ขอพระเจ้าช่วยเราที่จะปกป้องจิตวิญญาณของเรา เรื่องจิตใจเป็นเรื่องที่อยู่ผิวที่สุดที่ถูกคลุมด้วยร่างกาย เรามีสิ่งที่สูญเสียคุณภาพ ศักยภาพทางจิตใจ เพราะจิตใจเป็นเหมือนหางเสือที่จะบังคับเราไปทางไหน จะบวก ลบ เป็นพร เป็นภัยก็ขึ้นกับ จิตใจทั้งนั้น เราอย่าคิดว่าเราอายุเยอะแล้วแก่แล้ว สังขารไม่อำนวย ไม่สมประกอบไม่สามารถถวายเกียรติยศพระเจ้าได้ นั่นไม่ใช่ ไม่ว่าเราเป็นยังไงเราสามารถถวายเกียรติยศแด่พระเจ้าได้เท่า ๆ กัน จะเปรียบเทียบให้ดู พระเจ้าผู้ทรงสร้างฟ้าจักรวาล สร้างทุก ๆจักรวาล พระเจ้าได้รับเกียรติจากนสิ่ที่ยิ่งใหญ่ที่เกิดจากสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง เราจินตนาการไม่ถูก เรารู้ว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่ แต่ยิ่งใหญ่แค่ไหนให้เราไปดูที่กรอบของจักรวาล และพระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าบรรดาจักรวาลที่พระองค์สร้าง เมื่อมองดูตัวเรา เราไม่ติดฝุ่นเลย ฉนั้นพระเจ้าจะได้รับเกียรติจ่ากอะไรที่เล็ก ๆ ก็ควรได้เท่ากับที่สิ่งนั้นเป็น จึงเป็นการอัศจรรย์ที่พระเจ้าจะได้รับเกียรติจากเราที่เล็ก ๆ ฉนั้นจึงไม่ได้ขึ้นกับเรา แต่ขึ้นกับพระเจ้า และไม่ว่าเราอยู่ในภาวะใด เราก็สามารถถวายเกียรติยศแด่พระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ได้ ขอพระเจ้าช่วยเราในการดำเนินชีวิตว่าแม้เราเล็กน้อยแต่เราสามารถถวายเกียรติพระเจ้าได้ วันนี้เราจะดูจากชีวิตเอลียาห์ 1 พงศ์กษัตริย์ 18:41-46 41 เอลียาห์ทูลอาหับว่า “ขอเชิญเสด็จขึ้นไปเสวยและดื่มเถิด เพราะมีเสียงฝนกระหึ่มมา”42 อาหับก็เสด็จขึ้นไปเสวยและดื่ม และเอลียาห์ก็ขึ้นไปที่ยอดภูเขาคารเมล ท่านก็โน้มตัวลงถึงดิน ซบหน้าระหว่างเข่า43 และท่านสั่งคนใช้ของท่านว่า “จงลุกขึ้นมองไปทางทะเล” เขาก็ลุกขึ้นมองและตอบว่า “ไม่มีอะไรเลย” และท่านบอกว่า “จงไปดูอีกเจ็ดครั้ง”44 และอยู่มาเมื่อถึงครั้งที่เจ็ดเขาบอกว่า “ดูเถิด มีเมฆก้อนหนึ่งเล็กเท่าฝ่ามือคนขึ้นมาจากทะเล และท่านก็บอกว่า ‘จงไปทูลอาหับว่า ‘ขอทรงเตรียมราชรถและเสด็จลงไปเพื่อพระองค์จะไม่ติดฝน’ ”45 และอยู่มาอีกครู่หนึ่ง ท้องฟ้าก็มืดไปด้วยเมฆและลม และมีฝนหนัก อาหับก็ทรงรถเสด็จไปยังเมืองยิสเรเอล46 และพระหัตถ์ของพระเจ้าหนุนกำลังเอลียาห์ และท่านก็คาดเอวของท่านไว้และวิ่งขึ้นหน้าอาหับไปถึงทางเข้าเมืองยิสเรเอล นี่เป็นข้อความที่นักเทศน์พูดบ่อยมาก แต่เรามักไม่คิดว่ามันจะเกิดเช่นนั้นกับเราได้ นี่คือสิ่งที่เราควรจะทำในระดับประเทศเป็นการถวายเกียรติ อิสราเอลตอนนั้นไม่มีฝน 3 ปี เหตุที่ประเทศเจอวิกฤตเพราะผู้นำไม่ได้ทำหน้าที่เป็นผู้นำอย่างที่ควรจะเป็น ไปไหว้รูปเคารพ ทำให้เกิดผลภัยพิบัติ และส่งกระทบต่อประเทศในทุกด้าน 1 พงศ์กษัตริย์ 17 :1 1 ฝ่ายเอลียาห์ชาวทิชบีผู้ซึ่งตั้งอาศัยอยู่ในกิเลอาด ได้ทูลอาหับว่า “พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ซึ่งข้าพระบาทปฏิบัติทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด จะไม่มีน้ำค้างหรือฝนในปีเหล่านี้ นอกจากตามคำของข้าพระบาท” อาหับเป็นคนของพระเจ้า อยู่ในระดับกษัตริย์ และพระเจ้าปรารถนาจะใช้กษัตริย์ในการขับเคลื่อนชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณของประเทศ เป็นผู้นำฝ่ายวิญญาณร่วมกับผู้เผยพระวจนะ แต่พระเจ้าส่งภัยพิบัติให้แผ่นดินทั้งหมดแห้งแล้ง เป็นเพราะผู้นำคืออาหับ 1 พงศ์กษัตริย์ 16 : 29-33 29 ในปีที่สามสิบแปดแห่งรัชกาลอาสาพระราชาของยูดาห์ อาหับราชโอรสของอมรีได้เริ่มครอบครองเหนืออิสราเอล และอาหับราชโอรสของอมรีได้ครองเหนืออิสราเอลในเมืองสะมาเรียยี่สิบสองปี30 และอาหับโอรสของอมรีได้กระทำชั่วในสายพระเนตรพระเจ้า มากยิ่งเสียกว่าบรรดาพระราชาที่อยู่ก่อนพระองค์31 และอยู่มาประหนึ่งว่า การที่พระองค์ดำเนินในบาปของเยโรโบอัมบุตรเนบัทนั้น เป็นสิ่งเล็กน้อย พระองค์ทรงรับเยเซเบลพระราชธิดาของเอ็ทบาอัลพระราชาของชาวไซดอนมาเป็นมเหสี และไปปรนนิบัติพระบาอัล และนมัสการพระนั้น32 พระองค์ทรงสร้างแท่นบูชาพระบาอัล ในพระนิเวศพระบาอัลซึ่งพระองค์ได้ทรงสร้างไว้ในเมืองสะมาเรีย33 และอาหับทรงสร้างอาเชราห์ อาหับทรงกระทำการที่กระทำให้พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลทรงพระพิโรธ มากยิ่งกว่าบรรดาพระราชาซึ่งอยู่มาก่อนพระองค์ สิ่งนี้กำลังพูดถึงผู้นำระดับประเทศที่มีพระเจ้า อาหับเป็นคนของพระเจ้า แต่กลับไปกราบไหว้รูปเคารพ ขอพระเจ้าช่วยเรา วันนี้พี่น้องที่รัก คริสเตียนทุกวันนี้อยู่ในยุคบริโภคนิยม และมันเข้ามาในคริสตจักรด้วย การบริโภคมีหลักของมันว่า คุณมีเท่าไหร่ คุณก็ทำได้เท่านั้น ปัจจัยเรามีเท่านั้น เราทำได้เท่านั้น ดังนั้นในการรับใช้พระเจ้า ในการทำโบสถ์ของเรา เราพยายามที่จะบริโภค คือเอาอะไรก็ตามที่เป็นปัจจัย และเอาปัจจัยไปทำพันธกิจให้เกิดผล เมื่อเราถวาย อย่าให้เราคิดว่า เงินที่เราได้มาเป็นตัวกำหนดขนาดของพันธกิจที่เราจะทำ อย่าไปติดเรื่องการบริโภคเพราะมันเป็นรูปเคารพ พระคัมภีร์บอกว่า อย่าให้เราพึ่งพารถรบ ม้า อาวุธ ถ้าเราพึ่งพาสิ่งเหล่านี้ เรากำลังบอกว่า พระเจ้าไม่ต้องทำ พระองค์อยู่เฉย ๆ เรากำลังกันพระเจ้าออกจากสิ่งที่เราจะทำ แต่ขอบคุณพระเจ้า เมื่อดาวิดเริ่มต้นเข้าสู่สงคราม พระเจ้าสอนดาวิดให้พึ่งพาพระองค์ในการสู้กับโกลิอัท เขาใช้ก้อนหินเพียงก้อนเดียว ดาวิดชนะด้วยพระนามพระเยโฮวาห์ แต่วันนี้เรากลับไปพึ่งพางบประมาณ พึ่งพาสิ่งต่าง ๆ แต่ไม่ได้พึ่งพาพระเจ้า ไม่ใช้ความเชื่อ ชีวิตเราแต่ละวันของเราเริ่มไม่รู้จักความเชื่อแล้ว และตัวเลขเข้ามาแทนที่ความเชื่อทำให้เราไม่มีความเชื่อที่จะถวาย รูปเคารพของอาหับ คือบาอัลกับอาเชราห์ ที่เขาคิดว่ามันจะช่วยดลบันดาลให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ หรือให้ชัยชนะในการสู้รบ แต่พระเจ้าก็ส่งคำเตือนมาว่า จะไม่มีน้ำเป็นเวลา 3 ปี แม้แต่น้ำค้าง และในยุคของเยเรมีย์ ที่พระเจ้ากำลังบอกคริสตจักรที่จะต้องปรับปรุงตัวเอง กษัตริย์อิสราเอลในเวลานั้นสกปรกเลอะเทอะจนพระเจ้าทนไม่ได้จึงส่งไปรับใช้กษัตริย์บาบิโลน 70 ปี และในดาเนียล 9 : 1 1 ในปีที่สามของรัชกาล เยโฮยาคิม กษัตริย์ของยูดาห์ เนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์ของบาบิโลนเสด็จมายังกรุงเยรูซาเล็ม และทรงล้อมเมืองไว้ มีการครบกำหนดเกิดขึ้นในสิ่งที่พระเจ้าบอกไว้ และสำหรับกษัตริย์อาหับ พระเจ้าบอกเขาว่าจะมีกำหนด 3 ปีที่ไม่มีน้ำเกิดขึ้น 1 พงศ์กษัตริย์ 18 :1 1 และอยู่ต่อมาหลายวัน พระวจนะของพระเจ้ามาถึงเอลียาห์ในปีที่สามว่า “ไปซี และแสดงตัวของเจ้าต่ออาหับ และเราจะส่งฝนมาเหนือพื้นดิน” มีการครบกำหนด 3 ปีเกิดขึ้น นี่คือเบื้องหลังทั้งหมด และเราไปดู 1 พงศ์กษัตริย์ 18 : 41 41 เอลียาห์ทูลอาหับว่า “ขอเชิญเสด็จขึ้นไปเสวยและดื่มเถิด เพราะมีเสียงฝนกระหึ่มมา” นี่เป็นบทเรียนที่เราจะต้องหันกลับมาอธิษฐานด้วยความเชื่อ ให้พระเจ้าทำกิจของพระองค์ หลายคริสตจักรทำให้พระเจ้าตกงาน ไม่มีใครเรียกพระเจ้าทำงาน เพราะคริสตจักรมีงบประมาณเพียงพอ พระเจ้าก็เลยตกงาน เมื่อเรามีงบก็ไม่ต้องใช้ความเชื่อแล้ว เมื่อเราไม่อธิษฐาน การอธิษฐานกลายเป็นพิธี เป็นกิจวัตรที่ไม่ได้เกิดจากความเชื่อ จำไว้ว่าทุกครั้งที่อธิษฐาน เบื้องหลังคือความเชื่อ เชื่อว่าพระเจ้าทรงพระชนม์อยู่ ถ้าอธิษฐานขอไปทีความเชื่อก็จะหายไปด้วย ให้บทเรียนในวันนี้รื้อฟื้นเราใหม่ เราเป็นยิ่งกว่าฝุ่นเล็ก ๆ แต่เราจะถวายเกียรติพระเจ้าไม่ได้เลย ถ้าเราไม่อธิษฐานด้วยความเชื่อ ดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอลียาห์ พอเอลียาห์รู้ว่าพระเจ้าให้ครบกำหนดแล้ว 3 ปี ในข้อที่ 41 เขาบอกอาหับว่า “เชิญขึ้นไปเสวยและดื่มเถิด เพราะเสียงฝนกระหึ่มมาแล้ว” คนไหนที่เป็นคนของพระเจ้าแต่ไม่เอาเรื่องจิตวิญญาณพระเจ้าจะกันเขาออกไป จริง ๆ แล้วเรื่องฝนจะมาเป็นเรื่องกษัตริย์อาหับ แต่พระเจ้าก็กันเขาออกไปให้ไปกินและดื่ม ส่วนเอลียาห์ไปอธิษฐาน ในข้อที่ 42 ในยุคของการบริโภค เราเห็นคนของพระเจ้า เป็นผู้นำแต่ทำบาปเชื่อพึ่งอย่างอื่น การกอบกู้ประเทศชาติเป็นเกียรติที่พระเจ้าให้กับเรา เมื่อพระเจ้าให้เรามีสิทธิที่จะอธิษฐาน จงอธิษฐาน ทุกวันนี้คนไปกินไปดื่มไม่ไปอธิษฐาน เหตุที่เอลียาห์อธิษฐานเพราะเขาเห็นความเป็นไปได้ เขาได้ยินเสียงฝนกระหึ่ม แล้วอาหับได้ยินมั้ย ไม่ได้ยินเลย ในยุคนี้เราต้องการคนของพระเจ้าที่จะได้ยินสิ่งที่คนทั่วไปไม่ได้ยิน กิจการ 22 :12-14 12 ครั้นเราได้ยินดังนั้น เรากับคนทั้งหลายที่อยู่ที่นั่น จึงอ้อนวอนเปาโลมิให้ขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม13 ฝ่ายเปาโลตอบว่า “เหตุไฉนท่านทั้งหลายจึงร้องไห้และทำให้ข้าพเจ้าช้ำใจ ด้วยข้าพเจ้าเต็มใจพร้อมที่จะไปให้เขาผูกมัดไว้อย่างเดียวก็หามิได้ แต่เต็มใจพร้อมที่จะตายที่กรุงเยรูซาเล็มด้วย เพราะเห็นแก่พระนามของพระเยซูคริสตเจ้า”14 เมื่อท่านไม่ยอมฟังตามคำชักชวน เราก็หยุดพูดและกล่าวว่า “ขอให้เป็นไปตามพระทัยพระเจ้าเถิด” เป็นเรื่องของอานาเนีย ที่มาบอกให้เปาโลมองเห็นได้อีกในเวลานั้นเปาโลมองไม่เห็น ในข้อ 14 บอกว่า “พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเรา ได้ทรงเลือกท่านไว้ ประสงค์ให้ท่านรู้จักน้ำพระทัยของพระองค์ ให้ท่านเห็นพระองค์ผู้ชอบธรรม และให้ได้ยินพระสุรเสียงจากพระโอษฐ์ของพระองค์” และใน 1 เปโตรบอกว่าเราคือผู้ที่พระเจ้าทรงเลือก เลือกเราเพื่อเราจะได้เข้าใจในสิ่งที่คนทั่วไปไม่เข้าใจ และได้ยินในสิ่งที่คนทั่วไปไม่ได้ยิน และเห็นในสิ่งที่คนทั่วไปไม่เห็น วันนี้ถ้ามีวิกฤตอะไรไม่ดีเกิดขึ้น ขอพระเจ้าช่วยเรา เราจะไม่วิตก แต่เราจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น เราจะเห็นเส้นทาง และรู้แนวทาง ทางออกสำหรับทั้งประเทศ เราจะไม่วิตก แต่เราต้องได้ยินสิ่งที่คนอื่นไม่ได้ยิน ได้ยินเสียงฝน แม้ไม่มีเมฆสักก้อน แต่เราจะไม่ได้ยินถ้าเราไม่มีความเชื่อ ถ้าเรามีความเชื่อแต่คนข้าง ๆ ไม่มีความเชื่อเราก็ต้องมั่นคงในความเชื่อนั้น และวันนี้จะเป็นเรื่องน่าเศร้ามากที่สุดถ้าคนของพระเจ้า ไม่เห็นไม่ได้ยินไม่เข้าใจสิ่งที่พระเจ้าสำแดง เอลียาห์นั้นได้ยินเสียงฝนจริง ๆ เขามั่นใจ และไปอธิษฐาน และไล่คนที่ไม่เชื่อไปกินและดื่ม มัทธิว 6:6 6 ฝ่ายท่านเมื่ออธิษฐานจงเข้าในห้องชั้นใน และเมื่อปิดประตูแล้ว จงอธิษฐานต่อพระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในที่ลี้ลับ และพระบิดาของท่านผู้ทรงเห็นในที่ลี้ลับจะทรงโปรดประทานบำเหน็จแก่ท่าน พระเยซูสอนเรื่องการอธิษฐานอย่างสวยงามมาก ถ้าเรามีความเชื่อเราจะอธิษฐานอย่างนี้ ถ้าเราอธิษฐานเพื่อให้คนสนใจ พระเจ้าก็ไม่รู้จะสนใจเราทำไม เมื่อเราอธิษฐานเราต้องอยากให้พระเจ้าสนใจ ไม่ใช่คน อย่าอธิษฐานอวดคนนั้นคนนี้ เอลียาห์ไปอธิษฐานบนภูเขา เพราะเขาได้ยินเสียงที่คนอื่นไม่ได้ยิน ฉะนั้นถ้าเราไม่ได้ยินอะไรเกี่ยวกับประเทศชาติ เราจะอธิษฐานมั้ย ผมขอถาม คุณมีความเชื่อมั้ยว่า ประเทศไทยจะมีการฟื้นฟูครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้น ในด้านจิตวิญญาณทั่วประเทศทั้งกับคนที่เป็นคริสเตียนและไม่เป็นคริสเตียน ถ้าเราเอเมน เราได้ยินเรื่องนี้จากไหน ถ้าเราเป็นคนของพระเจ้า เราจะได้ยินเสียงว่าพระเจ้ารักประเทศไทย เราจะได้ยินเสียงฝนกระหึ่ม และถ้าเราได้ยินเสียงนี้ จงคุกเข่า อธิษฐาน อย่ามัวแต่ประชุมเลี้ยงกัน จงอธิษฐานให้ประเทศหลุดพ้นจากสิ่งชั่วร้าย เอลียาห์ เป็นคนที่คุยกับพระเจ้าตลอดเวลา “พระเจ้าหนีไปไหนดี ๆ “ และ อาหับแต่งงานกับธิดาชาวไซดอน และรู้มั้ยว่าเอลียาห์ครั้งหนึ่งได้รับการช่วยเหลือมีชีวิตรอดได้เพราะหญิงชาวไซดอนเหมือนกัน (1 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 17: 9) เมื่อเราใช้เวลากับพระเจ้าและไม่ใส่ใจกับการกินดื่ม เราอย่าอธิษฐานให้คนมองคนเห็น เมื่อเราอธิษฐานเพื่อการฟื้นฟู และเมื่อมีการกลับใจใหม่เกิดขึ้น เราจะเลี้ยงดูเขา การอธิษฐานคือการเปิดโอกาสให้น้ำพระทัยพระเจ้าเข้ามาสำเร็จในชีวิตของเรา และผ่านชีวิตเราไปสู่คนอื่น เอลียาห์อธิษฐาน เพราะรู้ว่าพระเจ้าเอาจริง เมื่อเราได้ยินเสียงพระเจ้า ให้รู้ว่าพระเจ้าเอาจริง ไม่เล่น ๆ พระเจ้าพร้อม แต่งานของพระเจ้าไม่สำเร็จถ้าไม่ผ่านคน ทุกครั้งที่พระเจ้าทำการใหญ่ พระเจ้าจะทำผ่านสิ่งที่ยาก เราแต่ละคนเป็นไปไม่ได้ที่จะพระเจ้าจะทำการใหญ่ เพราะเราชอบอะไรที่ไม่ยาก แต่ถ้าเราจริงใจพระเจ้าจะทำ โดยความเชื่อ คริสตจักรเล็ก ๆ ที่มีความเชื่อก็เพียงพอที่พระเจ้าจะทำสิ่งยิ่งใหญ่ 1 พงศ์กษัตริย์ 18 :43-44 43 และท่านสั่งคนใช้ของท่านว่า “จงลุกขึ้นมองไปทางทะเล” เขาก็ลุกขึ้นมองและตอบว่า “ไม่มีอะไรเลย” และท่านบอกว่า “จงไปดูอีกเจ็ดครั้ง”44 และอยู่มาเมื่อถึงครั้งที่เจ็ดเขาบอกว่า “ดูเถิด มีเมฆก้อนหนึ่งเล็กเท่าฝ่ามือคนขึ้นมาจากทะเล และท่านก็บอกว่า ‘จงไปทูลอาหับว่า ‘ขอทรงเตรียมราชรถและเสด็จลงไปเพื่อพระองค์จะไม่ติดฝน’ ”เอลียาห์มีนิมิตทางเสียง มีการไปดูที่ทะเล 7 ครั้งเห็นเมฆเท่าฝ่ามือ เขามีความเชื่อ และเราอย่าอ่อนระอาในการอธิษฐาน อย่ารู้สึกผิดหวังเมื่อเห็นเมฆก้อนเท่าฝ่ามือ แต่จงมีความเชื่อว่าเมฆเท่าฝ่ามือนี้ เราเตรียมตัวรองรับไม่ทันต่อการฟื้นฟูที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย แม้ในเวลานี้ยังไม่เกิดอะไรก็ตาม เราต้องเข้าใจประเด็นเรื่องการอธิษฐาน ไม่ใช่อธิษฐานครั้งเดียวแล้วเมฆจะมา ขอพระเจ้าช่วยให้เราเห็น และอธิษฐานต่อไป อย่าไปผิดหวัง อย่าเลิก อย่าไปโทษใคร เตรียมตัวให้พร้อม พระเจ้าให้เกียรติเราที่เราจะทำงานของพระเจ้าให้สำเร็จผ่านชีวิตผู้คนมากมาย
Search
หมวดหมู่
- กิจกรรมคริสตจักร (1)
- ข่าวสารคริสตจักร (4)
- คลิปวิดิโอนมัสการ (79)
- คลิปวิดิโอศุกร์อธิษฐาน (81)
- คลิปวิดิโอเทศนา (Sermon) (459)
- คำพยาน (1)
- จากใจศิษยาภิบาล (442)
- บทเรียนพระคัมภีร์ (2)
- บทเรียนพื้นฐาน (7)
- ศิษยาภิบาลพบสมาชิก (74)
- อธิษฐานรุ่งอรุณ (607)
- เพลงนมัสการ (54)
คลังเก็บ
เรื่องล่าสุด
- อรุณสวัสดิ์เช้าวันอังคาร 6 มิถุนายน 2566 เพลงคร่ำครวญ 3:55-66 06/06/2023
- อรุณสวัสดิ์เช้าวันจันทร์ 5 มิถุนายน 2566 เพลงคร่ำครวญ 3:43-54 05/06/2023
- อรุณสวัสดิ์เช้าวันอาทิตย์ 4 มิถุนายน 2566 เพลงคร่ำครวญ 3:34-42 04/06/2023
- สาส์นศิษยาภิบาลอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน 2566 03/06/2023
- อรุณสวัสดิ์เช้าวันเสาร์ 3 มิถุนายน 2566 เพลงคร่ำครวญ 3:22-33 03/06/2023
- อรุณสวัสดิ์เช้าวันศุกร์ 2 มิถุนายน 2566 เพลงคร่ำครวญ 3:10-21 02/06/2023
- อรุณสวัสดิ์เช้าวันพฤหัส 1 มิถุนายน 2566 เพลงคร่ำครวญ 3:1-9 01/06/2023
- อรุณสวัสดิ์เช้าวันพุธ 31 พฤษภาคม 2566 เพลงคร่ำครวญ 2:19-22 31/05/2023
- อรุณสวัสดิ์เช้าวันอังคาร 30 พฤษภาคม 2566 เพลงคร่ำครวญ 2:15-18 30/05/2023
- อรุณสวัสดิ์เช้าวันจันทร์ 29 พฤษภาคม 2566 เพลงคร่ำครวญ 2:11-14 29/05/2023