ คุณเป็นคน ที่มีความรู้สึก แต่ถ้าเวลานี้ คุณควบคุมตัวเองไม่ได้ มีความผิดปกติ ในอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดบางอย่าง จงรักษาการอยู่ในการทรงเลือกของพระเยซูคริสต์ เพราะในเส้นทางนี้ คือเส้นทางแห่งการเยียวยาให้หายดี
You are Chosen พระเจ้าทรงเลือกคุณ