“ชีวิตที่ปราศจากที่ติ….ในด้านสันติสุข”

มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า เราไม่สามารถให้ในสิ่งที่เราไม่มี หรือเป็นในสิ่งที่เราไม่ได้เป็น  อ.เดวิด โอ แมคเคย์ ได้กล่าวว่า  สงครามที่เกิดขึ้นภายนอก ก็เป็นเพียงการแสดงออกของสงครามที่อยู่ในภายในเท่านั้น นั่นหมายความว่า ชีวิตภายนอกของคนบางคนที่ไม่สงบเหมือนมีสงครามตลอดเวลา ซึ่งบ่อยครั้งก็พร้อมจะมีเรื่องกับคนรอบข้างได้ตลอดเวลา ความไม่สงบนิ่งภายในจิตใจของคน คืออาการของคนที่ไม่มีสันติสุข  คำว่า สันติสุข ในภาษากรีกใช้เป็นทั้งคำนามและคำกิริยา  สันติสุขที่เป็นคำนามถูกใช้โดยพระเยซูคริสต์ปรากฏในหนังสือ  ยอห์น 14:27  27 เรา​มอบ​สันติ​สุข​ไว้​ให้แก่​ท่าน​ทั้ง​หลาย สันติ​สุข​ของ​เรา​ที่​ให้แก่​ท่าน​นั้น เรา​ให้​ท่าน​ไม่​เหมือน​โลก​ให้ อย่า​ให้​ใจ​ของ​ท่าน​วิตก และ​อย่า​กลัว​เลย​ สันติสุขที่เป็นคำนามนี้เป็นสันติสุขที่พระเยซูทรงประทานให้กับผู้ที่เชื่อและไว้วางใจในพระเยซู ในบริบทนี้ พระเยซูได้ตรัสเกี่ยวกับการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในสาวกของพระเยซู และการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์นั้นได้นำเอาสันติสุขของพระเยซูมามอบให้กับสาวกด้วย สันติสุขที่เป็นคำนาม หมายสันติสุขที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะจากตัวของผู้เชื่อสร้างขึ้นเอง แต่เป็นสันติสุขที่ผู้เชื่อได้รับจากการไว้วางใจในพระเยซู สันติสุขที่เป็นคำนามนี้แหละทำให้ผู้เชื่ออยู่อย่างสันติกับคนรอบข้างได้  สันติสุขที่ได้รับนี้เกิดขึ้นจากการต่อสู้กันระหว่างพระวิญญาณกับเนื้อหนัง และนี่เป็นสงครามที่แท้จริงที่ควรจะเกิดขึ้น  พระคัมภีร์ได้กล่าวถึงสงครามที่เกิดขึ้นคือสงครามฝ่ายวิญญาณ เป็นสงครามที่ตามนุษย์ไม่สามารถจะมองเห็น และสงครามฝ่ายวิญญาณนี้ต้องการทำลายความสงบนิ่งภายในจิตใจของมนุษย์มากที่สุดเอเฟซัส 6:12-18 12 เพราะ​ว่า​เรา​ไม่ได้​ต่อสู้​กับ​เนื้อ​หนัง​และ​เลือด แต่​ต่อสู้​กับ​เทพ​ผู้​ครอง ศักดิ​เทพ เทพ​ผู้​ครอง​พิภพ​ใน​โมหะ​ความ​มืด​แห่ง​โลก​นี้ ต่อสู้​กับ​เหล่า​วิญญาณ​ที่​ชั่ว​ใน​สถาน​ฟ้า​อากาศ​13 เหตุ​ฉะนั้น​จง​รับ​ยุทธภัณฑ์​ทั้ง​ชุด​ของ​พระ​เจ้า​ไว้ เพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​ต่อต้าน​ใน​วัน​อัน​ชั่ว​ร้าย​นั้น และ​เมื่อ​เสร็จ​แล้ว​จะ​อยู่​อย่าง​มั่นคง​ได้​14 เหตุ​ฉะนั้น​ท่าน​จง​มั่นคง เอา​ความ​จริง​คาด​เอว เอา​ความ​ชอบธรรม​เป็น​ทับ​ทรวง​เครื่อง​ป้องกัน​อก15 และ​เอา​ข่าว​ประเสริฐ​แห่ง​สันติ​สุข ซึ่ง​เป็น​เหตุ​ให้​เกิด​ความ​พรั่ง​พร้อม​มา​สวม​เป็น​รองเท้า16 และ​พร้อม​กับ​สิ่ง​ทั้งหมด​นี้ จง​เอา​ความ​เชื่อ​เป็น​โล่ ด้วย​โล่​นั้น​ท่าน​จะ​ได้​ดับ​ลูกศร​เพลิง​ของ​พญา​มาร​เสีย​17 จง​เอา​ความ​รอด​เป็น​หมวก​เหล็ก​ป้องกัน​ศีรษะ และ​จง​ถือ​พระ​แสง​ของ​พระ​วิญญาณ คือ ​พระ​วจนะ​ของ​พระ​เจ้า​18 จง​อธิษฐาน​วิงวอน​ทุก​อย่าง จง​ขอ​โดย​พระ​วิญญาณ​ทุก​เวลา ทั้งนี้​จง​ระวัง​ตัว​ด้วย​ความ​เพียร​ทุก​อย่าง จง​อธิษฐาน​เพื่อ​ธรรมิก​ชน​ทุก​คน​ เราจะเห็นว่า อาวุธที่จะต่อสู้ในสงครามฝ่ายวิญญาณนั้นมีความจริง ความชอบธรรม ข่าวประเสริฐแห่งสันติสุข ความเชื่อ ความรอด พระวจนะของพระเจ้า ล้วนเป็นสิ่งที่มาจากพระเจ้า ส่วนที่เป็นของตัวเราคือ การอธิษฐานวิงวอน การขอโดยพระวิญญาณ และการระวังตัวด้วยความเพียงทุกอย่าง การอธิษฐานเพื่อธรรมิกชนทุกคน วันนี้ เราพูดถึงสันติสุขที่มาจากพระเจ้า เป็นอาวุธเพื่อการต่อสู้ในสงครามฝ่ายวิญญาณ ถ้าเราไม่มีสันติสุขเป็นอาวุธ เราก็ไม่มีอะไรจะต่อสู้ ลูกน้องของมารซาตานในชั้นบรรยากาศต่างๆก็จะโจมตีเรา และคนที่ไม่มีสันติสุขเป็นอาวุธก็จะเป็นเครื่องมือของมารได้ง่าย โดยเฉพาะคนที่ดำเนินชีวิตตามความต้องการของเนื้อหนัง นี่คือเหตุผลว่า ทำไมเราต้องชนะตัวเองก่อน อย่างที่พระเยซูคริสต์เจ้าทรงตรัสว่าลูกา 9:23…“ถ้า​ผู้ใด​ใคร่​ตาม​เรา​มา ให้​ผู้​นั้น​เอาชนะ​ตัวเอง และ​รับ​กางเขน​ของ​ตน​แบก​ทุก​วัน และ​ตาม​เรา​มา การเดินตามพระเยซูโดยการเอาชนะตัวเอง คือการให้พระเยซูเป็นแม่ทัพของเรา คนที่เอาชนะตัวเอง คือคนที่อยู่ในกองทัพของพระเจ้า อ.เปาโลได้กล่าวถึงการเป็นทหารของพระคริสต์ในหนังสือ 2ทิโมธี2:3-4  3 จง​ทน​การ​ยาก​ลำบาก​ด้วย​กัน​กับ​ทหาร​ที่​ดี​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​4 ไม่​มี​ทหาร​คน​ใด​ที่​เข้า​ประจำการ​แล้ว​จะ​ยุ่ง​อยู่​กับ​งาน​ฝ่าย​พล​เรือน ด้วย​ว่า​เขา​มุ่ง​ที่​จะ​ทำ​ให้​ผู้บังคับบัญชา​พอใจ​ เพราะฉะนั้น เราทั้งหลายต้องต่อสู้ในสงครามกับมารซาตานในฐานะทหารที่ดีของพระคริสต์  อย่าต่อสู้กันเอง อ.เปาโลได้เตือนเรื่องนี้ในหนังสือ กาลาเทีย 5:15 15 แต่​ถ้า​ท่าน​กัด​และ​กิน​เนื้อ​กัน​และ​กัน จง​ระวัง​ให้​ดี เกรง​ว่า​จะ​ย่อย​ยับ​ไป​ตามๆ กัน​ ในหนังสือกาลาเทียได้กล่าวถึงการต่อสู้ที่เราควรจะต่อสู้นั่นคือ การต่อสู้กับความต้องการของเนื้อหนัง ซึ่งเป็นพื้นฐานของการต่อสู้ที่เราจะต่อยอดไปสู่การต่อสู้กับมารซาตานได้ กาลาเทีย 5:17,19-23 17 เพราะ​ว่า​ความ​ต้อง​การ​ของ​เนื้อ​หนัง​ต่อสู้​พระ​วิญญาณ และ​พระ​วิญญาณ​ก็​ต่อสู้​เนื้อ​หนัง…19 การ​งาน​ของ​เนื้อ​หนัง​นั้น​เห็น​ได้​ชัด คือ​การ​ล่วง​ประเวณี การ​โสโครก การ​ลามก​20 การ​นับ​ถือ​รูป​เคารพ การ​ถือ​วิทยาคม การ​เป็น​ศัตรู​กัน การ​วิวาท​กัน การ​ริษยา​กัน การ​โกรธ​กัน การ​ใฝ่​สูง การ​ทุ่ม​เถียง​กัน การ​แตก​ก๊ก​กัน​21 การ​อิจฉา​กัน การ​เมา​เหล้า การ​เล่น​เป็น​พาล​เกเร และ​การ​อื่นๆ ใน​ทำนอง​นี้​อีก​เหมือน​ที่​ข้าพเจ้า​ได้​เตือน​ท่าน​มา​ก่อน บัดนี้​ข้าพเจ้า​ขอ​เตือน​ท่าน​เหมือนกับ​ที่​เคย​เตือน​มา​แล้ว​ว่า คน​ที่​ประพฤติ​เช่นนั้น​จะ​ไม่​มี​ส่วน​ใน​แผ่นดิน​ของ​พระ​เจ้า​ 22 ฝ่าย​ผล​ของ​พระ​วิญญาณ​นั้น คือ​ความ​รัก ความ​ปลาบ​ปลื้ม​ใจ สันติ​สุข ความ​อด​กลั้น​ใจ ความ​ปรานี ความ​ดี ความ​สัตย์​ซื่อ​23 ความ​สุภาพ​อ่อน​น้อม การ​รู้จัก​บังคับ​ตน เรื่อง​อย่าง​นี้​ไม่​มีธรรม​บัญญัติ​ห้าม​ไว้​เลย​ มีคนไม่น้อยที่ไม่สามารถอยู่อย่างสงบสุขกับคนรอบข้างได้ หรือคนรอบข้างรู้สึกไม่สงบสุขเมื่อต้องปฏิสัมพันธ์กับคนที่ไม่มีสันติสุขที่เป็นคำนาม  การจะมีสันติสุขที่เป็นกิริยา อย่างเช่น อยู่อย่างสงบสุขจึงไม่เกิด มีแต่การต่อสู้กับคน …การ​เป็น​ศัตรู​กัน การ​วิวาท​กัน การ​ริษยา​กัน การ​โกรธ​กัน การ​ใฝ่​สูง การ​ทุ่ม​เถียง​กัน การ​แตก​ก๊ก​กัน​21 การ​อิจฉา​กัน…และการอื่นๆในทำนองนี้…. นี่คือสาเหตุที่แท้จริง  เมื่อเรารู้สาเหตุที่แท้จริง เราควรจะทำอย่างไร จึงจะมีสันติสุขที่เป็นคำนามภายในชีวิตของเราก่อน  ความจริงสันติสุขที่เป็นคำนามนี้เป็นคุณลักษณะหนึ่งในเก้าอย่างของผลพระวิญญาณบริสุทธิ์  ซึ่งในผู้เชื่อแท้ทุกคนได้รับการเจิมหรือประทับตราหมายด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว  เหมือนกับรถรุ่นใหม่ที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้ให้ใช้น้ำมันชนิดพิเศษอันไหน ถ้าถูกตั้งโปรแกรมไว้กับน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 91 เมื่อเติมน้ำมันที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้ รถคันนั้นก็จะวิ่งอย่างมีประสิทธิภาพ และประหยัดน้ำมัน แต่ถ้าใช้น้ำมันไม่ตรงกับที่ตั้งไว้ก็ทำให้กินน้ำมันและบางชนิดถึงกับทำให้เครื่องน๊อกไปเลย ทำนองเดียวกัน พระวิญญาณบริสุทธิ์ถูกเปรียบไว้เหมือนน้ำมัน ดังนั้น ชีวิตของเราก็จะขับเคลื่อนไปด้วยน้ำมันที่ถูกตั้งไว้ให้ตรงกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ ถ้าเราดำเนินชีวิตให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ขับเคลื่อนเราไป สันติสุขที่เป็นคำนามอยู่ภายในเราก็จะทำให้เราอยู่อย่างสงบสุขกับคนรอบข้างได้ แต่มีคริสเตียนไม่น้อยที่ให้การเจิมของตนเอง การเจิมแปลว่า การถูกแยกไว้สำหรับพระเจ้า  แต่ชีวิตกลับถูกขับเคลื่อนด้วยแรงจูงใจของเนื้อหนัง   ผลที่ออกมาก็เป็นการงานของเนื้อหนังในชีวิตของคนที่มีป้ายแขวนคอว่า คริสเตียน เราจึงเห็นคริสเตียนที่อยู่โบสถ์น่ารัก แต่อยู่บ้านเหมือนยักษ์ อาละวาดฟาดงวง ฟาดงา อารมณ์เสีย โมโหง่าย โมโหเร็ว ไม่ต่างจากคนที่ไม่เป็นคริสเตียน บางทีคนที่ไม่เป็นคริสเตียนยังควบคุมอารมณ์และมีความคิดที่ดีกว่าเสียอีก นี่คือลักษณะชีวิตคริสเตียนที่มีที่ติ   เมื่อไม่นานมานี้ ข้าพเจ้าเพิ่งสังเกตว่ามีแมวมาป้วนเปี้ยนที่บ้าน ส่วนตัวข้าพเจ้าไม่ชอบแมว  แต่แมวที่มาที่บ้านครั้งนี้ มีปลอกคอ แถมสะอาดน่ารัก และมันก็แสดงความเป็นมิตร อ้อนให้เราเล่นกับมัน มันชอบมานั่นมองปลาที่ริมคลองข้างบ้านข้าพเจ้า และเป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าก็ไปนั่งลูกหัวเอ็นดูแมวตัวนี้  ซึ่งแตกต่างจากแมวตัวก่อน มีสีดำ ดูน่ากลัว เป็นแมวจรจัด และมันก็ไม่เป็นมิตร แต่ชอบมาทำเสียงรบกวนที่บ้านด้วยการทะเลาะกับแมวตัวอื่น วิ่งไปบนหลังคารอบบ้าน จนข้าพเจ้าคิดในใจ อย่าตกลงมาให้ข้าจับได้ ตกลงมาเมื่อไหร่ เสร็จข้าแน่ จะจับไปปล่อยไกลไม่ให้กลับมาอีก แล้ววันหนึ่งแมวดำตัวนี้ก็ตกลงมาหลังบ้านและข้าพเจ้าก็จับมันไปปล่อยไกลเลย ไม่ได้กลับมาอีก บ้านสงบเพราะไม่มีแมวจรจัดมานาน เพื่อนบ้านบางคนก็รู้สึกขอบคุณที่ข้าพเจ้าได้เอาแมวไป แต่วันนี้มีแมวเลี้ยงมีปลอกคอมาอีก ตอนแรกเราก็ระแวง เพื่อนบ้านคนหนึ่งพูดกับคนในครอบครัวว่า มึงอย่าได้เข้าที่บ้านพี่ไก่ มิฉะนั้น โดนจับไปปล่อยอีกแน่ แต่แมวตัวใหม่นี้พฤติกรรมไม่เหมือนแมวตัวดำ มันก็เลยเป็นสมาชิกใหม่ที่น่ารักของบ้านเราจนวันนี้ พี่น้องเห็นอะไรบางอย่างในเรื่องนี้ไม๊  มักจะมีการเปรียบเทียบชีวิตคริสเตียนเป็นเหมือนแมวที่รักสะอาด ไม่เหมือนหมูที่รักสกปรก แต่บางทีเราก็เป็นแมวที่ไม่น่ารักและชอบทะเลาะกันเอง หรือก่อสงครามสร้างความรำคาญใจให้กับคนที่อยู่ใกล้ เราคิดว่า พระเจ้าผู้เป็นเจ้าของบ้าน พระองค์จะคิดอย่างข้าพเจ้าไม๊ ต้องจับไปปล่อยไกลๆ  คนอื่นจะได้สงบสุข แต่วิธีของพระเจ้านั้น ข้าพเจ้ามักจะใช้คำว่า ตัดสินตัวเอง คนไทยใช้สำนวนว่า แพ้ภัยตัวเอง แปลว่า ตัวเองทำตัวเอง ให้ต้องมีอันต้องระเห็จ ถูกจัดการโดยการกระทำของตัวเอง วันนี้ เราได้ใช้สันติสุขเป็นอาวุธในการต่อสู้สงครามที่แท้จริงหรือไม่ หรือเรากำลังเป็นผู้ก่อสงครามเอง เพราะเราขาด สันติสุขที่เป็นคำนาม และข้าพเจ้าเชื่อในคำตรัสของพระเยซูคริสต์ว่า เราทั้งหลายมีสันติสุขที่เป็นคำนามนี้ได้ ยอห์น 16:33 33 เรา​ได้​บอก​เรื่อง​นี้​แก่​ท่าน เพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​มี​สันติ​สุข​ใน​เรา ใน​โลก​นี้​ท่าน​จะ​ประสบ​ความ​ทุกข์​ยาก แต่​จง​ชื่น​ใจ​เถิด เพราะ​ว่า​เรา​ได้​ชนะ​โลก​แล้ว” และนี่คือพระธรรมที่เป็นกุญแจสำคัญของการมีสันติสุขที่เป็นคำนาม

1.สันติสุขแท้อยู่ในพระเยซูคริสต์เท่านั้น ยอห์น 16:33ก

….เพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​มี​สันติ​สุข​ใน​เรา…

ภาษาอังกฤษใช้คำว่า In me you might have peace แปลว่า ในเราเท่านั้นท่านจึงจะมีสันติสุข (ที่เป็นคำนาม) คำว่า ในเรา เป็นคำเดียวกันที่อ.เปาโลได้กล่าวในทำนองเดียวกันนี้ใน 2โครินธ์ 5:17 17 เหตุ​ฉะนั้น​ถ้า​ผู้ใด​อยู่​ใน​พระ​คริสต์​ ผู้​นั้น​ก็​เป็น​คน​ที่​ถูก​สร้าง​ใหม่​แล้ว สิ่ง​สารพัด​ที่​เก่าๆ ​ก็​ล่วง​ไป นี่​แน่ะ​กลาย​เป็น​สิ่ง​ใหม่​ทั้งนั้น​  อะไรคือสิ่งที่เก่าๆที่ล่วงไป และอะไรได้กลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น หากดูจากบริบทตอนนี้ในข้อต่อไป 18 ทั้งสิ้น​นี้​เกิด​มา​จาก​พระ​เจ้า ผู้​ทรง​ให้​เรา​คืน​ดี​กัน​กับ​พระ​องค์​ทาง​พระ​เยซู​คริสต์​ และ​ทรง​โปรด​ประทาน​ให้​เรา​มี​พันธ​กิจ​เรื่อง​การ​คืน​ดี​กัน​19 คือ​พระ​เจ้า​ทรง​ให้​โลก​นี้​คืน​ดี​กัน​กับ​พระ​องค์​โดย​พระ​คริสต์​ มิได้​ทรง​ถือ​โทษ​ใน​การ​ผิด​ของ​เขา และ​ทรง​มอบ​เรื่อง​การ​คืน​ดี​กัน​นั้น​ให้​เรา​ประกาศ​20 ฉะนั้น​เรา​จึง​เป็น​ทูต​ของ​พระ​คริสต์​ โดย​ที่​พระ​เจ้า​ทรง​ขอร้อง​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ทาง​เรา เรา​จึง​ขอร้อง​ท่าน​ใน​นาม​ของ​พระ​คริสต์​ให้​คืน​ดี​กัน​กับ​พระ​เจ้า​  พระคัมภีร์ตอนนี้ได้ใช้คำว่าคืนดีกันถึง 4 ครั้ง คืนดีกันกับพระเจ้า และประกาศการคืนดีกันกับพระเจ้า และกล่าวว่า สาวกของพระเยซูคริสต์เป็นทูตแห่งการคืนดี นั่นคือเราสงบศึกแรกกับพระเจ้าก่อน  ถ้าเราสงบศึกกับพระเจ้า เราจะสงบศึกกับคนอื่นด้วย เพราะการสงบศึกกับพระเจ้าคือการรักพระเจ้า เมื่อเรารักพระเจ้า เราจะรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเองด้วย  เราจะรักพระเจ้าและไม่รักเพื่อนบ้านไม่ได้ เพราะพระเจ้ารักมนุษย์ทุกคน และพระเจ้าต้องการให้เรารักเหมือนที่พระเจ้ารัก เราจะเอาพระเจ้าและไม่เอาคนไม่ได้ ความรักที่พระเจ้ามีให้กับคนนั้นถึงที่สุด ยอห์น 3:16 เพราะพระเจ้าทรงรักโลกจนได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศแต่มีชีวิตนิรันดร์  นี่คือราคาของความรักที่พระเจ้าทรงรักคน  ทำนองเดียวกัน เราจะพูดเรื่องการคืนดีกันกับพระเจ้าไม่ได้ ถ้าเรายังมีเรื่องกับคน ขวางหูขวางตาคน จับผิดคน ตำหนิคน ไม่ให้อภัยคน ไม่คืนดีกับคน ใช้คนอย่างกับทาส เอาเปรียบคน งกเงิน เห็นเงินสำคัญกว่าคน ไม่เกรงใจคน โดยเฉพาะคนที่ด้อยกว่าหรือต้องพึ่งพาตนเอง ก็จะข่มและด่าว่าใช้ถ้อยคำรุนแรง หยาบคาย นี่คือการงานของเนื้อหนัง นี่เป็นสิ่งเก่าๆของคนที่ไม่ได้ดำเนินชีวิตอยู่ในพระเยซูคริสต์  การดำเนินชีวิตอยู่ในพระเยซูคริสต์ คือการติดสนิทกับพระองค์ รับคำสอนของพระองค์มาปฏิบัติจริงๆ ไม่ใช่แค่อ่าน หรือท่องจำ การตั้งใจจะนำมาปฏิบัติจริง คือประตูที่เราเปิดออกให้พระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาทำส่วนที่เราทำไม่ได้แทนเรา วิวรณ์3:19-20 19 เรา​รัก​ผู้ใด​เรา​ก็​ตักเตือน​และ​ตี​สอน​ผู้​นั้น  เหตุ​ฉะนั้น​จง​มี​ความ​กระตือรือร้น และ​กลับ​ใจ​เสีย​ใหม่​20 นี่​แน่ะ เรา​ยืน​เคาะ​อยู่​ที่​ประตู ถ้า​ผู้ใด​ได้​ยิน​เสียง​ของ​เรา​และ​เปิด​ประตู เรา​จะ​เข้า​ไป​หา​ผู้​นั้น​และ​จะ​รับประทาน​อาหาร​ร่วมกับ​เขา และ​เขา​จะ​รับประทาน​อาหาร​ร่วมกับ​เรา​  เมื่อเราเปิดประตูให้พระเยซูเข้ามา ข้อ 19 ได้กล่าวว่า พระเยซูจะตักเตือนและตีสอนผู้ที่เปิดประตู… คำว่าตีสอนตรงนี้แปลว่า  วินัย  นั่นคือเราต้องมีวินัยใหม่ตามคำสอนของพระองค์  วินัยเป็นวิถีชีวิตของทหาร และทหารที่ดีของพระคริสต์ต้องมีวินัยใหม่ สิ่งเก่าจึงจะล่วงไปและกลายเป็นสิ่งใหม่ ข้าพเจ้าตีความว่า สงครามภายในก็จะหายไป กลายเป็นสันติสุขที่พร้อมเป็นอาวุธเพื่อเราจะต่อสู้กับสงครามภายนอกที่เป็นสงครามฝ่ายวิญญาณ  เราจะอยู่อย่างสันติ กับคนที่ไม่น่ารักได้ โดยไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับคนนั้นเลย

2.สันติสุขแท้ไม่หายไปง่ายๆ  ยอห์น 16:33ข

…ใน​โลก​นี้​ท่าน​จะ​ประสบ​ความ​ทุกข์​ยาก แต่​จง​ชื่น​ใจ​เถิด… สิ่งที่สาวกของพระเยซูจะต้องเผชิญในโลกนี้ไม่แตกต่างจากคนทั่วไป คือต้องพบกับความทุกข์ยาก แต่สาเหตุแตกต่างกัน เพราะความบาปทำให้คนมากมายในโลกนี้ต้องพบกับความทุกข์ยาก แต่สำหรับสาวกของพระเยซูคือบทเรียนที่พระเจ้าอนุญาตให้เราต้องเผชิญกับความทุกข์ยากก็เพื่อจะทำให้เราแข็งแกร่ง มั่นคง และเกิดสติปัญญา สาวกของพระเยซูได้รับการไถ่จากความบาปแล้ว ผลของชีวิตนิรันดร์ทำงานขณะเรายังอยู่ในโลกนี้ และผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์คือสันติสุขคือสิ่งที่ทำให้เราสามารถมีจิตใจที่ชื่นบานในการเผชิญกับความทุกข์  ความจริง คุณลักษณะของสันติสุข จะมาเป็นชุดกับคุณลักษณะของความปลาบปลื้มใจ และความรัก Love Joy Peace เมื่อมีรักอย่างอากาเป้ จะมีความชื่นชมยินดี และมีสันติสุขในเวลาเดียวกัน ดังนั้นสันติสุขที่เป็นคำนาม จะไม่ฉายเดี่ยว แต่ฉายสาม  คำไทยมีคำว่า ในยามรัก น้ำต้มผักก็ยังหวาน คือหัวใจของคนที่มีความรัก ทุกอย่างสวยงามแม้ในยามทุกข์ยาก  วันนี้ ที่เรากำลังมองทุกอย่างเป็นลบ เป็นร้าย เพราะใจของเราไร้รัก ไร้ความปลาบปลื้มใจ ไร้สันติสุข แต่กลับไปโทษว่า คนอื่นไม่ดี คนอื่นเนื้อหนัง คนอื่นใช้ไม่ได้ คนอื่นอย่างโน้นอย่างนี้ แท้ที่จริงไม่ได้มองที่ใจของตนเองว่า กำลังไร้รักไร้สุขไร้สันติ จิตใจที่ชื่นใจเกิดจากสันติสุขภายใน มีเพลงภาษาอังกฤษเพลงหนึ่งมีท่อนหนึ่งร้องว่า สงครามคือความพยายามของคนที่จะสร้างสันติ แต่แท้จริงก็คืออีกด้านของสงครามนั่นเอง เราจะไม่สามารถสร้างสันติสุขได้ ถ้าภายในจิตใจยังไม่สงบนิ่ง ในทางกลับกัน จิตใจที่ไม่สงบนิ่งไม่มีทางที่จะอยู่อย่างสันติได้ เพราะไม่มีสันติสุขที่จะหยิบยื่นให้กับคนอื่น มีแต่จะก่อสงครามกับคนรอบข้าง  คนยิวจะมีคำหนึ่งที่ใช้ทักทายกันคือคำว่า ชาโลม แปลว่า สันติสุขจงมีแก่ท่าน เป็นแค่การทักทายที่ไม่ได้ทำให้เกิดสันติสุขแท้  แต่เป็นมารยาทธรรมเนียมแบบคนยิว  และถ้าการทักทายนั้นไม่ได้รับการตอบสนอง บางทีก็ทำให้คนที่ทักทายคำว่า สันติสุขจงมีแก่ท่าน กลายเป็นสันติสุขถูกปล้นไป คือไม่มีสันติสุข เหมือนคนไทยเราเวลาทักคนบางคนว่าสวัสดี แต่คนนั้นกลับหน้างอ ไม่ตอบสวัสดีด้วย บางทีก็ทำให้คนทักทายจ๋อยไปก็มี แต่สันติสุขที่พระเยซูมอบให้กับเรานั้นไม่เหมือนกับโลกนี้ให้ ไม่ว่าใครจะตอบสนองอย่างไร ดีหรือร้าย ลบหรือบวก สันติสุขนั้นไม่สามารถถูกปล้นไปจากเราได้  คนบางคนสันติสุขถูกปล้นง่ายจริงๆ แค่คำพูดนิดเดียว จิตใจที่สงบกลายเป็นไม่สงบไปทันที นั่นคือสันติสุขถูกปล้นไปแล้ว

3.สันติสุขแท้ทำให้เกิดปัญญา ยอห์น16:33ค

….เพราะ​ว่า​เรา​ได้​ชนะ​โลก​แล้ว”… สันติสุข ชนะทุกนัดในการต่อสู้  บุคลิกภาพของคนที่มีสันติสุข มีความสงบนิ่ง แต่คนที่ไม่มีสันติสุข ไม่สามารถสงบได้ อารมณ์จะแกว่ง สวิงไปมา สันติสุขทำให้มีสติ มีความสามารถที่จะรับปัญญาจากเบื้องบน ฟิลิปปี 4:4-9  4 จง​ชื่น​ชม​ยินดี​ใน​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ทุก​เวลา ข้าพเจ้า​ขอ​ย้ำ​อีก​ครั้ง​ว่า จง​ชื่น​ชม​ยินดี​เถิด​5 จง​ให้​จิตใจ​ที่​อ่อน​สุภาพ​ของ​ท่าน​ประจักษ์​แก่​คน​ทั้ง​ปวง องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ทรง​อยู่​ใกล้​แล้ว​6 อย่า​ทุกข์​ร้อน​ใน​สิ่ง​ใดๆ เลย แต่​จง​ทูล​เรื่อง​ความ​ปรารถนา​ของ​ท่าน​ทุก​อย่าง​ต่อ​พระ​เจ้า ด้วย​การ​อธิษฐาน การ​วิงวอน กับ​การ​ขอบ​พระ​คุณ​7 แล้ว​สันติ​สุข​แห่ง​พระ​เจ้า​ซึ่ง​เกิน​ความ​เข้าใจ จะ​คุ้มครอง​จิตใจ​และ​ความ​คิด​ของ​ท่าน​ไว้​ใน​พระ​เยซู​คริสต์​ 8 ดูก่อน​พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย ใน​ที่สุด​นี้​ขอ​จง​ใคร่ครวญ​ถึง​สิ่ง​ที่​จริง สิ่ง​ที่​น่า​นับ​ถือ สิ่ง​ที่​ยุติธรรม สิ่ง​ที่​บริสุทธิ์ สิ่ง​ที่​น่ารัก สิ่ง​ที่​ทรง​คุณ คือ​ถ้า​มี​สิ่ง​ใด​ที่​ล้ำ​เลิศ สิ่ง​ใด​ที่​ควร​แก่​การ​สรรเสริญ ​ก็​ขอ​จง​ใคร่ครวญ​ดู​9 จง​กระทำ​ทุก​สิ่ง​ที่​ท่าน​ได้​เรียนรู้​และ​ได้รับ​ไว้ ได้​ยิน และ​ได้​เห็น​ใน​ข้าพเจ้า​แล้ว และ​พระ​เจ้า​แห่ง​สันติ​สุข​จะ​ทรง​สถิต​กับ​ท่าน​ นี่คือสิ่งที่พระเยซูคริสต์ได้ตรัสว่า เพราะ​ว่า​เรา​ได้​ชนะ​โลก​แล้ว”… สันติสุขที่เกินความเข้าใจจะทำให้เกิดปัญญา คำว่า ใคร่ครวญ รากศัพท์ภาษากรีกตรงนี้แปลว่า นำมาต่อยอดได้ ไม่ว่าจะเป็น สิ่ง​ที่​จริง สิ่ง​ที่​น่า​นับ​ถือ สิ่ง​ที่​ยุติธรรม สิ่ง​ที่​บริสุทธิ์ สิ่ง​ที่​น่ารัก สิ่ง​ที่​ทรง​คุณ คือ​ถ้า​มี​สิ่ง​ใด​ที่​ล้ำ​เลิศ สิ่ง​ใด​ที่​ควร​แก่​การ​สรรเสริญ การชนะโลก คือการไม่ตกเป็นเหยื่อของค่านิยมและกระแสของโลกที่มีแต่สิ่งอุปโลกหลอกลวง ภาพลวงตาทั้งสิ้น คนที่ดำเนินชีวิตภายใต้อิทธิพลของโลกต่างๆคือ คนที่กำลังพ่ายแพ้ต่อโลก ซึ่งใช้กลยุทธให้คนพ่ายแพ้ใจปรารถนาของตนเองนั่นเอง  ขอให้เราทั้งหลายจงดำเนินชีวิตที่ปราศจากที่ติ…ในด้านสันติสุข และ​พระ​เจ้า​แห่ง​สันติ​สุข​จะ​ทรง​สถิต​กับ​ท่าน อาเมน

“ชีวิตที่ปราศจากที่ติ….ในด้านสันติสุข”

1.สันติสุขแท้มาจากพระเยซูคริสต์เท่านั้น

2.สันติสุขแท้ไม่หายไปง่ายๆ

3.สันติสุขแท้ทำให้เกิดปัญญา    

By admin