“ปีใหม่กับเวลาและโอกาสใหม่ๆ”

มีเรื่องเล่าว่า มีชายคนหนึ่งมีอาการเร่งรีบไปที่สถานีรถไฟชานเมืองแห่งหนึ่งในเวลาเช้า และมีอาการกระหืดกระหอบ ไปถามที่แผนกขายตั๋วว่า รถไฟเที่ยว 8:10 จะออกเมื่อไหร่คำตอบก็คือ 8:01 น.ชายคนนั้นก็เลยตอบว่า นาฬิกาผม 7:59 นาฬิการหอคอย 7:57 ส่วนนาฬิกาสถานี 8:04 แล้วผมควรจะยึดเวลาไหนดี คนขายตั๋วก็ตอบว่า คุณจะเลือกไปเวลาไหนก็ได้ แต่คุณไม่สามารถไปรถไฟเที่ยว 8:01 ได้เพราะว่ามันออกไปแล้ว เวลาของพระเจ้าคือเวลาที่เคลื่อนไปข้างหน้า ชั่วโมงต่อชั่วโมง นาทีต่อนาที มีคนมากมายที่ดูเหมือนจะคิดว่าเขาสามารถใช้ชีวิตภายใต้ตารางเวลาอะไรก็ได้ที่เขาเป็นคนเลือก ให้เป็นเวลาของตัวเขาเองที่จะหันมาหาพระเจ้าเมื่อไรก็ได้ แต่เวลาของพระเจ้าเป็นเวลาที่ถูกต้องที่สุด

พระเยซูคริสต์เจ้าทรงร้องไห้เพื่อเยรูซาเล็ม และตรัสว่า “เจ้าไม่รู้เวลาของตัวเองว่าจะมาเมื่อไหร่” (ลูกา 19:44) และเยรูซาเล็มก็ได้พลาดรถไฟขบวนสุดท้าย

มีกลุ่มคนชาวยิวที่คิดพยายามและจะครอบครองดินแดนคานาอันหลังจากวันที่พระเจ้าทรงบอกโอกาสเขาว่า มันได้พลาดไปแล้ว โดยเขายอมให้ชาวคานาอันพาเขาออกนอกทางไป (กันดารวิถี 14:39-45) รถไฟได้จากเขาไปแล้ว

ปัญญาจารย์ได้บอกเราว่าพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแห่งกาลเวลา ปัญญาจารย์ 3:1  “มีฤดูกาลสำหรับทุกสิ่ง และมีวาระสำหรับเรื่องราวทุกอย่างภายใต้ฟ้าสวรรค์”

เราจำเป็นต้องมีความเข้าใจเรื่องเวลาและฤดูกาลที่พระเจ้าทรงสถาปนาไว้เพื่อชีวิตของเรา เพื่องานรับใช้ของเรา เพื่อเมืองของเรา และเพื่อประเทศชาติของเราด้วย บ่อยครั้งที่เราพยายามที่เก็บเกี่ยวในฤดูที่ควรหว่าน และหว่านในฤดูเกี่ยว วิ่งในเวลาที่เราควรจะพักผ่อน พักผ่อนในเวลาที่ควรจะวิ่ง ทำในสิ่งที่ถูกในเวลาที่ผิด และความตั้งใจที่ดีก็อาจทำให้เราพลาดขบวนรถไฟทุกที

การรู้กาลเวลา

ชนเผ่าหนึ่งในสิบสองเผ่าของชนชาติอิสราเอล เป็นชนเผ่าที่ชื่อ อิสสาคาร์  มีความสามารถในการรู้กาลเวลา “จากเผ่าอิสาคาร์ มีผู้รู้กาละ ทราบว่าอิสราเอลควรทำประการใด” (1 พงศาวดาร 12:32) เราจะเห็นว่านี่คือความสามารถในการเข้าใจกาลเวลาที่ทำให้เขาเข้าใจสิ่งที่เขาต้องทำ การเข้าใจเวลาของพระเจ้าเป็นสิ่งที่มักจะเป็นกุญแจไขไปสู่การกระทำที่เหมาะสม

ดาเนียล 2:20,21   “สาธุการแด่พระนามของพระเจ้าเป็นนิตย์สืบไป ปัญญาและฤทธานุภาพเป็นของพระองค์ พระองค์ทรงเปลี่ยนวาระและฤดูกาล พระองค์ทรงถอดพระราชาและทรงตั้งพระราชาขึ้นใหม่ พระองค์ทรงประทานปัญญาแก่นักปราชญ์ และทรงประทานความรู้แก่ผู้ที่มีความรอบรู้”

พระคำเหล่านี้กำลังสะท้อนให้เราได้เห็นว่า  พระเจ้ากำลังจะเปลี่ยนสิ่งที่อยู่ในจิตวิญญาณของเมืองที่เราอยู่นี้  สิ่งใหม่ที่พระเจ้ากำลังทำในคริสตจักรของเรา คือการเคลื่อนไปในโอกาสของการก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่อาเมน

ข้าพเจ้าอยากให้เราได้เข้าใจถึงการที่พระเจ้าทรงเปลี่ยนฤดูกาลและวาระเพื่อชีวิตของเรา ข้าพเจ้าไม่อยากให้เราเป็นคนหนึ่งที่นั่งอยู่ที่ชานชลาของสถานีรถไฟพร้อมกับกระเป๋าและตั๋วในมือและมองดูขบวนรถไฟที่จะพาท่านไปสู่พระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับชีวิตของท่านค่อยๆลับตาไป

อิสยาห์ 48:6  “เจ้าได้ยินแล้ว จงคอยดูสิ่งทั้งปวงนี้ และเจ้าจะไม่แจ้งให้ทราบหรือ ตั้งแต่เวลานี้ไปเราเล่าสิ่งใหม่ให้เจ้าฟัง เป็นสิ่งที่ปิดซ่อนไว้ซึ่งเจ้าไม่รู้”

อิสยาห์ 43:19  “ดูเถิดเรากำลังทำสิ่งใหม่ งอกขึ้นมาแล้วเจ้าไม่เห็นหรือ เราจะทำทางในถิ่นทุรกันดาร และแม่น้ำในที่แห้งแล้ง”

อิสยาห์ 42:9 “ดูเถิด สิ่งล่วงแล้วนั้นก็สำเร็จแล้ว และเราก็แจ้งสิ่งใหม่ๆ ก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้น เราก็ได้เล่าให้ฟังแล้ว”

ข้อสังเกตุแรก ได้แก่ “สิ่งที่งอกขึ้นมา” ในสองประโยคสุดท้าย พระธรรมเหล่านี้เป็นเครื่องหมายของการเปลี่ยนแปลงเวลา บางสิ่งใหม่เกี่ยวกับการงอกขึ้นมา “เจ้าไม่รู้หรือ”พระองค์ทรงถาม  บ่อยมากที่พระเจ้าทรงรอคอยจนกระทั่งเหตุการณ์สุดท้ายเพื่อที่จะเคลื่อน แต่มันเป็นความจริงว่าเมื่อพระเจ้าทรงเคลื่อน การเคลื่อนนั้นไปอย่างรวดเร็ว ไม่เคยหยุด

2โครินธ์ 5:17  17 เหตุ​ฉะนั้น​ถ้า​ผู้ใด​อยู่​ใน​พระ​คริสต์​ ผู้​นั้น​ก็​เป็น​คน​ที่​ถูก​สร้าง​ใหม่​แล้ว สิ่ง​สารพัด​ที่​เก่าๆ ​ก็​ล่วง​ไป นี่​แน่ะ​กลาย​เป็น​สิ่ง​ใหม่​ทั้งนั้น

ในพระคัมภีร์ใหม่ตอนนี้   มีคำกรีกคำว่า “ใหม่” ถูกแปลแม้ว่ามันจะมีความหมายที่แตกต่างกัน แต่ความเข้าใจในความแตกต่างกันนั้นคือสิ่งสำคัญ

คำว่า “Neos” มีความหมายเป็นความใหม่ในเชิงปริมาณ….ส่วนคำว่าKainos ซึ่งมีความหมายไม่เพียงใหม่ในเชิงปริมาณ แต่ใหม่ในด้านคุณภาพใหม่ด้วย

การแยกความแตกต่างระหว่างสองคำนี้ Neos กับ  Kainos คือสิ่งที่สำคัญมากสำหรับความเข้าใจพระวจนะในพระธรรม 2 โครินธ์ 5:17 ที่ใช้คำกรีกว่า เราถูกสร้างใหม่เป็น Kainos เราไม่เพียงลอกเลียนแบบหรือทำให้เหมือนแบบ Neos เราเป็นสิ่งใหม่ในความรู้สึกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง  คือ Kainos เราเป็นสิ่งใหม่ด้านคุณภาพ เราเป็นสิ่งทรงสร้างใหม่ทั้งยี่ห้อและคุณภาพ พระเจ้าทรงใส่ธรรมชาติที่แตกต่างนี้ในเรา เปลี่ยนแปลงเรา และสวมใส่พลังอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในเรา เมื่อเราบังเกิดใหม่ เราไม่ใช่คนเดิมที่มีการเปลี่ยนแปลงเพียงน้อยนิดอีกต่อไป แต่เราเป็น Kainos ใหม่ถอดด้ามคือใหม่ทั้งนอกและใน

มัทธิว 9:17 17 และ​เขา​ไม่​เอา​น้ำ​องุ่น​หมัก​ใหม่ มา​ใส่​ใน​ถุง​หนัง​เก่า ถ้า​ทำ​อย่าง​นั้น​ถุง​หนัง​จะ​ขาด น้ำ​องุ่น​จะ​รั่ว ทั้ง​ถุง​หนัง​ก็​จะ​เสีย​ไป​ด้วย แต่​เขา​ย่อม​เอา​น้ำ​องุ่น​หมัก​ใหม่​ใส่​ใน​ถุง​หนัง​ใหม่ แล้ว​ทั้ง​สอง​อย่าง​ก็​อยู่​ดี​ด้วย​กัน​ได้”

ในหนังสือมัทธิว9:17   พระเยซูได้ใช้คำกรีกทั้งสองคำนี้ในประโยคเดียวกัน พระองค์ทรงตรัสถึงการทำงานของเหล้าองุ่นใหม่ในถุงหนังใหม่ พระองค์ตรัสว่า เหล้าองุ่นใหม่ Kainos ต้องการถุงหนังใหม่ Kainos ด้วย นี่คือเหล้าองุ่นใหม่ของพระวิญญาณบริสุทธิ์  พระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่เปลี่ยนแปลง และพระองค์ไม่จำเป็นต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่คุณภาพของความเป็นเหล้าองุ่นใหม่  แต่เป็นความปรารถนาที่จะใส่พระองค์เองเข้ามาในเราในด้านเชิงปริมาณมากขึ้น  ถ้าปริมาณเหล้าองุ่นไม่เปลี่ยนด้านปริมาณ  ถุงหนังก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนด้านการขยายการรองรับ  เราเป็นถุงหนังที่ต้องเป็น  Kainos  คือมีคุณภาพใหม่ เพื่อที่เราจะรองรับพระวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาในเรา   เราต้องรับการเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนจากจุดที่เราอยู่ไปสู่อีกจุดหนึ่งที่ไม่ใช่ที่เดิม ถ้าเราไม่เปลี่ยนเป็นคุณภาพใหม่ เราจะไม่สามารถรับน้ำองุ่นใหม่ที่พระเจ้าทรงเทเข้ามาในชีวิตของเราได้ เราจะพลาดเวลาใหม่ไปด้วย เป็นการป้องกันไม่ให้เราพลาดไปจากเวลาของพระเจ้า ที่พระองค์จะทรงนำเราผ่านกระบวนการการเปลี่ยนแปลง  ถ้าเราอนุญาตให้พระเจ้าทำงานในชีวิตของเราเพื่อเปลี่ยนเรา พระองค์ทำสามารถเติมเราให้เต็มด้วยพระวิญญาณของพระองค์ในเรา พระองค์จะสามารถใส่เหล้าองุ่นใหม่ Neos มากขึ้นในถุงหนังใหม่คือตัวเราที่เป็นคนใหม่ Kainos

นี่คือวิธีที่พระเจ้าทรงเตรียมเราเพื่อฤดูกาลใหม่  พระองค์ทรงทำการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายในเรา ในช่วงปีต่างๆที่ผ่านมา เมื่อมาถึงการทำกิจของพระองค์ในเรา  สำหรับพระเจ้าจะไม่มีคำว่า “แค่นี้ก็พอแล้ว” ในพจนานุกรมของพระองค์ แต่พระองค์กำลังเตรียมเราเพื่อเหล้าองุ่นที่มากขึ้น เตรียมเพื่อการเติมเต็มของพระวิญญาณบริสุทธิ์ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจจะทำให้เรารู้สึกไม่สนุกเลย แต่มักเป็นสิ่งที่ดีเสมอ

เรากำลังรักษาเวลาประเภทไหน

พระคัมภีร์ใหม่มีคำสำหรับเวลา คือคำว่า Chronos และ Kairos คำว่า Chronos กล่าวถึงกระบวนทั่วไปของเวลาหรือเวลาปกติ ส่วนคำว่า Kairos  เป็นเวลาที่เป็นโอกาสหรือ เป็นเวลาที่เป็นจุดยุทธศาสตร์  Kairos ในความหลากหลายของมันคือช่วงขยายหรือความต่อเนื่องของ Chronos   สิ่งใหม่คือจุดเชื่อมไปสู่สิ่งเก่าและความจริงคือมักจะเป็นผลของสิ่งที่อยู่ในสิ่งเก่า Kairos คือเวลาแห่งโอกาส แปลตามตัวอักษรคือเกิดมาจาก Chronos ซึ่งเป็นเวลาปกติกาลาเทีย 6:9  “อย่าให้เราเมื่อยล้าในการทำดี เพราะว่าถ้าเราไม่ท้อใจแล้ว เราก็จะเกี่ยวเก็บในเวลาอันสมควร” เวลาอันสมควร ที่นี่ใช้คำว่า Kairos (รากศัพท์ภาษากรีก แปลว่า เวลาที่กำหนดไว้ ฤดูกาลและเวลาที่เหมาะสม)

ความท้อใจ หรือการล้มเลิกความตั้งใจที่จะทำดี มักแสดงออกมาด้วยการบ่น  การตำหนิ และการปฏิเสธที่จะทำดีต่อไป หรือตอบสนองความชั่วด้วยความชั่ว พระคัมภีร์จึงแนะนำว่า ให้ใช้เวลาในทางที่ดี อย่าใช้เวลาในทางที่ชั่ว

1เธสะโลนิกา 5:15   15 ระวัง​ให้​ดี อย่า​ให้​คน​ใด​ทำ​ชั่ว​ตอบ​แทน​การ​ชั่ว แต่​จง​หาทาง​ทำ​ดี​เสมอ​ต่อ​พวก​ท่าน​เอง และ​ต่อ​คน​ทั้ง​ปวง​ด้วย​

พระเจ้าจะนำเราแบบง่ายๆผ่านกระบวนการตอนแรกในภาวะที่เราต้องมีความอุตสาหะและความสัตย์ซื่อที่จะอนุญาตให้พระองค์เคลื่อนเราไปสู่กระบวนการตอนต่อไป คือฤดูกาลที่เป็นยุทธศาสตร์ พระองค์ทรงเปลี่ยนเวลาและฤดูกาล  ทรงเปลี่ยนเวลา Chronos เป็น Kairos  ชีวิตคือหลายฉากหลายตอนของการเปลี่ยนแปลง กระบวนการจากเก่าไปสู่ใหม่ จาก Chronos สู่ Kairos มีการเติบโต การเปลี่ยนแปลง การฟื้นฟู ทุกสิ่งเหล่านี้คือกระบวนการ ชีวิตคือการเชื่อมต่อ    ถ้าเราขาดความเข้าใจเรื่องนี้   เราก็พยายามที่จะทิ้ง Chronos เวลาแห่งการเตรียม การหว่าน ความเชื่อและการรักษา   เราควรตระหนัก ว่าการกระทำของเราและทัศนคติของเราในเวลา Chronos คือการตัดสินใจว่าเราจะให้พระเจ้าขับเคลื่อนเราใน Kairos หรือเราจะอยู่ใน Chronos ที่มีองค์ประกอบของชีวิตเพิ่มเติมเข้ามาเป็นระยะ    เก่าและใหม่คือสิ่งที่เชื่อมภายในที่แยกทั้งสองด้านออกจากกัน ใหม่จะไม่เข้ามาในขณะที่เก่ายังอยู่ มันจะมาเมื่อขณะที่เราทำในระหว่างที่อยู่ในเก่า นี่คือสิ่งที่จะทำให้เราไม่เมื่อยล้าหรือท้อใจในการทำการดีระหว่างเวลาของ Chronos

พระเจ้าต้องการเปลี่ยนความคิดของเราจากการหมดกำลังใจระหว่างเวลาเหล่านี้เป็นตระหนักถึงสิ่งจำเป็นของฤดู Chronos เราไม่ได้กำลังสูญเสียหรือเสียเวลาเปล่า   เรากำลังลงทุน และถ้าเราทำด้วยความสัตย์ซื่อ การเปลี่ยนแปลงจะมา   จงรู้ว่าเรากำลังร่วมมือกับพระเจ้าและให้พระองค์ทำในสิ่งที่พระองค์ต้องการเพื่อนำสิ่งใหม่มา    เราสามารถชื่นชมยินดีมากกว่าการทิ้งการเริ่มต้นเล็กๆ เราจะไม่สิ้นหวังกับการอธิษฐานที่ทำมาหลายปีด้วยผลที่เล็กน้อย ความซื่อสัตย์ของเรายืนอยู่พระคำพระเจ้าและการเชื่อฟังที่จะทำตาม ใน  “ปีใหม่กับเวลาและโอกาสใหม่ๆ”

By admin