“ลูกผู้ชายแท้”
ปฐมกาล1:27-28 27 พระเจ้าจึงทรงสร้างมนุษย์ขึ้นตามพระฉายาของพระองค์ ตามพระฉายาของพระเจ้านั้น พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้น และได้ทรงสร้างให้เป็นชายและหญิง 28 พระเจ้าทรงอวยพระพรแก่มนุษย์ ตรัสแก่เขาว่า “จงมีลูกดกทวีมากขึ้นจนเต็มแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน จงครอบครองฝูงปลาในทะเล และฝูงนกในอากาศ กับบรรดาสัตว์ที่เคลื่อนไหวบนแผ่นดิน” การอวยพรของพระเจ้าแก่มนุษย์ในที่นี้หมายถึงทั้งชายและหญิงที่จะมีส่วนในการมีลูกดกทวีมากขึ้นจนเต็มแผ่นดิน รากศัพท์คำว่า ลูกดก คำนี้ใช้คำว่า เกิดผล ลูกที่เป็นผลผลิตจากผู้ชายและผู้หญิง จึงบ่งบอกถึงชีวิตที่เกิดผลตามน้ำพระทัยของพระเจ้าตั้งแต่ต้น เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าที่ต้องการให้ผู้ชายเป็นพ่อ และผู้หญิงเป็นแม่ ทั้งพ่อและแม่จะส่งต่อหน้าที่ที่พระเจ้าให้ดูแลสิ่งทรงสร้างของพระเจ้า ได้แก่อาณาจักรของพืชและสัตว์ทั้งบนบกในน้ำและบนท้องฟ้า เรื่องราวการทรงสร้างมนุษย์คู่พิเศษเกิดขึ้นในสวนเอเดน เกี่ยวกับผู้ชายที่จะทำหน้าที่ผู้นำครอบครัวอย่างชัดเจนปฐมกาล 2:18 18 พระเจ้าตรัสว่า “ไม่ควรที่ชายผู้นี้จะอยู่คนเดียว เราจะสร้างคู่อุปถัมภ์ที่สมกับเขาขึ้น” พระเจ้าทรงกำหนดบทบาทของผู้หญิงที่จะเป็นภรรยาของผู้ชาย ให้ทำหน้าที่ เรียกว่า คู่อุปถัมภ์ (Helper) แปลว่า ผู้ช่วย บ่งบอกชัดเจนว่า ผู้ชายต้องทำหน้าที่ผู้นำ โดยมีภรรยาเป็นผู้ช่วย นี่คือบทบาทของความเป็นสามีภรรยา แต่ไม่ได้หมายความว่า ผู้หญิงทุกคนต้องให้ผู้ชายนำ แต่เมื่อผู้ชายได้เป็นสามี บทบาทของผู้ชายจะเปลี่ยนไป และยิ่งผู้ชายกลายมาเป็นพ่อคน บทบาทของผู้ชายก็ยิ่งเปลี่ยนไปด้วย ผู้ชายที่เป็นทั้งผู้ชาย เป็นทั้งสามี และเป็นพ่อคน คุณกำลังเข้ามาสู่จุดที่เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าตั้งแต่เริ่มสร้างโลก เป็นผู้ชายที่ทำหน้าที่ครบทั้งสามอย่าง Tim Lahaye ผู้เขียนหนังสือ Understanding the mate Temperament กล่าวว่า “พระเจ้าทรงตั้งพระทัยสร้างผู้ชายให้เป็นชายที่สมบูรณ์แบบ”ปัญญาจารย์ 7:28 28 ซึ่งจิตใจของข้าพเจ้ายังกำลังหาแล้วหาอีก แต่ข้าพเจ้าหาได้พบปะไม่ ในชายพันคนจะพบชายจริงสักคนหนึ่ง แต่จะหาหญิงแท้สักคนหนึ่งในจำนวนพันคนก็หาไม่พบ ตามความเข้าใจของข้าพเจ้า คิดว่า ชายจริง หญิงแท้ ที่ปัญญาจารย์แสวงหา นั่นก็คือ ชายหรือหญิงที่ได้ทำหน้าที่ครบอย่างสมบูรณ์ คือ เป็นชาย เป็นสามี และเป็นพ่อ สำหรับหญิงก็คือ เป็นหญิง เป็นภรรยา และเป็นแม่ แต่สิ่งที่ปัญญาจารย์ค้นพบอีกสองด้านก็คือ ปฐมกาล7:19 29 ดูเถิด ข้าพเจ้าพบแต่ความนี้ต่างหาก คือพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นคนเที่ยงธรรม แต่มนุษย์ทั้งหลายได้ค้นคว้ากลอุบายต่างๆ ออกมา ด้านหนึ่งคือน้ำพระทัยพระเจ้าในการทรงสร้างมนุษย์ ให้เป็นคนเที่ยงธรรม ส่วนอีกด้านหนึ่งซึ่งตรงกันข้ามกับน้ำพระทัยพระเจ้าก็คือ มนุษย์ทั้งหลายได้ค้นคว้ากลอุบายต่างๆ ออกมา นี่คือการค้นพบเมื่อหลายพันปีที่แล้ว ซึ่งในปัจจุบันของเราไม่ต้องพยายามค้นหา แต่พบได้ง่ายๆมากในท่ามกลางมนุษย์ที่เป็นหญิงและชาย ในสามี ภรรยา และในคนที่เป็นพ่อและแม่ สิ่งตรงกันข้ามเหล่านี้อันได้แก่ กลอุบายต่างๆ ได้ทำลายความสมบูรณ์แบบของความเป็นชายจริงหญิงแท้ไปสิ้น ทำให้คนต่างผิดหวังกันและกัน คนที่เราคาดหวังให้เป็นชายก็ทำให้เราผิดหวังเมื่อเขาไม่เป็นลูกผู้ชาย วันนี้ขอพูดในมุมของผู้ชายสักหน่อย จริงๆ เราก็คาดหวังคนที่จะเป็นหญิงแท้ แต่เราก็ผิดหวังกับความเป็นหญิงแท้เหมือนกัน เราคาดหวังสามีที่ควรจะเป็นสามี แต่ก็ไม่เป็นสามีอย่างที่ควรจะเป็น และลูกๆก็คาดหวังความเป็นพ่อที่พ่อมากมายก็ไม่สามารถไปถึงได้ ในวีดีโอเพลงที่เราได้รับชมไป มีทั้งซุปตาร์ และนักร้องสมัครเล่น ทั้งสองมีบทบาทที่เปลี่ยนไป จากผู้ชายที่เป็นสามีมาเป็นพ่อ และต่างตั้งใจที่จะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด ในเนื้อหาของเพลงบอกเราว่า เขารู้ตัวดีว่า อาจจะเป็นพ่อที่ดีอย่างที่ลูกคาดหวังไม่ได้ แต่จะตั้งใจ เพราะบทบาทของเขาเปลี่ยนไปแล้ว ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่า พ่อหลายคนที่นี่ก็มีความตั้งใจที่จะทำอย่างนั้น แต่ก็มีความอ่อนแอและจำกัดในบางครั้ง ที่ทำให้ลูกเสียใจ ผิดหวัง มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า ถ้าเริ่มต้นผิด ต่อๆไปก็จะผิดไปหมด ข้าพเจ้าอยากให้เราลองนั่งลงสำรวจความผิดพลาดที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ที่ก่อให้เกิดความผิดหวัง ความเสียใจกับคนใกล้ชิด คนในครอบครัว และแม้แต่ตัวเราเองที่รู้สึกไม่ค่อยพึงพอใจกับชีวิตที่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก บางทีเราอาจจะตั้งโจทย์ไม่ถูกต้อง เราจึงหาคำตอบในการแก้ปัญหาที่เผชิญอยู่ไม่ได้สักที โจทย์ของเราอยู่ที่ไหน บางทีเราอาจไม่ได้ย้อนกลับไปมองว่า การเริ่มต้นของเรามันใช่หรือเปล่า และข้าพเจ้าอยากจะตั้งโจทย์ที่สำคัญก็คือ จุดเริ่มต้นของผู้ชาย…เป็นลูกผู้ชายแท้หรือไม่ จากหนังสือ 1โครินธ์ 16:13-14 13 ท่านทั้งหลายจงระมัดระวัง จงมั่นคงในความเชื่อของท่าน จงเป็นลูกผู้ชายแท้ จงเข้มแข็ง14 ทุกสิ่งซึ่งท่านกระทำนั้น จงกระทำด้วยความรัก หัวข้อวันพ่อของเราวันนี้ คือ พ่อ…ยอดมนุษย์มหัศจรรย์ Super Dad Super Man เราอาจคิดถึงซุปเปอร์ฮีโร่ทั้งหลาย หรือมองภาพผู้ชายต้องเข้มแข็ง ร้องไห้ไม่เป็น อ่อนแอไม่ได้ แต่มีคำหนึ่งกล่าวว่า เข้มแข็งไม่ได้หมายความว่าต้องก้าวร้าว อ่อนโยนไม่ได้หมายความว่าอ่อนแอ แต่ภาพของซุปเปอร์ฮีโร่ทำให้ภาพของผู้ชาย โดยเฉพาะเมื่อกลายเป็นสามีและกลายเป็นพ่อกลับต้องก้าวร้าวแทนที่จะเข้มแข็ง และอ่อนแอแทนที่จะ อ่อนโยน หากเรามาตีความพระคัมภีร์ตอนนี้ 13 ท่านทั้งหลายจงระมัดระวัง จงมั่นคงในความเชื่อของท่าน จงเป็นลูกผู้ชายแท้ จงเข้มแข็ง14 ทุกสิ่งซึ่งท่านกระทำนั้น จงกระทำด้วยความรัก ได้บ่งชี้ให้เราได้เป็นลูกผู้ชายแท้ด้วยชีวิตที่แสดงออกสี่ด้าน และข้าพเจ้าเชื่อว่า นี่จะเป็นคำตอบสำหรับการแก้ปัญหาความเป็นสามีหรือเป็นพ่อที่จะสามารถตอบสนองความคาดหวังของภรรยาและลูกๆได้ และจะเป็นมุมมองที่บรรดาผู้หญิงทั้งหลายควรจะเข้าใจและคาดหวังผู้ชาย ภรรยาจะเข้าใจและคาดหวังสามี และลูกๆจะเข้าใจและคาดหวังพ่อ ประการแรกก็คือ ความเป็นลูกผู้ชายแท้ตามพระคัมภีร์ได้กล่าวถึง คือ การ….
1.ระมัดระวังชีวิต
คำว่า ระมัดระวัง ที่พระคัมภีร์ใช้ตอนนี้ แปลว่า เฝ้ามองดู ตื่นตัวตลอดเวลา นี่เป็นคุณสมบัติของลูกผู้ชายแท้ ที่ต้องมี คือการ ตื่นตัวตลอดเวลาและเฝ้าระวัง ทำให้เห็นภาพของคนยามที่ทำหน้าที่ตื่นตัวตลอดเวลา คนยามที่ดี จะไม่หลับยาม ขโมยมายกเค้าไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หรือคนยามเอาแต่ดูทีวี อ่านหนังสือพิมพ์จนไม่เงยหน้ามองว่า มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า แต่คิดไปเองว่า ทุกอย่างปกติ ไม่ต้องทำหน้าที่ตรวจตรา หรือเดินยาม ลูกผู้ชายแท้ที่พระคัมภีร์เตือนให้ระมัดระวังเหมือนคนยาม พระเยซูคริสต์เจ้าทรงเตือนสาวกของพระองค์ว่า มัทธิว 26:41 41 ท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังและอธิษฐาน เพื่อท่านจะไม่ต้องถูกทดลอง จิตวิญญาณพร้อมแล้วก็จริง แต่กายยังอ่อนกำลัง” เป็นคำเดียวกันที่หมายถึงการเฝ้ามองดูอย่างคนยามที่ตื่นตัวตลอดเวลา ลูกผู้ชายแท้ต้องตื่นตัว ไม่หลับใหลไปกับโลกนี้ คนในโลกนี้ลุ่มหลงไปกับสิ่งต่างๆมากมาย นั่นคืออาการหลับใหล ไม่รู้ตัว และถูกทดลองให้ทำบาปมากมาย พระเยซูเตือนสาวกของพระองค์ อย่างเดียวกันกับที่อ.เปาโลได้เตือนผู้ชายทุกคนให้เป็นลูกผู้ชายแท้ คือต้องระมัดระวัง ไม่หลับใหล ไม่ปล่อยให้ตนเองเข้าไปสู่การทดลอง จิตวิญญาณพร้อมแล้วก็จริง แต่กายยังอ่อนกำลัง”ประโยคนี้ได้บอกเราอีกว่า ลูกผู้ชายแท้ ยังหมายถึง ต้องรู้ความอ่อนแอของตนเอง และต้องดูแลตนเองให้ดีด้วยการระมัดระวัง อธิษฐาน อย่าชะล่าใจ ต้องกระตุ้นกันและกันให้อธิษฐานและเฝ้าระวัง อย่าคิดว่าตนเองเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ อ่อนแอไม่เป็น ล้มไม่เป็นท่าไปนักต่อนักแล้วกับบรรดาผู้ชายทั้งหลายที่คิดว่า เอาอยู่ แต่สุดท้ายเอาไม่อยู่ พ่ายแพ้การทดลอง ล้มลงในความบาป เพราะการไม่ระมัดระวัง กับเรื่อง อบายมุข รูปโป๊ หนังโป๊ การพนัน การลามก การคบหาผู้คนไม่เลือกหน้า หรือการไม่ใส่ใจเรื่องศีลธรรมต่างๆ หรืองานบางชนิดที่ล่อแหลม พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับเพศตรงกันข้าม เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของคนที่หลับใหล แต่ลูกผู้ชายแท้ของพระเจ้าต้องตื่นตัวตลอดเวลาและเฝ้าระมัดระวังเสมอ ประการที่สองสำหรับลูกผู้ชายแท้ที่ต้องมีคือ
2.มั่นคงในความเชื่อ
ตรงกันข้ามกับความมั่นในความเชื่อ คือความสงสัย ยากอบ1:3-8 3 เพราะท่านทั้งหลายรู้ว่า การทดลองความเชื่อของท่านนั้น ทำให้เกิดความหนักแน่นมั่นคง4 และจงให้ความมั่นคงนั้นบรรลุผลอันสมบูรณ์ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนที่ดีพร้อม มีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่มีสิ่งใดบกพร่องเลย5 ถ้าผู้ใดในพวกท่านขาดสติปัญญา ก็ให้ผู้นั้นทูลขอจากพระเจ้า ผู้ทรงโปรดประทานให้แก่คนทั้งปวงด้วยพระกรุณาและมิได้ทรงตำหนิ แล้วผู้นั้นก็จะได้รับสิ่งที่ทูลขอ6 แต่จงให้ผู้นั้นทูลขอด้วยความเชื่อ อย่าสงสัยเลย เพราะว่าผู้ที่สงสัยเป็นเหมือนคลื่นในทะเลซึ่งถูกลมพัดซัดไปมา7 ผู้นั้นจงอย่าคิดว่าจะได้รับสิ่งใดจากพระเจ้าเลย8 เขาเป็นคนสองใจไม่มั่นคงในบรรดาทางที่ตนประพฤตินั้น พระคัมภีร์ได้กล่าวว่า การจะเกิดความมั่นคงในความเชื่อ ความเชื่อต้องถูกทดลอง จึงจะเป็นความเชื่อแท้ ลูกผู้ชายแท้จะต้องถูกทดลองความเชื่อ วันนี้ คุณกำลังถูกทดลองความเชื่อแบบไหน และคุณแก้ปัญหาการถูกทดลองความเชื่อด้วยวิธีไหน ความจริงพระคัมภีร์ได้แนะนำไว้แล้วถึงการเผชิญกับการทดลองความเชื่อ นั่นคือ การขอสติปัญญาจากพระเจ้า คนที่ไม่ขอสติปัญญาจากพระเจ้า คือคนที่สงสัย ไม่เชื่อว่า สติปัญญาที่มาจากพระเจ้าจะแก้ปัญหาให้ได้ แต่กลับไปใช้สติปัญญาของตนเองแก้ปัญหาเอง พระคัมภีร์ให้บทสรุปเลยว่า ไม่มีวันที่จะได้รับสิ่งใดจากพระเจ้าสำหรับคนที่ปากบอกว่า เชื่อพระเจ้า แต่เมื่อความเชื่อถูกทดลอง กลับใช้วิธีของตนเอง ไม่ได้พึ่งพาวิธีการของพระเจ้า นี่คือลักษณะที่พระคัมภีร์เรียกว่า 8 เขาเป็นคนสองใจไม่มั่นคงในบรรดาทางที่ตนประพฤตินั้น และไม่ใช่ลูกผู้ชายแท้ เพราะลูกผู้ชายแท้จะทำอย่างที่ตนเองพูด หรือพูดอย่างที่ตนเองทำ แต่คนสองใจ คือคนที่พูดอย่าง ทำอย่าง โดยเฉพาะการพูดถึงความเชื่อ แต่การกระทำไม่ได้แสดงถึงความเชื่อที่ตนเองพูดเลย ขอให้เรากลับมาตั้งโจทย์ของตนเองใหม่ ผู้หญิงทั้งหลาย แม้วันนี้คำเทศนาจะสำหรับผู้ชาย แต่ผู้หญิงอย่างเราได้เรียนรู้ที่จะเป็นหญิงแท้ในวิถีเดียวกัน ประการที่สาม ลูกผู้ชายแท้ต้อง….
3.เข้มแข็ง
รากศัพท์คำนี้ แปลว่า ให้พลังแก่คนอื่น Empower วันนี้ เรากำลังดำเนินชีวิต แบบดูดพลังชีวิตจากคนอื่น หรือเรากำลังให้พลังแก่คนอื่นอยู่ มีคนจำนวนไม่น้อย ดำเนินชีวิตแบบแรก คือใครอยู่ใกล้ หมดพลัง เพราะเป็นตัวดูด ดูดกำลังใจ ยิ่งใกล้ยิ่งเสียกำลังใจ ยิ่งใกล้ยิ่งอยากตาย นั่นคือตัวดูดพลังชีวิตที่ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้ แต่บางทีสถานการณ์ทำให้หนีไม่ได้ ต้องอยู่ด้วยอย่างจำใจ ชีช้ำกะหล่ำปลี การทำตัวไม่น่ารักก็เป็นการดำเนินชีวิตเป็นตัวดูดพลังชีวิต ในทางตรงกันข้าม ลักษณะชีวิตของลูกผู้ชายแท้ต้องให้พลังแก่คนที่อยู่ใกล้ ใครอยู่ใกล้ต้องได้กำลังใจ อยากมีชีวิตอยู่ต่อ โลกนี้น่าอยู่ คริสตจักรน่าอยู่ บ้านน่าอยู่ สังคมน่าอยู่ นี่คือความเข้มแข็งที่แท้จริง และเป็นคุณสมบัติของลูกผู้ชายแท้ โจทย์ของเราเริ่มต้นที่นี่หรือไม่ เราเข้มแข็งจริงหรือปลอม ดูข้างนอกแข็งแต่ภายในอ่อนแอ เต็มไปด้วยความก้าวร้าว หยาบคายหรือไม่ ขอให้เราจงหันกลับมาสำรวจตัวเราเองอีกครั้ง ขอพระวิญญาณของพระเจ้าซึ่งสถิตภายในผู้เชื่อทุกคนแล้ว ทรงโปรดเปลี่ยนแปลงเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นลูกผู้ชายแท้ หรือใครก็ตาม พระวิญญาณของพระเจ้าทรงทำได้ เอเฟซัส 4:22-24 22 ท่านจงทิ้งตัวเก่าของท่าน ซึ่งคู่กับวิถีชีวิตเดิมนั้นเสีย อันจะเสื่อมเสียไปสู่ความตายตามตัณหาอันเป็นที่หลอกลวง23 และจงให้วิญญาณจิตของท่านเปลี่ยนใหม่24 และให้ท่านสวมสภาพใหม่ ซึ่งทรงสร้างขึ้นใหม่ตามแบบอย่างของพระเจ้า ในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์ที่แท้จริง ความเข้มแข็งของลูกผู้ชายที่แท้จริงคือ การยอมเปลี่ยนแปลง การทิ้งตัวเก่า นิสัยเก่า การเข้าไปสู่แบบอย่างของพระเจ้าใน ความชอบธรรมและความบริสุทธิ์ที่แท้จริง ในทางตรงกันข้าม การดื้อด้านไม่ยอมเปลี่ยนแปลงใหม่ คือความอ่อนแอภายในที่เกิดจากความกลัว แต่ความเข้มแข็งของลูกผู้ชายแท้คือความกล้าหาญที่จะเปลี่ยนแปลงใหม่ แก้ไขสิ่งผิดให้ถูกต้อง ยอมรับการตรวจสอบจากภายนอกด้วยเช่นกัน ประการสุดท้าย ของลูกผู้ชายแท้ก็คือ ชีวิตที่แสดงออกด้วย….
4.กระทำทุกสิ่งด้วยความรัก
การทำด้วยความรักอาจดูเหมือนนิ่มๆ ดูเหมือนไม่น่าจะเป็นบุคคลิกของผู้ชาย แต่นี่คือความเข้มแข็งที่แท้จริง และเป็นคุณสมบัติของลูกผู้ชายแท้ระดับลึก มีคำพูดที่กล่าวเปรียบเทียบระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงว่า ผู้ชายจะใช้เหตุผล และผู้หญิงมักจะใช้อารมณ์ จนผู้ชายบางคนอาจคิดว่า เรื่องของความรักเป็นเรื่องของอารมณ์ เป็นเรื่องของผู้หญิง แต่ให้เรามาดูพระคัมภีร์กล่าวถึงพระเจ้าอย่างไร 1ยอห์น 4:7-8,16 7 ท่านที่รักทั้งหลาย ขอให้เรารักซึ่งกันและกัน เพราะว่าความรักมาจากพระเจ้า และทุกคนที่รักก็บังเกิดมาจากพระเจ้า และรู้จักพระเจ้า8 ผู้ที่ไม่รักก็ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก….16 ฉะนั้นเราทั้งหลายจึงรู้ และเชื่อในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา พระเจ้าทรงเป็นความรัก และผู้ใดที่อยู่ในความรักก็อยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าก็ทรงสถิตอยู่ในผู้นั้น พระคัมภีร์ใช้สรรพนามเรียกพระเจ้าเป็นเพศชาย พระเจ้าทรงเป็นความรักและทรงกระทำทุกอย่างด้วยความรัก พระองค์ยังเรียกให้มนุษย์เรียกพระองค์ว่า บิดา (พ่อ)โรม 8:15 15 เหตุว่าท่านไม่ได้รับน้ำใจทาสซึ่งทำให้ตกในความกลัวอีก แต่ท่านได้รับพระวิญญาณผู้ทรงให้เป็นบุตรของพระเจ้า ให้เราทั้งหลายร้องเรียกพระเจ้าว่า “อับบา” คือพระบิดา เอเฟซัส 3:15 15 (คำว่า บิดา ของทุกตระกูล ทุกชาติ ในสวรรค์ก็ดี ที่แผ่นดินโลกนี้ก็ดีมาจากคำว่า พระบิดา) เอเฟซัส 4:6 6 พระเจ้าองค์เดียวผู้เป็นพระบิดาของคนทั้งปวง ผู้ทรงอยู่เหนือคนทั้งปวง และทั่วคนทั้งปวง และในคนทั้งปวง เริ่มต้นของพระเจ้าคือพระองค์ทรงเป็นความรัก และนี่คือพระลักษณะของพระเจ้าที่ทรงเป็นผู้ชายแท้ที่จะกระทำทุกสิ่งด้วยความรัก ดังนั้น พระเจ้าจึงทรงเป็นพระบิดาของคนทั้งปวง ขอให้คุณพ่อ สามี และผู้ชายทุกคนจงเลียนแบบพระเจ้าในการเป็นลูกผู้ชายแท้ ที่รักให้เป็น แสดงออกเป็นการกระทำด้วยความรัก ไม่ใช่สิ่งที่น่าอายที่จะแสดงความรู้สึกของความรักเป็นการกระทำ เช่นกอดลูก กอดภรรยา หรือพูดถ้อยคำที่แสดงความรัก ความห่วงใย มีสามีหรือพ่อบางคนไม่เคยพูดคำว่ารักกับภรรยาหรือลูกเลย เพราะว่ากลัวจะถูกล้อ ถูกมองว่าแปลกประหลาด ค่านิยมผิดๆนี้ไม่ใช่ของลูกผู้ชายแท้ แต่ลูกผู้ชายแท้ ต้องกระทำทุกอย่างด้วยความรัก โดยเฉพาะเมื่อกำลังโกรธ กำลังรู้สึกแย่ ความรักจะดับความความรู้สึกเหล่านั้นจากประชดประชัน หรือใช้อารมณ์ ความรุนแรงให้สลายไปได้ สุภาษิต 15:1 1 คำตอบอ่อนหวานช่วยละลายความโกรธเกรี้ยวให้หายไป แต่คำกักขฬะเร้าโทสะ ความรักทำให้ถ้อยคำของลูกผู้ชายแท้อ่อนหวานลงได้ ลูกผู้ชายแท้ต้องกระทำทุกอย่างด้วยความรัก อย่างที่พระเจ้าทรงกระทำต่อเราทั้งหลาย อ.เปาโลได้ลงท้ายในจดหมายเพื่อหนุนใจผู้ชายในสังคมคนยิวเวลานั้นว่า 1เธสะโลนิกา 5:12-23 12 พี่น้องทั้งหลาย เราขอวิงวอนท่านให้นับถือคนที่ทำงานอยู่ในพวกท่าน ซึ่งปกครองท่านในองค์พระผู้เป็นเจ้า และตักเตือนท่าน13 จงเคารพและรักเขาให้มากเพราะงานที่เขาได้กระทำ จงอยู่อย่างสงบสุขด้วยกัน14 และพี่น้องทั้งหลาย เราขอวิงวอนพวกท่านให้ตักเตือนคนที่เกียจคร้าน หนุนน้ำใจผู้ที่ท้อใจ ชูกำลังคนที่อ่อนกำลัง และมีใจอดเอาเบาสู้ต่อคนทั้งปวง15 ระวังให้ดี อย่าให้คนใดทำชั่วตอบแทนการชั่ว แต่จงหาทางทำดีเสมอต่อพวกท่านเอง และต่อคนทั้งปวงด้วย16 จงชื่นบานอยู่เสมอ17 จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ18 จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ซึ่งปรากฏอยู่ในพระเยซูคริสต์เพื่อท่านทั้งหลาย19 อย่าดับพระวิญญาณ20 อย่าประมาทคำเผยข้อลับลึก21 จงพิสูจน์ทุกสิ่ง สิ่งที่ดีนั้นจงยึดถือไว้ให้มั่น22 จงเว้นเสียจากสิ่งที่ชั่วทุกอย่าง 23 ขอให้องค์พระเจ้าแห่งสันติสุขทรงให้ท่านเป็นคนบริสุทธิ์หมดจด และทรงรักษาทั้งวิญญาณ จิตใจและร่างกายของท่านไว้ให้ปราศจากการติเตียน จนถึงวันที่พระเยซูคริสตเจ้าของเราเสด็จมา นี่คือคำตักเตือนสำหรับลูกผู้ชายแท้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น การตอบสนองของลูกผู้ชายแท้สามารถขอบคุณพระเจ้าได้ในทุกกรณี อาเมน