“จงชื่นชมยินดีในพระเจ้าทุกเวลา”
ฟิลิปปี 4:4-7 4 จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่า จงชื่นชมยินดีเถิด5 จงให้จิตใจที่อ่อนสุภาพของท่านประจักษ์แก่คนทั้งปวง องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ใกล้แล้ว6 อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆ เลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ7 แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์
สวัสดีค่ะ พี่น้องที่รักในพระคริสต์ ขอส่งความสุข สดชื่นในพระเจ้าพระเยซูคริสต์เจ้าของเรามายังพี่น้องทุกท่าน ให้ความชื่นชมยินดีในพระเจ้าทุกเวลา อยู่ในจิตใจความคิดของพี่น้องไม่ว่าจะ ยามหลับ ยามตื่น ยามทำภารกิจใดๆ เพราะความรู้สึกชื่นชมยินดีนี้ จะเป็นช่องทางของการรับความหวัง ชีวิต และพลังที่สดใหม่จากพระเจ้าทุกเวลาเช่นกัน มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า การจะต่อยอดสิ่งใด ต้องมีต้นทุน หรือฐานตั้งต้นเพื่อจะต่อยอดไปได้ ข้าพเจ้าอยากจะนำมากล่าวในทำนองเดียวกันนี้เช่นกัน ….จงชื่นชมยินดีในพระเจ้าทุกเวลา..เป็นฐานที่ดี เป็นพระพร สามารถต่อยอดไปได้อย่างไม่มีขีดจำกัด 4 จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่า จงชื่นชมยินดีเถิด
ดูเหมือนมีบางอย่างที่มองไม่เห็นพยายามจะหยุด หรือทำให้สะดุด กับความชื่นชมยินดีในพระเจ้าทุกเวลา ซึ่งเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าที่ทรงปรารถนาที่จะให้คนของพระองค์รักษาความต่อเนื่องในความชื่นชมยินดีในพระองค์ พระคัมภีร์จึงกล่าวต่อเนื่องอีกว่า …องค์พระเจ้าทรงอยู่ใกล้แล้ว…. แท้จริงพระองค์ไม่ได้ห่างไกลไปจากเราเลย 6 อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆ เลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ คำว่า อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆเลย ฉบับแปล 2011 แปลว่า อย่ากระวนกระวายในสิ่งใดๆเลย พระเจ้าทรงอยู่ใกล้ เพื่อจะฟังคำร้องทุกข์ คำขอเรื่องความปรารถนา ปัญหาทุกอย่าง…ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ แปลว่า อธิษฐาน(จงพูดกับพระเจ้า) วิงวอน(คือขอ) จงขอบพระคุณ (แสดงความเชื่อว่า จะได้รับตามที่ขอ)
7 แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์
รากศัพท์กรีกคำว่า สันติสุข ที่ใช้ในพระคัมภีร์ตอนนี้ แปลว่า เงียบสงบ และยังแปลว่า ความรุ่งเรือง ที่เกินความเข้าใจ (เกินสติปัญญาของมนุษย์) จิตใจและความคิดได้รับการคุ้มในพระเยซูคริสต์ คือการรับสติปัญญาอย่างพระเยซูคริสต์ ในฐานะที่พระองค์ทรงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Wisdom พระปัญญา จะมีอะไรอีกเล่าที่จะขัดขวางไม่ให้เราพบกับความชื่นชมยินดีในพระเจ้าตลอดเวลาได้อีก ไม่มี อาเมน