“ชีวิตที่ปราศจากที่ติ…..คือผู้ที่เป็นความหวัง”
“ผู้ที่เป็นความหวัง” กับผู้ที่มีความหวังนั้นไม่เหมือนกัน ผู้ที่มีความหวังอาจไม่ได้ดำเนินชีวิตที่เป็นความหวังสำหรับคนอื่นๆความหมายของการเป็นความหวัง คือ สามารถพึ่งพิงได้ ไว้วางใจได้ รับการช่วยเหลือได้ รับกำลังใจ รับการหนุนใจได้ และรับการดูแลเอาใจใส่อย่างเสมอต้นเสมอปลายได้ มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง และรักษาคำพูด แม้ต้องเสียผลประโยชน์ก็ไม่ยอมเสียคำพูด คนที่ได้พบกับผู้เป็นความหวัง เขาจะตอบสนองอย่างไร แน่นอน เขาจะยืนหยัดในคำสัญญาของผู้ที่เป็นความหวังสำหรับเขา โดยเฉพาะผู้ที่เป็นความหวังที่มีความสามารถที่จะทำได้อย่างที่พูด และในพระคัมภีร์เดิมมีการทำพันธสัญญาที่เป็นความหวังที่ยาวนานระหว่างพระเจ้ากับครอบครัวหนึ่งที่เป็นตัวแทนของชนเผ่าที่รับคำสัญญานี้ ที่เรียกว่า พันธสัญญาเกลือ กันดารวิถี18:19-24 บรรดาเครื่องบูชาบริสุทธิ์ที่คนอิสราเอลมอบถวายแด่พระเจ้า เราให้แก่เจ้าและแก่บุตรชายหญิงซึ่งอยู่กับเจ้าเป็นส่วนแบ่งถาวร เป็นพันธสัญญาเกลือเป็นนิตย์แด่พระเจ้าสำหรับเจ้า และเผ่าพันธุ์ของเจ้าด้วย”20 และพระเจ้าตรัสกับอาโรนว่า “เจ้าจะไม่ได้รับมรดกในแผ่นดินของเขา ทั้งเจ้าจะไม่มีส่วนอันใดกับเขาเลย เราเป็นส่วนแบ่งของเจ้าและเป็นมรดกของเจ้าท่ามกลางคนอิสราเอล 21 “เราให้ทศางค์ ในอิสราเอลแก่คนเลวีเป็นมรดก เป็นค่าตอบแทนงานที่เขาปฏิบัติ คืองานปฏิบัติที่เต็นท์นัดพบ22 ตั้งแต่นี้ต่อไปคนอิสราเอลจะมิได้เข้ามาใกล้เต็นท์นัดพบ เกลือกว่าเขาจะรับโทษบาปและจะต้องตาย23 แต่คนเลวี จะต้องปฏิบัติงานของเต็นท์นัดพบ และเขาจะต้องรับโทษความผิดของเขา จะเป็นกฎเกณฑ์ถาวรตลอดชั่วชาติพันธุ์ของเจ้า เขาจะไม่มีส่วนมรดกท่ามกลางคนอิสราเอล24 เพราะว่าส่วนทศางค์ของคนอิสราเอล ซึ่งนำมาถวายแด่พระเจ้า เราได้ให้แก่คนเลวีเป็นมรดก เพราะฉะนั้นเราจึงได้บอกเขาว่าเขาจะไม่มีส่วนมรดกท่ามกลางคนอิสราเอล” พันธสัญญาเกลือ คือคำสัญญาที่พระเจ้าทรงให้กับอาโรนในการทำหน้าที่ปุโรหิตของเขาในเต็นท์นัดพบ พันธสัญญาเกลือคือการยืนยันอย่างหนักแน่นมั่นคงว่า พระเจ้าจะเป็นความหวังของครอบครัวของอาโรนและครอบครัว และตระกูล และชนเผ่าของอาโรนคือคนเลวี ที่จะไม่มีสิทธิ์ในมรดกใดๆของคนอิสราเอล นั่นคืออาโรนและครอบครัว และคนเลวีจะมีหน้าที่ปรนนิบัติพระเจ้าในเต็นท์นัดพบ ไม่ต้องไปทำมาหากินเหมือนกับคนอิสราเอลเผ่าอื่นๆ หน้าที่ของเขาคือถวายเครื่องบูชา เผาเครื่องหอม ทำหน้าที่รับความผิดของคนอิสราเอลมาจัดการ พันธสัญญาเกลือ คือหน้าที่ที่พระเจ้าจะเลี้ยงดู ดูแลอาโรนและครอบครัวของเขา สิ่งที่อาโรนและครอบครัวต้องทำ คือไว้วางใจในการเลี้ยงดู การดูแล ความรับผิดชอบของพระเจ้าที่มีต่อพวกเขา นี่คือตัวอย่างของการทำบทบาทการเป็นความหวังของพระเจ้าที่มีต่ออาโรน บทเรียนของการเป็นความหวังมีดังนี้
1. “พันธสัญญาเกลือ”
ที่พระเจ้าทรงกระทำกับอาโรนเป็นเครื่องหมายของการเป็นที่ไว้วางใจได้ ไม่มีทางที่จะหักหลังทรยศหรือไม่สัตย์ซื่อ ไม่มีการทำลายล้าง และคงทนรักษาไว้อย่างยาวนาน กษัตริย์ดาวิดได้เขียนบรรยายถึงพระเจ้าในหนังสือสดุดี 71:5 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะพระองค์ทรงเป็นความหวังของข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า เป็นที่วางใจของข้าพระองค์ตั้งแต่เด็กๆ มา คำว่า เป็นความหวัง รากศัพท์ภาษาฮีบรูใช้คำว่า ไว้วางใจ ผู้เขียนสดุดี เขียนถึงพระเจ้าทรงเป็นผู้ไว้วางใจได้ พระเจ้าทรงทำ“พันธสัญญาเกลือ” เป็นสัญญาระหว่างพระเจ้ากับผู้ที่ใช้เกลือในเต็นท์นัดพบ นั่นคือ ปุโรหิตเป็นผู้ประกอบพีธีแทนประชาชน และเครื่องบูชาทุกชนิด แม้กระทั่งเครื่องหอมที่จะถวายแด่พระเจ้า ต้องมีส่วนผสมของเกลือ หรือถูกปรุงด้วยเกลือ หรือถูกประพรมด้วยเกลือเป็นผู้ที่ใช้เกลือเพื่อให้ทุกอย่างที่ถวายแด่พระเจ้า เพื่อให้พระเจ้าทรงพอพระทัย พระเจ้าจึงกำหนดผู้ทำหน้าที่นี้ด้วยพันธสัญญาเกลือ
เลวีนิติ 2:13 เจ้าจงปรุงบรรดาธัญญบูชาด้วยใส่เกลือ เจ้าอย่าให้เกลือแห่งพันธสัญญากับพระเจ้าของเจ้าขาดเสียจากธัญญบูชาของเจ้า เจ้าจงถวายเกลือพร้อมกับบรรดาเครื่องบูชาของเจ้า
อพยพ 30:34-35 34 พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงเอาเครื่องเทศ คือกำยาน ชะมด และมหาหิงค์ ผสมกับกำยานบริสุทธิ์ (ให้เท่าๆ กันทุกอย่าง)35 จงผสมเครื่องหอมปรุงตามศิลปช่างปรุงเจือด้วยเกลือให้เป็นของบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์36 จงเอาส่วนหนึ่งมาตำให้ละเอียด และวางอีกส่วนหนึ่งไว้หน้าหีบพระโอวาทในเต็นท์นัดพบที่เราจะพบกับเจ้า เครื่องหอมนั้นเจ้าจงถือว่าบริสุทธิ์ที่สุด
“เกลือ” ถูกกำหนดให้เป็นส่วนประกอบสำคัญในทุกๆเครื่องบูชาที่เกี่ยวข้องกับการถวายแด่พระเจ้า และที่สำคัญ“เกลือ” เป็นตัวทำให้เครื่องบูชานั้นบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ ด้วยคุณสมบัติของเกลือในยุคนั้นคือเป็นของมีค่า ราคาแพง และเป็นยาได้ด้วย การกำหนดความบริสุทธิ์และความศักดิ์สิทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้องในการถวายเครื่องบูชา นอกจากมีเกลือแล้วยังต้องมีพันธสัญญากับพระเจ้าด้วยเป็นของคู่กัน หากขาดเกลือก็ไม่ได้ หากมีแต่เกลืออย่างเดียวก็ยิ่งเลวร้ายใหญ่ เป็นอย่างไร อยู่ในพระคัมภีร์ตอนหนึ่งว่า เฉลยธรรมบัญญัติ 29:22-29 22 และคนชั่วอายุต่อมาคือลูกหลานซึ่งเกิดมาภายหลังท่านและชนต่างด้าวซึ่งมาจากแผ่นดินที่อยู่ห่างไกล จะกล่าวเมื่อเขาเห็นความทุกข์ใจของแผ่นดินนั้นและโรคภัยซึ่งพระเจ้าทรงบันดาลให้เป็น23คือแผ่นดินทั้งหมดเป็นกำมะถันและเป็นเกลือ เป็นที่ว่างเปล่าเพราะถูกเผาไฟไม่มีใครปลูกหว่าน และไม่มีอะไรงอกขึ้น เป็นที่ที่หญ้าไม่งอก เป็นการที่ถูกคว่ำอย่างโสโดม และโกโมราห์ เมืองอัดมาห์ เมืองเศโบอิม ซึ่งพระเจ้าทรงคว่ำด้วยความกริ้วและพระพิโรธ24 เออ ประชาชาติทั้งหลายจะกล่าวว่า ‘ทำไมพระเจ้าทรงกระทำเช่นนี้แก่แผ่นดินนี้ พระพิโรธมากมายเช่นนี้หมายความว่ากระไร’25 แล้วคนจะพูดกันว่า ‘เพราะเขาทอดทิ้งพันธสัญญาของพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของบรรพบุรุษของเขา ซึ่งพระองค์ทรงกระทำไว้กับเขาเมื่อพระองค์ทรงพา เขาออกจากแผ่นดินอียิปต์26 ไปปรนนิบัตินมัสการพระอื่น เป็นพระซึ่งเขาไม่เคยรู้จัก และซึ่งพระองค์มิได้ประทานแก่เขา27 เพราะฉะนั้น พระพิโรธของพระเจ้าจึงพลุ่งขึ้นต่อแผ่นดินนี้ นำเอาคำสาปแช่งซึ่งจารึกไว้ในหนังสือนี้มาถึง28 และพระเจ้าจึงทรงถอนรากเขาเสียจากแผ่นดินด้วยความกริ้วและพระพิโรธอันมากมายและทิ้งเขาไปในอีกแผ่นดินหนึ่ง ดังที่เป็นอยู่วันนี้’ 29 “สิ่งลี้ลับทั้งปวงเป็นของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทั้งหลาย แต่สิ่งทรงสำแดงนั้นเป็นของเราทั้งหลายและของลูกหลานของเราเป็นนิตย์ เพื่อเราจะกระทำตามถ้อยคำทั้งสิ้นของกฎหมายนี้ เมื่อมีแต่เกลือและไม่รักษาพันธสัญญาของพระเจ้า เกลือจึงกลายเป็นโทษต่อแผ่นดินและต่อมนุษย์ด้วย เราจึงเห็นถึงความเป็นของคู่กันของทั้งสองสิ่ง “พันธสัญญาเกลือ” เป็นสิ่งที่มาก่อน ทำไมแผ่นดินต้องการพันธสัญญาเกลือ พระธรรมตอนนี้ได้ยกตัวอย่างของเมืองโสโดมและโกโมราห์ และอีกสองเมือง ที่มีเกลือเป็นส่วนหนึ่งของการทำลายเมืองเหล่านั้น ก็เพราะว่า ความบาปชั่วของคนในเมืองเลวร้ายมาก สังคมเน่าเฟะ คนไม่ได้เป็นเกลือ ดังนั้นเกลือจริงๆจึงทำลายคน
2.“พันธสัญญาใหม่”
เกลือ คือกุญแจ แต่ยังไม่สำคัญหาก มีแต่เกลืออย่างเดียวก็ไม่ได้ เราต้องการพันธสัญญาที่หายไป “พันธสัญญาเกลือ”ในยุคนั้นคือเงาของพันธสัญญาใหม่ที่กระทำในพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์เจ้า และวันนี้เรามีพันธสัญญาใหม่ที่พระเจ้าทรงทำกับมนุษย์โดยผ่านทางพระเยซูคริสต์เจ้าซึ่งได้ถวายพระองค์เองเป็นเครื่องบูชาที่ครบถ้วนแล้ว แต่ขาดเกลือที่จะปรุง จะผสม จะประพรม เราจะหาเกลือที่เป็นส่วนประกอบของพันธสัญญาใหม่ได้ที่ไหน พระเยซูคริสต์เจ้าทรงตรัสว่า มัทธิว 5:13 “ท่านทั้งหลายเป็นเกลือแห่งโลก ถ้าเกลือนั้นหมดรสเค็มไปแล้ว จะทำให้กลับเค็มอีกอย่างไรได้ แต่นั้นไปก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร มีแต่จะทิ้งเสียสำหรับคนเหยียบย่ำ พระเจ้าไม่ใช้เกลือธรรมดาเหมือนกับพระองค์ไม่ใช้เครื่องบูชาธรรมดาอีกต่อไปสำหรับการทำให้ความสัมพันธ์ของพระองค์กับมนุษย์นั้นมั่นคงถาวรนิรันดร์กาล แต่พระองค์ทรงใช้พระเยซูคริสต์เจ้าเป็นเครื่องบูชา และใช้ผู้เชื่อ คริสเตียนให้เป็นเกลือแห่งโลกถ้าเราไม่เป็นเกลือ พันธสัญญาใหม่จะนำพระพรแห่งความรอดเข้ามาในชีวิตของเราและของผู้ที่ยังไม่รู้จักพระกิตติคุณได้อย่างไร หลายคนขาดความเข้าใจในเรื่องนี้ จึงดำเนินชีวิตมีแต่ความหวังในอนาคตเรื่องแผ่นดินสวรรค์ แต่ไม่เข้าใจในเรื่องอาณาจักรของพระเจ้าบนแผ่นดินโลกด้วย ซึ่งการเป็นเกลือในเครื่องบูชาคือพระเยซูคริสต์เจ้านั้น นำความสำเร็จและการเกิดผลในแผ่นดินของพระเจ้าผ่านชีวิตของเราด้วย อิสราเอลในยุคก่อนอาศัยการทรงสถิตของพระเจ้าเป็นการนำชัยชนะในการรบสงคราม การทรงสถิตของพระเจ้าเป็นการนำพระพรการช่วยกู้ นำการเกิดผลของแผ่นดิน และการรอดพ้นจากคำแช่งสาปเพราะความโปรดปรานของพระเจ้าอยู่เหนือแผ่นดิน อิสราเอลยุคใหม่ คือเราทั้งหลายต้องการการทรงสถิตของพระเจ้าในการสู้รบกับมารซาตานและการประกาศพระกิตติคุณ การเป็นเกลือของคริสเตียน คือการนำพระพรมาสู่แผ่นดินที่เราอาศัยอยู่ด้วยเช่นกัน มีคริสเตียนมากมายพูดแต่เรื่องของพระเยซูคริสต์เจ้า ในขณะชีวิตยังไม่เป็นแบบอย่างในการทำดี พระเจ้าไม่พอพระทัยเครื่องบูชานี้ คนฟังเรื่องพระเยซูแล้วไม่ประทับใจแถมยังไล่ส่งหรือต่อต้าน เพราะขาดความเป็นเกลือในตัวผู้พูด เกลือเป็นสัญลักษณ์ของการทำให้คนพอใจ โคโลสี 4:5-6 5 จงปฏิบัติกับคนภายนอกด้วยใช้สติปัญญา โดยฉวยโอกาส6 จงให้วาจาของท่านประกอบด้วยเมตตาคุณเสมอ ปรุงด้วยเกลือให้มีรส เพื่อท่านจะได้รู้จักตอบให้จุใจแก่ทุกคน วันนี้เราพูดและปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยอะไร คุณค่าที่เรามอบให้กับผู้อื่นราคาใด เวลาเราให้แก่คนอื่นเราให้ในคุณภาพขนาดไหน เราให้สิ่งดี หรือดีที่สุดสำหรับตัวเราเอง แต่เราให้สิ่งที่เหลือใช้แก่ผู้อื่น หญิงม่ายที่พระเยซูคริสต์เจ้าทรงยกย่องว่า ได้ถวายเงินในวิหารด้วยเศษทองแดงว่าเป็นผู้ที่ได้ให้มากกว่าใคร เพราะนั่นคือเท่าที่เธอมี ชีวิตแห่งการให้สิ่งที่ดีที่สุดที่มี คือคุณภาพชีวิตที่เหมือนเกลือที่ให้คุณภาพที่ดีที่สุดของมัน นั่นคือการละลายตัวมันทั้งหมด และให้รสชาติที่คนได้สัมผัสและพึงพอใจอย่างแท้จริง พันธสัญญาใหม่ที่พระเยซูทรงทำจึงสำเร็จ 2โครินธ์ 3:4-6 4 เรามีความไว้ใจในพระเจ้าโดยพระคริสต์อย่างนั้น5 มิใช่เราจะคิดถือว่า สิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดจากความสามารถของเราเอง แต่ว่าความสามารถของเรามาจากพระเจ้า6 ผู้ทรงโปรดประทานให้เราสามารถที่จะเป็นพันธกรแห่งพันธสัญญาใหม่ อันมิใช่ประมวลกฎแต่เป็นมาโดยพระวิญญาณ ด้วยว่าประมวลกฎนั้นประหารให้ตาย แต่ส่วนพระวิญญาณประทานชีวิต วันนี้ คุณภาพชีวิตของคริสเตียนในการเป็นเกลือ คือการดำเนินชีวิตด้วยผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งทำให้เราสามารถเป็นเครืองมือ คือพันธกรแห่งพันธสัญญาใหม่ได้ พระเยซูได้ให้พันธสัญญาใหม่แก่เราทั้งหลาย เพื่อเราจะทำหน้าที่เป็นเกลือของแผ่นโลก มัทธิว 5:13 “ท่านทั้งหลายเป็นเกลือแห่งโลก ถ้าเกลือนั้นหมดรสเค็มไปแล้ว จะทำให้กลับเค็มอีกอย่างไรได้ แต่นั้นไปก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร มีแต่จะทิ้งเสียสำหรับคนเหยียบย่ำ
3. เกลือกับการเปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้เกลือยังมีคุณสมบัติในการเยียวยา การรักษา ทำความสะอาด และการปลดปล่อย เกลือแห่งโลกจะเป็นความหวัง ไปที่ไหน ก็จะนำคุณสมบัติเหล่านี้ไปเกิดผลด้วย เหมือนกับเกลือในยุคของเอลีชาในหนังสือ 2 พงศ์กษัตริย์ 2:19-22 19 คนในเมืองพูดกับเอลีชาว่า “ดูเถิด ทำเลเมืองนี้ก็ร่มรื่นดี ดังที่เจ้านายของข้าพเจ้าได้เห็นแล้ว แต่ทว่าน้ำไม่ดีและชาวแผ่นดินก็แท้งลูก”20 ท่านพูดว่า “จงเอาชามใหม่มาลูกหนึ่ง ใส่เกลือไว้ในนั้น” แล้วเขาทั้งหลายก็หามาให้21 แล้วท่านก็ไปที่น้ำพุ โยนเกลือลงในนั้นและกล่าวว่า “พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เราได้กระทำน้ำนี้ให้ดีแล้ว ตั้งแต่นี้ไปจะไม่มีความตายหรือการแท้งลูกมาจากน้ำนี้อีก”22 ฉะนั้นน้ำจึงดีมาจนถึงทุกวันนี้ จริงตามถ้อยคำซึ่งเอลีชาได้กล่าวนั้น อะไรเกิดขึ้น น้ำที่เสียกลับกลายเป็นน้ำดี แผ่นดินที่แท้งลูกจะไม่แท้งอีกต่อไปน้ำคือชีวิต น้ำเสีย น้ำไม่ดี หมายถึงไม่มีคุณภาพชีวิตหรือที่นั่นขาดชีวิต เมื่อเกลือทำหน้าที่ในที่ๆมันอยู่มันเปลี่ยนชีวิตได้ ชีวิตคริสเตียนต้องมีอิทธิพลต่อคนรอบข้าง นำชีวิตให้เกิดขึ้น เปลี่ยนคนที่ตายแล้วให้มีชีวิต สำหรับแผ่นดินที่แท้งลูก อาจอธิบายได้กับพื้นที่ๆทำอะไรแล้วไม่ตลอดรอดฝั่ง แท้ง หรือล้มเหลวกลางคัน ทำอะไรไม่สำเร็จ อย่างพื้นที่ฝั่งธนบุรีนี้ มีชื่อเสียงเรื่องทำคริสตจักรไม่ขึ้น อะไรคือปัจจัยสำคัญ เกลือทำหน้าที่หรือไม่ เรามาตั้งคริสตจักรที่นี่เป็นไปตามนิมิตของพระเจ้าที่ให้ไว้กับผู้นำ แต่นิมิตนี้จะไม่สำเร็จถ้าขาดเราทั้งหลายที่จะทำหน้าที่เป็นเกลือที่ยอมละลายเรากำลังอยู่ต่อเพื่อเยียวยาแผ่นดิน เปลี่ยนคำแช่งสาปให้กลายเป็นพระพร อาเมน
4.เกลือที่อยู่ในมือผู้ใช้มัน
นั่นคือความหมายในฝ่ายวิญญาณในปัจจุบันของเราว่า การเป็นเกลือของคริสเตียนเป็นความหวังของแผ่นดิน และเป็นความหวังของการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด เกลือยอมให้ผู้ที่ถือมันอยู่ในมือหว่านไปในที่ๆต้องการมันเพื่อการรักษา เพื่อการแก้ไขให้ดีขึ้น พระเยซูคริสต์เจ้าทรงเรียกเราว่าเกลือแห่งโลก เรายอมให้ผู้ที่เป็นเจ้าของเรา คือพระเจ้านั้นกำหนดให้เราไปในที่ๆต้องการเราหรือเราวิ่งหนีไปในที่ๆเราต้องการไปเอง พระเจ้าไม่ได้ใช้เราให้ไป หรือทำในสิ่งนั้น เมื่อเราไปในที่ๆไม่ใช่ ที่นั่นก็ไม่ต้องการเรา เราอยู่ในที่ๆยังไม่ใช่ แต่ที่ใช่เรากลับไม่อยู่ เพราะอะไร เหมือนกับหลายคนที่ไม่ยอมอยู่ในที่ๆใช่สำหรับตัวเอง เพราะเราต้องสลายตัวเรา ซึ่งเป็นเรื่องยากที่เราจะยอม เหมือนกับเกลือจะออกฤทธิ์เมื่อมันถูกละลาย คริสเตียนมากมายจึงเป็นเกลือที่ไม่ยอมละลาย หมายถึงเกลือที่ไม่ได้ใช้งาน ไม่ได้อยู่ในมือ แต่อยู่ในขวดปิดฝาไว้ มีตัวอย่างของคนๆหนึ่งที่เป็นคริสเตียน นั่นคือ คุณหญิงจารุวรรณ์ ท่านได้ให้นิยามคำว่า สตง ย่อมาจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน…แต่ท่านเอาคำมาเล่นจากชื่อย่อของ สตง. ย่อมาจาก เสี่ยงแตกแต่ไม่ยอมงอ นั่นหมายถึงชีวิตของท่านที่เสี่ยงต่อการต่อสู้กับคนโกง นี่คือการเป็นเกลือที่ยอมให้พระเจ้าใช้ และนี่คือความหวังของประเทศชาติ ที่จะมีคนดีต้านความเลวร้ายของความชั่ว
5.เกลือเป็นที่ต้องการ
เกลือเป็นที่ต้องการ เมื่อเราเป็นเกลือ เราจะเป็นที่ต้องการในทุกที่ที่เราไป เป็นความหวังของชุมชนอย่างแท้จริง นำการเปลี่ยนแปลงไปสู่ชุมชน ข่าวดี สิ่งดี สิ่งใหม่ๆที่เกิดขึ้น จนคนรอบข้างพูดได้ว่า นี่เป็นความหวังของเขาจริงๆ เราไปที่ใดนำการเปลี่ยนแปลงไปสู่ที่นั่นหรือไม่ ถ้าเราเป็นตัวแทนของความสะอาด เมื่อไปในที่สกปรก เราต้องทำความสะอาด ถ้าเราเป็นตัวแทนของความยุติธรรม ไปที่ใดก็ต้องมีความยุติธรรม ถ้าเราเป็นตัวแทนของความสัตย์ซื่อ ที่นั่นต้องมีความสัตย์ซื่อ ถ้าเราเป็นความหวัง ไปที่ใดเราจะสร้างให้คนมีความหวัง ประสบการณ์ที่เราลงไปในพันธกิจที่ทับละมุ ทำให้เราได้ยินคำพูดหนึ่งจากปากของผู้เชื่อใหม่ที่นั่นคือ ถ้าคนของพระเจ้าไว้ใจได้ พระเจ้าก็ไว้ใจได้ คำว่า ไว้ใจ ก้คือการเป็นความหวังแก่เขา อะไรบ่งบอกเราที่นี่ สังคมต้องการพระเจ้าที่ไว้วางใจได้ และสังคมต้องการคนที่ไว้วางใจได้ พึ่งพาได้ ช่วยเขาอย่างจริงใจได้ เราจะหา “พันธสัญญาเกลือ” ได้ที่ไหนในปัจจุบันนี้ เรากล้าพูดไม๊ว่า ที่นี่ ที่บ้านของเรา ที่ชีวิตของเรา มาหาเรา มาหาฉัน ฉันเป็นความหวังสำหรับคุณ อย่าลืมว่า เราไม่ใช่คนที่มีแต่ความหวัง แต่ชีวิตเราสามารถเป็นความหวังสำหรับคนอื่นด้วย เพราะพระเจ้าทรงวางเราไว้ให้เป็นเกลือแห่งแผ่นดินโลก
“ชีวิตที่ปราศจากที่ติ…..คือผู้ที่เป็นความหวัง”
1.“พันธสัญญาเกลือ”
2. “พันธสัญญาใหม่”
3. เกลือกับการเปลี่ยนแปลง
4. เกลือที่อยู่ในมือผู้ใช้มัน
5. เกลือเป็นที่ต้องการ