“ปราศจากที่ติ…ในการรู้จักบังคับตน”

คำว่า “แตก”  ในความหมายที่เอามาต่อกับสำนวนต่างๆ มีความหมายคือ เผยออกมา ซึ่งเมื่อก่อนอาจจะไม่มี หรือซ่อนไว้ แต่ซ่อนไม่ไหวต้องแสดงออกมา คำว่า “แตก” ถูกนำมาผนวกกับสำนวนคำมากมาย เช่น   เบรกแตก เป็นสำนวนแปลว่า ควบคุมอารมณ์โกรธไม่อยู่  สติแตก แปลว่า ควบคุมสติไม่อยู่ บ้าดีเดือด ติสต์แตก ติสต์มาจากคำว่าอาร์ตติสต์ สมัยก่อนจะเรียกว่าติสต์ แทนคำว่าศิลป์ อาการนี้เป็นอาการของผู้ที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงมากมายเหมือนเป็น ศิลปินบ้าพลัง เป็นมากจนถึงกลายเป็นการไม่รับความคิดเห็นจากผู้อื่นหรือทนรับคำวิจารณ์ อื่นๆไม่ได้ เพราะมีจิตวิญญาณศิลปินสุง จนหลงคิดไปว่าข้านี่แหละเทพที่สุด  “แต๋วแตก” ประมาณว่าแอ๊บแมน(ทำตัวเป็นชาย)มาตลอด สุดท้ายก็เผยความแต๋วออกมา เพราะอั้นไว้ไม่อยู่  ตบะแตก บำเพ็ญตบะต่อไปไม่ได้เพราะทนต่อสิ่งเย้ายวนไม่ไหว หมดความอดกลั้น สิ้นความอดทน นำมาใช้เป็นสำนวนแปลว่า ควบคุมตัณหาความอยากไม่อยู่  ยังมีอาการอีกมากมายที่คนในยุคนี้ได้เผยออกมาโดยไม่เก็บซ่อนไว้อีกต่อไปและพยายามทำให้สังคมยอมรับตัณหาความอยากต่างๆของผู้คน จนกลายคนกลุ่มใหญ่ เสียงส่วนใหญ่ ที่บอกว่า ยอมรับได้  จากสีดำกลายเป็นเทาๆ  จากไม่ถูกต้อง กลายเป็นต้องถูก เพราะคนส่วนใหญ่เขาทำกัน พระเยซูคริสต์เจ้าทรงตรัสไว้ว่า มัทธิว7:13  13 “จง​เข้า​ไป​ทาง​ประตู​แคบ เพราะ​ว่า​ประตู​ใหญ่ และ​ทาง​กว้าง​ซึ่ง​นำไป​ถึง​ความ​พินาศ และ​คน​ที่​เข้า​ไป​ทาง​นั้น​มี​มาก​ คนจำนวนมากเลือกเข้าไปทางประตูใหญ่และทางกว้าง เพราะเป็นทางที่ตามใจปรารถนากิเลศตัณหาความอยากของตนเอง  พระคัมภีร์เรียกการเลือกประตูใหญ่และทางกว้างว่า เป็นการสนองต่อความต้องการของเนื้อหนัง กาลาเทีย 5:19-21  19 การ​งาน​ของ​เนื้อ​หนัง​นั้น​เห็น​ได้​ชัด คือ​การ​ล่วง​ประเวณี การ​โสโครก การ​ลามก​20 การ​นับ​ถือ​รูป​เคารพ การ​ถือ​วิทยาคม การ​เป็น​ศัตรู​กัน การ​วิวาท​กัน การ​ริษยา​กัน การ​โกรธ​กัน การ​ใฝ่​สูง การ​ทุ่ม​เถียง​กัน การ​แตก​ก๊ก​กัน​21 การ​อิจฉา​กัน การ​เมา​เหล้า การ​เล่น​เป็น​พาล​เกเร และ​การ​อื่นๆ ใน​ทำนอง​นี้​อีก​เหมือน​ที่​ข้าพเจ้า​ได้​เตือน​ท่าน​มา​ก่อน บัดนี้​ข้าพเจ้า​ขอ​เตือน​ท่าน​เหมือนกับ​ที่​เคย​เตือน​มา​แล้ว​ว่า คน​ที่​ประพฤติ​เช่นนั้น​จะ​ไม่​มี​ส่วน​ใน​แผ่นดิน​ของ​พระ​เจ้า​  คำตรัสของพระเยซูคริสต์เจ้าในมัทธิวบทที่ 7:14 ได้กล่าวต่อไปอีกว่า 14 เพราะ​ว่า​ประตู​ซึ่ง​นำไป​ถึง​ชีวิต​นั้น​ก็​คับ​และ​ทาง​ก็​แคบ ผู้​ที่​หา​พบ​ก็​มี​น้อย​  ประตูคับและทางแคบไม่ได้ปรากฏให้พบได้ง่าย  คนที่ตั้งใจที่จะหาประตูคับและทางแคบจึงจะพบ  แสดงว่า ถ้าไม่มีความตั้งใจ ไม่มีการพบประตูคับและทางแคบด้วยความบังเอิญ  เพราะประตูคับกับทางแคบ เป็นความหมายของการรู้จักบังคับตนที่ไม่สามารถพบได้ในมนุษย์  เพราะการรู้จักบังคับตนเป็นคุณลักษณะในผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ กาลาเทีย 5:22-23 22 ฝ่าย​ผล​ของ​พระ​วิญญาณ​นั้น คือ​ความ​รัก ความ​ปลาบ​ปลื้ม​ใจ สันติ​สุข ความ​อด​กลั้น​ใจ ความ​ปรานี ความ​ดี ความ​สัตย์​ซื่อ​ 23 ความ​สุภาพ​อ่อน​น้อม การ​รู้จัก​บังคับ​ตน เรื่อง​อย่าง​นี้​ไม่​มีธรรม​บัญญัติ​ห้าม​ไว้​เลย​  คำว่า ผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็นเอกพจน์ ไม่ใช่มีหลายๆผล แต่เป็นผลเดียวที่มีเก้าคุณลักษณะในผลเดียว  ข้าพเจ้าเคยยกตัวอย่างผลส้มโชกุแท้จะต้องมีคุณลักษณะเด่นของส้มห้าชนิดในผลเดียว (ถ้าข้าพเจ้าจำไม่ผิด เพราะคุณพ่อของเพื่อนข้าพเจ้าอยู่ที่ยะลาเป็นคนผสมพันธ์คนแรกและขายกิ่งพันธุ์ให้คนอื่นๆนำไปปลูก  ส้มโชกุนที่มีลักษณะไม่ครบ ไม่ใช่ส้มโชกุนแท้ ทำนองเดียวกัน ผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์จะต้องมีครบทั้งเก้าอย่างจึงจะเป็นผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์แท้ หากมีอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ยังเป็นผลที่เลียนแบบ  ไม่ใช่ผลแท้  คนที่ไม่ใช่คริสเตียนจะมีผลพระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่ได้  ส่วนเนื้อหนังไม่สามารถเรียกว่าผล  เพราะเนื้อหนังออกผลไม่ได้  รากศัพท์ภาษากรีกเรียกว่าสิ่งที่ออกมาจากเนืัอหนังว่า เป็นการออกแรงทำงาน   ข้าพเจ้าเชื่อว่าคริสเตียนทุกคนมีผลแท้ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพียงแต่ว่ามีคริสเตียนไม่น้อยที่ไม่สามารถเห็นผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ก็เพราะเป็นการพยายามที่จะตอบสนองต่อความต้องการของเนื้อหนัง แทนที่จะต่อสู้กับเนื้อหนัง ถ้อยคำการเชิญชวนของพระเยซูคริสต์เจ้าในการเรียกคนให้ติดตามพระองค์ ซึ่งบันทึกในหนังสือพระกิตติคุณถึงสามเล่มเหมือนกัน มัทธิว 16: 24  มาระโก8:34  ลูกา  9:23 “ถ้า​ผู้ใด​ใคร่​ตาม​เรา​มา ให้​ผู้​นั้น​เอาชนะ​ตัวเอง และ​รับ​กางเขน​ของ​ตน​แบก​ทุก​วัน และ​ตาม​เรา​มา การต่อสู้กับเนื้อหนังมีเป้าหมายไม่ใช่แค่การปฏิเสธความต้องการของตนเองแต่ต้องเดินต่อไปให้สุดทางคือการแบกกางเขน  คริสเตียนทุกคนมีกางเขนของตนเองที่ต้องแบก เป็นความอดทน  เป็นความเจ็บปวด และอาจจะเป็นความอับอาย  เป็นการทรงเรียกเฉพาะสำหรับคริสเตียนแต่ละคน ให้รับด้วยความเชื่อฟังน้ำพระทัยของพระเจ้า  เพื่อจะเดินในเส้นทางอย่างเดียวกันกับพระเยซูคริสต์เจ้า ที่พระองค์ทรงตรัสว่า ตามเรามา   การเอาชนะตัวเองและรับแบกกางเขน คือ การรู้จักบังคับตนที่เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คริสเตียนค้นพบประตูที่คับและทางที่แคบได้ มันไม่ใช่ความพยายามของเนื้อหนัง เพราะเนื้อหนังจะไม่สามารถ แต่ต้องเป็นผลจากพระวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้น ดังนั้น นิยามของคำว่า การรู้จักบังคับตน จึงไม่เหมือนกับนิยามของโลกนี้ที่คนพยายามเป็นคนดีมากมายพยายามกระทำกัน นี่คือสิ่งที่พระเยซูคริสต์เจ้าทรงตรัสกับนิโคเดมัส (ฟาริสีที่แอบมาหาพระเยซูในเวลากลางคืน เพื่อจะรับคำสอนจากพระเยซู) พระเยซูตรัสกับเขาว่า ยอห์น 3:3-7  3 ​พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​เขา​ว่า “เรา​บอก​ความ​จริง​แก่​ท่าน​ว่า ถ้า​ผู้ใด​ไม่ได้​บังเกิด​ใหม่​ ผู้​นั้น​จะ​เห็น​แผ่นดิน​ของ​พระ​เจ้า​ไม่ได้”4 นิโค​เดมัส​ทูล​พระ​องค์​ว่า “คนชรา​แล้ว​จะ​บังเกิด​ใหม่​อย่างไร​ได้ จะ​เข้า​ใน​ครรภ์​มารดา​ครั้ง​ที่​สอง​และ​บังเกิด​ใหม่​ได้​หรือ”5 ​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “เรา​บอก​ความ​จริง​แก่​ท่าน​ว่า ถ้า​ผู้ใด​ไม่ได้​บังเกิด​ใหม่​จาก​น้ำ​และ​พระ​วิญญาณ ผู้​นั้น​จะ​เข้า​ใน​แผ่นดิน​ของ​พระ​เจ้า​ไม่ได้​6 ซึ่ง​บังเกิด​จาก​เนื้อ​หนัง​ก็​เป็น​เนื้อ​หนัง และ​ซึ่ง​บังเกิด​จาก​พระ​วิญญาณ​ก็​เป็น​วิญญาณ​7 อย่า​ประหลาด​ใจ​ที่​เรา​บอก​ท่าน​ว่า ท่าน​ทั้ง​หลาย​ต้อง​บังเกิด​ใหม่​  ฝรั่งจะมีคำหนึ่งสำหรับเชิญคนให้ออกมาหน้าธรรมมาสต์ นั่นคือ คุณเป็น New born again Christianแล้วหรือยัง แปลว่า คุณเป็นคริสเตียนที่บังเกิดใหม่แล้วหรือยัง  เพราะว่ามีคนที่อ้างว่าตนเองเป็นคริสเตียนจากการเกิดในครอบครัวคริสเตียน แต่ดำเนินชีวิตที่มีแต่การงานของเนื้อหนัง พระเยซูทรงใช้คำว่า บังเกิดใหม่ เพื่อให้นิโคเดมัสรู้ว่า แม้เขาจะเป็นยิว เป็นฟาริสี รู้พระคัมภีร์มากมาย ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติได้อย่างเคร่งครัด แต่นั่นก็เป็นการงานของเนื้อหนัง นิโคเดมัสไม่สามารถเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าได้  5 ​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “เรา​บอก​ความ​จริง​แก่​ท่าน​ว่า ถ้า​ผู้ใด​ไม่ได้​บังเกิด​ใหม่​จาก​น้ำ​และ​พระ​วิญญาณ ผู้​นั้น​จะ​เข้า​ใน​แผ่นดิน​ของ​พระ​เจ้า​ไม่ได้​6 ซึ่ง​บังเกิด​จาก​เนื้อ​หนัง​ก็​เป็น​เนื้อ​หนัง และ​ซึ่ง​บังเกิด​จาก​พระ​วิญญาณ​ก็​เป็น​วิญญาณ วันนี้คุณเป็นคริสเตียนบังเกิดใหม่หรือไม่  มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า  หากเรายังมีความรู้สึกต่อสู้กันภายในตัวเรา ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Struggling (ไม่ใช่ความสับสน) แต่เป็นความชัดเจนของการต่อสู้ภายใจตัวเอง ระหว่างความดีกับความชั่ว  เป็นการต่อสู้ระหว่างความสว่างกับความมืด เป็นการต่อสู้ระหว่างนิสัยที่ดีกับนิสัยที่ไม่ดี เป็นการต่อสู้ระหว่างการให้อภัยกับการไม่ให้อภัย เป็นการต่อสู้ระหว่างการเอาชนะตัวเองกับการพ่ายแพ้ความปรารถนากิเลศตัณหาความอยากของตนเอง นี่คือสัญญาณที่ดีของชีวิตคริสเตียนที่คุณกำลังจะเดินเข้าไปในโซนที่เรียกว่า การรู้จักบังคับตนเอง ที่ข้าพเจ้ากล่าวว่า  ข้าพเจ้าเชื่อว่า คริสเตียนทุกคนมีผลแท้ของพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว แต่ว่า…มันไม่ปรากฏเด่นชัด เพราะว่า การงานของเนื้อหนังบดบัง หรือการต่อสู้ที่พ่ายแพ้ต่อเนื้อหนังอยู่เนืองๆ ทำให้คริสเตียนมากมายท้อใจ และรู้สึกกลัว รู้สึกไม่มั่นใจว่าตนเองมีผลพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ คำตรัสของพระเยซูคริสต์อีกตอนหนึ่งได้บ่งชี้ช่องทางในการเกิดผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์  ยอห์น 15:7-8  7 ถ้า​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เข้า​สนิท​อยู่​ใน​เรา และ​ถ้อยคำ​ของ​เรา​ฝัง​อยู่​ใน​ท่าน​แล้ว ท่าน​จะ​ขอ​สิ่ง​ใด ซึ่ง​ท่าน​ปรารถนา​ก็​จะ​ได้​สิ่ง​นั้น​ 8 ​พระ​บิดา​ของ​เรา​ทรง​ได้รับ​เกียรติ​เพราะ​เหตุ​นี้​คือ​เมื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เกิดผล​มาก ท่าน​ก็​เป็น​สาวก​ของ​เรา​ คำว่า เกิดผลมากตรงนี้ ไม่ใช่เรื่องของผลงาน แต่ข้าพเจ้าเข้าใจว่า คือผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเด่นชัดมากเมื่อเราเดินในเงื่อนไขของพระเยซูคริสต์ คือเข้าสนิทอยู่ในพระองค์ และให้ถ้อยคำของพระองค์ฝังอยู่ในเรา นี่คือกุญแจสำคัญของการปราศจากที่ติ…ในการรู้จักบังคับตน

1.รู้จักบังคับตนเหมือนอย่างพระคริสต์  

7 ถ้า​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เข้า​สนิท​อยู่​ใน​เรา….ท่าน​จะ​ขอ​สิ่ง​ใด ซึ่ง​ท่าน​ปรารถนา​ก็​จะ​ได้​สิ่ง​นั้น​ ความหมายของคำว่า “เข้าสนิท” ในภาษากรีกคำนี้คือ ในด้านความสัมพันธ์แปลว่า  เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างไม่มีวันแยกขาดจากกัน พระเยซูคริสต์ทรงเปิดโอกาสให้ผู้ที่เชื่อในพระองค์ทุกคนมีความสัมพันธ์กับพระองค์โดยไม่มีเส้นกั้น ว่ามาได้แค่นี้ มากกว่านี้ไม่ได้ ในความสัมพันธ์ของมนุษย์ส่วนใหญ่จะมีเส้นกั้นอาณาเขต ที่ไม่อนุญาตให้ก้าวล้ำอาณาเขตส่วนตัว ถ้าก้าวล้ำมาโดยไม่ได้อนุญาต เป็นเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาษา ท่าทาง หรือสถานที่ที่หวงแหน เป็นต้น  ขนาดสามีภรรยา ก็ยังมีอาณาเขตหวงแหน เช่น รถยนต์ที่ซื้อมาใหม่  เครื่องเสียงที่ชื่นชอบ ของสะสมที่คลั่งไคล้ อาหารการกินที่ขาดไม่ได้  หากไปแตะ ไปทำให้เสียหาย หรือขัดใจ เป็นได้ทะเลาะกันบ้านแตก  เบรกแตก อดกลั้นมาจนไม่อดกลั้นอีกต่อไป  การบังคับตนได้ระดับหนึ่ง ไม่ได้ยาวนาน เพราะเป็นแค่เงื่อนไข  หากไม่ต้องมีเงื่อนไขกันอีกต่อไป การบังคับตนก็หมด บางคนเป็นเรื่องของมารยาทที่ไม่ต้องรักษามารยาทกันอีกต่อไป ก็ไม่มีการบังคับตน หากไม่มีผลประโยชน์ก็ไม่มีการบังคับตน หากไม่ต้องรักษาหน้าก็ไม่มีการบังคับตน หากไม่ต้องอายต่อกันอีก ก็ไม่มีการบังคับตน ที่เรียกว่า สติแตก แต๋วแตก ตบะแตก เบรกแตก สารพัดแตกที่ไม่ต้องซ่อน ก็เอาออกมาเผยตัวตนที่แท้จริง รากศัพท์ของคำว่า การรู้จักบังคับตน ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Temperance ภาษาไทยแปลว่า การรู้จักประมาณตน ในอรรถาธิบายพระคัมภีร์ของกริลล์ อธิบายว่า คือการรู้จักบังคับตนในเรื่อง ไม่คบชู้ ในเรื่องไม่มีความสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน ในเรื่องการไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งมลทิน ในการไม่มักมากในกาม และในเรื่องการพอประมาณในเรื่องความสนุกสนานและการบันเทิง ซึ่งคนจำนวนมากในยุคนี้ต่างไม่มีเบรก ไม่มีตบะ และไม่มีสติในเรื่องเหล่านี้  แต่คนของพระเจ้าต้องมีเบรก มีตบะและมีสติ โดยการเดินตามพระเยซูคริสต์เจ้าผู้บุกเบิกเส้นทางนี้แก่เรา ฮีบรู12:1-2 1 เหตุ​ฉะนั้น​เมื่อ​เรา​มี​พยาน​พรั่ง​พร้อม​อยู่​รอบ​ข้าง​เช่นนี้​แล้ว ​ก็​ขอ​ให้​เรา​ละ​ทิ้ง​ทุก​อย่าง​ที่​ถ่วง​อยู่ และ​บาป​ที่​เกาะ​แน่น ขอ​ให้​เรา​วิ่ง​แข่ง​ด้วย​ความ​เพียร​พยายาม ตาม​ที่​ได้​กำหนด​ไว้​สำหรับ​เรา​2 หมาย​เอา​พระ​เยซู​เป็น​ผู้​บุกเบิก​ความ​เชื่อ และ​ผู้​ทรง​ทำ​ให้​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​สมบูรณ์ ​พระ​องค์​ได้​ทรง​อดทน​ต่อ​กางเขน เพื่อ​ความ​รื่น​เริง​ยินดี​ที่​ได้​เตรียม​ไว้​สำหรับ​พระ​องค์ ทรง​ถือ​ว่า​ความ​ละอาย​นั้น​ไม่​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​และ​พระ​องค์​ได้​ประทับ ณ เบื้อง​ขวา​พระ​ที่​นั่ง​ของ​พระ​เจ้า นี่คือผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้านการรู้จักบังคับตนเพื่อพาผู้เชื่อทุกคนให้เดินในทางแคบเหมือนอย่างพระเยซูคริสต์เจ้า อย่างคนมีเบรก อย่างคนมีสติ อย่างคนมีตบะ….

2.รู้จักบังคับตนโดยการเชื่อฟังถ้อยคำของพระคริสต์

7 ….และ​ถ้อยคำ​ของ​เรา​ฝัง​อยู่​ใน​ท่าน​แล้ว ท่าน​จะ​ขอ​สิ่ง​ใด ซึ่ง​ท่าน​ปรารถนา​ก็​จะ​ได้​สิ่ง​นั้น​ “ถ้อยคำ” ที่พระเยซูคริสต์ทรงใช้คำนี้ คือคำว่า เรม่า Rhema แปลว่า คำพูด  ความหมายของพระเยซูคริสต์ตรงนี้คือ การรับการสื่อสารจากพระองค์โดยตรง และตลอดเวลา ไม่ขาดการสื่อสารกับพระเยซูคริสต์เจ้าเลย เรียกว่า ไม่มีช่องว่างในการสื่อสาร ปัญหาความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ในที่ทำงาน ในทุกที่ ส่วนใหญ่มาจากช่องว่างในการสื่อสาร คือสื่อสารไม่มากเพียงพอ จึงทำให้ไม่เข้าใจกัน เข้าใจกันผิด  เข้าใจกันคนละอย่าง เข้าใจคลาดเคลื่อน  การสื่อสารกับพระเยซูคริสต์โดยการเอาถ้อยคำของพระองค์ฝังอยู่ในเรานั้น คือการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพกับพระเยซูคริสต์เจ้า  คำว่า ฝังคือคำเดียวกันกับคำว่า เข้าสนิท คือ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่มีการแยกขาด ไม่มีช่องว่าง แสดงให้เห็นว่า เป็นการรับการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง  พระเยซูคริสต์ทรงตรัสถึงบทบาทของพระวิญญาณบริสุทธิ์ว่า ยอห์น14:26  26 แต่​องค์​ผู้ช่วย​คือ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ซึ่ง​พระ​บิดา​จะ​ทรง​ใช้​มา​ใน​นาม​ของ​เรา​นั้น จะ​ทรง​สอน​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ทุก​สิ่ง และ​จะ​ให้​ท่าน​ระลึก​ถึง​ทุก​สิ่ง​ที่​เรา​ได้​กล่าว​ไว้​แก่​ท่าน​แล้ว​นี่คือ เรม่า ถ้อยคำของพระเยซูคริสต์ที่พระวิญญาณบริสุทธิ์จะนำมาใส่ไว้ในการสื่อการกับผู้เชื่อเพื่อให้รู้จักบังคับตนโดยคำบัญชาของพระเยซูคริสต์ให้เชื่อฟังถ้อยคำของพระคริสต์  คริสเตียนรู้จักบังคับตนเองเพราะการเชื่อฟังถ้อยคำที่พระวิญญาณบริสุทธิ์เตือนจากถ้อยคำของพระเยซูคริสต์นั่นเอง  พระเยซูกำลังพูดกับเราผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์ นี่คือวิถีชีวิตที่ปราศจากที่ติ…ในการรู้จักบังคับตนเอง หากวันนี้ เสียงของพระวิญญาณบริสุทธิ์กำลังเตือนเราเรื่องอะไรอยู่ นั่นคือพระเยซูกำลังพูดกับเรา และถ้าเราตอบสนอง ท่าน​จะ​ขอ​สิ่ง​ใด ซึ่ง​ท่าน​ปรารถนา​ก็​จะ​ได้​สิ่ง​นั้น​ ข้าพเจ้าอยากจะท้าทายพวกเราที่นี่ว่า  ถ้าเราใส่ใจเรื่องการรู้จักบังคับตนโดยการเชื่อฟังถ้อยคำของพระเยซูคริสต์  เราจะไม่ผิดหวังในสิ่งที่เราปรารถนาแน่นอน

3.พระเจ้าได้รับเกียรติ…เราได้รับผลดี

8 ​พระ​บิดา​ของ​เรา​ทรง​ได้รับ​เกียรติ​เพราะ​เหตุ​นี้​คือ​เมื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เกิดผล​มาก ท่าน​ก็​เป็น​สาวก​ของ​เรา​  เราคงเคยได้ยินคำว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว และที่นี่ ข้าพเจ้าอยากจะบอกกับเราว่า การดำเนินชีวิตที่ปราศจากที่ติ…ในการรู้จักบังคับตน จะทำให้พระเจ้าได้รับเกียรติ…เราได้รับผลดี อย่างเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว อ.สุรเชษฐ์ อ.คงกรช อ.เสาวลักษณ์และทีมเซเว่นเดย์มาสอนเราเรื่องการใส่ใจเรื่องสุขภาพและการกินอาหารตามคำสอนในพระคัมภีร์ และเรื่อง NEWSTART มีคำว่า Temperance ซึ่งเป็นคำเดียวกันกับคำว่า รู้จักบังคับตน หากเราปฏิบัติตามคำแนะนำ ตอบสนองต่อการประเมินผลตรวจของสุขภาพ เราจะได้สุขภาพที่ดีและแข็งแรง แน่นอนพระเจ้าได้รับเกียรติ เพราะเราสามารถเป็นพยานถึงชีวิตที่แข็งแรง สุขภาพร่างกายจิตใจที่ดีได้ การเกิดผลมาก คือการรู้จักบังคับตนได้มาก เป็นการมีวินัยกับตนเอง เรื่องการกิน  พระเยซูคริสต์ทรงตรัสว่า ท่าน​ก็​เป็น​สาวก​ของ​เรา  แปลว่า ผู้ที่เกิดผลมากและทำให้พระเจ้าได้รับเกียรติ คือ นักเรียนที่เรียนรู้การรู้จักบังคับตนจากพระเยซู​ การทดลองที่พระเยซูคริสต์ทรงเอาชนะตนเองและชนะมาร เรื่องแรกก็คือเรื่องกิน พระเจ้าได้รับเกียรติ เพราะพระเยซูทรงรู้จักบังคับตน ไม่ยอมผ่อนปรนกับความหิวของพระองค์เอง และไม่ยอมทำตามคำแนะนำของมารที่มาทดลองพระองค์  วันนี้ เรามีอะไรที่เราจะถวายเกียรติแด่พระเจ้าที่กำลังจ่อตรงหน้าเราเป็นการทดลองที่ต้องใช้การรู้จักบังคับตนของตัวเราเอง หรือเราตามใจปาก ตามใจกิเลศตัณหา ความมักมากในเรื่องอะไรอยู่  ถ้าเราไม่ใช้การรู้จักบังคับเหมือนพระเยซู และไม่เชื่อฟังถ้อยคำของพระองค์ ก็ยากที่เราจะบังคับตนเองได้ สุดท้ายพระเจ้าไม่ได้รับเกียรติจากเราและเรายังรับผลเลวร้ายจากการไม่รู้จับบังคับตนเอง ขอให้เราทั้งหลายใส่ใจและจริงจังกับการดำเนินชีวิตที่มีศัตรูที่ต้องต่อสู้คือตัวเราเอง เพื่อเราจะมีชีวิตที่ปราศจากที่ติ….ในด้านการรู้จักบังคับตน  อาเมน

“ปราศจากที่ติ…ในการรู้จักบังคับตน”

1.รู้จักบังคับตนเหมือนอย่างพระคริสต์

2.รู้จักบังคับตนโดยการเชื่อฟังถ้อยคำของพระคริสต์

3.พระเจ้าได้รับเกียรติ…เราได้รับผลดี

By admin