“ระวัง…เสรีภาพที่ทำลายมากกว่าเสริมสร้าง”
สวัสดีพี่น้องที่รักในพระคริสต์ทุกท่าน เป็นสัปดาห์ที่สองที่ข้าพเจ้าอยู่ในประเทศอินโดนีเซียในบรรยากาศมุสลิม มองไปทางไหนก็มุสลิม (ที่น่ารัก) แม้เพื่อนของข้าพเจ้าจะไม่ยอมรับว่าอินโดนีเซียจะเป็นประเทศมุสลิม โดยให้เหตุผลว่า ยังมีศาสนาอีกห้าศาสนาที่ได้รับการรับรองให้เป็นศาสนาที่มีเสรีภาพในการนับถือศาสนาทั้งห้านั้นด้วย แต่ในภาคปฏิบัติ ดูเหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้นเลย ข้าพเจ้าอยู่ในเขตพื้นที่ที่ติดอันดับเมืองน่าอยู่เมืองหนึ่งของอินโดนีเซีย มีความทันสมัยพอสมควร เป็นเมืองใหม่ มีห้องประชุมคอนเวนชั่นที่ใหญ่มาก คริสตจักรที่ใหญ่ในเมืองหลวงเป็นเจ้าของ แต่ไม่สามารถใช้เป็นที่นมัสการในวันอาทิตย์ได้ ใช้ได้แค่เพียงจัดประชุม สัมมนาชั่วคราวได้ ในเวลานี้มีการขัดขวางทางอ้อมไม่ให้สร้างโบสถ์ใหม่ โบสถ์เก่าที่มีอยู่ก็อยู่ไป แต่โบสถ์ใหม่เกิดขึ้นไม่ได้ ที่ที่ข้าพเจ้าอยู่ไม่สามารถรวมตัวกันนมัสการพระเจ้าได้ ชุมชนมุสลิม(ที่น่ารัก) กำลังกลัวคริสตจักรที่จะเกิดขึ้นในชุมชนของเขา พระเจ้าได้ทรงให้นิมิตและภาระใจกับเพื่อนของข้าพเจ้าจัดรูปแบบการรวมตัวกันเป็นชั้นเรียนพัฒนาชีวิตการเป็นสาวก ซึ่งเหมือนกับการทำกลุ่มเซลล์ แต่เป็นการพัฒนาสาวกเพื่อเติบโตเป็นผู้นำ เหมือนกองทัพ เหมือนทหารของพระคริสต์ที่ชีวิตส่วนตัวต้องมีวินัย มีความเข้าใจน้ำพระทัยพระเจ้าในชีวิตของตนเอง วิธีการ ดูเหมือนเป็นสิ่งที่เข้าใจยาก เพราะต้องมีความเชื่อฟังเหมือนทหาร โดยเฉพาะการเชื่อฟังผู้นำ มีความเข้มงวดสูง โดยเฉพาะการอธิษฐาน อดอาหาร อ่านและเข้าใจพระคัมภีร์ระดับลึก มีผู้นำ ทั้งฆราวาส นักธุรกิจ ศิษยาภิบาลจากทั่วอินโดนีเซียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของชั้นเรียนการสร้างสาวกที่เข้มงวดนี้ ข้าพเจ้าได้เข้าในชั้นเรียนนี้เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว แม้ไม่เข้าใจภาษาที่เขาพูด แต่เพื่อนก็ได้เปิดโอกาสให้ข้าพเจ้าได้แบ่งปันบางหัวข้อและมีล่ามคอยแปล คนที่เป็นล่ามเป็นหนุ่มไอทีระดับชั้นหัวหน้าแผนก ทันสมัย ก็ยังมาเข้าชั้นนี้ ด้วยคำบอกต่อว่า ชีวิตของคนที่เขารู้จักมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากเข้าชั้นเรียน เขาก็เลยมาลองดู ซึ่งก็รู้สึกว่า ดีมาก เล่าเรื่องราวมาถึงตอนนี้ ก็เพื่อจะให้พวกเรากลับมามองดูชีวิตว่า เรากำลังขาดวินัย ขาดความเข้มงวด จนชีวิตถดถอยสู่ความไร้คุณภาพ ขาดความเข้าใจพระคำอย่างถ่องแท้ ขาดการอธิษฐานอดอาหาร มีชีวิตที่ไม่เป็นแบบอย่างหรือไม่ ข้าพเจ้ารู้สึกว่า การที่เราสนุกกับเสรีภาพของเราในเวลานี้ เป็นเหมือนภาพกบที่ถูกแช่ในหม้อน้ำเย็นบนเตาไฟที่รอวันเดือดโดยเราไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว ขอพระเจ้าทรงโปรดให้เราทุกคนตระหนักถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามาผ่านเสรีภาพที่เราเข้าใจว่าคือเสรีภาพที่แท้จริง (แต่ไม่ใช่) กาลาเทีย 5:1,13 1 เพื่อเสรีภาพนั้นเอง พระคริสต์จึงได้ทรงโปรดให้เราเป็นไท เหตุฉะนั้นจงตั้งมั่น และอย่าเข้าเทียมแอกเป็นทาสอีกเลย….13 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ที่ทรงเรียกท่านก็เพื่อให้มีเสรีภาพ อย่าเอาเสรีภาพของท่านเป็นช่องทางที่จะปล่อยตัวไปตามเนื้อหนัง แต่จงรับใช้กันและกันด้วยความรักเถิด