“เราจะไปต่อ….ด้วยกัน”

อพยพ 14:1-3, 9-15 1 ​พระ​เจ้า​รับสั่ง​แก่​โมเสส​ว่า​2 “จง​สั่ง​ชน​ชาติ​อิสราเอล​ให้​ย้อนกลับ​ไป​ยัง​ค่าย​หน้า​ตำบล​ปี​หะหิ​โรท​ระหว่าง​มิ​กดล​และ​ทะเล​หน้า​ตำบล​บาอัล​เซโฟน แล้ว​ตั้ง​ค่าย​ตรง​นั้น​ใกล้​ทะเล​3 ฟาโรห์​จะ​กล่าวถึง​ชน​ชาติ​อิสราเอล​ว่า ‘พวก​เขา​ติด​อยู่​บน​บก ถิ่น​ทุรกันดาร​นั้น​กั้น​เขา​ไว้​แล้ว​’….9 ชาว​อียิปต์​ไล่​ตาม​ไป​มี​ทั้ง​ม้า​และ​รถ​รบ​ของ​ฟาโรห์​และ​ทหาร​ม้า กองทัพ​ของ​ท่าน​มา​ทัน​ชน​ชาติ​อิสราเอล​ที่ตั้ง​ค่าย​อยู่​ริม​ทะเล ใกล้​ตำบล​ปี​หะหิ​โรท หน้า​ตำบล​บาอัล​เซโฟน10 เมื่อ​ฟาโรห์​เข้า​มา​ใกล้ ชน​ชาติ​อิสราเอล​ก็​เงย​หน้า​ขึ้น​ดู เมื่อ​เห็น​ชาว​อียิปต์​ยก​ติดตาม​มา ​ก็​มี​ความ​กลัว​ยิ่ง​นัก คน​อิสราเอล​จึง​ร้อง​ทูล​พระ​เจ้า​11 เขา​บอก​โมเสส​ว่า “หลุม​ฝัง​ศพ​ใน​อียิปต์​ไม่​มี​หรือ ท่าน​จึง​พา​เรา​ออกมา​ให้​ตาย​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร ทำไม​หนอ​ท่าน​จึง​พา​เรา​ออกมา​จาก​อียิปต์​12 พวก​เรา​บอก​ท่าน​ใน​อียิปต์​แล้ว​มิใช่​หรือ​ว่า ปล่อย​พวก​เรา​แต่​ลำพัง ให้​พวก​เรา​รับ​ใช้​ชาว​อียิปต์​เถิด เพราะ​การ​รับ​ใช้​ชาว​อียิปต์​นั้น ​ก็​ยัง​ดีกว่า​ที่​จะ​มา​ตาย​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร” 13 โมเสส​จึง​เตือน​ประชากร​ว่า “อย่า​กลัว​เลย มั่น​คงไว้ คอย​ดู​ความ​รอด​ที่​จะ​มา​จาก​พระ​เจ้า ซึ่ง​พระ​องค์​จะ​ประทาน​ให้แก่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ใน​วันนี้​ด้วย​คน​อียิปต์ ซึ่ง​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เห็น​ใน​วันนี้ แต่​นี้​ไป​จะ​ไม่ได้​เห็น​อีก​เลย​14 ​พระ​เจ้า​จะ​ทรง​รบ​แทน​ท่าน​ทั้ง​หลาย ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​สงบ​อยู่​เถิด” 15 ​พระ​เจ้า​ตรัส​กับ​โมเสส​ว่า “เหตุ​ไฉน​เจ้า​จึง​มา​ร้อง​ทุกข์​ต่อ​เรา จง​สั่ง​ชน​ชาติ​อิสราเอล​ให้​เดิน​ต่อไป​ข้างหน้า​เถิด​

นี่คือตอนที่โมเสสนำอิสราเอลหลายล้านคน ออกจากอียิปต์ กว่าจะต่อรองให้ฟาโรห์ปลดปล่อยอิสราเอลออกจากการถูกกดขี่ ใช้งานหนักอย่างทาส จนสุดท้าย พระเจ้าต้องส่งทูตมรณะมาประหารบุตรหัวปีของคนอียิปต์ และแม้กระทั่งสัตว์ของคนอียิปต์ก็ตาย  ฟาโรห์จึงยอมปล่อยอิสราเอลออก โมเสสนำคนอิสราเอลตามการนำของเสาเมฆและเสาไฟ เรียกว่า เสาเมฆเสาไฟนำไปทางไหน ก็มีหน้าที่เดินตามเท่านั้น และเสาเมฆเสาไฟนำมาจนถึงทะเล ไม่มีทางไปต่อ

เมื่อหันหลังกลับ กองทัพอียิปต์ไล่ตามติดมาเพื่อเอาอิสราเอลกลับไปเป็นทาสอีกครั้ง  ฟาโรห์นำทัพมาด้วยความโกรธเกรี้ยวกราด คราวนี้ ถ้ากลับไปอียิปต์อีก ยิ่งแย่กว่าเดิมแน่  ข้างหน้าก็ทะเล ข้างหลังก็กองทัพฟาโรห์  แถมภายในกันเอง ก็มีการต่อว่าต่อขาน บ่นต่อว่าโมเสส หาว่า พามาตาย โมเสสทำได้คือหันกลับไปถามพระเจ้าว่า จะทำยังไงดี สถานการณ์คับขัน ถูกกดดันรอบด้าน

พระเจ้าทรงตอบโมเสสว่าไง….พี่น้อง…..

15 พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “เหตุไฉนเจ้าจึงมาร้องทุกข์ต่อเรา จงสั่งชนชาติอิสราเอลให้เดินต่อไปข้างหน้าเถิด

สั้นๆ  “เราจะไปต่อ…ด้วยกัน”  ใครไป….  พระเจ้ากำลังบอกโมเสสว่า เราจะไปกับเจ้า เจ้าจงไปต่อกับคนอิสราเอล

ข้างหน้าคือทะเลที่ขวางอยู่  เป็นไปไม่ได้ เดินได้ยังไง มีแต่จม ตายแน่

ทำไมพระเจ้าจึงนำอิสราเอลมายังทะเลแดง  ที่เป็นอุปสรรคในการไปต่อ ถ้าย้อนกลับไปบทก่อนหน้านี้ บันทึกว่า

อพยพ 13:17-18 17 เมื่อ​ฟาโรห์​ปล่อย​ประชากร​ไป​แล้ว ​พระ​เจ้า​มิได้​ทรง​นำ​เขา​ไป​ทาง​แผ่นดิน​ของ​ชาว​ฟีลิสเตีย​ แม้ว่า​จะ​เป็น​ทาง​ใกล้ เพราะ​พระ​เจ้า​ตรัส​ว่า “เกรง​ว่า​เมื่อ​ประชากร​ไป​เผชิญ​สงคราม​เข้า เขา​จะ​เปลี่ยน​ใจ​และ​กลับไป​ยัง​อียิปต์​เสีย”18 ​พระ​เจ้า​จึง​ทรง​นำ​เขา​อ้อม​ไป​ทาง​ถิ่น​ทุรกันดาร​ยัง​ทะเล​แดง ชน​ชาติ​อิสราเอล​ก็​ออกไป​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์ มี​อาวุธ​พร้อม​ที่​จะ​ทำ​สงคราม​

แม้อิสราเอลจะมีอาวุธพร้อมทำสงคราม แต่พระเจ้าก็ไม่ให้ทำสงคราม เพราะพระเจ้าทรงรู้ว่า จิตใจของอิสราเอลในเวลานั้น ไม่พร้อมทำสงคราม และจะเปลี่ยนใจกลับไปยังอียิปต์ (แปลว่า หนี)  ยอมที่จะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมอีก พระเจ้าจึงนำอิสราเอลไปทางทะเลแดง ที่ที่ไม่มีทางไปต่อได้ (สำหรับความจริงของมนุษย์)

คานาอัน ไม่ได้เข้าได้ง่ายๆ ถ้าจะเข้า ต้องเจอพวกสุดๆของความเหี้ยมโหดขวางทาง และเชี่ยวชาญในการรบ  อิสราเอลมีอาวุธก็จริง แต่ไม่ยังพร้อมเชื่อฟังพระเจ้า ไม่ใช่แค่ไม่พร้อมรบ

ยอห์น 14:6  6 ​พระ​เยซู​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “เรา​เป็น​ทาง​นั้น เป็น​ความ​จริง​และ​เป็น​ชีวิต ไม่​มี​ผู้ใด​มาถึง​พระ​บิดา​ได้​นอก​จาก​จะ​มา​ทาง​เรา​

มัทธิว7:13  “จง​เข้า​ไป​ทาง​ประตู​แคบ เพราะ​ว่า​ประตู​ใหญ่ และ​ทาง​กว้าง​ซึ่ง​นำไป​ถึง​ความ​พินาศ และ​คน​ที่​เข้า​ไป​ทาง​นั้น​มี​มาก​14 เพราะ​ว่า​ประตู​ซึ่ง​นำไป​ถึง​ชีวิต​นั้น​ก็​คับ​และ​ทาง​ก็​แคบ ผู้​ที่​หา​พบ​ก็​มี​น้อย​

พระเยซูทรงตรัสถึงหนทางที่จะไปต่อของคริสเตียน ต้องไปในทางทางของพระเยซู วิธีของพระองค์ หนทางที่แคบ และคับ คือการบอกว่า เราต้องฝึกการเชื่อฟังในการเดินทางนี้ จึงจะอยู่ในทางนี้ได้ ทางของพระเยซูซ่อนอยู่ในสิ่งที่กีดขวางทั้งหลาย

ทะเลที่อยู่ตรงหน้าอิสราเอล เป็นเหมือนกับสิ่งที่เป็นธรรมชาติ ความจริงที่คนมากมายยอมรับว่าเป็นไปไม่ได้ ที่จะชนะอุปสรรคนั้นได้  กองทัพอียิปต์ เป็นเหมือนกับชะตากรรม หรือคนไทยยอมรับว่า คือกรรมเวรที่ผูกมากับชีวิต เหวี่ยงเท่าไหร่ก็ไม่สามารถเอาออกไปได้พ้นคอ  จะไปต่อได้อย่างไร มีแต่ต้องก้มหน้ารับกรรมนั้นหรือ?แถมยังมีเสียงบ่นตำหนิ ต่อว่า ซ้ำเติม จากภายในกันเองอีก Ex. เรากำลังเผชิญกับสถานการณ์บางอย่างคล้ายๆกันนี้ไม๊?

คนที่ตั้งใจที่จะเดินทางแคบและคับของพระเยซู จะมองเห็นอุปสรรค มีทางออกเสมอ ชะตากรรมไม่ใช่ชะตากรรม อุปสรรคไม่ใช่อุปสรรค

15 พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “เหตุไฉนเจ้าจึงมาร้องทุกข์ต่อเรา จงสั่งชนชาติอิสราเอลให้เดินต่อไปข้างหน้าเถิด

พระเจ้ากำลังบอกกับโมเสสว่า อย่ายอมแพ้ อย่าถอดใจ แต่จงเชื่อฟัง   …เดินต่อไปข้างหน้าเถิด

เราเคยกลัว  หรือกำลังรู้สึกจะถอดใจ อยากจะยอมแพ้ชะตาชีวิตตัวเองไม๊? หรือกำลังบ่นต่อว่า ตำหนิ คนรอบข้างที่ทำให้เป็นอย่างนี้?

มาดูว่า พระเจ้าทรงทำอะไร กับกองทัพฟาโรห์ ที่มองแล้วอยู่ใกล้ แต่เข้าไม่ถึงอิสราเอล ในขณะที่อิสราเอลติดแหง็กอยู่ตรงทะเลแดง

อพยพ 14:19-20 19 ฝ่าย​ทูต​ของ​พระ​เจ้า​ซึ่ง​นำ​พล​โยธา​นั้น​กลับไป​อยู่​ข้าง​หลัง และ​เสา​เมฆ​ซึ่ง​อยู่​ข้างหน้า ​ก็​กลับมา​ตั้งอยู่​ข้าง​หลัง​เขา​20 คือ​มา​อยู่​ระหว่าง​พล​โยธา​อียิปต์​และ​พล​โยธา​อิสราเอล มี​เมฆ​และ​ความ​มืด​กั้น เวลา​กลางคืน​ก็​ผ่าน​ไป​โดย​ทั้ง​สอง​ฝ่าย​มิได้​เข้า​ใกล้​กัน​ตลอด​คืน

การมองเห็นผู้ไล่ล่า ทำให้ผู้ถูกไล่ล่า รู้สึกถึงอันตราย ทำให้กลัว แต่เวลานี้ พระเจ้าทรงทำให้การมองเห็นนั้นถูกบังด้วยเมฆ และความมืด ทางฝ่ายผู้ไล่ล่าไม่สามารถมองเห็นอีกฝ่ายได้ และทางฝ่ายอิสราเอล หลุดจากการจดจ่อกับสิ่งที่น่ากลัว มาจดจ่อกับสิ่งอัศจรรย์ที่พระเจ้ากำลังจะทำให้เกิดขึ้น คือทะเลแดงแหวกออก ให้เดินต่อไป ….ด้วยกัน

สังเกตว่า การที่อิสราเอลออกมาด้วยกัน ไปด้วยกัน เพื่อจะไปต่อ….ด้วยกัน  ไม่มีใครสักคนที่จะถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง การไปต่อ…ต้องการกันและกัน และเป็นกุญแจสำคัญของการไปต่อ….

มีคำพูดว่า  ถ้าอยากไปเร็ว ไปคนเดียว แต่ถ้าอยากไปไกล ให้ไปด้วยกัน

ไปด้วยกัน ทำให้ไปต่อได้….

พระเจ้าทรงไปด้วย  และพระองค์ต้องการให้อิสราเอลไปกับพระองค์ พระองค์จึงตรัสกับโมเสสว่า

15 พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “เหตุไฉนเจ้าจึงมาร้องทุกข์ต่อเรา จงสั่งชนชาติอิสราเอลให้เดินต่อไปข้างหน้าเถิด

ไม่ใช่พระเจ้ารำคาญ หรืออยากไปแต่พระองค์เดียว แต่พระเจ้ากำลังไปต่อ เพราะฉะนั้น อย่ามัวเสียเวลามาร้องทุกข์กับพระเจ้า แต่จงไปต่อ ไปด้วยกัน เดินต่อไปข้างหน้า  การร้องทุกข์ คือการหยุดพินิจพิจารณาแต่กับอุปสรรค

คนที่เป็นนักแก้ปัญหา เขาจะไม่เสียเวลากับการบ่น ตำหนิ ต่อว่า เป็นทุกข์กับปัญหา แต่เขาจะมองหาทางออกของปัญหา และหาช่องทางที่จะไปต่อ

พระเจ้ากำลังฝึกอิสราเอลในการไปต่อ ด้วยการเชื่อฟัง แม้หนทางข้างหน้าจะตัน แต่การเชื่อฟังพระเจ้า จะทำให้ทางที่ตัน เปิดออก อย่างทะเลแดงต้องเปิดออกให้คนอิสราเอลเดินไปต่อได้

15 พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “เหตุไฉนเจ้าจึงมาร้องทุกข์ต่อเรา จงสั่งชนชาติอิสราเอลให้เดินต่อไปข้างหน้าเถิด

มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า ปัญหาอยู่กับเราไม่นาน แต่เรามักชอบใช้เวลาอยู่กับปัญหานาน  และเป็นทุกข์ จนไม่ได้ใส่ใจที่จะเดินต่อไปข้างหน้า

ปัญหาของเราในวันนี้ คืออะไร ทะเลแดงที่ขวางหน้า?  อุปสรรคมากมาย ความเป็นไปไม่ได้ ?   กองทัพฟาโรห์? คืแรงกดดัน แรงฉุด อันตราย? คนอิสราเอลที่ถอดใจ ขี้บ่น ขาดความเชื่อรอบข้าง?  (การบั่นทอนจากคนภายในกันเอง คนที่ขาดความเชื่อในท่ามกลางกันเอง?)

??? ข้าพเจ้าอยากจะบอกว่า เรายังไม่ได้เจอยักษ์ตัวจริง

ที่พระเจ้ายังไม่ให้อิสราเอลเดินเข้าคานาอัน ในทางตรง ระยะทางสั้นๆ เพราะพวกเขาต้องเจอกับมนุษย์ยักษ์ แล้วจะยิ่งท้อใจ หันหลังกลับไปอียิปต์  ปัญหาของพวกเราเวลานี้ แค่จิ๊บๆ แค่ขัดขวาง แต่ยังไม่ได้มาต่อสู้

ไปต่อ  เพื่อเจอกับยักษ์  เป้าหมายต่อไป คือคานาอัน   และในบทเรียนของคนอิสราเอล ที่ชนะมนุษย์ยักษ์ เพราะพระเจ้าทรงรบแทนพวกเขาอีกนะแหล่ะ  เหมือนทะเลแดงที่แหวกออกให้หนีรอดพ้นกองทัพอียิปต์

13 โมเสส​จึง​เตือน​ประชากร​ว่า “อย่า​กลัว​เลย มั่น​คงไว้ คอย​ดู​ความ​รอด​ที่​จะ​มา​จาก​พระ​เจ้า ซึ่ง​พระ​องค์​จะ​ประทาน​ให้แก่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ใน​วันนี้​ด้วย​คน​อียิปต์ ซึ่ง​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เห็น​ใน​วันนี้ แต่​นี้​ไป​จะ​ไม่ได้​เห็น​อีก​เลย​14 ​พระ​เจ้า​จะ​ทรง​รบ​แทน​ท่าน​ทั้ง​หลาย ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​สงบ​อยู่​เถิด”

สิ่งที่ต้องทำในการไปต่อ….ด้วยกัน

1.จัดการกับความกลัว ให้พระเยซูอยู่ด้วย

13 โมเสส​จึง​เตือน​ประชากร​ว่า “อย่า​กลัว​เลย….

แน่นอนว่า ต้องมีความกลัว และต้องจัดการกับความกลัว ไม่ปล่อยให้ความกลัวควบคุม หรือชักนำให้เตลิดไป  พระเยซูมักจะพูดคำว่า อย่ากลัวเลย…บ่อยๆ  กับคนทั่วไป และกับสาวกของพระองค์ โดยเฉพาะหลังจากพระเยซูถูกตรึงและฝังในอุโมงค์ พระเยซูตายจริง ถูกฝังจริง ในเวลานั้น สาวกต่างขาดผู้นำ และเสียขวัญกับการสูญเสียพระเยซูไป แต่พระเยซูทรงฟื้นขึ้นมาจากความตายจริง ซึ่งเมื่อพระองค์ปรากฏแก่สาวก คำแรก คือ คำปลอบใจว่า อย่ากลัว อย่าวิตกไปเลย  นี่คือวิธีจัดการกับความกลัวที่มีพระเยซูทรงสำแดงการทรงพระชนม์อยู่ด้วย ไม่ใช่วิธีการจัดการกับความกลัว อย่างชาวโลกที่พยายามข่มความกลัว ด้วยวิธีต่างๆ  มิให้ความกลัวควบคุม ทั้งๆที่กลัว

แต่วิธีจัดการกับความกลัวของคริสเตียน คือการมีประสบการณ์กับการทรงพระชนม์อยู่ของพระเยซู พระองค์อยู่ด้วย

เมื่อข้าพเจ้าเป็นพยานถึงการไปทำพันธกิจที่พังงาช่วงแรกๆของการถูกสึนามิถล่ม คนตายมากมาย ภาพที่บรรยายของคนที่รอดชีวิต คือ สภาพคนตายบนชายหาด เหมือนกับมดที่ถูดพ่นด้วยดีดีที ตายเป็นกองๆ  เป็นพันๆคน  คนที่ได้ยิน คนที่อยู่จังหวัดรอบๆ ต่างกลัวผี  ข้าพเจ้าไปตั้งแต่เหตุการณ์เพิ่งผ่านไปสดๆ ยังใหม่ มีคนถามว่า ไม่กลัวผีเหรอ ตอบได้ว่ากลัว แต่อยู่ได้ อยู่คนเดียวในโรงแรง ทางมืด ขับรถคนเดียว แต่พระเยซูทรงพระชนม์อยู่ด้วย ข้าพเจ้าผ่านมันมาได้ ไปต่อได้

ถามว่า ยังมีความกลัวไม๊ มี แต่พระเยซูอยู่ด้วย ทำให้จัดการกับความกลัวได้

เราแต่ละคนมีความกลัวในสิ่งที่แตกต่างกัน บางคนกลัวผี บางคนกลัวอด บางคนกลัวอันตราย บางคนกลัวความเจ็บไข้ได้ป่วย บางคนกลัวอุบัติเหตุ บางคนกลัวเรื่องร้ายๆ  บางคนกลัวเหตุปัจจุบันทันด่วน  เราต้องจัดการกับความกลัวของเรา  แต่ไม่ใช่วิธีอย่างชาวโลก เรามีพระเยซูคริสต์ผู้ทรงพระชนม์อยู่ด้วยกับเราแล้ว ขอให้เราทุกคนจงแสวงหาประสบการณ์นั้นกับพระองค์

2.มั่นคง คอยความรอดจากพระเจ้า

….มั่น​คงไว้ คอย​ดู​ความ​รอด​ที่​จะ​มา​จาก​พระ​เจ้า ซึ่ง​พระ​องค์​จะ​ประทาน​ให้แก่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ใน​วันนี้….

นี่คือความเชื่อ ที่เป็นปัจจุบัน ด้วยคำว่า วันนี้…

ฮีบรู 11:1 1 ความ​เชื่อ​คือ​ความ​แน่ใจ​ใน​สิ่ง​ที่​เรา​หวัง​ไว้ เป็น​ความ​รู้สึก​มั่นใจ​ว่า สิ่ง​ที่​ยัง​ไม่ได้​เห็น​นั้น​มี​จริง​

คำแสดง tense ของประโยคนี่ คือปัจจุบัน เดี๋ยวนี้ ไม่ใช่อดีต หรืออนาคต ความรอดของพระเจ้าคือวันนี้ เดี๋ยวนี้ อาเมน

วินาทีต่อวินาที ชั่วโมงต่อชั่วโมง วันต่อวัน  ความมั่นคง ในการคอยความรอดของพระเจ้าต้องจดจ่อ และเชื่อว่ามีจริง ในวันนี้

อิสราเอลที่กำลังเผชิญกับกองทัพฟาโรห์ไล่จี้ก้น ความรู้สึกกลัวถูกเขย่า ต้องจัดการกับความรู้สึกกลัวแล้ว ยังต้องเชื่อฟัง มั่นคงในคำสัญญาของพระเจ้า ที่ผ่านโมเสสว่า พระเจ้าสัญญา พระเจ้าจะนำ พระเจ้าจะเปิดทะเล ที่ขวางให้เดินไปได้  เพื่อไปต่อ…ด้วยกัน ต้องมั่นคง รอคอยอย่างเดียวกัน คือความรอดมาจากพระเจ้า

3.จงสงบ  ให้พระเจ้ารบแทน….

​14 ​พระ​เจ้า​จะ​ทรง​รบ​แทน​ท่าน​ทั้ง​หลาย ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​สงบ​อยู่​เถิด”

มีหลายคนในท่ามกลางพวกเราที่ใจร้อน และชอบลงมือทำก่อนพระเจ้า ทำแทนพระเจ้า

มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า พระเจ้าทรงทำส่วนของพระองค์ และมีส่วนที่เราต้องรับผิดชอบทำ พระเจ้าจะไม่ทำแทน เราต้องเข้าใจตรงนี้ว่า อะไรคือส่วนของพระเจ้า และอะไรคือส่วนของเรา คริสเตียนที่ไม่รู้จักส่วนของพระเจ้า ก็มักจะไปทำแทนพระเจ้า และจะบอกว่า มักจะไม่ทำส่วนของตัวเองซะด้วย

ความนิ่งสงบ ทำให้เราใช้เวลาแยกแยะว่า อะไรคือส่วนของพระเจ้า และอะไรคือส่วนของเรา แต่ในความสับสน ว้าวุ่นวายใจ มักทำให้เรามั่วไปหมด ทำสิ่งที่ไม่ควรทำ ที่ต้องทำกลับไม่ทำ  กลายเป็นหนูติดจั่น และบางทีก็ต้องจ่ายราคาไปอย่างไม่สมควรจะจ่าย

สามสิ่งนี้ ทำให้ไปต่อ…ด้วยกัน กับพระเจ้า และกับคนของพระเจ้า

“เราจะไปต่อ….ด้วยกัน”

1.จัดการกับความกลัว ให้พระเยซูอยู่ด้วย

2.มั่นคง คอยความรอดจากพระเจ้า

3.จงสงบ  ให้พระเจ้ารบแทน….

By admin