“ไม่ว่าอยู่แห่งหนใด…ก็จะนมัสการพระเจ้า”
สวัสดีพี่น้องที่รักในพระคริสต์ หากพี่น้องติดตามเพจคริสตจักรใจสมานเพชรเกษม 11 พี่น้องจะเห็นทีมนมัสการไปสถานที่ชายทะเล ที่จังหวัดปราณบุรี และได้เห็นการนมัสการริมทะเล เชิงภูเขา ภาพบรรยากาศสวยงาม และเสียงเพลงแห่งการนมัสการร้องออกมา ณ ที่จุดที่เรายืน และมีผู้ที่ผ่านไปมา กลุ่มหนึ่งเข้ามาร่วมเต้นร้องเพลงกับเรา ก่อนจะเข้ามา เราได้เห็นคนกลุ่มนี้ ขณะเดินผ่านเรา เขาเต้นไปกับเสียงเพลงที่เรากำลังร้อง(นมัสการพระเจ้า) และเขาก็ตั้งใจเข้ามาใกล้เรา และพูดกับเราว่า เพลงอะไร เพราะจังเลย และนั่นคือที่มาของวีดีโอที่พี่น้องได้เห็นในเพจของคริสตจักรล่าสุด (เจ้าหน้าที่ของอุทยาน ได้ถ่ายคลิปของเราเอาไว้ และได้แชร์ประชาสัมพันธ์ไปให้กับกลุ่มของการท่องเที่ยวในท้องถิ่นนั้นได้เห็นการร้องเพลงนมัสการพระเจ้าของเรา ขอบคุณพระเจ้า นี่คือนิมิตหมายที่ดี และเป็นการประกาศด้วยเสียงเพลงให้กับคนภายนอกคริสตจักร
โรม 10:14-15 14 แต่พวกที่ยังไม่เชื่อในพระองค์ จะทูลขอต่อพระองค์ได้อย่างไร? และพวกที่ยังไม่ได้ยินถึงพระองค์ จะเชื่อในพระองค์ได้อย่างไร? และเมื่อไม่มีผู้ประกาศ เขาจะได้ยินถึงพระองค์อย่างไร?15 และถ้าไม่มีใครใช้พวกเขาไป เขาจะไปประกาศได้อย่างไร? ตามที่มีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “เท้าของคนเหล่านั้นที่นำข่าวดีมา ช่างงามจริงๆ หนอ”
“ข่าวดี” เป็นสิ่งที่ใครได้ยินก็จะสบายใจ อยากเต้นรำ ร้องเพลง เบิกบานใจ ถึงเวลาแล้วที่ผู้ที่จะนมัสการพระเจ้า จะนมัสการพระองค์ด้วยจิตวิญญาณและความจริง “ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนไหน….ก็จะนมัสการพระเจ้า” ที่สำคัญ การนมัสการของผู้เชื่อที่อยู่ร่วมกัน เที่ยวด้วยกัน กินด้วยกัน นมัสการพระเจ้าด้วยกัน คือการประกาศที่เป็นธรรมชาติที่สุด
สดุดี 133:1-3 1 ดูเถิด เป็นการดีและน่าชื่นใจมากสักเท่าใด ที่พี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว 2 เหมือนน้ำมันประเสริฐอยู่บนศีรษะ ไหลลงมาบนหนวดเครา บนหนวดเคราของอาโรน ไหลลงมาบนคอเสื้อของท่าน 3 เหมือนน้ำค้างของภูเขาเฮอร์โมน ซึ่งตกลงบนเทือกเขาศิโยน เพราะว่าพระยาห์เวห์ทรงบัญชาพระพรที่นั่น คือชีวิตยืนยาวเป็นนิตย์
“ไม่ว่าอยู่แห่งหนไหน….ก็จะนมัสการพระเจ้า” เพื่อให้นำการนมัสการออกไป