“อธิษฐานด้วยความเชื่อ”
ยากอบ 5:13-18 13 มีผู้ใดในพวกท่านทนทุกข์หรือ จงให้ผู้นั้นอธิษฐาน มีผู้ใดร่าเริงยินดีหรือ จงให้ผู้นั้นร้องเพลงสรรเสริญ14 มีผู้ใดในพวกท่านเจ็บป่วยหรือ จงให้ผู้นั้นเชิญบรรดาผู้ปกครองของคริสตจักรมา และให้ท่านเหล่านั้นอธิษฐานเพื่อเขา และเจิมเขาด้วยน้ำมันในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า15 และการอธิษฐานด้วยความเชื่อจะช่วยให้ผู้ป่วยรอดชีวิต และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงโปรดให้เขาหายโรค และถ้าเขาได้กระทำบาปพระองค์ก็จะทรงโปรดอภัยให้16 เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงสารภาพบาปต่อกันและกัน และจงอธิษฐานเพื่อกันและกัน เพื่อท่านทั้งหลายจะพ้นโรคภัย คำอธิษฐานของผู้ชอบธรรมนั้นมีพลังทำให้เกิดผล17 ท่านเอลียาห์ก็เป็นมนุษย์ที่มีสภาพเหมือนกับเราทั้งหลาย และท่านได้อธิษฐานด้วยความเชื่ออันแรงกล้าขอไม่ให้ฝนตก และฝนก็ไม่ตกต้องแผ่นดินถึงสามปีกับหกเดือน18 และท่านได้อธิษฐานขออีกครั้งหนึ่ง และฟ้าสวรรค์ได้ประทานฝนให้ และแผ่นดินจึงได้ผลิตพืชผลต่างๆ ไม่ว่าเราจะเผชิญกับสถาน การณ์อะไรก็ตาม หนังสือยากอบได้แนะนำให้อธิษฐานด้วยความเชื่อ ความทุกข์หรือ…จงอธิษฐานด้วยความเชื่อ เจ็บป่วยหรือ ….จงอธิษฐานด้วยความเชื่อ แต่สิ่งที่น่าสังเกตุที่นี่คือการอธิษฐานของเอลียาห์ขอฝนตกลงมา 18 และท่านได้อธิษฐานขออีกครั้งหนึ่ง และฟ้าสวรรค์ได้ประทานฝนให้ และแผ่นดินจึงได้ผลิตพืชผลต่างๆ ในยามที่แผ่นดินไทยขณะนี้กำลังเผชิญกับภาวะที่เรียกว่ เอลนิโญ่ คือ ผลกระทบจากโลกร้อนทำให้เกิดภัยแล้ง และภาวะขาดน้ำเพื่อการเกษตรอย่างรุนแรง เราต้องการการอธิษฐานด้วยความเชื่ออย่างเอลียาห์ขอฝนที่ไม่ตกถึงสามปีครึ่ง เพื่อให้ท้องฟ้าเปิดออก จะมีคริสเตียนสักกี่คนที่จะอธิษฐานด้วยความเชื่อแรงกล้า สำหรับเรื่องฟ้าฝนในประเทศชาติของเรา คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยได้ใส่ใจความเดือด ร้อนในภาพรวมระดับประเทศ เพราะคนส่วนใหญ่มักจะคิดแค่เอาตัวเองรอดเท่านั้น วันนี้ คนในประเทศชาติของเราที่อยู่ในต่างจังหวัดทางภาคเหนือ อีสาน กำลังเผชิญกับภัยแล้ง บางคนฆ่าตัวตายเพราะต้นข้าวแห้งตาย ไม่มีน้ำ บางคนต้องเอาแม้กระทั่งครกไปจำนำ เพราะไม่มีอะไรจะกิน เราอยู่ในเมืองหลวงที่ยังมีน้ำประปาใช้อย่างง่ายดาย บางคนก็ไม่ประหยัดน้ำ เพราะคิดว่า มีสตังค์จ่าย หรือคนอื่นจ่ายแทน ก่อนที่เราจะมาถึงการอธิษฐานด้วยความเชื่อที่แรงกล้า ขอให้เราช่วยกันปลุกจิตสำนึกกันและกันให้ใส่ใจให้ไกลออกไปจากตัวเองมากๆสักหน่อย โดยเฉพาะในฐานะที่เราเป็นลูกของพระเจ้า โรม 8:14 14 เพราะว่าพระวิญญาณของพระเจ้าทรงนำผู้ใด ผู้นั้นก็เป็นบุตรของพระเจ้า และข้าพเจ้าเชื่อมั่นใจในพระวิญญาณของพระเจ้าว่า ถ้าพระองค์ทรงนำเราเมื่อไร เราจะดำเนินชีวิตที่เป็นเกลือ ที่เยียวยารักษาความเน่าเฟะของสังคม นั่นหมายความว่า เราจะเป็นผู้สร้างสรรค์มากกว่าทำลายล้างผลาญ และย่างก้าวต่อไปที่ต้องอาศัยการอุทิศตัวเพื่อการอธิษฐานด้วยความเชื่อจึงไม่ใช่สิ่งที่ยาก เพราะเราจะอธิษฐานเพื่อความเดือดร้อนของคนอื่น