“อะไรคือสิ่งที่เราขาดไม่ได้”
ฉายคลิป การฝังไมโครชิป สำหรับแทนการใช้รหัสเข้าสู่ระบบต่างๆ (2นาที)
ฉายคลิป The future of money (4นาที)
https://www.youtube.com/watch?v=hTBJ6OIGkzc
คำพยากรณ์ในหนังสือวิวรณ์ถูกตีความที่ชัดเจนอีกอันก็คือ เครื่องหมาย
วิวรณ์ 13:110-18 11 แล้วข้าพเจ้าเห็นสัตว์ร้ายอีกตัวหนึ่งขึ้นมาจากแผ่นดินมีสองเขาเหมือนลูกแกะ และพูดเหมือนพญานาค12 มันใช้อำนาจของสัตว์ร้ายตัวเดิมนั้นอย่างครบถ้วนและต่อหน้า มันทำให้โลกและคนที่อยู่ในโลกบูชาสัตว์ร้ายตัวเดิมนั้น ที่มีแผลปางตายแต่รักษาหายแล้ว13 สัตว์ร้ายนี้แสดงหมายสำคัญใหญ่ จนกระทำให้ไฟตกลงมาจากฟ้าสู่แผ่นดินโลกประจักษ์แก่ตามนุษย์ทั้งหลาย14 มันล่อลวงคนทั้งหลายที่อยู่ในโลกด้วยหมายสำคัญนั้น ซึ่งทรงยอมให้มันกระทำต่อหน้าสัตว์ร้ายตัวเดิมนั้น และมันสั่งให้คนทั้งหลายที่แผ่นดินโลก สร้างรูปจำลองให้แก่สัตว์ร้ายที่ถูกฟันด้วยดาบ แต่ยังไม่ตายนั้น15 ทรงยอมให้มันมีอำนาจที่จะให้ลมหายใจแก่รูปสัตว์นั้น เพื่อให้รูปสัตว์ร้ายนั้นพูดได้ และให้มีอำนาจที่จะกระทำให้บรรดาคนที่ไม่ยอมบูชารูปสัตว์ร้ายนั้น ถึงแก่ความตายได้16 และมันยังได้บังคับคนทั้งปวง ทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อย คนมั่งมี และคนจน ไทและทาสให้รับเครื่องหมาย ไว้ที่มือขวาหรือที่หน้าผากของเขา17 เพื่อไม่ให้ผู้ใดทำการซื้อขายได้ นอกจากผู้ที่มีเครื่องหมายนั้น ซึ่งเป็นชื่อของสัตว์ร้ายนั้น หรือเลขชื่อของมัน18 ในเรื่องนี้จงใช้สติปัญญาให้ดี ถ้าผู้ใดมีความเข้าใจก็ให้คิดตรึกตรองเลขของสัตว์ร้ายนั้น เพราะว่าเป็นเลขของบุคคลผู้หนึ่ง เลขของมันคือหกร้อยหกสิบหก
เมื่อก่อนข้าพเจ้ารู้สึกว่า มันเป็นเรื่องไกลตัวมาก กับสิ่งที่หนังสือวิวรณ์ได้กล่าวถึงตอนนี้ จะเป็นจริงได้ แต่วันนี้ มันกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวเราแล้ว สิ่งที่พระคัมภีร์เตือนเราว่า สัตว์ร้ายที่กล่าวถึง ก็คือ ระบบเศรษฐกิจ ระบบการเงิน กำลังมีอิทธิพลถึงขนาดที่จะทำให้เรายอมใช้อุปกรณ์เครื่องมือบางอย่าง เพื่อจะปกป้องเงินที่อาจถูกปล้น หายได้ ถ้าเรายังถือโทรศัพท์ หรือบัตรต่างๆ แม้แต่บัตรประชาชน
วันนี้ เราได้เห็นพัฒนาการของมันมาถึงจุดที่ทุกคนจะต้องยอม ระบบการเงิน ที่ทำให้เราติดอยู่กับความสะดวกสบาย และติดอยู่กับความกลัวที่ถูกสร้างให้เรากลัว
16 และมันยังได้บังคับคนทั้งปวง ทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อย คนมั่งมี และคนจน ไทและทาสให้รับเครื่องหมาย ไว้ที่มือขวาหรือที่หน้าผากของเขา17 เพื่อไม่ให้ผู้ใดทำการซื้อขายได้ นอกจากผู้ที่มีเครื่องหมายนั้น ซึ่งเป็นชื่อของสัตว์ร้ายนั้น หรือเลขชื่อของมัน….
18 ในเรื่องนี้จงใช้สติปัญญาให้ดี ถ้าผู้ใดมีความเข้าใจก็ให้คิดตรึกตรองเลขของสัตว์ร้ายนั้น เพราะว่าเป็นเลขของบุคคลผู้หนึ่ง เลขของมันคือหกร้อยหกสิบหก
พระเยซูคริสต์เจ้าทรงตรัสเตือนว่า ให้ระวัง เรื่องเงิน จะมาแทนที่พระเจ้า เงินจะมาเป็นนาย และเราจะกลายเป็นทาสของเงิน รับใช้เงิน
มัทธิว 6:24 24 “ไม่มีผู้ใดเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เพราะว่าจะชังนายข้างหนึ่ง และจะรักนายอีกข้างหนึ่ง หรือจะนับถือนายฝ่ายหนึ่ง และจะดูหมิ่นนายอีกฝ่ายหนึ่ง ท่านจะปฏิบัติพระเจ้าและจะปฏิบัติเงินทองพร้อมกันไม่ได้
คำพูดที่เรามักได้ยินบ่อยๆในตอนนี้ คือ เงินเป็นสิ่งจำเป็น แต่ไม่ใช่สิ่งสำคัญ และไม่ใช่สำคัญที่สุด แต่ในการแสดงออก เรากำลังทำให้เงินกลายเป็นสิ่งสำคัญที่สุดอยู่? ถ้าขาดเงิน เงินไม่พอ ทำให้เป็นทุกข์ กังวล และความเชื่อถดถอยอยู่หรือไม่
พระเยซูทรงสอนสาวกของพระองค์ให้ปรนนิบัติพระเจ้า เราต้องให้พระเจ้าใช้เรา และเราเป็นผู้ใช้เงิน ไม่ใช่ปรนนิบัติเงินทอง หรือให้เงินใช้เรา
คนที่ให้เงินใช้ คือคนที่บ้าเงิน บ้างาน เพราะงานทำให้ได้เงินมา และให้ความสำคัญกับเงินที่ได้มา มากกว่าครอบครัว มากกว่าชีวิตของตนเอง
พระเยซูคริสต์เจ้าทรงตรัสอีกว่า เรื่องของเนื้อหนังเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์
ยอห์น 6:63 63 จิตวิญญาณเป็นที่ให้มีชีวิต ส่วนเนื้อหนังไม่มีประโยชน์อันใด ถ้อยคำซึ่งเราได้กล่าวกับท่านทั้งหลายนั้น เป็นจิตวิญญาณและเป็นชีวิต
เรากำลังให้นิยามของคำว่าชีวิตที่แตกต่างจากพระเยซูหรือไม่ โลกนี้ ให้นิยามกับชีวิต คือเรื่องของการบำรุงบำเรอเนื้อหนัง ซึ่งขาดเงินไม่ได้ แต่เส้นทางของสาวกของพระเยซู คือเส้นทางที่ขาดพระเจ้าไม่ได้ ไม่ใช่ขาดเงินไม่ได้ ถ้าเราขาดพระเจ้า เราขาดชีวิต แต่ยิ่งเรามีเงิน เราจะขาดชีวิต ตรอมตรม และห่างไกลจากความเชื่อ คือเราจะเชื่อว่า เราอยู่ไม่ได้ ถ้าเราขาดเงิน (นี่เป็นการโกหกของมารซาตาน และระบบของโลกนี้)
1ทิโมธี 6:10-12 10 ด้วยว่าการรักเงินทองนั้นเป็นมูลรากแห่งความชั่วทั้งมวล และเพราะความโลภนี่แหละ จึงทำให้บางคนห่างไกลจากความเชื่อ และตรอมตรมด้วยความทุกข์ 11 แต่ท่านผู้เป็นคนของพระเจ้า จงหลีกหนีเสียจากสิ่งเหล่านี้ จงมุ่งมั่นในความชอบธรรม ในทางของพระเจ้า ความเชื่อ ความรัก ความอดทน และความอ่อนสุภาพ12 จงต่อสู้อย่างเต็มกำลังความเชื่อ จงยึดชีวิตนิรันดร์ไว้ ซึ่งพระเจ้าทรงเรียกให้ท่านรับ ในเมื่อท่านได้รับเชื่ออย่างดีต่อหน้าพยานหลายคน
อะไรคือสิ่งที่เราขาดไม่ได้ ถ้าขาดแล้ว เราตาย บางคนอาจว่า ลมหายใจ แต่จริงหรือ แค่ลมหายใจหรือ เห็นมีบางคนจะเป็นจะตายด้วยเรื่องไร้สาระมากมาย และเพื่อสิ่งไร้ประโยชน์ที่พระเยซูทรงเรียกว่า เนื้อหนังนี้ ทำให้คนมากมาย รวมทั้งคริสเตียน เป็นทุกข์ ไม่สามารถนมัสการพระเจ้าได้อย่างเต็มที่
เรากำลังถูกทำให้มองเห็นแต่ภาพของสิ่งที่เราขาดไม่ได้ คือความต้องการของเนื้อหนัง จนเราขาดมุมมองว่า เรายังต้องการเรื่องจิตวิญญาณที่มาจากพระเจ้า คือเราขาดพระเจ้าไม่ได้ อะไรคือสิ่งที่คริสเตียนจะขาดไม่ได้ นั่นคือ
1.เราขาดพระเจ้าไม่ได้
กาลาเทีย 2:20 20 ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว ข้าพเจ้าเองไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า ชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ ข้าพเจ้าดำเนินอยู่โดยศรัทธาในพระบุตรของพระเจ้า ผู้ได้ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า
อ.เปาโล ได้เข้าใจถึงสัจธรรมเรื่องของชีวิตที่แท้จริง ชีวิตที่แท้จริง การมีพระคริสต์มีชีวิตอยู่ภายในของท่าน ทำให้เปาโลมองเห็นทุกอย่างเป็นเหมือนหยากเยื่อ คือ ไร้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นพื้นเพชีวิตที่ดี สันชาติโรมที่ใครๆต้องการ ความรู้สูง สติปัญญา และการยอมรับจากคนอื่น ซึ่งคนมากมายในยุคโบราณ หรือในยุคของเราขาดไม่ได้ ต้องแสวงหา ขวนขวายให้ได้มา
แต่เมื่ออ.เปาโลได้พบกับพระเยซูคริสต์เจ้า และรับเอาชีวิตที่แท้จริงของพระองค์เข้ามา เปาโลไม่ตกอยู่ภายใต้ระบบของโลกอีกต่อไป แต่พร้อมที่จะเผชิญกับทุกสิ่งได้
2.เราขาดกันและกันไม่ได้
ฟิลิปปี 4:12-14 12 ข้าพเจ้ารู้จักที่จะเผชิญกับความตกต่ำ และรู้จักที่จะเผชิญกับความอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าในกรณีใดๆ ข้าพเจ้ารู้จักเคล็ดลับที่จะเผชิญกับความอิ่มท้องและความอดอยาก ความสมบูรณ์พูนสุข และความขัดสน13 ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า14 ถึงกระนั้นก็เป็นความกรุณาของท่าน ที่ได้ร่วมทุกข์กับข้าพเจ้า
น่าสนใจว่า ในพระคัมภีร์ตอนนี้ อ.เปาโลได้ใช้คำว่า การที่พี่น้องคริสเตียนด้วยกัน ที่ร่วมทุกข์กับอ.เปาโล เป็นความกรุณาจากพี่น้องด้วยกัน และคือการบอกว่า นอกจากเราจะขาดพระเจ้าไม่ได้แล้ว เรายังขาดกันและกันไม่ได้
การมีกันและกัน ทำให้เราสามารถไปต่อได้ ที่มีคำพูดว่า อยากไปเร็ว ไปคนเดียว อยากไปได้ไกล ต้องไปด้วยกัน ยังเป็นความจริง ความจริงที่ว่า การไปได้ไกล ทำให้เราไปถึงจุดหมาย แต่การไปด้วยเร็ว อาจไม่ถึงจุดหมาย จบเห่ซะก่อน
เพราะฉะนั้น เราขาดกันและกันไม่ได้
มีการแบ่งระยะของการเติบโตของช่วงอายุต่างไว้อย่างน่าสนใจ คือด้วยคำว่า วัยพึ่งพาคนอื่น(ยังเป็นทารก วัยเด็ก) วัยพึ่งพาตนเอง(วัยรุ่น) และวัยพึ่งกันและกัน (วัยผู้ใหญ่) และสุดท้าย วัยพัก ( ชราภาพ หมดสภาพ คือกลับมาพึ่งคนที่จะพึ่งพาได้)
และในวัยพักนี้ มีคนมากมายกลัวที่จะเผชิญกับมัน จึงทำให้คนมากมายต้องมีลูก แต่ว่า ลูกในยุคของเราจะพึ่งพาได้หรือไม่ ยังเป็นความวิตกของคนยุคสมัย 4.0
แต่จะมีคนที่ไม่ใช่ลูก แต่เป็นครอบครัวเดียวกันที่จะพึ่งพาในวัยพักได้ หรือคนในวัยพัก ยังสามารถเป็นที่พึ่งของคนอื่นได้ นี่คือสิ่งที่คนในยุคของเรากำลังหาทางเตรียมคนเหล่านี้ ด้วยคำว่า หุ่นยนต์ โอ้ เราหนีไม่พ้นหุ่นยนต์อีกแล้ว
ขอพระเจ้าทรงโปรดให้เราอย่าหาทางออกแบบหุ่นยนต์เลย เพราะพระเจ้าทรงออกแบบคริสตจักรไว้เป็นคำตอบของปัญหาเรื่องนี้
พระคัมภีร์ยังทันสมัยเสมอ ที่จะแก้ปัญหาให้กับเรา ขอให้เราอย่าหนีความจริงว่า เราขาดพระเจ้าไม่ได้ และขาดกันและกันไม่ได้ อย่าให้เราถูกมารซาตานหลอกเราด้วยระบบของโลกนี้
วิวรณ์ 20:4-6 4 ข้าพเจ้าได้เห็นบัลลังก์หลายบัลลังก์ และผู้ที่นั่งบนบัลลังก์นั้น เป็นผู้ที่จะพิพากษา และข้าพเจ้ายังได้เห็นดวงวิญญาณของคนทั้งปวงที่ถูกตัดศีรษะ เพราะเป็นพยานของพระเยซูและเพราะพระวจนะของพระเจ้า และผู้ที่ไม่ได้บูชาสัตว์ร้ายนั้นหรือรูปของมัน และไม่ได้ติดเครื่องหมายของมันไว้ที่หน้าผากหรือที่มือของเขา คนเหล่านั้นกลับมีชีวิตขึ้นมาใหม่ และได้ครอบครองร่วมกับพระคริสต์เป็นเวลาพันปีจนกว่าจะครบกำหนดพันปี นี่แหละคือการฟื้นจากความตายครั้งแรก6 ผู้ใดที่ได้มีส่วนในการฟื้นจากความตายครั้งแรกก็เป็นสุขและบริสุทธิ์ ความตายครั้งที่สองจะไม่มีอำนาจเหนือคนเหล่านั้น แต่เขาจะเป็นปุโรหิตของพระเจ้าและของพระคริสต์ และจะครอบครองร่วมกับพระองค์ตลอดเวลาพันปี
ขอให้เราทั้งหลาย จงแสวงหาความรู้ความเข้าใจความจริงของพระเจ้า ในการดำเนินชีวิตในโลกเพื่อชีวิตนิรันดร์
“อะไรคือสิ่งที่เราขาดไม่ได้”
1.เราขาดพระเจ้าไม่ได้
2.เราขาดกันและกันไม่ได้