“เพื่อพ่อ….เพื่อความเป็นพ่อ”
เราคงเคยได้ยินคำว่า “เพื่อความเป็นชาย” ด้วยประโยคนี้ ผู้ชายหลายคนถูกท้าทายให้ทำอะไรหลายอย่างที่มีทั้งดี และไม่ดี ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยดี เช่น ให้เข้าซ่อง เที่ยวผู้หญิงโสเภณี สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เล่นการพนัน เป็นนักเลง อะไรอีก…แล้วแต่จะสรรหามา ยิ่งในยุคนี้ ก็ต้องออกไปขี่มอเตอร์ไซด์แข่งบนท้องถนนตอนดึกๆ มีสาวๆนั่งซ้อนท้าย ใครชนะก็เอาสาวซ้อนท้ายของอีกฝ่ายไป ช่างเป็นการพิสูจน์ความเป็นชายที่น่าอับอาย ความจริง มีวิธีพิสูจน์ความเป็นชายในทางที่ดีเยอะแยะ เช่น ให้เกียรติผู้ที่อ่อนแอกว่า ให้ความช่วยเหลือ เป็นที่พึ่งพาได้ เป็นต้น เพราะสรีระของผู้ชายถูกสร้างมาให้มีความแข็งแรง และทนทานมากกว่าผู้หญิง ดังนั้น ผู้ชายจึงต้องทำหน้าที่สุภาพบุรุษ ซุปเปอร์แมนให้กับผู้หญิง และผู้ที่อ่อนแอกว่า และนี่คือการดำรงอยู่เพื่อความเป็นผู้ชาย ทำนองเดียวกัน วันนี้ หัวข้อของวันพ่อ คือ “เพื่อพ่อ…..เพื่อความเป็นพ่อ” วันพ่อไม่ได้เป็นวันเดียวที่จะให้ความสำคัญกับความเป็นพ่อ หรือทำอะไรเพื่อพ่อ ความจริงในทุกๆวัน บทบาทของคุณพ่อทุกคนมีความสำคัญ เราขาดพ่อไม่ได้ และพ่อก็จะหยุดทำหน้าที่ของพ่อไม่ได้เช่นกัน เป็นกฎฝ่ายวิญญาณอันหนึ่งเกี่ยวกับความเป็นพ่อ และความเป็นลูกที่มีความรับผิดชอบต่อกันและกัน ซึ่งพระคัมภีร์ สุภาษิต 17:6 หลานๆ เป็นมงกุฎของคนแก่ และศักดิ์ศรีของบุตรชายคือบิดาของเขา นี่คือสิ่งที่บอกว่า พ่อกับลูกต่างเป็นความงดงามให้แก่กันและกัน “เพื่อพ่อ….เพื่อความเป็นพ่อ” คือหน้าที่ของพ่อที่มีต่อลูก และหน้าที่ของลูกที่มีต่อพ่อ พ่อไม่สามารถที่จะบอกว่า วันนี้ขอหยุดความเป็นพ่อสักวัน หรือลูกจะบอกว่า หยุดหน้าที่ความเป็นลูกสักชั่วโมง กฎฝ่ายวิญญาณยังทำงานในความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก และระหว่างแม่ลูกด้วย แต่วันนี้จะกล่าวถึงพ่อเพราะเป็นวันพ่อ และพระคัมภีร์ได้ให้เกียรติต่อพ่อด้วยการบ่งบอกถึงที่มาของพ่อนั้น มาจากต้นแบบของพระเจ้าบนฟ้าสวรรค์ทีเดียว เอเฟซัส 3:15 (คำว่า บิดา ของทุกตระกูล ทุกชาติ ในสวรรค์ก็ดี ที่แผ่นดินโลกนี้ก็ดีมาจากคำว่า พระบิดา) พระคัมภีร์ให้เกียรติแก่ความเป็นพ่ออย่างสูง เป็นนัยยะว่า พ่อมีหน้าที่ที่สำคัญที่หยุดความเป็นพ่อไม่ได้ หากหยุด (ถ้าหยุดได้) นั่นหมายถึงความหายนะของลูกทีเดียวเช่นกัน เมื่อสองสามสัปดาห์ที่แล้ว ข้าพเจ้าเขียนลงในสูจิบัตรในหัวข้อ เมื่อข้าพเจ้าทะเลาะกับสุนัข ข้าพเจ้าได้สรุปเอาเองว่า สุนัขตัวที่วิ่งไล่ข้าพเจ้าขณะขี่จักรยาน และทำท่าจะกัด เพราะข้าพเจ้ากำลังผ่านอาณาเขตของมัน แต่เมื่อสองวันก่อน ข้าพเจ้าผ่านที่เดิม แต่ ผ่านพร้อมกับนักขี่จักรยานอีกสองคัน ข้าพเจ้าพยายามขี่เกาะกลุ่มกับพวกเขา เพราะสุนัขตัวเดิมมันเห่าและเตรียมวิ่งไล่ แต่เพราะเรามีกันสามคน มันก็เลยไม่วิ่งรี่เข้ามา แล้วผู้ชายหนึ่งในสองคนก็เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า มันเป็นแม่ลูกอ่อน มีนักขี่หลายคนถูกมันงับน่องมาแล้ว ความจริงข้าพเจ้าเองก็เพิ่งได้ข้อสรุปถูกต้อง ว่ามันเป็นแม่ลูกอ่อน ก่อนหน้านั้นสักสองวัน ข้าพเจ้าขี่ผ่าน และเห็นลูกๆของมัน แต่ไม่เห็นแม่ ก็เดาว่า ที่มันดุ เพราะมันกลัวคนมาเอาลูกมันไป ข้าพเจ้าได้รับบทเรียนนี้ว่า ขนาดสุนัข มันยังทำหน้าที่ปกป้องลูกของมัน ณ วินาทีนั้น คือเพื่อความเป็นแม่สุนัข ถ้าไม่มีคำว่า เพื่อความเป็นแม่ หายนะก็จะมาถึงลูกๆ นี่คือภาพที่ข้าพเจ้ามองเห็นเมื่อคิดถึง คำว่า เพื่อความเป็นพ่อ บทบาทของความเป็นพ่อจึงต้องทำหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ถ้าหยุดเมื่อไร หายนะมาถึงลูก ดังนั้น คุณพ่อทั้งหลาย ขอท่านอย่าถอดใจกับบทบาทของความเป็นพ่อ แม้ว่าลูกบางคนจะทำให้ท่านอ่อนล้า และระอาใจก็ตาม บทเรียนสำหรับเราวันนี้ ที่เราจะมองเห็นคำว่า “เพื่อพ่อ…เพื่อความเป็นพ่อ” นั้น ไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคน แต่เป็นเรื่องของมากกว่าสองคน พระคัมภีร์ได้กล่าวว่า มีฟ้าสวรรค์มาเกี่ยวข้องด้วย เอเฟซัส 1:1-14 1 เปาโล ผู้เป็นอัครทูตของพระเยซูคริสต์ตามน้ำพระทัยของพระเจ้าเรียน ธรรมิกชนซึ่งอยู่ที่เมืองเอเฟซัสผู้มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระเยซูคริสต์ 2 ขอให้พระคุณและสันติสุขจากพระบิดาเจ้าของเรา และจากพระเยซูคริสตเจ้า ดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายด้วยเถิด3 สาธุการแด่พระเจ้าพระบิดาแห่งพระเยซูคริสตเจ้าของเรา ผู้ทรงโปรดประ ทานพระพรฝ่ายวิญญาณแก่เรานานาประการ ในสวรรคสถานโดยพระคริสต์4 ในพระเยซูคริสต์นั้น พระองค์ได้ทรงเลือกเราไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะทรงเริ่มสร้างโลก เพื่อเราจะบริสุทธิ์และปราศจากตำหนิในสายพระเนตรของพระองค์5 พระองค์ทรงกำหนดเราไว้ด้วยความรักก่อนตามที่ชอบพระทัยพระองค์ ให้เป็นบุตรโดยพระเยซูคริสต์6 เพื่อจะให้เป็นที่สรรเสริญพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ซึ่งทรงโปรดประทานแก่เราในพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเป็นที่รักของพระองค์7 ในพระเยซูนั้น เราได้รับการไถ่บาปโดยพระโลหิตของพระองค์ คือได้รับการอภัยโทษบาปของเราโดยพระกรุณาอันอุดมของพระองค์8 ซึ่งได้ทรงประทานแก่เราอย่างเหลือล้น ให้มีปัญญาสุขุมและมีความเข้าใจ9 พระเจ้าได้ทรงโปรดให้เรารู้ความล้ำลึกในพระทัยของพระองค์ ตามพระเจตนารมณ์ของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงดำริไว้ในพระคริสต์10 ประสงค์ว่า เมื่อเวลากำหนดครบบริบูรณ์แล้ว พระองค์จะทรงรวบรวมทุกสิ่ง ทั้งที่อยู่ในสวรรค์ และในแผ่นดินโลกไว้ในพระคริสต์ 11 ในพระองค์นั้น ตามพระดำริของพระองค์ผู้ทรงกระทำทุกสิ่ง ตามที่ได้ทรงตริตรองไว้สมกับพระทัยของพระองค์12 เราทั้งหลายผู้ได้หวังใจในพระคริสต์ก่อน ได้รับกำหนดและรับการแต่งตั้งให้เป็นที่ถวายสรรเสริญแด่พระสิริของพระองค์13 ในพระองค์นั้น ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ฟังสัจวาทะ คือข่าวประเสริฐเรื่องความรอดของท่าน และได้วางใจในพระองค์ ได้รับการผนึกตราไว้ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์แห่งพระสัญญา14 เป็นมัดจำของการรับมรดกของเรา จนกว่าเราจะได้รับเป็นกรรมสิทธิ์ เป็นที่ถวายสรรเสริญแด่พระสิริของพระองค์ พระคัมภีร์ตอนนี้ได้กล่าวถึงการทำหน้าที่พระเจ้าในฐานะของพระบิดาที่พระองค์จะหยุดทำหน้าที่ของความเป็นพระบิดาไม่ได้ และพระคัมภีร์ยังได้กล่าวถึงความเป็นบุตรของเราผู้ที่เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้าด้วย นั่นคือสถานะใหม่ที่พระเจ้าทรงประทานให้กับคริสเตียน นอกจากเราจะมีพ่อที่เป็นมนุษย์แล้ว เรายังมีพ่อที่เป็นพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ เราไม่ได้เป็นลูกช้าง ลูกม้า ลูกหมาอีกต่อไป เวลาคนไทยเราจะพูดถึงฐานะของตนเองกับพระที่กราบไหว้ คนไทยไม่กล้ายกตัวเทียบเท่าพระ เพราะถือว่าพระสูงกว่า คนไทยให้เกียรติพระ และถ่อมตน แต่พระคัมภีร์ได้กล่าวว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้เปลี่ยนสถานะของมนุษย์ให้เป็นบุตรของพระเจ้า เมื่อคนๆนั้นมีความศรัธาในองค์พระเยซูคริสต์เจ้า เกิดขึ้นได้อย่างไร พระคัมภีร์ได้ให้คำตอบว่า 5 พระองค์ทรงกำหนดเราไว้ด้วยความรักก่อนตามที่ชอบพระทัยพระองค์ ให้เป็นบุตรโดยพระเยซูคริสต์6 เพื่อจะให้เป็นที่สรรเสริญพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ซึ่งทรงโปรดประทานแก่เราในพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเป็นที่รักของพระองค์7 ในพระเยซูนั้น เราได้รับการไถ่บาปโดยพระโลหิตของพระองค์ คือได้รับการอภัยโทษบาปของเราโดยพระกรุณาอันอุดมของพระองค์ แปลว่า เราถูกกำหนดล่วงหน้าไว้แล้ว ให้เป็นบุตรโดยพระเยซูคริสต์ สถานการณ์เป็นบุตรเกิดขึ้นแล้ว เพียงแต่ต้องมีการเปิดใจรับเท่านั้น เหมือนกับโปรแกรมที่ถูกติดตั้งในคอมพิวเตอร์ที่ถูกใส่ไว้ให้ใช้งาน แต่รอคลิกตรงช่อง Activated หรือ Enable เช่นเดียวกัน ด้วยการรับเชื่อ รับการไถ่บาปโดยพระโลหิตของพระเยซู และรับการอภัยโทษบาปโดยพระเมตตาของพระเจ้า ฐานะการเป็นลูกพระเจ้าทำงานทันที อะไรคือเครื่องยืนยัน ข้อต่อมาในข้อที่ 13-14 กล่าวว่า 13 ในพระองค์นั้น ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ฟังสัจวาทะ คือข่าวประเสริฐเรื่องความรอดของท่าน และได้วางใจในพระองค์ ได้รับการผนึกตราไว้ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์แห่งพระสัญญา14 เป็นมัดจำของการรับมรดกของเรา จนกว่าเราจะได้รับเป็นกรรมสิทธิ์ เป็นที่ถวายสรรเสริญแด่พระสิริของพระองค์ พระคัมภีร์ตอนนี้ได้กล่าวถึงการทำงานของมรดกและการรับกรรมสิทธิ์ในมรดก ได้กล่าวถึงเครื่องมัดจำการรับมรดก พระเจ้าพระบิดาได้กำหนดไว้อย่างรอบคอบเพื่อคนที่จะมาเป็นบุตรของพระองค์ และพระองค์ยังคงทำกิจอย่างต่อเนื่องของความเป็นพ่อแก่ผู้ที่เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ โรม 8:14-16 14 เพราะว่าพระวิญญาณของพระเจ้าทรงนำผู้ใด ผู้นั้นก็เป็นบุตรของพระเจ้า15 เหตุว่าท่านไม่ได้รับน้ำใจทาสซึ่งทำให้ตกในความกลัวอีก แต่ท่านได้รับพระวิญญาณผู้ทรงให้เป็นบุตรของพระเจ้า ให้เราทั้งหลายร้องเรียกพระเจ้าว่า “อับบา” คือพระบิดา16 พระวิญญาณนั้นเป็นพยานร่วมกับวิญญาณจิตของเราทั้งหลายว่า เราทั้งหลายเป็นบุตรของพระเจ้า เราจะเห็นการทำหน้าที่ของพ่อในสามพระภาคของพระเจ้า คือพระบิดา พระเยซูคริสต์ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพื่อจะยืนยันสถานะเป็นบุตรของพระเจ้า สิ่งที่สำคัญที่พระคัมภีร์กล่าวถึงความเป็นบุตรของพระเจ้าคือ 15 เหตุว่าท่านไม่ได้รับน้ำใจทาสซึ่งทำให้ตกในความกลัวอีก นี่คือสิ่งที่ลูกที่ยังเป็นเด็กเล็กต้องการความเป็นพ่อให้อยู่กับพวกเขาอย่างมาก คนที่เป็นพ่อแม่จะมีประสบการณ์กับความกลัวของลูกในวัยเล็กๆ ฟ้าร้องก็กลัว หกล้มเจ็บก็ต้องการพ่อแม่ปลอบให้หายเจ็บ หายกลัว มืดก็กลัว อยู่คนเดียวก็กลัว หรืออยู่กับคนอื่น โดยไม่เห็นพ่อหรือแม่ ก็กลัว ความเป็นพ่อมีความรับผิดชอบและต้องทำหน้าที่ ความเป็นพ่อ เช่นเดียวกัน พระเจ้าก็ทรงต้องทำหน้าที่ความเป็นพระบิดาแก่ผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ พระเยซูคริสต์ได้ตรัสว่า ยอห์น 14:16-18 16 เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้แก่ท่าน เพื่อจะได้อยู่กับท่านตลอดไป17 คือพระวิญญาณแห่งความจริง ซึ่งโลกรับไว้ไม่ได้ เพราะแลไม่เห็นและไม่รู้จักพระองค์ ท่านทั้งหลายรู้จักพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสถิตอยู่กับท่าน และจะประทับอยู่ในท่าน 18 “เราจะไม่ละทิ้งท่านทั้งหลายไว้ให้เปล่าเปลี่ยว เราจะมาหาท่าน และนี่คือการดำรงอยู่เพื่อความเป็นพ่อของพระเจ้า ที่คุณพ่อทั้งหลายต้องทำตามแบบอย่างของความเป็นพ่อของพระเจ้ …..เพื่อลูก ของท่าน
1.ไม่ละทิ้งไว้ให้เปล่าเปลี่ยว
เมื่อลูกร้องขอ พ่อต้องพร้อมตอบสนอง โดยเฉพาะในยามที่ลูกรู้สึกโดดเดี่ยวที่สุด นั่นคือ ลูกไม่มีใครเป็นที่พึ่ง ไม่มีใครเป็นที่ปรึกษา กำลังเผชิญกับปัญหา กำลังมีความทุกข์ พ่ออยูที่ไหน มาช่วยลูกด้วย ความเป็นพ่อ แน่นอน พ่อต้องมา แต่ความเป็นพ่อที่เป็นมนุษย์ที่จำกัด พ่อจะทำอย่างไร เรากลับมาที่สุภาษิต 17:6 หลานๆ เป็นมงกุฎของคนแก่ และศักดิ์ศรีของบุตรชายคือบิดาของเขา นี่คือภาพในยุคโบราณที่ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อเป็นศักดิ์ศรีของลูก หลานๆเป็นมงกุฎของคนแก่ เป็นการอยู่ด้วย ไม่ทอดทิ้งให้เปล่าเปลี่ยวดังลูกกำพร้า ภาพการอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาของคนโบราณก็คือการนั่งโต๊ะกินข้าวด้วยกันทั้งครอบครัวทุกวัน ปัจจุบันนี้หาภาพนี้ยาก เพราะสภาวะของเศรษฐกิจ การงาน การจราจร และเพื่อนฝูง ทำให้พ่อและลูกต่างไม่มีเวลาให้กันและกัน โดยเฉพาะพ่อที่ไม่ได้แสดงความเป็นศักดิ์ศรีของลูก หรือลูกไม่ได้เป็นมงกุฎให้กับพ่อ ต่างละทิ้งกันให้เปล่าเปลี่ยว คนที่อยู่ด้วยเป็นคนอื่น ซึ่งไม่ใช่ศักดิ์ศรี หรือมงกุฎที่แท้จริงอะไรจะเกิดขึ้น ตรงกันข้ามกับศักดิ์ศรี คือความน่าอาย ตรงกันข้ามกับมงกุฎ คือความทุกข์ใจ ในความจำกัดนี้ พระเยซูคริสต์ทรงมีทางออกสำหรับเราทุกคน ยอห์น 14:16-18 16 เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้แก่ท่าน เพื่อจะได้อยู่กับท่านตลอดไป17 คือพระวิญญาณแห่งความจริง ซึ่งโลกรับไว้ไม่ได้ เพราะแลไม่เห็นและไม่รู้จักพระองค์ ท่านทั้งหลายรู้จักพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสถิตอยู่กับท่าน และจะประทับอยู่ในท่าน 18 “เราจะไม่ละทิ้งท่านทั้งหลายไว้ให้เปล่าเปลี่ยว เราจะมาหาท่าน เราที่เป็นลูก และที่เป็นพ่อ เราต้องการพระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ ซึ่งทรงทำงานผ่านพระวิญญาณของพระองค์ ในผู้เชื่อ เพื่อจะเติมเต็มบทบาทของเราทุกคน ให้ทำ “เพื่อพ่อ… เพื่อความเป็นพ่อ” ได้อย่างสมบูรณ์ เราจะมีกำลัง มีพลังชีวิต และความเข้าใจในการทำบทบาทของลูกเพื่อพ่อ หรือบทบาทเพื่อความเป็นพ่อในท่ามกลางสังคมที่ทำให้บทบาทเหล่านี้กำลังหายไปจากชีวิตของลูกและพ่อ วันนี้ เรากำลังเป็นลูกที่ไม่แคร์พ่อ และเป็นพ่อที่ไม่สามารถอยู่เพื่อรักษาสถานะของความเป็นพ่อได้หรือไม่ คุณพ่อของข้าพเจ้ามีลูกเจ็ดคน และข้าพเจ้าเป็นลูกสาวคนที่หก เป็นลูกสาวคนเล็กสุด มีน้องชายเป็นลูกคนที่เจ็ด คุณพ่อข้าพเจ้าปรารภกับข้าพเจ้าว่า ท่านได้สูญเสียสิทธิอำนาจในบ้านไปแล้ว ความหมายก็คือถูกยึดอำนาจ ไม่มีอำนาจในการตัดสิน ใจ เพราะพ่อไม่ได้เป็นคนถือเงิน และไม่มีเรี่ยวแรงเหมือนตอนสมัยพ่อยังหนุ่มกว่านี้ การค้าของบ้านอยู่ในมือของพี่ๆที่ทำแทน พวกเขาเลยต้องเป็นคนตัดสินใจแทน พ่อรู้สึกอย่างนั้น รู้สึกความเป็นพ่อหายไป พ่อพูดจากความรู้สึกที่ไม่ได้มีบทบาทในการทำมาหากินเพื่อครอบครัว ข้าพเจ้าหนุนใจพ่อว่า อย่าคิดอย่างนั้น การไม่ได้ถือเงิน ไม่ได้คุมการค้าของบ้าน ไม่ได้ทำให้ความเป็นพ่อหายไป พ่อไม่ได้สูญเสียอะไร บางทีเราอาจจะเอาอะไรบางอย่างมาเป็นเครื่องตัดสินถึงความเป็นพ่อ ด้วยเงินที่มีหรือไม่มี หรือด้วยอำนาจที่มีหรือไม่มี หรือด้วยการควบคุมลูกได้หรือไม่ได้ ข้าพเจ้าเคยพูดถึงบทบาทของพ่อแม่ หรือของสามีภรรยา ว่า ไม่ได้หายไป เพราะความอ่อนแอของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แม้คนเหล่านี้จะไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างที่คนอื่นคาดหวัง หรืออาจไม่ทำเลย และอาจติดลบเสียด้วยซ้ำ แต่ความเป็นพ่อแม่ ความเป็นสามี ความเป็นภรรยา นั้นยังอยู่ ซึ่งคนในสังคมของเราในปัจจุบัน กำลังทำลายความเป็นพ่อ ความเป็นแม่ด้วยการโจมตีจุดอ่อนแอของพ่อและแม่ และโดยเฉพาะพ่อที่ยอมทุกอย่าง เพื่อไม่ให้บ้านแตก เลยกลายเป็นพ่ออ่อนแอในสายตาของลูก อย่าให้เหตุผลจอมปลอมทั้งหลายมาทำให้พ่อต้องละสถานะของความเป็นพ่อ เพราะตนเองไม่สามารถทำได้อย่างที่คนอื่นคาดหวัง หรือที่ตนเองตั้งเป้าไว้สูงเกินความสามารถของตนเอง ขอให้ตระหนักถึงคำว่า “เพื่อพ่อ…เพื่อความเป็นพ่อ” ในลูก และในตนเอง ขอให้คนในครอบครัวช่วยกันให้พ่อลูกได้ทำบทบาทของตนเองอย่างสมบูรณ์ ซึ่งพระคัมภีร์ใช้คำว่า รอบคอบ มัทธิว 5:48 48 เหตุฉะนี้ท่านทั้งหลายจงเป็นคนดีรอบคอบ เหมือนอย่างพระบิดาของท่าน ผู้ทรงสถิตในสวรรค์เป็นผู้ดีรอบคอบ ฉบับแปลปี 2011 ใช้คำว่า ดีพร้อม รากศัพท์ภาษากรีกใช้คำว่า complete แปลว่า บรรลุนิติภาวะ เป็นผู้ที่รับผิดชอบต่อสิ่งต่างๆได้ด้วยตนเอง สำหรับกฏหมายไทย มีอายุถึงกำหนดที่กฎหมายให้พ้นจากภาวะผู้เยาว์และให้มีความสามารถใช้สิทธิตามกฎหมายได้ด้วยตนเอง ครบ 20 ปีบริบูรณ์ ในบริบทของพระคัมภีร์ตอนนี้หมายถึงการมีเมตตาเหมือนพระบิดา ลูกา6:36 36 ท่านทั้งหลายจงมีความเมตตากรุณา เหมือนอย่างพระบิดาของท่านมีพระทัยเมตตากรุณา และพระเยซูยังหมายถึง เฉลยธรรมบัญญัติ 18:13 13 ท่านทั้งหลายจงเป็นคนปราศจากตำหนิต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน พ่ออย่าทิ้งลูกไว้ให้เปล่าเปลี่ยว และลูกอย่าทิ้งพ่อไว้ให้เปล่าเปลี่ยว “เพื่อพ่อ…เพื่อความเป็นพ่อ”
2.อดกลั้นไว้นาน 2เปโตร 3:9
9 องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงเฉื่อยช้าในเรื่องพระสัญญาของพระองค์ ตามที่บางคนคิดนั้น แต่พระองค์ได้ทรงอดกลั้นพระทัยไว้ เพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลายมาช้านาน พระองค์ไม่ทรงประสงค์ที่จะให้ผู้หนึ่งผู้ใดพินาศเลย แต่ทรงปรารถนาที่จะให้คนทั้งปวงกลับใจเสียใหม่ นอกจากพระเจ้าจะมีบทบาทของความเป็นพระบิดาแล้ว อีกบทบาทหนึ่งที่พระองค์ไม่อยากทำเลย ก็คือบทบาทผู้พิพากษา เพราะพระองค์จะต้องพิพากษามนุษย์ทุกคนในโลกนี้ และพระองค์ทรงรู้ว่า ไม่มีมนุษย์คนไหนจะผ่านการพิพากษาเลย ดังนั้นพระองค์จึงอดกลั้นพระทัย คือยังให้โอกาสแก่มนุษย์ที่จะกลับใจใหม่ นี่คือบทบาทของพ่อ คุณพ่อทั้งหลายต้องเลียนแบบพระเจ้าพระบิดาในเรื่องนี้ หากคุณพ่อทำบทบาทพิพากษาอยู่เรื่อย คุณพ่อจะสูญเสียลูกไป ความเป็นพ่อคือรักษาลูกไว้มิให้พบกับความหายนะ การไม่อดกลั้นอารมณ์คือการยิ่งผลักให้ลูกไปพบกับหายนะ เพราะนอกจากพ่อแล้ว จะมีใครที่คิดจะปกป้องลูก ข้าพเจ้าเคยได้ยินคำพูดของคุณพ่อที่พูดกับลูกสาวว่า ไม่มีผู้ชายคนไหนที่รักลูกมากเท่ากับพ่อ เพราะพ่อไม่ได้รักลูกที่ความสวยงาม พ่อเป็นผู้ชายคนเดียวที่รักลูกโดยไม่มีเงื่อนไข ว่าลูกต้องน่ารัก ต้องดีอย่างที่พ่อต้องการ เพราะฉะนั้น คุณพ่อทั้งหลาย ท่านคือผู้ที่ต้องอดกลั้นไว้นาน อย่างที่พระเจ้าทรงอดกลั้นเพื่อท่าน เพราะไม่มีใครจะรักเราเท่ากับพระเจ้า ขอให้คุณพ่อแสดงความรักด้วยการอดกลั้นไว้นาน เอเฟซัส 6:4 4 ฝ่ายท่านผู้เป็นบิดา อย่ายั่วบุตรของตนให้เกิดโทสะ แต่จงอบรมบุตรด้วยการสั่งสอน และการเตือนสติตามหลักขององค์พระผู้เป็นเจ้า ความอดกลั้นไว้นาน ก็ต้องมาจากลูกด้วยเช่นกัน เพื่อความเป็นพ่อ พ่อต้องไม่ยั่วโทสะลูก และเพื่อพ่อ ลูกก็ต้องไม่ยั่วโทสะพ่อด้วยเช่นกัน
3.ให้สิ่งที่ดีที่สุด มัทธิว 7:9-11
9 ในพวกท่านมีใครบ้างที่จะเอาก้อนหินให้บุตร เมื่อเขาขอขนมปัง10 หรือให้งูเมื่อบุตรขอปลา11 เหตุฉะนั้น ถ้าท่านทั้งหลายเองผู้เป็นคนบาป ยังรู้จักให้ของดีแก่บุตรของตน ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์ จะประทานของดีแก่ผู้ที่ขอต่อพระองค์ ดูเหมือนเป็นเรื่องเข้าใจง่าย แต่บางทีเราก็ทำเรื่องง่ายให้กลายเป็นยาก เช่นคำพูดที่ควรดีต่อกันกลายเป็นทำร้ายน้ำใจกันก็มี พ่อที่ไม่จริงจัง ไม่ใส่ใจต่อรายละเอียดของลูก ก็อาจกลายเป็นหยิบยื่นก้อนหินแทนขนมปัง หรือเอางูให้แทนปลา พระเจ้าพระบิดาทรงเป็นต้นแบบของพ่อที่ใส่ใจต่อสิ่งที่ลูกต้องการ พระองค์ทรงตั้งพระทัยที่จะให้แต่สิ่งดีเท่านั้น พระเยซูทรงตรัสถึงความห่วงใยของพระเจ้าพระบิดาในสวรรค์ที่มีต่อลูกของพระองค์บนโลกว่า มัทธิว 6:31-32 31 เหตุฉะนั้นอย่ากระวนกระวายว่า จะเอาอะไรกิน หรือจะเอาอะไรดื่ม หรือจะเอาอะไรนุ่งห่ม32 เพราะว่าพวกต่างชาติแสวงหาสิ่งของทั้งปวงนี้ แต่ว่าพระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์ทรงทราบแล้วว่า ท่านต้องการสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ พระเยซูกำลังบอกกับสาวกของพระองค์ว่า มีความแตกต่างในคนที่มีความต้องการเหมือนกัน คือ ความกระวนกระวายเรื่องปากท้อง ความแตกต่างนั้น คือเรามีพระบิดาบนฟ้าสวรรค์ที่รู้ว่าเราต้องการอะไร นั่นหมายความว่า เราไม่ใช่ลูกที่ไม่มีพ่อ และพ่อของเราอยู่ฟ้าสวรรค์ที่ทรงสามารถจัดหาสิ่งที่เราต้องการได้ และพระองค์จะประทานสิ่งที่ดีแก่เรา “เพื่อพ่อ…เพื่อความเป็นพ่อ” บ่งบอกถึงระดับความเป็นเลิศในการให้ ไม่ใช่ทำให้แบบลวกๆ หยาบๆ เพียงเพราะฐานะ สภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย หรือสภาพแวดล้อมชักจูงไปในทางไร้คุณภาพ เราไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างสภาพแวดล้อม ขอให้ตั้งป้าหมายว่าจะให้สิ่งที่ดี (เลิศ) ต่อกันและกัน คำว่า “เพื่อพ่อ….เพื่อความเป็นพ่อ” จะนำความสุข ความสำเร็จ ความชื่นชมยินดีให้เกิดขึ้นในทุกๆวัน เหมือนกับพระเจ้าให้สิ่งที่ดีที่สุด มีค่าที่สุดแก่เรา เพราะพระองค์ทรงเป็นพระบิดาที่อยู่บนฟ้าสวรรค์ มีเรื่องเล่าว่า กษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ได้ออกไปเดินตลาดกับทหารคนสนิท เมื่อเจอขอทาน ท่านก็หยิบเหรียญทองคำให้กับคนขอทาน ทหาคนสนิทรีบทักท้วง ให้แค่เหรียญทองแดงธรรมดาก็เพียงพอแล้ว แต่กษัตริย์ได้ตอบว่า การให้ ไม่ได้สำคัญกับคนได้รับจะสมควรได้รับหรือไม่ แต่การให้สำคัญที่ว่า คนให้เป็นใคร จึงจะเหมาะสมกับการให้ นั่นคือ เราเป็นกษัตริย์ เราให้เพื่อความเป็นกษัตริย์ของเรา เช่นเดียวกัน วันนี้ พระเจ้าทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์มาตายไถ่บาปคนบาปอย่างเราที่ไม่สมควรจะได้รับเกียรติขนาดนั้น ก็เพราะพระเจ้าทรงเป็นกษัตริย์ และเป็นพระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ สิ่งที่พระองค์ทรงให้กับเราจึงต้องมีค่าที่สุด ราคาแพงที่สุด ยอห์น 3:16 16 เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์ “เพื่อพ่อ…. เพื่อความเป็นพ่อ” เราได้ให้สมกับที่เป็นพ่อ และเป็นลูกาอย่างไร
“เพื่อพ่อ….เพื่อความเป็นพ่อ”
1.ไม่ละทิ้งไว้ให้เปล่าเปลี่ยว
2. อดกลั้นไว้นาน
3.ให้สิ่งที่ดีที่สุด