“วันศุกร์ประเสริฐและอีสเตอร์”
หากจะถามถึงวันสำคัญของคริสเตียนมีกี่วัน คำตอบคือ มีสองวัน บางคนอาจพูดถึงวันคริสตมาส และหลายคนรู้จักวันคริสตมาสมากกว่าวันศุกร์ประเสริฐและวันอีสเตอร์ แต่หากจะถามว่า วันอะไรที่สำคัญที่สุดสำหรับคริสต์ศาสนา คำตอบคือ วันศุกร์ประเสริฐและวันอีสเตอร์ เพราะเป็นวันที่เป็นหลักความเชื่อของคริสตชนทั่วโลก วันศุกร์ประเสริฐเป็นวันที่พระเยซูคริสต์เจ้าถูกตรึงบนไม้กางเขน เป็นวันที่มีความ หมายที่สุด เพราะถ้าไม่มีวันศุกร์ประเสริฐก็จะไม่มีวันอีสเตอร์ คำสุดท้ายก่อนพระเยซูจะสิ้นลมหายใจ คือคำว่า “สำเร็จแล้ว” เป็นคำที่ถูกใช้ในทางภาษาบัญชีแปลว่า จ่ายหนี้ทั้งหมดแล้ว ยอห์น 19:30 เมื่อพระเยซูทรงรับน้ำส้มองุ่นแล้ว พระองค์ตรัสว่า “สำเร็จแล้ว” และทรงก้มพระเศียรลงสิ้นพระชนม์ วันศุกร์ประเสริฐเป็นวันแห่งความเศร้าสำหรับสาวกของพระเยซูในยุคนั้น เพราะเป็นการสูญเสียพระอาจารย์ที่เป็นที่รัก ดังนั้น ในวันศุกร์ประเสริฐ คริสตชนจึงสวมเสื้อผ้าสีไม่สดใส เหมือนไว้ทุกข์ เพื่อรำลึกถึงการสูญเสีย เพลงที่ร้องในการนมัสการคืนวันศุกร์ประเสริฐมีความหมายถึงการเสียสละ ความรัก การไถ่บาป และความทุกข์ทรมานในการแบกบาปของคนทั้งโลก การสำนึกในพระคุณ เป็นต้น อย่างไรก็ตามวันศุกร์ประเสริฐในยุคของเรากลับเป็นความชื่นชมยินดี เพราะวันนี้ เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า พระเยซูคริสต์เจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ ศุกร์ประเสริฐไม่ใช่วันไว้อาลัย แต่เป็นวันรำลึกถึงสิ่งที่พระเยซูทรงตายเพื่อเรา พระเยซูคริสต์ทรงเป็นผู้เดียวที่สามารถทำให้เกิดวันศุกร์ประเสริฐได้ ยอห์น 10:18 18 ไม่มีผู้ใดชิงชีวิตไปจากเราได้ แต่เราสละชีวิตด้วยใจสมัครของเราเอง เรามีสิทธิที่จะสละชีวิตนั้น และมีสิทธิที่จะรับคืนอีก คำกำชับนี้ เราได้รับมาจากพระบิดาของเรา” ศุกร์ประเสริฐจึงเป็นวันที่พระเยซูได้ใช้สิทธิที่จะสละชีวิตของพระองค์ และด้วยสิทธิที่จะรับคืนชีวิตที่พระเยซูคริสต์ได้รับจากพระบิดา จึงเกิดวันอีสเตอร์ ในวันที่สามหลังจากที่พระเยซูถูกฝังในอุโมงค์ สาวกของพระเยซูในยุคนั้น ไปที่อุโมงค์ฝังศพเพื่อจะเยี่ยมเยียนมศพเป็นวันสุดท้ายของสภาพศพที่คนทั่วไปคิดว่า จะไม่ได้เห็นสภาพศพของพระเยซูในสภาพที่สมบูรณ์อีกต่อไปแล้ว ธรรมเนียมคนยิวคือเตรียมน้ำหอมไปด้วย มาระโก 16:1 1 ครั้นวันสะบาโตล่วงไปแล้ว มารีย์ชาวมักดาลา มารีย์มารดาของยากอบและนางสะโลเม ซื้อเครื่องหอมมาเพื่อจะไปชโลมพระศพของพระองค์ แต่วันที่สามนั้นกลับเป็นวันที่พระเยซูได้ชีวิตคืนกลับมา เป็นวันที่เหล่าสาวกหญิงทั้งหลายไม่สามารถทำอย่างที่ตั้งใจจะทำกับศพ และต้องเปลี่ยนความคิดเมื่อได้พบกับพระเยซูคริสต์ตัวเป็นๆยอห์น 20:18 18 มารีย์มักดาลาจึงไปบอกพวกสาวกว่า “ข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว” และเธอได้บอกเขาทั้งหลายว่า พระองค์ได้ตรัสคำเหล่านั้นกับเธอ ดังนั้น การปฏิบัติในอีสเตอร์จึงไม่ใช่การนมัสการพระเจ้าที่ตายแล้ว แต่คือความชื่นชมยินดีที่ได้พบกับพระเยซูอีกครั้ง ชีวิตใหม่เกิดขึ้น ให้เรามาเฉลิมฉลองยินดีกับทั้งสองวันกัน