“ระวัง….สนามรบที่ดุเดือดอยู่ที่….ความคิดจิตใจ”
ฟิลิปปี 4:4-9 4 จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่า จงชื่นชมยินดีเถิด5 จงให้จิตใจที่อ่อนสุภาพของท่านประจักษ์แก่คนทั้งปวง องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ใกล้แล้ว 6 อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆ เลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ 7 แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์8 สุดท้ายนี้พี่น้องทั้งหลาย ขอจงใคร่ครวญดูสิ่งเหล่านี้คือ สิ่งที่เป็นจริง สิ่งที่น่านับถือ สิ่งที่ยุติธรรม สิ่งที่บริสุทธิ์ สิ่งที่น่ารัก สิ่งที่ควรแก่การสรรเสริญ รวมทั้งถ้ามีสิ่งใดที่ยอดเยี่ยม สิ่งใดที่น่ายกย่อง9 และพวกท่านจงปฏิบัติตามสิ่งที่ท่านเรียนรู้ รับไว้ ได้ยิน และได้เห็นในข้าพเจ้า แล้วพระเจ้าผู้ประทานสันติสุขจะสถิตกับพวกท่าน พระคำตอนนี้ กำลังแนะเคล็ดไม่ลับในการรับมือกับสงครามทางด้านความคิด และการโจมตีพื้นที่ศูนย์รวมของชีวิตคือจิตใจ สิ่งที่จะคุ้มครองจิตใจก็คือสันติสุข สันติสุขอาจถูกขโมยไปได้ เราต้องระวัง 1เปโตร 5:7-8 7 จงละความกระวนกระวายของท่านไว้กับพระองค์ เพราะว่าพระองค์ทรงห่วงใยท่านทั้งหลาย8 ท่านทั้งหลายจงสงบใจจงระวังระไวให้ดี ด้วยว่าศัตรูของท่านคือมารวนเวียนอยู่รอบๆ ดุจสิงห์คำรามเที่ยวไปเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้ คำว่า กระวนกระวายในที่นี้ คือคำเดียวกันกับคำว่า ทุกข์ร้อน มาจากรากศัพท์ภาษากรีกที่แปลว่า ความกังวล จงละความกระวนกระวาย หรืออย่าทุกข์ร้อนใดๆ คือมาตรการการป้องกันพื้นที่ความคิดและจิตใจ หากเราให้พื้นที่นี้ถูกโจมตีและอ่อนแอลงนานเท่าใด ก็คือการให้โอกาสแก่มาร มารซาตานกำลังรอคอยโอกาสที่มันจะกัดกิน คำว่า กัดกิน รากศัพท์ภาษากรีกก็แปลว่า กลืนกินทั้งตัว ดังนั้น สงครามนี้อยู่ที่ความคิดและจิตใจ ที่เราต้องระวังระไว เพราะมีศัตรูคือมารคอยจ้องจะกลืนกินเรา นี่คือเหตุผลว่า ทำไมพระธรรมสุภาษิตจึงเตือนว่าให้ระวังจิตใจไว้ให้ดี เพราะชีวิตเริ่มต้นมาจากใจ หรืออีกนัย คือชีวิตจะจบลงก็อยู่ที่จิตใจด้วยเช่นกัน อย่าชะล่าใจ อย่าประมาท จงรักษาความคิด จิตใจของตนเองให้ดี อย่าคิดว่า ไม่เป็นไร จะคิดมั่วๆ ซั่วๆ คิดเลยเถิด คิดไร้สาระ คิดไม่ดี คิดร้าย คิดอกุศล คิดนอกลู่นอกทาง คิดอคติ คิดลำเอียง คิดร้าย และอะไรทำนองนี้นั้น จะนำพาชีวิตของตนเองเปิดประตูให้มารมากลืนกินเราได้ ข้าพเจ้าเคยแบ่งปันบ่อยครั้งว่า มารมีอำนาจจำกัด มารไม่สามารถรู้ความคิดเรา แต่มารเป็นนักเดาความคิดของคนได้เก่งที่สุด เอเฟซัส 4:27,31-32 อย่าให้โอกาสแก่มาร…. 31 จงเอาความขมขื่น ความฉุนเฉียว ความโกรธ การทุ่มเถียง การพูดจาดูหมิ่น รวมทั้งการร้ายทุกอย่างออกไปจากพวกท่าน32 แต่จงมีใจกรุณา ใจสงสาร และใจให้อภัยแก่กันและกัน เหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงให้อภัยพวกท่านในพระคริสต์ เท่านี้ ความคิดและจิตใจของท่านก็จะได้รับการคุ้มครองจากสันติสุขที่เกินความเข้าใจ และมารก็จะหนีไป เพราะใจของของเราเต็มไปด้วยการให้อภัยเมตตาสงสาร