“หัวใจโยนาธานโดยพระวิญญาณของพระเจ้า”

ขอบคุณพระเจ้า เราได้พบเจอกัน ทักทายกัน พูดคุยกัน เป็นช่วงเวลาที่ดี เรามีเวลาในกลุ่มเซลล์ที่จะได้สามัคคีธรรมหนุนจิตชูใจกันเป็นสิ่งที่ดี  ได้ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันและกัน และเชื่อว่าเรามีช่วงเวลาอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากวันอาทิตย์ท่ามกลางความสัมพันธ์ของเราที่เราจะยกหูโทรศัพท์คุยกัน  คุยไลน์กัน ส่งข้อความหากันส่งสติกเกอร์ให้กัน

เราต่างมีความสัมพันธ์ที่ดี มีการเติบโตในมิตรภาพมากขึ้น พระเจ้าทรงกำหนดเราไว้สำหรับกันและกัน   พระเจ้าทรงกำหนดความเป็นพี่น้อง ความเป็นเพื่อนไว้ในเราทุกคน  พระเจ้าทรงกำหนดให้เราอยู่ร่วมกัน มีสามัคคีธรรม มีความสัมพันธ์ กำหนดให้เรามีชีวิตที่ช่วยเหลือ เกื้อหนุนเกื้อกูลกันและกัน

เมื่อเราร้องเพลงเสียงของพระองค์ เรามองเห็นภาพของคริสตจักรที่เป็นกองทัพในการที่เราจะร่วมกันต่อสู้ กองทัพต้องประกอบด้วยแม่ทัพคือพระเยซูคริสต์  และเพื่อนทหารมากมายที่ร่วมกันรบ  พี่น้องที่นั่งอยู่ซ้ายขวาหน้าหลังของเราเวลานี้ คือเพื่อนทหารของเรา  ให้เราหันไปตะเบ๊ะเพื่อนทหารด้วยกัน ทำความเคารพแล้วบอกเค้าว่าสู้สู้  เราทุกคนเป็นเพื่อนทหารในกองทัพของพระเยซูคริสต์  แต่ เราก็มีความสัมพันธ์กับเพื่อนทหารไม่ใช่แค่เฉพาะเวลาสู้รบบนเส้นทางแห่งความเชื่อ ไม่ใช่สัมพันธ์แค่เวลาที่ออกไปปรนนิบัติรับใช้ ไม่ใช่แค่เวลาออกไปทำพันธกิจเท่านั้น  แต่เรายังมีความสัมพันธ์ต่อกันในฐานะของความเป็นเพื่อน มีเวลาแห่งมิตรภาพด้วย ให้เราหันไปหาเพื่อนอีกครั้งแล้ว hi five ให้เพื่อนของเราด้วย

พระเจ้าทรงออกแบบให้เราเป็นส่วนหนึ่งในพระกายก็เพื่อเราจะเป็นเพื่อนต่อกัน พระเจ้าต้องการให้เราร่วมกลุ่มกับคริสเตียนคนอื่น ๆ  ฉนั้นคริสตจักรนอกจากเป็นภาพของกองทัพก็ยังเป็นภาพของมิตรสหาย ที่มีความห่วงใยใส่ใจกันและกัน เป็นภาพของผองเพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุข เป็นเพื่อนที่ไม่ทิ้งกัน พร้อมที่จะช่วยเหลือกันที่จะยืนหยัดในความเชื่อไปด้วยกัน  การเป็นผู้เชื่อเพียงลำพัง  กับการมีเพื่อนร่วมความเชื่ออย่างไหนจะดีกว่ากัน ในยามที่ทุกข์ภัยมา ในเวลาที่มีปัญหา ในเวลาที่สับสน ในเวลาที่หมดแรง ในเวลาที่กำลังล้มลง ในเวลาที่กำลังออกจากน้ำพระทัย นอกจากพระเจ้าแล้วที่จะช่วยเรา เพื่อนที่ร่วมความเชื่อก็เป็นส่วนที่สำคัญในชีวิตที่จะอยู่เคียงข้างช่วยเราฟันฝ่า  ไม่ว่าจะเป็นใคร เด็ก วัยรุ่น คนหนุ่มสาว คนโสด คนแต่งงาน หญิงม่าย คนสูงอายุ เราเป็นส่วนหนึ่งในพระกาย เราต่างเป็นเพื่อนร่วมรบ เพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุข

พระเจ้าทรงกำหนดเราในความเป็นเพื่อน และส่งต่อความช่วยเหลือต่อพี่น้องผู้เชื่อคนอื่น  เราพร้อมเป็นเพื่อนช่วยเพื่อนต่อสู้บนเส้นทางความเชื่อนี้หรือไม่ เราพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในพระกายที่ยินดีจะปกป้องกันและกัน ปกป้องพี่น้องจากความบาปหรือไม่ เพื่อเราจะเป็นกองทัพที่แข็งแรง และพร้อมจะเข้าประจัญบานได้อีกหลายศึก เพราะความแข็งแรงจากภายในเป็นปัจจัยที่สำคัญ และความแข็งแรงนั้นมาจากที่เราช่วยกันและกันผ่านมิตรภาพ ผ่านความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนในพระคริสต์ เราคงไม่หิ้วปีกเพื่อนทหารออกไปร่วมรบ  เราคงไม่ดันไม่ผลักเค้าออกทำการทั้ง ๆ ที่เค้าเจ็บอยู่ ถ้าเป็นอย่างนั้นเราแพ้แน่   แต่เราต้องช่วยเพื่อนของเราก่อนโดยฤทธานุภาพของพระเจ้า   หากเราไม่เข้าส่วนในพระกาย ไม่มีชีวิตร่วม ไม่มีความสัมพันธ์ในองค์พระเยซูคริสต์ร่วมกันกับพี่น้องคนอื่น ๆ ไม่เป็นเพื่อนเป็นมิตรเป็นสหาย  เราก็กำลังเพิกเฉยต่อการกำหนดของพระเจ้า และเป็นการละเลยต่อพระคุณของพระเจ้าที่จะส่งผลเสียที่เป็นอันตรายต่อจิตวิญญาณของเราเอง เราต้องเป็นส่วนหนึ่งในพระกายของพระคริสต์เพื่อเราจะช่วยคนอื่น ขณะเดียวกันก็พร้อมรับความช่วยเหลือจากเพื่อนผู้เชื่อคนอื่นในเวลาที่เราสู้ไม่ไหวด้วยในการต่อสู้บนเส้นทางแห่งความเชื่อนี้ หัวข้อเทศนาในเช้าวันนี้คือ  “หัวใจโยนาธานโดยพระวิญญาณของพระเจ้า”

เรื่องราวของโยนาธานปรากฏในพระธรรม 1 ซามูเอล  โยนาธานเป็นโอรสองค์โตของกษัตริย์ซาอูล เป็นเพื่อนสนิทของดาวิดที่เป็นผู้ฆ่ายักษ์โกลิอัทดาวิดเป็นทหารที่เก่งกล้าเป็นวีรบุรุษในศึกสงคราม และแม้โยนาธานจะรู้ว่าดาวิดจะได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แทนโยนาธาน แต่โยนาธานก็ยังมีความรัก ความหวังดีในฐานะเพื่อนที่แท้จริงต่อดาวิด ชีวิตของโยนาธาน ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนระหว่างโยนาธานและดาวิดมีบทเรียนที่มีคุณค่าฝ่ายจิตวิญญาณที่เราจะเรียนรู้ในการช่วยกันและกันที่จะร่วมต่อสู้บนเส้นทางความเชื่อ   เรื่องราวหลักจะอยู่ที่พระธรรม 1 ซามูเอล บทที่ 23   แต่เราจะไปดูก่อนหน้านั้นก่อนคร่าว ๆ ว่ามีเหตุการณ์เป็นมาอย่างไร  ในเวลานั้นอิสราเอลถูกปกครองโดยกษัตริย์ซาอูล  แต่ซาอูลเป็นกษัตริย์ที่ไม่เชื่อฟัง พระเจ้าจึงปลดออก และได้เลือกดาวิดเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป  ในเวลาต่อมาดาวิดได้มาสู้รบกับยักษ์ใหญ่โกลิอัทได้รับชัยชนะ  และเป็นช่วงเวลาที่โยนาธานและดาวิดได้รู้จักเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ซาอูลนั้นเกิดความอิจฉาในความเก่งของดาวิดจึงตามไล่ล่าจะเอาชีวิตของดาวิด แม้ดาวิดสู้ได้แต่เขาเลือกที่จะหนีมากกว่าที่จะต่อสู้    ดาวิดหนีจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง บางที่บางเมืองก็มีคนพยายามจะจับดาวิดให้ซาอูล   ดาวิดก็ยังเลือกที่จะหนีไปยังอีกที่หนึ่งตลอดเวลา เมื่อรู้ว่าซาอูลกำลังตามมาถึง ก็หนีต่อไปเรื่อย ๆ  จนกระทั่ง……. เมื่อดาวิดไปหลบอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง และที่นั่นที่โยนาธานได้มาพบกับดาวิด 1 ซามูเอล 23: 15-18 15และดาวิดเห็นว่าซาอูลได้ทรงออกมาแสวงชีวิตของเธอ   ดาวิดอยู่ในป่าศิฟที่โฮเรช 16และโยนาธานราชบุตรของซาอูลได้ลุกขึ้นไป หาดาวิดที่โฮเรช   และสนับสนุนมือของเธอให้เข้มแข็งขึ้นในพระเจ้า 17โยนาธานพูดกับเธอว่า   “อย่ากลัวเลยเพราะว่ามือของซาอูลเสด็จพ่อของฉันจะหา เธอไม่พบ   เธอจะได้เป็นพระราชาเหนืออิสราเอล  และฉันจะเป็นอุปราช   ซาอูลเสด็จพ่อของฉันก็ทราบเรื่องนี้ด้วย” 18และทั้งสองก็กระทำพันธสัญญาต่อ พระพักตร์พระเจ้า   ดาวิดยังค้างอยู่ที่โฮเรช   และโยนาธานก็กลับไปวัง  

จากข้อพระคัมภีร์ 4 ข้อนี้มีบทเรียน 3 ประการซึ่งเป็นหัวใจของโยนาธานโดยพระวิญญาณของพระเจ้า  

1.  เอาใจเขาใส่ใจเรา    ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าดาวิดจะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ต่อไปแทนตัวเองซึ่งเป็นราชบุตรองค์โตของซาอูล  แต่โยนาธานไม่เคยมีความอิจฉาไม่พอใจ เขามีแต่ความรักความเคารพความสัตย์ซื่อไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันแรกที่เป็นเพื่อนกับดาวิด   โยนาธานรู้ว่าดาวิดกำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย และรู้ว่าการมีเพื่อนในยามนี้คือสิ่งที่ดีที่สุด และโยนาธานก็ได้สำแดงถึงความเป็นเพื่อนแท้ในยามยากลำบาก โยนาธานไม่ใช่ประเภทเพื่อนรักเพื่อนริษยา  เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด แต่เป็นเพื่อนแท้  ชื่อของโยนาธาน มีความหมายว่า “ของขวัญจากพระเจ้า”  และชีวิตของเขาก็ได้สำแดงออกถึงการเป็นของขวัญจากพระเจ้าถึงดาวิดอย่างแท้จริง     โยนาธานส่งมอบของขวัญแห่งความเมตตาความเห็นอกเห็นใจต่อดาวิดที่อยู่ในภาวะคับขัน อ่อนกำลัง 2 โครินธ์ 11:29 29มีใครบ้างเป็นคนอ่อนกำลังและข้าพเจ้าไม่อ่อนกำลังด้วย   มีใครบ้างที่ถูกนำให้สะดุด   และข้าพเจ้าไม่เป็นทุกข์เป็นร้อนด้วย   พระคัมภีร์ใหม่สอนเราด้วยให้มีความเมตตาเห็นอกเห็นใจผู้อื่น อ.เปาโลเป็นผู้ที่มีความห่วงใยต่อคริสตจักร ห่วงใยต่อความเชื่อของพี่น้องแต่ละคนในคริสตจักร และเราต้องปฎิบัติต่อผู้คนด้วยความเห็นอกเห็นใจห่วงใยเหมือนอ.เปาโล เหมือนที่พระคริสต์ทรงห่วงใยเรา เราได้มอบของขวัญแห่งความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ การเอาใจเขาใส่ใจเราต่อเพื่อนในความเชื่อมากน้อยเพียงใด    เมื่อเราจะออกไปร่วมรบร่วมรับใช้ส่งต่อความรักความเมตตาให้ผู้คนในสังคม เราต้องไม่ลืมที่จะทำสิ่งนี้กับเพื่อนทหารที่ร่วมรบด้วยกันกับเราด้วย กับคนที่ร่วมความเชื่อเดียวกับเรา คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เรา กลุ่มเซลล์เดียวกันกับเรา   เราไม่ได้มาเจอกันใช้เวลากันด้วยหน้าที่ด้วยตารางเวลาด้วยรายการ   แต่เรามาเจอกันด้วยหัวใจของพระเจ้า เจอกันโดยการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เมื่อเราเยียวยากัน ใส่ใจกัน ห่วงใยกันและกัน เราทั้งหมดทั้งเซลล์ ทั้งทีมทั้งคริสตจักรจะแข็งแรง จะไปรบที่ไหนไม่ยั่น  จะรบกี่ครั้งก็ชนะทุกครั้งคนที่อยู่ในครอบครัวเดียวกัน สามีกับภรรยา พ่อแม่ลูก ให้เรามี moment มีช่วงเวลาที่เราเป็นเพื่อนกัน ให้เราส่งมอบของขวัญที่มีค่านี้ให้แก่กัน เป็นของขวัญของกันและกันด้วยความเมตตาเห็นอกเห็นใจในความเป็นเพื่อนด้วย  พ่อข้าพเจ้าเป็นคนดุเจ้าระเบียบในทุกเรื่อง รวมทั้งเรื่องเรียน เมื่อจะต้องสอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย ข้าพเจ้ารู้ว่าพ่อแม่มีความคาดหวังมีความฝันอยากให้เราได้เข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ  แต่ปีแรกข้าพเจ้าสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ตัวเองเสียใจมาก แล้วก็รู้สึกว่าพ่อแม่ต้องผิดหวังมากแน่ ๆ  แต่ผิดคาดพ่อแม่ไม่พูดว่าอะไรสักคำเดียว เค้าบอกว่าไม่เป็นไรเรียนที่ไหนก็ได้เข้าเอกชนที่ไหนก็ได้ แต่ข้าพเจ้าขอพ่อแม่ไปสอบอีกปีต่อไป ส่วนปีที่ว่างขอไปเรียนพิเศษ ซึ่งตอนที่ขอไม่คิดว่าจะได้เลย แต่พ่อแม่ยอมทุกอย่าง เข้าใจความรู้สึกเราแบบที่เพื่อนมีให้กัน   พ่อข้าพเจ้าจบป.4 แต่พาข้าพเจ้าไปหาอาจารย์ที่จุฬาลงกรณ์เพื่อฝากเรียนพิเศษ ซึ่งเป็นที่ ๆ มีแต่อาจารย์จุฬาสอนที่สยาม ตลอดเวลาที่ข้าพเจ้าไปเรียนพิเศษเลิกตอนเย็น พ่อแม่เลิกงานที่ประปาสามเสนนั่งรถเมล์มารับลูกทุกวันที่สยามแล้วก็นั่งแท็กซี่กลับบ้านเมืองนนท์  บางวันก่อนกลับบ้านก็แวะเดินเล่นกินข้าวที่สยาม  มันเป็น moment เป็นช่วงเวลาที่ดีมากในชีวิตช่วงหนึ่ง ในช่วงเวลาที่แย่ของเราแต่พ่อแม่ให้ความเป็นเพื่อนที่เข้าใจเรา  และขอบคุณพระเจ้าที่ปีต่อมาข้าพเจ้าสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ จำได้ว่าวันแรกสอบวิชาเยอรมัน กลับบ้านมาบอกพ่อให้ไปเตรียมซื้อชุดนักศึกษาธรรมสตร์ให้เราได้เลยสอบได้แน่ พ่อยังบอก เฮ้ย เพิ่งสอบวันแรกเองใจเย็นดิ ขี้โม้ข้าพเจ้าได้รับความเป็นเพื่อนจากพ่อแม่  ส่วนสามีภรรยา ก็ไม่รู้สินะยังไม่ได้แต่งงาน แต่สามีภรรยาคุณก็ต้องมีความเป็นเพื่อนต่อกันส่งมอบของขวัญในความเห็นอกเห็นใจให้กัน ไม่ทับถมเหยียบย่ำซ้ำเติม ไม่ประณามหยามเหยียด ไม่ดูถูกดูแคลน เพราะมันเจ็บมากนะที่จะโดนอะไรแบบนี้จากคนที่ใกล้ตัวที่สุด พระเจ้าไม่ได้ให้เรามอบของขม แต่ให้เรามอบของขวัญ   กาลาเทีย 6:2  2จงช่วยรับภาระของกันและกัน   ท่านจึงจะได้ปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระคริสต์  เราทุกคนต้องการเพื่อนคริสเตียน เพื่อนร่วมความเชื่อที่จะอยู่เคียงข้าง ต่อให้เป็นคริสเตียนที่เข้มแข็ง ยาวนาน เป็นคริสเตียนที่ดีที่เกิดผล แต่คริสเตียนทุกคนล้วนต้องการความเป็นเพื่อนจาก คริสเตียนที่จะมีส่วนช่วยในเวลาที่เราอ่อนกำลัง ดาวิดยิ่งใหญ่ เก่ง แข็งแรง แต่ดาวิดก็ต้องการเพื่อนอย่างโยนาธาน   ความเป็นเพื่อนอย่าง คริสเตียนไม่ใช่เรื่องที่เราทำเฉพาะกับคริสเตียนใหม่เท่านั้น แต่เราต้องเป็นเพื่อนกับคริสเตียนทุกคน ผู้เชื่อทุกคน  เพราะอะไร   เพราะเราทุกคนต่างต้องมีชีวิตต่อสู้ บากบั่นในความเชื่อทุกวัน การดำเนินชีวิตในความเชื่อไม่มีวันหยุดเสาร์อาทิตย์วันหยุดราชการ ยังไม่มีใครซักคนในเราที่ลอยลำแล้วไม่ต้องการใครแล้ว ยังไม่มีใครที่สมบูรณ์ดีพร้อม เราต่างดำเนินไปบนเส้นทางความเชื่อ เราต่างกำลังก้าวไป และเราทุกคนมีเวลาวาระที่เราอ่อนแอ หมดแรง เหนื่อย ท้อ มีเวลาที่เราพลั้งเผลอไปทำบาป และเราต้องการการความช่วยเหลือจากเพื่อนคริสเตียนด้วยกัน

ดาวิดได้ชื่อว่าเป็นคนของพระเจ้า  เป็นนักรบที่เก่งกาจและไม่ต้องสงสัยเลยว่า ดาวิดนั้นเหนือกว่าโยนาธานทั้งความแข็งแกร่ง สติปัญญา ความเข้าใจในพระเจ้า ดาวิดก็มีมากกว่า แต่ดาวิดก็ต้องการโยนาธาน   คนที่แข็งแรงไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องการความเข้มแข็งในพระเจ้าอีก เราทุกคนต่างต้องการกำลัง ความเข้มแข็ง เราทุกคนต้องการกำลังใจ กำลังกาย เราทุกคนต้องการคนที่เดินเคียงข้างบนเส้นทางนี้ ต้องการเพื่อนต้องการความเข้าใจ และเราสามารถเป็นเครื่องมือของพระเจ้าที่จะช่วยกันและกัน เป็นของขวัญให้กัน   เราต้องมีชีวิตที่มีส่วนในการช่วยกันและกันในการช่วยผู้อื่นสู้ที่จะสู้ ที่จะยืนหยัดในความเชื่อ  เราต่างเป็นแกะของพระเจ้าที่มีหน้าที่ต้องฟังเสียงพระเจ้าและเดินตามพระองค์ และแกะอย่างเราต้องเจอหมาป่าแทบทุกวัน มีสิ่งล่อลวงที่จะให้เราคอยแวะช๊อป ชม ชิมได้ตลอดเวลา และมัทธิวบอกเราว่า    มัทธิว 24: 13  13แต่ผู้ใดทนได้จนถึงที่สุดผู้นั้นจะรอด  เราทุกคนต่างมีความรับผิดชอบต่อชีวิตแห่งความรอดที่จะต้องดำเนินไปให้ถึงที่สุดด้วยความมานะบากบั่น อดทน    ผู้ที่บังเกิดใหม่ในพระเจ้า เรามีจุดหมายปลายทางที่เราต้องเดินไปให้ถึง และบนเส้นทางนี้เราจำเป็นต้องมีความทรหดอดทนจนถึงที่สุด เราจะไปถึงจุด ๆ นั้นได้อย่างไร แน่นอน พระเจ้าจะทรงช่วยเรา

และอีกส่วนที่สำคัญคือความสัมพันธ์ของเราต่อผู้เชื่อคนอื่น ๆ การมีสามัคคีธรรมจะช่วยเราจากการหลงออกไปจากทาง  การมีเพื่อนที่จะสู้ไปด้วยกันบนเส้นทางแห่งการต่อสู้ในความเชื่อคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้การเดินทางไปบนเส้นทางนี้ประสบความสำเร็จได้ในที่สุด จนถึงที่สุดในความรอด  ฮีบรู 3:12- 14 12ดูก่อน   ท่านพี่น้องทั้งหลาย   จงระวังให้ดี   เพื่อจะไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดในพวกท่านมีใจชั่วและไม่เชื่อ   คือใจซึ่งพาท่านหลงไปจากพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ 13ท่านจงเตือนสติกันและกันทุกวัน   ตลอดเวลาที่เรียกว่า   “วันนี้”   เพื่อว่าจะไม่มีผู้ใดในพวกท่านมีใจแข็งกระด้างไป   เพราะเล่ห์กลของบาป 14เพราะเรามีส่วนร่วมกับพระคริสต์   ถ้าเราเพียงแต่ยึดความไว้วางใจที่เรามีอยู่   ในตอนต้นไว้ให้มั่นคงจนถึงที่สุด

2. มีใจที่ตั้งมั่น  1 ซามูเอล 23: 15-16 15และดาวิดเห็นว่าซาอูลได้ทรงออกมาแสวงชีวิตของเธอ   ดาวิดอยู่ในป่าศิฟที่โฮเรช 16และโยนาธานราชบุตรของซาอูลได้ลุกขึ้นไป หาดาวิดที่โฮเรช   และสนับสนุนมือของเธอให้เข้มแข็งขึ้นในพระเจ้า  โยนาธานต้องการช่วยให้ดาวิดเข้มแข็งขึ้นในพระเจ้าด้วยความตั้งใจ  ที่ ๆ ดาวิดหลบหนีนั้นคงไม่ใช่ที่ ๆ หาเจอได้ง่าย ๆ พระคัมภีร์บอกดาวิดอยู่ในป่า และโยนาธานมีความตั้งใจ มุ่งมั่นบากบั่นที่จะไปพบเพื่อช่วยเหลือ     เครื่องหมายของคริสเตียนที่เป็นผู้ใหญ่ คริสเตียนที่เติบโตคือการที่คริสเตียนคนนั้นมีความตั้งใจที่จะเสริมสร้างชีวิตผู้อื่นให้เข้มแข็งขึ้นในพระเจ้า ช่วยให้เค้ามีกำลังขึ้นในพระเจ้า   เรามีความคิดแบบนี้มั้ยที่จะคิดถึงคนอื่นในมุมนี้ มีความแตกต่างระหว่างคนที่คิดถึงคนอื่นกับคนที่คิดถึงแต่ตัวเอง พระเจ้าทรงมองดูเราในเรื่องนี้    เราจะเสริมกำลังใครในวันนี้ วันพรุ่งนี้ อาทิตย์ที่จะถึงนี้  สิ่งนี้ต้องอาศัยความตั้งใจที่แน่วแน่  เรามีพี่น้องมีเพื่อนในพระคริสต์ที่เราคิดจะช่วยเค้าต่อสู้ ช่วยเสริมกำลังความเข้มแข็งในความเชื่อแล้วหรือยัง อย่าคิดว่าเรายังเอาตัวเองไม่รอดแล้วจะให้ไปช่วยใคร เราดูโยนาธาน โยนาธานเป็นลูกซาอูลนะแต่มาช่วยดาวิด ถ้าซาอูลรู้จะเป็นอย่างไร แต่โยนาธานไม่ได้มองแค่ตัวเอง ไม่ได้เห็นแก่ตัวเอง เขามองข้ามเรื่องความเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้น มองข้ามเรื่องไม่ใช่ธุระอะไรของตัวเอง แต่มีความตั้งใจอย่างแรงกล้าเมื่อรู้ว่าดาวิดอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องการใครสักคน ไม่ได้ปล่อยดาวิดให้เผชิญกับวันเวลาเหล่านั้นอย่างโดดเดี่ยว  1 ทิโมธี 6:11 11แต่ท่านผู้เป็นคนของพระเจ้า   จงหลีกหนีเสียจากสิ่งเหล่านี้   จงมุ่งมั่นในความชอบธรรม   ในทางของพระเจ้า   ความเชื่อ   ความรัก   ความอดทน   และความอ่อนสุภาพ  พระเจ้าต้องการให้เรามีความตั้งใจ มุ่งมั่น มีความเชื่อที่กระตือรือร้น เชื่อฟังพระเจ้าด้วยความกล้าหาญและทำในสิ่งที่เรารู้ว่าถูกต้อง หากเป็นสิ่งที่เราต้องทำที่จะมีส่วนช่วยใครสักคน อย่ามัวรีรอ ลงมือที่จะทำทันที การที่เราล่าช้าในการเชื่อฟัง ก็มีค่าเท่ากับการที่เราไม่เชื่อฟัง เราต้องเสริมสร้างพระกาย เห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่น สิ่งที่เราจะทำต้องเป็นการทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อคนรอบข้าง 1 โครินธ์ 10:33  33ข้าพเจ้าเองได้พยายามกระทำทุกสิ่งเพื่อให้เป็นที่พอใจของคนทั้งปวง   มิได้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว   แต่เห็นแก่ประโยชน์ของคนทั้งหลาย   เพื่อให้เขารอดได้  เอาใจเขาใส่ใจเรา มีใจที่ตั้งมั่นและ

3. เสริมกำลังใจให้แข็งแกร่ง    1 ซามูเอล 23:16-18     16และโยนาธานราชบุตรของซาอูลได้ลุกขึ้นไป หาดาวิดที่โฮเรช   และสนับสนุนมือของเธอให้เข้มแข็งขึ้นในพระเจ้า 17โยนาธานพูดกับเธอว่า   “อย่ากลัวเลยเพราะว่ามือของซาอูลเสด็จพ่อของฉันจะหา เธอไม่พบ   เธอจะได้เป็นพระราชาเหนืออิสราเอล  และฉันจะเป็นอุปราช   ซาอูลเสด็จพ่อของฉันก็ทราบเรื่องนี้ด้วย” 18และทั้งสองก็กระทำพันธสัญญาต่อ พระพักตร์พระเจ้า   ดาวิดยังค้างอยู่ที่โฮเรช   และโยนาธานก็กลับไปวัง   ความเข้มแข็ง กำลัง ความแข็งแกร่งที่เราเสริมสร้างให้กับผู้อื่นจะต้องเป็นกำลังที่มาจากพระเจ้า ไม่ใช่จากตัวเรา นี่คือความแตกต่างระหว่างการเสริมกำลังในพระเจ้า กับกลุ่มบำบัด พลังคิดบวกของโลกนี้  การเสริมสร้างผู้อื่นของคริสเตียนจะต้องมุ่งไปสู่พระเยซูคริสต์ ไม่ใช่มนุษย์ที่เป็นผู้ที่ช่วยผู้ที่ให้กำลัง  โยนาธานไม่ได้ช่วยดาวิดด้วยกำลังความสามารถความคิดสติปัญญาของเขา แต่โดยพระเจ้า เพื่อพระเจ้า โยนาธานไม่ได้ช่วยดาวิดเพื่อผูกมัดดาวิดไว้กับตัวเอง แต่การช่วยเหลือการเสริมสร้างของโยนาธานเพื่อนำให้ดาวิดผูกพันกับพระเจ้า เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า  เศคาริยาห์ 4:6   6แล้วท่านจึงตอบข้าพเจ้าว่า   “นี่เป็นพระวจนะของพระเจ้าที่ให้ไว้กับเศรุบบาเบลว่า  มิใช่ด้วยกำลัง มิใช่ด้วยฤทธานุภาพ   แต่ด้วยวิญญาณของเรา  พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้แหละ    พระคริสต์ต้องเป็นศูนย์กลาง พระวิญญาณต้องเป็นกำลัง   เราต้องนำคนสู่การพึ่งพาพระเจ้าไม่ใช่พึ่งพามนุษย์ ไม่ใช่พึ่งพาตัวเรา คนที่เราเสริมสร้างต้องเข้มแข็งขึ้นในพระเจ้า  เราสามารถเสริมสร้างกันด้วยการอธิษฐานเพื่อกันและกัน นมัสการพระเจ้าร่วมกัน เชื่อร่วมกันในถ้อยคำของพระเจ้า  เราเสริมสร้างกันด้วยการเตือนสติ โคโลสี 3:16  16จงให้พระวาทะของพระคริสต์ดำรงอยู่ในตัวท่านอย่างบริบูรณ์   จงสั่งสอนและเตือนสติกันด้วยปัญญาทั้งสิ้น   จงร้องเพลงสดุดีเพลงนมัสการ   และเพลงสรรเสริญด้วยใจโมทนาขอบพระคุณพระเจ้า   โยนาธานพูดกับดาวิดว่า “อย่ากลัวเลย”  นี่เป็นถ้อยคำที่พระเจ้าเคยกล่าวกับคนของพระเจ้ามาแล้ว ตั้งแต่อับราฮัม โมเสส โยชูวา โยนาธานกล่าวถ้อยคำ ตอกย้ำหนุนใจดาวิดให้เชื่อมั่นในพระสัญญา เชื่อมั่นในแผนการของพระเจ้าที่ได้เจิมตั้งดาวิดเป็นกษัตริย์ โยนาธานไม่ได้มาพูดถ้อยคำอะไรที่มาจากความคิดของเขาเองเลย  เขาเพียงแต่มาย้ำเตือนพระสัญญาของพระเจ้าที่มีต่อดาวิด เพราะโยนาธานเชื่อ มีความเชื่อในพระสัญญาที่ยิ่งใหญ่ มีฤทธานุภาพที่สามารถจะสลายความกลัวของดาวิดได้    โยนาธานไปเสริมกำลังให้ดาวิดเข้มแข็งขึ้นในพระเจ้าด้วยการเตือนใจดาวิดถึงพระสัญญาของพระเจ้า พระประสงค์ แผนการของพระเจ้า  มีพระสัญญามากมายที่มาถึงเราทั้งหลาย ที่เราสามารถหนุนใจผู้อื่นสู่พระสัญญาที่จะสร้างความเชื่อ ความไว้วางใจ ความนิ่งสงบ สันติสุข เราต้องให้พระสัญญาของพระเจ้าเสริมกำลังความเชื่อแก่ผู้อื่น 1 เธสะโลนิกา 5:11 11เหตุฉะนั้นจงหนุนใจกันและต่างคนต่างจงก่อกันขึ้น   ตามอย่างที่ท่านกำลังทำอยู่นั้น  ลองจินตนาการไปด้วยกัน เรากำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่งแห่งความเชื่อ   ขณะที่เรากำลังใกล้ถึงเส้นชัยในการวิ่งระยะไกลบนเส้นทางแห่งความเชื่อ เราผ่านการต่อสู้มามากมาย ขาของเราเริ่มปวดล้า ลำคอแห้งผากเป็นผง  และทุกส่วนของร่างกายเรียกร้องให้เราหยุด นี่เป็นเวลาที่เพื่อน ๆ และเสียงเชียร์มีค่า มีความหมายมากที่สุดสำหรับเรา  แรงสนับสนุนของเพื่อนพยายามช่วยผลักดันให้เราฟันฝ่าความเจ็บปวดจนถึงเส้นชัย   ในทำนองเดียวกัน คริสเตียน  เราต้องหนุนใจซึ่งกันและกัน ถ้อยคำหนุนใจให้กำลังใจกันสักคำหนึ่งที่มอบให้ในเวลาที่เหมาะสม สามารถทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างการไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างสวยงาม กับการสะดุดล้มไปตลอดทาง    ขอให้เรามองไปรอบ ๆ ตัวเรา และไวต่อความต้องการคำหนุนใจของผู้อื่น และจงพร้อมที่จะหยิบยื่นการหนุนใจให้เพื่อนของเราด้วยถ้อยคำและการกระทำ มีคนที่ต้องการจะได้ยินได้ฟังคำหนุนใจ รับการเสริมสร้างจากเรา มีคนที่กำลังต่อสู้และต้องการกำลังใจ ต้องการเพื่อนทหารที่จะร่วมสู้ ร่วมเดินเคียงข้างไปด้วยกัน   การร่วมสู้กับการต่อสู้บนเส้นทางความเชื่อจากเพื่อนในพระคริสต์จะเป็นสิ่งสำคัญเพียงใด นี่คือสิ่งมีค่าที่เพื่อนในพระคริสต์ควรกระทำต่อกัน     และเราต้องเสริมสร้างหนุนใจผู้อื่นด้วยการย้ำเตือนถึงพระสัญญาของพระเจ้าที่มีต่อชีวิตของเขา เราต้องกล่าวถ้อยคำของพระเจ้าที่มีฤทธิ์เดช     เราอาจไม่ใช่คนที่พูดเก่ง ไม่ใช่คนที่มีคำพูดสละสลวย แต่ถ้าเราใช้เวลากับพระคำพระเจ้า เราจะเป็นเหมือนสดุดี บทที่ 1 กล่าวไว้   2แต่ความปีติยินดีของผู้นั้นอยู่ในพระธรรมของพระเจ้า    เขาภาวนาพระธรรมของพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน    3เขาเป็นเช่นต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ    ซึ่งเกิดผลตามฤดูกาล  และใบก็ไม่เหี่ยวแห้ง    การทุกอย่างซึ่งเขากระทำก็จำเริญขึ้น   เราจะสามารถช่วยเพื่อนในพระคริสต์ที่อยู่ท่ามกลางกันและกันนี้ให้เข้มแข็ง มีกำลังขึ้นในพระเจ้า เราทำได้โดยพระเจ้า โดยฤทธิ์เดชของพระเจ้า โดยถ้อยคำของพระองค์ โดยพระสัญญาที่แน่นอนเป็นจริงไม่ปรวนแปร  ขอให้เราเป็นโยนาธานเพื่อกันและกัน เป็นของขวัญแก่กันและกัน มีหัวใจอย่างโยนาธานโดยพระวิญญาณของพระเจ้า ให้เรามองหาคนที่เราจะมอบของขวัญให้  มีคน ๆ นั้นกำลังรอเราอยู่ คนในบ้าน คนในกลุ่มเซลล์ คนในคริสตจักร คนที่กำลังอ่อนกำลัง คนที่กำลังถอดใจ ให้เราสร้างความเข้มแข็งให้กันและกัน แล้วเราจะแข็งแรง เราจะเป็นทหารประจำการที่พร้อมต่อคำบัญชาขององค์พระเยซูคริสต์

By admin